แค่อยากให้รู้ว่ารักเธอ

8.7

เขียนโดย ลันตนา

วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 14.02 น.

  33 บท
  10 วิจารณ์
  35.71K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน พ.ศ. 2562 21.37 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

33) แย่งชิง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บทที่ 33 แย่งชิง
“จะไปไหนกันเหรอ” เสียงทุ่มเอ่ยทักชายหญิงสองคน ร่างสูงโปร่งในชุดทักสิโด้ก้าวเดินเข้ามาในห้อง ดวงตาสีฟ้าจ้องมองชายหนุ่มและหญิงสาวในอ้อมแขนไม่วางตา
ปีเตอร์ย่างสามขุมเข้าใกล้ก้องภพและไอรินทร์ก่อนยกเท้าขึ้นถีบหน้าท้องของก้องภพ ส่งผลให้ร่างที่กำลังยืนและมีอีกร่างซ้อนอยู่เซล้มลง ปีเตอร์ดึงแขนของไอรินทร์ให้เธอลุกขึ้นยืนแต่เท้าข้างขวาที่มีอาการบวมทำให้เธอลุกขึ้นลำบาก ปีเตอร์ประคองร่างเธอให้ลุกยืนเธอพยายามผลักใสแต่ไม่เป็นผลและในตอนนั้นผู้ชายสามคนเดินอาดๆ เข้ามาในห้อง
                “พวกแกสามคนจัดการไอ้นั้นด้วย”
                เมื่อได้รับคำสั่งทั้งสามดึงร่างของก้องภพให้ลุกยืน แต่ทันใดนั้นชายหนุ่มรวบแรงลุกขึ้นและยันเท้าใส่ร่างอ้วนที่เดินเข้ามาใกล้ ไออ้วนล้มลงหงายหลังกับพื้น เข้าซัดหมัดใส่คนคุมประตูหน้าห้องเต็มแรง แต่โชคก็มาเข้าข้างคนดีเสมอไป ชายฉกรรจ์ผิวกร้านแดดในชุดบาทหลวงตรงเข้ามาใช้มีดสั้นแทงเข้าที่หน้าท้องของก้องภพ ร่างอ้วนซึ่งเป็นผู้ยืนคุมประตูทางเข้าข้างล่างยึดแขนขวาไว้และผู้เฝ้าประตูห้องที่ก้องภพทุบจนสลบตอนนี้กำลังยึดแขนขวาไว้แน่นหนา ร่างของชายหนุ่มในชุดบาทหลวงตรงเข้ามาและอัดกำปั้นใส่ใบหน้ากับลำตัว
                “หยุดนะ หยุด” ไอรินทร์ตะโกนสุดเสียงเมื่อเห็นคนรักกำลังถูกทำร้ายอย่างไม่มีทางสู้ เสียงของเธอไม่ได้ทำให้การทารุณตรงหน้าหยุดลงแม้แต่น้อยแต่กลับรุนแรงขึ้น
                “เอาสิ! ร้องขอชีวิตมันสิยิ่งคุณร้องขอไอ้นั้นมันจะยิ่งเจ็บตัวมากขึ้น ฮะๆๆ”
                “ไอเลว แกมันอำมิหิตที่สุด” ไอรินทร์สบถค่าเขาอย่างเกลียดชัง  ปีเตอร์ตวัดสายตาดุดันไปทางหญิงสาว
                “คุณกล้าพูดแบบยี้กับผมเหรอ” หนุ่มลูกครึ่งยกมือขึ้นบีบรามหญิงสาวจนเธอรับรู้ถึงความเจ็บปวด
                “หยุดร้องไห้และตะโกนเป็นคนบ้าสักทีนะคนดีเตรียมตัวเข้าพิธีแต่งงานกับผมดีกว่า” เขาปล่อยมืออกจากใบหน้าเธอ มือหนารัดต้นแขนเธอจนเกิดรอยแดง ความเจ็บกายสำหรับเธอเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่เจ็บปวดหัวใจที่เห็นคนรักถูกทำร้าย และไม่สามารถช่วยเหลือเขาได้มันทรมานเหมือนถูกมือบีบหัวใจให้แตกสลาย
                “เอาละๆ พวกนายหยุดได้แล้ว เดี๋ยวแขกคนสำคัญของฉันหมดแรงดูพิธีแต่งงานของฉันละเสียดายแย่” ปีเตอร์แสยะยิ้มและออกคำสั่งต่อสามคนที่กำลังใช้ความรุนแรง บาทหลวงกำมะลอเดินเข้ามาตรงแท่นประกอบพิธี ส่วนอีกสองคนยึดแขนซ้ายขวาของก้องภพไว้แน่นหนา
                บาทหลวงลวงโลกเริ่มต้นอ่านคัมภีร์คู่ชีวิตซึ่งเกี่ยวกับการใช้ชีวิตคู่ เพื่อให้เจ้าบ่าวและเจ้าสาวรับรู้ถึงภาระหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติหลังจากแต่งงานเป็นคู่ชีวิตต่อจากนั้นให้บ่าวสาวกล่าวคำปฏิญาณ
                “เจ้าบ่าวจะยอมรับนางสาวไอรินทร์ไว้เป็นภรรยาหรือไม่”
                “ยอมรับครับ” ปีเตอร์กล่าวพร้อมยิ้มรับอย่างชื่นมื่น
                “เจ้าสาวจะยอมรับนายปีเตอร์ไว้เป็นสามีหรือไม่”
                ไอรินทร์มองหน้าชายหนุ่มตรงหน้าสลับกับบาทหลวงกำมะลอและมองคล้อยของหลังของปีเตอร์ เขาคนนั้นคือผู้ชายที่เธออยากใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมากที่สุด
                “รีบตอบสิที่รัก” เจ้าบ่าวลวงโลกเว้าวอน
                ก้องภพสบตาคนรักที่ถูกแย่งชิงไปต่อหน้า เขาทำได้เพียงมองอย่างเดียวไม่ได้เด็ดขาดสองกำปั้นกำแน่นจนเล็บเกือบจิกเข้าเนื้อ
                “ไม่ยอมโว้ย!” เสียงทุ่มคำรามกร้าว ก้องภพรวบรวมกำลังทั้งหมดสะบัดร้างที่ยึดตนเองจนกระจายไปคนละทิศเขาชักอาวุธทรงกระบอกออกมาลั่นไกปลิดชีพร่างที่นอนบนพื้นทั้งสองร่างและบาทหลวงกำมะลอ
                ปีเตอร์เห็นดังนั้นจึงล็อคคอของหญิงสาวมาไว้ในวงแขนอาวุธทรงกระบอกในมือบดขยี้ทลงบนขมับของไอรินทร์ หนุ่มตาน้ำข้าวกับเรียวปากบางเหยียดยิ้มเยาะ
                อาจารย์ฝึกนักศึกษาวิชาทหารที่เพื่อนร่วมงานรวมไปจนถึงนักเรียนต่างชื่นชมว่ามีความสามารถด้านการยิงปืน เมื่อสมัยยังเป็นนักเรียนคะแนนวิชายิงปืนเขาได้คะแนนอันดับหนึ่งทุกปีของชั้นเรียน ทุกครั้งที่ก้องภพจับอาวุธความมั่นใจรวมไปอยู่ที่ปลายกระบอกแต่ในตอนนี้ความมั่นใจถูกแทนที่ด้วยความหวาดหวั่น
                “แน่จริงยิงเซ่” หนุ่มตาน้ำข้าวเอ่ยยียวนปลายกระบอกอาวุธบดขยี้ลงบนขมับของหญิงสาวเพิ่มอีกเป็นเท่าตัว
                ก้องภพสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดเพ่งสายตาไปยังเป้าหมายปลายกระบอกเล็งไปกับจุดเดียวกันกับสายตา เขา รวบรวมสมาธินิ้วชี้เตรียมเหนี่ยวไก
                “โอ๊ย!” ใบหน้าหนุ่มลูกครึ่งเหยเกเพราะความเจ็บปวดจากคมฟันของไอรินทร์ฝังลงบนแขน เมื่อเธอได้รับอิสระจึงออกแรงกึ่งเดินกึ่งวื่งไปทางก้องภพ
                “ทำแบบนี้ทำไมมันอันตราย” ก้องภพดุไอรินทร์กับความกล้าบ้าบิ่นของเธอ ในมือของปีเตอร์มีอาวุธแต่เธอกล้ากัดแขนเขาโดยไม่กลัวว่าอาวุธสังหารทรงกระบอกจะลั่น ทำไปได้ยังไง ชายหนุ่มโอบเธอมาไว้ในอ้อมแขนอย่างห่วงใย
                คนที่เพิ่งหายเจ็บจากการถูกกัดจ้องมองชายหญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของกันและกันอย่างอาฆาต ทำไมถึงไม่ถูกรักบ้าง ทำไมต้องมีแต่ความเจ็บปวดต้องมาลงที่ฉัน...ปีเตอร์คิดในใจแรงโทสะค่อยๆ ปะทุขึ้นในหัวใจเพราะภาพบาดใจตรงหน้า เขาไม่มีความสุขผู้ใดก็อย่าคิดหวังว่าจะมีความสุข
                “รักกันมมากใช่มั้ย” เสียงแข็งกร้าวของคนที่มีความริษยาเต็มหัวใจเรียกความสนในของก้องภพและไอรินทร์ให้หันไปมองกันเป็นตาเดียวพบว่าปลายกระบอกกำลังเล็กตรงมาที่เธอและเขา
                “อย่านะปีเตอร์ใจเย็นๆ” ไอรินทร์พยายามเกลี้ยกล่อมเพื่อนหนุ่ม ความเป็นมิตรภาพของเขาที่เคยมอบให้ยังไม่เคยเลือนหายไปจากความทรงจำของเธอแม้แต่น้อย
                “ใจเย็นบ้าบออะไร ฉันใจเย็นจนต้องเสียเธอไปเหรอ”
                “แม้ว่ารินทร์จะรักปีเตอร์แบบคนรักไม่ได้แต่เรารักกันแบบเพื่อนได้เสมอ” หญิงสาวผละออกจากอ้อมกอดของคนรักและย่างเข้าหาเพื่อนหนุ่มทีละก้าว
                “ไม่! ฉันไม่ต้องการ เราต้องเป็นคนรักกัน ต้องเป็นคนรักกัน เราต้องเป็นคนรักกันเท่านั้น” เขาพูดคล้ายคนเสียสติอาวุธทรงกระบอกส่ายไปมาจนน่าหวั่นกลัวว่ามันจะลั่น ก้องภพพยายามเข้าไปดึงร่างของไอรินทร์ให้ออกห่างแต่เธอขัดขืน
                “เรามาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมนะ เป็นปีเตอร์ที่แสนดีคนเดิมสำหรับรินทร์นะ”
                “ไม่! ม่ายยย”
ปัง! ปัง! ปัง!
                “รินทร์!!”
               
                 ร่างของไอรนิทร์นอนนิ่งไม่ได้สติมาเป็นเวลาสองวันในโรงพยาบาล ก่อนหน้านี้ครอบครัวของเธอมาเยี่ยมเธอ และผู้เป็นมารดาอาสาจะอยู่เฝ้าลูกสาวคนเล็กอีกเช่นเคยแต่ก็ถูกสมาชิกอีกสองคนในบ้านไม่อนุญาต ก่อนหน้าวรรณวิภาจะขออาสาเฝ้าลูกสาว นางเกิดอาการเป็นลมเมื่อทราบข่าวว่าไอรนิทร์ถูกยิง ตอนนี้คนเฝ้าเพียงคนเดียวคือก้องภพ ชายหนุ่มถูกแทงแค่ที่เดียวแต่ฟื้นตัวได้เร็วเพราะถูกแทงในตำแหน่งที่ไม่อันตรายถึงชีวิต และบาดแผลไม่ลึกมาก
                “รีบตื่นนะ แล้วเราไปเที่ยวทะเล ไปดูดาวด้วยกันอีก” เจ้าของมือหนาบีบเจ้าของมือเล็กอย่างรอคอยปาฏิหาริย์ ก้องภพสวดมนภาวนาทุกคืนวันเพื่อให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์นำทางให้เธอฟื้น ให้เธอกลับมาเป็นดวงใจของเขา
                ในตอนนั้นมีเสียงประตูดังขึ้นก้องภพละมือจากผู้ป่วยแล้วหันไปสนใจประตู พบว่ามีชายหนุ่มชาวต่างชาติในชุดคนไข้ที่เขาคุ้นเคยนั่งบนรถเข็น คนที่เข็นเขาไม่ใช่บุรุษพยาบาลแต่เป็นตำรวจ
                “นาย!” ก้องภพขบกรามแน่นพร้อมเอ่ยเสียงลอดไรฟัน ดวงตาจากที่เคยหมองเศร้าบัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นความคับแค้น ปีเตอร์ผู้นั่งบนรถเข็นนั่งอยู่ย่างสงบไม่เอ่ยปากอะไรจนกระทั่งรถเข็นถูกเข็นเข้ามาใกล้เตียงผู้ป่วย
                “ฉันขอพบไอรินทร์เป็นครั้งสุดท้าย” เจ้าของดวงตาสีน้ำทะเลเอ่ยอย่างสำนึกผิด
                “ฉันขออยู่ด้วยเพราะกลัวนายจะทำร้ายเธออีก” ก้องภพเอ่ย ปีเตอร์พยักหน้ารับก่อนเอื้อมมือขึ้นไปแตะเจ้าของมือบนเตียงอย่างแผ่วเบา
                “ฉันเลวมากจนไม่มีใครเชื่ออีกเลยใช่ไหม”
                “ใช่ ไม่มีใครเชื่อใจนาย และปล่อยมือจากภรรยาของฉันเสีย”
                “ฉันขอจับมือเธอเป็นครั้งสุดท้าย เธอตื่นเมื่อไหร่ฉันฝากบอกเธอด้วยว่าฉันขอโทษกับทุกเรื่อง” ปีเตอร์หวนนึกถึกถึงวันเวลาเก่าๆ ที่เคยทำร่วมกับกับไอรนิทร์ มิตรภาพอันแสนงดงามที่เธอมอบให้เขากลับไม่เห็นค่า และทำลายมันอย่างไร้เยื่อใยแต่หญิงสาวไม่เคยคิดโกรธ
                “...และขอบคุณที่เธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉันเสมอมาแม้ว่าฉันจะทำแย่ต่อเธอมากเพียงใด” ปีเตอร์ยิ้มบางเขาแหงนหน้าขึ้นมองก้องภพ
                “เย็นวันนี้ฉันจะถูกส่งตัวกลับบ้านไปรับโทษตามกฎหมายของบ้านเมือง ฉันฝากบอกเธอตามนี้ด้วย ฉันขอแสดงความยินดีที่นายได้รักกับผู้หญิงที่น่ารักคนนี้ขอให้นายและเธอมีความสุขมากๆ” ก้องภพได้ยินเช่นนั้นจึงรู้สึกใจอ่อนลง อย่างน้อยมิตรภาพของเพื่อนทำให้คนทำผิดรู้สึกสำนึกได้
               “ฉันก็ขอให้นายโชคดี”
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา