กุหลาบเพชร
8.8
เขียนโดย nightshadow
วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.33 น.
36 ตอน
3 วิจารณ์
36.48K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มกราคม พ.ศ. 2559 21.46 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) สองสาวแกร่งทัวร์เมืองจีน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความร้อยตำรวจเอกหญิงเพ่ยอิง ตำรวจสากลสาวแสนสวยผู้มีใบหน้างดงามหวานราวนางฟ้าแต่ขึ้นชื่อด้านความเฮี้ยบเด็ดขาดในหน้าที่ กับอีกหนึ่งสาวแกร่งผู้มีใบหน้าสวยคมคาย แต่บุคลิกเข้มแข็ง ห่ามห้าวดุจชายชาตรีทหารหญิงยศพันตรีนามปานตะวัน สองสาวเพื่อนซี้ต่างเชื้อชาติรู้จักกันผ่านทางอินเตอร์เน็ตรู้จัก กันผ่านเฟรซบุ๊ค ได้มีโอกาสติดต่อพูดคุยจนสนิทเป็นเพื่อนกันในที่สุดและในวันนี้ตรงกับวันหยุดเทศกาลซึ่งตรงกับวันหยุดราชการ จึงนัดแนะกันไปทัวร์เมืองจีนถือโอกาสไปเที่ยวกันสองคน เนื่องจากวันหยุดของสองสาวไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่นัก เมื่อคราวนี้มีวันหยุดที่ตรงกันที่หาได้ยากจึงนัดกันไปเที่ยว
ในคราแรกที่ทั้งสองรู้จักกันผ่านอินเตอร์เน็ต ก็สื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษต่อมาเมื่อคุยกันถูกคอและสนิทสนมกันมากขึ้น จึงได้รู้ว่าปานตะวันเองแม้ไม่ใช่สาวจีนแท้เช่นเดียวกันกับ เพ่ยอิงแต่ก็สามารถพูดคุยสื่อสารภาษาจีนกลางได้ เนื่องจากเป็นคนไทยที่มีเชื้อสายจีนอยู่เหมือนกัน ดังนั้นเมื่อติดต่อผ่านทางอินเตอร์เน็ตสองสาวจะใช้ภาษาอังกฤษพิมพ์สื่อสารกัน แต่หากพบปะพูดคุยกันในโลกแห่งความเป็นจริงทั้งสองจะใช้ภาษาจีนกลางคุยกัน
"หัลโล เพ่ยอิงตอนนี้ฉันลงจากเครื่องถึงสนามบินกรุงปักกิ่งแล้วนะ เธออยู่ไหนเนี่ย... อ้อ ทางขวามือเลี้ยวซ้ายเหรอ โอเคเห็นแล้วๆ"
"ว่าไงจ๊ะยัยวัน โอ้โห...นี่เธอพวกเราหยุดแค่ไม่กี่วันเองนะ ขนของมาซะเพียบอย่างกับไปเข้าค่ายที่ไหนงั้นแหละ" "แหมเตรียมตัวเอาไว้ก็ไม่เสียหายหรอก นี่ก็ไม่ใช่ของสำคัญอะไรเพียงแต่ไม่อยากต้องมาหาเอาต่างบ้านต่างเมืองน่ะ เลยเตรียมมาเองจะได้ไม่ต้องซื้อหาให้ยุ่งยาก"
"ตามใจเธอก็แล้วกัน อึดถึกอยู่แล้วนี่เธอน่ะ วันนี้ฉันรับเป็นไกด์พาเธอทัวร์เองในฐานะที่เป็นเจ้าบ้าน ก่อนอื่นไปหาอะไรกินกันก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันพาไปร้านเจ๋งๆ ที่อาหารถูกปากราคาไม่แพงเว่อร์เกินไป และเดี๋ยวฉันจะพาไปถ่ายรูปที่ร้านเขามีบริการเปิดให้นักท่องเที่ยวใส่ชุดแฟนซีแบบจีนโบราณถ่ายรูปด้วย"
หลังจากทานอาหารและเช่าชุดถ่ายรูปเรียบร้อยแล้ว เพ่ยอิงก็พาปานตะวันไปเที่ยวชมพระราชวังต้องห้ามโดยทั้งสองสาวยังคงใส่ชุดจีนโบราณอยู่เนื่องจากห้องเสื้อที่บริการถ่ายรูปให้เช่าชุดใส่ได้ครึ่งวันแล้วค่อยนำมาคืน แต่ก่อนที่จะเข้าไปในพระราชวังต้องห้าม ก็มีหญิงชราคนหนึ่งเข้ามาทัก
"แม่หนูทั้งสองกำลังมีเกณท์ชะตาชีวิตที่พลิกผันอย่างคาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นขอให้ใช้สติปัญญาความสามารถที่แม่หนูทั้งสองถนัดให้เป็นประโยชน์ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นถูกลิขิตไว้แล้ว" กล่าวจบประโยคหญิงชราก็เดินหันหลังจากไปแต่สิ่งที่ทำให้น่าตกใจก็คือ ในระหว่างที่เพ่ยอิงและปานตะวันมองตามหญิงชราไปนั้น อยู่ๆร่างของหญิงชราก็หายไปต่อหน้าต่อตาราวกับหายตัวได้หญิงชราหายเข้าไปในรูปปั้นของศาลเจ้าเล็กๆศาลหนึ่ง จะว่าตาฝาดก็ไม่ใช่เพราะทั้งสองสาวต่างก็เห็นเหมือนกัน
ในคราแรกที่ทั้งสองรู้จักกันผ่านอินเตอร์เน็ต ก็สื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษต่อมาเมื่อคุยกันถูกคอและสนิทสนมกันมากขึ้น จึงได้รู้ว่าปานตะวันเองแม้ไม่ใช่สาวจีนแท้เช่นเดียวกันกับ เพ่ยอิงแต่ก็สามารถพูดคุยสื่อสารภาษาจีนกลางได้ เนื่องจากเป็นคนไทยที่มีเชื้อสายจีนอยู่เหมือนกัน ดังนั้นเมื่อติดต่อผ่านทางอินเตอร์เน็ตสองสาวจะใช้ภาษาอังกฤษพิมพ์สื่อสารกัน แต่หากพบปะพูดคุยกันในโลกแห่งความเป็นจริงทั้งสองจะใช้ภาษาจีนกลางคุยกัน
"หัลโล เพ่ยอิงตอนนี้ฉันลงจากเครื่องถึงสนามบินกรุงปักกิ่งแล้วนะ เธออยู่ไหนเนี่ย... อ้อ ทางขวามือเลี้ยวซ้ายเหรอ โอเคเห็นแล้วๆ"
"ว่าไงจ๊ะยัยวัน โอ้โห...นี่เธอพวกเราหยุดแค่ไม่กี่วันเองนะ ขนของมาซะเพียบอย่างกับไปเข้าค่ายที่ไหนงั้นแหละ" "แหมเตรียมตัวเอาไว้ก็ไม่เสียหายหรอก นี่ก็ไม่ใช่ของสำคัญอะไรเพียงแต่ไม่อยากต้องมาหาเอาต่างบ้านต่างเมืองน่ะ เลยเตรียมมาเองจะได้ไม่ต้องซื้อหาให้ยุ่งยาก"
"ตามใจเธอก็แล้วกัน อึดถึกอยู่แล้วนี่เธอน่ะ วันนี้ฉันรับเป็นไกด์พาเธอทัวร์เองในฐานะที่เป็นเจ้าบ้าน ก่อนอื่นไปหาอะไรกินกันก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันพาไปร้านเจ๋งๆ ที่อาหารถูกปากราคาไม่แพงเว่อร์เกินไป และเดี๋ยวฉันจะพาไปถ่ายรูปที่ร้านเขามีบริการเปิดให้นักท่องเที่ยวใส่ชุดแฟนซีแบบจีนโบราณถ่ายรูปด้วย"
หลังจากทานอาหารและเช่าชุดถ่ายรูปเรียบร้อยแล้ว เพ่ยอิงก็พาปานตะวันไปเที่ยวชมพระราชวังต้องห้ามโดยทั้งสองสาวยังคงใส่ชุดจีนโบราณอยู่เนื่องจากห้องเสื้อที่บริการถ่ายรูปให้เช่าชุดใส่ได้ครึ่งวันแล้วค่อยนำมาคืน แต่ก่อนที่จะเข้าไปในพระราชวังต้องห้าม ก็มีหญิงชราคนหนึ่งเข้ามาทัก
"แม่หนูทั้งสองกำลังมีเกณท์ชะตาชีวิตที่พลิกผันอย่างคาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นขอให้ใช้สติปัญญาความสามารถที่แม่หนูทั้งสองถนัดให้เป็นประโยชน์ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นถูกลิขิตไว้แล้ว" กล่าวจบประโยคหญิงชราก็เดินหันหลังจากไปแต่สิ่งที่ทำให้น่าตกใจก็คือ ในระหว่างที่เพ่ยอิงและปานตะวันมองตามหญิงชราไปนั้น อยู่ๆร่างของหญิงชราก็หายไปต่อหน้าต่อตาราวกับหายตัวได้หญิงชราหายเข้าไปในรูปปั้นของศาลเจ้าเล็กๆศาลหนึ่ง จะว่าตาฝาดก็ไม่ใช่เพราะทั้งสองสาวต่างก็เห็นเหมือนกัน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ