มาลย์มายา รีไรท์
เขียนโดย อาบตะวัน
วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 12.34 น.
แก้ไขเมื่อ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2558 13.56 น. โดย เจ้าของนิยาย
7) อดีตรักที่เปลี่ยนไป..แต่หัวใจไม่เปลี่ยนตาม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ผาดาวรีสอร์ทยังคงชุ่มฉ่ำไปด้วยสายฝน อากาศยอดดอยทั้งหนาวทั้งเย็นและชื้น ต้นไม้สีเขียวสด กลิ่นหญ้าปนกลิ่นหอมของไอดิน ใครได้มาเยี่ยมชมที่นี่ก็ล้วนแต่ติดอกติดใจกันทั้งนั้น ไม่ติดว่าเป็นหน้าฝนขึ้นดอยยาก ที่นี่คงจะคึกคักกันทุกฤดูทีเดียว
เจ้าแม่ฝ่ายการตลาดเดินคอหดผิดปกติวิสัยนางพญา หล่อนคอยสาดสายตาไปทั่วบริเวณที่เดินผ่าน ราวกับหวาดระแวงว่าจะมีใครหรืออะไรโผล่มาให้ตกใจกลัวอย่างนั้น หลังอดีตเปลี่ยน หล่อนก็ยังไม่เห็นว่าที่นี่จะมีอะไรเปลี่ยนแปลง หน้าฟร้อนก็ยิ้มแย้มทักทายหล่อนดี ยาม คนสวน แม่บ้าน ทุกคนดูเป็นปกติ พลอยทำให้ธาราหลงคิดไปว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมาสองสามวันก่อน หล่อนแค่ฝันไปเท่านั้น
และหล่อนก็ภาวนาอยากให้มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ
“โฮ่เร่...เจ๊น้ำ กลับมาแล้วเหรอ คิดถึงจัง”
สิ่งมีชีวิตแรกในออฟฟิศฝ่ายการตลาดปรากฏตัวขึ้นแล้ว ดาด้าถลาเข้ามากอดแถมหอมลูกพี่อีกฟอดใหญ่ แหม..รักกันจริงจริ๊ง...
“ของฝากล่ะคะ”
เจ้าหล่อนแบมือทั้งสองข้าง สบตาใสแจ๋ว
“ว่าละ ...ถึงว่ามาทำเป็นรักและคิดถึงเว่อร์ซะไม่มี”
ธาราค้อน ก่อนจะหิ้วถุงกระดาษใบโตยื่นให้ คนรอรับยิ้มกว้าง ไหว้งาม ๆ ขอบคุณก่อนจะอุ้มไปเปิดดูอย่างตื่นเต้น
“ว้าว ๆ ของโปรดทั้งนั้นเลย ขอบคุณนะคะ เจ๊น้ำคนสวย”
“แบ่งให้เจ้าสบมันด้วยนะ เดี๋ยวมันงอน”
“เดี๋ยวจะเหลือเกาลัดให้มันซักสองเม็ดพอ เจ๊ไม่อยู่มันขี้เกียจจะตายชัก”
ดาด้าว่าพลางแกะเกาลัดเคี้ยวตุ้ย
“กรุ๊ปพี่นนท์จะมาถึงกี่โมงอ่ะคะ”
เปิดประโยคสนทนาต่อมาก็ทำเอาลูกพี่สะอึก เอาแล้วไง เรียกซะสนิทเชียว ... ผลของการเปลี่ยนอดีตเริ่มปรากฏขึ้นที่นี่แล้ว
“อือ... ตามตารางก็น่าจะมาถึงเช้านี้แหละ”
หล่อนว่าอ้อมแอ้ม ใจหวิว ๆ เอกสารของกรุ๊ปวันนี้อยู่ที่ไหนนะ
หล่อนจะขอเอามาเปิดดูซักหน่อย ดูซิ ว่ามันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปอีกมั้ย รายชื่อสมาชิก คุณอิริค คุณซางฮุน หนุ่มเกาหลี อีก้าบ... แขนคนตัวเล็กเอื้อมไปสุดแขน ชั้นวางของแบบติดผนังที่ช่างทำดูจะสูงไปหน่อย ธาราตัดสินใจเหยียบโต๊ะปีนขึ้นไปมองหา ศอกเกะกะของเจ้าหล่อนนั้นก็ดันไปพลาดปัดตะกร้าใส่ปากการ่วงตกจากโต๊ะ ของจุกจิกในนั้นพลอยตกกระจายลงมาเรี่ยราดพื้นด้วย
“เอ้า ๆ จะเอาอะไรอ่ะเจ๊ เกลื่อนพื้นเลยดูสิ”
ดาด้าหันมาพูดอู้อี้ เกาลัดเต็มปาก ธาราไต่กลับลงมาจากโต๊ะ ส่ายหน้าอย่างหงุดหงิด
แต่เช้าเลยวันนี้ ฤกษ์ดีจริง
ปากกา ยางลบ กรรไกร เครื่องใช้สำนักงานชิ้นเล็ก ๆ ตกกระเด็นไปตามพื้น หญิงสาวจำต้องคลานก้มเก็บไปตามซอกโต๊ะ เก้าอี้ ของชิ้นหนึ่งดูแปลกตา ตกกลิ้งอยู่ข้าง ๆ ขาเก้าอี้ล้อเลื่อนของหล่อน หลังจากมุดเข้าไปเก็บออกมาพิจารณาดูใกล้ ๆ หล่อนจึงเห็นว่ามันเป็นก้อนหินสีเทาหม่น ๆ ขนาดหัวแม่มือรูปทรงรี ตรงกลางมีด้ายเก่า ๆ สีแดงซีด ๆ พันไว้โดยรอบ ธาราหมุนก้อนหินไปมาอย่างแปลกใจ
“อะไรของใครเนี่ย”
หล่อนพึมพำ ดาด้าลุกจากเก้าอี้มานั่งดูใกล้ ๆ ด้วย หล่อนทำตาโตร้องอ๋อ
“ของลุงชาติอ่ะเจ๊ เค้าเอามาให้เจ๊ตั้งนานละ หนูลืมบอก”
“อะไรอ่ะ”
ธาราเลือกจับตรงส่วนหัวกับปลายของก้อนหิน ไม่กล้าแตะตรงด้ายยุ่ย ๆ ตรงกลาง มันแลดูทั้งเก่าทั้งสกปรก ลุงชาติเอาเครื่องรางของขลังอะไรมาให้ก็ไม่รู้ น่ากลัวพิลึก
“แกว่าเป็นของยาย..อะไรซักอย่าง บ้านอยู่แถว ๆ น้ำตกภูสอยดาวนี่แหละ เห็นแกว่าเป็นเครื่องรางสาวรักสาวหลง อิอิ ด้าลืมไปละ แต่ลุงชาติเอามาให้พี่อ่ะ เปลี่ยนเป็นหนุ่มรักหนุ่มหลงแทนดีเปล่า พี่นนท์จะโกรธมั้ยน้อ...”
ดาริกาหัวเราะคิก ลุกจากพื้นไปเก็บถุงขนมบนโต๊ะทำงานของตัวเอง ธาราถือหินค้างไว้คิดอะไรครู่หนึ่ง ก่อนจะร้องเรียก
“ด้า ลุงชาติเอามาให้ตั้งแต่วันไหนนะ”
ดาริกาทำท่าคิด แล้วหล่อนก็ส่ายหน้า สีหน้ามึนงง
“คิดไม่ออก แปลกจัง ลืมจริง ๆ ด้าจำได้ว่าลุงชาตินี่แหละถือมา แต่...ไม่รู้อ่ะ เบลอ ๆ นึกวันไม่ออก”
ธาราถือหินสีเทาพันด้ายแดงค้างไว้อย่างนั้น ค่อย ๆ เดินกลับขึ้นมานั่งที่โต๊ะทำงาน หล่อนนึกถึงเหตุการณ์ประหลาดที่ไม่มีคำตอบให้กับตัวเอง เป็นปัญหาที่คลำหาปมไม่เจอ และหาวิธีแก้ไขไม่ได้ ก้อนหินนี้จะมีความหมายอะไรกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตของหล่อนหรือเปล่าก็ไม่รู้ หญิงสาวขยับนิ้วมือลงลูบด้ายสีแดงอย่างเลื่อนลอย
“วันนี้ลุงชาติจะเข้ามาออฟฟิศมั้ยด้า”
ดาริกาไม่ตอบคำถามนั้น ธาราจึงหันกลับไปมองหา แต่ ... ไม่มีดาด้าอยู่ที่นั่น
บนเก้าอี้ที่โต๊ะทำงานของลูกน้องสาว มีใครคนหนึ่งนั่งแทนที่อยู่ ใบหน้าขาวซีด ริมฝีปากเหยียดบางเป็นเส้นตรง ในมือถือบางอย่างหมุนช้า ๆ ตาไร้แววคู่นั้นสบนิ่งอยู่กับธารา หญิงสาวกระตุกตัวเองให้ขยับลุกขึ้นโดยอัตโนมัติ หล่อนพยายามหลับตาให้แน่นและสลัดหัวซ้ำ ๆ แล้วมองอีกที เพื่อให้มั่นใจว่าหล่อนไม่ได้ตาฝาดหรือฝันไป
ภาพตรงหน้ายังเหมือนเดิม หญิงชาวเขาค่อย ๆ เหยียดริมฝีปากขึ้นช้า ๆ หล่อนกำลังยิ้ม ... ในมือหมุนควงอะไรบางอย่างเร็วและแรงขึ้น เมื่อธาราเพ่งมองของในมือ ราวกับหล่อนจะรู้ ถึงความต้องการนั้น ภาพโต๊ะทำงานของดาริกาและเก้าอี้ของหล่อนไถลเลื่อนเข้ามาใกล้หล่อน เร็ว และไร้สุ้มเสียง มันดูราวกับหล่อนกำลังใช้นิ้วมือกวาดซูมรูปภาพในมือถือยังไงยังงั้น
ดวงตาคู่นั้นอยู่ใกล้กับหล่อนแค่เพียงช่วงแขน สิ่งของในมือที่หญิงชาวเขาถือเด่นชัดขึ้น ธาราเพิ่งเห็นว่ามันเป็นหินสีเทาพันด้ายแดงที่หล่อนเก็บได้นั่นเอง
บัดนี้มันอยู่ในมือของนางตรงหน้า และในมือของธารากลับว่างเปล่า
“คะ...คุณเป็นใคร?”
เสียงที่เค้นออกมาจากลำคอช่างดูยากเย็น หลังของธาราชิดติดผนังแล้ว หล่อนรู้สึกถึงมือที่เปียกชุ่ม ท้องเกร็งและกรามที่ขบกันจนปวด
รอบกายดูเงียบสงัดลงอย่างประหลาด เสียงนกร้อง เสียงผู้คนนอกออฟฟิศ แม้แต่เสียงของพัดลมในห้อง ทุกอย่างเงียบหายไปจนหมดสิ้น ธาราหายใจหอบแรง ตรงหน้าปากเหยียดยิ้มนั้นยังคงประกบติดกันแน่น ตาจ้องหล่อนเขม็ง ไม่มีการเคลื่อนไหวอื่นใดนอกไปจากนิ้วที่แกว่งควงหินสีเทาด้ายแดง
“คู่หมายหลายหน้า เสาะหาบ่เหมือนใจ๋ หวัน[1]ดวงติดด้าย ไหมแดงคล้องนาง”
เสียงดังเข้ามาในหูของธารา เสียงพูดช้า เนิบ เยียบเย็นและแหลมเล็กอย่างเสียงของผู้หญิง หน้าขาวซีดตรงหน้าของหล่อนยังคงจ้องมองหล่อนนิ่ง คอเริ่มเอียงช้า ๆ
“คุณต้องการอะไร”
ธารากลั้นใจพูด หัวใจเต้นรัวเร็ว หล่อนไม่มั่นใจเลย ว่าเจ้าหัวใจดวงนี้มันจะเต้นต่อไปได้อีกนานแค่ไหน ตาคู่นั้นแข็งทื่อ คอตั้งตรงอีกครั้ง ธารารู้สึกถึงลมที่พัดมาจากที่ไหนสักแห่ง มันหมุนวนโอบรอบตัวหล่อนกับผู้หญิงตรงหน้า
“คุณคือ...มะยีใช่มั้ย”
ดวงตาตรงหน้าหรี่ลง ก่อนเสียงหัวเราะจะระเบิดก้องเต็มสองหูของธารา ใบหน้าสวยซีดไร้อารมณ์นั้นดูเหมือนค่อย ๆ ลอยออกไปพร้อมกับลมที่หมุนคว้าง เสียงแหลมเล็กยังคงก้องดังอยู่ในหู
“ด้ายแดงก๋องใหญ่ หวันยุ่งวุ่นวาย คู่อิง[2]ญิงจาย หมั้นหมายดวงชะตา”
ลมที่พัดโหมกระหน่ำในออฟฟิศค่อยเงียบลง หินสีเทาร้อนวาบอยู่ในอุ้งมือของหญิงสาว หล่อนตกใจขว้างมันลงบนพื้นอย่างหวาดกลัว
“เจ๊....เจ๊เป็นอะไรอ่ะ”
ดาริกาเรียกลูกพี่เสียงแผ่ว มีความหวาดหวั่นปนอยู่ในน้ำเสียงนั้น ธารายังคงยืนตัวเกร็งหลังชิดผนัง หินพันด้ายแดงกลิ้งโค่โร่อยู่บนพื้นออฟฟิศ ดาริกามองมันอย่างไม่สบายใจ และไม่สบายใจยิ่งกว่าเมื่อเห็นท่าทีแปลก ๆ ของธารา
เสียงเคาะประตูเบา ๆ ข้างนอก พาให้สองร่างด้านในออฟฟิศกระตุกโหยง สองสาวหันไปมองอย่างระมัดระวัง ด้านหลังประตูปรากฏร่างของชายหนุ่ม ตัวสูง ผิวสีแทน ผมยักศกประต้นคอนั้นถูกรวบไว้ลวก ๆ ปล่อยบางส่วนเคลียเคราเขียวครึ้ม เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีเทาเข้ม ตัดแบบเข้ากันดีกับกางเกงยีนส์สีซีด ๆ นั่น ยืนยิ้มกว้างขณะดึงแว่นกันแดดออก
“ไม่ไปรอรับกันเลย...”
น้ำเสียงออดอ้อนที่ธาราฟังแล้วชวนขนลุก นี่เป็นนนทภัทรในลุคที่หล่อนไม่เห็นมาก่อน
“อ้าว.. มาถึงกันแล้วเหรอคะ แย่จัง”
ดาริการีบยกมือไหว้นนทภัทรยิ้มแหย ๆ ก่อนจะรีบคว้าเอกสารออกจากห้อง ธาราก็ด้วย หล่อนมัวทำอะไรอยู่เนี่ย ปล่อยให้ลูกค้ามารอได้ยังไงแย่จริง ๆ หญิงสาวหยิบแฟ้มงาน รีบร้อนตามออกไป นนทภัทรคว้าแขนหล่อนในเสี้ยวนาทีก่อนจะหมุนลูกบิดประตู
“สบชัยรอต้อนรับอยู่แล้วน่า ไม่ต้องรีบไปก็ได้”
คนตัวสูงรวบหญิงสาวมากอดไว้หลวม ๆ ธารายืนนิ่งตัวแข็ง นนทภัทรสูดกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากเส้นผม สัมผัสนั้นทำให้คนตรงหน้าปลายเท้าเบาหวิว แขนโอบกระชับเข้าอีกนิด เขากดปลายจมูกย้ำอีกครั้งที่แก้มนวล ธาราหดคอเบี่ยงหลบน้อย ๆ ใจวูบไหว
“คิดถึงจัง”
เขาว่าพลางโอบร่างบางแกว่งไปมาเบา ๆ วงแขนค่อยขยับกระชับเข้าอีกเมื่อเห็นคนในอ้อมแขนพยายามผลักดันออก
“เป็นอะไร งอนอะไรเค้ารึเปล่าน่ะ”
เขาพูดเสียงอ่อน
เค้า!!! ธาราเลือกแสดงอารมณ์ไม่ถูก นนทภัทรพูดคำว่า ‘เค้า’ กับหล่อน นี่จะต้องมีคำว่า ‘ตะเอง’ ตามมาอีกด้วยมั้ยเนี่ย...
หน้าขาวเริ่มผุดเหงื่อประปรายตามหน้าผาก เมื่อนนทภัทรหมุนตัวมายืนจ้องหน้าหล่อนตรง ๆ ธาราก็รู้สึกว่าหน้าเริ่มร้อน ไอร้อนเริ่มระอุไปทั่วร่างกาย คนตรงหน้ามองอาการนั้นแล้วยิ้ม
“แก้มแดงจัง น้ำเขินเค้าเหรอ”
ตาเงยขึ้นสบกับคนตรงหน้า เขายังคงเป็นนนทภัทรนั่นแหละ เป็นอีก้าบ เป็นเพื่อนร่วมกลุ่ม เป็นชายในฝัน เป็นคนเดิมที่หล่อนรู้จักดี เพียงแต่สายตาที่มองเขาหล่อนวันนี้ ...หล่อนไม่รู้จัก ไม่เคยเห็น สายตาที่อบอุ่น อ่อนหวาน หล่อนแทบจะละลายหายไปจากตรงนี้ เมื่อเคราเขียวครึ้มเอียงหน้ายื่นเข้ามาใกล้ ตาคมหลับพริ้ม ริมฝีปากอมยิ้มไว้จาง ๆ
เขาเป็นคนรักของหล่อน...ใช่มั้ย แล้วเขาเป็น “รัก” ของหล่อนจริง ๆ หรือเปล่า คำถามนั้นผุดขึ้นมากลางใจ มันเป็นของจริงหรืออำนาจอะไรมาผลักให้มีให้เป็นกันแน่...
[1] พัน
[2] คู่เคียงข้าง
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ