กุหลาบเพชร
8.8
เขียนโดย nightshadow
วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.33 น.
36 ตอน
3 วิจารณ์
36.44K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มกราคม พ.ศ. 2559 21.46 น. โดย เจ้าของนิยาย
35) แผนปิดประตูตีแมว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความและแล้วก็ถึงวันที่พิธีแต่งตั้งฮองเฮา ที่ถูกเตรียมการล่วงหน้ามาสองวันทั้งพิธีคัดเลือกชุดทรงที่ถูกสั่งตัดโดยช่างชั้นหนึ่งของราชสำนัก และเสื้อผ้าเนื้อดีพระราชทานสำหรับเป็นชุดสำหรับฮองเฮา เพ่ยอิงถูกขัดสีฉวีวรรณและแต่งตัวโดยนางข้าหลวงหลายคน ทั้งเครื่องทรงสำหรับฮองเฮาประจำราชวงศ์และเครื่องประดับรูปหงส์ที่ ทำจากทองและอัญมณีล้ำค่าถูกประดับตกแต่งตามโบราณราชประเพณีชุดรัดอกสีแดงรูปดอกเหมยที่ปักด้ายสีทอง คลุมทับด้วยผ้าต่วนแพรบางเบาสีทอง ที่มีรายรูปหงส์ปักโดยใช้สีเงินยวงปักสลับกับสีทอง อย่างพิิถีพิถัน ผมยาวสลวยถูกรวบสูงไว้ข้างบนมีปิ่นปักผมสีทองมีพู่ห้อยเป็นหยกรายมังกรคู่หงส์อันเป็นเครื่องหมายบ่งบอกว่า เป็นตำแหน่งที่เคียงคู่องค์ราชันดุจหงส์คู่มังกร เพ่ยอิงเดินเข้ามาในห้องจัดพิธีด้วยท่าทางสง่างามไร้แววประหม่า
ทันทีที่ได้เห็นหญิงงามในดวงใจปรากฏตัวออกมา เฟยหลงถึงกับตะลึงในความงาม เดิมทีหญิงสาวก็งามหยดย้อยอยู่แล้ว แต่วันนี้เมื่อแต่งกายด้วยชุดประจำตำแหน่งและตกแต่งใบหน้าให้มีสีสันขึ้นกว่าปกติ ก็ส่งให้หญิงผู้มีใบหน้าหวานงามจับจิตจนเขาไม่อาจละสายตาไปจากนางได้ เป็นความงามที่สะกดทุกสายตาของผู้ที่อยู่ ณ ที่นั่น มองราวได้เห็นนางสวรรค์ที่งดงามอ่อนหวานและท่าทีที่แสนมาดมั่น ท่วงท่าทีสง่าก็ส่งให้รัศมีเปล่งประกาย เฟยหลงลุกขึ้นจากบัลลงก์และเดินลงมาจูงมือส่งยิ้มหวานให้ และประคองให้หญิงสาวขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์เคียงคู่กัน
แต่พิธีอื่นๆยังไม่ทันได้ดำเนินการ อ๋องเฟยหนานก็เข้ามาถวายรายงานอย่างเร่งด่วน ให้เฟยหลงออกไปคุมสถานการณ์ภายในกองทัพที่ได้รับรายงานว่ามีกบฏแฝงตัว เพื่อให้เฟยหลงพิจารณาไต่สวนโทษของกบฏด้วยตนเอง เฟยหลงจึงจำเป็นต้องรีบเร่งออกไปทั้งที่พิธียังค้างคา แต่ทว่าพอคล้อยหลังจากที่เฟยหลงตามเฟยหนานออกไปไม่ทันไร ก็มีกลุ่มคนปิดบังใบหน้าเข้ามาภายในห้องจัดพิธี ท่ามกลางความตกใจของผู้คนอื่นที่ร่วมงาน แต่สีหน้าแววตาของเพ่ยอิงที่นั่งอยู่บนบัลลังก์กลับไม่มีทีท่าตกใจแต่อย่างใด และหากใครจะทันสังเกตุก็จะเห็นว่าใบหน้าหวาน มีรอยยิ้มอย่างน่าฉงนอยู่ที่กลีบปากบาง "ฮ่าๆๆ ช่างสมกับเป็นว่าทีฮองเฮาโดยแท้ ทั้งที่อยู่ในสถานการณ์อันตรายก็ยังไม่มีท่าทีตื่นตกใจ จะตายอยู่แล้วยังยิ้มได้อยู่อีก น่านับถือๆ" "ท่านชมข้าเกินไปแล้วล่ะท่านอำมาตย์เฉิน ข้าเพียงแต่ยิ้มเพื่อให้การขอบคุณที่ท่าน ทั้งที่เพิ่งสูญเสียบุตรสาวอย่างพระสนมยี่หลันไปไม่นาน แต่ยังมีแก่ใจมาร่วมงานแต่งตั้งของข้า นับว่าเป็นเกีตรย์กับข้ายิ่งนัก แล้วข้าจะไม่ดีใจได้อย่างไรล่ะ แต่จะมาทั้งทีก็เปิดหน้าให้สง่าผ่าเผยหน่อยจะดีกว่านะ"
เมื่อถูกทักบุรุษที่เป็นหัวหน้าลดผ้าที่ปิดหน้าของตัวเองลง จนสร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้คนภายในงาน "หึ ฉลาดนักนะนังตัวดีรู้ว่าเป็นข้าได้อย่างไร"
"โบราณว่าหน้าต่างมีหูประตูมีช่อง หลายต่อหลายเรื่องในวังท่านคิดว่าไม่มีสายสืบคอยทำงานเป็นหูเป็นตาให้กับข้าและฝ่าบาทบ้างเลยหรือไร สิ่งที่ท่านคิดว่าเป็นความลับ มันก็ไม่ใช่ว่าจะปกปิดได้ตลอด เมื่อผนวกเข้ากับแรงจูงใจที่ก็น่าจะมาจากความแค้นเรื่องพระสนมยี่หลัน ที่ถูกสั่งประหารโดยที่คดีนั้นข้าก็เป็นผู้ออกหน้าไขคดีจนกระจ่าง ซึ่งนั่นคงทำให้ท่านแค้นข้าที่เป็นสตรีที่เป็นคู่แข่งกับบุตรสาวของท่านและกำลังตั้งครรภ์ทายาทให้ฝ่าบาท โดยที่ไม่ได้เกิดจากการคบชู้เช่นเดียวกับบุตรสาวของท่าน เดิมทีข้าสงสัยไปยังกลุ่มของขุนนางที่มีบิดาของเหล่าพระสนม จึงให้คนของข้าที่ไว้ใจได้ตามสืบไปทีละคน โดยให้แฝงตัวไปตามที่พักของเหล่าขุนนางทุกคนที่น่าสงสัย จนได้รับรู้ว่าคนที่ก่อเหตุที่ตำหนักของฝ่าบาท ที่ลอบเข้ามาปองร้ายข้าในขณะอยู่ลำพังในห้องบรรทม นั่นเป็นคนของท่าน จึงได้วางแผนเพราะคาดการณ์ว่าท่านอาจต้องลงมือภายในวันงานพิธีแต่งตั้งฮองเฮา แต่ข้าเชื่อว่าท่านคงไม่คิดว่าสถานการณ์จะเป็นใจให้ท่านขนาดนี้ เพราะฝ่าบาทมีเหตุให้ต้องรีบออกไปจากพิธี ซึ่งมันเปิดโอกาสให้เป้าหมายของท่านง่ายขึ้นกว่าเดิมใช่หรือไม่ แต่อย่าเพิ่งดีใจไป เพราะที่ท่านเห็นมันก็แค่แผนล่อเพื่อปิดประตูตีแมวเท่านั้น เข้ามาได้แล้วเพคะฝ่าบาท ท่านอ๋อง"
สิ้นเสียงของเพ่ยอิง เฟยหลงและเฟยหนานที่ทำทีเป็นเร่งรีบออกไปก็นำกำลังทหาร เข้าล้อมกลุ่มของอำมาตย์เฉินและลูกสมุนไว้ และแล้วการปะทะต่อสู้กันก็เกิดขึ้นเพ่ยอิงไม่ได้ร่วมต่อสู้ด้วย เพราะรู้ว่าสภาพของเธอไม่เอื้ออำนวยเพราะหากพลาดพลั้ง อาจส่งผลถึงทารกในครรภ์จึงทำได้เพียงดูการต่อสู้อยู่บนบัลลังก์ ข้างล่างเฟยหนานและปานตะวันรวมถึงเหล่าทหารองค์รักษ์ทำการต่อสู้กับกลุ่มคนร้าย โดยที่เฟยหลงเดินขึ้นมาบนบัลลังก์เคียงข้างเพ่ยอิง โดยทั้งหมดใช้ดาบต่อสู้ ส่วนปานตะวันใช้วิชาต่อสู้แบบมือเปล่า เพราะเมื่อครู่ต้องแต่งกายปลอมตัวเป็นนางข้าหลวงที่รับใช้อยู่ในวังเพื่อหลอกศัตรู จึงไม่ได้พกดาบหรือปืนเป็นอาวุธ แต่แล้วก็มีคนร้ายคนหนึ่งฉวยโอกาสที่เธอกำลังสู้กับคนร้ายอีกคนหนึ่ง จนไม่ทันระวังหลังและเงื้อดาบจะฟันมาที่ลำตัวของเธอ แต่ก่อนจะถึงร่างของเธอเฟยหนานก็เอาตัวเข้ามารับคมดาบไว้แทนทำให้ถูกฟันจนได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยังใช้ดาบฟันตอบโต้อีกฝ่ายจนตาย ปานตะวันตกใจรีบดึงตัวเฟยหนานหลบออกมาจากระยะต่อสู้ เพื่อดูอาการบาดเจ็บให้อ๋องหนุ่มด้วยความเป็นห่วง
"นายเป็นอย่างไรบ้างไหวมั้ยบาดแผลลึกมากเลย" "ต่อให้ข้าต้องตายข้าก็ยินดีหากจะปกป้องเจ้าได้ ชีวิตคนเราสั้นนัก เจ้าจะช่วยบอกข้าได้หรือไม่ว่ารู้สึกอย่างไรกับข้า เพื่อที่จะได้นอนตายตาหลับ" "พูดอะไรของนายน่ะ เจ้าอ๋องบ้านายวางแผนรวบหัวรวบหางฉันแล้วนะ คิดจะชิ่งงั้นเหรอ ไม่รักจะทำอย่างไรได้ล่ะ เสียท่าซะขนาดนี้แล้ว" สิ้นคำสารภาพของปานตะวัน คนที่ทำสีหน้าอ่อนแรงคล้ายจะเป็นจะตายก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ และเด้งลุกขึ้นราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น "หึ ในที่สุดเจ้าก็ยอมเอ่ยปากกับข้าซะที ให้เจ็บมากกว่านี้ก็คุ้ม ข้าเป็นทหารนักรบออกศึกสงครามเป็นประจำนะ บาดแผลแค่นี้ไม่เป็นไรหรอกน่ะ ไกลหัวใจ"
"หนอยแน่ ไอ้อ๋องบ้าเอ้ย มันใช่เวลามาสำออยเรียกคะแนนมั้ยเนี่ย เขาสู้กันอยู่ไม่เห็นเหรอ ไม่เป็นไรก็หลบไปไกลๆเลยเกะกะ" ปานตะวันกล่าวจบก็ดึงแย่งดาบมาจากมือของอ๋องหนุ่ม และนำมาเป็นอาวุธเข้าต่อสู้กับกลุ่มคนร้าย ใช้เวลาไม่นานก็ปราบคนร้ายได้ทั้งหมด และจับอำมาตย์เฉินในแบบจับเป็นแต่อีกฝ่ายกับชิงฆ่าตัวตายซะก่อน เรื่องวุ่นๆจึงจบลง หลังจากเคลียพื้นที่และชำระล้างรอยเลือดและย้ายห้องจัดพิธีใปที่ท้องพระโรง เพื่อทำพิธีแต่งตั้งและประกาศราชองค์การอย่างเป็นทางการให้เสร็จสิ้น ส่วนปานตะวันก็นั่งปฐมพยาบาลให้อ๋องเฟยหนาน โดยมีหมอหลวงจัดยาสมานแผลและยากินมาให้ ซึ่งในระหว่างพิธีเฟยหนานก็ได้เอ่ยปากขอพระราชทานงานสมรสระหว่างเขากับปานตะวันรวมถึงบอกเรื่องที่ปานตะวันเป็นของเขาแล้ว ต่อหน้าเฟยหลงเพ่ยอิงและคนอื่นๆ สร้างความอับอายให้ปานตะวันจนเธอโกรธวิ่งไล่ประทุษร้ายเฟยหนานท่ามกลางเสียหัวเราะขำขันของทุกคน
ทันทีที่ได้เห็นหญิงงามในดวงใจปรากฏตัวออกมา เฟยหลงถึงกับตะลึงในความงาม เดิมทีหญิงสาวก็งามหยดย้อยอยู่แล้ว แต่วันนี้เมื่อแต่งกายด้วยชุดประจำตำแหน่งและตกแต่งใบหน้าให้มีสีสันขึ้นกว่าปกติ ก็ส่งให้หญิงผู้มีใบหน้าหวานงามจับจิตจนเขาไม่อาจละสายตาไปจากนางได้ เป็นความงามที่สะกดทุกสายตาของผู้ที่อยู่ ณ ที่นั่น มองราวได้เห็นนางสวรรค์ที่งดงามอ่อนหวานและท่าทีที่แสนมาดมั่น ท่วงท่าทีสง่าก็ส่งให้รัศมีเปล่งประกาย เฟยหลงลุกขึ้นจากบัลลงก์และเดินลงมาจูงมือส่งยิ้มหวานให้ และประคองให้หญิงสาวขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์เคียงคู่กัน
แต่พิธีอื่นๆยังไม่ทันได้ดำเนินการ อ๋องเฟยหนานก็เข้ามาถวายรายงานอย่างเร่งด่วน ให้เฟยหลงออกไปคุมสถานการณ์ภายในกองทัพที่ได้รับรายงานว่ามีกบฏแฝงตัว เพื่อให้เฟยหลงพิจารณาไต่สวนโทษของกบฏด้วยตนเอง เฟยหลงจึงจำเป็นต้องรีบเร่งออกไปทั้งที่พิธียังค้างคา แต่ทว่าพอคล้อยหลังจากที่เฟยหลงตามเฟยหนานออกไปไม่ทันไร ก็มีกลุ่มคนปิดบังใบหน้าเข้ามาภายในห้องจัดพิธี ท่ามกลางความตกใจของผู้คนอื่นที่ร่วมงาน แต่สีหน้าแววตาของเพ่ยอิงที่นั่งอยู่บนบัลลังก์กลับไม่มีทีท่าตกใจแต่อย่างใด และหากใครจะทันสังเกตุก็จะเห็นว่าใบหน้าหวาน มีรอยยิ้มอย่างน่าฉงนอยู่ที่กลีบปากบาง "ฮ่าๆๆ ช่างสมกับเป็นว่าทีฮองเฮาโดยแท้ ทั้งที่อยู่ในสถานการณ์อันตรายก็ยังไม่มีท่าทีตื่นตกใจ จะตายอยู่แล้วยังยิ้มได้อยู่อีก น่านับถือๆ" "ท่านชมข้าเกินไปแล้วล่ะท่านอำมาตย์เฉิน ข้าเพียงแต่ยิ้มเพื่อให้การขอบคุณที่ท่าน ทั้งที่เพิ่งสูญเสียบุตรสาวอย่างพระสนมยี่หลันไปไม่นาน แต่ยังมีแก่ใจมาร่วมงานแต่งตั้งของข้า นับว่าเป็นเกีตรย์กับข้ายิ่งนัก แล้วข้าจะไม่ดีใจได้อย่างไรล่ะ แต่จะมาทั้งทีก็เปิดหน้าให้สง่าผ่าเผยหน่อยจะดีกว่านะ"
เมื่อถูกทักบุรุษที่เป็นหัวหน้าลดผ้าที่ปิดหน้าของตัวเองลง จนสร้างความตื่นตะลึงให้กับผู้คนภายในงาน "หึ ฉลาดนักนะนังตัวดีรู้ว่าเป็นข้าได้อย่างไร"
"โบราณว่าหน้าต่างมีหูประตูมีช่อง หลายต่อหลายเรื่องในวังท่านคิดว่าไม่มีสายสืบคอยทำงานเป็นหูเป็นตาให้กับข้าและฝ่าบาทบ้างเลยหรือไร สิ่งที่ท่านคิดว่าเป็นความลับ มันก็ไม่ใช่ว่าจะปกปิดได้ตลอด เมื่อผนวกเข้ากับแรงจูงใจที่ก็น่าจะมาจากความแค้นเรื่องพระสนมยี่หลัน ที่ถูกสั่งประหารโดยที่คดีนั้นข้าก็เป็นผู้ออกหน้าไขคดีจนกระจ่าง ซึ่งนั่นคงทำให้ท่านแค้นข้าที่เป็นสตรีที่เป็นคู่แข่งกับบุตรสาวของท่านและกำลังตั้งครรภ์ทายาทให้ฝ่าบาท โดยที่ไม่ได้เกิดจากการคบชู้เช่นเดียวกับบุตรสาวของท่าน เดิมทีข้าสงสัยไปยังกลุ่มของขุนนางที่มีบิดาของเหล่าพระสนม จึงให้คนของข้าที่ไว้ใจได้ตามสืบไปทีละคน โดยให้แฝงตัวไปตามที่พักของเหล่าขุนนางทุกคนที่น่าสงสัย จนได้รับรู้ว่าคนที่ก่อเหตุที่ตำหนักของฝ่าบาท ที่ลอบเข้ามาปองร้ายข้าในขณะอยู่ลำพังในห้องบรรทม นั่นเป็นคนของท่าน จึงได้วางแผนเพราะคาดการณ์ว่าท่านอาจต้องลงมือภายในวันงานพิธีแต่งตั้งฮองเฮา แต่ข้าเชื่อว่าท่านคงไม่คิดว่าสถานการณ์จะเป็นใจให้ท่านขนาดนี้ เพราะฝ่าบาทมีเหตุให้ต้องรีบออกไปจากพิธี ซึ่งมันเปิดโอกาสให้เป้าหมายของท่านง่ายขึ้นกว่าเดิมใช่หรือไม่ แต่อย่าเพิ่งดีใจไป เพราะที่ท่านเห็นมันก็แค่แผนล่อเพื่อปิดประตูตีแมวเท่านั้น เข้ามาได้แล้วเพคะฝ่าบาท ท่านอ๋อง"
สิ้นเสียงของเพ่ยอิง เฟยหลงและเฟยหนานที่ทำทีเป็นเร่งรีบออกไปก็นำกำลังทหาร เข้าล้อมกลุ่มของอำมาตย์เฉินและลูกสมุนไว้ และแล้วการปะทะต่อสู้กันก็เกิดขึ้นเพ่ยอิงไม่ได้ร่วมต่อสู้ด้วย เพราะรู้ว่าสภาพของเธอไม่เอื้ออำนวยเพราะหากพลาดพลั้ง อาจส่งผลถึงทารกในครรภ์จึงทำได้เพียงดูการต่อสู้อยู่บนบัลลังก์ ข้างล่างเฟยหนานและปานตะวันรวมถึงเหล่าทหารองค์รักษ์ทำการต่อสู้กับกลุ่มคนร้าย โดยที่เฟยหลงเดินขึ้นมาบนบัลลังก์เคียงข้างเพ่ยอิง โดยทั้งหมดใช้ดาบต่อสู้ ส่วนปานตะวันใช้วิชาต่อสู้แบบมือเปล่า เพราะเมื่อครู่ต้องแต่งกายปลอมตัวเป็นนางข้าหลวงที่รับใช้อยู่ในวังเพื่อหลอกศัตรู จึงไม่ได้พกดาบหรือปืนเป็นอาวุธ แต่แล้วก็มีคนร้ายคนหนึ่งฉวยโอกาสที่เธอกำลังสู้กับคนร้ายอีกคนหนึ่ง จนไม่ทันระวังหลังและเงื้อดาบจะฟันมาที่ลำตัวของเธอ แต่ก่อนจะถึงร่างของเธอเฟยหนานก็เอาตัวเข้ามารับคมดาบไว้แทนทำให้ถูกฟันจนได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ยังใช้ดาบฟันตอบโต้อีกฝ่ายจนตาย ปานตะวันตกใจรีบดึงตัวเฟยหนานหลบออกมาจากระยะต่อสู้ เพื่อดูอาการบาดเจ็บให้อ๋องหนุ่มด้วยความเป็นห่วง
"นายเป็นอย่างไรบ้างไหวมั้ยบาดแผลลึกมากเลย" "ต่อให้ข้าต้องตายข้าก็ยินดีหากจะปกป้องเจ้าได้ ชีวิตคนเราสั้นนัก เจ้าจะช่วยบอกข้าได้หรือไม่ว่ารู้สึกอย่างไรกับข้า เพื่อที่จะได้นอนตายตาหลับ" "พูดอะไรของนายน่ะ เจ้าอ๋องบ้านายวางแผนรวบหัวรวบหางฉันแล้วนะ คิดจะชิ่งงั้นเหรอ ไม่รักจะทำอย่างไรได้ล่ะ เสียท่าซะขนาดนี้แล้ว" สิ้นคำสารภาพของปานตะวัน คนที่ทำสีหน้าอ่อนแรงคล้ายจะเป็นจะตายก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ และเด้งลุกขึ้นราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น "หึ ในที่สุดเจ้าก็ยอมเอ่ยปากกับข้าซะที ให้เจ็บมากกว่านี้ก็คุ้ม ข้าเป็นทหารนักรบออกศึกสงครามเป็นประจำนะ บาดแผลแค่นี้ไม่เป็นไรหรอกน่ะ ไกลหัวใจ"
"หนอยแน่ ไอ้อ๋องบ้าเอ้ย มันใช่เวลามาสำออยเรียกคะแนนมั้ยเนี่ย เขาสู้กันอยู่ไม่เห็นเหรอ ไม่เป็นไรก็หลบไปไกลๆเลยเกะกะ" ปานตะวันกล่าวจบก็ดึงแย่งดาบมาจากมือของอ๋องหนุ่ม และนำมาเป็นอาวุธเข้าต่อสู้กับกลุ่มคนร้าย ใช้เวลาไม่นานก็ปราบคนร้ายได้ทั้งหมด และจับอำมาตย์เฉินในแบบจับเป็นแต่อีกฝ่ายกับชิงฆ่าตัวตายซะก่อน เรื่องวุ่นๆจึงจบลง หลังจากเคลียพื้นที่และชำระล้างรอยเลือดและย้ายห้องจัดพิธีใปที่ท้องพระโรง เพื่อทำพิธีแต่งตั้งและประกาศราชองค์การอย่างเป็นทางการให้เสร็จสิ้น ส่วนปานตะวันก็นั่งปฐมพยาบาลให้อ๋องเฟยหนาน โดยมีหมอหลวงจัดยาสมานแผลและยากินมาให้ ซึ่งในระหว่างพิธีเฟยหนานก็ได้เอ่ยปากขอพระราชทานงานสมรสระหว่างเขากับปานตะวันรวมถึงบอกเรื่องที่ปานตะวันเป็นของเขาแล้ว ต่อหน้าเฟยหลงเพ่ยอิงและคนอื่นๆ สร้างความอับอายให้ปานตะวันจนเธอโกรธวิ่งไล่ประทุษร้ายเฟยหนานท่ามกลางเสียหัวเราะขำขันของทุกคน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ