ซากุระฤดูร้อน 18+
-
เขียนโดย sanny17
วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 15.41 น.
20 ตอน
0 วิจารณ์
20.60K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558 15.53 น. โดย เจ้าของนิยาย
16) ตอน17
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย ดูทำหน้าเข้า" เขาบีบจมูกหล่อนเล่น " บริสุทธิ์หรือไม่ ไม่สำคัญเท่าอยู่แล้วเข้าใจกันหรือเปล่า ความบริสุทธิ์ไม่ใช่ตัววัดค่าอะไร ไม่ว่าจะความดี ความรัก หรือความเข้าใจ อยู่ที่ตัวบุคคลต่างหาก" คำตอบของเขาทำให้ฉันคล้ายรู้สึกยกภูเขาออกจากอก ถ้าฮิซูกิรู้แล้วเขาผิดหวังในตัวฉันถึงขั้นไม่อยากแต่งงาน แล้วทีนี้ฉันก็คงจะหมดที่พึ่งอย่างจริงจัง งานการที่คงจะแข็งแรง และครอบครัวที่อบอุ่น ฉันคงต้องปั้นมันขึ้นมาอย่างยากลำบาก ถ้าฮิซูกิ ..เกิดทิ้งฉันไป
"เอาล่ะ... ถึงแล้ว คิดอะไรอยู่เลิกคิดได้แล้วน่า ไปดูชุดกัน" เขาก้มลงมาบอกกับฉัน และนั่นก็ทำให้ฉันตัดสินใจเงยขึ้นไปจูบปลายคางเขาอย่างขอบคุณ และฉันก็ผลุนผลันลงจากรถอย่างรวดเร็วแทบไม่มองหน้าเขาเลย ก็มันอาย
"สวัสดีค่ะคุณชาย คุณหนูคาชิ" เจ้าของร้านที่คงรู้จักกับเขาเป็นพิเศษออกมาต้อนรับเราอย่างยิ้มแย้มและอ่อนน้อม คล้ายพวกเราเป็นแขกระดับโกลด์คลาสก็ไม่เชิง ชุดแต่งงานหลากหลายแบบถูกช่างฝีมือดีคัดกรองไว้ให้เราเลือกโดยเฉพาะ ชุดพิธีในแบบฉบับญี่ปุ่นเราได้เป็นชุดตดทอดจากบรรพบุรุษจึงไม่ต้องเลือกมาก และวันนี้เราก็มาเลือกชุดในพิธีสากล ตามจริงเรามีพิธีสาบานต่อหน้าบรรพบุรุษในคืนก่อนวันเข้าหอหนึ่งคืน หรือก็เป็นวันหมั้น และก่อนหน้านั้นมีพิธีเลี้ยงฉลองมีแขกหรื่อจากต่างประเทศมากมาย หรือจะว่าไปก็คือเพื่อนร่วมงานในประเภทธุรกิจต่างๆของทางบ้านพวกเรา ฉันจึงต้องมีชุดสากลใส่ในวันนั้นและเปลี่ยนเข้าพิธีแบบโบราณในช่วงค่ำ
"ตัวนี้หล่อหรือยังฮารุ" ฮิซูกิเข้าไปเปลี่ยนชุดสูทสากลสีขาวมาสองสามชุด และในชุดสุดท้ายที่เป็นไทด์สีเลือดหมูกลับดูเข้ากับเขาที่สุด ฉันชูสองนิ้วโป้งเป็นการบอกว่าสุดยอด และเขาจึงเลือกชุดนั้นในวันของเรา
ฉันเลือกชุดไว้สองชุดที่ตัดสินใจไม่ได้และคงจะลองให้ฮิซูกิดู จึงเข้าไปในห้องลองที่ดูจัดแต่งได้สวยงามสมเป็นร้านระดับเยี่ยมของเมือง ขนาดห้องลองยังจัดเป็นฉากคล้ายอยู่ในงานแต่งของจริง ไม่มีม่านกั้น ไม่มีฉากบัง แต่มันคือห้องสีขาวที่เดินเข้ามากลับเป็นกระจกทุกด้าน ตามขอบกระจกมีดอกไม้นานาชนิดห้อยเรียงรายในทุกๆมุมสี่เหลี่ยม ซุ้มดอกไม้แต่งตั้งวางตามมุมสี่มุม พรมสีแดงเป็นทางเดินจากประตูเข้ามาด้านใน วอลเปเปอร์เป็นรูปงานในพิธีที่มีบาทหลวงและคิวปิดลอยอยู่ โคมไฟห้อยเรียงรายสวยงาม และเสียงเพลงจากเพดานที่คลอคล้ายเสียงน้ำตกนกร้อง นี่แทบจะไม่ใช่ห้องลองชุด
ทั้งสองชุดที่ฉันเลือกเอาไว้แขวนอยู่ตรงราวไม้ขัดเงาริมกำแพงที่ด้านข้างมีโซฟายาวไร้ที่เอนหลังหรือพักแขนสีแดงชิดอยู่ พนักงานคงมาจัดเอาไว้แล้ว และคงรอแค่ฉันเขามาลอง
ฉันเดินเข้าไปสำรวจชุดดู และถอดสูทคลุมออกเหลือไว้ติดกายเพียงชุดเกาะอก ฉันหยิบเลือกชุดแรกมาพินิจดู และตั้งใจว่าจะลองชุดนี้ก่อน
เป็นเกาะอกผ้านิ่มเรียบไร้ลวดลายสีขาว ช่วงตัวเป็นผ้าที่คล้ายจะยืดตามขนาดตัว และก้านข้างของทั้งสองข้างเป็นแบบร้อยเชือกไขว้กันไปมา ตัวชุดที่ใส่แล้วจะดุนดันให้หน้าอกยิ่งเต่งตั้งขึ้นมาชูช่องดงาม เป็นชุดแยกกับชิ้นส่วนด้านล่างที่มีด้วยกันถึงสามชิ้น กระโปรง ถุงน่องยาวที่มีสายรัด ติดกับซับในสีขาวสะอาดผ้าบาง ฉันค่อยๆถอดเสื้อผ้าออกและสวมใส่ลงไปทีละชิ้นอย่างบรรจง ซิลิโคนบราที่ใส่ประจำกันโป๊เวลาใส่ชุดเกาะอกถูกถอดออก เพราะมันกลับคับแน่นเมื่อฉันสวมด้านบนของชุดลงไป ความแน่นของมันทำให้หน้าอกของฉันนูนขึ้นมาอีกเท่า และตอนนั้นเองที่สายถุงน่องกำลังจะเกี่ยวติดกับขอบชั้นในสีขาวที่บอบบางสะอาด แหวนประดับเล็กๆที่มือเกี่ยวเข้ากับสายด้านข้างของตัวชุดด้านบนทำให้เชือกลู่ลงเล็กน้อยไม่ถึงกับหลุด แต่ปมเชือกกลับไปแปะติดอยู่กับสายของถุงน่องที่ฉันผูกเอาไว้ติดกับซับใน หากเงยขึ้นมาสุดตัวเชือกจะลู่ลงและชุดด้านบนคงจะหลุด ยิ่งใส่ยากอยู่เสียด้วย
หญิงสาวเริ่มหงุดหงิดเพราะปมเชือกพันกันไปมาและเพลงเบาๆนั่นก็เริ่มจะไม่เข้าหูอีกต่อไปเพราะคนตัวเล็กเริ่มโมโหกับชุด ครั้นพอได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามาจึงเรียกพนักงานให้มาช่วยแกะ เพื่อที่จะได้สวมกระโปรงฟูฟ่องความยาวพอดีเข่านั่นต่อ
"คุณคะ ช่วยฉันแกะเชือกทีค่ะ" หญิงสาวไม่พูดไม่เงยหน้ามอง และคนถูกเรียกก็เดินจรลีเข้ามาช่วย
คนเพิ่งเข้ามาใหม่ทำเพียงโอบล้อมกายเล็กที่ก้มหน้าหันตัวเข้ากำแพงกระจก ก่อนจะเอื้อมลงไปช่วยแกะเชือกที่พันกัน หญิงสาวกล่าวเบาๆอย่างขอบคุณและกลับต้องตกใจจนหน้าแดงวาบ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาพบในกระจกว่าคนที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังหล่อนไม่ใช่พนักงาน.... แต่เป็นเขา
แล้วภาพชัดเจนในกระจกก็ยิ่งทำให้หล่อนแทบจะวิ่งออกจากห้องไปโดยทันทีเมื่อพบว่าตนเองอยู่ในชุดที่ไม่เรียบร้อย เสื้อผ้าทั้งหมดของตัวเองวางอยู่ที่โซฟาสีแดง ไม่เว้นแต่ชั้นในบนล่าง ในกระจกจึงเป็นภาพหญิงสาวผิวกายผุดผาดใส่ชุดเกาะอกด้านบนที่รัดรึงความอวยอิ่มจนแทบล้น และด้านล่างเป็นถุงน่องยาวมีสายเกี่ยวกับชั้นในสีขาวบางจ๋อย ส้นสูงสีดำสวมไว้อยู่แล้วตัดกับชุดดูผิวเผินยังคล้ายคอสเพลย์เจ้าสาวสุดเซ็กซี่ ผิดก็แต่ใบหน้าแดงๆตกตะลึงที่ไม่เข้ากับชุดเลย
ส่วนคนด้านหลังก็เอาแต่มองตากันในกระจกไม่วางตา พื้นที่ที่ยืนอยู่ก็ใกล้ชิดจนได้ยินลมหายใจกัน ฮิซูกิก้มหน้าลงมาชิดริมใบหูตายังคงสบประสานกันกับแววตาตื่นเต้นในกระจก
"สวย ...สวยที่สุด" ลมหายใจอุ่นร้อนปัดเป่าอยู่ที่แก้มนวล และกว่าจะรู้ตัว เขาก็รัดร่างเธอไปกอดเอาไว้แน่นทั้งอย่างนั้น
"รุ่นพี่คะ ...ฉันยัง เอ่อ... ไม่เรียบร้อยเลย" หญิงสาวตอบอ้อมแอ้ม สัมผัสแปลกๆที่บั้นท้ายส่งผลให้ประสาทการรับรู้ตื่นเต้นเข้าไปอีก เขากำลังมีอารมณ์เมื่อเห็นหล่อนในชุดแบบนี้ แถมเขายังค่อยๆถูไถเจ้าความแข็งแกร่งกับเนินเนื้อด้านหลังอีกด้วยเบาๆ
"จริงๆ ชุดนี้... เซ็กซี่เป็นบ้าเลย" เขาครางอืออาเล็กน้อยให้หล่อนได้ยิน มือยังคงรัดเอวคอดกิ่วเอาไว้จนมือแขนเรียวเล็กต้องซ้อนประกบมือเขาไว้อีกที "แต่ไม่ให้ใส่ออกงานหรอก เก็บไว้ดูคนเดียว" เขาพูดให้หล่อนได้อายม้วนอีกครั้ง ก่อนจะละมือมาบังคับให้หน้าหวานเงยมารับจุมพิตจากด้านหลัง
"อะ อืม...." เสียงแผ่วเบาจากร่างเล็กเป็นเพราะเขาค่อยๆใช้ความช่ำชองนำทางจูบหวานๆให้เริ่มกลายเป็นไฟแห่งสมรภูมิ ตาหวานพร่าปรือไปหมด เพราะจูบเร่าร้อนและเสียงเพลงคลอเคลียไม่ห่าง
"อื้อ....." เขากดจูบเอาแรงๆหนึ่งครั้งจนหญิงสาวตั้งรับไม่ทันก่อนจะเปลี่ยนไปซุกซบซอกคออุ่นประด้วยไรผมเล็กน้อย ใช้ริมฝีปากลูบไล้อย่างสำรวจก่อนจะค่อยๆไร้เลียชิมรสความละมุนของผิว
ข้อมือหนุ่มรุ่นๆ ไหลลงไปเรื่อยจนแปะจับอยู่กับกลีบร่องความงามผ่านเนื้อผ้า แต่ความบางกลับยิ่งทำให้สัมผัสคล้ายไร้สิ่งกีดกั้น นิ้วชี้แข็งแรงค่อยๆไถลตัวไปมาอย่างถือสิทธิ์ อาการเหมือนโดนน้ำร้อนลวกเริ่มเกิดขึ้นในตัวฮารุอีกครั้ง เมื่อคราวนี้ไม่ใช่แค่จูบอย่างเดียว ดอกไม้งามยังคงถูกเขาก่อกวนเอาอย่างเนิบนาบ และน้ำหล่อลื่นมากมายที่ค่อยๆระรินออกจากกายเล็กเพราะการตอบสนองของร่างกายเป็นไปตามธรรมชาติ หญิงสาวค่อยๆเปิดขารับมือของเขาให้ทำร้ายตัวเองได้ดียิ่งขึ้นโดยไม่รู้ตัว หน้าเรียวหวานยังคงหมกมุ่นอยู่ในจูบสุดนุ่มไม่รู้คล้าย
"ฮารุจังของผม อืม... หวานสุด"
หญิงสาวไม่ทันตั้งตัวถูกมือร้อนอุ่นของคนด้านหลังแกะปมเชือกของตัวชุดด้านข้างเอาอย่างคลายปมเล็กๆ ก่อนจะค่อยๆดึงตัวชุดลงเพียงน้อยนิด ความงามสุดตัวของชีวิตสาวก็เปิดเผยแก่ความโล่งแจ้ง ภาพในกระจกหนาสะท้อนหนึ่งร่างบางที่ระทดระทวยในอ้อมแขนของชายหนุ่มร่างกำยำด้านหลังที่กำลังนวดคลึงอยู่ระหว่างขาของเจ้าหล่อน อีกมือเขาเมื่อปลดชุดของเธอให้หลุดลงแถมความกระด้างของทรงชุดยังดันให้ความงามยิ่งตึงเต่งสู้มือ หน้าอกที่ใหญ่เกินตัวถูกเขาจับต้องเอานวดเฟ้นจนหญิงสาวส่งเสียงอารมณ์ห้วงลึกออกมาเป็นระยะ
ฮิซูกิกำลังทำให้ฉันไม่มีสมาธิควบคุมจิตใจ ถ้าฉันไม่ห้ามเขาไว้ เราสองคนอาจเกินเลยอีก ก่อนหน้านี้มากสุดระหว่างเราก็คงจะเป็นแค่จูบเล็กน้อย เพราะสิ่งที่ฉันได้บอกเขาเอาไว้ ฮิซูกิยอมรับมันและเขาทำตามใจฉัน ทุกครั้งไม่เคยเกินเลยแบบวันนี้ ฉันรู้ว่าอีกไม่กี่วันคงต้องตกเป็นของเขา แต่.... ฉันยังทำใจไม่ได้นี่นา รู้สึกเหมือนมีอะไรคาอยู่ในใจ เป็นอะไรสักอย่างที่ฉันไม่เข้าใจ และนึกไม่ออก
"อืม... รุ่นพี่คะ พอแล้วค่ะ " หญิงสาวที่ฝืนใบหน้าออกมาหนีอุ้งปากร้อนร้ายห้ามเขาเอาไว้ และกลับต้องผิดหวังกลับไปเมื่อบัดนี้ ฮิซูกิไม่สนใจจะมองหน้าหล่อนด้วยซ้ำ ดวงตาเรียวหวานของเขาเพ่งมองไปที่กำแพงซึ่งเป็นกระจก และกายของฉันที่อยู่ในมือเขาเมื่อโดนเล้าโลมก็ต้องมีเคลื่อนไหวบ้างอย่างร้อนรน หญิงสาวไหวตัวเล็กน้อยอย่างหนีมือบ้างสู้มือบ้าง และฮิซูกิก็กำลังมองภาพนั้นด้วยอารมณ์ที่กู่ไม่กลับ
"ระ รุ่นพี่... เดี๋ยวหยุดไม่ได้นะคะ "
"สำหรับฮารุจัง ไม่พอหรอก เท่าไหร่ก็ไม่พอ อืม... หยุดยังไงฮารุจัง หยุดความรู้สึกอยากจะกลืนกินเธอเข้าไปตอนนี้ทำยังไง แม่ขนมหวาน พี่รักเธอนะ"
คำสารภาพของฮิซูกิแทบจะช็อตฉันเอาไว้ด้วยความปรีดา เขาไม่เคยพูดว่ารักฉัน หรือคำพูดทำนองนี้ การรู้สึกได้เป็นที่รักเป็นที่ต้องการ มันรื้นอบอุ่นในใจแบบนี้เองหรือ
"รุ่นพี่... พูดอะไรคะ"
"ความจริงนั่นแหละ ฉันชอบเธอมาตั้งนานแล้วฮารุจัง รู้ตัวบ้างหรือเปล่า หืม... ยิ่งนานวันก็ยิ่งอยากเป็นเจ้าของใจจะขาด ให้ฉันได้ไหม"
ฮิซูกิปล่อยมือที่ก่อกวนกายเล็กก่อนจะจับเจ้าตัวหันมาสู้หน้าเขา และทันทีที่ร่างเล็กพูดจบคนตัวสูงก็ดันหญิงสาวให้ติดกำแพงกระจกก่อนจะโลมจูบเธออย่างเร่าร้อนแข่งกับเสียงเพลงคลอ
"คือ... ฮิซูกิคะ ..ฉันว่าเรา เอ่อ อื้อ!!!!" ตาเล็กกลมโตกว้างเมื่อเขาก้มลงมาปิดปากหล่อน แถมยังดันตัวให้ไปชิดกับขอบกับแพงและจับล็อคใบหน้าเนียนนุ่มเอาไว้จูบดูดดื่ม
อารมณ์อ่อนไหวกลับเข้าสู่คนตัวเล็กอีกครั้ง ความรู้สึกแบบนี้กลับมาอีกแล้ว อยากมีใครสักคนจับจูงมือพาไปถึงอารมณ์ที่ในหัวไม่มีอะไรนอกจากเสียงกรีดร้องของตัวเอง ...หรือนี่ฉันจะติดเซ็กส์ไปแล้วจริงๆ
"หวาน หอม น่ากินชะมัด" เขาพึมพำอยู่กับซอกคอ และเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่ซับในตัวบางโดนเขาแกะปมเชือกที่ผูกรั้งไว้กับเอวให้หลุดลง เหลือไว้แต่ถุงน่องและสายรัด
"รุ่นพี่ เดี๋ยวชุดพัง อื้อ ...ไม่" คำพูดก็เป็นแค่เพียงสายลมเบาบางเพราะคนฟังไม่มีสติจะฟังเต็มที
ฮิซูกิซุกใบหน้าหายเข้าไปในซอกคอฉันก่อนที่เขาจะชิมมันอีกรอบ คราวนี้เขาโน้มตัวฉันและดูดกินหน้าอกอย่างทารกหิวกระหาย ฉันยังคิดว่าท่าทางของเขายังคล้ายชินอิจิ... นึกได้เช่นนั้นฉันก็โกรธตัวเอง ไปนึกถึงคนบ้ากามแบบนั้นทำไมนะ ทั้งๆที่ตัวจริงอยู่ข้างหน้าอยู่แล้ว ....เขาหายไปเลย และคงไม่กลับมาอีก ฉันควรอยู่กับปัจจุบัน
เสียงครางอืออาเริ่มสอดประสานกับกริยาเล้าโลมอย่างดุดัน หญิงสาวตาปรือไม่รู้ว่าตอนนี้อีกคนพรั่งพร้อมขนาดไหน คนตัวสูงคล้ายรีบร้อนรูดซิปกางเกงเพียงส่วนที่สามารถปลดปล่อยตัวตนได้ก่อนจะค่อยๆลูบไล้ทำความรู้จักกับกุหลาบชมพู
ฮิซูกิก็ฝีมือดีไม่ต่างจากใบหน้าเขาเลย ตอนเขาจูบฉันมันคล้ายพระเอกในซีรี่ย์เลย และฉันก็เคลิ้มไปกับมันสุดๆ ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะเป็นของเขาในวันนี้หรือคืนส่งตัว ยังไงมันก็เหมือนกันอยู่ดี ฉันไม่ควรเลือกเพราะฉันไม่ได้อยู่ในสถานะที่มีสิทธิ์เลือก
ฮิซูกิกำลังส่งตัวตนของเขาเข้ามา ฉันกำลังดูปฏิกริยาของเขาหากรู้ว่าฉันไม่บริสุทธิ์ เขาจะทำอย่างไรนะ
ขาข้างหนึ่งของฉันถูกเขาจับไปพาดเอวสอบเอาไว้ เปิดทางให้ตัวตนของเขาสอดแทรกเข้ามา เอวของเขาประชิดอยู่กับหน้าท้องฉันบ่งบอกว่าการสอดประสานเสร็จสิ้น ฮิซูกิครางออกมาเบาๆ และไม่ทำหน้าประหลาดใจใดๆซึ่งทำให้ฉันผ่อนคลายลงเมื่อเขารับมันได้
"อ๊า..." ฉันเก็บเสียงไว้ไม่อยู่ตอนเขาถอยกายออกไปจนเกือบสุดและขยับเข้ามาตอกตรึงอีกครั้ง และทันทีที่บทรักครั้งแรกของเราทั้งคู่กำลังจะเริ่มขึ้นฉันกลับได้ยินเสียงของใครบางคนคำรามก้องอยู่ในสมอง
'หยุดเดี๋ยวนี้นะยายบ้า! กล้าดียังไงเอาของฉันไปให้คนอื่น หยุดเดี๋ยวนี้!!"
ใบหน้าดุยังโกรธเกรี้ยวตวาดใส่ฉันจนอารมณ์ในห้วงลึกถูกดึงออกมา ชินอิจิกำลังโมโหที่ฉันปล่อยให้ฮิซูกิเข้ามาใช้พื้นที่ของเขาในกายของฉัน ทันใดนั้นการกระทำที่ไวกว่าสมองส่งผลให้ฉันผลักฮิซูกิที่กำลังสอดจังหวะเร้าอารมณ์อย่างแรงจนกายที่สอดประสานของเราหลุดออกจากกัน
"ไม่นะ!!" ฉันเปร่งเสียงออกไปเองอัตโนมัติ
"ฮารุ!! เธอทำอะไรน่ะ!" ฮิซูกิยืนอยู่ไม่ห่างจากฉันและเขากำลังมองหน้าฉันอย่างเหลือเชื่อ นี่ฉันทำบ้าอะไรลงไปนะ
หญิงสาวก้มหน้ามองมือตัวเองอย่างไม่อยากจะเชื่อ แค่ได้ยินเสียงของเขาก็ทำอะไรบ้าดีเดือดแบบนี้เลยหรือฮารุจัง
ชินอิจิจะไม่กลับมาอีกแล้ว อย่าเอาเขาเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตคู่ของเธออีกเด็ดขาด
หญิงสาวแน่วแน่ในจิตใจ ก่อนจะทำการไถ่โทษฮิซูกิด้วยการเดินเข้าไปกอดเขาเอาไว้ ทั้งที่ตัวตนของเขายังแข็งแรงทิ่มแทงอยู่ที่หน้าท้องหล่อน
"ฉันตกใจน่ะค่ะ ขอโทษค่ะรุ่นพี่ อย่าโกรธฉันเลยนะ"
"อืม... ไม่เป็นไร ถ้าเธอจะขอโทษฉันอีกครั้งด้วยร่างกายเธอ" เขาพูดหนักแน่นก่อนจะดันเธอไปที่โซฟายาวสีแดงที่มีชั้นในกองอยู่ระเกะระกะ
"หา! ว่าไงนะคะ!" เขายังมีอารมณ์ต่ออีกหรือ แน่ล่ะ เขาจับหล่อนนอนยาวทาบทับไปกับเสื้อผ้าของตัวเองที่ถอดเอาไว้
ฮิซูกิแยกขาเนียนออกเพื่อแทรกตัวเข้าไป คราแรกเขาดูดเลียเอาที่อกเต่งก่อนจะค่อยๆไร้ลงมาหน้าท้อง และพอกลางกายหวานที่เริ่มฉ่ำน้ำขึ้นอีกครั้ง เขาก็สอดใส่ตัวตนเข้ามาจนสุด
"อึก.... อ๊าาห์" ในชุดแต่งงานที่ยังไม่ได้ใส่เรียบร้อยดี ว่าที่เจ้าสาวกำลังนอนหงายให้ว่าที่เจ้าบ่าวเสพเรือนกายอย่างน่าปารถนา ห้องหอที่เป็นห้องลองเสื้อเหมือสมรภูมิรักจำลอง กายหนุ่มแทบจะแตกสลายเพราะการตอดรัดในกายของหญิงสาวช่างมหัศจรรย์ ฮารุเด้งสะโพกรับจังหวะการสอดใส่
"สุดยอดฮารุจัง พี่ใกล้แล้ว โอ้วว" ความเร็วของสะโพกหนุ่มหนั่นแน่นตอกระยิบที่กลางดอกไม้ หญิงสาวพร่างพรายตัวตนเสียงใสและรู้สึกได้ว่าฮิซูกิกำลังจะตามเธอมาติดๆ หญิงสาวหอบหายใจเป็นปกติและมองจุดประสานของเธอที่โดนฮิซูกิรัวสะโพกใส่
เสียงคำรามบ่งบอกว่าเขากำลังแตกสลาย และเป็นอีกครั้งที่มีหน้าใครบางคนแทนเข้ามาที่ใบหน้าทรมาน
ชินอิจิมองหน้าเธอด้วยใบหน้าเศร้าสร้อยที่หล่อนไม่เคยเห็น เขากำลังยิ้มให้เธอทั้งๆที่ดวงตาของเขามันแสนเศร้าสร้อย
ฮิซูกิกำลังจะปลดปล่อยในกายเธอ และหญิงสาวก็จู่ๆรู้สึกขยาดที่จะรับน้ำเชื้อของใครอีกคนมาไว้ในร่างกาย ฉันมันน่าขยะแขยง ในตัวฉันเคยมีคราบของชินอิจิอยู่ แล้วฉันกำลังจะปล่อยให้ใครอีกคนมาซ้ำรอยเขา
จังหวะที่ฮิซูกิกำลังจะฉีดเลือดเนื้อของเขาผ่านน้ำสีขาวขุ่น หญิงสาวก็ถอนตัวออกมาอย่างกระทันหันจนน้ำรักของเขาได้แตะเปรอะเปื้อนไปทั่วเนินดอกไม้งาม
"โอวววว ...ทำไมล่ะ ฮารุ"
ฮิซูกิซวนซบหอบหายใจเหนื่อยอยู่กับอกของหญิงสาว คำถามอย่างสงสัยเมื่อหญิงสาวมีท่าทีปฏิเสธทั้งที่ไม่ควรจะเป็น
"เอ่อ.... ฉันกลัวท้องน่ะค่ะ"
ทั้งสองพากันนั่งช่วยกันแต่งตัวให้หญิงสาวอีกครั้ง คราวนี้ชุดสำเร็จครบทั้งตัว และหน้าตามีคำถามตลอดของฮิซูกิก็ทำให้หญิงสาวหาทางเลี่ยงที่จะตอบเขาไป
จะให้พูดว่ากลัวชินอิจิโกรธหรือยังไง...
"แล้วท้องกับฉันไม่ดียังไง ในเมื่อเราจะแต่งงานกันอีกสามวันนี่แล้ว ท้องกับสามีผิดอะไรครับ หืม...." ฮิซูกิยังคงยิงคำถามที่ตอบยากใส่ฉันไม่หยุด คำว่าสามีจากปากของเขาจู่ๆกลับทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด ไม่อยากจะเชื่อ....ว่าเรา มีอะไรกันแล้ว
ทำไมในหัวฉันมันมึนงงไปหมด ทำไมจิตใจมันต้องส่งไปหาชินอิจิอยู่เรื่อยเลยนะ
"เอ่อ... ก็ ฉันยังอยากเป็นสาวอยู่นี่คะ ยังไม่พร้อมมีลูกหรอกค่ะ อยากทำงานก่อน" ฉันตอบเขาอย่างก้ำกึ่ง จะให้พูดอย่างไร หลังจากที่เรามีสัมพันธ์ทางกาย ฉันไม่อยากมองหน้าฮิซูกิอีกเลย ฉันรู้สึกแปลกที่จะมองเขาตรงๆ
"อืม เข้าใจแล้ว ฉันขอโทษที่ทำให้ตกใจนะ เอาไว้คราวหน้าฉันจะระวัง"
ฮิซูกิดึงตัวฉันเข้าไปกอดเอาไว้ทั้งชุดเจ้าสาวอย่างนั้น ยังจะมีครั้งหน้าอีกหรือ.... แน่ล่ะ เรากำลังเป็นสามีภรรยากันนี่ ทำไมไม่รู้สึกดีใจ หรือตื่นเต้นเลยล่ะ
"อย่าทำท่าคิดมากแบบนั้นสิฮารุ เจ้าสาวต้องยิ้มแฉ่งแบบนี้ต่างหาก"
ฮิซูกิพูดอะไรไปเรื่อย เขาให้ฉันลองอีกหนึ่งชุดและท้ายที่สุดเขาก็ตกลงเอาชุดแรก บอกว่ามันคือความทรงจำของเรา ที่ฉัน... ไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่ ฉันว่าฉันรู้สึกแปลกๆไปยังไงชอบกล ซึ่งฉันเองก็หาสาเหตุไม่ได้และไม่รู้ว่าฉันเป็นอะไรไป
ในหัวมีแต่คำว่า นี่เรามีอะไรกันแล้วจริงหรือ ภาพในกระจกที่สะท้อนเงาของเขาที่คร่อมทับตัวฉันเอาไว้ มันสร้างความรู้สึกมากมายจนฉันระบุไม่ถูก รู้แค่ว่าภาพนั้นมันฉายชัดไปมาเรื่อยๆ ยามฉันเผลอไม่คิดอะไรหรือเวลามองหน้าฮิซูกิ ภาพที่เราเริงรักกันในชุดแต่งงานแบบนั้น ไม่ได้ทำให้ฉันมีความสุขเลยสักนิด
ฉันกลับเป็นห่วงไปอีกอย่างกลัวว่า เขา จะรู้เรื่องนี้เข้าและจะโกรธฉันแค่ไหน
แต่พอความเป็นจริงที่ว่าเขาไม่มีสิทธิสักนิด และคนที่มีสิทธิก็คือคนที่กอดฉันอยู่ในห้องนั้น ความเป็นจริงกับความคิดมันก็ตีกันมั่วไปหมด จนฉัน... เริ่มจะจิตตกอีกแล้ว
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ