ซากุระฤดูร้อน 18+
-
เขียนโดย sanny17
วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 15.41 น.
20 ตอน
0 วิจารณ์
20.13K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558 15.53 น. โดย เจ้าของนิยาย
15) ตอน15+16
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความชั่วโมงต่อมาฮิซูกิประชุมเสร็จ เขาเดินเข้ามาทิ้งตัวนอนใช้ตักฉันหนุนแทนหมอน และที่ลืมไม่ได้ก็คือตอนนั้นฉันไม่ได้ใส่ชั้นใน ชินอิจิทำมันขาดและหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ฉันจึงพยายามตีเนียน และไม่เขินอายยามฮิซูกิหันหน้าจมูกโด่งคมมาซบที่หน้าท้องฉันอย่างมันเขี้ยว ฮิซูกิที่ฉันได้รู้จักอย่างดีคนนี้ เขาช่างขี้อ้อนและเป็นสุภาพบุรุษ .....แตกต่างจากชินอิจิโดยสิ้นเชิง
"เหนื่อยไหมคะ" ฉันถามพรางนวดขมับให้เขาที่นอนหลับตาพริ้มบนตักฉัน
"ไม่ล่ะ ชินแล้ว เดี๋ยวอีกหน่อยต้องทำเลี้ยงลูกเมีย เหนื่อยกว่านี้เยอะ"
หญิงสาวหน้าแดงก่ำเมื่อเขาตอบกลับมาทั้งที่ยังหลับตา ประโยคคำตอบคล้ายผู้พูดหนักแน่นเสียเต็มประดาทำให้หญิงสาวหุบยิ้มเขินอายเอาไว้ไม่อยู่ จนโดนคนแสร้งหลับตาอยู่คว้าคอลงไปประกบปากอย่างเร็ว
ฮิซูกิสอดเรียวลิ้นของเขาเข้ามา และความรู้สึกกลับทำให้ฉัน สับสนตัวเอง... ฉันกำลังโดนว่าที่คู่หมั้นจูบ แต่กลับไร้ความรู้สึกแปลกๆ
"บอสคะ ฝ่ายบริหารครบแล้วค่ะ เหลือแค่บอส"
ฉันรีบผงะขึ้นจากเขาทันที เมื่อเลขาคนสวยหุ่นสะบึมของฮิซูกิเปิดประตูเข้ามาเห็นภาพที่เรากำลังนัวเนียกันเข้า ฮิซูกิตกใจเพียงเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นนั่งขยับไทด์ให้เข้าที่ เลขาของเขาแจ้งประสงค์ด้วยใบหน้านิ่งเฉยแต่คล้ายมีอะไรในแววตา แต่กระนั้นฉันก็อายหล่อนจนต้องก้มหน้าหลบสายตาเย็นๆนั่น หล่อนพูดเสร็จก็ปิดประตูออกไปปล่อยให้ฉันนั่งหน้าแดงอยู่กับฮิซูกิสองคน
"พอดี มีนัดคุยงานเพิ่มน่ะ วันนี้คงได้กลับบ้านดึก ฮารุจังกลับคนเดียวได้ไหมครับ"
ฮิซูกิช้อนใบหน้าของฉันด้วยสองมือ ปกติเขาจะมักไปรับ-ส่งฉันที่คอนโดเสมอ เว้นเสียแต่มีธุระติดพัน เช่นวันนี้ เรายังไม่เคยค้างคืนด้วยกัน เพราะอย่างที่ฉันได้ขอเอาไว้
"ไม่ต้องห่วงค่ะ ฉันดูแลตัวเองได้ ไปทำงานเถอะ"
"วันนี้ฮารุก็เลยไม่ได้ดูงานเพิ่มเลย แล้วเดี๋ยวยังไง พรุ่งนี้จะไปรับไปลองชุดแต่งงานนะครับ"
เขาพูดประโยคสุดท้ายก่อนจะรวบชุดสูทเดินออกไป ทิ้งท้ายด้วยจูบดูดดื่มจนฉันต้องไล่เขาออกไปอย่างเก้อเขิน
หลังจากที่ออกมาจากบริษัทแม่ของฮิซูกิฉันที่ไม่รู้จะไปไหนต่อก็เลยไปนั่งทอดอารมณ์อยู่ริมทะเลสาบใจกลางเมือง
มาคิดดูแล้ว แต่ละเรื่องที่ผ่านมาในอดีตล้วนทำให้หญิงสาวตัวเล็กๆอย่างฉันเจ็บช้ำน้ำใจก็ไม่น้อย
ไม่ว่าจะเป็นการถูกละเลยตั้งแต่ยังเล็ก การถูกมองข้ามความต้องการ บิดามารดาที่ยัดเยียดทุกสิ่งอย่างให้โดยไม่สนใจในความรู้สึก
แม้ในช่วงวัยนึงจะมีผู้ชายบ้ากามเข้ามาเพิ่มเติมสีสันในชีวิตให้ ในคราแรกมันดูวิปริตจนเกินรับไหว แต่หากมองช่วงเวลาที่เขาเพาะบ่มความรู้สึกให้กับฉัน มันกับเติมเต็มชีวิตของผู้หญิงขาดความเชื่อมั่นและเจ้าน้ำตาเสียจนสิ้น ชินอิจิทำให้ฉันกล้าที่จะยื่นขาออกไปภายนอกรั้วบ้านหลังใหญ่ที่ไร้คนคอยกอดประโลม
แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นอีกคนที่ทำทุกอย่างเพราะใจต้องการ ไม่ได้ใส่ใจความรู้สึกของฉันเลยสักนิดเหมือนทุกๆคน ความผิดหวังประเดประดังเข้ามา และพร้อมกับชายหนุ่มอีกหนึ่งคนที่อบอุ่นคล้ายเช่นเขา ต่างกันที่ฮิซูกิไม่ฝืนใจ และให้เกียรติในตัวฉัน ฉันคิดว่าสักวันหนึ่งความรู้สึกที่ฮิซูกิกำลังมอบมันให้กับฉันจะทำให้ฉันลืมผู้ชายชั่วร้ายคนนั้นได้ และเขาจะทำให้ฉันโตเป็นผู้ใหญ่ยิ่งขึ้น ฉันตัดสินใจว่าจะฝากชีวิตไว้กับเขา ...ผู้ชายอบอุ่นคนนั้น ไม่ใช่ใครก็ไม่รู้ ที่นอกจากชื่อ ความดิบหื่น และปากร้ายของเขา ฉันก็ไม่รู้จักอะไรเลย
ฉันคิดมากมายเกี่ยวกับเรื่องในอนาคต จนคิดว่าก่อนกลับที่พักควรจะแวะร้านยาเพื่อซื้อยาไมเกรนกลับไปด้วย อาการปวดหัวตุบๆ แทบทำให้ฉันขับรถไม่ไหว จะโทรเรียกใครก็ไม่อยากรบกวน กว่าจะลากตัวเองกลับที่พักได้ก็ต้องฝ่าการจราจรหลังเลิกงานมา จนดึกดื่น ฉันรีบอาบน้ำและสวมไว้เพียงชุดคลุม เพื่อรีบทานยาและนอนพัก
อาการปวดเร่งเร้าให้ฉันรีบหลับตาลงบนเตียงกว้างในห้องแอร์เย็นฉ่ำ และเมื่อยาเริ่มออกฤทธิ์ ร่างกายได้ผ่อนคลาย สติของฉันก็ค่อยๆเริ่มเลือนหายไปก่อนมืดสนิท
ห้องชุดกว้างเงียบสงบ เจ้าของห้องยังคงนอนหลับตาพริ้มบนเตียงกว้างไม่รับรู้ถึงการมาของใครอีกคน ชายหนุ่มรูปร่างกำยำนัยตาคมสนิท สวมเพียงเสื้อฮู้ดส์กางเกงยีนส์เดินสุขุมเข้ามาภายในห้องนอนส่วนตัวแอร์เย็นฉ่ำ รอยยิ้มกระตุกขึ้นที่มุมปากเรียวคม ก่อนที่คนมาใหม่จะเดินเข้ามาภายในห้องและไม่ลืมปิดประตูอย่างมีมารยาท
'หลับจริงแฮะ' ซองยาที่อยู่บนโต๊ะกระจกปลายเตียงแจ้งความจริงว่าหญิงสาวคงรับประทานมันเข้า และนอนหลับไป ...ก็ดีเหมือนกัน โจรอย่างเราก็ขี้เกียจฟังเสียงกรีดร้องแสบแก้วหู
แก้วน้ำแข็งปลายเตียงถูกเทลงทีเดียวหมดในปากกว้าง กายกำยำค่อยๆรูดเสื้อด้านบนของตนเองออกและตามด้วยยีนส์ผ้าเนื้อดี คนตัวสูงค่อยๆคลานเข่าลงจากปลายเตียงสู่ร่างนวลผ่องในชุดคลุมอาบน้ำ มือร้ายไม่กระตุกปมเชือกแต่กลับทำแค่แหวกชายที่คลุมกันไว้เมื่อคนตัวเล็กนอนหงายหันข้างเล็กน้อยจนชายเลิกขึ้นมาบนโคนขา ผ้าเนื้อดีค่อยๆถูกแหวกออกไปไว้ด้านข้าง
'หึหึ โนบราเสียด้วย'
ชายผ้าคลุมถูกแหวกไปแล้ว ตามด้วยข้อมือแข็งแรงจับปลายเท้าเนียนสะอาดให้ชันกับพื้นเตียงหนึ่งข้าง และจับแยกมันออกทั้งที่เจ้าของไม่ได้รู้ตัวและต้องครางฮือ เพราะน้ำแข็งในปากหนาถูกลากมาตามปลีน่องด้านในอย่างเยือกเย็นผิว
"ฮือ..." ปฏิกริยาอัตโนมัติโดยที่เจ้าของไม่รู้ว่ากำลังถูกรุกรานเอาอย่างถือสิทธิ์
คนตัวโตกำยำค่อยๆนอนราบกายบนลงต่ำ ปากเย็นที่แตะประคองก้อนน้ำแข็งเอาไว้ ค่อยๆลากไล้ความเย็นสู่กายสาว คล้ายสร้างความรำคาญเพื่อก่อกวน เผื่อคนนอนหลับจะมีสติรับรู้การมาของเขาบ้าง แต่กลับเปล่าประโยชน์ ดอกไม้งามซึบซับจนน้ำแข็งละลายหมดก้อนจึงได้รับช่วงต่อเป็นลิ้นสากนาบตัวตนกับจุดอ่อนไหวหญิงสาว หนามอ่อนรอบดอกถูกปากกว้างรวบไว้ในโพรงปากดูดดึงจนคล้ายจะหลุดออกไปแต่ไม่ มีเพียงการตอบสนองของดอกตูมที่สั่นกระตุกต่อสู้การร้าวราน ลิ้นแข็งแรงถูกสอดเข้าไปในโพรงอ่อนนุ่มรับรู้ถึงผนังเนียนลื่นหยุ่นที่คอยตอดรัดตัวตนของเขา และเมื่อกายพร้อมใจพร้อม แทนลิ้นเรียวจึงเป็นสิ่งแปลกปลอมรูปร่างคล้ายมังกรร้ายยามดุเดือดเลือดหงาด สีสันสดใสไม่ได้ช่วยให้มันดูน่ารัก ความนุ่มหยุ่นถูกแท่งแข็งภายในแต่เนื้อสัมผัสกลับนุ่มนิ่มคล้ายของจริงเติมเต็มจนต้องหุบขาหนีอย่างรำคาญ
ไม่ได้ช่วยให้หายเสียวไส้แต่กลับเป็นเพิ่มความลึกให้การถูกสอดใส่ อุปกรณ์พิเศษที่มีชุดคำสั่งเป็นรีโมทถูกเปิดให้ทำงาน เป็นการขยับเข้าออกแผ่วเบาแถมยังควงเป็นวงภายในกายสาวคล้ายมันมีชีวิต
คนตัวเล็กยังนอนหลับตาไม่รู้เรื่องรู้ราว ขาที่หุบเข้ากันถูกจับแยกอีกครั้ง และคราวนี้เจ้าตัวร้ายที่ยังทำงานถูกจับให้รุกเร้าเข้าออกโดยมือหนาเป็นจังหวะเข้าลึกสุดออกยาวสุด จนน้ำดอกไม้งามเปรอะไปทั่วแท่งความยาว มือหนาจึงกลับสอดเข้าไปปล่อยให้เครื่องทำงานเอง
หันมาแหวกสาบเสื้อคลุมด้านบนออก เปิดเผยหน้าอกเนียนเต่งตึงกลมกลึงประดับกายน่าแตะต้อง ไม่รอช้ากายกำยำเคลื่อยกายมาคร่อมด้านบนเอาไว้ มือสองข้างจับบังคับให้ความนุ่มหยุ่นแนบชิดกันก่อนจะสอดตัวตนเข้าสู่เนินเชิญชิดรูดเข้าออก
"วันนี้ฉันเอาหน้าอกเธอครั้งแรก เสียวไหมฮารุจัง ฮืม.." สะโพกสอบเด้งเข้าออกจนเจ้าของต้องครางออกมาเพราะถูกใจ ปากก็ถามคนไม่ได้สติ
"กล้าดียังไงไล่ฉันให้ออกจากชีวิต ฮะ.."
"ฝันไปเถอะ ...อย่างเธอ อยู่กับฉันนั่นแหละดีที่สุดแล้ว"
จบคำพูดที่พูดให้คนไม่มีสติได้ยินฟัง กายกำยำก็ยิ่งเร่งความเร็วจนครางกระหึ่มลั่นห้อง เนื้อแข็งแกร่งจมหายเข้าไปในร่องอุ่นระหว่างอก และพอกระแสความรู้สึกมาถึงปลายทาง น้ำสีขาวขุ่นก็ถูกปลดปล่อยพุ่งยาวเปลอะเปื้อนไปถึงริมฝีปากอมชมพูที่เม้มสนิทยามนอนหลับ ปลายคางมนยังเปื้อนเล็กน้อย
ความแข็งแกร่งถูกแทรกเข้ามาในความอบอุ่นแทนที่เจ้าไวเบรเตอร์ กายกำยำค่อยๆเร่งจังหวะการเสพสมจากช้าๆก่อนจะค่อยๆเพิ่มน้ำหนักการกดทับให้แน่นยิ่งขึ้น
"โอว... ฮารุจัง ตอดรัดดีจริงๆเลย สุดยอด"
หากแต่เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นอยู่ปลายเตียง กลับทำให้ชายหนุ่มส่งเสียงจิ๊จ๊ะอย่างไม่พอใจ ไม่รับก็ไม่ได้ แต่มันอยู่ไกลขนาดนั้น ก็ต้องหลุดจากคนตัวนุ่มนิ่มนี่อยู่ดี ใครวะ ช่างโทรมาได้จังหวะพอดีนัก มันน่าจับทุ่ม
"ว่า" เขารับโทรศัพท์เสียงห้วน ไม่วายนั่งมองร่างที่หลับสนิทตาปรอย
"คุณหนูอยู่ที่ไหนครับ คุณท่านให้หาด่วน บอกเรื่องสำคัญ" ปลายสายตอบกลับ
"เรื่องอะไร" นิ้วข้อใหญ่เคาะลงบนโต๊ะเป็นจังหวะอย่างครุ่นคิด
"เรื่องที่... คุณท่านสั่งห้าม ตอนนี้ทราบแล้วนะครับว่าคุณหนูขัดคำสั่ง"
"แล้วยังไง"
"คุณท่านรู้มากสักพักนึงแล้ว ไม่พอใจเล็กน้อยแต่ก็ห้ามไม่ได้ เลย... มีของจะให้เพื่อช่วยคุณหนูอีกทางน่ะครับ" คนสนิทของบิดาเขาแนะนำอย่างนั้น
"คืออะไร?" คนขี้สงสัยอดถามไปไม่ได้
"เป็นวิดีโอชุดที่แสดงหลักฐานการแสดงละครของพวกมันน่ะครับ ถ้าหากคุณหนูเปิดเผย เราก็คงได้ผลประโยชน์มากขึ้น"
"เดี๋ยวอีกครึ่งชั่วโมงฉันออกไป เรื่องนั้นก็ปล่อยมันแสดงละครของมันไป ไว้ถึงเวลาเมื่อไหร่ มันก็เปิดเผยตัวของมันเอง เราแค่รอจัดการอย่างเดียว"
จากนั้นบทสรุปของคำพูดจากชายหนุ่มก็เป็นไปตามกำหนด โดยเฉพาะร่างบางที่นอนหลับไม่ได้สติเหมือนเดิม แตกต่างไปตรงชุดคลุมเปิดออกจากกาย และคราบเหนียวลื่นที่จุดอ่อนไหวเป็นหลักฐานว่า ครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาเขาทำกิจการบนร่างเธอเรียบร้อยก่อนจะออกไปอย่างไม่สนใจว่าเช้านี้คนตัวเล็กตื่นมาจะสงสัยหรือตกใจเพียงใด ใจของชายหนุ่มก็อยากให้หล่อนรู้อยู่ดี ว่าไม่ว่าจะหนีเขาแค่ไหน หากเขาอยากได้ก็ต้องได้อยู่ดี
หญิงสาวตื่นขึ้นมาเพราะแสงของสุริยาที่สาดกระทบเข้ามาทางมู่ลี่ของผนักกระจกฝั่งขวาของห้องนอนที่ทอดวิวในเมืองจากชั้นสูงเกือบสุดของตึกคอนโดราคาแพง อาการงัวเงียเริ่มหายไป และอาการปวดศรีษะก็ทุเลาลงจนหายไปแล้ว หญิงสาวตื่นขึ้นมานอนมองผนังเล่นๆเพราะกำลังเซทติ้งโปรแกรมสมองส่วนการสั่งการอยู่ ครั้นพอนึกขึ้นได้ว่าวันนี้ต้องทำอะไรบ้าง กายเล็กก็เขยิบลุกนั่งพิงหัวเตียงหยิบสมาร์ทโฟนข้างหมอนมาเพื่อตั้งใจจะโทรหาว่าที่คู่หมั้นที่วันนี้นัดกันไว้ หากแต่พอลืมตามองสภาพตัวเองหลังจากนั่งพิงหมอนที่หัวเตียงกลับต้องตกใจกับสภาวะชุดคลุมเมื่อคืนที่ใส่นอนไว้ว่ามันหลุดออกจากร่างของตนไปเสียแล้ว นึกได้ดังนั้นหน้าหวานก็แดงเรื่อ ขนกายลุกซู่
เมื่อคืนเราฝันว่าชินอิจิมาหานี่นา ...แล้วหลังจากนั้นเขาก็.....
คนตัวเล็กอ้าปากค้าง หน้าแดงยิ่งกว่าเดิมเมื่อมีภาพบรรยายเป็นฉากๆ ในสมอง แถมยังกล่าวโทษตัวเองอย่างอดสูในจินตนาการสุดทะลึ่งนั่นว่าทำไมถึงคิดอะไรกับเขาได้ถึงขนาดเก็บเอาไปฝัน เขาหยิบจับแตะต้องส่วนไหนแม้ภาพจะเลือนลางนักแต่ความรู้สึกกลับชัดเจน นี่หล่อนคงไม่ได้หมกมุ่นหรือติดเซ็กส์ของเขาจนเกินไปหรอกมั้ง
แต่ทำไมความรู้สึกยามที่ลิ้นของเขาสัมผัสเอาอย่างจาบจ้วงถึงฉายชัดและเมื่อพอนึกดูกลับรู้สึกได้ว่ามันเกิดขึ้นจริง แถมเอวยังรู้สึกขัดๆคล้ายกล้ามเนื้อบีบตัวอีกด้วย ฝันสมจริงไปหรือเปล่านะเรา ....ชินอิจิไม่รู้จักที่นี่ และถึงรู้จักเขาก็เข้ามาไม่ได้หรอก ห้องนี้ความปลอดภัยระดับวีไอพีเชียวนะ
"เอ๊ะ!" ฮารุสังเกตเห็นที่ขาด้านใน มันเป็นจ้ำแดงที่คล้ายโดนบีบหรือไม่ก็ดึงเอาอย่างแรงจนเป็นรอย คงไม่ใช่รอยเก่าที่เขาจับหล่อนผลักลงนอนหงายและดูดดื่มกายอย่างหิวโหย เพราะถ้าเช่นนั้นรอยนี้คงเริ่มจาง หรือไม่ก็คงจะเขียวๆบ้างแล้ว
ร่างเล็กแปลกใจไม่น้อยกับร่องรอยบนตัว เกิดความสงสัยจนต้องค่อยๆเอื้อมมือลงไปสัมผัสช่อผกาอมชมพูของตน ที่ไร้เสื้อผ้าโอบอุ้ม เป็นครั้งแรกที่เคยสัมผัสตัวเองแม้จะเขินอายไม่น้อยแต่กลับต้องตกใจ เมื่อตนใช้นิ้วสอดแทรกลงไปกลับพบร่องรอยคราบอะไรบางอย่างที่เริ่มแห้งตัว ไม่ผิดแน่... มันคือร่องรอยของการสำเร็จความไคร่ นี่เราฝันถึงเขาจนขั้นนี้เชียวหรือ โอ...แย่แล้ว ฮารุจัง เธอห้ามปล่อยให้ชินอิจิมีพลังเหนือการควบคุมของตัวเองเด็ดขาดนะ เขาไปแล้ว จะไม่มีวันกลับมากวนใจเราอีก
คนที่เราควรนึกถึงให้มากคือ ฮิซูกิต่างหาก
และนี่คงเป็นคำคมนึกถึงไก่ไก่ก็มา แต่นี่คือคู่หมั้นของฉันต่างหาก ฮิซูกิ.... แค่นึกถึงเขาก็โทรมาแล้ว
"ตื่นหรือยังครับ สาวสวย" เสียงทักทายยามเช้าแบบนี้ อีกหน่อยคงได้ยินทุกวัน แต่ทำไมมันไม่รู้สึกดีใจเลยนะ หรือฉันดีใจจนชินไปหมดแล้วเวลาคุยกับเขา
"สักพักแล้วค่ะ นี่พี่ซูกิออกมาหรือยังคะ"
"อีกพักนึงก็ถึงแล้วล่ะ ฮารุจังแต่งตัวสวยๆเลยนะ" เขาส่งเสียงหล่อบาดใจมาตามปรายสายอดไม่ได้ที่ฉันต้องอมยิ้มตอบเขากลับไป
"ทุกวันไม่สวยหรือคะ" หากแต่คำตอบของเขาก็ยิ่งทำให้ฉันถึงกับกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่
"สวยสิ ใครบอกไม่สวย แต่วันนี้ตื่นเต้นนี่นา จะได้เห็นฮารุจังของพี่ในชุดเจ้าสาวแล้ว ใจมันเหมือนจะเต้นทะลุออกไปหาฮารุจังเดี๋ยวนี้เลย" ฮิซูกิยังคงขุดหลุมให้ฉันวิ่งลงไป และฉันก็คงจะตกลงไปในนั้นแล้วจริงๆ ถ้าไม่มีภาพใครบางคนซ้อนขึ้นมาให้ฉันกระอั่กกระอ่วนในใจ พอปลายสายเงียบลงฉันจึงหัวเราะอย่างมีความสุขให้เขา
"เลี่ยนที่สุดเลย ซูกิคุงนี่" หลังจากนั้นปลายสายก็สิ้นสุดบทสนทนาเพื่อเดินทางมารับฉันที่นี่
หญิงสาวนั่งแน่นิ่งอยู่บนเตียงอย่างใช้ความคิดก่อนสักพักนึงที่เธอจะลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว ด้วยชุดเดรสลายดอทสีสันพาสเทลขับให้คนใส่ดูดีเหมือนเซเลบในวงการ ชุดเป็นเกาะอกที่ตัวด้านบนนั้นปิดเพียงสามส่วนสีของเนินเนื้อขับให้ความนวลสง่ายิ่งยั่วตายวนใจชายไม่น้อย ความยาวครึ่งน่องและสูทผู้หญิงที่ใช้เพียงคลุมไหล่ ทำให้ฮารุ ดูเป็นสาวไซส์มินิที่ฮอตไม่เบา ดูก็รู้ว่าข้างในไม่น่าจะมินิเหมือนขนาดตัว
"โอ้โหแฮะ ...บอกแค่แต่งตัวสวยๆ นี่แต่งมาแบบนี้กะให้พี่เสียสมาธิขับรถเลยหรือเปล่าเนี่ย หืม ฮารุจัง"
ประตูรถลีมูซีนคันเดิมปิดลง หญิงสาวที่นั่งอยู่ในรถเพียงสองคนกับชายหนุ่มรูปงามถึงกับอดประหม่าไม่ได้ วันนี้แววตาของฮิซูกิดูมีพลังแปลกประหลาด และเขาก็ชมหล่อนไม่หยุด จนหญิงสาวก็เริ่มเขินกับคำเยินยอจนตัวลอย
"ก็พี่ซูกิบอกให้สวยนี่คะ" ฉันตอบเขาอย่างอ้อมแอ้ม ฮิซูกิเขยิบเข้ามาใกล้และค่อยๆเอียงหน้าหล่อเหลานั่นเข้ามาชิดเรือนผมที่ฉันมัดเก็บไว้เพียงครึ่งเดียว เขาสูดลมหายใจเข้าปอดคล้ายคนสดชื่น
"อืม... หอมด้วย แบบนี้คงจะไม่ได้ออกจากห้องสามวันสามคืนแน่ ว่าไหม"
คำพูดแฝงนัยยะนั่นเล่นฉันอายม้วน ฉันหวังว่าฮิซูกิจะไม่ว่าอะไร ถ้าฉัน...ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ หรือฉันควรจะลองหยั่งเชิงเขาก่อนดีนะ
"รุ่นพี่พูดอะไรก็ไม่รู้ ฉันอายนะคะ"
ฮิซูกิหัวเราะตายิ้มและดึงฉันเข้าไปกอดเอาไว้ แผ่นหลังฉันพิงอยู่กับอกเขา และพอไม่เห็นหน้าฉันเลยกล้าที่จะลองถามเขาดู
"รุ่นพี่คะ..." ฉันเอ่ยเสียงเบาๆ เรื่องแบบนี้ไม่กล้าพูดดัง ฉันกลัวเขารับไม่ได้ "ครับผม"
"คือ.... รุ่นพี่คิดยังไงกับ เอ่อ... สาวบริสุทธิ์คะ" ฉันอ้อมโลกไปหรือเปล่า เขาจะสงสัย หรือว่า แปลกใจกับคำถามของฉันไหมเนี่ย
"อืม... ทำไมจู่ๆก็ถามล่ะ "
"แค่อยากรู้มุมมองของรุ่นพี่นี่คะ ไม่ได้หรือ"
"ยังไม่ได้ว่าอะไรเลย ดูทำหน้าเข้า" เขาบีบจมูกหล่อนเล่น " บริสุทธิ์หรือไม่ ไม่สำคัญเท่าอยู่แล้วเข้าใจกันหรือเปล่า ความบริสุทธิ์ไม่ใช่ตัววัดค่าอะไร ไม่ว่าจะความดี ความรัก หรือความเข้าใจ อยู่ที่ตัวบุคคลต่างหาก" คำตอบของเขาทำให้ฉันคล้ายรู้สึกยกภูเขาออกจากอก ถ้าฮิซูกิรู้แล้วเขาผิดหวังในตัวฉันถึงขั้นไม่อยากแต่งงาน แล้วทีนี้ฉันก็คงจะหมดที่พึ่งอย่างจริงจัง งานการที่คงจะแข็งแรง และครอบครัวที่อบอุ่น ฉันคงต้องปั้นมันขึ้นมาอย่างยากลำบาก ถ้าฮิซูกิ ..เกิดทิ้งฉันไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ