Destiny of Time โชคชะตาแห่งกาลเวลา
6.5
เขียนโดย Huzure
วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.55 น.
40 Time
12 วิจารณ์
40.24K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2558 15.15 น. โดย เจ้าของนิยาย
35) การหวนคืนของเวลา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ(ธนาคารมหาพร 13.05)
............
ในตอนนี้ ฉันเข้ามาภายในธนาคารแล้ว โดยอาศัยประตูอาคารที่เปิดอ้าไว้ตั้งแต่แรกเพื่อแอบเข้ามาโดยไม่มีใครสัมผัสตัวตนของฉันได้
(ตอนแรกก็กะจะจัดการพวกนั้นพร้อมกันอยู่หรอก)
(แต่ถ้าคนนั้นไม่ลากตัวประกันออกมาข้างนอก คงไม่ต้องเสียเวลาเพิ่มแบบนี้)
(หวังว่าผู้หญิงคนนั้นจะบอกให้พวกตำรวจด้านนอกเชื่อได้นะ ไม่งั้นเป็นปัญหาใหญ่แน่)
ระหว่างที่ฉันมัวแต่คิดแบบนั้น มีพวกมันสามคนเดินออกมาดูเหตุการณ์ด้านนอกว่าเกิดอะไรขึ้น
“อ๊ะ... เจ้านั่นโดนอัดร่วงไปแล้ว!!”
“ฝีมือใครกัน!? ตัวประกันก็หนีไปได้ด้วย!!”
พวกมันระวังตัวมากขึ้น ยืนหันหลังชนกันเป็นสามมุม พยายามดูรอบห้องอย่างละเอียด
ก็ถือว่ารอบคอบดีแหละนะ แต่ว่า...
มันก็ไม่ได้ยากเกินไปที่ฉันจะจัดการพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
ฉันโผล่ขึ้นมาต่อหน้าคนๆหนึ่งในหมู่พวกเขา... ก่อนที่จะใช้เท้าเตะประทับหน้าของคนๆนั้นเข้าอย่างจัง
อีกสองคนนั้นเมื่อรู้ตัวว่าฉันโผล่มาแบบทันควัน ก็รีบหันปืนเตรียมจะยิงทันที
“แกเองหรอ!!”
ก่อนที่พวกเขาสองคนจะยิง ฉันรีบคว้าปืนกลเบาที่อยู่บนมือของคนที่กำลังจะล้มจากลูกเตะของฉันไว้
และฟาดไปที่ปืนของคนทางซ้ายจนเสียหลักลั่นไกไม่ได้ ขณะที่อีกคนเห็นเหตุการณ์นั้นจึงยิงออกมาในทันที
*ปั้ง*
ลูกกระสุนของเขาลอยค้างก่อนถึงขมับขวาของฉันเพียง 30 เซน
คนร้ายที่ยิงปืนคนนั้นถึงกับช็อคไปวูบหนึ่ง ยิ่งกระสุนลูกนั้นหายไปต่อหน้าต่อตาเพราะฉัน ลบเวลาวัตถุ ให้หายไปเหมือนกับที่ลบความทรงจำให้ไม่เคยมีอยู่
“เห้ย!”
“เ-เวทย์มนต์งั้นหรอ!?”
เวทย์มนต์... จะว่าไปฉันก็คิดอยู่เหมือนกันว่าพลังที่ฉันใช้พวกนี้มันเหมือนกับเวทย์มนต์ แต่มันก็มีหลายจุดที่ต่างอยู่เหมือนกัน
ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องมองข้ามความสงสัยในหัวชั่วขณะนั้นก่อน ตอนนั้นฉันจับพานท้ายปืนที่ถืออยู่ด้วยสองมือ และฟาดลงไหล่ขวาของเขาจนปืนร่วงลงมาเพราะแขนกระตุกจากการกระแทกอย่างแรง
พอฉันเอาปืนฟาดจังหวะนั้น ฉันปล่อยปืนทิ้งทันที และใช้ขาซ้ายยึดพื้น ก่อนจะหมุนตัวเตะด้วยเท้าขวา
“ย๊าก!”
ส้นเท้าของฉันตอกเข้าไปที่แก้มขวาผู้ชายคนนั้น ตาเขาเหลือกออกมา ก่อนจะกระเด็นไปเล็กน้อยจากแรงกระแทก
คนนั้นหมดสติไปแล้ว ซึ่งตอนนี้เหลืออยู่สองคนมีสติอยู่
เผลอไปเพียงครู่เดียว คนที่โดนฉันเตะอัดหน้าล้มไปในตอนแรก ก็พุ่งเข้ามาตะครุบตัวฉันไว้จากด้านหลัง
“ได้ตัวแล้ว!!”
“ทีนี้แกก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว---”
คนๆนั้นยืนงง เพราะฉันหายไปจากร่องแขนที่เขาตะครุบตัวฉันไว้ นั่นก็เพราะ...
ฉันข้ามเวลาย้อนกลับมายังตำแหน่งก่อนที่จะอัดพวกมันทั้งสามคนไงล่ะ......
*ข้ามเวลาย้อนกลับ*
เจ้านั่นหันตัวมาทางฉัน ซึ่งได้จังหวะเดียวกันกับที่ฉันเตรียมพร้อมพอดี
ฉันใช้ขาขวาสอดไปแถวขาขวาของเขา และงัดให้สูงขึ้น โดยแขนของฉันล็อคแขนขวาของเจ้านั่นเอาไว้
เมื่อท่าทางของฉันพร้อม ฉันยกขาพร้อมกับออกแรงที่แขน ตวัดร่างของเขาให้ลอยขึ้นมา
“อะ...”
*ตู้ม*
ฉันทุ่มเจ้านั่นด้วยท่ายูโดจากชมรมที่ฉันฝึกมา แรงที่ตัวของเขากระแทกลงพื้นมากพอที่จะทำให้เขาขยับเขยื้อนไม่ได้ไปชั่วขณะ
ส่วนอีกคนที่อยู่ข้างหลังฉันตอนนี้ เล็งปืนจ่อหัวฉันจากด้านหลังอยู่
“ย-ยัยปีศาจ! ตายซะเถอะ!”
*ปั้ง*
............
เวลาภายในอาคารนี้ถูกฉันหยุดเอาไว้ ดังนั้นกระสุนที่เจ้านั่นยิงออกมาก็จะต้องถูกหยุดอยู่กับที่ รวมถึงตัวเขาเองก็ด้วย
เมื่อเวลาถูกหยุดเช่นนี้ ฉันเลยเดินเข้าไปใกล้ตัวเขามากขึ้น พร้อมกับโยกหัวหลบกระสุนและทิศทางที่ปากกระบอกปืนเล็งอยู่
ทันใดนั้น เมื่อเวลาเดินตามปกติ...
*ปั้งๆๆๆๆๆ*
“!?”
ฉันยืนอยู่ตรงหน้าเขา โดยมีปากกระบอกปืนผ่านแก้มขวาฉันไป
พอเขารู้สึกตัวว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ ฉันก็กางมือทั้งสองข้างออกอย่างกว้าง
และก็ตบหน้าเขาพร้อมกันอย่างแรง!
*เพี้ยะ!!*
หน้าของเขาบู้บี้ไปเลย มีคราบน้ำตาไหลออกมาเล็กน้อยด้วย และเขาก็ค่อยๆล้มลงไปชักกระตุกอยู่บนพื้น
“โอย... เจ็บๆๆๆๆ”
“ไม่น่าตบเต็มแรงเลย!”
“อย่างว่าแหละ... ต่อให้ดึงพลังกายได้เยอะยังไง ก็ยังไม่ได้อยู่ในระดับที่จะไม่เจ็บตัวเลยนี่นา”
มัวแต่เจ็บมือแบบนั้น เสียงตำรวจก็เริ่มรุกกรูจะเข้ามาข้างในอาคารแล้ว
(แย่ล่ะสิ! ต้องรีบเข้าไปช่วยตัวประกัน!)
เพราะฉันมัวแต่วุ่นจัดการคนร้าย 3 คนนี่ ทำให้ฉันแทบจะลืมเรื่องตัวประกันไปซะสนิทเลย
ฉันรีบวิ่งเข้าไปในห้องด้านในอาคาร ก็เห็นหัวหน้าโจรยืนอยู่ตรงกลางห้องอย่างใจเย็น และตัวประกันทุกคนยังปลอดภัยดี...
(โล่งอกไปที... นึกว่าจะเกิดเรื่องแย่ๆขึ้นซะแล้ว)
(เอาล่ะ... ทีนี้ก็เหลือแต่หมอนั่น---)
“นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ!!”
“ทิ้งอาวุธแล้วยกมือไว้บนหัวซะ!!”
ตำรวจ 5 นายเข้ามาในนี้แล้ว... และตอนนี้เขาก็ยังคงยืนนิ่งหลังจากเห็นตำรวจ
เขาปล่อยปืนไว้ที่พื้น ก่อนจะยกมือขึ้นเหนือหัว
“พาดไว้หลังหัว!”
เขาเปลี่ยนท่าไปพาดไว้หลังหัว ดูเหมือนเขาจะยอมจำนน ตัวประกันในห้อง 5 คนก็ยิ้มดีใจที่ตำรวจมาช่วยแล้ว
แต่ทำไมไม่รู้... ฉันกลับไม่รู้สึกเช่นนั้นเลย
(มีอะไรบางอย่างแปลกๆ)
(เจ้านี่... ไม่แสดงท่าทีกระวนกระวายเลย ทั้งๆที่น่าจะรู้ว่าตอนนี้ตัวเองจนมุม และลูกน้องก็โดนจัดการไปหมดแล้ว)
และดูเหมือน...
ลางสังหรณ์ของฉันจะเป็นจริง...
ภาพที่ทุกคนในห้องตายเข้ามาในหัวของฉัน......
เจ้าหน้าที่ค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ตัวคนร้ายอย่างช้าๆ ซึ่งมันตรงกับภาพที่ฉันเห็นอยู่ในหัวเมื่อกี๊...
“อย่านะ!!”
หัวหน้าโจรคนนั้นยิ้มออกมา... และรีบคว้าปืนที่โยนทิ้งไปด้วยความเร็วผิดมนุษย์มนาจนตำรวจทำอะไรไม่ทัน
*ปั้งๆๆๆๆ*
ตำรวจทั้ง 5 นาย ที่อยู่ข้างหน้าฉัน... ถูกยิงในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันอย่างรวดเร็ว
“ไม่น้าาาาาาา!!!”
พวกเขา...
ตายแล้ว......
เมื่อฉันเห็นเหตุการณ์ไม่ดี ฉันพยายามที่จะช่วยชีวิตตัวประกันทุกคน
เขาเล็งปืนไปที่ผู้ชายที่เป็นผู้จัดการสาขา ฉันรีบพุ่งเข้าไปยืนขวางทางกระสุนอย่างไว
*ปั้ง*
กระสุนยิงไม่ผ่านตัวฉัน... ซึ่งพลังนั้นไม่ใช่การหยุดเวลาแบบที่ใช้กับคนพวกนั้น
แต่เป็น “การรักษาสภาพเวลา” ที่จะทำให้การแทรกแซงเวลาของผู้ใช้อื่นนั้นไร้ผลในขอบเขตผู้ใช้
ถ้าการรักษาสภาพเวลามีผลกับกระสุนที่เขายิงมา... มันมีเพียงคำตอบเดียวสำหรับเรื่องนี้แล้ว
“นาย...... เป็นผู้เชื่อมต่อเวลางั้นหรอ?”
ใบหน้าที่หัวหน้าโจรคนนั้นยิ้มอย่างสะใจออกมา ก่อนจะหัวเราะดังลั่นห้อง
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”
“......ผู้เชื่อมต่อ? คืออะไรวะ!!”
“ว่าไงนะ!?”
“อ๋อ แต่ถ้าเธอหมายถึงไอ้นี่ล่ะก็...”
*ฟึ่บ*
“ฉันรู้จักดีเลยล่ะ!!”
เจ้าหมอนั่น... โผล่มาอยู่ข้างหลังของฉัน
(ตั้งแต่เมื่อไร!?)
หมอนั่น... ใช้หลังมือซ้ายเหวี่ยงใส่ฉันเต็มแรง ถึงฉันจะสามารถป้องกันได้ด้วยท่อนแขนทันเวลา แต่แรงของเขาเยอะจนทำให้ฉันกระเด็นออกมาเกือบ 8 เมตร จนกระเด้งไปโดนโต๊ะที่ตั้งอยู่ในห้อง
“โฮ่ว... ยังสติดีอยู่งั้นเหรอ?”
“เห็นเธอมาด้อมๆมองๆอยู่ตั้งแต่แรก ก็แปลกใจอยู่ว่าทำไมถึงไม่มีใครสังเกตเห็น”
“ขนาดว่าตั้งใจขว้างโทรศัพท์ใส่ยังไม่สะทกสะท้านอะไรอีก”
(...เจ้านั่นเห็นฉันตั้งแต่แรกงั้นหรอ!? ถึงว่าตอนปามือถือมาดูไม่ได้ปาแบบสุ่มๆ)
แรงอัดของเจ้านั่นถือว่าแรงอยู่ แต่ก็ยังไม่มากขนาดทำให้ฉันหมดสติได้ในการโจมตีครั้งเดียว... แต่สิ่งที่ทำให้ฉันสะเทือนใจยิ่งกว่า
คือหลังจากฉันเงยหน้าขึ้นมา... ก็เจอศพตำรวจ 4 นาย... กับอีกคนที่ทรมานจากการถูกยิงอยู่ มันทำให้ฉันนั่งมองตาค้างด้วยความช็อคและความโกรธ
“เอ้า เอ้า เอ้า! มัวแต่นั่งนิ่งอยู่ได้”
“ถ้าไม่หยุดฉันล่ะก็... ไอ้เบื๊อกนี่จะต้องไปลงนรกนะ!!”
มันหันปืนเล็งใส่ผู้จัดการสาขาที่เอามือป้องหัวตัวเองไว้
“หัวหน้า!!”
ฉันไม่มีทางปล่อยให้มันได้ทำอะไรตามอำเภอใจเด็ดขาด
“หยุดนะ!!”
“เขตแดนชั่วคราว!!”
*ฮูม!!*
ฉันใช้ความสามารถในการเคลื่อนย้ายมิติชั่วคราว เพื่อลากเจ้านั่น... มาในมิติว่างเปล่าพร้อมกับฉันในพื้นที่ที่จำกัด
ซึ่งจากผลลัพธ์นั้น ทำให้คนในธนาคารไม่เห็นพวกเราสองคนที่ถูกย้ายมายังมิติว่างเปล่า... สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนที่อยู่ในห้องนั้น
ไม่ใช่เพียงแค่คนในมิติแห่งความจริงเท่านั้นที่ประหลาดใจ หัวหน้าโจรที่ถูกดึงมายังมิติว่างเปล่าเองก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน
“ที่ไหนวะ?”
“เธอใช้เวทมนตร์อะไรถึงทำพื้นที่บ้าๆนี้ขึ้นมาได้?”
“มัน... ไม่ใช่เวทมนตร์... หรืออะไรทั้งนั้น...”
ฉันค่อยๆทรงตัวขึ้นมาหลังจากนั่งพักมาสักพัก
“เพียงเท่านี้... นายก็จะ... ทำอะไรตัวประกันไม่ได้แล้ว......”
“......หึ...”
“เป็นห่วงตัวประกันมากกว่าชีวิตตัวเองงั้นหรอ? เธอนี่ช่างเป็นแม่พระซะจริง”
มันหยิบสายที่คล้องคออยู่ใต้เสื้อออกมาไว้ด้านนอก
มันคือนาฬิกา... เป็นลักษณะเหมือนฟันเฟืองไม้ที่มีอักษรโรมันเป็นตัวเลขระบุเวลา
“น-นั่นมัน......”
“โฮ่ว... เธอรู้จักเจ้านี่ด้วยเหรอ?”
“นึกว่าจะมีแต่ฉันซะอีกที่ได้พลังพระเจ้ามาแบบนี้”
“รู้รึเปล่า... พลังพระเจ้าที่วัตถุประหลาดชิ้นนี้มอบให้น่ะมันเจ๋งขนาดไหน!!”
ผู้ชายคนนี้ติดหนี้พนันบอลมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว จนไม่มีใครรับเลี้ยงดูแล
ในวันหนึ่งที่เขากำลังสาปแช่งโชคชาตาของตัวเอง ความปรารถนาที่เขาต้องการชีวิตใหม่ ทำให้เขาได้รับการเลือกจากสื่อนำเวลาที่ตอนนี้ออกมาอยู่ในรูปของนาฬิกาที่เขาคล้องคออยู่
ทันทีที่เขาได้นาฬิกาเรือนนั้นมาในครอบครอง เขาและได้รวมกลุ่มกับเพื่อนที่ติดหนี้พนันบอลเหมือนกันเพื่อออกปล้นธนาคาร โดยใช้พลังจากสื่อนำเวลานั่นช่วยในการหลบหนีทุกครั้ง
นี่คือ... ชีวิตของเขา
“ในวันที่ฉันต้องจมปลักอยู่กับกองหนี้ที่ใช้เท่าไรก็ไม่หมด... ความคิดในหัวของฉันมันก็บอกมาว่า ชีวิตของฉันมันบัดซบซะจริง โชคชะตาอันน่าขยะแขยงนี้มันไม่สมควรจะเกิดขึ้น!!”
“ถ้าฉันแก้ไขโชคชะตาตัวเองได้ ฉันก็จะสร้างชีวิตใหม่ให้รุ่งโรจน์ยิ่งกว่าทุกๆคน”
“จนวันหนึ่ง... พระเจ้าก็ประทานพลังให้ฉัน......”
“พลังที่จะทำให้ฉันเป็นดั่งพระเจ้า ควบคุมทุกอย่างตามที่ฉันปรารถนา พละกำลังร่างกายที่เพิ่มขึ้น หรือแม้แต่ความสามารถที่ฉันมีในครอบครอง...”
“พลังที่สุดยอดขนาดนี้... จะไม่ใช่พระเจ้าก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว!!”
เขาพูดด้วยความภาคภูมิใจในพลังที่ตัวเองมี ดูถูกฉันที่ดูอ่อนแอกว่าเขา... ซึ่งฉันก็นิ่งเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะสรุปมุมมองของเขาออกมา
“นั่นไม่ใช่พลังพระเจ้าหรอก...”
“... หมายความว่าไง?”
“มันไม่ใช่พลังของพระเจ้า... นาฬิกาที่นายถืออยู่... เป็นเพียงแค่ของที่จะพาความซวยมาเยือนนายต่างหาก”
“มันไม่ใช่ของที่นำพาทั้งโชค หรือพลังที่จะมีไว้แก้ไขโชคชะตาแบบที่นายคิดไว้หรอกนะ... ในทางกลับกัน... นายจะได้รู้จักกับโลกที่ต่างโลกที่พวกเราอาศัยอยู่อย่างสิ้นเชิง ขอบเขตที่มนุษย์ธรรมดาไม่อาจเอื้อมถึง... ขอบเขตว่างเปล่าที่แสนจะน่าขนลุก”
“เฮ่ เฮ่... พล่ามอะไรอยู่ได้ ผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอมันก็เก่งแต่พูดล่ะว้า!”
เขาหันปืนเล็งมาที่ฉัน
“...... คนที่ดีแต่โทษโชคชะตา โดยที่ไม่เคยแก้ไขตัวเองต่างหาก ...... สมควรจะถูกเรียกว่าอ่อนแอ”
“นายแค่วิ่งหนีจากความเป็นจริงแย่ๆที่สร้างด้วยน้ำมือของตัวเอง หาข้ออ้างต่างๆนาๆเพื่อโทษอย่างอื่นนอกจากตัวเอง”
“ความปรารถนาที่คิดจะสร้างชีวิตใหม่เพื่อกลบความผิดพลาดของตัวเองน่ะ...”
“มันเป็นความปรารถนาของพวกขี้ขลาดตาขาว...”
............
“ยัยบ้า!!”
เหมือนฉันจะพูดแทงใจดำเขาเข้าเต็มๆ
เขาโผล่มาอยู่ข้างหน้าฉันทันที
“อย่างเธอมันต้องอัดให้สำนึก!!”
มือซ้ายที่ไม่ได้จับปืนพกของเขากำหมัดแน่นต่อยมาที่หน้าฉันอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นเอง...
ฉันโยกหน้าหลบการโจมตีนั้นอย่างรวดเร็ว... รวดเร็วยิ่งกว่าความเร็วที่ผู้ชายคนนี้ทำได้เสียอีก
“บ้าน่า......”
ระหว่างที่เขายังค้างอยู่ท่านั้น
เสี้ยววิที่ฉันหลบมา ก็เปิดช่องว่างบางอย่างขึ้นภายในมิตินี้
มันคือวัตถุที่อยู่ใน “รอยแยกเวลา” ระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงกับมิติว่างเปล่า มันจะถูกทำให้หายไปจากทั้งสองโลก แต่อยู่ในโลกที่นาฬิกาเรือนนี้กักเก็บเอาไว้เป็นห้องเวลาของมัน
เป็นหลักการเดียวกันกับที่วอร์เรนใช้เรียกของแปลกๆออกมา แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของจำนวนที่กักเก็บ จะแลกมาด้วยการถ่ายเทพลังจากนาฬิกาถึงผู้ใช้นั้นลดลง
วอร์เรนที่ใช้ทักษะหยุดเวลาเป็นหลักจึงไม่มีผลกระทบมาก หากต้องการใช้ความสามารถที่ต้องพึ่งพาการไหลเวียนเวลามากกว่าปกติ
สำหรับฉัน... แค่อาวุธที่พอดีมือ... อาวุธที่ไม่ทำร้ายใครก็เกินพอ
ดังนั้น...
ในมือของฉันจึงเป็นไม้พองความยาวพอดีมือ... มันถูกเรียกออกมาจากห้องกักเก็บเวลานั่น
“ตื่นมายอมรับ...”
“ความบัดซบที่ตัวเองก่อไว้ซะ!!”
*โพล๊ะ*
ฉันเอาไม้พองฟาดเข้าเต็มหน้าของหัวหน้าโจรคนนั้น... เพียงการโจมตีครั้งเดียว... ก็มากพอที่จะทำให้เขานั้นกระเด็นไปกองได้เลย...
เป็นข้อพิสูจน์ว่าพละกำลังของฉันในฐานะผู้เชื่อมต่อเวลาเหมือนกับเจ้านั่น...
แข็งแกร่งกว่า...
เจ้านั่นยังไม่หมดสติ แต่ก็หน้าบวมบาดเจ็บเกินกว่าจะลุกขึ้นมาสู้ต่อได้แล้ว
ฉันเก็บอาวุธในมือของตัวเองกลับเข้าสู่ห้องกักเก็บเวลาภายในนาฬิกาเหมือนเดิม และเดินไปหาผู้ชายคนนั้น โดยเว้นระยะห่างพอประมาณ
“......นี่ฉัน... แพ้สินะ”
“เชิญเลย...... ฆ่าฉันเลย......”
“ชีวิตฉันมันตกต่ำ... เพราะตัวฉันเอง... ฉันอยากแก้ไขโชคชะตา เพื่อลืมความบัดซบที่ตัวเองเคยก่อไว้”
“ฆ่าฉัน... ฉันไม่เหลืออนาคตไรอีกแล้ว”
จากผู้ชายที่มั่นใจในตัวเอง หยิ่งจองหอง พอถึงทางตัน เขาก็เป็นเพียงผู้ชายที่วิ่งหนีความจริงอยู่ตลอดเวลาแค่นั้นเอง
“...... ไม่ได้ ......”
“ชีวิตของผู้คนที่นายฆ่าไป... ใช้เวลาที่เหลืออยู่ตอนนี้ไปชดใช้ในคุกซะ”
“นั่นคือ... การแก้ไขโชคชะตาเพียงทางเดียวที่นายสามารถทำได้”
เขายอมรับความจริงของตัวเองแล้ว อนาคตเพียงทางเดียวที่เขาเลือก คือชดใช้ทุกอย่างภายในคุก ไม่ว่าผลตัดสินจะออกมาเช่นไร... เขาก็ต้องใช้ชีวิตของเขาที่เหลือยอมรับมัน
“ช่วยยื่น... ของที่ห้อยอยู่บนคอนั่นมาหน่อยได้ไหม?”
“วัตถุเทพ... ไม่สิ... วัตถุบรมซวยนั่นสินะ......”
“เพราะไอ้ของพรรณนี้... ทำให้เธอโผล่มาจัดการฉันได้สินะ”
“เอาไปเลย... อยากทำอะไรก็ทำ......”
*ฉีก*
เขากระชากนาฬิกาเรือนนั้นให้สายที่คล้องขาดจากคอ และโยนไว้ตรงเท้าฉันพอดี
(จากที่วอร์เรนเคยพูดไว้... หากจะตัดการเชื่อมต่อระหว่างผู้เชื่อมต่อเวลากับสื่อนำเวลา... ต้องพังนาฬิกาทิ้งสินะ?)
(ถึงผลกระทบจะดูร้ายแรงอยู่ก็เถอะ แต่ว่า... ร่างกายของฉันก็น่าจะแบกรับมันไหวอยู่)
ฉันเรียกไม้พองอันนั้นออกมาอีกครั้ง พร้อมกับโยนนาฬิกาของโจรคนนี้ขึ้นบนฟ้า
พอมันถึงจุดที่ต้องการ...
“ย๊าก!”
*แกร๊ก!!*
ฉันก็หวดมันด้วยไม้พองทันที (ท่าเหวี่ยงไม้เบสบอล)
“ฮึบ!”
นาฬิกาเรือนนั้นไม่ได้กระเด็นไปตามทางที่ฉันตี หากแต่มันอยู่คากลางอากาศเหมือนสู้แรงฉันก็ไม่ปาน แถมมีออร่าจากนาฬิกาที่เริ่มแตกออกมาเรื่อยๆ ส่งผลให้มิติที่ฉันอยู่นั้นเกิดรูปร่างที่ผิดแปลกไปจากปกติ
และร่างกายของฉันก็รับรู้ถึงความผิดปกติบางอย่างเช่นกัน หัวใจที่เต้นเร็วบ้างช้าบ้าง ร่างกายที่บางทีก็หยุดนิ่งหรือขยับตามปกติ เหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมา
(นี่น่ะหรอ... ผลกระทบที่วอร์เรนว่า)
มันเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนแทบจะรับไม่ไหว... แต่ฉันก็พยายามฝืนร่างกายให้ยังเป็นปกติเท่าที่จะทำได้
และในที่สุด...
นาฬิกาไม้เรือนนั้น... ก็แตกเป็นเสี่ยงๆ
ด้วยความรุนแรงจากการแตกนั้น ทำให้ตัวฉันเซจนล้มมาเลย
“อูย”
พอฉันเงยหน้ามาดูเสกนาฬิกาที่ตกอยู่ตรงพื้น ไม่นานนักมันก็หายไปกับตา ราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น...
“นี่คือ... การตัดการเชื่อมต่องั้นสินะ... พลังที่โต้กลับมานั่นรุนแรงจริงๆ”
“อ๊ะ!”
โจรคนนั้นหยุดนิ่งไปแล้ว คงเพราะที่นี่ไม่ใช่โลกที่มนุษย์ธรรมดาจะเข้ามาอยู่ได้โดยปราศจากสื่อนำเวลา
ฉันยิ้มดีใจที่ได้จบเรื่องยุ่งยากของวันนี้ไปแล้ว
(ดูท่าคงต้องพากลับไปในโลกนั้นสินะ)
............
หากแต่มันไม่เป็นเช่นนั้น
*ฉึก*
ฉันที่กำลังนั่งและเอื้อมมือเพื่อที่จะพาตัวโจรคนนี้กลับไป
ก็ได้เห็น... เรื่องน่าสะพรึงกลัวบางอย่างอีกครั้ง
นั่นคือ...
มีมีดเล่มหนึ่งที่ฉันรู้สึกคุ้นตาเสียบทะลุกลางหลังของเขาตรงตำแหน่งหัวใจ ซึ่งผู้ชายที่ใช้มีดเสียบโจรคนนี้
มีเพียงคนเดียวที่ทำให้ฉันตะลึงได้ถึงขนาดนี้
“นายมัน......”
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ นรินทร์”
“ดูท่า......”
“โชคชะตาเราจะต้องกันอีกแล้วล่ะสิ......”
ควอส...... ควอส แพทริค... ชายคนที่พยายามฆ่าฉันมาก่อน
เขากลับมาแล้ว
............
............
............
ในตอนนี้ ฉันเข้ามาภายในธนาคารแล้ว โดยอาศัยประตูอาคารที่เปิดอ้าไว้ตั้งแต่แรกเพื่อแอบเข้ามาโดยไม่มีใครสัมผัสตัวตนของฉันได้
(ตอนแรกก็กะจะจัดการพวกนั้นพร้อมกันอยู่หรอก)
(แต่ถ้าคนนั้นไม่ลากตัวประกันออกมาข้างนอก คงไม่ต้องเสียเวลาเพิ่มแบบนี้)
(หวังว่าผู้หญิงคนนั้นจะบอกให้พวกตำรวจด้านนอกเชื่อได้นะ ไม่งั้นเป็นปัญหาใหญ่แน่)
ระหว่างที่ฉันมัวแต่คิดแบบนั้น มีพวกมันสามคนเดินออกมาดูเหตุการณ์ด้านนอกว่าเกิดอะไรขึ้น
“อ๊ะ... เจ้านั่นโดนอัดร่วงไปแล้ว!!”
“ฝีมือใครกัน!? ตัวประกันก็หนีไปได้ด้วย!!”
พวกมันระวังตัวมากขึ้น ยืนหันหลังชนกันเป็นสามมุม พยายามดูรอบห้องอย่างละเอียด
ก็ถือว่ารอบคอบดีแหละนะ แต่ว่า...
มันก็ไม่ได้ยากเกินไปที่ฉันจะจัดการพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
ฉันโผล่ขึ้นมาต่อหน้าคนๆหนึ่งในหมู่พวกเขา... ก่อนที่จะใช้เท้าเตะประทับหน้าของคนๆนั้นเข้าอย่างจัง
อีกสองคนนั้นเมื่อรู้ตัวว่าฉันโผล่มาแบบทันควัน ก็รีบหันปืนเตรียมจะยิงทันที
“แกเองหรอ!!”
ก่อนที่พวกเขาสองคนจะยิง ฉันรีบคว้าปืนกลเบาที่อยู่บนมือของคนที่กำลังจะล้มจากลูกเตะของฉันไว้
และฟาดไปที่ปืนของคนทางซ้ายจนเสียหลักลั่นไกไม่ได้ ขณะที่อีกคนเห็นเหตุการณ์นั้นจึงยิงออกมาในทันที
*ปั้ง*
ลูกกระสุนของเขาลอยค้างก่อนถึงขมับขวาของฉันเพียง 30 เซน
คนร้ายที่ยิงปืนคนนั้นถึงกับช็อคไปวูบหนึ่ง ยิ่งกระสุนลูกนั้นหายไปต่อหน้าต่อตาเพราะฉัน ลบเวลาวัตถุ ให้หายไปเหมือนกับที่ลบความทรงจำให้ไม่เคยมีอยู่
“เห้ย!”
“เ-เวทย์มนต์งั้นหรอ!?”
เวทย์มนต์... จะว่าไปฉันก็คิดอยู่เหมือนกันว่าพลังที่ฉันใช้พวกนี้มันเหมือนกับเวทย์มนต์ แต่มันก็มีหลายจุดที่ต่างอยู่เหมือนกัน
ถึงอย่างนั้นฉันก็ต้องมองข้ามความสงสัยในหัวชั่วขณะนั้นก่อน ตอนนั้นฉันจับพานท้ายปืนที่ถืออยู่ด้วยสองมือ และฟาดลงไหล่ขวาของเขาจนปืนร่วงลงมาเพราะแขนกระตุกจากการกระแทกอย่างแรง
พอฉันเอาปืนฟาดจังหวะนั้น ฉันปล่อยปืนทิ้งทันที และใช้ขาซ้ายยึดพื้น ก่อนจะหมุนตัวเตะด้วยเท้าขวา
“ย๊าก!”
ส้นเท้าของฉันตอกเข้าไปที่แก้มขวาผู้ชายคนนั้น ตาเขาเหลือกออกมา ก่อนจะกระเด็นไปเล็กน้อยจากแรงกระแทก
คนนั้นหมดสติไปแล้ว ซึ่งตอนนี้เหลืออยู่สองคนมีสติอยู่
เผลอไปเพียงครู่เดียว คนที่โดนฉันเตะอัดหน้าล้มไปในตอนแรก ก็พุ่งเข้ามาตะครุบตัวฉันไว้จากด้านหลัง
“ได้ตัวแล้ว!!”
“ทีนี้แกก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว---”
คนๆนั้นยืนงง เพราะฉันหายไปจากร่องแขนที่เขาตะครุบตัวฉันไว้ นั่นก็เพราะ...
ฉันข้ามเวลาย้อนกลับมายังตำแหน่งก่อนที่จะอัดพวกมันทั้งสามคนไงล่ะ......
*ข้ามเวลาย้อนกลับ*
เจ้านั่นหันตัวมาทางฉัน ซึ่งได้จังหวะเดียวกันกับที่ฉันเตรียมพร้อมพอดี
ฉันใช้ขาขวาสอดไปแถวขาขวาของเขา และงัดให้สูงขึ้น โดยแขนของฉันล็อคแขนขวาของเจ้านั่นเอาไว้
เมื่อท่าทางของฉันพร้อม ฉันยกขาพร้อมกับออกแรงที่แขน ตวัดร่างของเขาให้ลอยขึ้นมา
“อะ...”
*ตู้ม*
ฉันทุ่มเจ้านั่นด้วยท่ายูโดจากชมรมที่ฉันฝึกมา แรงที่ตัวของเขากระแทกลงพื้นมากพอที่จะทำให้เขาขยับเขยื้อนไม่ได้ไปชั่วขณะ
ส่วนอีกคนที่อยู่ข้างหลังฉันตอนนี้ เล็งปืนจ่อหัวฉันจากด้านหลังอยู่
“ย-ยัยปีศาจ! ตายซะเถอะ!”
*ปั้ง*
............
เวลาภายในอาคารนี้ถูกฉันหยุดเอาไว้ ดังนั้นกระสุนที่เจ้านั่นยิงออกมาก็จะต้องถูกหยุดอยู่กับที่ รวมถึงตัวเขาเองก็ด้วย
เมื่อเวลาถูกหยุดเช่นนี้ ฉันเลยเดินเข้าไปใกล้ตัวเขามากขึ้น พร้อมกับโยกหัวหลบกระสุนและทิศทางที่ปากกระบอกปืนเล็งอยู่
ทันใดนั้น เมื่อเวลาเดินตามปกติ...
*ปั้งๆๆๆๆๆ*
“!?”
ฉันยืนอยู่ตรงหน้าเขา โดยมีปากกระบอกปืนผ่านแก้มขวาฉันไป
พอเขารู้สึกตัวว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ ฉันก็กางมือทั้งสองข้างออกอย่างกว้าง
และก็ตบหน้าเขาพร้อมกันอย่างแรง!
*เพี้ยะ!!*
หน้าของเขาบู้บี้ไปเลย มีคราบน้ำตาไหลออกมาเล็กน้อยด้วย และเขาก็ค่อยๆล้มลงไปชักกระตุกอยู่บนพื้น
“โอย... เจ็บๆๆๆๆ”
“ไม่น่าตบเต็มแรงเลย!”
“อย่างว่าแหละ... ต่อให้ดึงพลังกายได้เยอะยังไง ก็ยังไม่ได้อยู่ในระดับที่จะไม่เจ็บตัวเลยนี่นา”
มัวแต่เจ็บมือแบบนั้น เสียงตำรวจก็เริ่มรุกกรูจะเข้ามาข้างในอาคารแล้ว
(แย่ล่ะสิ! ต้องรีบเข้าไปช่วยตัวประกัน!)
เพราะฉันมัวแต่วุ่นจัดการคนร้าย 3 คนนี่ ทำให้ฉันแทบจะลืมเรื่องตัวประกันไปซะสนิทเลย
ฉันรีบวิ่งเข้าไปในห้องด้านในอาคาร ก็เห็นหัวหน้าโจรยืนอยู่ตรงกลางห้องอย่างใจเย็น และตัวประกันทุกคนยังปลอดภัยดี...
(โล่งอกไปที... นึกว่าจะเกิดเรื่องแย่ๆขึ้นซะแล้ว)
(เอาล่ะ... ทีนี้ก็เหลือแต่หมอนั่น---)
“นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ!!”
“ทิ้งอาวุธแล้วยกมือไว้บนหัวซะ!!”
ตำรวจ 5 นายเข้ามาในนี้แล้ว... และตอนนี้เขาก็ยังคงยืนนิ่งหลังจากเห็นตำรวจ
เขาปล่อยปืนไว้ที่พื้น ก่อนจะยกมือขึ้นเหนือหัว
“พาดไว้หลังหัว!”
เขาเปลี่ยนท่าไปพาดไว้หลังหัว ดูเหมือนเขาจะยอมจำนน ตัวประกันในห้อง 5 คนก็ยิ้มดีใจที่ตำรวจมาช่วยแล้ว
แต่ทำไมไม่รู้... ฉันกลับไม่รู้สึกเช่นนั้นเลย
(มีอะไรบางอย่างแปลกๆ)
(เจ้านี่... ไม่แสดงท่าทีกระวนกระวายเลย ทั้งๆที่น่าจะรู้ว่าตอนนี้ตัวเองจนมุม และลูกน้องก็โดนจัดการไปหมดแล้ว)
และดูเหมือน...
ลางสังหรณ์ของฉันจะเป็นจริง...
ภาพที่ทุกคนในห้องตายเข้ามาในหัวของฉัน......
เจ้าหน้าที่ค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ตัวคนร้ายอย่างช้าๆ ซึ่งมันตรงกับภาพที่ฉันเห็นอยู่ในหัวเมื่อกี๊...
“อย่านะ!!”
หัวหน้าโจรคนนั้นยิ้มออกมา... และรีบคว้าปืนที่โยนทิ้งไปด้วยความเร็วผิดมนุษย์มนาจนตำรวจทำอะไรไม่ทัน
*ปั้งๆๆๆๆ*
ตำรวจทั้ง 5 นาย ที่อยู่ข้างหน้าฉัน... ถูกยิงในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันอย่างรวดเร็ว
“ไม่น้าาาาาาา!!!”
พวกเขา...
ตายแล้ว......
เมื่อฉันเห็นเหตุการณ์ไม่ดี ฉันพยายามที่จะช่วยชีวิตตัวประกันทุกคน
เขาเล็งปืนไปที่ผู้ชายที่เป็นผู้จัดการสาขา ฉันรีบพุ่งเข้าไปยืนขวางทางกระสุนอย่างไว
*ปั้ง*
กระสุนยิงไม่ผ่านตัวฉัน... ซึ่งพลังนั้นไม่ใช่การหยุดเวลาแบบที่ใช้กับคนพวกนั้น
แต่เป็น “การรักษาสภาพเวลา” ที่จะทำให้การแทรกแซงเวลาของผู้ใช้อื่นนั้นไร้ผลในขอบเขตผู้ใช้
ถ้าการรักษาสภาพเวลามีผลกับกระสุนที่เขายิงมา... มันมีเพียงคำตอบเดียวสำหรับเรื่องนี้แล้ว
“นาย...... เป็นผู้เชื่อมต่อเวลางั้นหรอ?”
ใบหน้าที่หัวหน้าโจรคนนั้นยิ้มอย่างสะใจออกมา ก่อนจะหัวเราะดังลั่นห้อง
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”
“......ผู้เชื่อมต่อ? คืออะไรวะ!!”
“ว่าไงนะ!?”
“อ๋อ แต่ถ้าเธอหมายถึงไอ้นี่ล่ะก็...”
*ฟึ่บ*
“ฉันรู้จักดีเลยล่ะ!!”
เจ้าหมอนั่น... โผล่มาอยู่ข้างหลังของฉัน
(ตั้งแต่เมื่อไร!?)
หมอนั่น... ใช้หลังมือซ้ายเหวี่ยงใส่ฉันเต็มแรง ถึงฉันจะสามารถป้องกันได้ด้วยท่อนแขนทันเวลา แต่แรงของเขาเยอะจนทำให้ฉันกระเด็นออกมาเกือบ 8 เมตร จนกระเด้งไปโดนโต๊ะที่ตั้งอยู่ในห้อง
“โฮ่ว... ยังสติดีอยู่งั้นเหรอ?”
“เห็นเธอมาด้อมๆมองๆอยู่ตั้งแต่แรก ก็แปลกใจอยู่ว่าทำไมถึงไม่มีใครสังเกตเห็น”
“ขนาดว่าตั้งใจขว้างโทรศัพท์ใส่ยังไม่สะทกสะท้านอะไรอีก”
(...เจ้านั่นเห็นฉันตั้งแต่แรกงั้นหรอ!? ถึงว่าตอนปามือถือมาดูไม่ได้ปาแบบสุ่มๆ)
แรงอัดของเจ้านั่นถือว่าแรงอยู่ แต่ก็ยังไม่มากขนาดทำให้ฉันหมดสติได้ในการโจมตีครั้งเดียว... แต่สิ่งที่ทำให้ฉันสะเทือนใจยิ่งกว่า
คือหลังจากฉันเงยหน้าขึ้นมา... ก็เจอศพตำรวจ 4 นาย... กับอีกคนที่ทรมานจากการถูกยิงอยู่ มันทำให้ฉันนั่งมองตาค้างด้วยความช็อคและความโกรธ
“เอ้า เอ้า เอ้า! มัวแต่นั่งนิ่งอยู่ได้”
“ถ้าไม่หยุดฉันล่ะก็... ไอ้เบื๊อกนี่จะต้องไปลงนรกนะ!!”
มันหันปืนเล็งใส่ผู้จัดการสาขาที่เอามือป้องหัวตัวเองไว้
“หัวหน้า!!”
ฉันไม่มีทางปล่อยให้มันได้ทำอะไรตามอำเภอใจเด็ดขาด
“หยุดนะ!!”
“เขตแดนชั่วคราว!!”
*ฮูม!!*
ฉันใช้ความสามารถในการเคลื่อนย้ายมิติชั่วคราว เพื่อลากเจ้านั่น... มาในมิติว่างเปล่าพร้อมกับฉันในพื้นที่ที่จำกัด
ซึ่งจากผลลัพธ์นั้น ทำให้คนในธนาคารไม่เห็นพวกเราสองคนที่ถูกย้ายมายังมิติว่างเปล่า... สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคนที่อยู่ในห้องนั้น
ไม่ใช่เพียงแค่คนในมิติแห่งความจริงเท่านั้นที่ประหลาดใจ หัวหน้าโจรที่ถูกดึงมายังมิติว่างเปล่าเองก็ประหลาดใจไม่แพ้กัน
“ที่ไหนวะ?”
“เธอใช้เวทมนตร์อะไรถึงทำพื้นที่บ้าๆนี้ขึ้นมาได้?”
“มัน... ไม่ใช่เวทมนตร์... หรืออะไรทั้งนั้น...”
ฉันค่อยๆทรงตัวขึ้นมาหลังจากนั่งพักมาสักพัก
“เพียงเท่านี้... นายก็จะ... ทำอะไรตัวประกันไม่ได้แล้ว......”
“......หึ...”
“เป็นห่วงตัวประกันมากกว่าชีวิตตัวเองงั้นหรอ? เธอนี่ช่างเป็นแม่พระซะจริง”
มันหยิบสายที่คล้องคออยู่ใต้เสื้อออกมาไว้ด้านนอก
มันคือนาฬิกา... เป็นลักษณะเหมือนฟันเฟืองไม้ที่มีอักษรโรมันเป็นตัวเลขระบุเวลา
“น-นั่นมัน......”
“โฮ่ว... เธอรู้จักเจ้านี่ด้วยเหรอ?”
“นึกว่าจะมีแต่ฉันซะอีกที่ได้พลังพระเจ้ามาแบบนี้”
“รู้รึเปล่า... พลังพระเจ้าที่วัตถุประหลาดชิ้นนี้มอบให้น่ะมันเจ๋งขนาดไหน!!”
ผู้ชายคนนี้ติดหนี้พนันบอลมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว จนไม่มีใครรับเลี้ยงดูแล
ในวันหนึ่งที่เขากำลังสาปแช่งโชคชาตาของตัวเอง ความปรารถนาที่เขาต้องการชีวิตใหม่ ทำให้เขาได้รับการเลือกจากสื่อนำเวลาที่ตอนนี้ออกมาอยู่ในรูปของนาฬิกาที่เขาคล้องคออยู่
ทันทีที่เขาได้นาฬิกาเรือนนั้นมาในครอบครอง เขาและได้รวมกลุ่มกับเพื่อนที่ติดหนี้พนันบอลเหมือนกันเพื่อออกปล้นธนาคาร โดยใช้พลังจากสื่อนำเวลานั่นช่วยในการหลบหนีทุกครั้ง
นี่คือ... ชีวิตของเขา
“ในวันที่ฉันต้องจมปลักอยู่กับกองหนี้ที่ใช้เท่าไรก็ไม่หมด... ความคิดในหัวของฉันมันก็บอกมาว่า ชีวิตของฉันมันบัดซบซะจริง โชคชะตาอันน่าขยะแขยงนี้มันไม่สมควรจะเกิดขึ้น!!”
“ถ้าฉันแก้ไขโชคชะตาตัวเองได้ ฉันก็จะสร้างชีวิตใหม่ให้รุ่งโรจน์ยิ่งกว่าทุกๆคน”
“จนวันหนึ่ง... พระเจ้าก็ประทานพลังให้ฉัน......”
“พลังที่จะทำให้ฉันเป็นดั่งพระเจ้า ควบคุมทุกอย่างตามที่ฉันปรารถนา พละกำลังร่างกายที่เพิ่มขึ้น หรือแม้แต่ความสามารถที่ฉันมีในครอบครอง...”
“พลังที่สุดยอดขนาดนี้... จะไม่ใช่พระเจ้าก็ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรแล้ว!!”
เขาพูดด้วยความภาคภูมิใจในพลังที่ตัวเองมี ดูถูกฉันที่ดูอ่อนแอกว่าเขา... ซึ่งฉันก็นิ่งเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะสรุปมุมมองของเขาออกมา
“นั่นไม่ใช่พลังพระเจ้าหรอก...”
“... หมายความว่าไง?”
“มันไม่ใช่พลังของพระเจ้า... นาฬิกาที่นายถืออยู่... เป็นเพียงแค่ของที่จะพาความซวยมาเยือนนายต่างหาก”
“มันไม่ใช่ของที่นำพาทั้งโชค หรือพลังที่จะมีไว้แก้ไขโชคชะตาแบบที่นายคิดไว้หรอกนะ... ในทางกลับกัน... นายจะได้รู้จักกับโลกที่ต่างโลกที่พวกเราอาศัยอยู่อย่างสิ้นเชิง ขอบเขตที่มนุษย์ธรรมดาไม่อาจเอื้อมถึง... ขอบเขตว่างเปล่าที่แสนจะน่าขนลุก”
“เฮ่ เฮ่... พล่ามอะไรอยู่ได้ ผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอมันก็เก่งแต่พูดล่ะว้า!”
เขาหันปืนเล็งมาที่ฉัน
“...... คนที่ดีแต่โทษโชคชะตา โดยที่ไม่เคยแก้ไขตัวเองต่างหาก ...... สมควรจะถูกเรียกว่าอ่อนแอ”
“นายแค่วิ่งหนีจากความเป็นจริงแย่ๆที่สร้างด้วยน้ำมือของตัวเอง หาข้ออ้างต่างๆนาๆเพื่อโทษอย่างอื่นนอกจากตัวเอง”
“ความปรารถนาที่คิดจะสร้างชีวิตใหม่เพื่อกลบความผิดพลาดของตัวเองน่ะ...”
“มันเป็นความปรารถนาของพวกขี้ขลาดตาขาว...”
............
“ยัยบ้า!!”
เหมือนฉันจะพูดแทงใจดำเขาเข้าเต็มๆ
เขาโผล่มาอยู่ข้างหน้าฉันทันที
“อย่างเธอมันต้องอัดให้สำนึก!!”
มือซ้ายที่ไม่ได้จับปืนพกของเขากำหมัดแน่นต่อยมาที่หน้าฉันอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นเอง...
ฉันโยกหน้าหลบการโจมตีนั้นอย่างรวดเร็ว... รวดเร็วยิ่งกว่าความเร็วที่ผู้ชายคนนี้ทำได้เสียอีก
“บ้าน่า......”
ระหว่างที่เขายังค้างอยู่ท่านั้น
เสี้ยววิที่ฉันหลบมา ก็เปิดช่องว่างบางอย่างขึ้นภายในมิตินี้
มันคือวัตถุที่อยู่ใน “รอยแยกเวลา” ระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงกับมิติว่างเปล่า มันจะถูกทำให้หายไปจากทั้งสองโลก แต่อยู่ในโลกที่นาฬิกาเรือนนี้กักเก็บเอาไว้เป็นห้องเวลาของมัน
เป็นหลักการเดียวกันกับที่วอร์เรนใช้เรียกของแปลกๆออกมา แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของจำนวนที่กักเก็บ จะแลกมาด้วยการถ่ายเทพลังจากนาฬิกาถึงผู้ใช้นั้นลดลง
วอร์เรนที่ใช้ทักษะหยุดเวลาเป็นหลักจึงไม่มีผลกระทบมาก หากต้องการใช้ความสามารถที่ต้องพึ่งพาการไหลเวียนเวลามากกว่าปกติ
สำหรับฉัน... แค่อาวุธที่พอดีมือ... อาวุธที่ไม่ทำร้ายใครก็เกินพอ
ดังนั้น...
ในมือของฉันจึงเป็นไม้พองความยาวพอดีมือ... มันถูกเรียกออกมาจากห้องกักเก็บเวลานั่น
“ตื่นมายอมรับ...”
“ความบัดซบที่ตัวเองก่อไว้ซะ!!”
*โพล๊ะ*
ฉันเอาไม้พองฟาดเข้าเต็มหน้าของหัวหน้าโจรคนนั้น... เพียงการโจมตีครั้งเดียว... ก็มากพอที่จะทำให้เขานั้นกระเด็นไปกองได้เลย...
เป็นข้อพิสูจน์ว่าพละกำลังของฉันในฐานะผู้เชื่อมต่อเวลาเหมือนกับเจ้านั่น...
แข็งแกร่งกว่า...
เจ้านั่นยังไม่หมดสติ แต่ก็หน้าบวมบาดเจ็บเกินกว่าจะลุกขึ้นมาสู้ต่อได้แล้ว
ฉันเก็บอาวุธในมือของตัวเองกลับเข้าสู่ห้องกักเก็บเวลาภายในนาฬิกาเหมือนเดิม และเดินไปหาผู้ชายคนนั้น โดยเว้นระยะห่างพอประมาณ
“......นี่ฉัน... แพ้สินะ”
“เชิญเลย...... ฆ่าฉันเลย......”
“ชีวิตฉันมันตกต่ำ... เพราะตัวฉันเอง... ฉันอยากแก้ไขโชคชะตา เพื่อลืมความบัดซบที่ตัวเองเคยก่อไว้”
“ฆ่าฉัน... ฉันไม่เหลืออนาคตไรอีกแล้ว”
จากผู้ชายที่มั่นใจในตัวเอง หยิ่งจองหอง พอถึงทางตัน เขาก็เป็นเพียงผู้ชายที่วิ่งหนีความจริงอยู่ตลอดเวลาแค่นั้นเอง
“...... ไม่ได้ ......”
“ชีวิตของผู้คนที่นายฆ่าไป... ใช้เวลาที่เหลืออยู่ตอนนี้ไปชดใช้ในคุกซะ”
“นั่นคือ... การแก้ไขโชคชะตาเพียงทางเดียวที่นายสามารถทำได้”
เขายอมรับความจริงของตัวเองแล้ว อนาคตเพียงทางเดียวที่เขาเลือก คือชดใช้ทุกอย่างภายในคุก ไม่ว่าผลตัดสินจะออกมาเช่นไร... เขาก็ต้องใช้ชีวิตของเขาที่เหลือยอมรับมัน
“ช่วยยื่น... ของที่ห้อยอยู่บนคอนั่นมาหน่อยได้ไหม?”
“วัตถุเทพ... ไม่สิ... วัตถุบรมซวยนั่นสินะ......”
“เพราะไอ้ของพรรณนี้... ทำให้เธอโผล่มาจัดการฉันได้สินะ”
“เอาไปเลย... อยากทำอะไรก็ทำ......”
*ฉีก*
เขากระชากนาฬิกาเรือนนั้นให้สายที่คล้องขาดจากคอ และโยนไว้ตรงเท้าฉันพอดี
(จากที่วอร์เรนเคยพูดไว้... หากจะตัดการเชื่อมต่อระหว่างผู้เชื่อมต่อเวลากับสื่อนำเวลา... ต้องพังนาฬิกาทิ้งสินะ?)
(ถึงผลกระทบจะดูร้ายแรงอยู่ก็เถอะ แต่ว่า... ร่างกายของฉันก็น่าจะแบกรับมันไหวอยู่)
ฉันเรียกไม้พองอันนั้นออกมาอีกครั้ง พร้อมกับโยนนาฬิกาของโจรคนนี้ขึ้นบนฟ้า
พอมันถึงจุดที่ต้องการ...
“ย๊าก!”
*แกร๊ก!!*
ฉันก็หวดมันด้วยไม้พองทันที (ท่าเหวี่ยงไม้เบสบอล)
“ฮึบ!”
นาฬิกาเรือนนั้นไม่ได้กระเด็นไปตามทางที่ฉันตี หากแต่มันอยู่คากลางอากาศเหมือนสู้แรงฉันก็ไม่ปาน แถมมีออร่าจากนาฬิกาที่เริ่มแตกออกมาเรื่อยๆ ส่งผลให้มิติที่ฉันอยู่นั้นเกิดรูปร่างที่ผิดแปลกไปจากปกติ
และร่างกายของฉันก็รับรู้ถึงความผิดปกติบางอย่างเช่นกัน หัวใจที่เต้นเร็วบ้างช้าบ้าง ร่างกายที่บางทีก็หยุดนิ่งหรือขยับตามปกติ เหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นซ้ำไปซ้ำมา
(นี่น่ะหรอ... ผลกระทบที่วอร์เรนว่า)
มันเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนแทบจะรับไม่ไหว... แต่ฉันก็พยายามฝืนร่างกายให้ยังเป็นปกติเท่าที่จะทำได้
และในที่สุด...
นาฬิกาไม้เรือนนั้น... ก็แตกเป็นเสี่ยงๆ
ด้วยความรุนแรงจากการแตกนั้น ทำให้ตัวฉันเซจนล้มมาเลย
“อูย”
พอฉันเงยหน้ามาดูเสกนาฬิกาที่ตกอยู่ตรงพื้น ไม่นานนักมันก็หายไปกับตา ราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น...
“นี่คือ... การตัดการเชื่อมต่องั้นสินะ... พลังที่โต้กลับมานั่นรุนแรงจริงๆ”
“อ๊ะ!”
โจรคนนั้นหยุดนิ่งไปแล้ว คงเพราะที่นี่ไม่ใช่โลกที่มนุษย์ธรรมดาจะเข้ามาอยู่ได้โดยปราศจากสื่อนำเวลา
ฉันยิ้มดีใจที่ได้จบเรื่องยุ่งยากของวันนี้ไปแล้ว
(ดูท่าคงต้องพากลับไปในโลกนั้นสินะ)
............
หากแต่มันไม่เป็นเช่นนั้น
*ฉึก*
ฉันที่กำลังนั่งและเอื้อมมือเพื่อที่จะพาตัวโจรคนนี้กลับไป
ก็ได้เห็น... เรื่องน่าสะพรึงกลัวบางอย่างอีกครั้ง
นั่นคือ...
มีมีดเล่มหนึ่งที่ฉันรู้สึกคุ้นตาเสียบทะลุกลางหลังของเขาตรงตำแหน่งหัวใจ ซึ่งผู้ชายที่ใช้มีดเสียบโจรคนนี้
มีเพียงคนเดียวที่ทำให้ฉันตะลึงได้ถึงขนาดนี้
“นายมัน......”
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ นรินทร์”
“ดูท่า......”
“โชคชะตาเราจะต้องกันอีกแล้วล่ะสิ......”
ควอส...... ควอส แพทริค... ชายคนที่พยายามฆ่าฉันมาก่อน
เขากลับมาแล้ว
............
............
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ