กุหลาบเพชร
8.8
เขียนโดย nightshadow
วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.33 น.
36 ตอน
3 วิจารณ์
36.51K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มกราคม พ.ศ. 2559 21.46 น. โดย เจ้าของนิยาย
28) เริ่มแผนยุยง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเพ่ยอิงกำลังอยู่ที่ลานฝึกฝีมือ เป็นลานที่มีเป้าสำหรับซ้อมยิงธนู มีดาบหลายขนาดและหลายด้าม ทวนอีกมากมาย เป็นสถานที่ที่มีไว้สำหรับเฟยหลงและเฟยหนานซ้อมฝีมือ ที่มักจะใช้สถานที่นี้ในการฝึกทักษะการใช้อาวุธต่างๆเพื่อให้มีความพร้อมสำหรับในยามศึกสงคราม ในขณะนี้เพ่ยอิงกำลังฝึกการยิงธนูอยู่เพียงลำพัง เธอเป็นอดีตตำรวจสากลมาก่อน เรื่องความแม่นในการยิงปืนและการขว้างมีดสั้นนั้นหายห่วง แต่ในเมื่อมาอยู่ในยุคโบราณที่ต้องมีการใช้อาวุธโบราณเธอจึงหวังอยากฝึกหัดการใช้อาวุธโบราณดูบ้าง และเธอก็เลือกการยิงธนู เพราะเนื่องจากเธอมีทักษะด้านความแม่นอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพียงแค่รู้หลักการยิงธนูนิดหน่อยก็ทำให้เธอใช้มันคล่องแคล่ว เพราะอาวุธประเภทอื่นของโบราณนั้นมีน้ำหนักมากจนทำให้เธอจับไม่ถนัดจึงยากต่อการใช้ต่อสู้จริง ส่วนธนูนั้นไม่ยากจนเกินไป ในขณะที่เพ่ยอิงกำลังฝึกธนูอยู่นั้นทางด้านหลัง พระสนมหยางหลันฮวาก็กระซิบบางอย่างต่อนางกำนัลคนสนิท จนอีกฝ่ายรับคำและถอยหลังออกไป "แปะๆๆๆ ยอดเยี่ยมจริงๆได้ยินว่าที่ปรึกษาหลี่มีความเก่งกาจทั้งบู้บุ๋น วันนี้ได้เห็นกับตานับว่าไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย"
เพ่ยอิงเมื่อได้ยินเสียงปรบมือและเอ่ยทักจึงหันมาพบหยางหลันฮวา หนึ่งในนางสนมของเฟยหลง เธอรับรู้ได้ดีว่าหมู่นี้เหล่านางสนมหลายต่่อหลายคนชอบทำทีมาตีสนิท ส่งสายตายั่วยวนรอยยิ้มหวานหยดมาให้ เธอเคยเป็นอดีตร้อยตำรวจเอกมาก่อน ผ่านการจับสังเกตุและสอบสวนผู้ต้องหามานับไม่ถ้วน เธอจึงดูออกว่าภายใต้รอยยิ้มหวานที่ดูเหมือนจะหว่านเสน่ห์ ทำทีเป็นสนใจเธอของเหล่านางสนมนั้น แฝงไปด้วยการแสดงที่มุ่งร้ายต่อเธอโดยตรง เพราะเธอในตอนนี้ มีสถานะเป็นบุรุษการที่เหล่านางสนมมาตีสนิทใกล้ชิดกับเธอย่อมต้องเกิดข้อครหาไปในทางไม่ดีต่อเธอแน่ แต่ถึงจะรู้เท่าทันอีกฝ่ายดีอยู่แล้ว เธอก็แสร้งทำเป็นไม่รู้เพื่อไม่ต้องการแหวกหญ้าให้งูตื่น
"พระสนมทรงชมเกินไปแล้ว กระหม่อมไม่กล้ารับหรอกพะยะค่ะ"
"เอาน่ะ อย่าถ่อมตัวนักเลยข้าเห็นอย่างไรก็พูดอย่างนั้น วันนี้ข้าเหงาๆนะหมู่นี้ฝ่าบาทไม่ทรงแวะเวียนเสด็จมาหาข้าเลย ข้าอยากให้เจ้าช่วยสอนข้ายิงธนูหน่อยได้หรือไม่ ไม่ต้องให้เก่งอะไรหรอกข้าแค่อยากทำอะไรสนุกดูบ้างน่ะช่วยข้าหน่อยนะ" เพ่ยอิงตอบรับการสอนด้วยสีหน้าราบเรียบ "พะยะค่ะ"
ในขณะที่อีกด้านหนึ่งเหล่าขุนนาง กำลังกราบทูลเรื่องของที่ปรึกษาส่วนพระองค์หลี่หยางซิ่ว เพื่อหวังยุยงให้เฟยหลงเกิดความระแวงต่อที่ปรึกษาคนโปรด "ทูลฝ่าบาทหมู่นี้ได้ยินพวกนางข้าหลวงนางกำนัลและผู้คนในวังลือกันหนาหูว่าที่ปรึกษาส่วนพระองค์ หลี่หยางซิ่ว มักทำตัวสนิทสนมกับเหล่าพระสนมจนเกินงาม พวกข้ากระหม่อมเกรงว่าจะเป็นที่เสื่อมเสียแก่ราชสำนักฝ่ายในได้ เพราะที่ปรึกษาหลี่เป็นบุรุษมิบังควรสนิทชิดเชื้อกับเหล่าพระสนม พวกกระหม่อมจึงหวังมากราบทูลให้ทรงทราบไว้ เพื่อกันไม่ให้มีเรื่องเสื่อมเสียขึ้นอีกพะยะค่ะ" ในขณะนั้นเองนางกำนัลคนสนิทของสนมหยางหลันฮวาก็เข้ามาในท้องพระโรง "หม่อมฉันเสี่ยวชิง คนของพระสนมหยางขอเข้าเฝ้ากราบทูลเพคะ หม่อมฉันรู้สึกเป็นห่วงชื่อเสียงของพระสนมหยางเกรงเป็นที่ครหา เมื่อครู่หม่อมฉันเห็นที่ปรึกษาหลี่ สอนพระสนมยิงธนูอย่างสนิทสนมจนเกินงามหม่อมฉันจึงรีบมากราบทูลเพราะเกรงจะไม่งามเพคะ ทรงพิจารณาด้วยเพคะฝ่าบาท"
"หึๆๆ อ้อที่พวกเจ้าอุตส่าเรียกให้ข้ามาประชุมหารือกับพวกเจ้าอยู่นี่ ไม่ใช่่เื่รื่องเกี่ยวกับปัญหาบ้านเมือง แต่เป็นเรื่องในวังหลังพวกนี้น่ะหรือ ข้ามีคิวต้องตรวจฏีฎากองเป็นพะเนินไร้สาระสิ้นดี พวกเจ้าพูดอย่างกับว่ามันเป็นความผิดของที่ปรึกษาของข้าที่สนิทสนมกับบรรดานางสนมของข้าอย่างนั้นหรือ ทั้งที่เรื่องแบบนี้ตบมือข้างเดียวมันไม่ดัง ถ้าบรรดานางสนมของข้าไว้ตัวและรับรู้ว่าตัวเองอยู่ในสถานะสนมของข้า แล้วยังไม่รู้จักสถานะตัวเอง ไปคลุกคลีกับชายอื่นที่ไม่ใช่ข้า มันควรจะโทษว่าเป็นความผิดของฝ่่ายชายว่าผิดอยู่ฝ่ายเดียวหรือไร คนมันจะสนิทสนมกันได้มันไม่ได้เกิดขึ้นอยู่ฝ่ายเดียวสักหน่อย ก็ถ้าสนมของข้ากลัวคำครหาจะไปสนิทกับที่ปรึกษาของข้าทำไมกันล่ะในเมื่อสถานะก็สูงกว่า จะด่าทอ สั่งห้ามเข้าใกล้หรือสั่งลงโทษก็ได้นี่ แล้วเจ้าบอกว่าที่ปรึกษาส่วนตัวของข้ากำลังสอนหลันฮวายิงธนูอย่างนั้นหรืือ น่าแปลกเสียจริงนะหยางซิ่วฝึกยิงธนู อยู่ที่ลานฝึกแต่สนมของข้า กลับเดินเข้าไปชมการฝึกได้อย่างไร ทั้งที่สถานที่นั้น มันเป็นที่สำหรับให้พวกบุรุษไว้ฝึกฝึมือในการต่อสู้ แล้วทำไมหลันฮวาที่เป็นสตรี จึงสนใจไปที่ลานฝึกของบุรุษได้เล่า มันไม่ใช่อุทยานที่มีดอกไม้สวยงามให้ชม ลานแห่งนั้นมีแต่ดาบ ทวน ธนูที่เป็นอาวุธสงคราม และก็เป็นสถานที่สำหรับบุรุษ มีเหตุผลอะไรให้สนมของข้าเดินไปที่นั่นได้ล่ะข้าว่าแทนที่พวกเจ้าจะเอาเวลามาฟ้องข้าด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง ทำไมพวกเจ้าเหล่าขุนนางที่เป็นบิดาของสนมของข้า ไม่ตักเตือนบุตรสาวของตนให้รู้จักไว้ตัวบ้างล่ะ"
สิ้นคำถามนางกำนัลคนสนิทและบรรดาขุนนาง ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อสิ่งที่เฟยหลงกล่าวมาเป็นเหตุผลที่แย้งไม่ได้ จึงจำเป็นต้องล่าถอยเพื่อวางแผนกันใหม่เพราะเกรงว่าฝ่ายที่เสียหาย จะเป็นเหล่าสนมที่เป็นบุตรีของพวกตนเสียมากกว่า
เพ่ยอิงเมื่อได้ยินเสียงปรบมือและเอ่ยทักจึงหันมาพบหยางหลันฮวา หนึ่งในนางสนมของเฟยหลง เธอรับรู้ได้ดีว่าหมู่นี้เหล่านางสนมหลายต่่อหลายคนชอบทำทีมาตีสนิท ส่งสายตายั่วยวนรอยยิ้มหวานหยดมาให้ เธอเคยเป็นอดีตร้อยตำรวจเอกมาก่อน ผ่านการจับสังเกตุและสอบสวนผู้ต้องหามานับไม่ถ้วน เธอจึงดูออกว่าภายใต้รอยยิ้มหวานที่ดูเหมือนจะหว่านเสน่ห์ ทำทีเป็นสนใจเธอของเหล่านางสนมนั้น แฝงไปด้วยการแสดงที่มุ่งร้ายต่อเธอโดยตรง เพราะเธอในตอนนี้ มีสถานะเป็นบุรุษการที่เหล่านางสนมมาตีสนิทใกล้ชิดกับเธอย่อมต้องเกิดข้อครหาไปในทางไม่ดีต่อเธอแน่ แต่ถึงจะรู้เท่าทันอีกฝ่ายดีอยู่แล้ว เธอก็แสร้งทำเป็นไม่รู้เพื่อไม่ต้องการแหวกหญ้าให้งูตื่น
"พระสนมทรงชมเกินไปแล้ว กระหม่อมไม่กล้ารับหรอกพะยะค่ะ"
"เอาน่ะ อย่าถ่อมตัวนักเลยข้าเห็นอย่างไรก็พูดอย่างนั้น วันนี้ข้าเหงาๆนะหมู่นี้ฝ่าบาทไม่ทรงแวะเวียนเสด็จมาหาข้าเลย ข้าอยากให้เจ้าช่วยสอนข้ายิงธนูหน่อยได้หรือไม่ ไม่ต้องให้เก่งอะไรหรอกข้าแค่อยากทำอะไรสนุกดูบ้างน่ะช่วยข้าหน่อยนะ" เพ่ยอิงตอบรับการสอนด้วยสีหน้าราบเรียบ "พะยะค่ะ"
ในขณะที่อีกด้านหนึ่งเหล่าขุนนาง กำลังกราบทูลเรื่องของที่ปรึกษาส่วนพระองค์หลี่หยางซิ่ว เพื่อหวังยุยงให้เฟยหลงเกิดความระแวงต่อที่ปรึกษาคนโปรด "ทูลฝ่าบาทหมู่นี้ได้ยินพวกนางข้าหลวงนางกำนัลและผู้คนในวังลือกันหนาหูว่าที่ปรึกษาส่วนพระองค์ หลี่หยางซิ่ว มักทำตัวสนิทสนมกับเหล่าพระสนมจนเกินงาม พวกข้ากระหม่อมเกรงว่าจะเป็นที่เสื่อมเสียแก่ราชสำนักฝ่ายในได้ เพราะที่ปรึกษาหลี่เป็นบุรุษมิบังควรสนิทชิดเชื้อกับเหล่าพระสนม พวกกระหม่อมจึงหวังมากราบทูลให้ทรงทราบไว้ เพื่อกันไม่ให้มีเรื่องเสื่อมเสียขึ้นอีกพะยะค่ะ" ในขณะนั้นเองนางกำนัลคนสนิทของสนมหยางหลันฮวาก็เข้ามาในท้องพระโรง "หม่อมฉันเสี่ยวชิง คนของพระสนมหยางขอเข้าเฝ้ากราบทูลเพคะ หม่อมฉันรู้สึกเป็นห่วงชื่อเสียงของพระสนมหยางเกรงเป็นที่ครหา เมื่อครู่หม่อมฉันเห็นที่ปรึกษาหลี่ สอนพระสนมยิงธนูอย่างสนิทสนมจนเกินงามหม่อมฉันจึงรีบมากราบทูลเพราะเกรงจะไม่งามเพคะ ทรงพิจารณาด้วยเพคะฝ่าบาท"
"หึๆๆ อ้อที่พวกเจ้าอุตส่าเรียกให้ข้ามาประชุมหารือกับพวกเจ้าอยู่นี่ ไม่ใช่่เื่รื่องเกี่ยวกับปัญหาบ้านเมือง แต่เป็นเรื่องในวังหลังพวกนี้น่ะหรือ ข้ามีคิวต้องตรวจฏีฎากองเป็นพะเนินไร้สาระสิ้นดี พวกเจ้าพูดอย่างกับว่ามันเป็นความผิดของที่ปรึกษาของข้าที่สนิทสนมกับบรรดานางสนมของข้าอย่างนั้นหรือ ทั้งที่เรื่องแบบนี้ตบมือข้างเดียวมันไม่ดัง ถ้าบรรดานางสนมของข้าไว้ตัวและรับรู้ว่าตัวเองอยู่ในสถานะสนมของข้า แล้วยังไม่รู้จักสถานะตัวเอง ไปคลุกคลีกับชายอื่นที่ไม่ใช่ข้า มันควรจะโทษว่าเป็นความผิดของฝ่่ายชายว่าผิดอยู่ฝ่ายเดียวหรือไร คนมันจะสนิทสนมกันได้มันไม่ได้เกิดขึ้นอยู่ฝ่ายเดียวสักหน่อย ก็ถ้าสนมของข้ากลัวคำครหาจะไปสนิทกับที่ปรึกษาของข้าทำไมกันล่ะในเมื่อสถานะก็สูงกว่า จะด่าทอ สั่งห้ามเข้าใกล้หรือสั่งลงโทษก็ได้นี่ แล้วเจ้าบอกว่าที่ปรึกษาส่วนตัวของข้ากำลังสอนหลันฮวายิงธนูอย่างนั้นหรืือ น่าแปลกเสียจริงนะหยางซิ่วฝึกยิงธนู อยู่ที่ลานฝึกแต่สนมของข้า กลับเดินเข้าไปชมการฝึกได้อย่างไร ทั้งที่สถานที่นั้น มันเป็นที่สำหรับให้พวกบุรุษไว้ฝึกฝึมือในการต่อสู้ แล้วทำไมหลันฮวาที่เป็นสตรี จึงสนใจไปที่ลานฝึกของบุรุษได้เล่า มันไม่ใช่อุทยานที่มีดอกไม้สวยงามให้ชม ลานแห่งนั้นมีแต่ดาบ ทวน ธนูที่เป็นอาวุธสงคราม และก็เป็นสถานที่สำหรับบุรุษ มีเหตุผลอะไรให้สนมของข้าเดินไปที่นั่นได้ล่ะข้าว่าแทนที่พวกเจ้าจะเอาเวลามาฟ้องข้าด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง ทำไมพวกเจ้าเหล่าขุนนางที่เป็นบิดาของสนมของข้า ไม่ตักเตือนบุตรสาวของตนให้รู้จักไว้ตัวบ้างล่ะ"
สิ้นคำถามนางกำนัลคนสนิทและบรรดาขุนนาง ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อสิ่งที่เฟยหลงกล่าวมาเป็นเหตุผลที่แย้งไม่ได้ จึงจำเป็นต้องล่าถอยเพื่อวางแผนกันใหม่เพราะเกรงว่าฝ่ายที่เสียหาย จะเป็นเหล่าสนมที่เป็นบุตรีของพวกตนเสียมากกว่า
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ