กุหลาบเพชร

8.8

เขียนโดย nightshadow

วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.33 น.

  36 ตอน
  3 วิจารณ์
  36.43K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 12 มกราคม พ.ศ. 2559 21.46 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

20) โดนวางยาปลุกกำหนัด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เฟยหลงต้องอารมณ์เสียหงุดหงิดเป็นอย่างมาก   เนื่องจากเหล่าขุนนางพากันรวมตัวกดดันให้เฟยหลงไปหาเหล่านางสนม ที่พักหลังเฟยหลงอยู่ทรงงานแต่ในตำหนักตัวเอง               โดยมีเพ่ยอิงเป็นที่ปรึกษาส่วนพระองค์ช่วยคิดแก้ปัญหาต่างๆไปด้วยกัน   เดิมทีแต่ไหนแต่ไรมาเฟยหลงก็ขึ้นชื่อว่าเป็นฮ่องเต้ที่เย็นชาโหดร้ายต่อเหล่านางสนมของตนเองอยู่แล้ว    สนใจก็แต่การบริหารบ้านเมือง การไปหานางสนมก็ไปเพื่อระบายความเครียดจากงาน    ด้วยความใคร่โดยใช้บรรดานางสนมของตนเป็นเครื่องมือ       และทำเพื่อการสืบทายาทแต่เมื่อได้รู้เรื่องราวการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น   ใส่ร้ายป้ายสี และวางแผนเล่นงานกันไปมาของบรรดานางสนมในวังหลังก็ทำให้เบื่อหน่าย จนเห็นบรรดาสนมของตนเป็นเพียงเครื่องมือผลิตทายาทและระบายความใคร่เท่านั้น       และเมื่อได้พบกับนางในดวงใจที่ตัวเองรักใคร่  แม้ว่าเพ่ยอิงจะปฏิเสธตำแหน่งฮองเฮาและยังไม่ยินยอมมอบกายให้ แต่เฟยหลงก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเคือง      และคิดอยากจะไปหาความสุขกับเหล่านางสนมคนใดเลยแม้แต่น้อย        ตรงกันข้ามยิ่งนานวัน เฟยหลงจะยิ่งรักใคร่หลงใหลและเห็นคุณค่าของเพ่ยอิงมากขึ้นทุกวัน   เพราะเพ่ยอิงเป็นหญิงที่ไม่เหมือนใครอื่น       ไม่เคยยั่วยวนหรือมักใหญ่ใฝ่สูงแม้ว่า      เฟยหลงจะแสดงท่าทีว่ามีใจรักต่อเพ่ยอิง        แต่นางก็ไม่ได้ใช้ความเสน่หา         ที่เฟยหลงมีให้มาเป็นประโยชน์กับตัวเอง     และยังตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่ในฐานะที่ปรึกษาส่วนพระองค์อย่างเต็มที่          จนทำให้ช่วยแก้ปัญหาต่างๆให้เฟยหลงได้หลายเรื่อง          จนเฟยหลงมีความสุขที่จะได้พูดคุยปรึกษาและร่วมคิดกับเพ่ยอิง   จนไม่ได้สนใจเหล่านางสนมที่มีอยู่มากมายของตนเองเลย นั่นทำให้บรรดานางสนมและเหล่าขุนนางที่เป็นบิดาของเหล่านางสนมที่หวังลาภยศตำแหน่งเป็นเดือดเป็นร้อน           และแม้ว่าเหล่าขุนนางจะพยายามกดดันอย่างไร เฟยหลงก็ไม่ได้ให้ความสนใจแต่กระนั้นก็หงุดหงิดและรำคาญอย่างมาก จึงตัดสินใจเสี่ยงป้ายไปมั่วๆโดยไม่สำคัญว่าจะเป็นนางสนมคนไหน   และก็ตั้งใจว่าจะไปหาให้พอเป็นพิธี          ให้เห็นว่าไปหาตามที่เหล่าขุนนางเรียกร้องตัดความรำคาญเท่านั้น    

ไม่ได้คิดจะไประบายความใคร่   หรือไปนอนร่วมเตียงกับนางสนมคนใดทั้งสิ้นและในวันนี้ป้ายที่เฟยหลงเสี่ยงได้คือ ตำหนักของสนมเอกชั้นเฟยนาม ยี่หลัน เฟยหลงเดินเข้ามาในตำหนักมีนางข้าหลวงจุดโคมหน้าตำหนัก        เมื่อเดินเข้าไปพ้นประตูก็พบร่างบางของ สนมเอกยี่หลันส่งยิ้มชะม้ายชายตาส่งสายตาหวานหยดมาให้       แต่ก็ต้องหน้าเจื่อนไปเพราะเฟยหลงมีเพียงสีหน้าเฉยชาดวงตาแข็งกระด้างไร้รอยยิ้ม           ไม่ได้มีทีท่าหลงใหลหรือมีจิตพิศวาสต่อสนมเอกคนงามเลยแม้แต่น้อย แต่กระนั้นสนมเอกยี่หลันก็ยังฝืนส่งยิ้มหวานให้พร้อมกับตรงเข้ามาเชื้อเชิญเสียงแว่วหวาน

"ถวายพระพรฝ่าบาทขอทรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นๆปีเพคะ"      เฟยหลงปรายตามองพร้อมกับเอ่ยด้วยเสียงเรียบเย็นว่า       "ไม่จำเป็นต้องมากพิธีนักหรอก ข้าก็แค่เสี่ยงป้ายมั่วๆแต่เผอิญว่าเป็นเจ้าก็เลยมาน่ะ      อันที่จริงก็ไม่ได้สนใจว่าจะเป็นใครหรอก        เพราะพวกขุนนางพ่อๆของพวกเจ้าเป็นเดือดเป็นร้อนแทนบุตรสาวของตัวเอง พากันเรียกร้องจนน่ารำคาญก็เลยมาให้จบๆไปเท่านั้น และข้าก็ไม่ได้จะมาร่วมเตียงกับเจ้าคืนนี้หรอกนะ       เมื่อพวกขุนนางพวกนั้นอยากให้ข้ามาหาสนมคนไหนสักคน ข้าก็มาให้แล้ว ข้ากลับล่ะ"     สิ้นคำตรัสขององค์ราชันสนมเอกยี่หลันถึงกลับหุบยิ้มและชะงักงันไปครู่่หนึ่ง   ก่อนจะรีบลนลานเก็บอาการเชื้อเชิญต่ออย่างไม่ยอมแพ้   ซึ่งกิริยาอันเสแสร้งนั้นก็หาได้รอดพ้นสายตาของเฟยหลง    และยิ่งทำให้รู้สึกสะอิดสะเอียนและนึกรังเกียจมารยาที่หาความจริงใจไม่ได้        และทำให้เขาอดที่จะนึกถึงเพ่ยอิงหญิงในดวงใจหนึ่งเดียวของเขาไม่ได้ว่าช่างแตกต่างกันอย่างเทียบไม่ได้    จนพาให้อารมณ์คลุกรุ่นหงุดหงิด     เสียงแว่วหวานพยายามเกาะแขนและเอ่ยเชื้อชวน

"ฝ่าบาทเพคะ เอ่อ... เพิ่งเสด็จมาทั้งที   หม่อมฉันคิดถึงพระองค์มากนะเพคะ ต่อให้จะไม่โปรดให้หม่อมฉันถวายงานในคืนนี้          แต่ได้โปรดทรงประทับเสวยน้ำจันทร์ที่นี้ก่อนเถอะนะเพคะ   วันนี้หม่อมฉันได้สุราชั้นดีอันดับหนึ่งซึ่งเป็นของขึ้นชื่อจากบ้านเกิดมาให้ลองดื่ม ลองชิมสุรานี้ก่อนแล้วค่อยเสด็จกลับเถอะนะเพคะ"               "หึ ก็ได้ดื่มสุราจอกนี้เสร็จเมื่อไหร่ข้าจะกลับทันที" และเฟยหลงก็นั่งบนโต๊ะ    โดยสนมเอกยี่หลันรีบรินสุราใส่จอกพร้อมเชื้อเชิญ   เฟยหลงรีบยกขึ้นดื่มเพราะอยากจะรีบๆดื่มและจะได้รีบกลับเพราะตอนนี้จิตใจของเขาจดจ่ออยู่กับที่ปรึกษาส่วนพระองค์คนงามที่ตำหนักของเขา   จนอยากไปหาจะแย่อยู่แล้ว   แต่เมื่อดื่มไปจอกเดียวแต่สนมเอกยี่หลันก็ยังรินจอกต่อๆมาดื่มไปได้เพียงจอกที่สามเฟยหลงก็มีอาการผิดปกติขึ้นกับร่างกายขึ้นทันที  ร่างกายร้อนวูบวาบ  ใจสั่น เม็ดเหงื่อซึมตามไรผมและหน้าผาก       เกิดความทรมานขึ้นที่แก่นกาย   เขานึกรู้ได้ทันทีว่าตัวเองโดยวางยาปลูกกำหนัดเข้าให้แล้วส่งเสียงสั่นสะท้านด่าทอหยามเหยียด   "แพศยา! เจ้ากล้าวางยาข้าหรือ"

สนมเอกคนงามไม่รอช้ารีบตรงเข้าไปสัมผัสลูบคลำ       เพื่อหวังปลุกอารมณ์พระสวามีของตน       เฟยหลงแม้จะทรมานแต่ก็พยายามดิ้นรนฝืนอาการของตนเองอย่างหนักแม้จะรู้สึกวาบหวามกับสัมผัสเพราะฤิทธิ์ยา      แต่ก็พยายามตั้งสติเมื่อเห็นว่าขืนปล่อยให้ตนเองถูกสัมผัสเนื้อตัวอยู่ต่อไป อาจทำให้พลาดท่าพ่ายแพ้ในที่สุด             จึงตัดสินใจซัดฝ่ามืออย่างแรงจนสนมเอกยี่หลันกระอักเลือดและแน่นิ่งไป  ก่อนที่เฟยหลงจะพยายามตะเกือกตะกายฝืนความทรมานกลับออกจากตำหนักพร้อมกับเปล่งเสียงอันสั่นเครือสั่งการนางข้าหลวงหน้าตำหนัก "ใครอยู่..ข้างนอกเข้ามาสิ!"   เมื่อนางข้าหลวงสองนางเข้ามาในตำหนักเฟยหลงออกคำสั่ง           "เจ้าสองคน!... ไปเรียกทหารมาคุมตัวนางแพศยาคนนี้เอาไว้ก่อน        ไปเรียกหมอหลวงมาตรวจดูด้วยว่าตายหรือเปล่า ถ้าตาย...ลากศพไปทิ้งที่หน้าผาให้หมาป่ากัดแทะ ข้าไม่ต้องการมีนางสนมที่ทำตัวราวกับนางโลมชั้นต่ำ แต่ถ้ายังไม่ตายให้ทหารคุมตัวรอการไต่สวน ข้าจะรอตัดสินโทษด้วยตัวเอง!" เมื่อสั่งการเสร็จก็ฝืนความทรมานออกจากตำหนัก

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา