Destiny of Time โชคชะตาแห่งกาลเวลา

6.5

เขียนโดย Huzure

วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.55 น.

  40 Time
  12 วิจารณ์
  39.58K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2558 15.15 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

32) ผู้มาเยือนคนใหม่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

............

ในรุ่งเช้าของวันต่อมา

พระอาทิตย์กำลังขึ้นขอบฟ้าทางทิศตะวันออก ผู้คนเริ่มเดินเพ่นพ่านเพื่อเริ่มไปทำงาน

ใจกลางหมู่ผู้คนที่เดินอยู่เต็มทางเท้า มีเด็กผู้หญิงผมหางม้าสีขาวออกเหลืองคนหนึ่งยืนอยู่บริเวณนั้น

สีผมของเธอนั้นสะดุดตา แต่กลับไม่มีใครเหลียวมองเธอเลยแม้แต่คนเดียว

รอยยิ้มที่ดูไม่เหมือนเด็กสาวทั่วไปของเธอ สร้างบรรยากาศที่มืดมนราวกับว่าตัวเธอนั้นมีบางสิ่งบางอย่างปกคลุมจนไร้ซึ่งความสดใส รอยยิ้มที่เต็มไปด้วยจิตอาฆาตนั่น......

“อีกไม่นานหรอก...”

“อีกไม่นาน... พวกเราก็จะได้เจอกันแล้ว”

“หึหึหึหึหึ......”

พอลับสายตาเพราะคนเดินผ่านเพียงครู่เดียว เธอก็หายไปเสียแล้ว

............

(ณ บ้านของนรินทร์)

*ชิ้ง...*

ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะรู้สึกขนลุกอะไรระหว่างที่นอนอยู่ ตาของเราเพ่งไปที่นาฬิกาพกทันทีตั้งแต่แรก พอกดเปิดเวลาจึงรู้ว่าตอนนี้เป็น 7.05

“วันนี้ตื่นเร็วกว่าปกติหรอเนี่ย... แปลกจัง”

ตัวของฉันลุกขึ้นมาบนเตียงอย่างสะลึมสะลือ หยิบนาฬิกาพกเรือนนั้นและเดินไปเปิดหน้าต่างเพื่อสูดอากาศยามเช้า

ฉันสูดอากาศลึกเต็มปอด ก่อนจะค่อยๆผ่อนลมออกมาด้วยความผ่อนคลาย

“สดชื่นดีจังนะ”

พอนึกขึ้นได้ รู้สึกว่าตอนนี้ที่บ้านฉันมีอะไรไม่เหมือนเดิมอยู่ด้วยแหละนะ

ฉันค่อยๆย่องเดินลงมาจากบันไดไม่ให้เกิดเสียงดัง จนถึงห้องนั่งเล่นที่ฉันอนุญาตให้อีตานั่นนอนได้เฉพาะในห้องนี้

หัวของฉันค่อยๆโผล่มาจากประตูที่ถูกแง้มเปิด จนฉันสามารถมองเห็นวอร์เรนนอนอยู่ตรงโซฟาตรงนั้นได้

ซึ่ง... การนอนของอีตานี่ก็ ขาข้างหนึ่งพาดที่พักแขน ขาอีกข้างทิ้งลงพื้น ผ้าห่มก็คลุมไม่มิดอีก

(สภาพตอนนอนดูไม่ได้เลย)

หลังจากคิดว่าวอร์เรนคงไม่รู้สึกตัว ฉันเลยเดินเข้าไปใกล้กว่านี้อีกหน่อย

ฉันจ้องมองเขาอยู่ใกล้ๆ ทั้งๆที่นอนสภาพเละตุ้มเป๊ะแบบนั้น แต่หน้าเขากลับนิ่งสงบผิดจากด้านนอกเลย

(ตัวคนเดียว......)

(หรือความจริงแล้ว ชีวิตของเขาเองก็อาจจะเจอเรื่องราวแย่ๆมามากเหมือนกัน)

พอฉันเห็นเขานอนหลับสบายแบบนี้ และไม่ได้พูดกวนประสาทน่ารำคาญ ทำให้ฉันยิ้มออกมาได้อย่างสบายใจ

(พอเงียบๆแบบนี้ ก็ดีเหมือนกันนะ)

ไม่นานนักวอร์เรนก็พลิกตัว มือขวาของเขาที่หยิบหมอนหนุนคาไว้กลับเข้ามาวางไว้ตรงอก และวอร์เรนเริ่มยิ้มระหว่างที่นอนอยู่

(คงกำลังฝันดีอยู่สินะ)

และฉันเองก็ไม่รู้เลย ว่าจริงๆแล้ววอร์เรนกำลังฝันเรื่องอะไรบางอย่างอยู่

*ในฝันวอร์เรน*

ห้องนอนห้องหนึ่งเต็มไปด้วยสาวๆ 4 คน ใส่ชุดเดรสที่เป็นชุดแบบเดียวกับที่นรินทร์ใส่นอน ต่างกันแค่สี

พวกเธอทำท่าทียั่วยวนให้วอร์เรนที่ยืนใส่บ็อกเซอร์กับเสื้อกล้ามตัวเดียวอยู่หน้าห้อง

“มาสิจ๊ะที่รัก”

“มาเล่นกันเถอะนะคะ”

“พวกเรารอคุณอยู่เลย”

วอร์เรนที่ยืนเลือดกำเดาไหลนิดหน่อย ถูกสาวๆฉุดมาที่เตียง ก่อนจะตะเกียดตะกายแนบชิดตัวของเขากันหมด

ณ ตอนนี้ วอร์เรนไม่สามารถอดกลั้นต่ออารมณ์ได้แล้ว

“ถ...ถ้านี่เป็นความฝัน ก็ขอให้ฝันอยู่อยู่ตลอดไปทีเถอะ”

วอร์เรนพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงนิ่งๆทั้งๆที่หน้าเริ่มแดงเพราะความเขิน

“ความฝันอะไรกันคะ นี่คือความจริงทุกอย่าง”

“ไม่เชื่อลองสัมผัสตัวพวกเราดูสิ”

สาวๆทุกคนพร้อมที่จะดึงชุดเดรสออกแล้ว

“มาสิ มาพร้อมกันให้หมดเลย”

“จะความฝันหรือความจริงเราไม่สนแล้ว”

“เวลานี้......”

“พวกเรามามีความสุขด้วยกันเถอะ”

เขาถอดเสื้อกล้ามทิ้ง แววตาดุดันราวกับราชสีห์กระหายเนื้อ

“Let’s reach to the heaven!!”

สิ้นเสียงนั้น วอร์เรนก็พุ่งเข้าหาสาวๆทั้งสี่ มีแต่เสียงจูบเสียงแห่งความใคร่ดังกระหึ่มอยู่ทั่วห้อง

............

“จุ๊ฟฟฟฟฟ”

“อย่าสิ... ต่อคิวก่อนนะจ๊ะ เบบี๋!”

“เราไม่ปล่อยให้เธอได้พักหรอก-”

*ฟุบ!!!*

จู่ๆก็มีคนดึงสาว... ไม่สิ หมอนหนุนที่ผมกำลังละเมอจูบออกไป

ลางสังหรณ์มันบอกผมเลย ว่าถ้าหันหน้าไปแล้วจะต้องเจอกับอะไรที่น่ากลัวสุดๆยืนอยู่

จริงๆด้วย เงาดำของปีศาจสาวตัวน้อย ผู้ใส่ชุดเดรสแบบเดียวกับในฝัน กำลังยืนส่งรังสีอาฆาตพร้อมกับแก้มที่แดงจากความเขิน

“ไอ้โรคจิต!!!”

*ตุ้บๆๆๆ*

รินทร์เอาหมอนฟาดมาที่หน้าผมเข้าเต็มแรง และตีผมซ้ำๆอย่างนั้นอยู่หลายรอบ

“พ-พอ! แอ้ก!! พอได้แล้วรินทร์!”

เธอถือหมอนคาไว้ในมือ หน้าของเธอแดงกร่ำ คงเพราะเห็นผมละเมอออกอาการชัดเจนแบบนี้ เลยรู้สึกเขินอายที่เห็นภาพอะไรแบบนั้น

“น่ารังเกียจที่สุด! ผู้ชายมันก็ลามกเหมือนกันหมด!”

“จะบ้าหรอรินทร! เราแค่เผลอนอนละเมอนิดหน่อยเอง อย่ามาหาว่าลามกเซ่”

“ก-ก็ท่าทางของนายมัน......”

“มัน......” (เสียงแผ่ว)

*ปุ๋ง*

หน้าที่แดงจี๊ดมาอีกรอบนั่น เหมือนผมจะเห็นควันออกหัวมาเลย

ผมเริ่มตั้งสติเพื่อที่จะคุยกับเธอ แต่พอเห็นเธอในชุดเดรสสวยๆแบบนี้แล้ว ทำให้ผมต้องเบี่ยงสายตาออกไปทางอื่นทันที

รินทร์เองก็คงรู้ว่าผมเบี่ยงสายตาเพราะอะไร เลยเริ่มจะรู้สึกเขินขึ้นมา

เธอเอามือจับขอบกระโปรงชุดเพื่อปิดต้นขาของเธอให้ได้เยอะที่สุด

“น...นายห้ามเอาไปบอกใครนะ ว่าฉันใส่ชุดแบบนี้ตอนนอน”

“ไ-ไม่บอกใครหรอก แต่ว่า...”

“ชุดแบบนี้มันน่าอายขนาดนั้นเลยหรอ?”

“น่าอายสิ!”

“ฉันไม่อยากให้ใครเห็นนี่นา นอกจากมีนกับคนในบ้านฉัน... นายเป็นอีกคนที่เห็นฉันแต่งตัวแบบนี้”

“อย่าเอาไปบอกใครนะ!”

“เลิกย้ำได้แล้วน่า รู้แล้วๆ”

“เห้อ...... ทั้งๆที่ใส่แล้วออกจะน่ารักแท้ๆ” (บ่นเงียบๆกับตัวเอง)

“เอ๊ะ? ตะกี๊นายพูดว่าไงนะ”

เธอจ้องมาที่หน้าของผมหลังจากได้ยินผมบ่นเบาๆ ผมเลยรีบหลบหน้าเธอไปทางอื่น

“คือ...... มันก็ไม่ได้แปลกสักหน่อย... ที่เธอจะแต่งชุดแบบนี้นอน”

“และมันก็...... น่ารักดีออกนะ” (เสียงเบา)

“น...น่ารัก?”

พอเธอได้ยินผมพูดแบบนั้น หน้าเธอก็แดงกร่ำอีกรอบ ก่อนจะก้มหน้าหลบไม่ให้ผมเห็นสีหน้าของเธอชัดๆ

“ยังไงก็เถอะ! นี่ก็เช้าแล้ว เราคงรบกวนเธอมากไปแล้วล่ะ”

ผมรีบลุกขึ้นจากโซฟาเตรียมเก็บข้าวของออกจากบ้านของเธอ

“แล้วนายจะไปไหนกันล่ะ ในเมื่อห้องนายยังโดนตัดน้ำตัดไฟ แถมล็อคห้องไว้อีกไม่ใช่หรอ”

“กว่าผู้ดูแลหอจะกลับ ก็ต้องรออีก 2-3 วันเลยหนิ

“ก็ต้องมีสักที่แหละ... แค่ค้างบ้านเธอคืนเดียวก็ไม่รู้จะขอบคุณยังไงแล้ว”

“อีกอย่าง เธอเองก็คงไม่สบายใจสินะ เราที่เป็นผู้ชายมาค้างบ้านเธอแบบนี้”

ผมรู้ว่าเธอรู้สึกยังไง ตอนนี้เธอเลยนิ่งหลังจากพูดไปแบบนั้น คงจริงอย่างที่ผมคิดไว้นั่นล่ะ

หลังจากที่เธอนิ่งไป ผมก็เก็บข้าวเก็บของเตรียมที่จะไป ถึงจะยังไม่รู้ว่าควรจะไปพักที่ไหนก็เถอะ แต่ให้มาอยู่ในบ้านผู้หญิงแค่สองคนแบบนี้แล้วมันไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเธอ

“นาย...... จะอยู่ที่นี่ไปก่อนก็ได้นะ?”

กำลังเก็บของอยู่ดีๆ ก็ถึงกับประหลาดใจขึ้นมาเลย

“หา?”

“คือถ้านายต้องออกไปหาที่พักที่อื่น นายก็ต้องเปลืองตังค์อยู่ดีใช่ไหมล่ะ?”

“แถมยังไม่รู้ว่าจะเจออะไรอีกด้วย เพราะงั้น”

“ฉันจะอนุญาตให้นายอยู่ที่นี่ไปสักพักก่อน แต่ว่า!”

“ห้ามทำอะไรแปลกๆเด็ดขาดล่ะ”

ไม่เข้าใจเลย... รินทร์อนุญาตให้เราอยู่ที่นี่ ไม่เห็นจะเข้าใจความคิดของเขาเลยสักนิด

“จะดีหรอ?”

“ไม่ดีหรอกย่ะ! ฉันแค่อยากตอบแทนนายไว้ก็แค่นั้น”

“แล้วก็......”

“ฉันเชื่อว่านายไม่ใช่คนไม่ดี และฉันก็อยากให้นายเชื่อใจฉันเหมือนกัน... ถ้าตอนลำบาก ก็ขอให้ฉันได้ช่วยอะไรนายตอบแทนบ้าง!”

เธอเอามือแนบอก พูดความคิดที่อยู่ในใจทั้งหมดออกมา จนผมเองก็ได้แต่นิ่งฟัง

“......เชื่อเธอเล๊ย ช่างเป็นคนที่เห็นใจคนอื่นซะจริง”

“ตามใจเธอละกัน ถ้าเธอไม่อยากให้เราลำบากขนาดนั้น เราก็คงต้องรบกวนขอพักที่นี่ต่ออีกพักหนึ่งแทนน่ะล่ะ”

“สัญญาเลย เราจะไม่ขึ้นไปบนชั้นสอง ไม่ทำให้ข้าวของในบ้านเสียหาย และไม่ทำให้เธอต้องผิดหวังแน่นอน”

“คือ... จริงๆฉันก็เชื่อว่านายไม่ทำแบบนั้นอยู่แล้วล่ะ แต่จะสัญญาไว้ก็ได้”

“เอาล่ะ......”

เธอหมุนตัวกลับเตรียมที่จะเดินไปตรงประตูที่เธอเดินเข้ามา

ช่วงที่เธอหมุน ทำให้ภาพลักษณ์ที่ผมเห็นเธอเป็นผู้หญิงห้าวๆ หรือชอบใส่กางเกงเวลาอยู่ข้างนอกเปลี่ยนไปเลย

“งั้นฉันขึ้นไปข้างบนก่อนนะ ฝากดูแลบ้านด้วยล่ะ วอร์เรน”

ใบหน้าที่มีรอยยิ้มของเธอ... ทำให้ภาพลักษณ์ที่เธอดูห้าว ดูแมน หรือดูไม่ค่อยเหมือนผู้หญิง... ถูกเปลี่ยนไปหมด

เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารักมากเลยล่ะ ยิ่งถ้าใส่ชุดแบบนั้นด้วย...

(อยากให้ใส่ตลอดไปจังเลย)

ผมนอนเล่นไปสัก พลางเล่นมือถือไปพร้อมกัน

ใน Talkbook มีคนแชรข่าวสารต่างๆมากมาย

“คุณจะไม่เชื่อฉากนี้ในการ์ตูนเรื่องหนึ่งแน่... นมลอดเชือก?”

“การ์ตูนบ้าอะไรล่ะเนี่ย ทำฉากพิลึกๆแบบนั้นมาเรียกลูกค้า”

และผมก็ต้องสะดุดเมื่อเห็นข่าวๆหนึ่ง ซึ่งเป็นข่าวที่คนแชรไปเยอะมาก เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ

“อุกอาจ... เหล่าวายร้ายบุกปล้นธนาคารกลางวันแสกๆ ก่อนจะหนีไปอย่างลอยนวล... ตำรวจออกหมายจับผู้ต้องสงสัย 4 คน”

“เห... ที่ไทยก็มีการโจรกรรมร้ายแรงขนาดนี้ด้วยหรอเนี่ย อย่างกับเกมใส่หน้ากากปล้นธนาคารเลย”

“หือ!?”

จินตนาการของผมต้องหยุดลง หลังจากที่รู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่อยู่ไกลจากตรงนี้หน่อย แต่ก็ยังสัมผัสได้อย่างน่าประหลาด

เป็นความรู้สึกเพียงชั่ววูบว่าเกิดเหตุการณ์บางอย่างแถวนั้นขึ้น

“ความรู้สึกแบบนี้มัน...”

ผมคงขึ้นไปบอกเรื่องนี้ให้ยัยนั่นฟังไม่ได้ นี่เป็นเรื่องที่ผมควรจะรีบตัดสินใจ เพราะลางสังหรณ์ของผมมันบอกว่าอาจมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น

............

............

ฉัน... กำลังแต่งตัวจวนจะเสร็จละ เหลือแค่ใส่ถุงเท้า

*วูบ*

(ความรู้สึกเมื่อกี๊มันอะไรกัน?)

(ทำไมถึงรู้สึกขนลุกแบบนี้ล่ะเนี่ย)

นาฬิกาเหนือประตูห้องฉันตอนนี้ 7.40 แล้ว

“เย้ย! ต้องรีบแล้วๆ!”

ฉันวิ่งเต้นรีบใส่ถุงเท้าให้เสร็จ ไม่งั้นกว่าจะถึงโรงเรียนคงสายแย่

พอแต่งตัวเสร็จปุ๊ป ฉันก็รีบวิ่งลงมาชั้นหนึ่ง ก่อนจะเข้าไปที่ห้องนั่งเล่นเพื่อคุยกับวอร์เรน

“วอร์เรน ฉันไปโรงเรียนก่อนนะ...”

“เอ๊ะ?”

“หายไปไหนซะแล้ว”

(วอร์เรนไม่อยู่แล้วงั้นหรอ แต่ข้าวของก็ยังอยู่ที่เดิมนี่นา)

ฉันเดินไปดูตรงโซฟาที่วอร์เรนนอน ก็เห็นมีกระดาษโน้ตเขียนข้อความทิ้งไว้ว่า

*เดี๋ยวกลับมา*

“ไปไหนของเขากันนะ”

“แย่ล่ะสิ! ถ้าไม่รีบไปได้สายจริงๆแน่”

ฉันรีบวิ่งจะไปที่หน้าประตูบ้าน แต่ก็ต้องหยุดในห้องนั้นอยู่อีกหน่อย เพราะฉันเดินตรงไปยังรูปภาพใบนั้นที่มีฉันกับคนที่น่าจะเป็นพ่อและแม่ของฉันอยู่ในรูป

ฉันหยิบรูปภาพใบนั้นขึ้นมา ก่อนจะเอามากอดแนบอกไว้สักพัก

“......ไม่เห็นอะไรเลย......”

“ฉันอยากรู้เรื่องของพวกคุณให้มากกว่านี้...”

“ความรู้สึกอ้างว้างแบบนี้มัน...”

“ไม่ดีเลยสักนิดค่ะ”

ไม่นานนักฉันก็วางรูปภาพไว้ที่เดิม พร้อมกับยิ้มหน้ารูปภาพใบนั้น

“ช่วยเป็นกำลังให้ฉันด้วยนะคะ”

พอเสร็จธุระทั้งหมด ฉันก็รีบออกจากบ้าน ล็อคประตู และตรงไปที่โรงเรียนทันที

ส่วนเรื่องของวอร์เรน ฉันไม่รู้ว่าเขาไปไหน และนอกจากนี้ยังมีเรื่องอื่นที่ฉันจำเป็นต้องทำก่อน เลยไม่มีเวลามาคิดเรื่องของเขา

ตอนที่ฉันกำลังรีบวิ่งไปโรงเรียน ก็คิดถึงเรื่องตานั่นอยู่ประปราย

(อีตานั่น...... รู้สึกไม่ดียังไงไม่รู้แฮะ)

............

วอร์เรนตอนนี้กำลังอยู่ในโกดังแห่งหนึ่ง เป็นโกดังปกติที่เอาไว้เก็บสินค้า ไม่มีคนเดินเข้ามาเพ่นพล่าน

วอร์เรนเข้ามาภายในโดยอาศัยพลังพิเศษในการปลดล็อคกุญแจแบบเดียวกับที่เขาทำที่ห้องของตัวเอง

ทันทีที่เขาเข้ามาข้างในก็ถึงกับต้องตกใจ

“นี่มัน...... มิติว่างเปล่า”

สิ่งที่วอร์เรนเห็นอยู่ตรงหน้านั้น คือมิติที่ว่างเปล่าปกคลุมไปหลายจุดทั่วโกดังเก็บของแห่งนั้น ซึ่งมันเป็นมิติที่ตัวแทนผู้เชื่อมต่อเวลาสามารถเข้าได้เท่านั้น

แต่ ณ ตอนนี้ มิติแห่งนั้นกำลังปกคลุมมิติเวลาที่แท้จริง ทั้งๆที่ความจริงมันไม่ควรที่จะเข้ามาเกี่ยวกันได้ เพราะเอกภพเวลานั้นไม่สามารถเชื่อมต่อกันได้

“มันเกิดอะไรขึ้น”

“หรือว่า... นี่เป็นฝีมือของเธอ?”

ผู้หญิงที่มีผมขาวหางม้าคนหนึ่งเดินเข้ามาในโกดังตามหลังวอร์เรนมาติดๆ

“รู้ตัวด้วยรึเนี่ย?”

“แต่ว่านะ...”

*ฟึ่บ*

เพียงแค่เสี้ยววิ เธอคนนั้นก็เข้าประชิดตัววอร์เรนได้ในทันที โดยที่ทั้งหมดนั้นเป็นการเคลื่อนที่ตามปกติ

(เร็ว!)

“ฉันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับที่นี่หรอกนะ”

“ที่นี่เองก็เรียกฉันมาเหมือนกัน”

“...เรียกเธอมา?”

ผู้หญิงคนนั้นยิ้มออกมา ก่อนที่จะเอามือจับคางของวอร์เรน

“นายดูท่าจะรู้เรื่องอะไรสำคัญๆอยู่นะ ไม่ต้องเสียเวลาไปตามหาเองเลย”

เธอคนนั้นเดินออกมาจากตัวของวอร์เรน ก่อนจะเอามือทาบลงไปตรงมิติว่างเปล่าที่โผล่ขึ้นมาพวกนั้น

“จะทำอะไรน่ะ!?”

มิติพวกนั้นค่อยๆมีสภาพที่เปลี่ยนไป เธอพยายามตั้งสมาธิเพื่อผสานรอยแยกพวกนั้นให้กลับเข้ารูปเหมือนเดิม

“พลังอะไรกัน!?”

มิติว่างเปล่าทุกๆจุดรายล้อมโกดังถูกผสานจนปิดสนิท เหตุการณ์นี้ทำให้วอร์เรนอึ้งมากสุดๆ

“ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อจะสู้กับนาย”

“แต่นายจะต้องทำอะไรให้ฉันสักอย่าง”

เธอคนนั้นหันหน้ามาพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูไม่น่าไว้ใจเท่าไร

............

............

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา