กุหลาบเพชร
8.8
เขียนโดย nightshadow
วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.33 น.
36 ตอน
3 วิจารณ์
36.45K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มกราคม พ.ศ. 2559 21.46 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) เริ่มต้นพูดคุย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"เฮ้ย!ปล่อยนะโว๊ยจะบ้าหรือไง ไม่รู้จักกันสักหน่อยมาจับฉันไว้ทำไมเนี่ย" ปานตะวันโวยวายเสียงดัง แต่ก็ไม่กล้าจะดิ้นจากอ้อมกอดชายตรงหน้ามากนักเพราะเธอกำลังถูกชายหนุ่มใช้วิชาตัวเบาอุ้มเธอเหาะเหนือพื้น ดิ้นมากกลัวตกแต่ก็ยังไม่วายจะส่งเสียงท้วงดังลั่นอยู่ "ข้าไม่ได้จับเจ้านะ ข้าพึงใจในตัวเจ้า อย่างที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับสตรีนางใดมาก่อน ข้าอยากได้เจ้ามาเป็นชายาของข้าต่างหากเล่า" เฟยหนานกล่าวตอบพร้อมจ้องมองหญิงสาวในอ้อมกอดด้วยแววตาเป็นประกาย ซึ่งปานตะวันไม่ได้รู้สึกซาบซึ้งแต่อย่างใดยังคงโวยวายต่อ "ห๊ะไอ้งามไส้เอ้ย อยากได้ชายาอยากได้เมีย รักใครชอบใครก็หิ้วเอาเลยไม่คิดจะถามความสมัครใจ ของฝ่ายหญิงก่อนเลยหรือไงพ่อคุณ นายอยากได้ฉันไปเป็นเมีย แต่ถามฉันหรือยังว่าฉันอยากมีสามีหรือเปล่าน่ะ"
ในขณะที่คู่ปานตะวันกำลังโวยวายต่อต้านกันดังลั่น แต่ทางด้านเพ่ยอิงกลับอยู่ในอ้อมกอดของเฟยหลงนิ่ง จนชายหนุ่มนึกแปลกใจจนต้องเอ่ยปากถาม
"เป็นอะไรไปไม่ดิ้นรนขัดขืนแล้วหรือไง" "ถึงต่อให้อยากดิ้นรนขัดขืนไปพระองค์ก็ไม่ปล่อยหม่อมฉันอยู่ดี แล้วหม่อมฉันจะทำเรื่องที่ไร้ประโยชน์ไปทำไมเพคะฝ่าบาท" สิ้นเสียงตอบของหญิงงามในอ้อมแขนเฟยหลงอดที่จะรู้สึกทึ่งจนหลุดยิ้มพอใจออกมา "หึ เจ้านี่มีเรื่องให้ข้ารู้สึกแปลกใจอยู่ได้ตลอดเลยนะ รู้สถานะของข้าได้ยังไงกันน่ะ"
"ก็เมื่อครู่พระองค์ตรัสเรียกชายอีกคนหนึ่งว่า 'เฟยหนาน' หม่อมฉันทราบมาว่าตัวเองเข้ามาอยู่ในแผ่นดินของราชวงศ์โจว ที่อยู่ภายใต้การปกครองของกษัตริย์นามว่าเฟยหลง ซึ่งมีพระอนุชาเป็นท่านอ๋องนามว่าเฟยหนานและหม่อมฉันก็นึกสงสัยในท่าทีที่ผิดแปลกจากชาวบ้านทั่วไปอยู่มาก พระองค์สามารถคงสติอยู่ได้แม้จะมีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้าก็ควบคุมอารมณ์ให้อยู่ในอาการสงบนิ่ง เลือกที่จะคอยเฝ้ามองมาที่โต๊ะของพวกหม่อมฉัน แสดงให้เห็นว่าเป็นบุคคลพิเศษที่เห็นเป้าหมายของตัวเองสำคัญกว่าทุกสิ่ง และแม้จะแต่งกายแบบชาวบ้านธรรมดา แต่ท่าทางการพูดจาสุรเสียงและคุณลักษณะเป็นในแบบผู้ทรงอำนาจ ส่วนเหตุผลที่พระองค์ต้องปลอมองค์มาเป็นสามัญชน ก็คงเพราะต้องการมาลงพื้นที่พิสูจน์ความจริงให้เห็นด้วยตาตัวเองมากกว่า ที่จะคอยแต่นั่งฟังการรายงาน จากพวกขุนนางในวังแต่เพียงอย่างเดียว จากปัจจัยเหล่านี้ทำให้หม่อมฉันมั่นใจว่าคิดไม่ผิดเพคะ"
"ฮ่าๆๆยอดเยี่ยม ตั้งแต่ข้้าพบเจ้า เจ้าทำให้ข้ารู้สึกว่ากำลังได้แก้วล้ำค่าหายากมาอยู่ในมือนอกจากมีความงามเหนือหญิงใดที่ข้าเคยพบ จนทำให้ข้ารู้สึกหวั่นไหวทั้งที่ข้าไม่เคยสนใจเรื่องความงามของหญิงอื่นใดมาก่อน นอกจากนี้ยังมีสติปัญญาความสามารถที่ไม่แพ้ชายชาตรีเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้ข้ายังไม่ได้แต่งตั้งใครเป็นฮองเฮาคู่บัลลังก์ของข้าเพราะยังไม่มีสนมคนใดมีคุณสมบัติคู่ควร แต่วันนี้ข้าตัดสินใจจะมอบตำแหน่งนี้ให้แก่เจ้า เจ้าไปอยู่ในวังกับข้าเถอะนะหญิงงามจากโลกอื่น"
"พระโอษฐ์ของพระองค์ก็ตรัสว่าหม่อมฉันคือสิ่งล้ำค่า แต่การกระทำของพระองค์กลับทำให้หม่อมฉัน รู้สึกว่าตนเองเป็นหญิงไร้ค่าที่พระองค์อยากลากกลับวังตามใจชอบไปเมื่อไหร่ก็ได้ โดยไม่สนใจความรู้สึกของหม่อมฉันเลยนะเพคะ" เฟยหลงได้ยินหญิงสาวเอ่ยด้วยความน้อยใจก็ร้อนรนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่อยากให้นางโกรธเกลียดเขาเอาเสียเลยจึงรีบเอ่ยวาจาเอาใจอย่างที่ไม่เคยทำให้ใครมาก่อน "ขอโทษนะข้าทำให้เจ้ารู้สึกแบบนั้นหรือ ข้าแค่อยากให้เจ้าไปอยู่ในวังกับข้าเท่านั้นเองนะอย่าโกรธข้าเลย"
"เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ที่ไม่สามารถจะตัดสินใจอย่างเอาแต่พระทัยได้นะเพคะ หม่อมฉันอยากจะขอให้พระองค์ พาหม่อมฉันและรับสั่งให้ท่านอ๋องพาสหายของหม่อมฉันลงไปพูดคุยหารือกันก่อนเถอะนะเพคะ หม่อมฉันขอร้อง"
เฟยหลงทำตามความต้องการของเพ่ยอิง สั่งให้น้องชายของตัวเองพาสหายของหญิงสาวลงไปคุยกันโดยเลือกสถานที่ เป็นโขดหินใกล้ลำธารในป่าแห่งหนึ่งไม่ไกลจากตัวเมืองนัก และทั้งสี่ก็นั่งลงคุยกันนั่งอยู่กันคนละฝั่ง เพ่ยอิงนั่งอยู่ในอ้อมกอดของเฟยหลง ส่วนปานตะวันที่พอลงมาได้ก็โยนเข่าไปที่ท้องของเฟยหนานเข้าทีหนึ่งกว่าจะยอมสงบลงได้ เฟยหนานก็ต้องเหนื่อยอยู่พอสมควรแต่ก็ยังคงโอบกอดปานตะวันไว้อย่างไม่สนใจอาการฮึดฮัดของเธอ เพ่ยอิงเริ่มต้นเปิดปากพูดคุยกับปานตะวันก่อน
"ยัยวัน ก่อนอื่นฉันต้องขอบอกเธอไว้ก่อนนะว่าตอนนี้พวกเรากำลังอยู่กับผู้ชายสองคนที่เป็นฮ่องเต้และท่านอ๋องผู้ปกครองแผ่นดินนี้ และพวกเขารู้แล้วว่าพวกเรามาจากโลกอื่น" ปานตะวันสะดุ้งและหันไปมองเฟยหนานอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยักไหล่อย่างไม่แคร์และหันมามองเพื่อนสาวของตนพยักหน้าให้พูดต่อ
ในขณะที่คู่ปานตะวันกำลังโวยวายต่อต้านกันดังลั่น แต่ทางด้านเพ่ยอิงกลับอยู่ในอ้อมกอดของเฟยหลงนิ่ง จนชายหนุ่มนึกแปลกใจจนต้องเอ่ยปากถาม
"เป็นอะไรไปไม่ดิ้นรนขัดขืนแล้วหรือไง" "ถึงต่อให้อยากดิ้นรนขัดขืนไปพระองค์ก็ไม่ปล่อยหม่อมฉันอยู่ดี แล้วหม่อมฉันจะทำเรื่องที่ไร้ประโยชน์ไปทำไมเพคะฝ่าบาท" สิ้นเสียงตอบของหญิงงามในอ้อมแขนเฟยหลงอดที่จะรู้สึกทึ่งจนหลุดยิ้มพอใจออกมา "หึ เจ้านี่มีเรื่องให้ข้ารู้สึกแปลกใจอยู่ได้ตลอดเลยนะ รู้สถานะของข้าได้ยังไงกันน่ะ"
"ก็เมื่อครู่พระองค์ตรัสเรียกชายอีกคนหนึ่งว่า 'เฟยหนาน' หม่อมฉันทราบมาว่าตัวเองเข้ามาอยู่ในแผ่นดินของราชวงศ์โจว ที่อยู่ภายใต้การปกครองของกษัตริย์นามว่าเฟยหลง ซึ่งมีพระอนุชาเป็นท่านอ๋องนามว่าเฟยหนานและหม่อมฉันก็นึกสงสัยในท่าทีที่ผิดแปลกจากชาวบ้านทั่วไปอยู่มาก พระองค์สามารถคงสติอยู่ได้แม้จะมีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้าก็ควบคุมอารมณ์ให้อยู่ในอาการสงบนิ่ง เลือกที่จะคอยเฝ้ามองมาที่โต๊ะของพวกหม่อมฉัน แสดงให้เห็นว่าเป็นบุคคลพิเศษที่เห็นเป้าหมายของตัวเองสำคัญกว่าทุกสิ่ง และแม้จะแต่งกายแบบชาวบ้านธรรมดา แต่ท่าทางการพูดจาสุรเสียงและคุณลักษณะเป็นในแบบผู้ทรงอำนาจ ส่วนเหตุผลที่พระองค์ต้องปลอมองค์มาเป็นสามัญชน ก็คงเพราะต้องการมาลงพื้นที่พิสูจน์ความจริงให้เห็นด้วยตาตัวเองมากกว่า ที่จะคอยแต่นั่งฟังการรายงาน จากพวกขุนนางในวังแต่เพียงอย่างเดียว จากปัจจัยเหล่านี้ทำให้หม่อมฉันมั่นใจว่าคิดไม่ผิดเพคะ"
"ฮ่าๆๆยอดเยี่ยม ตั้งแต่ข้้าพบเจ้า เจ้าทำให้ข้ารู้สึกว่ากำลังได้แก้วล้ำค่าหายากมาอยู่ในมือนอกจากมีความงามเหนือหญิงใดที่ข้าเคยพบ จนทำให้ข้ารู้สึกหวั่นไหวทั้งที่ข้าไม่เคยสนใจเรื่องความงามของหญิงอื่นใดมาก่อน นอกจากนี้ยังมีสติปัญญาความสามารถที่ไม่แพ้ชายชาตรีเลยแม้แต่น้อย ตอนนี้ข้ายังไม่ได้แต่งตั้งใครเป็นฮองเฮาคู่บัลลังก์ของข้าเพราะยังไม่มีสนมคนใดมีคุณสมบัติคู่ควร แต่วันนี้ข้าตัดสินใจจะมอบตำแหน่งนี้ให้แก่เจ้า เจ้าไปอยู่ในวังกับข้าเถอะนะหญิงงามจากโลกอื่น"
"พระโอษฐ์ของพระองค์ก็ตรัสว่าหม่อมฉันคือสิ่งล้ำค่า แต่การกระทำของพระองค์กลับทำให้หม่อมฉัน รู้สึกว่าตนเองเป็นหญิงไร้ค่าที่พระองค์อยากลากกลับวังตามใจชอบไปเมื่อไหร่ก็ได้ โดยไม่สนใจความรู้สึกของหม่อมฉันเลยนะเพคะ" เฟยหลงได้ยินหญิงสาวเอ่ยด้วยความน้อยใจก็ร้อนรนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่อยากให้นางโกรธเกลียดเขาเอาเสียเลยจึงรีบเอ่ยวาจาเอาใจอย่างที่ไม่เคยทำให้ใครมาก่อน "ขอโทษนะข้าทำให้เจ้ารู้สึกแบบนั้นหรือ ข้าแค่อยากให้เจ้าไปอยู่ในวังกับข้าเท่านั้นเองนะอย่าโกรธข้าเลย"
"เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ที่ไม่สามารถจะตัดสินใจอย่างเอาแต่พระทัยได้นะเพคะ หม่อมฉันอยากจะขอให้พระองค์ พาหม่อมฉันและรับสั่งให้ท่านอ๋องพาสหายของหม่อมฉันลงไปพูดคุยหารือกันก่อนเถอะนะเพคะ หม่อมฉันขอร้อง"
เฟยหลงทำตามความต้องการของเพ่ยอิง สั่งให้น้องชายของตัวเองพาสหายของหญิงสาวลงไปคุยกันโดยเลือกสถานที่ เป็นโขดหินใกล้ลำธารในป่าแห่งหนึ่งไม่ไกลจากตัวเมืองนัก และทั้งสี่ก็นั่งลงคุยกันนั่งอยู่กันคนละฝั่ง เพ่ยอิงนั่งอยู่ในอ้อมกอดของเฟยหลง ส่วนปานตะวันที่พอลงมาได้ก็โยนเข่าไปที่ท้องของเฟยหนานเข้าทีหนึ่งกว่าจะยอมสงบลงได้ เฟยหนานก็ต้องเหนื่อยอยู่พอสมควรแต่ก็ยังคงโอบกอดปานตะวันไว้อย่างไม่สนใจอาการฮึดฮัดของเธอ เพ่ยอิงเริ่มต้นเปิดปากพูดคุยกับปานตะวันก่อน
"ยัยวัน ก่อนอื่นฉันต้องขอบอกเธอไว้ก่อนนะว่าตอนนี้พวกเรากำลังอยู่กับผู้ชายสองคนที่เป็นฮ่องเต้และท่านอ๋องผู้ปกครองแผ่นดินนี้ และพวกเขารู้แล้วว่าพวกเรามาจากโลกอื่น" ปานตะวันสะดุ้งและหันไปมองเฟยหนานอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยักไหล่อย่างไม่แคร์และหันมามองเพื่อนสาวของตนพยักหน้าให้พูดต่อ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ