Bully school รักวุ่นๆของเหล่านักเรียนอันธพาล
เขียนโดย Vicious
วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 16.28 น.
แก้ไขเมื่อ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2558 16.48 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) ตอนที่ 3
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ตอนที่ 3
และอีกสองสามวันต่อมา...
ช่วงเวลาสายๆของวัน..บนชั้นดาดฟ้าของโรงเรียน...
“พวกเรานี่ไม่ค่อยเข้าเรียนกันเลยเนอะ”เสียงเปรยๆจากไอ้เทพบุตรที่กำลังนั่งคร่อมอยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวหนึ่งโดยหันหน้าเข้าหาส่วนพิงหลัง แขนข้างหนึ่งวางไว้บนขอบตรงส่วนบนสุดของเก้าอี้(ขอบพิงหลัง)และเกยคางไว้บนท่อนแขน ส่วนมืออีกข้างก็หมุนใบไม้ในมือเล่นไปมาเหมือนกับกำลังรู้สึกเบื่อๆ
“ไอ้เทพๆ เกือบเท่ห์ละ ขอถ่ายรูปหน่อยคร้าบ แชะ แชะ”ไอ้เนย์แกล้งแหย่พลางทำนิ้วเป็นรูปกล้องแล้วโฟกัสไปที่ไอ้เทพบุตรก่อนจะย่อตัวลงทำทีเป็นถ่ายภาพราวกับว่าตัวเองเป็นช่างภาพมือโปร
“แน่นอนอยู่แล้ว จัดไปเลยพวก”ไอ้เทพเลยยืดอกพร้อมกับยักคิ้วก่อนจะฉีกยิ้มกว้างชูสองนิ้วใส่เต็มที่
“ไม่ถ่ายละ”แต่พอไอ้เทพบุตรเล่นด้วย ไอ้เนย์ดันไม่ให้ความร่วมมือเอาซะดื้อๆ ทำเอารอยยิ้มกว้างๆของไอ้เทพหุบวืดลงทันที
“อ้าว ไอ้เหี้ย กูอุตส่าห์แอคท่า”ไอ้เทพโวยตามคาดพร้อมกับทำหน้ามุ่ย
“ก็มันดูไม่เป็นธรรมชาตินี่หว่า”ไอ้เนย์ว่าและพยายามกลั้นเสียงหัวเราะของตัวเองไว้
“ไอ้บ้า ฉีกยิ้มชูสองนิ้ว ท่าเนี่ยกูธรรมชาติสุดๆละ มันดูไม่ธรรมชาติตรงไหนหะ อ๋ออออ มึงแกล้งกูหรอ มาถ่ายกูเดี๋ยวนี้เลยย”ไอ้เทพว่าพลางขมวดคิ้วทำหน้าแปลกใจในตอนแรกๆแล้วนึกอะไรขึ้นได้ก่อนจะพูดยิ้มๆจากนั้นก็ลุกออกจากเก้าอี้ไปหาไอ้เนย์
“ม่ายยยย”แล้วไอ้เนย์ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นอย่างห้ามไม่อยู่พร้อมๆกับวิ่งหนีไอ้เทพที่กำลังไล่เตะมันเป็นพัลวัน
ผมนั่งยิ้มขำๆที่ไอ้เทพกับไอ้เนย์เล่นอะไรกันต๊องๆแล้วตีกันเอง ซึ่งจริงๆแล้วผมก็นั่งขำมาตลอดตั้งแต่ดูพวกมันสองคนเล่นกันละ
“พี มึงไม่ร้อนหรอ แดดเปรี้ยงขนาดนี้ ไปนั่งกันที่อื่นไม่ได้หรอวะ”คงมีแต่ไอ้โฟร์ที่ดูจะไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่ แหงล่ะ แดดระดับประเทศไทยนึกว่าไออุ่นจากนรก มันคงจะหงุดหงิดเป็นธรรมดากับความร้อนที่แผดเผาผิวกายและผิวหน้าของมันให้ได้แสบเล่น
“ก็เริ่มร้อนละ งั้นวันนี้ก็เข้าเรียนสักวันดีมะ สนองไอ้เทพมัน”ผมหันไปตอบแบบติดตลกและกำลังจะลุกขึ้นออกจากเก้าอี้
แต่ทว่าในขณะเดียวกันก็มีเด็กคนหนึ่งน่าจะอยู่ปีสองเดินขึ้นบันไดมาเหมือนกำลังมองหาอะไรบางอยู่แต่พอเห็นผมมันก็เลยรีบวิ่งเข้ามาหาพร้อมกับยื่นซองจดหมายในมือมาให้
“พี่พีมีคนฝากมาให้”
ผมเลิกคิ้วมองซองจดหมายสีชมพูที่ถูกยื่นมาตรงหน้าอย่างงงๆ พลางนึกในใจว่าใครมันเล่นพิเรนท์อะไร
“ซองสีชมพูซะด้วย จดหมายรักจากสาวโรงเรียนไหนกันน้า”ไอ้เทพที่กำลังเล่นกันอยู่กับไอ้เนย์รีบวิ่งเข้ามาดูอย่างสนอกสนใจก่อนจะเอ่ยปากแซวพลางเพ้อฝันแทนเพื่อนมันไปเรียบร้อย
“จากใคร ผู้หญิงหรือผู้ชาย?”ผมถามต่อไม่คิดจะสนใจที่ไอ้เทพมันพูด ในหัวคิดแค่ว่าต่อให้เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายแต่ถ้าเปิดอ่านออกมาแล้วเป็นจดหมายสารภาพรักจริงๆ ผมจะฉีกมันทิ้งซะ ผมไม่ได้ไร้หัวใจนะ แต่เรื่องแบบนี้มันไม่เคยอยู่ในหัวผมเลย
“เขาบอกว่าถ้าพี่ถามก็ให้พี่เปิดอ่านดูในจดหมายอ่ะ”
“เออ ขอบใจ”ผมว่าแล้วรับซองจดหมายมา
“งั้นผมไปละพี่”พอกล่าวลาเสร็จมันก็วิ่งหายลงไปทางเดิม
“ไหนๆ เปิดอ่านดูดิ๊ไอ้พี”ไอ้เนย์ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามายืนอยู่ข้างๆกันตั้งแต่เมื่อไหร่บอกให้ผมอ่านจดหมายซึ่งดูจากท่าทางแล้วไอ้เทพกับไอ้เนย์ดูจะตื่นเต้นและลุ้นกันสุดๆ
ผมส่ายหัวให้กับความบ้าบอของพวกมันแล้วจัดการแกะปากซองสีชมพูออกก่อนจะหยิบจดหมายที่อยู่ในนั้นออกมาและกำลังจะเปิดอ่านแต่ไอ้โฟร์ดันตะโกนเรียกชื่อใครบางคนเสียก่อน
“อ้าวไอ้บัส!”
ทุกคนเลยเบนความสนใจไปยังไอ้บัสที่วิ่งกระหืดกระหอบขึ้นบันไดมา
“เฮีย โห่ แฮ่กๆ ผมตามหาเฮียซะทั่วเลย”ไอ้บัสตรงดิ่งเข้ามาหาผมพร้อมกับพูดอะไรบางอย่างด้วยน้ำเสียงขาดห้วงเพราะความเหนื่อย ผมเลยฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่องว่ามันพูดอะไร
“เฮ้ย ใจเย็น ค่อยๆพูดกูฟังไม่รู้เรื่อง”
“ผมบอกว่าผมตามหาเฮียซะทั่วเลยเพราะผมมีเรื่องจะบอกเฮียเกี่ยวกับเรื่องที่เฮียให้ผมไปสืบ”พอผมว่าอย่างนั้นมันเลยสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆแล้วรัวคำพูดใส่อย่างเร็ว นี่ก็กะจะแร็พให้กูฟังใช่ไหม ให้ตายเถอะ แต่ก็ยังดีที่ผมพอจะจับใจความได้อยู่
“เออ แล้วได้เรื่องมาว่าไง”ถามออกไปแล้วจดจ่อตั้งใจฟัง แต่มันกลับอ้ำอึ้งใส่ซะอย่างนั้น เอ้า ไอ้นี่!! เป็นไรไปอีก เมื่อก่อนก็ไม่เห็นว่ามันจะเป็นอย่างนี้หนิ
“ไอ้บัส!! กูถาม”ผมตะโกนย้ำอีกครั้ง เรียกสติคนตรงหน้าจนมันสะดุ้งโหยงรีบตอบทันที
“เอ่อ ครับ!! คือว่างี้เฮีย เรื่องไอ้แจสเปอร์อะ จริงๆแล้วข่าวลือที่ว่าเด็กแก๊งเราไปตีแก๊งนู้นมันไม่จริง ไอพวกเด็กแก๊งนู้นที่ไปมีเรื่องมันหลอกไอ้แจสเปอร์ว่าเป็นฝีมือเด็กแก๊งเรา แต่ผมก็ไม่รู้นะว่าทำไมพวกมันถึงบอกไปแบบนั้น แล้วก็ไอกลุ่มที่มาลอบตีเฮียอ่ะ มันเป็นคนของแก๊ง spy air”
พอฟังสิ่งที่ไอ้บัสเล่าจบผมกับพวกต่างก็หันมามองหน้ากันแบบงงๆ
“ห๊ะ มึงแน่ใจนะ ว่าไอพวกที่มันมารุมกระทืบกูเป็นคนของสปายแอร์?”ผมเบือนหน้าไปถามย้ำมันอีกที เพราะอยากจะได้ยินคำตอบให้มันชัดๆกว่านี้ว่ามันไม่ได้มีอะไรผิดพลาดไปใช่ไหมหรือผมอาจจะหูฝาดไปหรือเปล่า
“แน่ใจครับเฮีย สาบานได้ สปายแอร์แน่นอน!”แต่ไอ้บัสก็ยังคงยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่นชัดถ้อยชัดคำ
“งั้นเรื่องไอ้แจสเปอร์หน้าโง่ก็เอาไว้ก่อนเพราะถึงยังไงก็คงทำอะไรไม่ได้อยู่ดีปล่อยให้มันเข้าใจผิดไปอย่างนั้นแหละเพราะกูกับมันคงไม่มานั่งจับเข่าคุยกันหรอกคงจะมีแต่แลกหมัดแลกทีนกันเท่านั้นหล่ะ แต่ไอสปายแอร์นี่แหละเดี๋ยวมีเคลียร์ มันต้องเจอกู”ผมอธิบายและพยายามสะกดกลั้นข่มอารมณ์โกรธของตัวเองที่มีต่อสปายแอร์เอาไว้
“ไปหาไอ้บิ๊กกัน”ผมพูดขึ้นมาอีกครั้งและกำลังจะเดินนำออกไป
“อ้าว แล้วเรื่องที่จะเข้าเรียนอะ”ไอ้โฟร์ทักขึ้นผมเลยหยุดชะงักกึกอยู่กับที่ ไอ้นี่ก็จริงๆเลย กูแค่พูดขำๆป่ะวะ เฮ้อ!!
“เอาไว้ก่อน”
“แล้ว จดหมายอ้ะ” ไอ้เทพกับไอ้เนย์พูดขึ้นพร้อมกัน เออว่ะ เกือบลืม
“เออ อ่านแปป”พอผมพูดจบพวกมันก็วิ่งเข้ามามุงดูจดหมายกันอีกรอบยกเว้นไอ้โฟร์ที่เดินเข้ามาแบบปกติส่วนไอ้บัสเองก็ดูจะสนใจอยู่ไม่น้อยเลยเข้ามาแจมด้วย
ผมคลี่จดหมายออกดูเลื่อนสายตาอ่านข้อความในกระดาษที่เขียนด้วยลายมือหวัดๆ
มีใจความว่า..
1.นี่คือจดหมายท้าดวล กูขอท้ามึง
2.เราจะดวลกันตัวต่อตัว ห้ามใช้อาวุธใดๆทั้งสิ้น
3.การดวลกันในครั้งนี้มีเงื่อนไขอยู่ข้อหนึ่ง แต่เดี๋ยวไว้ค่อยบอก
4.จุดนัดพบคือชั้นดาดฟ้าของตึกเรียน กูจะอยู่รอถึงแค่ช่วงเย็น
5.มึงคงปอดแหกไม่กล้ารับคำท้า
จาก โอเว่น.
“อะไรว้า ไม่ใช่จดหมายสารภาพรักหรอกหรอเนี่ยว่าแต่ท้าดวลเหี้ยไรทำไมใส่ซองสีชมพูมา! แมร่งผิดหวังอ่ะ เห้ย แต่ถ้าไอ้โอเว่นมันส่งสารท้าดวลมาแบบนี้อย่าบอกนะว่า! มันรู้แล้วอ่ะว่าเป็นพวกเราที่กระทืบไอ้แจสเปอร์มัน”ไอ้เทพออกความเห็นหลังอ่านข้อความในกระดาษจบ
“ไม่รู้ดิ คงงั้นมั้ง แต่ไอ้โอเว่นมันเขียนผิดอยู่ข้อนึง” ผมว่าแล้วกระตุกยิ้มมุมปาก
“ข้อไหนอ่ะ”ทุกคนถามขึ้นมาเกือบจะพร้อมๆกัน
“ข้อสุดท้าย”
หึ ใครบอกมันว่ากูจะไม่รับคำท้า? ฝันไปมั้งไอ้โอเว่น!
-----------------------
รอตอนต่อไปจ้า
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ