Bully school รักวุ่นๆของเหล่านักเรียนอันธพาล

-

เขียนโดย Vicious

วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 16.28 น.

  4 ตอน
  1 วิจารณ์
  6,916 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2558 16.48 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) ตอนที่ 4

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

ตอนที่ 4

 

เวลาต่อมา

 

บริเวณหน้าโกดังร้างใกล้ๆซอย 47

 

ปัง!!! ปัง!! ปัง!!

 

ผมใช้เท้าถีบไปที่หน้าประตูบานใหญ่แรงๆสองสามที หลังจากที่ผมกับพวกออกมาจากโรงเรียนแล้วมุ่งหน้ามาเยือนยังที่แห่งนี้

 

ถิ่นของ Spy air

 

สปายแอร์เป็นหนึ่งในแก๊งพันธมิตรกับแก๊งพี  ถิ่นประจำของแก๊งคือโกดังร้างใกล้ๆกันกับซอย 47  มีสมาชิกแก๊งร่วมกันหลายร้อยคน และนับว่าเป็นแก๊งใหญ่แก๊งหนึ่งใน Bully ก็ว่าได้ แต่ก็ยังทิ้งห่างกับแก๊งพีอยู่มากโข

 

ไม่นานนักประตูบานใหญ่ที่ถูกเตะไปเมื่อกี้ก็ถูกเปิดออกพร้อมกับผู้ชายคนหนึ่งดูท่าทางนิ่งๆ ถ้าจำไม่ผิดหมอนี่คงเป็นมือขวาของไอ้บิ๊กล่ะมั้ง

 

“กูมีเรื่องจะคุยกับไอ้บิ๊ก มันอยู่หรือเปล่า”ผมบอกเจตนาของผมไปทันทีพลางสอดส่องสายตาเข้าไปด้านในเพื่อมองหาคนที่อยากจะเจอ

 

“อยู่ ตามมา”

 

อีกฝ่ายพยักหน้ารับก่อนจะหมุนตัวเดินนำเข้าไปข้างใน ผมกับพวกเลยเดินตามเข้าไปพร้อมกันนั้นไอ้บิ๊กที่นั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวก็ส่งเสียงทักทายเมื่อเห็นพวกเรา

 

“โย่ววว ไงสหาย ลมอะไรหอบมา แก๊งพีถึงมาหาพวกเราได้เนี่ย ไม่เจอกันนานเลยนะพวก”บิ๊กทักทายอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับยิ้มแย้มร่าเริงเหมือนได้เจอเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานับสิบปีก็ไม่ปาน

 

บิ๊ก หัวหน้าแก๊ง Spy air  ผิวขาว หน้าตาดี รูปร่างใหญ่ออกจะอวบอ้วน อารมณ์ดี ขี้เล่น แต่หากได้ลองโกรธใครสักคน จะอารมณ์ร้ายและรุนแรงมาก

 

“หึ กูมากกว่าที่ต้องเป็นฝ่ายถาม สั่งสอนเด็กในแก๊งมึงยังไงให้มารุมลอบกัดพวกเดียวกัน ไอห่าน!”แต่ผมไม่ยิ้มแย้มไปกับมันด้วย รีบพูดเข้าตรงประเด็นทันที พยายามควบคุมอารมณ์กรุ่นโกรธของตัวเองที่กำลังปะทุไว้ จะไม่ให้โกรธได้ยังไง กับความเชื่อใจที่ผมมีให้มัน แล้วมันมาทำแบบนี้น่ะหรอ ใช้ได้ที่ไหน

 

“เห้ยๆ อะไรวะพี ใจเย็น พูดอะไร กูไม่เห็นจะรู้เรื่อง อะไรเด็กแก๊งกูไปทำอะไรมึงไว้ตอนไหน”รอยยิ้มของมันหายไป แต่มีความตึงเครียดเข้ามาแทน สีหน้าและแววตาฉายชัดว่างุนงงในสิ่งที่ผมพูด

 

“หึ เมื่อไม่นานมานี้ มีคนกลุ่มหนึ่งมาหาเรื่องกู แล้วกูก็กะจะไปขยี้มันยกแก๊ง แต่เด็กแก๊งกูไปสืบมา บอกว่าคนพวกนั้นเป็นเด็กแก๊งมึง แล้วไงล่ะ ตลกชิบหาย แก๊งพันธมิตรที่แสนดีส่งคนมายำแก๊งกู จะให้กูรู้สึกยังไงวะบิ๊ก!!” ผมเกือบจะหลุดหมัดใส่มันไปแล้วเชียว แต่โชคยังดีที่ไอ้เทพเข้ามาสะกิดที่ไหล่แล้วกระซิบถามอะไรบางอย่าง

 

“พี มึงจำหน้าไอ้พวกนั้นได้ใช่ไหมวะ แต่แมร่งสมาชิกแก๊งไอ้บิ๊กมันเยอะจัดเลยว่ะ จะหายังไงดี”

 

“กูก็จะหาจนกว่าจะเจอนั่นแหละ ถ้าไม่เจอ ไอ้บิ๊กก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้ แต่ถ้ายังไม่เคลียร์ ก็ตัดหางปล่อยวัดมันซะ” พอผมบอกกับไอ้เทพไปแบบนั้น ดูมันจะอึ้งไปนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแต่พยักหน้ารับว่าเข้าใจ แล้วก้าวเท้ากลับไปยืนยังที่ของตัวเอง ผมเลยหันกลับมาทางไอ้บิ๊กต่อ

 

“พี มึงใจเย็นดิ อาจจะมีการเข้าใจอะไรกันผิดหรือเปล่าวะ มึงแน่ใจหรอว่าเป็นเด็กแก๊งกูในเมื่อคนของแก๊งกูต่างก็รู้ดีว่าเราเป็นพันธมิตรกัน เออ แต่เมื่อไม่นานมานี้ กูก็เพิ่งจะรับเด็กใหม่เข้ามา เดี๋ยวกูเรียกพวกมันมาให้มึงดูแล้วกันว่าใช่หรือเปล่า”บิ๊กพยายามพูดให้ผมใจเย็นลง ก่อนจะหันไปสั่งคนที่ออกมาเปิดประตูให้พวกเราให้ไปเรียกเด็กใหม่ของมันมา

 

ไม่นานก็มีกลุ่มคนประมาณ 4-5 คน เดินก้มหน้าออกมาแล้วยืนเรียงแถวหน้ากระดานต่อหน้าผม ส่วนไอ้บิ๊กก็ลุกขึ้นจากโซฟามายืนคุมเชิง ผมกวาดสายตามองไปยังกลุ่มคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าก่อนจะหันไปมองรอบๆก็เห็นว่าสมาชิกส่วนหนึ่งของแก๊งไอ้บิ๊กที่ยังรวมตัวกันอยู่ในที่นี้ทุกคนต่างก็ถืออาวุธกันครบมือ ทั้งไม้เบสบอล ไม้หน้าสาม ต่างๆนาๆ หึ ก็รู้อยู่แล้วล่ะ ถึงจะเป็นพันธมิตรต่อกัน แต่ถ้าหัวหน้ามันสั่งอะไรพวกมันก็ต้องทำตาม

 

“เงยหน้าขึ้นสิวะ!! พวกมึงจะมองพื้นกันทำห่าเหวอะไร!! เงยหน้าขึ้นมามองหน้ากูนี่ ให้หัวหน้ามึงชื่นใจว่าพวกมึงไม่ได้ทำอะไรกู!”ผมยืนกอดอกก่อนจะตะโกนด่าพวกมันด้วยความหงุดหงิดและเมื่อพวกมันเงยหน้าขึ้นมาให้ได้เห็นกันชัดๆ ผมก็เหยียดยิ้มออกไปทันที

 

“หึ ไอ้บิ๊ก เด็กใหม่มึงทำเรื่องแล้วไง หวังว่ามึงคงจะมีเหตุผลอะไรดีๆหรือวิธีอะไรดีๆที่จะจัดการกับพวกมันนะ ว่าไง? พันธมิตร”ผมพูดโดยที่ไม่ได้หันไปมองหน้าไอ้บิ๊กเลยแม้แต่น้อย ส่วนไอ้พวกที่อยู่ตรงหน้าก็พากันตัวสั่นทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้เมื่อได้ยินคำว่าพันธมิตรและราวกับว่าจะรู้ชะตากรรมของตัวเองก็ถึงกับเข่าทรุดลงไปกับพื้น

 

“พะ..พี่บิ๊ก ผมขอโทษ ผมไม่รู้จริงๆ ผมขอโทษนะพี่ อย่าทำอะไรผมเลยนะ นะพี่นะ”หนึ่งในพวกมันแทบจะก้มลงกราบไอ้บิ๊กและได้แต่เอามือกอดขาไอ้บิ๊กไว้พลางอ้อนวอนร้องขอชีวิต

 

“เฮ้ออ พี ครั้งนี้กูขอล่ะ กูผิดเองที่ดูแลคนของกูไม่ดี ไอ้พวกนี้มันยังใหม่ อย่าไปถือสามันได้ไหมวะ กูสัญญาว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก”ไอ้บิ๊กเอามือกุมขมับถอนหายใจเมื่อรู้ว่าเป็นคนของแก๊งมันจริงๆ ก่อนจะหันมาขอโอกาสกับผมด้วยสีหน้าเครียดๆ

 

“มึงอย่าเอาคำว่าเด็กใหม่มาอ้างหน่อยเลย ตอนรับพวกมันเข้าแก๊ง มึงไม่ได้บอกพวกมันหรอ ว่ากูใคร? กูเพื่อนมึงหรือเปล่า? ใช่พันธมิตรมึงไหม? ไม่ใช่ว่ามึงคิดจะเล่นอะไรพิเรนทร์ๆอย่างเช่นว่า ให้มาล้มกูให้ได้แล้วถึงจะรับเข้าแก๊งหรอกนะ”

 

“พี มึงสงบสติอารมณ์มึงก่อนมะ กูไม่ใช่มึงนะโว้ย ที่จะคุมเด็กได้ทุกคนเหมือนมึงอ่ะ กับคนบางพวก ต่อให้บอกให้สอนอะไรไป ถ้ามันไม่คิดจะฟัง มันก็ไม่ฟัง จะมาโทษกูฝ่ายเดียวรึไง และถึงกูจะไม่ได้เก่งกาจอะไรเหมือนมึง หรือแก๊งกูจะไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนแก๊งมึง แต่กูก็รู้ว่ะ ว่าเพื่อนคืออะไร กูจะเล่นพิเรณทร์หักหลังมึงทำเหี้ยอะไรวะ” บิ๊กพยายามให้เหตุผลและนั่นก็ทำให้ผมใจเย็นลงมาบ้าง

 

“เออ อย่าให้มีเป็นครั้งที่สองก็แล้วกันครั้งนี้ถือว่ากูเห็นแก่มึงนะ และถ้าเกิดว่ามึงลืมคำว่าเพื่อนคืออะไรเมื่อไหร่มึงเตรียมตัวเปิดศึกกับกูได้เลย”

 

“เออ กูเข้าใจความรู้สึกมึงพี ขอบใจว่ะที่ยอมลงให้กู”บิ๊กเข้ามาตบไหล่ผมสองสามที จากสีหน้าเครียดๆก็เปลี่ยนเป็นโล่งใจไปด้วย

 

“เห้ย พวกมึงอะมาลากไอ้พวกนี้ไปซ้อมทีดิ๊”บิ๊กหันไปสั่งลูกน้องของมันพร้อมกับพยักหน้าไปทางพวกเด็กใหม่ ก่อนที่พวกนั้นที่มีอาวุธในมือครบครันจะเข้ามาลากไอ้พวกเด็กใหม่ออกไป

 

“หมดเรื่องแล้ว กูขอตัวก่อนละกัน พอดีมีธุระด่วนต้องไปสะสางว่ะ ไว้เจอกันไอ้บิ๊ก”

 

“เออ ไปดีมาดี ไว้ว่างๆก็มาสังสรรค์กับพวกกูบ้างก็แล้วกัน”

 

“เออๆ ตามนั้น” ผมกับพวกโบกมือลาไอ้บิ๊กแล้วเดินออกมาจากโกดังเพื่อมุ่งหน้ากลับไปยังที่โรงเรียนอีกครั้ง

 

 

หึ ต่อไปก็คงถึงตาไอ้โอเว่นอะไรนั่นแล้วสินะ ก็อยากจะรู้อยู่เหมือนกันว่ามันจะเจ๋งสักแค่ไหน

 

 

 

 

เวลาต่อมา

 

บนชั้นดาดฟ้าตรงจุดนัดพบ

 

หลังจากที่เคลียร์กันกับไอ้บิ๊กเสร็จเรียบร้อยแล้วผมกับพวกก็ตรงดิ่งกลับมาที่โรงเรียนทันทีเพื่อมาดวลศึกกันกับหัวหน้าแก๊งมุมมืดที่ชั้นดาดฟ้านี้ ซึ่งตอนนี้ก็มีคนมากหน้าหลายตาที่ผมไม่ค่อยจะคุ้นหน้าเสียเท่าไหร่ และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไอ้คนที่ชื่อโอเว่นนั่นมันคนไหน

 

“เฮียยย กลับมาแล้วหรอ ฟัดกับเฮียบิ๊กมาหรือเปล่าอ่ะ”ไอ้บัสที่เห็นผมก็รีบวิ่งเข้ามาหาทันทีก่อนจะมองสำรวจรอบตัวผมไปซะทั่วเหมือนเป็นห่วง

 

“เปล่า ไปหาที่นั่งไป อ้อ ไล่ไอพวกที่ไม่เกี่ยวออกไปด้วย ขึ้นมากันทำไมเยอะแยะ เดี๋ยวพวกอาจารย์ก็แห่กันขึ้นมาหรอก เกิดวงแตกก็หมดสนุกกันพอดี”

 

“โห เฮีย ก็หาดูยากนะ ตัวเก็งกับตัวเก็งของโรงเรียนมาเจอกัน ใครพลาดนี่ก็คงเสียดายอ้ะ”

 

“เห้ยโฟร์ คนไหนมันคือไอ้โอเว่นวะ”ผมหันไปถามไอ้โฟร์ที่ยืนอยู่ข้างๆกันโดยไม่สนใจคำพูดของไอ้บัสเท่าไหร่ บัสมันเลยผละออกไปทำหน้าที่ของมันตามที่ผมสั่ง

 

“คนนั้นอะ” ไอ้โฟร์ชี้นิ้วไปยังคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะตัวหนึ่งซึ่งมันกำลังนั่งควงมีดเล่นอยู่ ข้างๆกันก็เป็นไอ้แจสเปอร์ที่ผมจำได้ดี แต่ว่าอีกสองคนผมไม่คุ้นหน้าเลย

 

“แล้วอีกสองคนอะ ใครวะ”ขณะที่ผมถาม สายตาผมก็เห็นว่าไอ้แจสเปอร์หันไปกระซิบกระซาบอะไรสักอย่างกับไอ้โอเว่น จากนั้นไอ้โอเว่นก็หันมามองทางผม ซึ่งนั่นก็ทำให้มันลงมาจากโต๊ะและกำลังตรงดิ่งมายังพวกผมรวมถึงเพื่อนๆของมันด้วย

 

“ไอคนขาวๆชื่อ ดีโน่ ส่วนอีกคนที่สูงกว่าหน่อยชื่อพายัพ”โฟร์ยังคงอธิบายให้ผมฟังเรื่อยๆ จนกระทั่งพวกมุมมืดมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าผมพอดี

 

“ไง หัวหน้าแก๊งพีสินะ มึงอะ”โอเว่นเอ่ยปากทักทายเป็นคนแรก แต่ไอหมอนี่หน้ามันคุ้นๆนะ

 

“เออ กูเอง เอาเลยมั๊ยล่ะ “ผมตอบกลับไป ทำไมพอยืนอยู่ด้วยกันแล้วแมร่งรู้สึกว่าตัวเองเตี้ยๆกว่ามันนิดหน่อยด้วยวะ

 

“มึงหรอ ที่อัดแจสเปอร์อะ?”มันยังคงตั้งคำถามกับผมพลางเหยียดยิ้มมาให้

 

“ก็ใช่อีกอ่ะ” ผมตอบกลับไปและรู้สึกอยากจะกวนตีนมันให้มากกว่านี้ยังไงชอบกล แต่ดันไม่ได้กวนตีนอะไรมันเลยเพียงแต่ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

 

“หน้าตาดีใช้ได้นี่ หัวหน้าแก๊งพี แต่ระวังหมัดไอ้โอเว่นหน่อยนะถ้าโดนเข้าไปละก็อาจจะหน้าแหกหมดหล่อไม่เหลือสภาพก็อย่ามาโทษกันนะ เพราะเตือนแล้ว ฮ่าๆๆ”คนที่ชื่อดีโน่อะไรนั่นพูดสวนขึ้นมาพร้อมกับทำหน้ากวนตีนใส่เห็นแล้วผมเองก็แอบเลือดขึ้นหน้าอยู่เหมือนกัน

 

“หน้าตาหล่อใช้ได้นี่ หัวหน้าแก๊งมุมมืด แต่ระวังตีนไอ้พีมันหน่อยนะถ้าโดนเข้าไปละก็อาจจะไส้แตก ชีวิตดับอาจจะไม่ได้กลับมาโลกนี้อีกเลยก็ได้นะ แล้วก็อย่ามาโทษกันล่ะ เพราะเตือนแล้วฮ่าๆๆ”ไอ้เนย์ตอกกลับอย่างไม่ยอมแพ้และปั้นหน้ากวนตีนใส่ดีโน่กลับไปเช่นกันจนอีกฝ่ายหน้าแดงด้วยความโมโหจนเผลอปากด่าออกมา

 

“ไอสัส!!”

 

“ทำมะ ไอเหี้ย!!”

 

“เห้ยย!!! พอ!! รำคาญ จะเริ่มก็เริ่มสักที ให้มันจบๆไปได้ละ ถ้าว่างมากพวกมึงก็ไปเปิดห้องนั่งด่ากันเลยไป๊”

 

ทั้งคู่หุบปากฉับลงทันทีหลังจากที่ผมตะโกนว่าออกไปก่อนที่ดีโน่มันจะยักไหล่ใส่อย่างไม่แคร์ จากนั้นผมก็หันกลับมาเจรจากับไอ้โอเว่นต่อ

 

“ไหน...มึงบอกว่ามีข้อตกลงอะไรกับกู ว่ามาดิ”

 

“ฮะๆ โอวว เด็ดขาดใช้ได้เลยนี่ ใจกล้ากว่าที่คิดแฮะ อืมม โอ๊ะ แต่ขี้หงุดหงิดไปหน่อยรึป่าว”แต่อีกฝ่ายกลับยกมือข้างนึงขึ้นมาจับคางตัวเองพลางใช้สายตามองผมเหมือนกับจะพิจารณาอะไรในตัวผมสักอย่างซึ่งนั่นมันก็ยิ่งทำให้ผมหงุดหงิดเข้าไปอีก

 

 

“...........”

 

 

ผมไม่ตอบอะไรแต่กลับจ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตานิ่งๆแทน

 

“หึ จัดให้ ข้อตกลงก็คือ การสู้กันครั้งนี้ต้องล้มอีกฝ่ายให้ได้ เมื่อคนใดคนหนึ่งล้มลงไปนอนกับพื้น จะนับเวลาถอยหลังให้ 5 วินาที แต่ถ้าลุกขึ้นมาซัดคู่ต่อสู้ต่อไม่ได้ละก็ ถือว่าคนนั้นแพ้ และจะต้องทำตามคำสั่งในสิ่งที่ผู้ชนะต้องการ 1 ข้อ โอเค๊?”โอเว่นอธิบายข้อตกลงให้ฟังเมื่อจบคำอธิบายก็เลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถามว่าตกลงหรือเปล่า

 

“แค่นี้ใช่มั๊ย งั้นก็ไม่มีปัญหา จะเริ่มกันรึยังล่ะ?”

 

“จัดไปครับได้เสมอตามที่คุณต้องการ^^”

 

ยิ้มไปเถอะมึงจะอัดให้ฟันร่วงกระจายเลยคอยดู

 

 

 

-----------------------------------------

 

สวัสดีค่า ขอโทษที่ไม่ได้เข้ามาอัพนานเลย ช่วงนี้ไรท์รู้สึกซวยๆยังไงก็ไม่รู้ ฮือออ T^T มีแต่อุปสรรคทั้งนั้นเลย ตั้งแต่ติดสอบเอย ไม่สบายเอย เดินตกบันไดเอย ล่าสุดคอมเสียจ้าา แต่ตอนนี้มหาลัยได้ปิดเทอมแล้วว เย้!! 2 อาทิตย์จ่ะ แอบห่อเหี่ยวนิดนึง อะไร 2 อาทิตย์เองหรอ 555 แต่ยังไงก็ใกล้จะปีใหม่แล้วเนอะ ขออวยพรนิดนึง ก็ขอให้ทุกๆคนมีความสุขมากๆนะคะ สุขสมหวังในสิ่งที่ปราถนา ติดตามนิยายเค้าเยอะๆ ฮ่าาา ไม่ใช่ละ ขอบคุณมากจ้าที่ติดตาม คอมเม้น  โหวต นิยายของเค้า >< หากมีอะไรผิดพลาดตรงไหน บอกเค้าได้น้าจะปรับปรุงจ้า สุดท้ายก็ รอตอนต่อไปนะทุกคนนนนน ^^ (ไรท์จะลงเนื้อหาที่เด็กดีก่อนนะคะ)

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา