Secret society! ชมรมลับของคนรักสาวซื่อบื้อ ❤

8.0

เขียนโดย ฉันคนเดิม

วันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 02.47 น.

  4 คาบเรียนที่
  34 วิจารณ์
  10.20K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2558 04.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) Prince (2)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
2
 
            ตึกตึกตึกตึก!!!
            “แค่กๆ!!” วันนี้มันวันบ้าอะไรทำไมถึงได้เหนื่อยแบบนี้ นี่เป็นการวิ่งครั้งที่2ของวันแล้วนะ! หอบแฮ่กๆ จนคอแห้งหมดแล้วเนี่ย! TOT
            รู้สึกไม่ดีเลยแฮะ เข้าเรียนสาย20นาทีมันไม่แย่เท่าการที่มายืนหน้าห้องแล้วไม่ได้ยินเสียงคนคุยกันเลยนะ อย่างน้อยก็ขอได้ยินเสียงแซวอาจารย์บ้างเหอะ ปกติห้องนี้มันไม่เงียบขนาดนี้นะ โดนอาจารย์อบรมอยู่เหรอ? หรือกำลังโดนทำโทษ? พวกนั้นถูกสั่งให้ห้ามคุยยกห้องเพราะฉันมาสายใช่หรือเปล่า O_O!
            แย่ล่ะ ฉันทนดูเพื่อนนั่งเงียบอย่างทรมานเพราะฉันไม่ได้ ต้องเข้าไปช่วยแล้ว!!
            ครืด!!
            “ข..ขออนุญาตเข้าห้องค่ะ!! >_<”
            …
            เงียบ
            ...
            อ้าว...ไม่มีคนอยู่...
            “ทำไมห้องมันโล่งงี้ล่ะ -O-;;” ห้องสี่เหลี่ยมมันว่างเปล่า ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ อยู่เลย มีเพียงแค่ฉันที่คุยกับอากาศและกระเป๋าสีครีมที่วางอยู่บนเก้าอี้
            ซึ่งนั่นคือกระเป๋าของฉันเอง =_=;;
            “ทุกคนหายไปไหนกันหมด” ฉันเดินไปหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายบนไหล่พลางกวาดสายตามองดูรอบๆ อย่าบอกนะว่าอาจารย์ลาคลอดเลยงดคาบเช้าน่ะ!
            ถ้าเป็นแบบนั้นจริงก็ดีสิ -_-
            “นี่ฉันพลาดอะไรไปรึเปล่า...”
            อืม...ลองทบทวนดูก่อน บางทีฉันอาจจะลืมอะไรที่สำคัญไปก็ได้...
            จะว่าไป ช่วงนี้พวกปริ๊นเซสเขาฮิตสะพายกระเป๋าวันละสีนี่นา สีที่พวกนั้นใช้วันนี้คือสีเขียว งั้นวันนี้คือวันพุธสินะ วันพุธคาบแรก...
             …
            มีสอบดนตรี!!!
            “ตายแล้ว!! O[]O!!” พอนึกออก เท้ามันก็ก้าวออกจากห้องโล่งๆ นี่ทันที ถึงว่าทำไมไม่มีใครอยู่เลย ที่แท้ก็ไปรวมกันอยู่ที่ห้องดนตรีนี่เอง โอ๊ย!! เมื่อวานไม่น่าใช้หลอดดูดน้ำหลอดเดียวกับยัยอลิยาเลย ติดเชื้อความจำเสื่อมมาแล้วเนี่ย ปกติฉันไม่ขี้ลืมแบบนี้นะ วุ่นวายจริงๆ เลยโว้ย!!TOT
           
            ตึกตึกตึกตึก!!
            เอี๊ยดด!!
            “แฮ่ก แฮ่ก =_=;;” อากาศเย็นยามเช้าของฉันพังก็เพราะการวิ่ง3รอบในเวลาไล่เลี่ยกันนี่แหละ เหงื่อมันออกทุกอณูรูขุมขนจนเสื้อเปียกหมดแล้วนะ! ต้องวิ่งลงจากชั้น3 ไปอาคาร2 แล้วขึ้นบันไดอีก2ชั้น เลี้ยวซ้าย2ที กับขวาอีก3ครั้ง  ไม่อยากจะคิดเลยว่าวันนี้ฉันวิ่งไปแล้วกี่กิโล ถือว่าเป็นการลดน้ำหนักก็แล้วกัน -O-;;
            ตอนนี้ฉันอยู่หน้าห้องดนตรีพิเศษแล้ว ที่เรียกว่า ‘พิเศษ’ เพราะที่นี่มีอุปกรณ์ครบครันที่จะสรรสร้างเสียงเพลงเพราะๆ และผลงานใหม่ๆ ออกมา แต่มีแค่ปริ๊นกับปริ๊นเซสเท่านั้นที่สามารถใช้ห้องนี้ในเวลาว่างได้ ตั้งแต่พวกชั้นสูงลงไปจนถึงต่ำ ใช้ห้องนี้ได้เฉพาะเวลาสอบเท่านั้น รู้สึกอยากเป็นปริ๊นเซสชะมัด แต่ก่อนหน้านั้นคงต้องสอบให้ได้ท็อป5ของโรงเรียนติดกัน2เทอมก่อนล่ะ แต่ฉันคิดว่าคงไม่ทัน เพราะฉันเรียนปีนี้ปีสุดท้ายแล้ว -_-;;
            นี่ก็ยืนหน้าห้องมานานแล้ว ถ้าเข้าไปตอนนี้จะถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดหรือเปล่านะ =_=;;
            แต่เอาเถอะ มาสายก็ดีกว่าไม่มาล่ะวะ!
            แอ๊ด...
            …
 
เรื่องราวที่ทำให้สองเราต้องเลิกรา เดินจากกัน
มือของฉันจะทำให้มันแหลกไป
 
            เสียงเปียโน และคนร้องเพลง...
            อาจารย์เริ่มสอบแล้วเหรอ? งั้นก็หมายความว่าฉันเข้าห้องสอบสายน่ะสิ
 
ถึงแม้ต้องร้องไห้แค่เพียงลำพัง
น้ำตารินไหล
ฉันก็เข้าใจ ทุกเรื่องที่เป็นไป
มันไม่มีอะไรในชีวิตเรา...
 
            ทำนองคุ้นๆ แบบนี้  มันคือเพลงที่ฉันฟังเมื่อตอนเช้าไม่ผิดแน่ แต่น้ำเสียงและอารมณ์ ราวกับนักร้องมืออาชีพมาร้องยังไงยังงั้น ไม่สิ เหมือนเจ้าของเพลงตัวจริงมาร้องให้ฟังเลยมากกว่า เก่งชะมัด...ใครเป็นคนร้องกัน
            แอ๊ด...
            ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ฉันจึงแง้มประตูออกให้กว้างกว่าเดิมแล้วชะโงกหน้าดู อยากรู้ชะมัดว่าเป็นใคร เสียงดีแบบนี้จับมาเป็นนักร้องนำวงฉันเลยดีกว่า กำลังต้องการพอดีเลย คิกคิก >_<
            “ดาริน!”
            เฮือก!!-O-;;
            ถูก-จับ-ได้-แล้ว!!
            “ส..สวัสดีค่ะอาจารย์ลิลลี่ แหะ ๆ^^;;” ฉันส่งยิ้มแห้งๆ ให้อาจารย์สุดสวยแล้วกวาดสายตามองไปรอบๆ การปรากฏตัวของฉันทำให้เปียโนหยุดบรรเลง นักเรียนที่นั่งฟังเพลงอย่างเพลิดเพลินหันมามองฉันอย่างไม่พอใจ อ๊ะ อย่าเพิ่งถอนหายใจสิ แล้วก็อย่าทำหน้าเบื่อใส่ฉันด้วย TOT!
            “ไปทำอะไรมาถึงได้มาสายขนาดนี้ หา?!”
            “คือ...มีเรื่องนิดหน่อยน่ะค่ะ” ฉันตอบเสียงเบาพลางเบือนหน้าหนี วันนี้นางดูดุกว่าทุกวันแฮะ ( =_=;;)
            จริงๆ อาจารย์ลิลลี่เป็นคนที่ใจดีมาก ปกติเธอไม่ตะคอกใส่ใครแบบนี้และเธอก็เป็นอาจารย์ของชมรมดนตรีที่ฉันอยู่ด้วย ถึงแม้เราจะสนิทกันแค่ไหนแต่เธอก็ให้ความเป็นธรรมกับนักเรียนทุกคน ไม่เข้าข้างศิษย์รักอย่างฉันเป็นอันขาด ใครทำผิดก็ต้องได้รับโทษตามนั้น  ซวยชะมัด วันนี้ถูกดุ2ครั้งแล้วนะ =_=;;
            “เรื่องอะไร? ไอ้ฟินน์อีกแล้วเหรอ?”
            “ถ้าอาจารย์ซื้อหวยคงถูกรางวัลที่1แน่ๆ =_=;;”
            และมีไม่กี่เรื่องที่อาจารย์จะไม่รู้เกี่ยวกับฉัน
            “โธ่! อะไรเนี่ย เธอน่าจะเข้ามาหลังจากที่โอดินร้องเพลงเสร็จนะ”
            เอ๊ะ? -O-
            “นั่นสิ เสียอารมณ์หมด คนกำลังเคลิ้มเลย”
            ฮะ? -O-;
            “เซ็งมากอ่ะ!”
            ฉันผิดอะไรทำไมถึงได้ถูกชะนีรุมด่ารัวแบบนี้ TOT
            “ข..ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจมาขัดจังหวะนะ TOT” พวกหล่อนไม่เห็นหรือไงว่าฉันแค่แง้มประตูดูเฉยๆ แต่อาจารย์ลิลลี่นี่สิ เรียกชื่อซะดังจนทำให้บรรยากาศดีๆ ในห้องมันพังหมด อาจารย์ต่างหากที่ผิด พวกเธอด่าผิดคนแล้ว!☹
            “ตกลงให้ผมเล่นต่อไหมครับอาจารย์?” เสียงละมุนของชายคนหนึ่งที่นั่งบนเก้าอี้เปียโนกลางห้องดังขึ้นเรียกความสนใจจากทุกคน และนั่นก็ทำให้ฉันต้องหันไปมองเขาเช่นกัน
            ใครอ่ะ? -_-
            “ไม่ต้องแล้วล่ะ ขอบคุณมากที่มาโชว์ให้พวกเราดูว่าการเล่นดนตรีที่แท้จริงมันเป็นยังไง”
            “โห่ ไรเนี่ย”
            “นั่นสิ ทำไมอาจารย์ไม่ให้เล่นต่อล่ะ”
            “โอ๊ย! ฉันไม่อยากเรียนแล้ว!” นี่คือรีแอ็คชั่นของสาวๆ แต่ละคน -_-;
            คำปฏิเสธของอาจารย์ลิลลี่ทำให้เหล่าชะนีโห่ร้องอย่างเป็นทุกข์ สรุปชายคนนั้นเขาแค่มาแสดงให้ดูเฉยๆ เหรอ? ว่าแต่เขาเป็นใคร? ไม่ได้อยู่ในชุดนักเรียนด้วย เป็นรุ่นพี่ที่จบไปแล้วเหรอ?
            “งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ผอ.เรียกพบตั้งแต่7โมงครึ่งแล้ว”
            “หา?! นี่มันสายมากแล้วนะ รู้ว่าผอ.เรียกทำไมถึงยังตามฉันมาที่นี่ล่ะ -O-”
            “เห็นอาจารย์บอกมีสอนนักเรียนชั้นม.6ห้อง3 ก็เลยตามมาดูเพื่อนร่วมห้องน่ะ”
            เพื่อนร่วมห้อง?
            “หมายความว่ายังไงเหรอโอดิน?” ชะนีปากแดงที่นั่งแถวหน้าตะโกนถามอย่างอยากรู้ และเมื่อประโยคคำถามนั้นจบลง ห้องทั้งห้องก็เงียบเพื่อรอฟังคำตอบจากชายคนนั้น
            “ตามนั้นแหละ” คำตอบนั้นถูกพ่นออกมาจากริมฝีปากเรียวบางที่ยกยิ้มเล็กน้อย
            และนั่นก็ทำให้สาวๆ...
             “ว้าว ❤”
            “ยอดเลย >_<”
            “ฉันจะได้อยู่ห้องเดียวกับโอดินแหละแก!! >_<”
            “อ๊ายยย!! >_<” หนวกหูชะมัด ในห้องมีผู้ชายเพิ่มขึ้นหนึ่งคนมันน่ายินดีขนาดนั้นเลยเหรอ? ดูสิ ซุบซิบคุยกันดิ้นไปดีดมาอย่างกับได้สามีอย่างนั้นแหละ -_-;
แต่ถ้าที่เขาพูดเป็นเรื่องจริง งั้นก็เป็นนักเรียนใหม่สิ?
            “อ้อ เธอคนที่มาสายก็เรียนห้องนี้ด้วยใช่ไหม?”
            “เอ๊ะ?” เขามาอยู่ตรงหน้าฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ เผลอคิดอะไรเรื่อยเปื่อยแป็บเดียวเดินมาถึงนี่แล้วเหรอ? -O-;;
            “เอ่อ...”
            “ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันชื่อโอดิน ไว้เจอกันคาบหน้านะ” จบประโยค เขาก็ตบไหล่ฉันแล้วเดินจากไป
            นี่คือการแนะนำตัว?  
            แต่พอมองใกล้ๆ แล้วก็หล่อดีเหมือนกันแฮะ =w=
            “ดาริน! ฉันขอเสื้อตัวนั้นได้ไหม >_<” ทันทีที่นายคนนั้นออกไป เหล่าชะนีทั้งหลายก็มาจับมาดึงเสื้อฉัน เฮ้ย! มันยับหมดแล้วนะ รู้ไหมว่าฉันใช้เวลารีดเสื้อเท่าไหร่กว่ามันจะเรียบขนาดนี้!
            “ขอทำไมอ่ะ? ที่บ้านไม่มีใส่เหรอ -_-;;”
            “ฉันอยากได้เสื้อที่โอดินสัมผัสน่ะ คงจะหอมน่าดู ซู๊ดดดด >..<”
            “ไหนขอฉันดมบ้าง >_<”
            “ออกไปนะ! พวกเธอทำอะไรเนี่ย!!” ช่วยด้วย! ฉันถูกฝูงชะนีรุม! TOT!!
            “แต่เสื้อเธอเปียกไปหน่อยนะ หรือที่มันเปียกเพราะเหงื่อของโอดิน? กรี๊ด น่าสนใจมาก >_<”
            “มันจะเป็นเหงื่อของอีตานั่นได้ยังไงล่ะ!!” ฉันสะบัดมือพวกนั้นทิ้งแล้วดึงเสื้อตัวเองกลับมาใส่ให้เรียบร้อย โอ๊ยจะบ้าตาย แค่ผู้ชายคนเดียวถึงกับทำให้ผู้หญิงเป็นได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ
            “เขาเป็นใครอ่ะ ทำไมพวกเธอดูตื่นเต้นกันจัง?” บางทีฉันก็ไม่อยากตกยุคนะ เพื่อนรู้อะไรเราก็ต้องรู้บ้าง ถ้าไม่ตามกระแสเดี๋ยวจะหาว่าเชยเอา แต่ฉันจะไม่คลั่งอยากดมขี้มือผู้ชายเหมือนคนพวกนี้เด็ดขาด  โรคจิตจะตาย =_=
            “เธอไม่รู้จักจริงเหรอ?”
            “ใช่”
            “ไปอยู่ที่ไหนมาเนี่ย ซื่อบื้อชะมัด!” อ้าว! นี่ฉันถามดีๆ ทำไมมาหลอกด่ากันอย่างนี้ล่ะ -O-
            “ก็ฉันไม่รู้จริงๆ นี่ รู้หรอกว่าเขาหน้าตาดี แต่มันไม่น่าจะทำให้พวกเธอคลั่งกันได้ขนาดนี้นะ”
            “เขาไม่ได้มีดีแค่หน้าตานะ เสียงของเขาก็ดีเหมือนกัน >_<”
            ใช่ อันนี้ไม่เถียง -_-
            “สรุปยังไงอ่ะ บอกฉันได้รึยังว่าเขาเป็นใคร?”
            “เขาเป็นนักร้อง เจ้าของเพลง Just be friends ไง!”
            “หา? -O-” เจ้าของเพลง Just be friends?? นี่ฉันไปอยู่ที่ไหนมาทำไมถึงไม่รู้จักนักร้องหน้าตาดีแบบนี้! แถมเขายังเป็นเจ้าของเพลงที่ฉันจะยืมไปร้องในงานมินิคอนเสิร์ตด้วย!!
            “ฉันก็เคยได้ยินมาเหมือนกันว่าโอดินจะกลับมาเรียนที่นี่ แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะอยู่ห้องเดียวกับเรา ขนลุกเลยอ่ะ!! >_<”
            “เคยเรียนที่นี่ด้วย? ตั้งแต่เมื่อไหร่?? O_O” จริงๆ บ้านฉันก็ไม่ได้อยู่หลังเขานะ แต่ทำไมถึงไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาเลยล่ะ! -O-
            “โอ๊ย ก็ตั้งแต่ม.ต้นแล้ว ตอนนั้นเธอยังไม่เข้าเรียนที่นี่เลยมั้ง” อืม อาจจะใช่ ฉันเรียนที่นี่ตั้งแต่ม.4 และที่ฉันตัดสินใจเข้าเรียนที่นี่เพราะมันแปลก แถมมีแต่คนหน้าตาดีอีกต่างหาก และที่น่าสนใจคือการการแบ่งชนชั้น พวกเขาจะแบ่งชนขั้นจากความสามารถและความรู้ ฉันอยากเป็นปริ๊นเซสมาก เพราะปริ๊นเซสแต่ละคนทั้งสวยทั้งน่ารักและเรียนเก่ง มันเหมือนเป็นแรงผลักดันให้พยายามและถีบตัวเองให้ไปอยู่จุดสูงสุดให้ได้ แต่มันก็ล้มเหลวทุกปี T^T
            “งั้นห้องเราก็มีปริ๊นสองคนน่ะสิ”
            “สองคน? หมายถึงโอดินเหรอ?” ฉันถามซ้ำ
            “ใช่ >_<”
            โห...ไม่ธรรมดานะเนี่ย เพราะคนที่จะเป็นปริ๊นได้มันยากมาก ต้องเก่งในหลายๆ ด้าน ทั้งการต่อสู้ การเรียน การพูด ต้องมีความเป็นผู้นำและ...เอ่อ...อะไรอีกอ่ะ เอาเป็นว่าถ้าไม่มีคุณสมบัติของความเป็น ‘เจ้าชาย’ ก็เป็น ‘ปริ๊น’ ของที่นี่ไม่ได้
            แต่ถ้าเป็นเจ้าชายก็ต้องทีความเป็นสุภาพบุรุษสินะ แสดงว่าโอดินก็เป็นคนดีน่ะสิ >_<
            “อ๊ะ! ถึงโอดินจะเป็นปริ๊นที่มาแรงในตอนนี้ แต่พวกฉันก็ไม่ลืมวอดก้าสุดหล่อประจำห้องหรอก อย่าอิจฉาโอดินเลยน้า >_<” พอพวกนั้นรู้ตัวว่าตอนนี้พูดเรื่องของโอดินมากไปจนกลัว ‘วอดก้า’ หนุ่มหล่อประจำห้อง (ที่พวกหล่อนแต่งตั้งกันขึ้นมาเอง) จะน้อยใจ ก็เลยพากันไปง้อเขาที่นั่งทำหน้านิ่งกอดอกอยู่หลังห้อง
            “อิจฉาทำไม ก็เป็นปริ๊นเหมือนกัน” เขาตอบเสียงเรียบแล้วถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆ และท่าทางที่เย็นชาแบบนั้นเขาจึงได้ฉายาว่า ‘Ice Prince เจ้าชายน้ำแข็ง’ ฉันไม่แน่ใจว่าที่เขาเป็นแบบนี้มันเพราะฉันหรือเปล่า แต่ฉันขอถอนคำพูดที่ว่าโอดินเป็นคนดี เพราะปริ๊นทุกคนไม่จำเป็นต้องเป็นคนดีเสมอไป เหมือนกับวอดก้าอดีตแฟนเก่าของฉันคนนี้ไง เขาไม่ใช่คนดีเลย
            “อาจารย์ครับ ผมว่าเราเลทไปหลายนาทีแล้วนะ จะเริ่มสอบได้หรือยัง ผมง่วงแล้ว”  
            “จริงสิ! ฉันก็มัวแต่ฟังชะนีจ้อกันจนลืมไปเลยว่าต้องสอบ! O_O” อาจารย์คนนี้สมาธิหลุดง่ายจริงๆ ถ้าวอดก้าไม่เตือนป่านนี้คาบนี้คงกลายเป็นคาบว่างไปแล้ว ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าจริงๆ นางไม่ได้น่ากลัวเลย ทีนี้เข้าใจแล้วหรือยัง -_-;
            “เอ้า! กลับไปนั่งที่กันได้แล้ว เดี๋ยวฉันจะเรียกมาสอบทีละคน” สิ้นประโยคนั้น ทุกคนก็แยกย้ายกลับไปนั่งที่ใครที่มัน
            รวมถึงฉันด้วย =_=
            “ดาริน เธอไม่ต้องนั่ง”
            “คะ?” อะไรอีกล่ะ อาจารย์เรียกชื่อเสียงแบบนต้องมีอะไรแน่ๆ จะลงโทษฉันต่อเหรอ? -O-
            “เธอมาสอบก่อน”
            “หา? รินยังไม่ได้เตรียมใจเลยนะ!” เพิ่งมาถึงเมื่อกี้นี้จะให้สอบเลยเหรอ? ทำไมไม่เริ่มจากคนที่มาก่อนล่ะ คนอื่นเขามารอนานแล้วนะ -O-
            “ยังไม่ได้เตรียมใจนี่แหละกำลังดี ถือว่าเป็นการลงโทษที่เธอมาสายก็แล้วกัน เอ้า! ไปเลือกเครื่องดนตรีที่ถนัดมาซะ” อาจารย์ลิลลี่ดึงกระเป๋าสะพายของฉันออกแล้วเอาวางกองกับพื้น แค่นั้นไม่พอยังผลักฉันให้ออกไปเลือกไวๆ อีก โคตรใจร้ายอ่ะ ☹
            การสอบวันนี้เป็นการสอบปฏิบัติ โดยให้นักเรียนออกมาร้องเพลงหรือเล่นเครื่องดนตรีที่ตัวเองถนัดหรือชอบมากที่สุด ใครชอบร้องก็ร้อง ใครชอบเล่นก็เล่น และเพื่อนๆ ในห้องจะเป็นคนให้คะแนนเอง แน่นอนว่าการสอบโดยให้เพื่อนให้คะแนนแบบนี้ไม่มีใครสอบตกแน่ ถึงแม้จะร้องเพลงได้ห่วยแต่อย่างน้อยคะแนนก็ผ่านครึ่ง ฉันมั่นใจว่ายังไงก็ผ่าน แต่ก็อยากทำให้มันออกมาดีที่สุดนี่นา
            จะเล่นอันไหนดีน้า...
            เปียโนก็โอเค แต่มันดูผู้หญิ๊งผู้หญิงไปหน่อย กลองดีไหมนะ? แต่มันไม่ออกมาเป็นเพลงนี่สิ -_-
            เอ๊ะ หรือจะร้องเพลงดี? แต่ฉันไม่ค่อยมั่นใจเสียงของตัวเองเท่าไหร่...
            “กีตาร์ก็แล้วกัน” ฉันนั่งลงบนเก้าอี้กลางห้องโดยมีเพื่อนๆ นั่งล้อมเป็นวงกลม การตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนท่ามกลางความเงียบแบบนี้มันรู้สึกแปลกๆ แฮะ...
            แต่ทั้งห้องคือเพื่อนของฉัน ไม่จำเป็นต้องคิดมาก แค่ทำให้ออกมาดีที่สุดก็พอ
            ฉันนั่งไขว่ห้างแล้วยกกีตาร์ขึ้นมาวางไว้บนตัก สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วมองไปรอบๆ ห้องที่มีแต่เครื่องดนตรี...ของทุกอย่างที่ถูดจัดไว้โดยอาจารย์ อุปกรณ์ที่มีพร้อมทุกอย่าง เครื่องดนตรีที่มีหลากหลายแม้กระทั่งเครื่องดนตรีไทย ใครต้องการจะเล่นอะไรก็เลือกได้ตามสบาย อาจารย์ลิลลี่ได้เตรียมและปรับเครื่องเสียงไว้ให้หมดแล้ว
            เอาล่ะ
            “งั้นเริ่มเลยนะ”
 
เธอเคยเชื่อไหม เราต่างเกิดมาเพื่อใครคนหนึ่ง
ทุกคืนวันจะมีชีวิตเพื่อกันและกัน
 
 
2
Prince
 
______________________
 
++ตัวละครเพิ่ม++
 

 
โอดิน
อายุ18
ม.6
ศึกษาที่โรงเรียนปริ๊นแอนด์ปริ๊นเซส
เป็นนักร้องหนุ่มไฟแรงหน้าตาดี
เนื่องจากเขาติดงานจึงไม่ค่อยมาเรียน
แต่ตอนนี้เขากลับมาแล้ว
ในฐานะปริ๊น

 
 

 
อาจารย์ลิลลี่
อายุ 26
เป็นอาจารย์วิชาดนตรีที่ใจดีมากๆ
สนิทกับพวกดาริน
และเป็นอาจารย์ชมรมดนตรีด้วย

 
 
 

 
วอดก้า
อายุ18 
ม.6
ศึกษาที่โรงเรียนปริ๊นแอนด์ปริ๊นเซส
เป็นแฟนคนที่ 3 ของดาริน
ความรักจบไม่สวย จึงทำให้ดารินไม่ชอบเขาเท่าไหร่
และเขาก็เป็นปปริ๊น
 

 
___________________
 
 
Secret society!
ชมรมลับของคนรักสาวซื่อบื้อ ❤
 
 
__________________________________
 
ขอบคุณเพลง Just be friends Luka Vocaloid (แปลไทย) อีกครั้ง
(เอามามโนว่าโอดินเป็นเจ้าของเพลง ^^;;)
แล้วก็ขอบคุณเพลง สิ่งเหล่านี้ Greasy Cafe 
(ที่ดารินร้องตอนจบ)

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.2 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา