Messy love ตอน จัดระเบียบหัวใจให้นายเซื่องซึม

-

เขียนโดย remy

วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 19.02 น.

  2 บท
  0 วิจารณ์
  4,603 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2558 19.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) คาบที่ 2 ความลับของเขา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“( =_=)” โอย...รู้สึกหมดเรี่ยวหมดแรงจัง ผนังสีขาว คือสิ่งแรกที่ฉันลืมตาขึ้นมาเห็น แล้วทำไมเป็นผนังสีขาวล่ะ เมื่อกี้เราเดินอยู่หน้าคณะวจก.นี่นา
    “ไง” เสียงผู้ชายปริศนาดังขึ้น
    “นาย...” และคนที่ฉันเจอคนแรกก็คือ นายธาม 
    “ง่วงหรอ หลับกลางทางแบบนั้น”
    “จะบ้าหรอ ฉันแค่หน้ามืด”
    “แล้วทำไมหน้ามืด อดข้าวหรอ?”
    “ฉันไม่ชอบเลือด นี่นายพาฉันมาในนี้หรอ?” ถ้ามองไปรอบๆก็พอจะรูว่าที่นี่คือลานอ่านหนังสือใต้คณะวจก. และหลายๆคนก็หันมามองที่ฉันแล้วหันกลับไปซุบซิบกันใหญ่
    “อือ ไม่ต้องขอบคุณหรอก” นายนี่เป็นคนที่ทังแปลกทั้งกวนทีนเลย
    “ครั้งหน้าฉันขอเลี้ยงข้าวนายละกัน ฉันไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณใคร”
    “ก็ดี แล้วนี่ไม่เธอเป็นไรแล้วใช่ไหม?”
    “ไม่เป็นไรแล้ว นายจะไปไหนก็ไปเหอะ” ฉันสะใจนิดๆที่ได้ตอกกลับเขาไป “โอ้ย...” ฉันรู้สึกเจ็บแปล๊บที่ข้อเท้าทันทีที่ฉันยืน ต้องเป็นตอนที่ส้นรองเท้าฉันตกท่อแน่ๆเลย เจ็บขนาดนี้แล้วจะเดินกลับหอยังไงล่ะ 
    “ว้าย!!” ฉันตกใจที่อยู่ดีดีตัวฉันก็มีคนยกฉันลอยขึ้น
    “เลี้ยงขนมหวานฉันเพิ่มด้วยนะ” และก็เป็นนายธามอีกนั่นแหละ ที่อุ้มฉันตัวลอยเลย
    “นี่ ปล่อยฉันลงนะ อายคนอื่นเขา”
    “โอเค ฮึบ!” นี่เขาจะโยนฉันลงทั้งอย่างนี้จริงๆหรอ
    “กรี๊ด! ไม่นะไม่” เอิ่ม และด้วยความกลัวทำให้ฉันกอดคอเขาแน่นกว่าเดิมซะอีก ไม่สนแล้วจะใครจะมอง
    
    “หมอว่าไงบ้างอะ” สุดท้ายธามก็พาฉันมาคลินิกนอกมหาลัยกับรถยนต์ของเขา และเขาก็ตั้งคำถามทันทีที่เห็นฉันเดินออกมาจากห้องตรวจ
    “ก็ประมาณสองสามวันอะ”
    “สองสามวันค่อยตัดหรอ”
    “สองสามวันแล้วจะหายปวดย่ะ เห็นบอกว่าพรุ่งนี้จะบวมมากด้วย”
    “แล้วเธอจะไปที่ไหนต่ออะ?”
    “งั้น...กลับหอเลยก็ได้”

    “ขุ่นแม่!!!!!!!!!!! ไม่เป็นอะไรมากใช่ไหม? โถๆ ขอโทษนะฉันเพิ่งเสร็จงานที่คณะเมื่อกี้เอง พอรู้ข่าวจากทับทิมก็รีบมาเลยอะ ขอโทษน้า!!!” กันต์พูดขอโทษขอโพยฉันตั้งแต่ฉันยังไม่ปิดประตูรถเลย
    “ไม่เป็นอะไรมากหรอก ข้อเท้าแพลงเฉยๆอะ”
    “นี่ ออมม่า แล้วไปทำไงข้อเท้าถึงแพลงอะ”
    “โอ้ย! เดี๋ยวขึ้นห้องค่อยเล่าก็แล้วกัน”
    “เดินไหวปะเนี่ย ขี่หลังฉันมะ” กันต์เสนอตัวพร้อมกับนั่งรอกับพื้น
    “ไม่เป็นไรหรอกแก เดินไหวอยู่ อุ้ย!!” 
    หมับ! “ระวังหน่อยสิ” ธามเข้ามาคว้าแขนฉันไว้ในขณะที่ฉันทรงตัวไม่ค่อยอยู่
    “ไหวรึเปล่า นิ่มช่วยถือกระเป๋านะ”
    
    “ก็คือว่าออมม่าเป็นลมแล้วข้อเท้าแพลง ธามอะไรนั่นเขาก็มาช่วยไว้ใช่ไหม?” ฉันเล่าเหตุการณ์ที่ฉันเจอวันนี้ให้เพื่อนสาวทั้งสามฟังแล้วคนที่ทำหน้าที่สรุปมันก็คือ ทับทิม
    “อือ ทีนี้พวกแกก็รู้แล้วนะว่ามันก็แค่เรื่องบังเอิญ งั้นก็เลิกล้อฉันซักที”
    “โอเค๊ แล้วแกจะไปประชุมเชียร์ยังไงล่ะทีนี้ ขาเจ็บแบบนี้” เออ วันนี้ไอกันต์ถามมีสาระนะ
    “ก็คงต้องไปอะ แต่คงต้องไปนั่งที่ฝ่ายพยาบาลจนกว่าจะหาย พี่เขาคงไม่ใจร้ายหรอก”
    “งั้นลงไปเซเว่นแป๊บนะ ฝากซื้อไรป่าว”
    “ไอกันต์แกบ้าป่าววะ แกเพิ่งกินข้าวกับพวกฉันไปนะเว้ย”
    “ผ่านไปสองชั่วโมงแล้วต่างหาก ทับทิมถ้าแกไม่ฝากซื้อก็นอนไปเหอะ ฝันดี”

    “เท่าไหร่คะป้า”
    “30 จ่ะ” วันนี้เป็นวันศุกร์ที่แสนสุขของฉันเพราะฉันมีเรียนครึ่งเช้าก็เลยนัดเพื่อนสาวทั้งสามมากินข้าวด้วยกัน ฉันรู้สึกว่าการปวดข้อเท้าของฉันมันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอกนะ เพราะมันช่วยให้ฉันได้นั่งเฉยๆที่ฝ่ายพยาบาลตอนประชุมเชียร์ที่แสนจะเคร่งเครียด
    “หา! แกก็อีกคนหรอ? เพื่อนฉันเนี่ยเจ๋งๆทั้งนั้นเลยนะเนี่ย” กันต์เปิดบทสนธนา 
    “นี่ กันต์ ฉันบอกแกแล้วใช่ไหม ว่าเข้ามหาลัยแล้วหัดแต่งเนื้อแต่งตัวกับเขาซะบ้าง เพื่อนเขาติดดาวกรุ๊ปกับหมด แล้วแกอะ”
    “โอ๊ย! มันดีมากเลยที่ฉันไม่ติดตำแหน่งเหมือนพวกแกสามคนอะ ไม่งั้นวุ่นวายตายเลย ทั้งซ้อมการแสดง นู่น นี่ นั่น ฉันขออยู่เฉยๆดีกว่า เนอะนิ่มเนอะ”
    “อื้อ แต่นิ่มก็ไม่กล้าปฏิเสธอะ”
    “ก็ตอนประชุมเชียร์เมื่อวานฉันต้องนั่งอยู่กับพี่ๆฝ่ายพยาบาลเพราะเจ็บขา เด็กในกรุ๊ปฉันก็ส่งชื่อฉันโดยที่ไม่บอกฉันซักคำ พอฉันโวยก็โดนลูกอ้อนจนต้องใจอ่อนยอมเป็นดาวกรุ๊ปไปน่ะสิ”
    “แล้วคณะแกประกวดวันไหน ออมม่า”
    “เสาร์หน้าอะ”
    “นี่พวกแกฟังๆ พรุ่งนี้คณะฉันจะมีประกวดดาวเดือน เพราะฉะนั้นพวกแกต้องไปเชียร์ฉันด้วยนะ” ทับทิมเอาช้อนเคาะจานและประกาศย่างภาคภูมิใจ
    “จริงดิแก แล้วทำไมเพิ่งบอกวะ ฉันทำป้ายไฟไม่ทันนะเว้ย! แล้วการแสดงแกอะ แสดงไรหรอ” กันต์แซวทับทิมด้วยน้ำเสียงและสายตากวนๆ
    “ไม่บอก พวกแกต้องไปดูเอาเอง”
    “กันต์!” ในขณะที่พวกเรากำลังเมาธ์มอยกันก็มีเสียงผู้ชายทักกันต์มาจากไหนซักแห่ง
    “อ้าว! กาแฟ” ใช่เลย กาแฟเดินมาที่โต๊ะของพวกเราพร้อมกับเพื่อนของเขาอีกสามคน
    “เฮ้ย! วันอาทิตย์ไปซื้อไม้ทีกัน” อยู่ดีดีกาแฟก็มานั่งข้างกันต์ นี่พวกนี้มันสนิทกันขนาดนี้แล้วหรอ
    “เอาดิ พรุ่งนี้ไม่ว่างพอดีเลย ต้องไปเชียร์ดาวอะ เพื่อนฉันดาวทั้งน้านนนนน เออลืม แกก็เดือนกรุ๊ปนี่หว่า”
    “แก๊งฉันก็เดือนกรุ๊ปทุกคนนั่นแหละ พรุ่งนี้นนท์กับธามมันก็ประกวดอะ” 
    “แล้วแกมากินข้าวหรอ”
    “เออ ตอนเที่ยงนี่หาโต๊ะยากชะมัดเลย งั้นพวกฉันนั่งด้วยนะ เฮ้ย! หาโต๊ะได้แล้วเว้ย! กันต์แกหยุดกินแล้วไปซื้อกับฉันก่อน” หลังจากพวกฉันนั่งฟังบทสนธนาอันยืดยาวของกาแฟกับไอกันต์ ก็ลงเอยที่โต๊ะฉันมีผู้ชายมาเพิ่มอีกสี่คนและหนึ่งในนั้นก็มีนายธามที่กำลังง่วนอยู่กับการเล่นโทรศัพท์มือถือและไม่สนใจใดใดรอบตัวเลย แล้วก็ไม่ปริปากคุยกับเพื่อนซักคำจนกินข้าวเสร็จ
    “กลับคนเดียวได้แน่นะ ออมม่า เดี๋ยวพวกเราไปส่งก่อนไปเรียนก็ได้นะ เอาป่าว” เมื่อกินข้าวเสร็จแล้วเพื่อนๆของฉันทุกคนต่างก็มีเรียนกันทั้งนั้นเป็นเหตุให้ฉันต้องเดินกลับคนเดียว 
    “ได้ดิ เดินนิดเดียวเอง ข้อเท้าก็ไม่ค่อยเจ็บแล้วด้วย สบายมาก พวกแกรีบไปเรียนเหอะ เดี๋ยวสายนะ”
    “งั้นไปแล้วนะ เดินกลับดีดีล่ะ”
    “บาย”
    เฮ้อ! ที่จริงฉันก็ทำปากดีไปงั้นแหละ ถึงข้อเท้าจะเจ็บน้อยลงแต่มันก็ปวดจี๊ดทุกครั้งที่สัมผัสกับพื้นเลยแหละ โอ้ย แล้วนี้ฉันจะมาเดินทางลัดที่แสนจะขรุขระทำไมเนี่ย เดินลำบากเข้าไปใหญ่ นั่นถังขยะหนิ ขอค้ำหน่อยละกันนะ
    “ทำอะไรน่ะ เธอย้ายหอไปอยู่ในถังขยะแล้วหรอ” 
    “นาย! ไม่มีอะไร...ไม่ต้องมายุ่งหรอกน่า” ธามที่เดินมาทิ้งขยะถามฉันด้วยสีหน้าเหยียดหยามเป็นที่สุด
    “ดี งั้นไปนะ” เฮ้ย! ไปง่ายๆอย่างนี้เลยหรอ
    “นี่ นาย...เดี๋ยว”
    “ทำไมอีกล่ะ?”
    “คือ...”
    
    “ไม่มีเรียนหรอ?” และตอนนี้ก็ลงเอยที่ธามต้องมาประคองฉันกลับหอจนได้
    “มี” ธามตอบแบบขอไปที
    “กี่โมงอะ?”
    “บ่ายโมง”
    “เฮ้ย! นาฬิกานายเสียป่าวเนี่ย นี่มันบ่ายโมงแล้วนะ ไม่ไปเรียนหรอ”
    “ไม่ไปอะ ไม่อยากไป” 
    “นี่! ถ้าไม่ไปเรียนคาบแรกๆแบบนี้แล้วจะเรียนรู้เรื่องหรอ? แล้วก็นะ...” เราเดินมาถึงใต้หอฉันแล้ว และฉันก็พยายามจะเกลี่ยกล่อมให้เขาไปเข้าเรียนซะ
    “เธอเดินไปเองละกัน” ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบ อยู่ดีดีเขาก็ปล่อยฉันจนฉันเกือบล้มแหนะ แถมสีหน้าของเขาตอนนี้มันเหมือนเขาจะหงุดหงิดเพราะอะไรบางอย่าง นายคนนี้ยังไงกัน เดี๋ยวดี...เดี๋ยวร้าย
    “นี่...เดี๋ยว!” ฉันพยายามจะเรียกให้เขาหยุดแต่เขาก็ทำเป็นไม่ได้ยินเสียงของฉันซะนี่ น่าโมโหจริงๆ
    “วันอาทิตย์สิบโมงฉันนัดทำงานกลุ่มนะ” ฉันตะโกนซ้ำอีกทีแบบมีน้ำโห และมันได้ผล เขาหยุดเดินและ...หันมาพยักหน้าให้ฉันหนึ่งที แค่นี้อะนะ หนอย! กวนประสาทนักเชียว
    
    “วู้ว!!!! แกจะเลี้ยงอะไรพวกเราดีน้อ” กันต์พูดเปรยขึ้นมาในขณะที่กำลังเปิดประตูเข้าห้องพัก หลังจากที่กลับมาจากงานประกวดดาวเดือนของคณะ วจก. และทับทิมก็ได้รับตำแหน่งดาวคณะวจก.ซะด้วย  
    “นี่ ยัยตะกละ ฉันได้เป็นดาวคณะเนี่ย พวกแกต้องเลี้ยงฉันป่าววะ”
    “ว่าแต่การแสดงของแกก็เจ๋งจริงนั่นแหละ เนอะนิ่มเนอะ” ฉันหันไปหาแนวร่วมอย่างนิ่มที่กว่าจะเปิดปากพูดก็ยากเย็นซะเหลือเกิน
    “อื้อ ทับทิมเด่นสุดบนเวทีเลยนะ” นิ่มพูดเสริม
    “แหม! พวกแกนี้ปากหว๊านหวานเนอะ งั้นเอาเป็นว่าเดี๋ยวฉันเลี้ยงจริงๆแล้วกัน”
    “เฮ้ย! เรื่องเลี้ยงฉลองฉันพูดเล่นนะเว้ย!” กันต์ปัดมือพัลวัน
    “ป่าวๆ ฉันอยากเลี้ยงเอง แต่ว่า เอาไว้ให้ออมม่ากับนิ่มประกวดเสร็จก่อนก็แล้วกันนะ จะได้เลี้ยงทีเดียวเลย เออ ออมม่า แล้วข้อเท้าแกเป็นไงบ้างอะ”
    “ดีขึ้นมากเลยอะ เกือบจะหายแล้วแหละ”
    “โธ่ ลืมซื้อผ้าอนามัยจนได้อะ ทับทิมลงไปเซเว่นเป็นเพื่อนหน่อยสิ” กันต์พูดพลางทำท่าทางออดอ้อนใส่ทับทิม
    “ฉันล้างเครื่องสำอางอยู่แกไม่เห็นรึไง ชวนออมม่านู่นไป” ทับทิมโยนมาให้ฉันเฉยเลย
    “แกก็ชวนนิ่มไปสิ หรือไปคนเดียวก็ได้หนิ ไปออกจะบ่อย”
    “นิ่มมันเข้าห้องน้ำอยู่นี่นา แล้วก็ไม่อยากไปคนเดียวด้วย คือฉันไม่อยากโดนพนักงานเซเว่นแซวอีกอะว่ากินจุ นะนะนะ”
    “เออ ไปด้วยก็ได้”
    
    “แกนี่กินเยอะจริงๆด้วยนะ ไม่แปลกหรอกที่เขาจะแซวอะ” ฉันมองถุงขนมของยัยกันต์ตอนมันเดินออกมาจากเซเว่น รู้เลยว่ามันเยอะจริงๆ
    “เยอะอะไรล่ะ ปกติย่ะ”
    ในระหว่างที่ยัยกันต์กำลังสำรวจของในถุงของมันตรงทางเชื่อมหอกาญเกล้ากับหอชาตรี อยู่ๆฉันก็เหลือบไปเห็นชายหญิงสองคนยืนอยู่ที่มุมมืด และฝ่ายชายก็เป็นคนที่ฉันรู้จักดีด้วย นายธามนั่นแหละ
    “แก แก มีไรป่าว มองไรอยู่วะ”
    “เฮ้ย! ไม่มีไร เอางี้ แกขึ้นหอไปก่อนเลยนะกันต์ ฉันทำธุระแป๊บนึง” ฉันจับไหล่ไอกันต์ไว้ก่อนที่มันจะหันไปเห็น
    “ไม่เป็นไร รอได้”
    “ไม่ต้องรอ ขึ้นไปเลย ไปเลย นะ”
    “โอเคๆ ตามขึ้นมาเร็วๆล่ะ”
    “อือ ไปเหอะ”
    ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าต่อมเผือกของฉันมันจะรุนแรงขนาดนี้ ฉันล่ะอยากจะรู้จริงๆว่านายธามกับผู้หญิงคนนั้นจะคุยอะไรกัน คือ...แค่อยากรู้อะนะ ว่าแล้วฉันก็เดินอ้อมไปแอบที่ศาลาใกล้ๆกับที่สองคนนั้นคุยกัน
    “เข้าเรื่องเลยเหอะพี่” และประโยคแรกที่ฉันได้ยินเป็นเสียงของธาม แสดงว่าผู้หญิงอีกคนเป็นรุ่นพี่สินะ
    “เมื่อวานเธอไม่เข้าเรียน ตั้งใจจะหนีฉันใช่ไหม?”
    “ปล่าว”
    “ที่จริงแล้ว พี่ไม่ได้ตั้งใจจะ........” อ่าว พีแกหยุดพูดทำไมเนี่ย ไม่ได้ตั้งใจจะอะไร?
    “ถ้าพี่พูดจบแล้ว ผมขอตัวนะ วันนี้ผมเหนื่อยมามากพอแล้ว” ธามกำลังเดินมาทางนี้แล้ว หลบก่อน!
    “ธาม” อุบส์ พี่ผู้หญิงกอดธามจากข้างหลัง อู้ว! ยังไงกันแน่นะ สองคนนี้
    “พอเหอะพี่ ผมขอ” ธามดูไม่ค่อยมีเยื่อใยกับพี่ผู้หญิงเลยอะ ตอนนี้หยุดเรื่องธามกับพี่ผู้หญิงก่อนนะ เพราะฉันรู้สึกว่ามีอะไรเย็นๆมาโดนขาฉันอะ
    “กรี๊ดดดดด!” ฉันร้องเสียงหลงและเอามือปัดมั่วซั่วไปหมด เพราะมีปาดมาเกาะอยู่ที่ขาของฉันน่ะสิ ร้องดังขนาดนี้สองคนนั้นต้องได้ยินแน่ๆเลย
    “ใครน่ะ” ธามตะโกนมาถามทางฉัน เอาไงดี ยังไงตรงนี้ก็มืดอยู่แล้ว รีบหนีดีกว่า สองคนนั้นน่าจะไม่ทันเห็น
    ว่าแล้วฉันก็รีบวิ่งหนีจากตรงนั้นแล้วตรงเข้าหออย่างเร็วจี๋อย่างกับเป็นนักวิ่งทีมชาติเลยทีเดียว
    “แฮ่กๆๆๆๆๆ” 
    “รส เป็นอะไรอะ” นิ่มตกใจที่เห็นฉันหอบแฮ่กกลับมาที่ห้อง
    “อ่า...ปล่าวๆ คือ...วิ่งออกกำลังกายมาน่ะ”
    “ตกลงธุระของแกคือไปวิ่งออกกำลังกายเนี่ยนะ” กันต์ที่ขนมคาปากอยู่หันมาถามฉัน
    “ปล่าว แค่อยากออกแรง เลยขึ้นบันไดมา ช่างเหอะ ฉันจะอาบน้ำนะ ง่วงแล้ว” คงได้แต่หวังว่าฉันจะไม่โดนจับได้นะ 
    
    “เอ๊ะ! อยู่ไหนนะ” ฉันค้นหากระเป๋าตังค์เจ้าปัญหาที่ฉันจำไม่ได้ว่าเอาไปวางไว้ตรงไหน และนี่ก็ใกล้เวลาที่ฉันนัดทำงานกับธามแล้วด้วย
    “รส แกหาอะไรวะ” กันต์ที่เดินออกมาจากห้องน้ำถามฉัน
    “กันต์ แกเห็นกระเป๋าตังค์ฉันบ้างป่าว?”
    “เมื่อวานแกถือไปเซเว่นป่าวล่ะ” เออ ใช่ ฉันเอาลงไปเซเว่นเมื่อคืนนี่ หรือว่า มันจะหล่นอยู่ตอนนั้น...

    “ไม่มี!!!!!!!!!!” ฉันรีบลงมาหากระเป๋าตังค์ตรงที่ฉันมานั่งแอบฟังเขาอยู่เมื่อคืน แต่...ไม่มีร่องรอยเลยแม่แต่นิดเดียว นี่มันก็จะสายแล้วด้วย ยังไงฉันคงต้องรีบไปตามนัดก่อน

จบคาบที่ 2

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา