มาลย์มายา รีไรท์
เขียนโดย อาบตะวัน
วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 12.34 น.
แก้ไขเมื่อ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2558 13.56 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) แคมป์VSP
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ธาราลงมาต้อนรับคณะVSP ด้านล่าง หล่อนกล่าวทักทายคุณอิริค พ่อหนุ่มซางฮุน อย่างคุ้นเคยคุณอิริคก็ยังคงเป็นคุณอิริคคนเดิม เขามองหล่อนด้วยสายตาที่เป็นมิตร แฝงแววความอาทรให้เห็น ทว่าเขาดูจริงจังมากกว่าที่หล่อนจำได้ ทั้งยังดูเป็นหัวหน้าที่เข้มงวดมากกว่าเดิมอีกด้วย ธารายิ้มให้การต้อนรับทุกคนเป็นอย่างดี เหมือนอย่างที่หล่อนเคยทำเป็นประจำ เมื่อเห็นว่าฝ่ายต้อนรับและฝ่ายบริการลูกค้ามารับช่วงดูแลกรุ๊ปวีเอสพีต่อแล้ว หล่อนจึงจะผละจากกลุ่มไปทำงานต่อที่ออฟฟิศ สบชัยลูกน้องคนสนิทอาสาประสานงานกับกลุ่มพรานป่า ที่จะพาทั้งคณะเข้าไปทำกิจกรรมตลอดช่วงเวลาเข้าแคมป์ทั้งสัปดาห์
“เด็กนักเรียน 30 คน ครู 3 คน สต๊าฟ 4 คนนะครับ”
สบชัยทวนจำนวนลูกค้ากับนนทภัทร
“พี่นนท์จะนอนตึกเดียวกับพวกนักเรียนและก็สต๊าฟเลยมั้ยครับ หรือว่าอยากนอนตึกพนักงานก็มีห้องว่างนะครับ”
เขาเสนอ ห้องพักที่รีสอร์ทเป็นอาคารกึ่งปูนกึ่งไม้ขนาดไม่ใหญ่มาก เน้นพักผ่อนสบาย อาคารหนึ่ง ๆ มีแค่ 12 ห้อง ครู นักเรียนและสต๊าฟสามารถอยู่ในอาคารเดียวกันได้ในจำนวนห้องละ 3 คน แต่อาคารบ้านพักของพนักงานก็สะดวกสบายไม่แพ้กัน แถมได้อยู่ใกล้คนกันเองอย่างธาราอีกด้วย สบชัยยืนยิ้มรอคำตอบ ธาราได้ยินคำถามนั้นด้วย หล่อนเองก็แอบนิ่งลุ้นฟังคำตอบจาก ‘แฟนหนุ่ม’ ด้วยเช่นกัน
“เห็นจะไม่ได้หรอกค่ะ เพราะว่าสต๊าฟVSP มีผู้ชาย 3 ผู้หญิง 1 ให้พี่ไปน่าจะเหมาะกว่า”
เสียงหวานนั้นดึงให้คนแอบฟังหันกลับมามอง เจ้าของเสียงเป็นผู้หญิงร่างเล็กแลดูบอบบาง ทว่ามีความเป็น ‘ผู้หญิง’ อยู่เต็มแน่น ผิวขาวจัด สวมเสื้อยืดสกรีนลายVSP บนอก เสื้อดูตึงแน่น รัดรึงช่วงสะเอวให้กางเกงยีนส์เข้ารูปดูโดดเด่นบนสะโพกกลมกลึง ริมฝีปากแดงสดยิ้มหวาน กวาดสายตาคมมาทางธาราอย่างจงใจ สบชัยตะลึงมองตาค้าง
นี่มีนางงามอยู่ในคณะเดินป่าด้วยหรือนี่...
“พี่เชอร์รี่...”
ธารามองหล่อนตาค้างเช่นกันกับลูกน้องหนุ่ม แต่ด้วยความรู้สึกที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง หญิงสาวขยับตัวออกมาจากบันไดยิ้มให้รุ่นพี่สาวน้อย ๆ ยกมือไหว้พอเป็นพิธี สายตาตวัดมองไปที่นนทภัทรโดยอัตโนมัติ ชายหนุ่มรีบรุดมายืนข้าง ‘แฟนสาว’ ของเขาอย่างรวดเร็ว
“เค้าเคยบอกน้ำเรื่องพี่เชอร์รี่แล้วใช่มั้ย ที่พี่เค้ามาทำงานกับเราได้ปีกว่าแล้ว”
ชายหนุ่มพูดรัวเร็ว มือโอบไหล่เล็ก ๆ ไว้แน่น ธาราถอนใจ บอกเมื่อไหร่ใครจะไปรู้ ตัวหล่อนเองก็เพิ่งจะรู้ตัวว่ามีแฟนเป็นตัวเป็นตนมาแล้วตั้ง 7 ปี ... เมื่อวานซืนนี้เอง...
“อ่อ...ค่ะ”
ตอบไปแบบเลื่อนลอย มือที่โอบลูบไหล่หล่อนเบา ๆ คล้ายจะปลอบประโลมใจ แต่สายตาคม ๆ ของคนตรงหน้าดูจะมีพลังอำนาจมากกว่า ชาลิดาจ้องมองหล่อนนิ่ง ยิ้มบาง ๆ เวลาผ่านไปนานหลายปี แต่ชาลิดาดูสวยไม่สร่าง จะว่าไปแล้ว สวยมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เค้าถึงว่ากันว่าผู้หญิงเนี่ย.. ‘ยิ่งแก่ยิ่งมัน’ ท่าจะเป็นเรื่องจริง
“ตกลงเป็นพี่นะจ๊ะที่นอนตึกพนักงาน”
หล่อนย้ำ เล็บสีแดงกรีดสางเส้นผมสีน้ำตาลช้า ๆ สบตานนทภัทร
“ เอ... หรือพี่จะนอนห้องเดียวกับนนท์ดี แล้วให้คุณอิริคกับซางฮุนไปนอนตึกโน้น”
ธาราหน้าตึงขึ้นมาทันที ไหนว่านนทภัทรเป็นแฟนกับหล่อนมาเจ็ดปีแล้วไง แล้วนี่ชาลิดาพูดถึงอะไรกัน
“พูดเล่นแบบนี้ไม่ดีนะครับพี่ เดี๋ยวน้ำจะเข้าใจผิด”
นนทภัทรพูดเรียบ ๆ แต่ด้วยน้ำเสียงจริงจัง ชาลิดาหน้าเสีย
“อะไร พูดเล่นแค่นี้เอง น้ำเค้าคงจะไม่ซีเรียสขนาดนั้นมั้ง เธออย่าจริงจังนักเลยนนท์ เดี๋ยวใครเขาจะหาว่าเป็นวัวสันหลังหวะ”
หล่อนว่าแล้วสะบัดหน้าเดินหนีไป สบชัยมองตามคนนั้นคนนี้อย่างหวั่นไหว จะมาเปิดศึกตบกันที่นี่หรือไงเนี่ย
“สบชัย”
เสียงนนทภัทรเรียก
“ครับผม”
สบชัยหันขวับ ทำคอตั้งรอฟังคำสั่ง
“ให้พี่เชอร์รี่เค้านอนตึกพนักงานเถอะ”
เขาพูดแล้วถอนใจ พลางก้มลงมองดูหน้าคนข้างตัวแล้วพูดต่อ
“พี่จะนอนห้องพี่น้ำนี่แหละ ขี้เกียจมีปัญหา เนาะตัวเอง ง่ายดี”
ธาราตาเหลือก นอนห้องเดียวกัน ตายแล้ว...นี่หล่อนกับเจ้าก้าบไปถึงไหนกันแล้วเนี่ย หญิงสาวไม่อยากจะคิด นี่กาลเวลาเปลี่ยน สถานภาพเปลี่ยน ‘ห้องเครื่อง’หล่อนก็เปลี่ยนแปลงไปด้วยอย่างงั้นเหรอ แล้วคำถามนี้หล่อนต้องไปถามใครดี หรือ.. จะต้องไปเปิดสำรวจเอาเอง
คิดแล้วอยากเป็นลม...
“คือ... นนท์ เราว่า...”
สบชัยกับนนทภัทรเดินออกไปพร้อมกันโดยไม่สนหล่อนอีก เบลบอยสามสี่คนช่วยลำเลียงกระเป๋าไปตามห้องพักต่าง ๆ แน่นอน กระเป๋าของนนทภัทรก็ด้วย มันถูกขนใส่รถเข็นข้ามไปตึกฝั่งพนักงานแล้ว ธารายังยืนนิ่งอยู่กับที่ รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก
เด็กนักเรียนวัยรุ่นหลากชาติหลายภาษากำลังวิ่งวุ่นเตรียมอุปกรณ์เดินป่ากันคึกคัก นนทภัทรเตรียมน้ำดื่ม ข้าวกล่อง ของว่างแจกเด็ก ๆ ระหว่างรอรถจากทางรีสอร์ท ซางฮุนเดินลากเชือกปอเส้นใหญ่มาใกล้ ๆ ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับฐานโหนเชือกที่ต้องทำในเขตรีสอร์ทจำเป็นต้องมีคนอยู่ช่วยด้วย นนทภัทรโคลงหัว
“I suppose to be with all students, how about Cherry?”
“No, I need a tall guy”
ซางฮุนทำหน้าย่น เขาไม่อยากได้เชอร์รี่มาวุ่นวายกับงานของเขา หล่อนนอกจากจะหุ่นไม่ให้แล้ว ใจก็ไม่เห็นจะรักงานส่วนนี้อีกด้วย เขาพอจะมองออก ว่าทำไมเจ้าหล่อนถึงรบเร้าอยากจะมาทำแคมป์ที่นี่ด้วย
“ให้ผมช่วยมั้ยครับ”
เสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลัง ซางฮุนมองแล้วยิ้มกว้างทำให้นนทภัทรหันมามองที่ต้นเสียงบ้าง ผู้มาใหม่เปลี่ยนสีหน้าของเขาในทันที
ธชาหรือต้นยืนยิ้มฟันขาวอยู่ที่นั่น ร่างสูงผิวเข้มยืนหล่อในชุดกีฬา คอห้อยนกหวีดสีเงิน สวมหมวกแก๊ปติดโลโก้โรงเรียนนานาชาติ ธชาเป็นครูที่นี่!!!
“สวัสดีครับพี่นนท์”
เขายกมือไหว้ชายหนุ่ม
“Hello I’m Ton. Nice to meet you”
ธชาในวัย 25 ปี หันไปยิ้มทักทายอย่างเป็นกันเองกับซางฮุน พ่อหนุ่มเกาหลีดูจะดีอกดีใจที่ได้คนมาช่วยตั้งฐานให้ที่นี่ เพราะนอกจากคนที่ทางรีสอร์ทช่วยจัดมาให้แล้ว เขาก็อยากได้คนที่พูดคุยสื่อสารกันได้มาอยู่ด้วย เขาคุยกับคนสวนไม่รู้เรื่อง
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับพี่นนท์..โห..หล่อขึ้นเยอะเลย”
หนุ่มรุ่นน้องเริ่มเสวนา ธชาเป็นคนที่จัดว่า ‘หล่อจัด’ เขายังคงรักษารูปร่างหน้าตาไว้ได้แทบไม่เปลี่ยน ผิดไปนิดหน่อยตรงที่เมื่อก่อนเขาเป็นคนสูงโปร่ง แต่ตอนนี้เขารูปร่างกำยำกว่าเดิม ผิวเข้มขึ้นแต่นัยน์ตาหวานซึ้งนั่นยังคงดูไม่เปลี่ยน นนทภัทรดูประกายตาระยิบระยับของพ่อหนุ่มอดีตกิ๊กเก่าแฟนสาวแล้วรู้สึกขัดเคืองใจ ชักไม่อยากจะเข้าป่ากับพวกเด็ก ๆ เสียแล้ว
“แกจะกลับเมื่อไหร่นะ”
ธาราตัดสินใจโทรหาเพื่อนสนิทหลังจากที่หล่อนเดินวนไปมาในออฟฟิศร่วมสิบนาทีโดยไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน มดแดงงึมงัมตอบมาตามสาย
“ก็จองตั๋วกลับวันพฤหัสนี้แหละ”
วันนี้วันจันทร์ ... ธาราจะเปิดบทสนทนายังไงกับเพื่อนสาวดี หล่อนไม่รู้ว่าประเด็นไหนสำคัญกว่ากันระหว่างเรื่องที่พี่เชอร์รี่พูดว่าจะนอนกับเจ้าก้าบกับที่เจ้าก้าบพูดว่าจะนอนกับหล่อน แล้วหล่อนจะหาคำตอบได้อย่างไรว่าความสัมพันธ์ของหล่อนกับเจ้าก้าบมันไปถึงไหนกันแล้ว ...เรื่องแบบนี้ ตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา... หล่อนจะพูดกับเพื่อนสนิทหรือเปล่านะ
“คือ... ฉันว่าจะถามแก คือฉันลืมว่าตอนเรียนปีสามอ่ะ ฉันยังอยู่หอพักในหรือออกมาเช่าข้างนอกนะ”
นับว่าเป็นคำถามที่ประหลาดมากสำหรับใครก็ตามที่ได้ยิน ธาราถามเรื่องหอพักของตัวเองสมัยเรียน มดแดงชะงักมือถือคุกกี้ค้าง
“แกก็อยู่หอในจนจบนั่นแหละ ถามอะไรของแกวะ”
คำตอบนั้นทำให้คนฟังยิ้มออก
“เออ เนาะ ๆ ไม่น่าลืม เอ่อ.. แล้ว...ตอนฉันมาทำงานเชียงรายอ่ะ อีก้าบมาอยู่ด้วยกันที่นี่ด้วยรึเปล่า”
มดแดงขมวดคิ้ว ธาราท่าทางจะอาการหนัก เรื่องของตัวเองแท้ ๆ มาถามเพื่อนทำไม
“ฉันจะไปรู้กะแกมั้ย...พวกแกคบกันมาตั้งนาน อีก้าบมันก็อยู่กรุงเทพนี่แหละ ไป ๆ มา ๆ หาแกอยู่นิ เป็นไรของแกวะ มีปัญหาอะไรเหรอ”
ไป ๆ มา ๆ ธาราทวนประโยคนั้นในใจ ไอ่กิจกรรมอย่างว่าต่อให้ไปแป๊บมาแป๊บ ถ้ามันจะทำมันก็ไม่ได้ลำบากอะไร ดังนั้น คำพูดนี้มันก็ตอบอะไรไม่ได้อยู่ดี เปลี่ยนประเด็นก็แล้วกัน หล่อนตัดสินใจเล่าเรื่องเจอชาลิดาที่นี่ให้มดแดงฟังต่อ ไม่ลืมที่จะอธิบายถึงความสวยจัด สวยนาน สวยทนของหล่อนให้เพื่อนสาวได้มองเห็นภาพตามไปด้วย ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่…นางพูดออกมาอย่างฉะฉานว่าจะนอนกับนนทภัทร มดแดงปล่อยคุกกี้ลงจานอย่างมีอารมณ์
“แรงมาก”
เพื่อนสาวว่า เทคุกกี้ที่เหลือกลับลงโถแล้วปิดฝา ไม่กงไม่กินมันละ
“พูดหยั่งงี้แปลว่าอะไรวะ มันส่อเจตนาชัด ๆ”
“ส่อหรืออวดวะ”
ธาราสวนเรียบ ๆ มดแดงกระตุกน้อย ๆ
“อวด … แกหมายความว่าไง”
แล้วหล่อนก็เบิกตากว้าง ส่ายหัวกับโทรศัพท์อย่างรับไม่ได้
“บ้านะ บ้าแล้วแก อีก้าบมันคงไม่ทำอย่างนั้นหรอก”
ธาราถอนใจ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจตอนนี้ทำให้หญิงสาวรู้สึกไม่ค่อยเป็นสุขนัก ความรักงั้นเหรอ ผิดหวังงั้นเหรอ ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้กับตัวหล่อน นนทภัทรเป็นผู้ชายที่หล่อนใฝ่ฝัน เป็นความทรงจำ เป็นความปรารถนา แต่ความรักและผูกพันมันไม่เคยเกิดขึ้นหรือมีในใจเลยไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็ตาม เจ็ดปีที่มีอยู่ในสมองตอนนี้ มันเป็นเพียงแค่ข้อมูล ไม่มีความรู้สึก ใช่ หล่อนไม่รู้สึกอะไรเลย
แล้วไอ้ที่มันจี๊ดในอกน้อย ๆ ของหล่อนนี่ล่ะ มันคืออะไร…
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ