ลิขิตรักปานา
-
เขียนโดย กัญมิชฌาห์
วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 11.13 น.
2 ตอน
1 วิจารณ์
4,200 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 11.26 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) บทนำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทนำ
“เนื้อคู่..แม่หนูจะได้พบเนื้อคู่ ในเร็ววันนี้” หญิงยิปซีวัยกลางคนเอ่ยขึ้น พร้อมกันมองหญิงสาวที่กำลังก้มหน้าก้มตาหาของในกระเป๋าใบใหญ่ตาเขม็ง
ด้วยความพลุกพล่านของผู้คนในสนามบินนานาชาติของ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้หญิงสาวได้ยินไม่ถนัด
“คะ พูดกับหนูหรอคะ” เงยหน้าถามด้วยภาษาอังกฤษ
หญิงวัยกลางคนพยักหน้ารับ คว้ามือของหญิงสาวขึ้นมาจับ เสียงกระดิ่งจากข้อมือของยิปซีผู้นั้น เหมือนเป็นเสียงมนต์สะกดให้เธอต้องจ้องเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของหล่อน เหมือนที่หล่อนกำลังจ้องเข้าไปในนัยน์ตาสุกใสของเธอ
“แม่หนูจะได้พบเนื้อคู่ในเร็ววันนี้ แม่หนูไม่มีทางปฏิเสธได้...ฟ้าลิขิตไว้แล้ว”
หญิงสาวอึ้งเล็กน้อย คิ้วสวยขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย หวาดระแวงและไม่ไว้ใจ เธอค่อยๆดึงมือเรียวของตนออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย ก่อนจะยกมือไหว้ตามวัฒนธรรมไทยเป็นการขอโทษ
“หนูขอโทษจริงๆนะคะคุณป้า แต่หนูไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้ค่ะ”
“ป้าเข้าใจ แต่เวลาจะทำให้หนูนึกรู้เองว่าเขาคือ คนที่ฟ้าลิขิตไว้ให้” พูดจบก็เดินจากไปทิ้งให้หญิงสาวรำพันในใจอยู่คนเดียว
‘เนื้อคู่...ฉันเนี่ยนะมีเนื้อคู่’ ตลอดยี่สิบกว่ามีที่ผ่านมา เธอไม่เคยคบหาใครอย่างจริงจังเลยสักคน ผู้ชายทั้งหลายที่เข้ามา แรกๆก็ทำทีว่าจะจีบ พอเอาเข้าจริงก็หนีหาย เป็นอย่างนี้เสียทุกราย จนเธอปลงเสียแล้วว่าชาตินี้เธอคงไม่มีทางมีคนรักเหมือนคนอื่นแน่ๆ
สวย รวย การศึกษาดี หน้าที่การงานเลิศ แต่ดันไม่มีแฟน เสียของชะมัด! เธอมักจะได้ยินคำเหล่านี้จากคนรอบข้าง จนเอียนที่จะเอามาใส่ใจแล้ว ไม่คิดว่าจะมีคนทักเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก
ความคิดทั้งหมดหยุดลง เมื่อเสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น เมื่อเห็นว่า ‘พี่ชาย’เป็นคนส่งมาหญิงสาวก็ยิ้มออกด้วยความสุขใจ ก่อนจะกดอ่านข้อความ
“ถึงแล้วโทรมาหาพี่นะปานา เดี๋ยวพี่ไปรับ”
“ค่า ขอบคุณนะคะพี่ณัฐน์” เธอส่งข้อความตอบ ก่อนยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู ก็พบว่าเป็นเวลาเกือบสิบโมงเช้า ถ้าเทียบกับประเทศไทยตอนนี้เวลาก็ใกล้เข้าวันใหม่แล้ว จึงพิมพ์ข้อความต่อไปอีกว่า “พี่ณัฐน์ก็รีบเข้านอนนะคะ เดี๋ยวตื่นมารับนลีไม่ไหว ฝันดีค่ะ”
“โอเค ไว้เจอกัน” อ่านข้อความจบ เธอก็ต้องสวมวิญญาณนักวิ่งสี่คูณร้อยเมตร เพราะใกล้ถึงเวลาที่ต้องขึ้นเครื่องเต็มทีแล้ว จากการออกกำลังขาเมื่อครู่ ทำให้หญิงสาวหลับแทบจะทันทีที่ได้เอนหลัง
เสียงคลื่นซัดสาดบวกกับไอความเย็นจากน้ำทะเล หญิงสาวร่างบางต้องห่อไหล่เข้าหากันด้วยความหนาวเหน็บ บรรยากาศโดยรอบประดับด้วยแสงไฟและเสียงเพลงสากลแสนโรแมนติกที่เข้ามากระทบโสตประสาท ทำให้เธอเกิดอาการเหงาขึ้นมาจับใจ
“หนาวไหมครับ” เสียงนุ่มทุ้มกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู แต่กลับทำให้หัวใจของเธออบอุ่นขึ้นมาทันใด
“ค่ะ” พูดจบ ร่างสูงก็นำผ้าคลุมไหล่มาคลุมให้เธออย่างอ่อนโยน
“ขอบคุณนะคะ” เธอหันไปตอบ พร้อมกับกุมมือหนาที่โอบร่างเธออยู่อย่างสุขใจ
ทั้งสองยืนดูบรรยากาศรอบข้างอย่างมีความสุข เมื่อได้สบตากันก็เหมือนมีแม่เหล็กดูดให้ทั้งสองคนต้องขยับใบหน้าเข้าหากันเรื่อยๆ จนริมฝีปากของทั้งสองสัมผัสกัน แม้ว่าจะไม่ใช่จูบที่ดูดดื่ม แต่หัวใจของเธอก็ยังอดเต้นกระเส่าไม่ได้
เมื่อผละออกจากกันอย่างอ้อยอิง ชายหนุ่มก็กระซิบเบาๆที่ข้างหู จนหญิงสาวขนลุกซู่ด้วยความวาบหวิว “คุณคือผู้หญิงของผม...ผมรักคุณนะปานา”
“ฉันก็รักคุณค่ะ...พรึบ!” ยังไม่ทันได้พูดจบประโยค เสียงประกาศว่าเครื่องกำลังจะลงสู่พื้นดินก็กระทบโสตประสาท ทำให้เธอสะดุ้งตื่นทันที
“ฝันงั้นหรอ” เมื่อลืมตาขึ้นเธอก็พึมพำกับตัวเอง พร้อมกับเอามือทาบที่หน้าอก หัวใจของเธอ ยังเต้นแรงอยู่เลย
“คิดมากไปแน่ๆ” แม้จะบอกว่าตนเองคิดมากเรื่องที่ถูกทัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในฝันนั้นเธอมีความสุขมากๆ มีความสุขทั้งๆที่เห็นหน้าของเขาไม่ชัด มีเพียงแววตาเท่านั้นที่เธอจำได้ดี...ดวงตาที่ทำให้เธอวาบหวิวอย่างหาสาเหตุไม่ได้
“ถ้าคำของยิปซีคนนั้นเป็นความจริง อีกไม่นานเราคงได้พบกันนะคะ...คุณเนื้อคู่”
**** อ่านแล้วช่วยเม้นวิจารณ์กันด้วยนะคะ ****
กัญมิชฌาห์
“เนื้อคู่..แม่หนูจะได้พบเนื้อคู่ ในเร็ววันนี้” หญิงยิปซีวัยกลางคนเอ่ยขึ้น พร้อมกันมองหญิงสาวที่กำลังก้มหน้าก้มตาหาของในกระเป๋าใบใหญ่ตาเขม็ง
ด้วยความพลุกพล่านของผู้คนในสนามบินนานาชาติของ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้หญิงสาวได้ยินไม่ถนัด
“คะ พูดกับหนูหรอคะ” เงยหน้าถามด้วยภาษาอังกฤษ
หญิงวัยกลางคนพยักหน้ารับ คว้ามือของหญิงสาวขึ้นมาจับ เสียงกระดิ่งจากข้อมือของยิปซีผู้นั้น เหมือนเป็นเสียงมนต์สะกดให้เธอต้องจ้องเข้าไปในดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของหล่อน เหมือนที่หล่อนกำลังจ้องเข้าไปในนัยน์ตาสุกใสของเธอ
“แม่หนูจะได้พบเนื้อคู่ในเร็ววันนี้ แม่หนูไม่มีทางปฏิเสธได้...ฟ้าลิขิตไว้แล้ว”
หญิงสาวอึ้งเล็กน้อย คิ้วสวยขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย หวาดระแวงและไม่ไว้ใจ เธอค่อยๆดึงมือเรียวของตนออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย ก่อนจะยกมือไหว้ตามวัฒนธรรมไทยเป็นการขอโทษ
“หนูขอโทษจริงๆนะคะคุณป้า แต่หนูไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้ค่ะ”
“ป้าเข้าใจ แต่เวลาจะทำให้หนูนึกรู้เองว่าเขาคือ คนที่ฟ้าลิขิตไว้ให้” พูดจบก็เดินจากไปทิ้งให้หญิงสาวรำพันในใจอยู่คนเดียว
‘เนื้อคู่...ฉันเนี่ยนะมีเนื้อคู่’ ตลอดยี่สิบกว่ามีที่ผ่านมา เธอไม่เคยคบหาใครอย่างจริงจังเลยสักคน ผู้ชายทั้งหลายที่เข้ามา แรกๆก็ทำทีว่าจะจีบ พอเอาเข้าจริงก็หนีหาย เป็นอย่างนี้เสียทุกราย จนเธอปลงเสียแล้วว่าชาตินี้เธอคงไม่มีทางมีคนรักเหมือนคนอื่นแน่ๆ
สวย รวย การศึกษาดี หน้าที่การงานเลิศ แต่ดันไม่มีแฟน เสียของชะมัด! เธอมักจะได้ยินคำเหล่านี้จากคนรอบข้าง จนเอียนที่จะเอามาใส่ใจแล้ว ไม่คิดว่าจะมีคนทักเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก
ความคิดทั้งหมดหยุดลง เมื่อเสียงแจ้งเตือนจากโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น เมื่อเห็นว่า ‘พี่ชาย’เป็นคนส่งมาหญิงสาวก็ยิ้มออกด้วยความสุขใจ ก่อนจะกดอ่านข้อความ
“ถึงแล้วโทรมาหาพี่นะปานา เดี๋ยวพี่ไปรับ”
“ค่า ขอบคุณนะคะพี่ณัฐน์” เธอส่งข้อความตอบ ก่อนยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู ก็พบว่าเป็นเวลาเกือบสิบโมงเช้า ถ้าเทียบกับประเทศไทยตอนนี้เวลาก็ใกล้เข้าวันใหม่แล้ว จึงพิมพ์ข้อความต่อไปอีกว่า “พี่ณัฐน์ก็รีบเข้านอนนะคะ เดี๋ยวตื่นมารับนลีไม่ไหว ฝันดีค่ะ”
“โอเค ไว้เจอกัน” อ่านข้อความจบ เธอก็ต้องสวมวิญญาณนักวิ่งสี่คูณร้อยเมตร เพราะใกล้ถึงเวลาที่ต้องขึ้นเครื่องเต็มทีแล้ว จากการออกกำลังขาเมื่อครู่ ทำให้หญิงสาวหลับแทบจะทันทีที่ได้เอนหลัง
เสียงคลื่นซัดสาดบวกกับไอความเย็นจากน้ำทะเล หญิงสาวร่างบางต้องห่อไหล่เข้าหากันด้วยความหนาวเหน็บ บรรยากาศโดยรอบประดับด้วยแสงไฟและเสียงเพลงสากลแสนโรแมนติกที่เข้ามากระทบโสตประสาท ทำให้เธอเกิดอาการเหงาขึ้นมาจับใจ
“หนาวไหมครับ” เสียงนุ่มทุ้มกระซิบเบาๆ ที่ข้างหู แต่กลับทำให้หัวใจของเธออบอุ่นขึ้นมาทันใด
“ค่ะ” พูดจบ ร่างสูงก็นำผ้าคลุมไหล่มาคลุมให้เธออย่างอ่อนโยน
“ขอบคุณนะคะ” เธอหันไปตอบ พร้อมกับกุมมือหนาที่โอบร่างเธออยู่อย่างสุขใจ
ทั้งสองยืนดูบรรยากาศรอบข้างอย่างมีความสุข เมื่อได้สบตากันก็เหมือนมีแม่เหล็กดูดให้ทั้งสองคนต้องขยับใบหน้าเข้าหากันเรื่อยๆ จนริมฝีปากของทั้งสองสัมผัสกัน แม้ว่าจะไม่ใช่จูบที่ดูดดื่ม แต่หัวใจของเธอก็ยังอดเต้นกระเส่าไม่ได้
เมื่อผละออกจากกันอย่างอ้อยอิง ชายหนุ่มก็กระซิบเบาๆที่ข้างหู จนหญิงสาวขนลุกซู่ด้วยความวาบหวิว “คุณคือผู้หญิงของผม...ผมรักคุณนะปานา”
“ฉันก็รักคุณค่ะ...พรึบ!” ยังไม่ทันได้พูดจบประโยค เสียงประกาศว่าเครื่องกำลังจะลงสู่พื้นดินก็กระทบโสตประสาท ทำให้เธอสะดุ้งตื่นทันที
“ฝันงั้นหรอ” เมื่อลืมตาขึ้นเธอก็พึมพำกับตัวเอง พร้อมกับเอามือทาบที่หน้าอก หัวใจของเธอ ยังเต้นแรงอยู่เลย
“คิดมากไปแน่ๆ” แม้จะบอกว่าตนเองคิดมากเรื่องที่ถูกทัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในฝันนั้นเธอมีความสุขมากๆ มีความสุขทั้งๆที่เห็นหน้าของเขาไม่ชัด มีเพียงแววตาเท่านั้นที่เธอจำได้ดี...ดวงตาที่ทำให้เธอวาบหวิวอย่างหาสาเหตุไม่ได้
“ถ้าคำของยิปซีคนนั้นเป็นความจริง อีกไม่นานเราคงได้พบกันนะคะ...คุณเนื้อคู่”
**** อ่านแล้วช่วยเม้นวิจารณ์กันด้วยนะคะ ****
กัญมิชฌาห์
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ