แค่อยากให้รู้ว่ารักเธอ
เขียนโดย ลันตนา
วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 14.02 น.
แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน พ.ศ. 2562 21.37 น. โดย เจ้าของนิยาย
19) ดูแลเธอให้ดี
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่19 ดูแลเธอให้ดี
ญาณิศาเดินเข้ามาหาเพื่อนสาวบนโซฟาตัวเล็กข้างประตูระเบียงของห้องพัก ตั้งแต่กลับมาจากเกาะเธอก็เอาแต่ร้องให้ถามอะไรก็ตอบแบบบ่ายเบี่ยง
“แกโอเคนะ” สาวน้อยโอบไหล่เพื่อนสาวรอบที่สามในเมื่อถามหาความจริงไม่ได้จึงต้องปลอบใจไปตามอาการ ไอรินทร์พยักหน้าน้อยๆกับยิ้มบางๆแทนคำตอบความจริงมันจุกอกทำให้เธอพูดไม่ได้เลยได้ปล่อยน้ำตาแทนคำพูด
“ไปอาบน้ำเถอะเดี๋ยวลงไปกินบาร์บีคิวด้วยกัน” มองดูเวลาอีกไม่นายจะหนึ่งทุ่มใกล้ถึงเวลาสำหรับปาร์ตี้เล็กๆบนชายหาดแสนสงบแล้ว
“แกลงไปก่อนเถอะเดี๋ยวฉันตามไป” ญาณิศาไม่ขัดใจเพื่อนจึงออกจากห้องไปก่อน
อยู่คนเดียวในห้องเงียบสงัดน้ำตายิ่งพรั่งพรูออกมามากขึ้น สั่งตัวเองกี่ครั้งให้ตัดใจเลิกคิดถึงแต่ไม่เคยทำได้ ทำไมถึงดื้อด้านอย่างนี้ ทำยังไงถึงจะทำลายความรู้สึกดีที่เคยมีออกไปเสียที
ปาร์ตี้บาร์บีคิวจัดโดยสองครอบครัวร่วมมือกันเป็นเจ้าภาพ อาหารทะเลสดใหม่ถูกเสียบบนไม้เสียบลูกชิ้นขนาดยาวสลับกับผักและผลไม้สำหรับบาร์บีคิว นอกจากอาหารทะเลแล้วยังมีเนื้อหมูและเนื้อไก่ให้เลือกปิ้งย่างกันได้ตามใจชอบ เนื้อย่างบนเตาถ่านส่งกลิ่นหอมไปทั่วราวกับว่าเชิญชวนทุกคนมาลิ้มลองรสชาติ
ญาณิศามองเห็นร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มรุ่นพี่ที่คุ้นเคยกำลังวุ่นวายกำการย่างอาหารสด ในใจคิดอะไรๆสนุกได้ “ฉันอยากกินหมึกย่างจังแกไปย่างกับฉันหน่อยสิ” สาวน้อยรบเร้าเพื่อนอีกฝ่ายปรายตามองไปทางเตาย่างเห็นผู้ชายที่ตนคุ้นเคย
“อยากกินก็ไปทำเองสิ” แล้วเธอจึงยันร่างให้ลุกยืนจากที่นั่งเตรียมก้าวเท้าเดินไปทางมุมสำหรับเครื่องดื่มที่มีพี่ชายของเธอและณัฐพล เขามาดูงานในกระบี่จึงแวะมาสมทบ ครั้นเห็นเพื่อนไม่ยอมเธอจึงคว้าหมับเข้าที่ข้อมือบางของไอรินทร์
“นะแกนะ” ญาณิศาทำตาปริบๆส่งประกายตาเว้าวอนเธอใช้ความขี้ใจอ่อนของเพื่อนให้เป็นประโยชน์
“ไม่ ฉันจะไปหาพี่โอ๊ต” สิ้นเสียงไอรินทร์แกะข้อมืออกจากการรั้งของเพื่อนแล้วก้าวเท้าฉับๆไปทางมุมเครื่องดื่ม
“ดื่มอะไรหน่อยมั้ย” เสียงณัฐพลทักไอรินทร์เมื่อเห็นร่างบางเดินเข้ามาใกล้
“น้ำหวานโซดา...”
“ไม่ใส่เหล้าแต่ใส่มะนาวเยอะๆ” คนสั่งยิ้มรับเขารู้ใจเธอขนาดนี้จะไม่ให้รักได้ไง “เชิญนั่งรอที่โต๊ะได้เลยครับคุณผู้หญิง”
ญาณิศานึกแค้นณัฐพลในใจ เมื่อเธอดำเนินงานคนเดียวไม่ได้จึงเดินไปขอความช่วยเหลือจากพีรพัฒน์
“พี่อาร์มช่วยอะไรหน่อยสิ” คนตัวสูงย่อตัวลงเพื่อนให้คนตัวเล็กกระซิบข้างหูได้ถนัดขึ้น
“ได้พี่จัดการเอง” คนสั่งงานเดินไปนั่งที่โต๊ะเดิมเมื่อสั่งงานเสร็จปล่อยให้ผู้รับงานดำเนินการต่อไป
พีรพัฒน์เดินเข้ามาทางมุมย่างอาหารที่เพื่อนหนุ่มของตนกำลังทำหน้าที่กุ๊กจำเป็นอยู่หน้าเตาย่าง “ย่างให้คนอื่นกิน ย่างให้ตัวเองบ้างสิ ปะ ปะ ไปนั่งกินด้วยกัน” พีรพัฒน์ตบไหล่เพื่อนพลางหยิบจานสะอาด
“ไม่ละ ฉันไม่หิว” กุ๊กจำเป็นคีบไม้บาร์บีคิวสุกพร้อมรับประทานมาพักไว้บนตะแกรงข้างเตา ยกไม้ใหม่และเนื้อชิ้นใหม่ขึ้นมาย่างต่อราวกับว่านี้คือหน้าที่ที่สำคัญของตน ความจริงแล้วไม่ใช่เขาแค่ต้องการไม่ให้ตัวเองว่างและง่วนอยู่แต่หน้าเตาจะได้ไม่ต้องสนใจใคร
“นา มาเถอะตั้งแต่เย็นแล้วนายยังไม่ได้กินอะไรเลย” พีรพัฒน์จัดการหยิบบาร์บีคิวจำนวนหนึ่ง ไก่ย่างและหมูย่างอีกจำนวนหนึ่งใส่จาน “ไปเถอะไปนั่งกินด้วยกัน” ชายหนุ่มชูจานอาหาร
“ไม่ ฉันไม่หิว เชิญนายตามสบาย” คนเป็นเพื่อนไม่สนใจอะไรดึงคอเสื้อของอีกฝ่ายให้เดินตามมานั่งที่โต๊ะ
“อะไรของนายวะ ฉันบอกว่าไม่หิวไง” เสียงสะบัดและใบหน้าหยักงอของเพื่อนหนุ่มก็ไม่ทำให้พีรพัฒน์หวั่นเกรง
“ไม่หิวก็ต้องกิน” พีรพัฒน์กดร่างของเพื่อนหนุ่มให้นั่งลงข้างไอรินทร์ส่วนข้างขวาของเธอคือญาณิศา ผู้นั่งเดิมหันมองผู้มาใหม่เพียงสักครู่จึงหันกลับที่เดิม
“แกหยิบหมึกย่างให้ฉันหน่อยสิ น้ำจิ้มด้วย” เมื่อได้อย่างต้องการญาณิศาจึงลงมือทันใด นิ้วเรียวเล็กชี้ไปยังภาชนะพลาสติกรองปลาหมึกย่างตัวโตที่ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายมือ
แขนเรียวเล็กเอื้อมสุดแขนเพื่อหยิบจับจานอาหารที่ต้องการ ออกแรงเอื้อมมากแค่ไหนก็ไปไม่ถึงเสียที
“พี่หยิบให้ดีกว่า” เห็นท่าทางปล่อยแรงเอื้อมมือสุดแขนเขาก็อดสงสารเธอไม่ได้จึงอาสาหยิบให้แทน
“โอ๊ยๆๆๆ มดกัด มาจากไหนเนี่ยเต็มไปหมดเลย” สองขาเรียวกระทืบพื้นทรายพัลวันเพื่อไล่สิ่งมีชีวิตตัวเล็กไปให้ไกล กระทืบไปกระทืบมาบังเอิญโดนกับเท้าใครบางคนต้องร้องโอ๊ย ไอรินทร์ถูกเหยียบเท้ากระเด้งตัวลุกขึ้นเซล้มลงไปนั่งบนตักของก้องภพ ใบหน้าหวานเหยเกพอจะบอกให้รู้ว่าญาณิศาเหยียบแรงแค่ไหน คนสร้างสถานการณ์เท็จนั่งอมยิ้มสบายใจกับผลลัพธ์
“โซดาน้ำแดงใส่มะนาวเยอะๆมาแล้วครับ ขอโทษที่มาส่งช้าครับ” น้ำเสียงสดใสของบริกรชายจำเป็นเสริฟนำน้ำแดงซ่าสดชื่นในภาชนะทรงสูงใส นั่งคุยกันสักครู่ณัฐพลขอตัวกลับไอรินทร์จึงอาสาไปส่งที่รถ
“อยู่ทานต่อด้วยกันอีกนิดสิคะ ยังเหลืออีกตั้งเยอะ”
“พรุ่งนี้พี่มีงานต่อ อยู่ด้วยไม่ได้จริงๆ” ชายหนุ่มเงื้อมมือจะง้างที่เปิดประตูแต่ต้องหยุดลงเพราะแขนเล็กๆที่โอบรอบเอวหลวมๆ
“อยากได้อะไรหรือเปล่า” เขาถามอย่างรู้ใจเพราะเธออยากได้อะไรก็จะทำแบบนี้เสมอตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยเปลี่ยน มือใหญ่ลูบศีรษะปกคลุมด้วยผมนุ่ม
“เปล่า แค่อยากกอดเฉยๆ” ใบหน้าซุกอยู่บนอกหนาเสียงอู้อี้ตอบเบาๆพรางหลับตา นี้เป็นที่หนึ่งที่เธอรู้สึกดีเมื่อยามทุกข์ใจ
“ไม่สบายใจเหรอ ทำไมไม่ไปปรับความเข้าใจกันละ” ณัฐพลพอจะเข้าใจอะไรบ้างเขาเห็นทุกการกระทำของผู้ชายคนนั้นต่อน้องสาวไม่แท้และหญิงชายสองคนนี้มีความรู้สึกพิเศษบางอย่างต่อกัน ประโยคนี้เร่งหยาดน้ำเม็ดเล็กๆให้ไหลลงมาจากหัวตา อ้อมแขนที่เคยโอบหลวมๆกระชับแน่นอีกเล็กน้อยเสียงซูดจมูกเบาๆทำให้พี่โอ๊ตรู้ว่าตอนนี้เธอเป็นอะไรจึงไม่ซักต่อได้แต่ปล่อยให้เธอกอดจนพอใจ
ภาชนะบรรจุของเหลวผสมแอลกอฮอล์หลากยี่ห้อตั้งเรียงรายอยู่บนเคาท์เตอร์สูงสีน้ำเงินเข้ม ร่างหนึ่งบนเก้าอี้ทรงสูงกำลังกรอกน้ำรสขมเข้าปากอย่างไม่รู้สึกเบื่อ น้ำรสขมปนซ่าทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด แต่ภาพกายแนบกายระหว่างชายหญิงเมื่อครู่ยังคงติดตาไม่จางหาย
“น้องแบบนี้อีกสอง” เสียงทุ้มแอบยานเอ่ยสั่ง ในไม่ช้าขวดแก้วสีเขียวเข้มที่ถูกสั่งเมื่อครู่มาวางตรงหน้าเรียบร้อยคนดื่มไม่รอช้าจัดการยกขวดแก้วทั้งขวดขึ้นกรอกปากราวกับว่านี้คือน้ำหวานรสเลิศ
ภาพของเพื่อนหนุ่มกับขวดและกระป๋องบรรจุเครื่องดื่มแอลกอฮอล์วางเรียงรายอยู่ตรงหน้าจำนวนไม่น้อยกำลังอยู่ในสายตาของใครบางคน
“นายดื่มหนักมากแล้วนะ พอเถอะ” พีรพัฒน์คว้าขวดแก้วเหล้าจากมือเพื่อน ความแปลกใจประดังเข้าเต็มหัวเพราะร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นเพื่อนหนุ่มดื่มหนักขนาดนี้ คนถูกแย่งขวดแก้วหันมามองตาขวางเพราะถูกขัดจังหวะความสุขก่อนจะยกกระป๋องเบียร์กระป๋องใหม่ขึ้นมาซดและถูกแย่งอีกครา
“อะไรของนายเนี่ยฮะ ออกไปเลยไป” คนเมาสะบัดมืออย่างรำคาญแล้วหันมาสนใจเครื่องดื่มอีกครั้ง เมื่อเพื่อนไม่ยอมไปพีรพัฒน์จึงกวักมือเรียกพนักงานชายใกล้ๆเพื่อขอความช่วยเหลือ
“เฮ้ย! อะไรวะ ปล่อยนะโว้ย!” ก้องภพในคราบคนเมาขัดขืนทุกการจับกุมแน่นหนาที่จับเขาพาร่างสูงมุ่งสู่ห้องพัก คนเมาล้มหน้าคะมำลงบนพื้นพรหม คลานเหมือนคนหมดท่าไปหาตู้เย็นขนาดเล็กเพื่อหาเครื่องดื่มที่ต้องการ
“พอแล้ว! นายจะดื่มอะไรนักหนาฮะ”
“มันเรื่องของฉัน นายไม่เข้าใจหรอก” ยกกระป๋องเบีรย์ขึ้นดื่ม ในค่ำคืนนี้คงไม่มีใครเข้าใจเขามากกว่าเจ้าเพื่อนยากอย่างกระป๋องเบียร์กระป๋องนี้อีกแล้ว ไม่มี ไม่มีอีกแล้ว
“แล้วมันเรื่องอะไรนายบอกฉันได้มั้ย”
“ฮึ คนอย่างนายไม่เข้าใจหรอก ไม่เข้าใจการสูญเสียของรักให้คนอื่นแต่มันก็สมควรที่ฉันมันช้าเกินไป สมน้ำหน้า สมน้ำหน้า” พีรพัฒน์ส่ายหัวระอาคำพูดที่จับใจความไม่ได้ของคนเมา
“คุณเป็นทุกอย่างของผม ผมกำลังเมาและคิดถึงคุณมาก ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมาผมบอกกับตัวเองว่าทนต่อไปอีกวันทนต่อไปอีกวัน ปลอบใจตัวเองให้อยู่ให้ได้หลังจากที่ปล่อยคุณไป...” คำพูดฟังไม่ได้ศัพท์เนื่องจากพิษแอลกอฮอล์ที่เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆเพราะจากประมาณการดื่ม
“ถ้าจะให้ผมสารภาพออกมาตรงๆผมหวังให้คุณไม่มีความสุข คุณจะได้ทุกข์ทรมารและกลับมาหาผม”
“ขอให้มีความสุข ต่อจากนี้ไปคุณไม่ใช้ผู้หญิงของผมอีกแล้ว ผมจะอยู่ต่อไปเพื่อคิดถึงคุณ กลับมาเถอะ” หยดน้ำเม็ดเล็กๆไหลลงทางหางตา ความอัดอั้นในใจถูกระบายออกมาผ่านคำพูดและน้ำตาที่เคยสะกดไว้มานาน พีรพัฒน์ถอนหายใจยาวกับสภาพของชายตรงหน้านายทหารผู้สง่างามกลับต้องกลายสภาพเป็นไอ้ขี้เมาเพราะน้ำเปลี่ยนนิสัย เกิดอะไรขึ้นกับเขา
ขณะนี้เวลาสี่ทุ่มซึ่งควรเป็นเวลาของการพักผ่อนแต่มีบุคคลสี่คนกำลังนั่งปรึกษาหารือกับเรื่องแผนที่กำลังดำเนินว่าจะหยุดเพียงแค่นี้หรือดำเนินต่อไป
“สารินทร์เป็นไงบ้างลูก” คุณวรรณวิภาถามเพราะตั้งแต่เดินทางกลับมาจากเกาะก้องเห็นลูกสาวไม่พูดไม่จาและไม่ค่อยทานอาหาร
“หลับแล้วค่ะ” สาวน้อยตอบเสียงเรียบ กว่าเพื่อนสาวของเธอจะหลับได้ก็ไม่ใช่ง่ายเธอทั้งร้องไห้ฟูมฟายและไม่ยอมพูดอะไรญาณิศาจึงได้ปลอบเธอไปตามอาการที่เป็น
“อาร์มแล้วก้องละตอนนี้อยู่ไหน” คุณสุภาพรถาม หลังจากปาร์ตี้บาร์บีคิวก็ไม่เห็นลูกชายอีกเลย
พีรพัฒน์ถอนหายใจก่อนจะตอบ “เมาหมดสภาพเลยครับ ตอนนี้นอนอยู่ในห้อง” ทุกคนในห้องไม่อยากจะเชื่อคำนั้นเพราะชายหนุ่มที่รู้จักนานๆทีจะดื่มและแต่ละครั้งที่ดื่มเขาจะไม่ดื่มจนเมาหนัก
“พวกเราอาจจะคิดไปเองก็ได้นะว่าสองคนนี้รักกัน” ในความเงียบนั้นคุณเกรียงภพพูดความคิดเห็นของตนออกมา
“ผมคิดเหมือนกันครับ ขนาดทิ้งให้อยู่ด้วยกันก็ไม่คุยกันและยิ่งห่างเหินอีก” คุณวิชัยแสดงความคิดเห็นบ้าง
“หยุดแค่นี้เถอะพวกเขาอาจจะไม่ได้คิดอะไรกัน” คุณเกรียงภพพูดในเมื่อไม่มีอะไรดีขึ้นจงหยุดเพียงเท่านี้
ภายในห้องตกอยู่ในความเงียบทุกคนต่างพิจารณากับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทำอย่างไรดีจะทำตามแผนที่ช่วยกันวางไว้อย่างดิบดีหรือหยุดดำเนินทุกสิ่งอย่างเพราะหนุ่มสาวต่างไม่มีวี่แววจะคืนดีกันแม้แต่น้อย
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ