เผด็จการรัก [ทำมือ+พร้อมส่ง]
เขียนโดย ปันปัณณ์
วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 13.48 น.
แก้ไขเมื่อ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2558 13.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) บทที่ 2 (2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 2 (2)
สงสัยฤทธิ์น้ำเมาจะทำให้เขาเพ้อเจ้อได้มากมายขนาดนี้ คนอย่างเขาเนี่ยนะจะมาหลงรักหรือมีความรู้สึกพิเศษกับผู้หญิงที่เพิ่งเจอกันเพียงหนึ่งคืน แถมยังไม่มีการพูดคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวเลยด้วยซ้ำ เมื่อความไม่แน่ใจตีกันยุ่งเหยิง ชายหนุ่มจึงตัดอารมณ์ฟุ้งซ่านทิ้งไป เหลือไว้เพียงความต้องการปลดปล่อยในตอนแรกเท่านั้น
พราวพระจันทร์บิดเร้าจนแทบขาดใจ เมื่อลิ้นชื้นระรัวเล่นอยู่รอบปลายถันสีระเรื่อ ราวกับมีผีเสื้อนับร้อยพันกระพือปีกในช่องท้อง กระแสความซาบซ่านไหลวนผ่านกายสาว บิดเกลียวอยู่ในช่องท้องเป็นคลื่นยักษ์ พราวพระจันทร์หอบสะท้าน เมื่อชายหนุ่มยังคงปรนเปรอทรวงอกอิ่มอยู่อย่างนั้น
หญิงสาวเริ่มครวญคราง ตอนที่เขาสอดประสานปลายนิ้วแกร่งกับนิ้วเรียวของเธอทั้งสองข้างแนบที่นอน ดูดดึงยอดทรวงที่ไหวระริกขึ้นช้าๆ แล้วค่อยๆ ปล่อยเรียวปากที่ขบเม้มปลายยอดอย่างเย้ายวน หญิงสาวแอ่นอกตามการดึงดูดที่แสนทรมานของเขาโดยไม่รู้ตัว
...จะให้คนด้อยประสบการณ์อย่างเธอรับมือกับสัมผัสวาบหวามนี้ได้อย่างไรกันเล่า
"คุณ...ยะ...หยุดเถอะ" กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอ พราวพระจันทร์ก็นอนเปลือยกายไร้อาภรณ์อยู่ใต้ร่างแกร่งกำยำแล้ว แต่ดูเหมือนคนตรงหน้าจะไม่สนใจฟังคำทัดทานของเธอเลยสักนิด เขากลับเพิ่มจังหวะการดูดกลืนผลเชอร์รี่สุกอย่างรุนแรงและหนักหน่วง
"ซี้ด...ได้โปรด...อย่า...อา..." พราวพระจันทร์กัดริมฝีปากล่างของตัวเองแน่น พยายามข่มเสียงครวญไม่ให้ลอดออกมา เมื่อพอจะรู้ว่าเสียงห้ามของเธอมันยิ่งกระตุ้นอารมณ์ดิบๆ ของเขาให้เพิ่มขึ้น ลิ้นสากค่อยๆ ลากผ่านร่องอกอิ่มลงมาเรื่อยๆ ก่อนจะมาหยุดเวียนวนอยู่ตรงหน้าท้องแบนราบอย่างอ้อยอิ่ง
“อา...”
พราวพระจันทร์ครางลึกในลำคอ แอ่นสะโพกเข้าหาความร้อนชื้นอย่างเผลอไผล แรงต้านทานที่พยายามจะหยุดเขามลายหายไปหมดสิ้น เมื่อความอุ่นซ่านจากปลายลิ้นสัมผัสลงบนกลีบกุหลาบอิ่มอย่างจงใจ ถึงแม้จะมีแพนตี้เนื้อบางกั้นอยู่ แต่มันไม่ได้ทำให้ความเสียวกระสันที่มีลดน้อยลงได้เลย
"อ๊ะ!" เธอสะดุ้งเฮือก เมื่อปลายลิ้นอุ่นๆ ชอนไชเข้าไปในขอบแพนตี้ชุ่มอย่างเชี่ยวชาญ เธอจิกเกร็งปลายเท้าจนสุด เมื่อเขาห่อปลายลิ้นละลาบละล้วงเข้าไปตามรอยแยกเปียกชื้นอย่างถือสิทธิ์
พราวพระจันทร์ละทิ้งเหตุผลทั้งหมดลงทะเล เมื่อร่างกายพ่ายแพ้ต่อความต้องการในส่วนลึกของจิตใจ และรู้ตัวว่าไม่อาจต้านทานหัวใจที่อ่อนยวบของตัวเองได้อีกแล้ว หญิงสาวจึงหันมาห้ามปรามเขาแทน เพื่อหวังให้เขาหยุดการปลุกปั่นอารมณ์ของเธอ
"มะ...ไม่นะ...อย่าค่ะ...ซี้ด"
แต่ดูเหมือนเธอจะคิดผิด เพราะเพียงแค่คำพูดเดียวเท่านั้น แพนตี้ตัวจิ๋วก็ถูกรูดลงมาตามเรียวขา ปลิวไปกองรวมกันกับบราเซียร์ตัวสวยอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มเปิดเรียวขาสวยให้อ้าออก พราวพระจันทร์เองก็พยายามหุบมันไว้ไม่ให้เปิดเผยต่อหน้าชายหนุ่มคนนี้ง่ายๆ
"คนสวยเปิดขาสิครับ ผมรู้นะว่าคุณเองก็ต้องการมัน"
หญิงสาวยังคงดื้อรั้นไม่ทำตาม เขาจึงปล่อยขาเธอให้เป็นอิสระ ก่อนจะสอดท่อนแขนระหว่างเรียวขาสวย เกลี่ยปลายนิ้วลงบนรอยแยกกลีบกุหลาบอูมช้าๆ กดคลึงเบาๆ อยู่อย่างนั้น จนพราวพระจันทร์แยกเรียวขาออกเองอัตโนมัติ แอ่นสะโพกเข้าหาเขา เมื่อสัญชาตญาณความต้องการมันเรียกร้องและปรารถนาให้เขาสัมผัสเธอมากกว่านั้น
“อา...”
หญิงสาวปล่อยใจตัวเองให้เป็นอิสระ เธอไม่สามารถควบคุมความรู้สึกซาบซ่านที่แผ่กระจายทั่วเรือนร่างตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าได้ เธอปรือตามองอกแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขา นึกแปลกใจว่าเขาเอาเวลาตอนไหนไปถอดเสื้อผ้ากัน แต่แล้วเมื่อเจ้าของร่างกำยำส่งยิ้มเร่าร้อนมาให้ ร่างกายของเธอ...ก็เต้นเร้าทรยศต่อคำสั่งสมอง ยินยอมให้เขาโลมลูบปลุกเร้าอย่างง่ายดาย
ชายหนุ่มยืดตัวขึ้นโน้มไปเปิดลิ้นชักหัวเตียง ควานหาอุปกรณ์ป้องกันที่พกติดตัวตลอดเวลา เมื่อหยิบซองฟอยด์ขึ้นมาได้ จึงรีบจัดการป้องกันตัวเองทันที เพราะเขาเองก็ไม่อาจต้านทานเสน่ห์เย้ายวนของหญิงสาวได้อีกต่อไปแล้ว
เขาโน้มตัวลงมาประกบริมฝีปากบางอย่างหิวกระหาย บดขยี้เคล้าคลึงกลีบปากนุ่มอย่างโหยหา สอดลิ้นรุกรานหนักหน่วงจนเธอเผยอปากเปิดรับ มือข้างหนึ่งรั้งเอวคอดให้เข้าหาตัวจนแนบชิด ลูบไล้แผ่นหลังเนียนด้วยความปรารถนาจะกลืนกินเธอให้หมดทั้งตัว
หญิงสาวเลื่อนมือขึ้นมาเกาะไหล่กว้างไว้ เมื่อไม่รู้จะเอามันไปวางไว้ตรงไหนดี แล้วเธอก็หายใจหอบกระท้าน เมื่อมือหนาทั้งสองข้าง จับสะโพกหนั่นให้แนบชิดกายแกร่งที่ตื่นตัวอันร้อนผ่าว
ทันทีที่ร่างเปลือยเปล่าแนบชิดกัน บทเพลงรักอันเร่าร้อนก็บังเกิดขึ้น จนแผดเผาทั้งคู่ให้มอดไหม้เป็นจุล…
♦♦♦♦♦
คริสเตียน มาโครตัน ขยับตัวเหยียดยาวเพื่อขับไล่ความเมื่อยขบออกจากกาย วาดแขนโอบรัดร่างนุ่มนิ่มข้างกาย เพราะชายหนุ่มยังจำได้ว่าเมื่อคืนได้พบกับหญิงสาวที่มอบความสุขให้เขาจนล้นปรี่ แต่เขากลับพบเพียงความว่างเปล่า คิ้วดกหนาขมวดย่น แอบต่อว่าหญิงสาวในใจ เมื่อเธอยังอุตส่าห์มีแรงเดินออกไปจากห้องเขาได้ ทั้งๆ ที่เมื่อคืน กว่าเขาจะปล่อยให้เธอได้นอนก็ปาเข้าไปเกือบเช้าแล้ว
ชายหนุ่มคว้าโทรศัพท์มือถือบนหัวเตียงขึ้นมาดู ไล่อ่านข้อความที่หลายคนทิ้งไว้แล้วตวัดผ้าห่มออกจากตัว เตรียมลุกจากเตียงไปอาบน้ำ ทว่าสายตาคมก็ดันเหลือบไปเห็นรอยเลือดสีจางบนที่นอน ความสงสัยที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็ผุดขึ้นมาอีกคล้ายย้ำเตือน
...เขาต้องหาคำตอบเรื่องนี้ให้ได้
ชายหนุ่มร่างสูงเดินล้วงกระเป๋ากางเกงขาสั้นมาหยุดอยู่ตรงโต๊ะที่มุมหนึ่งของห้องอาหารประจำรีสอร์ต เขาถอดแว่นกันแดดออกเกี่ยวไว้ที่ร่องเสื้อด้านหน้า แล้วหย่อนตัวนั่งลงด้วยท่าทางสบายๆ
“เมื่อคืนนายหายไปไหนมาวะ น้องพอลล่าบอกนายไม่ได้ไปตามนัดเธอนี่นา”
คริสเตียนย่นคิ้ว เมื่อจู่ๆ ปีเตอร์ก็ยิงคำถามที่เขาไม่เข้าใจในความหมายเอาเสียเลย
“พอลล่าไหน” เขาถามกลับ สีหน้าเรียบเฉยพอๆ กับน้ำเสียง
“อ้าว...ไอ้เพื่อนคนนี้ เจออากาศเมืองไทยเข้าไปหน่อย เพี้ยนเลยหรือไง”
ชายหนุ่มยกกาแฟดำขึ้นมาจิบ มองเพื่อนที่กระตือรือร้นอยากจะเล่าแล้วหลุดขำออกมา
“ก็น้องพอลล่า ตัวท๊อปของเกาะนี้ไง” ปีเตอร์กระแทกตัวพิงพนัก คล้ายหงุดหงิดกับคำถามกวนโทสะของคริสเตียน
“แล้วน้องตัวท๊อปของนายนี่...ไปหามาจากไหนวะ” เมื่อพอจะเข้าใจว่าเพื่อนหมายถึงใคร เขาจึงรีบหาคำตอบทันทีที่สบโอกาส
“ที่นี่แหละ น้องเขารับเฉพาะลูกค้ามีระดับเท่านั้นนะเว้ย แล้วแกเป็นอะไร ไม่ถูกใจหรือไงถึงได้หนีหน้าไปแบบนั้น”
“เปล่า ก็แค่ปวดหัวนิดหน่อย เลยกลับเข้าไปนอน” เขาไม่มีทางบอกมันหรอก ว่าดันไปปล้ำผู้หญิงคนอื่นที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว แถมยังเป็นสาวบริสุทธิ์อีกต่างหาก เพราะเขารู้เลยว่าปีเตอร์คงขำจนตัวงอแน่ๆ
“เออ...แล้วหายดีหรือยัง เอายาหน่อยไหม”
คริสเตียนส่ายหน้า ก่อนจะจับมีดกับส้อมเพื่อกินอาหารเช้าตรงหน้า ไม่ขอบคุณที่เพื่อนอุตส่าห์สั่งอาหารรอไว้ เพราะเมื่อคืนปีเตอร์พูดไม่เคลียร์เลยทำให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นสาวที่เพื่อนจัดหาไว้ให้ และตอนนี้เขาต้องเติมพลัง เมื่อเขาเสียพลังงานให้กับหญิงสาวอวบอั๋นไปเยอะพอสมควร แต่เมื่อนึกดูแล้วก็อดคิดถึงเธอไม่ได้ ผู้หญิงอะไรเซ็กซี่เป็นบ้า!
“เลยมาเสียเที่ยวเลย เพราะน้องเขากลับขึ้นฝั่งไปแล้วตั้งแต่เช้า จะกลับมาอีกทีก็สองสัปดาห์โน้น”
“ไม่เป็นไร ถือว่ามาชาร์ตแบตก็แล้วกัน”
“แปลกคน...ว่าแต่นายจะกลับวันไหน วันนี้เลยหรือเปล่า”
“วันนี้แหละ ผู้ช่วยแม่ฉันจองตั๋วให้แล้ว...ไฟต์ก่อนเที่ยง”
“นี่ก็แปลกอีกเรื่อง ทำไมไม่บินเครื่องบินส่วนตัวมา”
“ถ้าฉันบินมาเอง ฉันก็อดแวะมาเที่ยวกับนายน่ะสิ”
...แถมอดเจอผู้หญิงคนนั้นอีก เขาคิดต่อเองในใจ
“ที่บ้านนายไม่เป็นห่วงแย่เหรอวะ ออกจากนิวยอร์กมาตั้งหลายวันแล้ว ป่านนี้ยังไม่ถึงบ้านอีก ถ้าคุณย่านายยังอยู่ป่านนี้โดนตามตัวแล้วแน่ๆ”
“ก็เออน่ะสิ...ฉันบอกผู้ช่วยแม่ฉันแล้ว คงรายงานมาดามแทนฉันเองเสร็จสรรพ แต่จะว่าไปแม่ก็คงไม่ได้สนใจอะไรเท่าไรหรอกว่าฉันจะไปจะมาวันไหน”
“พูดอะไรของนายวะคริส ฉันเห็นครอบครัวนายมาเยี่ยมนายทุกปีเลยนะ แล้วมาดามซาร่าก็รักแกมากอย่างเปิดเผยจะตายไป”
“อืม...ช่างมันเถอะ แล้วนายจะกลับนิวยอร์กเมื่อไร” เมื่อเขาไม่อยากอธิบายจึงรีบตัดบททิ้งไป
“ก็คงอยู่เที่ยวต่อสักพัก เอาให้หายเหนื่อยก่อน ว่าแต่แกคงพักจนเต็มอิ่มแล้วละสิ หน้างี้สดชื่นเชียว”
“ก็คงงั้น” คริสเตียนไม่พูดต่อ แต่สีหน้านั้นแสดงออกอย่างชัดเจนจนเพื่อนแปลกใจ
++++++++++
ดาวน์โหลดฉบับเต็มได้ที่
ต้องการรูปเล่มสั่งซื้อที่เพจ ปันปัณณ์ ๐ ลาภิสรา
หรือ www.baengpunbook.com
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ