BURST IN THE SHADOW

+++7+++
          19 : 30
เลิฟและเพื่อนๆของเธอออกจากโรงเรียนโดยมีเนกัสกับเกรนเปิดทางให้ทั้งสี่ออกนอกโรงเรียน เลิฟเดินนำเพื่อนของเธอไปยืนอยู่ข้างถนนรอรถ
          “ทำไมวันนี้ถึงให้ฉันกับจูดี้ไปด้วยล่ะ”โรสถามขึ้นมาอย่างสงสัย ปกติเลิฟกับนาร์ยจะไม่ค่อยยอมให้เธอกับจูดี้ไปที่ร้านของมาเลน ถ้าได้ไปส่วนมากเลิฟจะปล่อยเธอให้นั่งอยู่ที่โต๊ะที่จัดไว้ให้และตัวเลิฟกับนาร์ยเองก็หายไป ปล่อยให้เธอนั่งอยู่คนเดียวหลายชั่วโมง พวกเธอทั้งสองจึงสงสัยออกมาอย่างชัดเจน
                    “ฉันมีเรื่องจะบอกพวกเธอน่ะ”เลิฟพูดพลางยืนดูรถที่ผ่านไปมาอย่างใจเย็น
          “เลิฟ!”นาร์ยเรียกเลิฟอย่างตกใจ เลิฟหันมายิ้มให้เพื่อให้นาร์ยสบายใจขึ้น
          “พวกเธอพร้อมแล้ว”เลิฟพูดทิ้งท้ายเสร็จก็มีรถตู้สีดำจอดอยู่ตรงหน้าของทั้งสี่ “ขึ้นรถสิ”เลิฟพูด แล้วทั้งสี่ก็เขาไปนั่งในรถแล้วรถตู้สีดำก็เคลื่อนตัวไป
          รถตู้สีดำเคลื่อนตัวช้าลงแล้วจอดอยู่หน้าร้าน SHADOW(เงา) ชื่อผับที่เลิฟเรียกว่าร้านของพี่ชาย เธอลงจากรถแล้วเดินนำเข้าไปในร้าน เธอเดินขึ้นชั้นสองไปตรงไปที่ห้องใหญ่ที่สุดทั้งสี่เดินเข้าไป เผยให้เห็นชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มมีผมสีน้ำตาลอ่อนกับนัยน์ตาสีเขียวดูมีอิทธิพลพร้อมใบหน้าที่ไร้อารมณ์เงยหน้ามองทั้งสี่ เลิฟปิดประตูล็อกประตูแล้วเดินไปตรงหน้าของชายผู้นั้น
          “เลน”เลิฟเรียก เธอมองหน้าพี่ชายของเลิฟ “ได้เวลารับสมาชิกใหม่แล้ว”สิ้นเสียงของเลิฟ มาเลนก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินมายืนข้างหน้าของเลิฟแล้วทุกคนก็ตกใจเมื่ออยู่ดีๆมาเลนก็ก้มหัวให้เลิฟ
          “ยินดีต้อนรับครับ คุณหนู”มาเลนเอ่ยเสียงชัดเจน
          “คุณหนู?”เสียงประสานของจูดี้กับโรส เลิฟหันไปมองแล้วเหล่มองนาร์ย
          “นั่งก่อนสิฉันจะเล่าทุกอย่างให้ฟัง”เลิฟพูดแล้วเธอเดินไปนั่งที่ที่มาเลนนั่งก่อนหน้านี้ มาเลนเดินไปยืนข้างๆเลิฟ นาร์ยเดินไปนั่งที่โซฟาตัวยาว จูดี้ยังมีสีหน้างงแต่เธอกับโรสก็เดินไปนั่งข้างๆนาร์ย “โรสเธอคงรู้มาบ้าง ว่าครอบครัวของฉันเปิดผับและเป็นผับที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของธุรกิจด้านนี้”เลิฟเอ่ยขึ้นเธอมีสีหน้านิ่งเงียบ
          “ฉันรู้ และรู้อีกด้วยว่า พี่มาเลนเป็นนายใหญ่ของที่นี่ โดยมีเธอสองคนเป็นคนสนิท แล้ว SHADOW ก็ถือเป็นองค์กรที่สร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจขนาดใหญ่โดยมีผับของเธอเป็นศูนย์บัญชาการ”โรสพูดเลิฟยิ้มอย่างพอใจ
          “ถือว่าข้อมูลของเธอใช้ได้ คือที่จริงเลนไม่ใช่พี่ชายของฉันหรอก เขาเป็นคนสนิทของฉันและนายใหญ่ SHADOW ตัวจริง คือฉัน เฮเลน่า โมบีอุส”เลิฟพูด โรสนิ่งค้างอย่างคำนวณคำพูดของเลิฟไม่ทัน
          “เลิฟหมายถึง พี่มาเลนไม่ใช่นายใหญ่ตัวจริงหรอค่ะ เขาเป็นแค่ตัวแทนของเลิฟ เลิฟทำไปเพื่ออะไรค่ะ”จูดี้ถามขึ้นมา
          “เธอเข้าใจง่ายดีไหนลองทายดูสิ”เลิฟยิ้มพลางเท้าคางมองจูดี้ที่นั่งคิดดู
          “คงเพราะเลิฟเป็นผู้หญิง และยังเรียนไม่จบเลยอาจมีปัญหาเรื่องสมาชิกบางคนคัดค้านที่จะมีเด็กผู้หญิงเป็นผู้บริหารผับขนาดใหญ่นี้ เลิฟเลยให้พี่มาเลนขึ้นเป็นคนดูแลงานแค่ในนามและมีเลิฟเป็นคนคอยควบคุมอยู่  และคอยดูพฤติกรรมของสมาชิกคนอื่นโดยการปลอมเป็นคนสนิทหรือน้องสาวของพี่มาเลน”จูดี้พูดถูกใจเลิฟจนเธอหัวเราะออกมา
          “เธอฉลาดมากจูดี้ ฉันชอบเธอตรงนี้แหละ แต่ที่เธอบอกว่าฉันปลอมตัวน่ะไม่ใช่หรอก ที่จริงเรื่องที่ฉันเป็นนายใหญ่ไม่ได้เป็นความลับอะไรหรอกแต่เพราะมีสมาชิกเก่าของลุงโทชิแนะนำว่าฉันยังเด็ก สมาชิกบางคนอาจไม่เชื่อฟังและไม่ยอมให้ความร่วมมือฉันเลยให้เลนมาทำหน้าที่แทน ในเรื่องนี้ถ้าสืบดูให้ลึกกว่านี้หน่อยก็จะรู้”เลิฟหัวเราะและเธอก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นนิ่งเฉยไร้ความรู้สึก “ฉันขอพูดตรงๆนะ ฉันอยากให้พวกเธอสองคนเข้าร่วมองค์กร SHADOW”เลิฟพูด จูดี้นิ่งมองและเธอก็หันไปมองโรส
          “ทำไมถึงอยากให้ฉันเข้าองค์กร SHADOW ล่ะ”โรสถาม เลิฟเลิกคิ้วมอง
          “ถ้าพูดกันเองแบบเพื่อนฝูงคงเป็นห่วงเพราะตอนนี้ธุรกิจส่งออกเครื่องสำอางของเธอกำลังรุ่ง เลยตกเป็นเป้าหมายของพวกฉกฉวยเงินและผลประโยชน์ แต่ถ้าพูดกันแบบธุรกิจคงต้องบอกว่าธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ฉันยังไม่มี น่าสนใจ น่าดึงดูดจนฉันปล่อยให้คนอื่นแย้งไปไม่ได้เด็ดขาด!”เลิฟยิ้มให้โรสอย่างเจ้าเล่ห์
          “แล้วฉันล่ะค่ะ บ้านของฉันไม่ได้มีธุรกิจใหญ่โตอะไรเหมือนโรส”จูดี้ถามขึ้นบ้าง
          “ฉันอยากได้สมอง…คือฉันหมายถึง ฉันอยากได้เธอมาเป็นสมองคอยช่วยฉันจัดการเรื่องที่ต้องใช้ความคิด อย่างเช่นตอนนี้เลนบอกว่ามีหนอนบ่อนไส้คอยสร้างความรำคาญและป่วนองค์กร ฉันเลยอยากให้เธอมาเป็นที่ปรึกษา”เลิฟพูดตามองจูดี้นิ่ง เธอต้องทำให้จูดี้กับโรสเข้าองค์กรให้ได้เพื่อเธอเองและเพื่อองค์กร พวกสมาชิกบางพวกจะได้รู้ว่าคนอย่างเธอทำให้พวกเขารุ่งเรืองและล่มจมได้ เหตุนี้เธอต้องหาสมาชิกเข้าองค์กรให้ได้มากกว่านี้
          “งั้นฉันตกลงเธอเป็นคนที่น่าสนใจ ฉันไม่ผิดหวังเลยจริงๆ”
          “ฉันก็ตกลงเข้าองค์กรด้วยค่ะ น่าสนใจดี”