Messy love ตอน จัดระเบียบหัวใจให้นายเซื่องซึม

-

เขียนโดย remy

วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 19.02 น.

  2 บท
  0 วิจารณ์
  4,692 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2558 19.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) คาบที่ 1 สู่ในรั้วมหาลัย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
รส (มธุรส หอมลมุน) ความผิดพลาด บ่งบอกว่าเรายังพยายามไม่พอ
ธาม (ทิวา พิทักษ์บริบูรณ์) ความพยายามที่เปล่าประโยชน์ ไม่มีค่าพอให้พยายาม 

คาบที่ 1 สู่ในรั้วมหาลัย


     
        “พวกแก ใครมีเข็มมหาลัยเหลือบ้างอะ ฉันหาของฉันไม่เจออะ” กันต์...ที่ง่วนอยู่กับการหาเข็มมหาลัย ตะโกนถามเพื่อนทั้งสามคนด้วยทีท่ารีบร้อน
    “ฉันนึกอยู่แล้วแหละว่าแกต้องทำอะไรหายซักอย่าง ฉันมีๆ มาเอามา” รส...ฉายา คุณแม่ประจำกลุ่ม ที่ได้ฉายานี้เพราะเธอมักจะเป็นคนจัดการปัญหาของเพื่อนทุกคนเสมอๆ
    “เพราะแกตื่นสายไง ถึงต้องมารีบแบบนี้!” ทับทิม...พูดทับถมเพื่อนของเธออย่างสมน้ำหน้า
    “ฉันบอกให้นิ่มปลุกแล้วนะ” กันต์โยนความผิดให้เพื่อนอีกทอดหนึ่ง
    “นิ่มปลุกหลายรอบแล้วนะ” นิ่มพูดเสียงเบาๆ และคาดว่าเธอคงจะใช้น้ำเสียงแบบนี้ปลุกกันต์ด้วย =_=”(คงจะตื่นหรอกนะ)
    “เสร็จยัง ไปหอประชุมกัน เดี๋ยวสายนะ” รสหยิบกระเป๋าเตรียมพร้อมที่จะเดินทาง
    “เสร็จแล้วๆ ไปเลย” กันต์รีบจัดแจงความเรียบร้อยอีกครั้งก่อนจะหยิบกระเป๋าแล้วเดินตามเพื่อนๆไป

    วันนี้เป็นวันแรกในรั้วมหาวิทยาลัยของพวกเราค่ะ ฉันเลยต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่สุดเพราะว่าการเริ่มต้นดี มีชัยไปกว่าครึ่ง เอ๊าะ...แนะนำตัวนะคะ ฉัน  มธุรส หอมลมุน ชื่อเล่นว่า รส เรียนคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัย โรจนดิษฐ์ ฉันมีเพื่อนสนิทมากๆอยู่สามคนก็คือ ทับทิม กันต์ แล้วก็นิ่ม 
    ตอนนี้พวกเรากำลังเดินเข้าในหอประชุมที่มีนักศึกษาปีหนึ่งอยู่เต็มไปหมดเพราะวันนี้มีกิจกรรมปฐมนิเทศน์ที่ทางมหาลัยจัดเพื่อต้อนรับนักศึกษาหน้าใหม่ทุกๆคนค่ะ
    
    “สุดท้ายแล้ว ผมก็ขอให้พวกคุณทุกคนใช้ชีวิตอยู่ในรั้วมหาลัยอย่างราบรื่น แล้วก็จบไปอย่างราบรื่นทุกคนเลยนะ” คณะบดีกล่าวให้โอวาทแก่นักศึกษาเป็นการทิ้งท้าย และตามมาด้วยเสียง “สาธุ” กันเป็นแถว ฉันว่าเรื่องแบบนี้มันค่อนข้างจะไร้สาระนะ ฉันคนนึงแหละที่ไม่เชื่อ

    “คณะบดีนี่จัดเดี่ยวแข่งกับโน้ต อุดมได้เลยนะเนี่ย พูดเก่งชะมัดเลย ฉันนะหลับไปหลายตื่นก็ยังพูดไม่จบเลย” หลังจากเสร็จพิธีปฐมนิเทศน์เราทั้งสี่คนก็มาโรงอาหารกันในทันที เพื่อจะมาคุยสัพเพเหระ ล้อเล่นค่ะ มาหาอะไรกินนี่แหละ
    “ความคิดแกดีว่ะกันต์ ฮ่าๆๆๆ” ทับทิมพูดเสริม
    “พวกแกนี่ก็...นินทาท่านคณะบดีเลยหรอ? ไม่คุยด้วยแล้ว ฉันไปเอาข้าวก่อนนะ น่าจะเสร็จแล้ว” ฉันขอปลีกตัวจากวงสนธนาที่แสนจะไร้สาระของเพื่อนสาวฉันเพื่อไปเอาข้าวผัดกระเพราไข่ดาว และในระหว่างที่ฉันกำลังจ่ายตังค์อยู่ฉันเหลือบไปเห็นนักศึกษาชายสองคนกำลังคุยกันอย่างออกรส และ...หนึ่งในนั้นก็ทิ้งขยะลงพื้นเฉยเลย
    “นี่...เธอ...” ฉันรู้สึกฉุนนิดๆ เพราะฉันไม่ชอบคนประเภทนี้เอาซะเลย
    “...” แต่สิ่งที่ทำให้ฉันต้องชะงักก็คือ ชายแปลกหน้าที่กำลังถือจานข้าวอยู่ ก้มลงเก็บขยะนั้นแล้วก็เอาไปทิ้งให้เฉยเลย ก็ดีอ่ะนะ อย่างน้อยมหาลัยนี้ก็ยังมีพลเมืองดีอยู่บ้าง
    “หอมจังเลย!!!! ทำไมข้าวแกได้เร็วนักวะ” ยังไม่ทันที่ฉันจะวางจานข้าวลงบนโต๊ะ ยัยกันต์ก็ส่งเสียงแซวซะแล้ว
    “ก็ร้านที่ฉันสั่งคนน้อยหนิ”
    “ตะกละนักนะแก รอไปนานๆเลย” ทับทิมพูดพร้อมกับปาเศษกระดาษซับหน้ามันไปใส่กันต์
    “ยี๋...สกปรก ไอทับที๊มมมม เฮ้ย!” กันทำท่าทางรังเกียจแล้วก็ดันปัดมือไปโดนแก้วน้ำลอยไปตกอยู่ที่โต๊ะข้างๆ ซุ่มซ่ามจริงๆเลย ไอกันต์
    “นี่มันอะไรกันเนี่ย” เอาแล้วสิ คนโต๊ะข้างๆเริ่มโวยวายแล้ว ก็แหงสิ! ทำโต๊ะเขาเปียกชุ่มไปด้วยเก๊กฮวยซะอย่างนั้น แต่เดี๋ยวนะ! มีคนที่ฉันเจอเมื่อกี้นั่งอยู่ในวงด้วยล่ะ
    “คือ ขอโทษค่ะ” กันต์ยกมือขอโทษขอโพยซะยกใหญ่ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล ชายคนที่ลุกขึ้นดุกันเมื่อกี้ลุกเดินออกไปเฉยเลย
    “มะ...ไม่เป็นไรหรอก คือ พวกเรากินเสร็จแล้วแหละ” แต่ดูเหมือนชายคิ้วเข้มจะไม่ถือโทษกันซักเทาไหร่
    “นั่นสิครับ สำหรับคนสวยๆแล้ว ผมไม่ถือโทษโกรธอะไรหรอกครับ” ผู้ชายคนที่ย้อมผมสีน้ำตาลอ่อนพูดกับพวกเรา แต่เห็นได้ชัดว่าเขาเหลือกตาไปทางกันแบบเป็นคนไม่เข้าพวก
    “ต้องขอโทษแทนเพื่อนเราด้วยนะ กันต์เค้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”
    “ไม่เป็นไรเลยครับ เอาเป็นว่าผมขอรู้จักชื่อพวกคุณแทนการขอโทษก็แล้วกันนะ”
    “อ๋อ เรารส นิติ นะ ส่วนคนนี้ทับทิม วจก.(วิทยาการจัดการ) คนนี้นิ่ม วิทยาศาสตร์ แล้วก็อีกคน...”
    “รส ทับทิม แล้วก็นิ่มใช่ไหมครับ ผมฮาร์ท ศิลปศาสตร์ คนนี้กาแฟ วิศวะ คนที่ใบ้กินนี่ชื่อธาม เศรษฐศาสตร์ แล้วก็ที่เดินออกไปเมื่อกี้มันชื่อนน วจก. แต่มันได้ภาคบริหารแล้ว” นายฮาร์ทแนะนำเพื่อนๆของเขาให้พวกเรารู้จัก และฉันก็รู้ชื่อของคนที่ฉันเจอหน้าร้านข้าวตะกี้แล้วด้วย เขาชื่อ ธาม
    “ค่ะ...”
    “เอ่อ...เดี๋ยวเราช่วยเก็บจานนะ หลบค่ะหลบ” กันต์หันไปพูดกับกาแฟและธามที่กำลังเก็บจานบนโต๊ะอยู่ แถมกันต์มันยังปัดฮาร์ทไปให้พ้นทาง ก็ผู้ชายประเภทที่ไอกันมันเกลียดที่สุดก็ ผู้ชายเจ้าชู้ชีกอแบบฮาร์ทนี่แหละ
    หลังจากช่วยเก็บจานเสร็จ ยัยกันต์ก็ขอโทษเขาไปอีกหลายรอบก่อนจะแยกย้ายกันกลับหอ และวันนี้กันต์ก็ลงโทษตัวเองด้วยการอดข้าวเย็นหนึ่งวัน ฉันว่าคนกินจุอย่างยัยนี่ไม่น่าจะทำไหว 
    “พวกแกลงวิชาเลือกอะไรบ้างอะ จะได้ลงตามเผื่อได้เรียนด้วยกัน” 
    “ฉันลงกฏหมายในชีวิตประจำวัน” ฉันตอบคำถามทับทิมที่กำลังนั่งหารายวิชาที่จะเรียนอยู่ในเว็บไซต์มหาลัย
    “โห แก เครียดไปป่าววะ ฉันกลัวฉุดเกรดว่ะ นิ่ม นิ่มลงวิชาเลือกอะไรอะ” 
    “นิ่มลงซ่อมอังกฤษอะ คะแนนโอเน็ทไม่ผ่าน 30” นิ่มตอบอย่างเบาๆ 
    “ลงโซป๊อบดิ เพื่อนที่ฉันนั่งคุยวันนี้บอกว่ารุ่นพี่แนะนำมา” แล้วไอกันต์ก็ชักจูงทับทิมไปเรียนกับมัน
    “อะไรวะ โซป๊อบ”
    “Social problem ปัญหาสังคมอะ เห็นว่าเรียนสนุกดี” 
    “โอเค งั้นฉันลงกับแก เรียนคนเดียวไปเลยนะคะ  คุณหญิงมธรุส”
    “แก หิวอะ จะลงไปเซเว่น เอาไรป่าว” นั่นไง พูดผิดซะที่ไหน ฉันบอกแล้วว่ากันต์มันไม่มีทางอดข้าวได้หรอก 
    “ไม่อะ จะนอนแล้วพรุ่งนี้มีเรียนเช้า ฝันดีนะพวกแก บรั๊ย....” และฉันก็ล้มตัวนอนท่ามกลางเสียงพูดคุยของเพื่อนช่างเม๊าท์ของฉัน กว่าจะหลับลงก็ดึกมากๆเลย
    
    “ขออนุญาตเข้าห้องค่ะ” ฉันพูดเสียงอ่อยๆกับอาจารย์เพราะว่าฉันเข้าเรียนสายตั้งแต่คาบแรก มันแย่มากๆเลย เพราะดันลืมตั้งนาฬิกาปลุกก่อนนอน แถมเมื่อวานก็นอนดึกเอามากๆซะด้วย
    “เชิญครับ คุณชื่อมธุรสรึเปล่า” อาจารย์อนุญาตให้ฉันไปนั่ง 
    “ใช่ค่ะ”
    “เพื่อนเขาจับคู่กันหมดแล้ว เธอไปคู่กับทิวานะ วันนี้เขาไม่มา”
    “ค่ะ” ถึงจะไม่รู้ว่านายทิวานี่เป็นใคร แต่ก็เออออไปก่อนก็แล้วกัน ฉันมาสายเองจะโทษใคร

    “วันนี้ก็แค่นี้แหละนะ แล้วก็อย่าลืมงานที่ผมสั่งนะ ดูแลคู่ของพวกคุณให้ดีดีนะ เพราะว่าคุณต้องทำงานร่วมกันตลอดทั้งเทอม” ห๊ะ...ตลอดทั้งเทอมเลยหรอคะอาจารย์ หนูไม่ชอบการทำงานร่วมกับคนอื่นเลยนะคะ แล้วคนที่ขนาดคาบแรกยังไม่มา ไม่ต้องพูดถึงเรื่องความรับผิดชอบเลย
    “โอ๊ย!...ให้ทำงานกับใครก็ไม่รู้อะ” 
    “เอ่อ จบคาบแล้วหรอ” ในระหว่างที่ฉันกำลังบ่นพึมพำกับตัวเองออกจากห้อง ฉันก็เจอเข้ากับธาม คนที่เจอเมื่อวาน
    “จบแล้ว” นายนี่ถามแปลกๆ อย่าบอกนะว่านายนี่มาสายตั้งชั่วโมงนึงอะ
    “หรอ?”
    “นี่ เดี๋ยวนะ นายชื่ออะไรอะ” คงจะไม่ใช่...
    “ธาม” โธ่...ชื่อจริงย่ะ
    “ชื่อจริงอะ”
    “ทิวา” ฉันน่าจะไปซื้อหวยนะ เดาอะไรไม่เคยผิดเลย
    “คือว่านะ วันนี้อาจารย์นึกว่าเธอขาดเรียน แล้วฉันก็บังเอิญมาสาย พวกเราก็เลยได้ทำงานคู่กัน”
    “อือ” นายนี่ตอบแค่อือ เนี่ยนะ?
    “แล้วไม่ถามหน่อยหรอ ว่ามีงานอะไรบ้าง”
    “ก็เข้าไม่ทันไง คนเข้าเรียนก็น่าจะเป็นฝ่ายบอกสิ” หึ่ม! นายนี่กวนประสาทชะมัด
    “อาจารย์ให้งานมาทำเป็นคู่ ส่งสัปดาห์หน้า”
    “อือ”
    “เรื่องทำงานเดี๋ยวค่อยนัดอีกทีก็แล้วกัน เอาให้ผ่านช่วงประชุมเชียร์ไปก่อน”
    “ยังไงก็ได้ แค่นี้ใช่ไหม งั้นฉันไปนะ” ดูนายนี่พูดสิ ตั้งใจจะกวนประสาทฉันใช่ไหม
    “(( -_-) ” ฉันรีบเดินเชิดใส่ก่อนที่จะโดนเดินหนีไปก่อน
    “เดี๋ยว ขอเบอร์หน่อยสิ” แหม!! ฉันก็พอรู้นะว่าตัวเองสวย ^o^ แต่ว่าเร็วขนาดนี้เลยหรอ “จะได้โทรนัดกันได้” อ่อ... นั่นสิ ลืมไปเลย
    
    “เงียบครับเงียบ วันนี้พวกคุณยังทำไม่ดี วันมะรืนนี้ ผมหวังว่าพวกคุณจะทำได้ดีกว่านี้ คืนนี้ ฝันดีคับฝันดี” พี่ระเบียบนี่จำเป็นต้องตะโกนด้วยใช่ไหม พูดเบาๆก็ได้ยินค่ะ แต่บางทีพี่แกก็มีมีมุมตลกนะ ฉันเพิ่งประชุมเชียร์เสร็จวันที่สามค่ะและพอเสร็จพี่ระเบียบก็ต้องตระแวนส่งน้องให้ครบทุกหอ โดยที่หอฉันเป็นหอสุดท้าย
    “ออมม่า!!!!!” คนที่เรียกฉันแบบนี้ ไอทับทิมชัวร์
    “ดีจังนะแกอะ ประชุมเชียร์เสร็จตั้งแต่ปิดเทอม”
    “แน่นอน”
    “เหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย ตอนเช้าเรียน ตอนเย็นประชุมเชียร์ โอ๊ย! เหลืออีกตั้งสี่ครั้ง”
    “อย่าบ่น ฉันนะเข้าค่ายตั้งสิบวัน ทำไมพี่เขามาส่งใต้หอชายวะ”
    “ไม่รู้ดิ เออแล้วนี่ลงมาเซเว่นหรอ”
    “ป่าว ได้ยินเสียงดังๆ เลยลงมาดู ตกลงก็เป็นคณะแกพอดี เออ...แก ฝั่งหอเราวิศวะกำลังลาน้องอยู่ ไปหาไอกันต์กัน”
    “ไม่ต้องไปหาแล้วแก คงเสร็จแล้วแหละ อยู่หน้าเซเว่นแหนะ” ฉันหันไปเห็นกันต์ยืนอยูหน้าเซเว่นใต่หอชายพอดี ไม่ได้ยืนอยู่คนเดียวด้วยนะ มากับคนที่ชื่อกาแฟซะด้วย
    “กานนนนนนนนนนต์” ทับทิมส่งเสียงแซว
    “อ้าว!! รส ทับทิม รอด้วยๆ ซื้อของกินแป๊บ”
    “หวัดดี” กาแฟยกมือทักทายพวกเรา
    “หวัดดี” ฉันกับทับทิมทักทายตอบ
    “เฮ้ย! ธาม” ธามหรอ? ไหนๆ
    “...” นายธามหันมามองกาแฟแบบมึนๆ แล้วก็ผงกหัวหนึ่งที 
    “งั้นเราขึ้นหอก่อนนะ เออกันต์ พรุ่งนี้เรารอใต้หอเธอนะ บาย” กาแฟหันมาลาพวกเราแล้วก็หันไปคุยกับกันต์ก่อนจะวิ่งไปกอดคอธามแล้วเดินเข้าหอไป ฉันว่าตะกี้ธามเขาเห็นฉันแล้วแน่ๆ หนอย!ทำเป็นเมินฉันหรอ....เจ็บใจจริงๆ 
    “นี่แกโดดประชุมเชียร์อีกแล้วหรอวะ ระวังชั่วโมงกิจกรรมไม่ครบเอานา” ฉันได้ยินที่กาแฟพูดกับธามแว่วๆ แต่ก็ไม่แปลกใจหรอกนะ คนไม่รับผิดชอบพรรค์นั้น น่าจะโดดบ่อย
    “ออมม่า เป็นไรอะ”
    “อ่อ ปล่าวๆ ว่าแต่แกเหอะไอกันต์ ยังไงๆ งั้นพรุ่งนี้เรารอใต้หอเธอนะ แหม!!!”
    “อะไรแก เพื่อนกันทั้งนั้นแหละ โอ๊ย! หิว ไปหาไรกินก่อน รอด้วยนะ”

    “ขอโทษนะรส นิ่มยังอยู่หอสมุดอยู่เลย ยังหาหนังสือไม่เจอเลยด้วย พวกรสกินกันไปก่อนเลยนะ”
    “อ้าว!หรอ ทับทิม กับกันต์ก็ยังอยู่คณะกันเหมือนกัน นี่สรุปฉันต้องกินข้าวคนเดีญวใช่ไหม? โอเคๆ ทำงานแกไปเหอะ แล้วเจอกันที่ห้องนะ จ้า บาย” ตู้ด...ๆๆ
    “โธ่ ยัยพวกงานยุ่ง ทิ้งฉันให้กินข้าวคนเดียวได้ลงคอนะ”
    “ว้าย” เอี๊ยด...โครม!!! ฉันหันมองตามเสียงคนร้องกรี๊ด และแล้วฉันก็เห็นภาพเหตุการณ์รถมอเตอร์ไซด์ชนกับรถเก๋งซึ่งที่หัวเข่าของผู้หญิงคนที่นั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์ถลอกปอกเปิกจนเลือดไหล ไม่นะ! เลือดคือสิ่งที่ฉันกลัวที่สุดในโลกเลย โอ้ย!...ฉันโซซัดโซเซจนส้นรองเท้าไปตกท่อ แต่ใครจะสนล่ะ เพราะฉันกำลัง...จะเป็นลม.......

จบคาบที่ 1

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา