Destiny of Time โชคชะตาแห่งกาลเวลา
6.5
เขียนโดย Huzure
วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.55 น.
40 Time
12 วิจารณ์
40.22K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2558 15.15 น. โดย เจ้าของนิยาย
37) องค์กรรักษาเอกภาพเวลา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ(โรงเรียนมาเจสติกวิทยา 14.29)
............
จากความวุ่นวายเมื่อตอนเที่ยง ตอนนี้นักเรียนสามารถกลับเข้าไปเรียนได้ตามปกติแล้ว ส่วนอาจารย์บางท่านนั้นสละเวลาไปเป็นพยานในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
(เหตุการณ์ภายในโรงเรียนกลับมาสงบเหมือนเดิมแล้ว)
(หลังจากคนร้ายคนนั้นถูกจับ ทางตำรวจก็พาไปโรงพัก โดยมีอาจารย์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องส่วนหนึ่งตามไปด้วย)
(ซึ่งจริงๆ มันก็คงจะจบตั้งแต่คนๆนี้โดนจับ)
(แต่ว่า......)
(รินทร์... ยังคงไม่กลับมา)
โต๊ะเรียนของรินทร์... ยังคงไม่มีใครนั่ง เพื่อนร่วมห้องทุกคนก็ล้วนแต่แปลกใจ
เนลกับอั้มที่อยู่ห้องเดียวกันก็กังวลเรื่องของเธอเช่นกัน
(ตอนนั้นเราบอกให้รินทร์ออกไปข้างนอก... แต่...)
(เราบอกให้เธอไปไหนกันนะ? ทำไมถึงนึกไม่ออกเลย)
“เอาล่ะ หมดคาบสอนแล้ว!”
“นักเรียนทุกคนอย่าลืมทำการบ้านมาส่งในสัปดาห์ต่อไปด้วยล่ะ และอย่าลอกกันเด็ดขาด”
“ครับ/ค่า!”
อาจารย์ผู้สอนภาษาไทยเดินออกจากห้องทันทีหลังจากจบคาบสอน
พ้นบานประตูไปเท่านั้น นักเรียนในห้องส่วนใหญ่ก็บ่นกันอุตลุดเกี่ยวกับการบ้าน
“จารย์สั่งงานโคตรยากเลยว่ะ...”
“นั่นดิ... ไอ้รายงานนอกเวลานั่นก็บังคับให้ทำกี่หน้าไม่รู้”
“นี่ไม่ได้มาเรียนเพื่อทำการบ้านนะเฟ้ย! อยากกลับบ้านใจจะขาดแล้ว”
*กึกๆ*
อะ... โทรศัพท์ของฉันสั่น ไม่ใช่ว่าใครโทรเข้ามาหรอกนะ แต่เป็นญาดาต่างหากที่ส่งข้อความผ่านแอป Triangle Call มาต่างหาก
(ญาดานี่นา...)
[มีน อยู่กับรินทร์รึเปล่า?]
[ไม่ได้อยู่จ้ะ ว่าแต่มีอะไรหรอ]
[คือ... เราเห็นข่าวว่ามีโจรบุกปล้นธนาคารมหาพรใกล้ๆกับโรงเรียนที่พวกเธออยู่ แต่ตอนนี้กลับไม่มีการรายงานข่าวความคืบหน้ามาเลย]
[เราเป็นห่วงเลยจะโทรหารินทร์ แต่ก็ไม่รับสายเลย]
(ปล้นธนาคาร? ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่องนี้เลยล่ะ)
พอฉันทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดีๆ ทั้งคนร้ายที่บุกเข้ามาจับเด็กในโรงเรียนเป็นตัวประกัน และสิ่งที่ฉันบอกกับรินทร์เมื่อตอนเที่ยง
[หวังว่าคงไม่มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นนะ...]
[อ๊ะ เราต้องไปทำกายภาพบำบัดก่อนนะ ถ้ามีอะไรก็ฝากบอกมาด้วย]
ฉันไม่ได้ตอบญาดากลับไป ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
(เดี๋ยวสิ... ญาดารู้ข่าวพวกนั้น... ไม่ใช่ ต้องเรียกว่ายังจำข่าวพวกนั้นได้มากกว่า)
(เพราะญาดาสามารถรับรู้และจดจำเวลาได้ไม่เหมือนกับคนปกติ จากผลที่รินทร์แบ่งเวลาชีวิตให้ไป จึงมีผลข้างเคียงกับวงจรเวลาพื้นฐานของเธอด้วย)
(แย่แล้ว!!)
ฉันทุบโต๊ะก่อนจะรีบวิ่งออกมาด้านนอก เพื่อนร่วมห้องเรียนของฉันก็แปลกใจว่าทำไมฉันถึงรีบร้อนทั้งๆที่คาบเรียนต่อไปกำลังจะสอนแล้ว
และก็พอดีกับตอนที่อาจารย์กำลังจะเข้ามาสอนในคาบต่อมาพอดี
“ขอโทษนะคะ อาจารย์! ฉันขอไปข้างนอกสักครู่ค่ะ!”
อาจารย์ถูกฉันแทรกออกมา ก่อนที่ฉันจะเดินตามระเบียงทางเดินไปเรื่อยๆ เพื่อโทรหาวอร์เรน
[คุณกำลังเข้าสู่บริการรับฝากข้อควา-]
ฉันรีบวางสายทันที ตอนนี้สีหน้าฉันเริ่มจะรู้สึกไม่ดีแล้ว
(วอร์เรนก็ติดต่อไม่ได้... รินทร์ตอนนี้เป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้)
(มันเกิด... อะไรขึ้นกันแน่?)
............
สถานที่แห่งหนึ่ง 14.31
............
นรินทร์ตอนนี้อยู่ในที่ๆหนึ่ง ที่แม้แต่เธอเองก็ไม่รู้ว่าที่นี่นั้นคือที่ไหน
แขนขวาของเธอมีเครื่องมือสีดำบางอย่าง มีลักษณะคล้ายกำไลและมีขั้วที่เหมือนขั้วไฟฟ้าเล็กๆอยู่ส่วนด้านในของกำไลนั้น ซึ่ง
เพราะเธอพึ่งได้สติได้ไม่นาน โดยด้านหน้าของเธอนั้นมีจอมอนิเตอร์ขนาดกว้างตั้งอยู่ด้านหน้า
ห้องนี้เป็นห้องที่ค่อนข้างมืด เหมือนเป็นห้องในอาคารใดสักอาคารหนึ่งที่เธอถูกพาตัวมา
เธอยังคงทำสีหน้าดุดันหลังจากถูกพาตัวมาที่นี่
โดยตอนนี้คนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามจอมอนิเตอร์ของเธอนั้น...
คือชายคนหนึ่ง ที่อายุน่าจะราวๆ 25-29 มีรอยแผลเป็นที่เหมือนถูกของร้อนอยู่บริเวณหลังฝ่ามือกับท่อนแขนขวาของเขา ผมสีบรอนซ์ ตาดูเข้ม
(ทำไมฉันถึงต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ทุกทีเลย?)
(เรื่องแบบนี้นับวันจะยิ่งซับซ้อนมากขึ้นทุกที......)
ส่วนถ้าอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงถูกพามาที่นี่ได้งั้นหรอ?
คงต้องเท้าความถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นเล็กน้อย
............
ย้อนไปตอนที่ฉันเจอกับผู้ชายคนหนึ่งที่เข้ามาในธนาคารมหาพรหลังจากที่ควอสเดินหนีไปแล้ว
ผู้ชายคนนั้นอายุน่าจะราวๆวอร์เรน มีผมสีน้ำเงินดำ ผมยาวถึงไหล่และปัดด้านหน้า สูงเกือบจะเท่าวอร์เรนเลย ถึงจะหน้าตาดูซื่อๆก็เถอะ
เรื่องที่สำคัญกว่านั้นตอนนี้ คือต่อจากนี้ต่างหาก ฉันยังอึ้งกับเรื่องที่เขารู้จักชื่อฉันอยู่เลย
“คุณ...เป็นใครกัน ทำไมถึงรู้ชื่อฉัน?”
“...เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ที่สำคัญกว่านั้น”
“คุณทำอะไรกับคนพวกนี้”
“เอ๋?”
คนพวกนี้? เขาหมายถึงตำรวจ กับตัวประกันที่อยู่ที่นี่งั้นหรอ?
“คุณฆ่าพวกเขาใช่ไหม?”
“เ-เดี๋ยวสิ! เข้าใจผิดแล้ว นี่ไม่ใช่ฝีมือฉันนะ”
“คนที่ทำผิดก็ปฏิเสธกันทุกคนนั่นล่ะ แต่เลือดบนมือของคุณปฏิเสธไม่ได้หรอกครับ”
“เลือด......”
ฉันก้มหน้าไปดูมือของตัวเองที่เปื้อนเลือดของคุณตำรวจคนนั้น
“ไ-ไม่ใช่นะ นี่น่ะมัน---”
เขาเมินฉันและเดินไปยังศพของพนักงานคนหนึ่ง ใช้มือทาบร่างของเขาเหมือนจะอ่านช่วงเวลาที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
“แปลกมาก... ทำไมถึงเป็นแบบนี้?”
บ่นอะไรของเขาคนเดียวล่ะนั่น ฉันควรจะหนีจากที่นี่น่าจะดีกว่า
(ค่อยๆย่องหนีไปดีกว่า)
(ถ้าเขาสนใจอยู่กับทางนั้น อาจจะไม่รับรู้เกี่ยวกับเราก็ได้)
และทันทีที่ฉันขยับขาเพียงนิดเดียว...
“จะหนีไปไหนครับ?”
*ฟึบ*
ตัวของเขาก็มาอยู่ข้างหน้าฉันแล้ว หน้าของเขาอยู่ใกล้เรามากจนทำอะไรต่อไม่ถูกเลย
เขาหยิบของบางอย่างมาจากกระเป๋าเสื้อที่มีลักษณะเหมือนชุดประจำหน่วยงานอะไรสักอย่าง
ของชิ้นนั้น เป็นเครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายกำไลสีดำ แต่มีเป็นแค่ครึ่งเดียว และดูไฮเทคยังไงไม่รู้
เขาเอากำไลมาใส่ที่แขนฉันโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่กำไลมันจะพันรอบข้อมือฉันเองโดยอัตโนมัติ
*กึ้ก*
“เห้! คิดจะทำอะไร---”
*วูบ*
ร่างกายของฉันจู่ๆก็รู้สึกเคลื่อนไหวได้ช้าลง ทั้งๆที่พยายามขยับร่างกายไปปกติ แต่กว่าที่ร่างกายจะขยับตามใจนึกก็ผ่านมาระยะหนึ่งแล้ว
“น-นี่มัน...อา...รายกัน.........?”
“กำไลนั่นจะส่งผลให้ระบบประสาทของคุณทำงานติดขัดด้วยการกระตุ้นไฟฟ้าภายในกำไลมุ่งสู่เส้นประสาทโดยตรง”
“ผมคงต้องให้คุณไปไปกับพวกเราแล้วล่ะ...”
“ไปยังองค์กรรักษาเอกภาพ---”
สติของฉันอ่อนเกินกว่าจะรับรู้สิ่งที่เขาพูดมาเมื่อกี๊ได้...
............
*ฟึ่บ*
และพอฉันสะดุ้งลืมตาตื่นขึ้นมา...
ฉันก็นั่งอยู่ในรถสปอร์ตคันหนึ่ง โดยที่ผู้ชายคนนั้นเป็นคนขับ
“อะ ฟื้นแล้วหรอ”
“คุณไม่ตอบสนองผมนานมากเลย สงสัยเพราะกระแสไฟฟ้าที่เข้าไปขัดการทำงานระบบประสาทของคุณจะมากเกินไป”
“พวกคุณ...”
“หือ?”
“พวกคุณเป็นใครกันแน่...?”
“...... หน่วยหมาป่าล่าเวลาจากองค์กรรักษาเอกภาพเวลา”
“นั่นคือหน่วยงานที่ผมอาศัยอยู่”
“องค์กรรักษาเอกภาพเวลา?”
“คุณไม่รู้จักก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะองค์กรของพวกเราเปรียบเสมือนกับขั้วเวลาที่คนมองข้าม พวกเราอยู่ภายใต้ร่มเงาเวลาที่คนส่วนมากจะไม่รู้จัก เพื่อคอยจัดการและแก้ไขปัญหาจากการใช้ความสามารถในการบิดเบือนเวลาของเหล่า Keeper ในทางที่ผิด ซึ่งมักจะมีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นทั่วโลก ปัญหาพวกนั้นจะถูกจัดการโดยพวกเรา---”
“คุณเล่าวกไปวนมามากไปแล้ว! ช่วยเข้าเรื่องที่เกี่ยวกับฉันโดยตรงใน 2 บรรทัดได้ไหม!?”
เหมือนฉันจะฉีกหน้าเขาจนสังเกตได้เลย ก็ใครมันจะไปอยากฟังเรื่องยาวๆที่ดูน่ารำคาญแบบนั้นล่ะ
“เอ่อ... คุณเป็นผู้ต้องสงสัยในการฆ่าคนบริสุทธิ์และคนร้ายกลุ่มนั้นที่ธนาคารมหาพรน่ะครับ”
“เพราะงั้นทางผมซึ่งได้รับคำสั่งให้คอยติดตามคุณมาสักพักอยู่แล้ว จึงขอพาคุณไปอธิบายเรื่องทั้งหมดให้พวกเราฟังด้วยครับ”
“หา... ติดตามฉันมาสักพัก? คุณเป็นพวกสโตกเกอร์งั้นหรอ?”
“ไม่ช่าย!! ผมแค่สืบประวัติคุณมาเล็กน้อยเอง และคำสั่งที่ว่าคือให้คอยสังเกตพฤติกรรมคุณอยู่ห่างๆน่ะครับ!”
“ทำไมต้องทำแบบนั้นด้วย?”
“นั่นก็เพราะว่า... Keeper อย่างคุณใช้พลังในที่สาธารณะยังไงล่ะครับ และไม่ใช่ครั้งแรกด้วย”
“Keeper...? หมายถึงสถานะที่ฉันเป็นงั้นหรอ?”
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ ถ้าคุณไม่เข้าใจ ไว้ผมจะอธิบายตอนหลัง”
“แต่ตอนนี้......”
“คุณต้องไปชี้แจงเรื่องที่คุณทำลงไปพวกนั้นให้กับพวกเขาฟังซะก่อน...”
เขาจอดรถไว้ริมถนนที่มีช่องให้จอด
ตึกที่อยู่ติดกับถนนตรงจุดที่เขาขับมาจอด เป็นตึกที่สูงประมาณ 8 ชั้น ถูกตกแต่งด้วยสีเทาปนดำ มีลักษณะหลายอย่างที่ดูต่างกับตึกทั่วไป หรือจะเรียกว่าดูล้ำหน้าไปหน่อยก็ได้
“ที่นี่น่ะหรอ...... องค์กรรักษาเอกภาพเวลา......”
“...... นี่เป็นแค่สาขารองน่ะครับ”
“สาขารองไหงดูดีเงี้ยะ?”
“เรื่องนั้นผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน เอาเป็นว่าเข้าไปข้างในกันก่อนเถอะครับ”
เขาให้ฉันเดินเข้าไปข้างในตามหลังเขาที่สแกนนิ้วเข้าไป
ภายในตึกหลายอย่างดูทันสมัย แต่แทบไม่มีใครเดินอยู่เลย จะมีเดินสวนก็มีอยู่บ้าง เช่นผู้ชายหัวตั้งคนหนึ่ง ที่เหมือนจะเป็นประเภทเดียวกับเรา
เขามองมาทางที่ฉันช่วงที่เดินสวนกันด้วยสายตาเหมือนอยากจะอัดเรายังไงไม่รู้ แต่ฉันไม่สนใจเท่าไร
สิ่งที่ฉันสนใจในตอนนี้ คือต่อไปนี้ฉันจะโดนอะไรต่างหาก...
จนในที่สุด ฉันก็ถูกพาขึ้นไปที่ชั้น 7 ของตึกนี้
ซึ่งห้องที่เขาพาฉันเข้าไป... ก็คือห้องที่มีจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง
ตอนแรกไม่มีใครอยู่เลยนอกจากฉันและผู้ชายคนนั้นยืนอยู่ด้านหลังฉัน
ต่อจากนั้น... ก็มีผู้ชายอีกคนโผล่ออกมาจากไหนไม่รู้ในฝั่งตรงข้าม
ฉันรับรู้ได้ทันทีเลยว่าผู้ชายคนนั้นอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ต้น แต่ไม่ได้อยู่ในมิติเดียวกันกับฉัน
เขาเอามือเท้าขอบจอมอนิเตอร์ ก่อนที่จะเริ่มถามคำถามฉัน
“ยินดีต้อนรับสู่องค์กรรักษาเอกภาพเวลา”
“ผมมีเรื่องที่อยากให้คุณชี้แจงเยอะแยะเลยล่ะ... นรินทร์”
............
............
............
จากความวุ่นวายเมื่อตอนเที่ยง ตอนนี้นักเรียนสามารถกลับเข้าไปเรียนได้ตามปกติแล้ว ส่วนอาจารย์บางท่านนั้นสละเวลาไปเป็นพยานในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
(เหตุการณ์ภายในโรงเรียนกลับมาสงบเหมือนเดิมแล้ว)
(หลังจากคนร้ายคนนั้นถูกจับ ทางตำรวจก็พาไปโรงพัก โดยมีอาจารย์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องส่วนหนึ่งตามไปด้วย)
(ซึ่งจริงๆ มันก็คงจะจบตั้งแต่คนๆนี้โดนจับ)
(แต่ว่า......)
(รินทร์... ยังคงไม่กลับมา)
โต๊ะเรียนของรินทร์... ยังคงไม่มีใครนั่ง เพื่อนร่วมห้องทุกคนก็ล้วนแต่แปลกใจ
เนลกับอั้มที่อยู่ห้องเดียวกันก็กังวลเรื่องของเธอเช่นกัน
(ตอนนั้นเราบอกให้รินทร์ออกไปข้างนอก... แต่...)
(เราบอกให้เธอไปไหนกันนะ? ทำไมถึงนึกไม่ออกเลย)
“เอาล่ะ หมดคาบสอนแล้ว!”
“นักเรียนทุกคนอย่าลืมทำการบ้านมาส่งในสัปดาห์ต่อไปด้วยล่ะ และอย่าลอกกันเด็ดขาด”
“ครับ/ค่า!”
อาจารย์ผู้สอนภาษาไทยเดินออกจากห้องทันทีหลังจากจบคาบสอน
พ้นบานประตูไปเท่านั้น นักเรียนในห้องส่วนใหญ่ก็บ่นกันอุตลุดเกี่ยวกับการบ้าน
“จารย์สั่งงานโคตรยากเลยว่ะ...”
“นั่นดิ... ไอ้รายงานนอกเวลานั่นก็บังคับให้ทำกี่หน้าไม่รู้”
“นี่ไม่ได้มาเรียนเพื่อทำการบ้านนะเฟ้ย! อยากกลับบ้านใจจะขาดแล้ว”
*กึกๆ*
อะ... โทรศัพท์ของฉันสั่น ไม่ใช่ว่าใครโทรเข้ามาหรอกนะ แต่เป็นญาดาต่างหากที่ส่งข้อความผ่านแอป Triangle Call มาต่างหาก
(ญาดานี่นา...)
[มีน อยู่กับรินทร์รึเปล่า?]
[ไม่ได้อยู่จ้ะ ว่าแต่มีอะไรหรอ]
[คือ... เราเห็นข่าวว่ามีโจรบุกปล้นธนาคารมหาพรใกล้ๆกับโรงเรียนที่พวกเธออยู่ แต่ตอนนี้กลับไม่มีการรายงานข่าวความคืบหน้ามาเลย]
[เราเป็นห่วงเลยจะโทรหารินทร์ แต่ก็ไม่รับสายเลย]
(ปล้นธนาคาร? ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่องนี้เลยล่ะ)
พอฉันทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดีๆ ทั้งคนร้ายที่บุกเข้ามาจับเด็กในโรงเรียนเป็นตัวประกัน และสิ่งที่ฉันบอกกับรินทร์เมื่อตอนเที่ยง
[หวังว่าคงไม่มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นนะ...]
[อ๊ะ เราต้องไปทำกายภาพบำบัดก่อนนะ ถ้ามีอะไรก็ฝากบอกมาด้วย]
ฉันไม่ได้ตอบญาดากลับไป ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
(เดี๋ยวสิ... ญาดารู้ข่าวพวกนั้น... ไม่ใช่ ต้องเรียกว่ายังจำข่าวพวกนั้นได้มากกว่า)
(เพราะญาดาสามารถรับรู้และจดจำเวลาได้ไม่เหมือนกับคนปกติ จากผลที่รินทร์แบ่งเวลาชีวิตให้ไป จึงมีผลข้างเคียงกับวงจรเวลาพื้นฐานของเธอด้วย)
(แย่แล้ว!!)
ฉันทุบโต๊ะก่อนจะรีบวิ่งออกมาด้านนอก เพื่อนร่วมห้องเรียนของฉันก็แปลกใจว่าทำไมฉันถึงรีบร้อนทั้งๆที่คาบเรียนต่อไปกำลังจะสอนแล้ว
และก็พอดีกับตอนที่อาจารย์กำลังจะเข้ามาสอนในคาบต่อมาพอดี
“ขอโทษนะคะ อาจารย์! ฉันขอไปข้างนอกสักครู่ค่ะ!”
อาจารย์ถูกฉันแทรกออกมา ก่อนที่ฉันจะเดินตามระเบียงทางเดินไปเรื่อยๆ เพื่อโทรหาวอร์เรน
[คุณกำลังเข้าสู่บริการรับฝากข้อควา-]
ฉันรีบวางสายทันที ตอนนี้สีหน้าฉันเริ่มจะรู้สึกไม่ดีแล้ว
(วอร์เรนก็ติดต่อไม่ได้... รินทร์ตอนนี้เป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้)
(มันเกิด... อะไรขึ้นกันแน่?)
............
สถานที่แห่งหนึ่ง 14.31
............
นรินทร์ตอนนี้อยู่ในที่ๆหนึ่ง ที่แม้แต่เธอเองก็ไม่รู้ว่าที่นี่นั้นคือที่ไหน
แขนขวาของเธอมีเครื่องมือสีดำบางอย่าง มีลักษณะคล้ายกำไลและมีขั้วที่เหมือนขั้วไฟฟ้าเล็กๆอยู่ส่วนด้านในของกำไลนั้น ซึ่ง
เพราะเธอพึ่งได้สติได้ไม่นาน โดยด้านหน้าของเธอนั้นมีจอมอนิเตอร์ขนาดกว้างตั้งอยู่ด้านหน้า
ห้องนี้เป็นห้องที่ค่อนข้างมืด เหมือนเป็นห้องในอาคารใดสักอาคารหนึ่งที่เธอถูกพาตัวมา
เธอยังคงทำสีหน้าดุดันหลังจากถูกพาตัวมาที่นี่
โดยตอนนี้คนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามจอมอนิเตอร์ของเธอนั้น...
คือชายคนหนึ่ง ที่อายุน่าจะราวๆ 25-29 มีรอยแผลเป็นที่เหมือนถูกของร้อนอยู่บริเวณหลังฝ่ามือกับท่อนแขนขวาของเขา ผมสีบรอนซ์ ตาดูเข้ม
(ทำไมฉันถึงต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ทุกทีเลย?)
(เรื่องแบบนี้นับวันจะยิ่งซับซ้อนมากขึ้นทุกที......)
ส่วนถ้าอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงถูกพามาที่นี่ได้งั้นหรอ?
คงต้องเท้าความถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นเล็กน้อย
............
ย้อนไปตอนที่ฉันเจอกับผู้ชายคนหนึ่งที่เข้ามาในธนาคารมหาพรหลังจากที่ควอสเดินหนีไปแล้ว
ผู้ชายคนนั้นอายุน่าจะราวๆวอร์เรน มีผมสีน้ำเงินดำ ผมยาวถึงไหล่และปัดด้านหน้า สูงเกือบจะเท่าวอร์เรนเลย ถึงจะหน้าตาดูซื่อๆก็เถอะ
เรื่องที่สำคัญกว่านั้นตอนนี้ คือต่อจากนี้ต่างหาก ฉันยังอึ้งกับเรื่องที่เขารู้จักชื่อฉันอยู่เลย
“คุณ...เป็นใครกัน ทำไมถึงรู้ชื่อฉัน?”
“...เรื่องนั้นช่างมันเถอะ ที่สำคัญกว่านั้น”
“คุณทำอะไรกับคนพวกนี้”
“เอ๋?”
คนพวกนี้? เขาหมายถึงตำรวจ กับตัวประกันที่อยู่ที่นี่งั้นหรอ?
“คุณฆ่าพวกเขาใช่ไหม?”
“เ-เดี๋ยวสิ! เข้าใจผิดแล้ว นี่ไม่ใช่ฝีมือฉันนะ”
“คนที่ทำผิดก็ปฏิเสธกันทุกคนนั่นล่ะ แต่เลือดบนมือของคุณปฏิเสธไม่ได้หรอกครับ”
“เลือด......”
ฉันก้มหน้าไปดูมือของตัวเองที่เปื้อนเลือดของคุณตำรวจคนนั้น
“ไ-ไม่ใช่นะ นี่น่ะมัน---”
เขาเมินฉันและเดินไปยังศพของพนักงานคนหนึ่ง ใช้มือทาบร่างของเขาเหมือนจะอ่านช่วงเวลาที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
“แปลกมาก... ทำไมถึงเป็นแบบนี้?”
บ่นอะไรของเขาคนเดียวล่ะนั่น ฉันควรจะหนีจากที่นี่น่าจะดีกว่า
(ค่อยๆย่องหนีไปดีกว่า)
(ถ้าเขาสนใจอยู่กับทางนั้น อาจจะไม่รับรู้เกี่ยวกับเราก็ได้)
และทันทีที่ฉันขยับขาเพียงนิดเดียว...
“จะหนีไปไหนครับ?”
*ฟึบ*
ตัวของเขาก็มาอยู่ข้างหน้าฉันแล้ว หน้าของเขาอยู่ใกล้เรามากจนทำอะไรต่อไม่ถูกเลย
เขาหยิบของบางอย่างมาจากกระเป๋าเสื้อที่มีลักษณะเหมือนชุดประจำหน่วยงานอะไรสักอย่าง
ของชิ้นนั้น เป็นเครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายกำไลสีดำ แต่มีเป็นแค่ครึ่งเดียว และดูไฮเทคยังไงไม่รู้
เขาเอากำไลมาใส่ที่แขนฉันโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่กำไลมันจะพันรอบข้อมือฉันเองโดยอัตโนมัติ
*กึ้ก*
“เห้! คิดจะทำอะไร---”
*วูบ*
ร่างกายของฉันจู่ๆก็รู้สึกเคลื่อนไหวได้ช้าลง ทั้งๆที่พยายามขยับร่างกายไปปกติ แต่กว่าที่ร่างกายจะขยับตามใจนึกก็ผ่านมาระยะหนึ่งแล้ว
“น-นี่มัน...อา...รายกัน.........?”
“กำไลนั่นจะส่งผลให้ระบบประสาทของคุณทำงานติดขัดด้วยการกระตุ้นไฟฟ้าภายในกำไลมุ่งสู่เส้นประสาทโดยตรง”
“ผมคงต้องให้คุณไปไปกับพวกเราแล้วล่ะ...”
“ไปยังองค์กรรักษาเอกภาพ---”
สติของฉันอ่อนเกินกว่าจะรับรู้สิ่งที่เขาพูดมาเมื่อกี๊ได้...
............
*ฟึ่บ*
และพอฉันสะดุ้งลืมตาตื่นขึ้นมา...
ฉันก็นั่งอยู่ในรถสปอร์ตคันหนึ่ง โดยที่ผู้ชายคนนั้นเป็นคนขับ
“อะ ฟื้นแล้วหรอ”
“คุณไม่ตอบสนองผมนานมากเลย สงสัยเพราะกระแสไฟฟ้าที่เข้าไปขัดการทำงานระบบประสาทของคุณจะมากเกินไป”
“พวกคุณ...”
“หือ?”
“พวกคุณเป็นใครกันแน่...?”
“...... หน่วยหมาป่าล่าเวลาจากองค์กรรักษาเอกภาพเวลา”
“นั่นคือหน่วยงานที่ผมอาศัยอยู่”
“องค์กรรักษาเอกภาพเวลา?”
“คุณไม่รู้จักก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะองค์กรของพวกเราเปรียบเสมือนกับขั้วเวลาที่คนมองข้าม พวกเราอยู่ภายใต้ร่มเงาเวลาที่คนส่วนมากจะไม่รู้จัก เพื่อคอยจัดการและแก้ไขปัญหาจากการใช้ความสามารถในการบิดเบือนเวลาของเหล่า Keeper ในทางที่ผิด ซึ่งมักจะมีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นทั่วโลก ปัญหาพวกนั้นจะถูกจัดการโดยพวกเรา---”
“คุณเล่าวกไปวนมามากไปแล้ว! ช่วยเข้าเรื่องที่เกี่ยวกับฉันโดยตรงใน 2 บรรทัดได้ไหม!?”
เหมือนฉันจะฉีกหน้าเขาจนสังเกตได้เลย ก็ใครมันจะไปอยากฟังเรื่องยาวๆที่ดูน่ารำคาญแบบนั้นล่ะ
“เอ่อ... คุณเป็นผู้ต้องสงสัยในการฆ่าคนบริสุทธิ์และคนร้ายกลุ่มนั้นที่ธนาคารมหาพรน่ะครับ”
“เพราะงั้นทางผมซึ่งได้รับคำสั่งให้คอยติดตามคุณมาสักพักอยู่แล้ว จึงขอพาคุณไปอธิบายเรื่องทั้งหมดให้พวกเราฟังด้วยครับ”
“หา... ติดตามฉันมาสักพัก? คุณเป็นพวกสโตกเกอร์งั้นหรอ?”
“ไม่ช่าย!! ผมแค่สืบประวัติคุณมาเล็กน้อยเอง และคำสั่งที่ว่าคือให้คอยสังเกตพฤติกรรมคุณอยู่ห่างๆน่ะครับ!”
“ทำไมต้องทำแบบนั้นด้วย?”
“นั่นก็เพราะว่า... Keeper อย่างคุณใช้พลังในที่สาธารณะยังไงล่ะครับ และไม่ใช่ครั้งแรกด้วย”
“Keeper...? หมายถึงสถานะที่ฉันเป็นงั้นหรอ?”
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ ถ้าคุณไม่เข้าใจ ไว้ผมจะอธิบายตอนหลัง”
“แต่ตอนนี้......”
“คุณต้องไปชี้แจงเรื่องที่คุณทำลงไปพวกนั้นให้กับพวกเขาฟังซะก่อน...”
เขาจอดรถไว้ริมถนนที่มีช่องให้จอด
ตึกที่อยู่ติดกับถนนตรงจุดที่เขาขับมาจอด เป็นตึกที่สูงประมาณ 8 ชั้น ถูกตกแต่งด้วยสีเทาปนดำ มีลักษณะหลายอย่างที่ดูต่างกับตึกทั่วไป หรือจะเรียกว่าดูล้ำหน้าไปหน่อยก็ได้
“ที่นี่น่ะหรอ...... องค์กรรักษาเอกภาพเวลา......”
“...... นี่เป็นแค่สาขารองน่ะครับ”
“สาขารองไหงดูดีเงี้ยะ?”
“เรื่องนั้นผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน เอาเป็นว่าเข้าไปข้างในกันก่อนเถอะครับ”
เขาให้ฉันเดินเข้าไปข้างในตามหลังเขาที่สแกนนิ้วเข้าไป
ภายในตึกหลายอย่างดูทันสมัย แต่แทบไม่มีใครเดินอยู่เลย จะมีเดินสวนก็มีอยู่บ้าง เช่นผู้ชายหัวตั้งคนหนึ่ง ที่เหมือนจะเป็นประเภทเดียวกับเรา
เขามองมาทางที่ฉันช่วงที่เดินสวนกันด้วยสายตาเหมือนอยากจะอัดเรายังไงไม่รู้ แต่ฉันไม่สนใจเท่าไร
สิ่งที่ฉันสนใจในตอนนี้ คือต่อไปนี้ฉันจะโดนอะไรต่างหาก...
จนในที่สุด ฉันก็ถูกพาขึ้นไปที่ชั้น 7 ของตึกนี้
ซึ่งห้องที่เขาพาฉันเข้าไป... ก็คือห้องที่มีจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง
ตอนแรกไม่มีใครอยู่เลยนอกจากฉันและผู้ชายคนนั้นยืนอยู่ด้านหลังฉัน
ต่อจากนั้น... ก็มีผู้ชายอีกคนโผล่ออกมาจากไหนไม่รู้ในฝั่งตรงข้าม
ฉันรับรู้ได้ทันทีเลยว่าผู้ชายคนนั้นอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ต้น แต่ไม่ได้อยู่ในมิติเดียวกันกับฉัน
เขาเอามือเท้าขอบจอมอนิเตอร์ ก่อนที่จะเริ่มถามคำถามฉัน
“ยินดีต้อนรับสู่องค์กรรักษาเอกภาพเวลา”
“ผมมีเรื่องที่อยากให้คุณชี้แจงเยอะแยะเลยล่ะ... นรินทร์”
............
............
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ