ซากุระฤดูร้อน 18+
-
เขียนโดย sanny17
วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 15.41 น.
20 ตอน
0 วิจารณ์
20.62K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558 15.53 น. โดย เจ้าของนิยาย
18) ตอน19+20
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความชินอิจิหัวเราะพรวดกั้นไว้ไม่อยู่พอหญิงสาวพูดจบ " เธอนั่นแหละเป็นอะไร ปกติไม่เอาอย่างนั้น ไม่เอาอย่างนี้ วันนี้เข้าชาร์ตก่อนเลยนะเธอ ...เป็นอะไร"
เขายังรอคอยคำตอบและฉันเองก็ไม่รู้จะอธิบายกับเขาว่าอะไร รู้แค่ตอนนี้ฉันต้องการเขา เขาคนเดียวเท่านั้นที่มาลบร่องรอยของฮิซูกิได้ และเขาคนเดียวเท่านั้นที่จะพาหล่อนออกไปจากสถานการณ์กดดันความรู้สึกนี่
คำตอบคงไม่จำเป็นอีกแล้ว ฉันไม่รู้จะอธิบายอะไร และหากเขาทนไม่ทำอะไรกับการยั่วสุดพลังของฉันได้ ฉันจะจับเขากดลงกับเตียงเอง
"อือออ..." หญิงสาวทำตาปรือค่อยๆ ทอดตัวลงนอนกับเตียง ปล่อยให้ปลีน่องอ้ากว้างกักตัวเขาเอาไว้ตรงกลาง ความเนียนนุ่มลอยเด่นอยู่ตรงหน้าส่ายไปมาคล้ายหางงู หญิงสาวนอนบิดเอวเล็กๆอยู่กับเตียงทำเสียงกระเส่าเย้ายวน มือน้อยก็พรางลูบไล้หน้าอกเล่นไปมา เกี่ยวนิดเกี่ยวหน่อยค่อยๆทำให้ที่ห่อหุ้มไถลลง ไม่ตบะแตกก็ให้มันรู้ไป
"อ๊าา... พี่เรียวคะ มันทำไมเสียวอย่างนี้ล่ะ อื้ออ..." ฉันค่อยๆชิมรสนิ้วของตัวเองมองเขาตาปรอย ชินอิจิยังคงนั่งอยู่ระหว่างขาของฉันและใบหน้าหล่อนั่นก็เริ่มขึ้นสีเลือดแล้วด้วย
"อ่ะ ไม่คุยก็ไม่คุย ทำเลยก็ได้" ชินอิจิไม่อยากเสียเวลารอคำตอบกับคนไม่เต็มใจจะตอบ ไร้ประโยชน์ เกมส์เดินมาถึงขนาดนี้แล้ว ...โอกาสลอยอยู่ข้างหน้านี้ ช้าไปทำไมกัน ลุยเลยดีกว่า จะได้ปิดจ็อบเร็วๆ เริ่มเบื่อการทอดเวลาแล้วเหมือนกัน การปล่อยให้อะไรของเราไปถูกเคี้ยวเล่นในปากของคนอื่นมันไม่ใช่เรื่องตลกสักนิด
"อ๊ะ ..ใจเย็นๆสิ ไม่กลัวเจ้าบ่าวเธอมาเห็นหรือไง"
หญิงสาวใช้ขาเกี่ยวเอวเขาเข้าหาตัวทันทีเมื่อชินอิจิค้อมตัวลงมาคร่อมหล่อนเอาไว้ คำพูดแทงใจส่งผลให้ฮารุชะงักเพียงน้อยนิดก่อนความคิดจะถูกเตะโด่งออกไป
หล่อนไม่ตอบอะไรหากแต่ก้มหน้าก้มตายั่วยวนจนชินอิจิชักจะเริ่มชอบใจในตัวหล่อนลุคส์นี้เสียแล้ว
"แขกในงานแอบมาเมคเลิฟกับเจ้าสาว ฮะๆ ....สุดยอดจริงๆ"
และคนปากเสียก็ยังปากเสียอยู่วันยังค่ำ ไม่รู้ว่าชินอิจิจะพูดให้หล่อนขัดอารมณ์ไปทำไม แต่พอมานึกๆตามเขาดู นี่ก็เป็นอีกครั้งที่ลักลอบมีอะไรกับเขา จะว่าไป เราก็ลักลอบแบบนี้มาตลอดนี่นะ... แปลกใจอะไรกัน
"พี่เรียวเลิกพูดมากแล้วทำสักทีได้ไหมคะ ฉันอกจะแตกอยู่แล้วนะ" หญิงสาวสั่งเขาที่กำลังล้อเล่นอยู่กับอกนุ่มเสียงเขียวตาขุ่น
"โอ๊ะโอ... ดุด้วยแฮะ" ชินอิจิแลบลิ้นออกมาจนยาวพอดี ผ้าลูกไม้เนื้อบางไม่ช่วยอะไรยามเขาใช้ความนุ่มชื้นแตะต้อง สัมผัสเปียกชื้นที่ลอดผ่านเนื้อผ้ากำลังสร้างความพอใจในรสให้กับป้านยอดสีชมพูเต่งตึง "ใจร้อนขึ้นเยอะ แถมฮอตสุดๆ ...จะเอาจริงแล้วนะ"
"สักทีเถอะน่า โม้อยู่ได้ ทำตัวเป็นไก่อ่อน อ๊าาา" โทษที่สบประมาทเขาคือการถูกดึงชั้นบนให้ลงมากองอยู่ที่เอว และสีชมพูกับความเต่งตั้งสู้ปากก็โดนเขาละเลงลิ้นไปมาจนเจ้าของร้องไม่เป็นท่า สีหน้าเหยเก
"ฮึก อ๊าา... พี่เรียวจ๋า..."
ทั้งมือทั้งปากเขาไม่ว่างมาสนทนากับหล่อนหรอก เอาแต่มาคลุกคลีอยู่กับสองเนื้อนางที่เขาดูจะหลงไหลกับความใหญ่และรสชาติของมันถึงได้ชิมจนเปียกไปหมด
หัวสมองของฮารุเริ่มเป็นสีชมพูไปหมด ไม่มีอะไรแล้วในตอนนี้นอกจากอารมณ์ใคร่และใบหน้าของเขา
"อื้อออ เจ็บอย่ากัดสิ" เขาใช้ฟันครูดเอากับยอดอกจนหล่อนอดประท้วงไม่ได้
"โอ ....สุดยอดเลยเซนไป"
ชินอิจิเริ่มย้ายแหล่งอาหารลงไปด้านล่าง เขาจับขาเพรียวให้ตั้งฉากกับที่นอนทั้งสองข้าง มือหนาทั้งสองยื่นออกไปนวดคลึงความนุ่มเนียน ลิ้นร้ายก็กำลังลูบความเปียกชื้นไปที่กลางกายบางจนเปียกเห็นรูปทรงงดงามที่เฝ้าอยากดื่มกินมันทุกคืน ชินอิจิละมือหนึ่งข้างเพื่อปลดชั้นในของหล่อนออก ร่างเปลือยเปล่าสู่สายตาเขาอีกครั้ง คราวนี้สัมผัสจริงๆที่ไร้เนื้อผ้ากางกั้นทำให้เสียงร้องตอบรับดังมากกว่าเก่า ชินอิจิละมือด้านบนสองข้างมาล็อคขาที่ตั้งชั้นเอาไว้ไม่ให้หล่อนเกร็งหนีบศรีษะเขา และใช้ลิ้นชื้นเย็นไล้เบาๆตามรอยแยกของดอกไม้งาม
"ไม่นะ พี่เรียว อ๊าา อย่า ตรงนั้นฉันไม่ไหว ทนไม่ไหว อึ้ก"
และภาพในห้องลองชุดที่ชินอิจิสอดใส่ตัวตนของเขาเข้ามาในกายกลับทำให้หล่อนอยากให้ชินอิจิลูบไล้ดูดดึงความรู้สึกในตอนนั้นออกไปให้หมด เสมือนว่ากายและจิตใจของหล่อนอยากรู้จักรสของชินอิจิเพียงผู้เดียว
"อย่ารัวแบบนั้นสิ จะทนไม่ไหวแล้ว ฮึก พี่เรียวขา น้องไม่ไหวแล้ว อ๊าาาา"
ชินอิจิแทบคลั่งกับเสียงร้องหวานใส กายกำยำลุกขึ้นรูดซิบกางเกงปลดปล่อยแต่เพียงส่วนที่ต้องใช้ในการทำภารกิจ
ร่างสูงกลับมาอีกครั้งก่อนจะค่อยๆผลักดันตัวตนให้เข้าสู่ความงามเดิมอีกครั้ง
"อ๊า.... เอาเข้ามาให้หมด อย่าให้เหลือ พี่เรียว อ๊าา"
และเขาก็ช่างทำตามที่ขอได้ดียิ่ง จังหวะรักเนิบนาบในคราแรกเริ่มเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนจนห้องหอชั่วคราวแทบลุกเป็นไฟ ดาวม
“อ๊า.... เอาเข้ามาให้หมด อย่าให้เหลือ พี่เรียว อ๊าา"
และเขาก็ช่างทำตามที่ขอได้ดียิ่ง จังหวะรักเนิบนาบในคราแรกเริ่มเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนจนห้องหอชั่วคราวแทบลุกเป็นไฟ ดาวมากมายที่ไขว่คว้าเอาไว้ได้ก็ยังเหมือนไม่เพียงพอ
ชินอิจิคว้าเอวบางแน่น ยกขึ้นมาไว้บนสะโพกทั้งยังเดินตรอกตรึงพาดอกไม้งามไปชิดอยู่กับขอบประตูก่อนจะเริ่มบรรเลงเพลงรักกันอีกรอบ คนตัวเล็กหลับหูหลับตาควรครางพิงหลังอยู่กับขอบประตูไม่สนใจว่าตอนนี้ชายหนุ่มปลดล็อกประตูแถมยังเปิดอ้าไว้เพียงน้อยนิด ก่อนจะย้ายคนตัวเล็กที่เอาแต่ล่องลอยคว้างไปวางไว้ที่เคาท์เตอร์โต๊ะกระจกสำหรับแต่งหน้าทางด้านซ้ายของประตู
ชินอิจิใช้กายใหญ่โตคลุมบังคนตัวเล็กเอาไว้จนแทบมิดหากไม่เห็นเขาเพรียวใส่รองเท้าส้นสูงที่โผล่ออกมาด้านหลังกำลังครอบสวมเอวสอบที่รัวความเร็วไม่ยั้ง ภายในช่องท้องอบอุ่นถูกความแข็งแกร่งสอดเข้าออกจนเนื้อแท้แทบสลายกายแทบไหม้เป็นจุน ความอุ่นเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความร้อนและดวงดาวอีกหนึ่งฟากของกาแล็คซี่ก็ถูกไขว่คว้าเอาไว้อีกครั้ง
ชินอิจิซวนซบอยู่กับซอกคอบางและช่วงล่างของเขาก็เริ่มขยับอีกครั้งเมื่อลมหายใจเริ่มเข้าที
"อืม.... "
จูบแลกวิญญาณดูดเอาลมหายใจของกันและกันเสียจนแทบสิ้น หญิงสาวเริ่มไร้สติอีกครั้งเมื่อตอนชินอิจิกำลังเริ่มบทเพลงที่สามระหว่างเรา หล่อนกำลังจะดำลงไปสู่ห้วงลึกของอารมณ์ท่าหากประตูไม่ถูกกระชากเปิดออกเสียก่อน ตามด้วยร่างชุ่มเหงื่อของ..... เจ้าบ่าว!!
"กรี๊ด!!!!"
หญิงสาวตกใจที่เขาเข้ามาได้กะทันหันพอดิบพอดี ใบหน้าซีดจนไม่มีสีเลือด และเหงื่อที่กำลังโทรมกายก็เหมือนจะเลือนหายกลับเข้าไปตามรูขุมขน .... ตำรวจจับโจรได้แล้ว!!! และโจรลักกินขโมยกินอย่างหล่อนก็อยากจะแกล้งสลบไปเสียตอนนี้เลย!
"ไอ้ระยำ! กล้ามากนะ!!! ปล่อยฮารุเดี๋ยวนี้!! "
เสียงฮิซูกิตวาดลั่นอย่างโกรธแค้น ประตูห้องถูกกระชากให้ปิดอย่างแรงจนฉันรู้สึกได้ว่าผนังมันจะพังลง ฮิซูกิกดล็อกประตูคล้ายไม่อยากให้คนนอกเข้ามายุ่งกับสภาพของเราสามคน ที่หากใครรู้เข้า...คงได้เป็นข่าวทอล์คออฟเดอะทาวน์แน่นอน ก็เรื่องฉาวเสียขนาดนี้
เสียงตะโกนของฮิซูกิไม่มีผลกับฉัน เพราะร่างกายมันชาไปหมดแล้วตอนถูกจับได้ ฉันไม่โทษว่าเป็นความผิดของชินอิจิหรอก ฉันเริ่มเอง
แต่คนที่กำลังคร่อมทับฉันอยู่กลับไม่มีวี่แววสะท้านต่อความผิดนี้สักนิด เขายังคงยิ้มอยู่ ฉันมองเห็นแววตาเจ้าเล่ห์ในดวงตาเขา และก็ต้องเปลี่ยนความสนใจไปที่ส่วนที่เรากำลังสอดประสานกัน ชินอิจิบ้าไปแล้ว เขากำลังขยับมัน... โอ ไม่นะ!
"พะ พี่เรียว พอแล้ว"
ฉันกระซิบให้เราได้ยินกันสองคนแต่หากเขาไม่มีท่าทีสนใจคำพูดฉันสักนิด ชินอิจิทำแค่เอื้อมมือไปหยิบผ้าขนหนูสีขาวผืนใหญ่ที่คลุมพนักเก้าอี้เอาไว้มาห่อพันฉันไว้คล้ายตอนอาบน้ำเสร็จ หากแต่ตรงนั้นของเรายังคงมีแรงเสียดทาน ชินอิจิแค่ต้องใจปิดร่างกายฉันไม่ให้ใครเห็น
"ไอ้เรียว! มันจะมากเกินไปแล้วนะ ฉันบอกให้ปล่อย ไอ้เลวเอ๊ย!!!" เสียงฮิซูกิตวาดลั่นและเขาก็กำลังจะพุ่งเข้ามา
ชินอิจิไม่ตกใจสักนิดทั้งที่กำลังหันหลังให้เขาอยู่ ชายหนุ่มอุ้มร่างในผ้าขนหนูขึ้นก่อนจะเดินอย่างช้าๆไปที่ปลายเตียง จังหวะการเดินที่ยังคงแถมการกระแทกเอวเข้าออกไปหญิงสาวคราวเล่นเล็กๆ สร้างความโมโหจนฮิซูกิอยากกระโดดเข้ามาจ้วงเอาที่ใบหน้าไม่ทุกข์ร้อนนั่นแต่ก็ติดที่เจ้าสาวของตนถูกมันอุ้มเอาอยู่
ชินอิจิวางหญิงสาวลงที่ปลายเตียงก่อนจะค่อยๆถอดถอนความเป็นตัวเองออกมาเก็บไว้ในที่ที่ควรอยู่ ก่อนจะหันไปยิ้มให้ฮิซูกิที่หน้าประตู ....ฉันจะเชื่อว่าชินอิจิกำลังประหม่า ตกใจ และกำลังแก้ไขสถานการณ์อยู่ ถ้าเขาไม่ได้แสดงอาการแบบนี้ออกมา ก็เขาเอาแต่ยิ้ม และแถมยังเอามือล้วงกระเป๋าคล้ายเป็นเรื่องเล็กน้อยที่เราแอบมีอะไรกัน และถ้าหูไม่ฝาด ฉันได้ยินฮิซูกิเรียกชื่อเขา แสดงว่าสองคนนี้รู้จักกันงั้นสิ
"ไงแก.... เจ้าสาวสวยดีนะ ลีลาเด็ดด้วย" ชินอิจิเปิดประโยคแรกที่ทำให้ทั้งฉันและฮิซูกิถึงกับส่งเสียงลั่นห้อง ชินอิจิจะยั่วอารมณ์ฮิซูกิทำไมนะ
"แก!!//พี่เรียว!!"
"ฮ่าๆ ....อย่าตกใจไปเลย ฉันกับฮารุจังน่ะ เล่นกีฬาเรียกเหงื่อกันแบบนี้ก่อนที่เธอจะรู้จักแกเสียอีก เราเข้ากันได้ดีเชียวล่ะ เผื่อแกอยากรู้ฉันจะส่งไฟล์วิดีโอไปให้ดู แต่ขอเซ็นเซอร์เรือนร่างเมียฉันหน่อยนะ พอดีหวงว่ะ"
ชินอิจิกำลังทำอะไร ฉันไม่เข้าใจที่เขากำลังเปิดเผยความจริงออกมาแบบนั้น เขาทำเพื่ออะไรกัน ฮิซูกิกำหมัดแน่น เขากำลังโกรธ ไม่มีใครสนใจฉันและเขาสองคนกำลังจะเล่นสงครามประสาทกัน ชินอิจิเอาแต่ยิ้มร่าและพูดกวนประสาทฮิซูกิ
"นี่เป็นแผนของแกมาตั้งแต่ต้นสินะ" ฮิซูกิพูดประโยคแรกด้วยแววตาโกรธแค้นสุดฤทธิ์ เขากำลังพูดถึงแผนการอะไรที่ฉันไม่เข้าใจ
"เพิ่งอ่านเกมส์ออกหรือไงไอ้โง่"
"แกมันโครตเลวเลย ไอ้เรียว! ไอ้นรก! สมควรแล้วล่ะที่แม่แกต้องตาย ฮ่าๆ สมควรแล้ว มีลูกระยำอย่างแก อยู่ไปก็หายใจทิ้งเสียเปล่าๆ ตายหนีเสียดีกว่า!"
ฮิซูกิหัวเราะลั่น และเหมือนว่าคำพูดของเขาจะแกว่งอารมณ์ของชินอิจิไม่น้อย สองคนนี้รู้จักกันมาก่อน และชินอิจิก็ควบคุมอารมณ์ได้ดี ที่ถึงแม้ว่าฮิซูกิจะพูดจาหยาบคายขนาดนั้นเขาก็ยังยับยั้งอารมณ์ไม่พุ่งเข้าไปทำร้ายฮิซูกิที่ยืนหัวเราะเอาอย่างสะใจ
แต่ว่าเอ๊ะ ... เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมฮิซูกิถึงดูเป็นคนละคนกับที่ฉันรู้จัก ฮิซูกิที่ฉันรู้ ทั้งอ่อนโยน อบอุ่น และเป็นสุภาพบุรุษไม่ใช่หรือ
"หึหึ หัวเราะไปเถอะ วันของแกมันก็สิ้นสุดลงแค่นี้แหละ ของอะไรของบ้านฉันที่พวกแกเอาไป ฉันจะท้วงคืนหมด ไม่เว้นแม้แต่ชีวิตพ่อแม่แกด้วย!" ชินอิจิพูดน้ำเสียงเกรี้ยวกราดแบบที่ฉันไม่เคยได้ยิน ดูเขาจะโกรธเอาจริงๆ
เขาพูดว่าฮิซูกิเอาของของเขาไปงั้นหรือ มันคืออะไร และทำไมถึงขั้นต้องเอาชีวิตกันด้วย
หากแต่ว่าด้านบนที่ไม่ทันจะลงตัว บรรยากาศด้านล่างกลับเป็นไปด้วยเสียงฮือฮาและความชุลมุนของเหล่าบอดี้การ์ดของทั้งสองบ้าน จอโปรเจคเตอร์หลายจอที่ถ่ายบรรยากาศในงานจู่ๆก็ปรากฏเป็นภาพของฮารุและชินอิจิในอิริยาบถต่างๆ ภาพคล้ายว่าทั้งคู่นั้นมีความสุขเสียเต็มประดา และยังมีบางภาพที่ยังชวนให้คิดลึก กระทั่งมีช่วงหนึ่งที่เสียงจากภายในห้องพักส่งตรงมายังห้องจัดเลี้ยงที่มีแขกอยู่จำนวนมากยังไม่ได้กลับออกไป เสียงวิจารณ์กันเฮฮาอย่างออกรส และการ์ดของทางตระกูลคาชินาระ และลูกน้องของคุณไทจิกำลังพากันวิ่งกรูมาที่หน้าห้องเกิดเหตุ หากแต่ยืนคุมเชิงไว้เพียงเท่านั้นเพราะ เจ้านายของทั้งสองล้านกำลังออกจากห้องเตรียมพิธีช่วงบ่ายตรงมายังที่เกิดเหตุ
"แกนั่นแหละที่จะต้องตาย นี่มันถิ่นใครรู้ไว้ซะด้วย หน้าห้องนี่มีการ์ดเป็นยี่สิบคน แกคิดว่าจะเอาลมหายใจไร้ประโยชน์ของแกออกไปได้งั้นหรือ" ฮิซูกิพูดพรางชี้นิ้วออกไปข้างนอก ใบหน้าเหี้ยมเกรียมของเขาทำฉันขนลุก ฮิซูกิไม่เคยแสดงอารมณ์นี้ให้ฉันเห็นมาก่อน ซึ่งมันผิดคาดเอามากๆ ฉันใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อรู้ว่าชินอิจิอาจโดนเขาสั่งหิ้วปีกได้ทุกเมื่อ
เขายังรอคอยคำตอบและฉันเองก็ไม่รู้จะอธิบายกับเขาว่าอะไร รู้แค่ตอนนี้ฉันต้องการเขา เขาคนเดียวเท่านั้นที่มาลบร่องรอยของฮิซูกิได้ และเขาคนเดียวเท่านั้นที่จะพาหล่อนออกไปจากสถานการณ์กดดันความรู้สึกนี่
คำตอบคงไม่จำเป็นอีกแล้ว ฉันไม่รู้จะอธิบายอะไร และหากเขาทนไม่ทำอะไรกับการยั่วสุดพลังของฉันได้ ฉันจะจับเขากดลงกับเตียงเอง
"อือออ..." หญิงสาวทำตาปรือค่อยๆ ทอดตัวลงนอนกับเตียง ปล่อยให้ปลีน่องอ้ากว้างกักตัวเขาเอาไว้ตรงกลาง ความเนียนนุ่มลอยเด่นอยู่ตรงหน้าส่ายไปมาคล้ายหางงู หญิงสาวนอนบิดเอวเล็กๆอยู่กับเตียงทำเสียงกระเส่าเย้ายวน มือน้อยก็พรางลูบไล้หน้าอกเล่นไปมา เกี่ยวนิดเกี่ยวหน่อยค่อยๆทำให้ที่ห่อหุ้มไถลลง ไม่ตบะแตกก็ให้มันรู้ไป
"อ๊าา... พี่เรียวคะ มันทำไมเสียวอย่างนี้ล่ะ อื้ออ..." ฉันค่อยๆชิมรสนิ้วของตัวเองมองเขาตาปรอย ชินอิจิยังคงนั่งอยู่ระหว่างขาของฉันและใบหน้าหล่อนั่นก็เริ่มขึ้นสีเลือดแล้วด้วย
"อ่ะ ไม่คุยก็ไม่คุย ทำเลยก็ได้" ชินอิจิไม่อยากเสียเวลารอคำตอบกับคนไม่เต็มใจจะตอบ ไร้ประโยชน์ เกมส์เดินมาถึงขนาดนี้แล้ว ...โอกาสลอยอยู่ข้างหน้านี้ ช้าไปทำไมกัน ลุยเลยดีกว่า จะได้ปิดจ็อบเร็วๆ เริ่มเบื่อการทอดเวลาแล้วเหมือนกัน การปล่อยให้อะไรของเราไปถูกเคี้ยวเล่นในปากของคนอื่นมันไม่ใช่เรื่องตลกสักนิด
"อ๊ะ ..ใจเย็นๆสิ ไม่กลัวเจ้าบ่าวเธอมาเห็นหรือไง"
หญิงสาวใช้ขาเกี่ยวเอวเขาเข้าหาตัวทันทีเมื่อชินอิจิค้อมตัวลงมาคร่อมหล่อนเอาไว้ คำพูดแทงใจส่งผลให้ฮารุชะงักเพียงน้อยนิดก่อนความคิดจะถูกเตะโด่งออกไป
หล่อนไม่ตอบอะไรหากแต่ก้มหน้าก้มตายั่วยวนจนชินอิจิชักจะเริ่มชอบใจในตัวหล่อนลุคส์นี้เสียแล้ว
"แขกในงานแอบมาเมคเลิฟกับเจ้าสาว ฮะๆ ....สุดยอดจริงๆ"
และคนปากเสียก็ยังปากเสียอยู่วันยังค่ำ ไม่รู้ว่าชินอิจิจะพูดให้หล่อนขัดอารมณ์ไปทำไม แต่พอมานึกๆตามเขาดู นี่ก็เป็นอีกครั้งที่ลักลอบมีอะไรกับเขา จะว่าไป เราก็ลักลอบแบบนี้มาตลอดนี่นะ... แปลกใจอะไรกัน
"พี่เรียวเลิกพูดมากแล้วทำสักทีได้ไหมคะ ฉันอกจะแตกอยู่แล้วนะ" หญิงสาวสั่งเขาที่กำลังล้อเล่นอยู่กับอกนุ่มเสียงเขียวตาขุ่น
"โอ๊ะโอ... ดุด้วยแฮะ" ชินอิจิแลบลิ้นออกมาจนยาวพอดี ผ้าลูกไม้เนื้อบางไม่ช่วยอะไรยามเขาใช้ความนุ่มชื้นแตะต้อง สัมผัสเปียกชื้นที่ลอดผ่านเนื้อผ้ากำลังสร้างความพอใจในรสให้กับป้านยอดสีชมพูเต่งตึง "ใจร้อนขึ้นเยอะ แถมฮอตสุดๆ ...จะเอาจริงแล้วนะ"
"สักทีเถอะน่า โม้อยู่ได้ ทำตัวเป็นไก่อ่อน อ๊าาา" โทษที่สบประมาทเขาคือการถูกดึงชั้นบนให้ลงมากองอยู่ที่เอว และสีชมพูกับความเต่งตั้งสู้ปากก็โดนเขาละเลงลิ้นไปมาจนเจ้าของร้องไม่เป็นท่า สีหน้าเหยเก
"ฮึก อ๊าา... พี่เรียวจ๋า..."
ทั้งมือทั้งปากเขาไม่ว่างมาสนทนากับหล่อนหรอก เอาแต่มาคลุกคลีอยู่กับสองเนื้อนางที่เขาดูจะหลงไหลกับความใหญ่และรสชาติของมันถึงได้ชิมจนเปียกไปหมด
หัวสมองของฮารุเริ่มเป็นสีชมพูไปหมด ไม่มีอะไรแล้วในตอนนี้นอกจากอารมณ์ใคร่และใบหน้าของเขา
"อื้อออ เจ็บอย่ากัดสิ" เขาใช้ฟันครูดเอากับยอดอกจนหล่อนอดประท้วงไม่ได้
"โอ ....สุดยอดเลยเซนไป"
ชินอิจิเริ่มย้ายแหล่งอาหารลงไปด้านล่าง เขาจับขาเพรียวให้ตั้งฉากกับที่นอนทั้งสองข้าง มือหนาทั้งสองยื่นออกไปนวดคลึงความนุ่มเนียน ลิ้นร้ายก็กำลังลูบความเปียกชื้นไปที่กลางกายบางจนเปียกเห็นรูปทรงงดงามที่เฝ้าอยากดื่มกินมันทุกคืน ชินอิจิละมือหนึ่งข้างเพื่อปลดชั้นในของหล่อนออก ร่างเปลือยเปล่าสู่สายตาเขาอีกครั้ง คราวนี้สัมผัสจริงๆที่ไร้เนื้อผ้ากางกั้นทำให้เสียงร้องตอบรับดังมากกว่าเก่า ชินอิจิละมือด้านบนสองข้างมาล็อคขาที่ตั้งชั้นเอาไว้ไม่ให้หล่อนเกร็งหนีบศรีษะเขา และใช้ลิ้นชื้นเย็นไล้เบาๆตามรอยแยกของดอกไม้งาม
"ไม่นะ พี่เรียว อ๊าา อย่า ตรงนั้นฉันไม่ไหว ทนไม่ไหว อึ้ก"
และภาพในห้องลองชุดที่ชินอิจิสอดใส่ตัวตนของเขาเข้ามาในกายกลับทำให้หล่อนอยากให้ชินอิจิลูบไล้ดูดดึงความรู้สึกในตอนนั้นออกไปให้หมด เสมือนว่ากายและจิตใจของหล่อนอยากรู้จักรสของชินอิจิเพียงผู้เดียว
"อย่ารัวแบบนั้นสิ จะทนไม่ไหวแล้ว ฮึก พี่เรียวขา น้องไม่ไหวแล้ว อ๊าาาา"
ชินอิจิแทบคลั่งกับเสียงร้องหวานใส กายกำยำลุกขึ้นรูดซิบกางเกงปลดปล่อยแต่เพียงส่วนที่ต้องใช้ในการทำภารกิจ
ร่างสูงกลับมาอีกครั้งก่อนจะค่อยๆผลักดันตัวตนให้เข้าสู่ความงามเดิมอีกครั้ง
"อ๊า.... เอาเข้ามาให้หมด อย่าให้เหลือ พี่เรียว อ๊าา"
และเขาก็ช่างทำตามที่ขอได้ดียิ่ง จังหวะรักเนิบนาบในคราแรกเริ่มเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนจนห้องหอชั่วคราวแทบลุกเป็นไฟ ดาวม
“อ๊า.... เอาเข้ามาให้หมด อย่าให้เหลือ พี่เรียว อ๊าา"
และเขาก็ช่างทำตามที่ขอได้ดียิ่ง จังหวะรักเนิบนาบในคราแรกเริ่มเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนจนห้องหอชั่วคราวแทบลุกเป็นไฟ ดาวมากมายที่ไขว่คว้าเอาไว้ได้ก็ยังเหมือนไม่เพียงพอ
ชินอิจิคว้าเอวบางแน่น ยกขึ้นมาไว้บนสะโพกทั้งยังเดินตรอกตรึงพาดอกไม้งามไปชิดอยู่กับขอบประตูก่อนจะเริ่มบรรเลงเพลงรักกันอีกรอบ คนตัวเล็กหลับหูหลับตาควรครางพิงหลังอยู่กับขอบประตูไม่สนใจว่าตอนนี้ชายหนุ่มปลดล็อกประตูแถมยังเปิดอ้าไว้เพียงน้อยนิด ก่อนจะย้ายคนตัวเล็กที่เอาแต่ล่องลอยคว้างไปวางไว้ที่เคาท์เตอร์โต๊ะกระจกสำหรับแต่งหน้าทางด้านซ้ายของประตู
ชินอิจิใช้กายใหญ่โตคลุมบังคนตัวเล็กเอาไว้จนแทบมิดหากไม่เห็นเขาเพรียวใส่รองเท้าส้นสูงที่โผล่ออกมาด้านหลังกำลังครอบสวมเอวสอบที่รัวความเร็วไม่ยั้ง ภายในช่องท้องอบอุ่นถูกความแข็งแกร่งสอดเข้าออกจนเนื้อแท้แทบสลายกายแทบไหม้เป็นจุน ความอุ่นเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความร้อนและดวงดาวอีกหนึ่งฟากของกาแล็คซี่ก็ถูกไขว่คว้าเอาไว้อีกครั้ง
ชินอิจิซวนซบอยู่กับซอกคอบางและช่วงล่างของเขาก็เริ่มขยับอีกครั้งเมื่อลมหายใจเริ่มเข้าที
"อืม.... "
จูบแลกวิญญาณดูดเอาลมหายใจของกันและกันเสียจนแทบสิ้น หญิงสาวเริ่มไร้สติอีกครั้งเมื่อตอนชินอิจิกำลังเริ่มบทเพลงที่สามระหว่างเรา หล่อนกำลังจะดำลงไปสู่ห้วงลึกของอารมณ์ท่าหากประตูไม่ถูกกระชากเปิดออกเสียก่อน ตามด้วยร่างชุ่มเหงื่อของ..... เจ้าบ่าว!!
"กรี๊ด!!!!"
หญิงสาวตกใจที่เขาเข้ามาได้กะทันหันพอดิบพอดี ใบหน้าซีดจนไม่มีสีเลือด และเหงื่อที่กำลังโทรมกายก็เหมือนจะเลือนหายกลับเข้าไปตามรูขุมขน .... ตำรวจจับโจรได้แล้ว!!! และโจรลักกินขโมยกินอย่างหล่อนก็อยากจะแกล้งสลบไปเสียตอนนี้เลย!
"ไอ้ระยำ! กล้ามากนะ!!! ปล่อยฮารุเดี๋ยวนี้!! "
เสียงฮิซูกิตวาดลั่นอย่างโกรธแค้น ประตูห้องถูกกระชากให้ปิดอย่างแรงจนฉันรู้สึกได้ว่าผนังมันจะพังลง ฮิซูกิกดล็อกประตูคล้ายไม่อยากให้คนนอกเข้ามายุ่งกับสภาพของเราสามคน ที่หากใครรู้เข้า...คงได้เป็นข่าวทอล์คออฟเดอะทาวน์แน่นอน ก็เรื่องฉาวเสียขนาดนี้
เสียงตะโกนของฮิซูกิไม่มีผลกับฉัน เพราะร่างกายมันชาไปหมดแล้วตอนถูกจับได้ ฉันไม่โทษว่าเป็นความผิดของชินอิจิหรอก ฉันเริ่มเอง
แต่คนที่กำลังคร่อมทับฉันอยู่กลับไม่มีวี่แววสะท้านต่อความผิดนี้สักนิด เขายังคงยิ้มอยู่ ฉันมองเห็นแววตาเจ้าเล่ห์ในดวงตาเขา และก็ต้องเปลี่ยนความสนใจไปที่ส่วนที่เรากำลังสอดประสานกัน ชินอิจิบ้าไปแล้ว เขากำลังขยับมัน... โอ ไม่นะ!
"พะ พี่เรียว พอแล้ว"
ฉันกระซิบให้เราได้ยินกันสองคนแต่หากเขาไม่มีท่าทีสนใจคำพูดฉันสักนิด ชินอิจิทำแค่เอื้อมมือไปหยิบผ้าขนหนูสีขาวผืนใหญ่ที่คลุมพนักเก้าอี้เอาไว้มาห่อพันฉันไว้คล้ายตอนอาบน้ำเสร็จ หากแต่ตรงนั้นของเรายังคงมีแรงเสียดทาน ชินอิจิแค่ต้องใจปิดร่างกายฉันไม่ให้ใครเห็น
"ไอ้เรียว! มันจะมากเกินไปแล้วนะ ฉันบอกให้ปล่อย ไอ้เลวเอ๊ย!!!" เสียงฮิซูกิตวาดลั่นและเขาก็กำลังจะพุ่งเข้ามา
ชินอิจิไม่ตกใจสักนิดทั้งที่กำลังหันหลังให้เขาอยู่ ชายหนุ่มอุ้มร่างในผ้าขนหนูขึ้นก่อนจะเดินอย่างช้าๆไปที่ปลายเตียง จังหวะการเดินที่ยังคงแถมการกระแทกเอวเข้าออกไปหญิงสาวคราวเล่นเล็กๆ สร้างความโมโหจนฮิซูกิอยากกระโดดเข้ามาจ้วงเอาที่ใบหน้าไม่ทุกข์ร้อนนั่นแต่ก็ติดที่เจ้าสาวของตนถูกมันอุ้มเอาอยู่
ชินอิจิวางหญิงสาวลงที่ปลายเตียงก่อนจะค่อยๆถอดถอนความเป็นตัวเองออกมาเก็บไว้ในที่ที่ควรอยู่ ก่อนจะหันไปยิ้มให้ฮิซูกิที่หน้าประตู ....ฉันจะเชื่อว่าชินอิจิกำลังประหม่า ตกใจ และกำลังแก้ไขสถานการณ์อยู่ ถ้าเขาไม่ได้แสดงอาการแบบนี้ออกมา ก็เขาเอาแต่ยิ้ม และแถมยังเอามือล้วงกระเป๋าคล้ายเป็นเรื่องเล็กน้อยที่เราแอบมีอะไรกัน และถ้าหูไม่ฝาด ฉันได้ยินฮิซูกิเรียกชื่อเขา แสดงว่าสองคนนี้รู้จักกันงั้นสิ
"ไงแก.... เจ้าสาวสวยดีนะ ลีลาเด็ดด้วย" ชินอิจิเปิดประโยคแรกที่ทำให้ทั้งฉันและฮิซูกิถึงกับส่งเสียงลั่นห้อง ชินอิจิจะยั่วอารมณ์ฮิซูกิทำไมนะ
"แก!!//พี่เรียว!!"
"ฮ่าๆ ....อย่าตกใจไปเลย ฉันกับฮารุจังน่ะ เล่นกีฬาเรียกเหงื่อกันแบบนี้ก่อนที่เธอจะรู้จักแกเสียอีก เราเข้ากันได้ดีเชียวล่ะ เผื่อแกอยากรู้ฉันจะส่งไฟล์วิดีโอไปให้ดู แต่ขอเซ็นเซอร์เรือนร่างเมียฉันหน่อยนะ พอดีหวงว่ะ"
ชินอิจิกำลังทำอะไร ฉันไม่เข้าใจที่เขากำลังเปิดเผยความจริงออกมาแบบนั้น เขาทำเพื่ออะไรกัน ฮิซูกิกำหมัดแน่น เขากำลังโกรธ ไม่มีใครสนใจฉันและเขาสองคนกำลังจะเล่นสงครามประสาทกัน ชินอิจิเอาแต่ยิ้มร่าและพูดกวนประสาทฮิซูกิ
"นี่เป็นแผนของแกมาตั้งแต่ต้นสินะ" ฮิซูกิพูดประโยคแรกด้วยแววตาโกรธแค้นสุดฤทธิ์ เขากำลังพูดถึงแผนการอะไรที่ฉันไม่เข้าใจ
"เพิ่งอ่านเกมส์ออกหรือไงไอ้โง่"
"แกมันโครตเลวเลย ไอ้เรียว! ไอ้นรก! สมควรแล้วล่ะที่แม่แกต้องตาย ฮ่าๆ สมควรแล้ว มีลูกระยำอย่างแก อยู่ไปก็หายใจทิ้งเสียเปล่าๆ ตายหนีเสียดีกว่า!"
ฮิซูกิหัวเราะลั่น และเหมือนว่าคำพูดของเขาจะแกว่งอารมณ์ของชินอิจิไม่น้อย สองคนนี้รู้จักกันมาก่อน และชินอิจิก็ควบคุมอารมณ์ได้ดี ที่ถึงแม้ว่าฮิซูกิจะพูดจาหยาบคายขนาดนั้นเขาก็ยังยับยั้งอารมณ์ไม่พุ่งเข้าไปทำร้ายฮิซูกิที่ยืนหัวเราะเอาอย่างสะใจ
แต่ว่าเอ๊ะ ... เดี๋ยวก่อนนะ ทำไมฮิซูกิถึงดูเป็นคนละคนกับที่ฉันรู้จัก ฮิซูกิที่ฉันรู้ ทั้งอ่อนโยน อบอุ่น และเป็นสุภาพบุรุษไม่ใช่หรือ
"หึหึ หัวเราะไปเถอะ วันของแกมันก็สิ้นสุดลงแค่นี้แหละ ของอะไรของบ้านฉันที่พวกแกเอาไป ฉันจะท้วงคืนหมด ไม่เว้นแม้แต่ชีวิตพ่อแม่แกด้วย!" ชินอิจิพูดน้ำเสียงเกรี้ยวกราดแบบที่ฉันไม่เคยได้ยิน ดูเขาจะโกรธเอาจริงๆ
เขาพูดว่าฮิซูกิเอาของของเขาไปงั้นหรือ มันคืออะไร และทำไมถึงขั้นต้องเอาชีวิตกันด้วย
หากแต่ว่าด้านบนที่ไม่ทันจะลงตัว บรรยากาศด้านล่างกลับเป็นไปด้วยเสียงฮือฮาและความชุลมุนของเหล่าบอดี้การ์ดของทั้งสองบ้าน จอโปรเจคเตอร์หลายจอที่ถ่ายบรรยากาศในงานจู่ๆก็ปรากฏเป็นภาพของฮารุและชินอิจิในอิริยาบถต่างๆ ภาพคล้ายว่าทั้งคู่นั้นมีความสุขเสียเต็มประดา และยังมีบางภาพที่ยังชวนให้คิดลึก กระทั่งมีช่วงหนึ่งที่เสียงจากภายในห้องพักส่งตรงมายังห้องจัดเลี้ยงที่มีแขกอยู่จำนวนมากยังไม่ได้กลับออกไป เสียงวิจารณ์กันเฮฮาอย่างออกรส และการ์ดของทางตระกูลคาชินาระ และลูกน้องของคุณไทจิกำลังพากันวิ่งกรูมาที่หน้าห้องเกิดเหตุ หากแต่ยืนคุมเชิงไว้เพียงเท่านั้นเพราะ เจ้านายของทั้งสองล้านกำลังออกจากห้องเตรียมพิธีช่วงบ่ายตรงมายังที่เกิดเหตุ
"แกนั่นแหละที่จะต้องตาย นี่มันถิ่นใครรู้ไว้ซะด้วย หน้าห้องนี่มีการ์ดเป็นยี่สิบคน แกคิดว่าจะเอาลมหายใจไร้ประโยชน์ของแกออกไปได้งั้นหรือ" ฮิซูกิพูดพรางชี้นิ้วออกไปข้างนอก ใบหน้าเหี้ยมเกรียมของเขาทำฉันขนลุก ฮิซูกิไม่เคยแสดงอารมณ์นี้ให้ฉันเห็นมาก่อน ซึ่งมันผิดคาดเอามากๆ ฉันใจเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อรู้ว่าชินอิจิอาจโดนเขาสั่งหิ้วปีกได้ทุกเมื่อ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ