[3P]เมื่อผมเป็นชู้...กับเมียชาวบ้าน
เขียนโดย DTBII
วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.09 น.
แก้ไขเมื่อ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2558 17.43 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) นักโทษหลบหนี
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่๑๐ นักโทษหลบหนี
ผมรู้สึกสังหรณ์ไม่ค่อยดี เพราะไอ้เด็กคิมนั่นแหละ มันยังคงมองผมเป็นระยะๆ จนไอ้ภูกับไอ้ตินสังเกตเห็นความผิดปกติ เริ่มทำหน้ามึนตึงยิ่งกว่าเดิม คราวนี้บรรยากาศดี ๆก็ช่วยทำให้อารมณ์ของพวกมันสองคนดีขึ้นไม่ได้
“ทำไมไอ้เด็กนั่นมันมองมึงบ่อยจังวะ”เสียงไอ้ภูเริ่มหงุดหงิดมากขึ้น
“กูบอกไปแล้วไงว่ากูหล่อ”
“แน่นะว่าไม่มีอะไร”ไอ้ตินเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆมันหันไปมองไอ้คิมอีกครั้ง
“ก็…”ผมไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี ผมไม่อยากโกหก เพราะถ้ามันจับได้ ก็คงเกิดเรื่องอีก แต่ถ้าผมบอกความจริงไป ไม่แน่ว่ามันสองคนอาจอาละวาดกลางร้านอาหารเลยก็ได้อย่างนั้นได้อายมากแหง ๆแต่สายตาของมันเริ่มกดดันผมอีกแล้วสิ
“ก็อะไรบอกมาตามตรง กูจะไม่โกรธ”ผมมองหน้าไอ้ติน มึงพูดแล้วนะ
“ก็วันนั้นที่กูโดดเรียนอ่ะ…กูไปนอนกับมันเองแหละ”ทั้งไอ้ภูทั้งไอ้ตินเริ่มหน้าบูด ผมเห็นท่าไม่ดีจึงรีบพูดต่อ
“แต่มันก็เป็นแค่เด็กขาย กูไม่สนใจหรอก”
“หึ!แต่ดูเหมือนมันสนใจมึง ไปเอามันอีท่าไหนล่ะ มันถึงได้ติดใจมึงขนาดนั้นอ่ะ”ไอ้ภูกัดฟันพูด หน้าขึ้นสีเพราะอารมณ์โกรธ ส่วนไอ้ตินก็เข้าสู่โหมดนิ่งไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“กูจำไม่ได้แล้ว หลายท่าเกิน”กวนตีนมันไปงั้นแหละ มันถลึงตาดุ ๆใส่ผม
“อารมณ์เสียว่ะ เหี้ยเอ้ย”ไอ้ภูทิ้งตัวลงพิงพนักเก้าอี้แรง ๆ มองค้อนผมมาอีก น่าถีบมาก กูอยากเอาเท้ากูไปสัมผัสหน้ามึงจริง ๆ
“งั้นก็รีบกลับกันดีกว่าป่ะ”ผมได้โอกาสรีบชวนมันกลับ ป้องกันไว้ก่อน
“กูยังไม่อิ่ม”ไอ้ตินก็เป็นคนทำลายความหวังของผม
“กูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”ว่าแล้วผมก็รีบลุกไปทันที ผมหันไปมองพวกมันสองคนที่มองมาที่ผมเหมือนกันขณะที่กำลังปลดปล่อย ผมก็ได้ยินเสียงคนเข้าในห้องน้ำ ผมก็ไม่สนใจ จนเมื่อรู้สึกว่าไอ้คน ๆนั้นมันมาหยุดยืนที่ด้านหลังของผม ผมหันไปมอง ไอ้คิม มึงจะอะไรกับกูอีกวะ
“บังเอิญจังเลยเนอะ มาเจอกับพี่ฟิกอีกแล้ว”มันพูดเสียงใส เออ โลกมันช่างกลมจริง ๆ ผมไม่สนใจมันทำการปลดปล่อยเสร็จก็รีบเก็บเข้าที่ แล้วเดินไปล้างมือมันก็เดินตามมาเป็นภาพที่ขัดใจผมมาก กูรำคาญเว้ย
“มึงกลับไปหาลูกค้ามึงไป”
“ผมขอเบอร์พี่หน่อยดิ”มันไม่ฟังที่ผมพูดแต่กลับจะมาจะมาขอเบอร์ผม เหอะ ๆ ฝันไปเถอะ กูไม่ให้มึงหรอก ถึงไม่มีไอ้ภูกับไอ้ตินผมก็ไม่ให้อยู่ดี เด็กอย่างไอ้คิม ได้ทีเดียวก็พอแล้ว
“กูไม่ให้”มันอ้าปากค้างเล็กน้อยก่อนจะหุบ แล้วยิ้มแบบแหย ๆส่งมาให้ผม
“โถ่ พี่ฟิก ผมก็อยากโทรหาพี่บ้าง เผื่อผมมีเรื่องจะปรึกษา”อ่ะโห มันเป็นคนแรกเลยนะที่จะปรึกษาผม คนอย่างกูมึงจะมาปรึกษาเรื่องอะไรไม่ทราบ
“ไม่ให้ก็คือไม่ให้อย่าเซ้าซี้”ผมบอกมันเสียงรำคาญ ไม่เข้าใจจริง ๆมันจะมายุ่งอะไรกับผมนักหนาอุตส่าห์กำจัดไอ้ปลิวไปพ้นทางได้แล้วเชียว
“ก็แค่เบอร์เอง จะอะไรนักหนา”มันทำหน้างอ ไม่ได้ผลกับกูหรอก
“กูมีแฟนแล้ว ไอ้คนที่มากับกูอ่ะ”ผมพูดไปแบบนั้นไม่ใช่คิดพิศวาสอะไรมันสองคนหรอก แต่ต้องการพูดให้มันเลิกยุ่งกับผม อีกอย่างในห้องน้ำก็มีแค่มันกับผม ผมไม่จำเป็นต้องอายถ้าพูดแบบนี้
“ผมไม่เชื่อหรอก พี่ฟิกอย่ามาโกหกให้ยากเลย”
“ก็แล้วแต่มึง ไม่ใช่ธุระกงการอะไรของกู อีกอย่างถ้ามึงเข้ามาเกาะแกะกูล่ะก็….มึงเจอดีแน่”ผมขู่มัน ไอ้ที่เจอดีแน่เนี่ย ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าผมหรือไอ้ภูจะเป็นคนจัดการ ผมรีบเดินหนีมันออกมา แต่ก็ต้องตกใจแทบเป็นลมเมื่อเห็นไอ้ภูกับไอ้ตินยืนอยู่ด้านนอก ท่าทางเหมือนยืนมาอยู่ซักพักแล้ว
“ทำไมต้องทำท่าตกใจขนาดนั้นด้วย”ตกใจที่เห็นมึงสองคนนั่นแหละ ผมไม่กลัวว่ามันจะเห็นผมอยู่กับไอ้คิมแต่กลัวว่ามันจะได้ยินที่ผมพูดแล้วตีความหมายเข้าข้างตัวเองว่าผมยอมรับมันสองคนเป็นแฟนมากกว่าแต่ดูจากสีหน้าของมันทั้งคู่แล้ว รู้เลยว่าพวกมันสองคนคิดแบบนั้นจริง ๆ
“กูอยากกลับแล้ว”
“เออ กลับก็กลับ”มันดูว่าง่ายขึ้นมาทันที มึงไม่ต้องทำสีหน้าแบบนั้น กูขนลุก หลังจากที่เช็คบิลเสร็จแล้วพวกผมก็ออกมาจากร้าน ผมเดินผ่านไอ้คิมมันด้วย มันก็มองหน้าผมด้วยสีหน้าที่เดาไม่ออก ผมก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกอย่างน้อยก็ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ผมยอมรับว่ากลัวนะ ก็รู้ ๆกันอยู่ว่ามันจะลงโทษผมแบบไหน
“มึงทำดีมาก”ไอ้ตินเอื้อมมือมาลูบหัวผมเหมือนรักใคร่เอ็นดู ผมก็ปัดออก ไม่ชอบเหมือนตัวเองเป็นหมายังไม่รู้
“อะไรของมึง”ผมไม่ชอบรอยยิ้มของมัน มึงได้ใจมากไปล่ะ
“ก็ที่มึงไม่ให้เบอร์กับไอ้เด็กนั่นไง”
“หึ!กูไม่ชอบแบบมันต่างหากกูถึงไม่ให้”
“อ๋อ นี่ถ้ามึงถูกใจมัน มึงก็จะให้ว่างั้น”ไอ้ภูมันหันมาเท้าเอวใส่ผม
“แน่นอน”ผมก็ตอบตามความจริง ถ้าผมถูกใจใคร ไม่มีทางที่ผมจะไม่ให้เบอร์ไว้ แต่ตอนนี้ยิ่งผมไปยุ่งกับคนอื่นมากเท่าไหร่ก็รู้สึกเหมือนมีเรื่องตามมามากเท่านั้น เพราะพวกมันสองคนเนี่ยแหละ
“ไอ้ฟิกมึงนี่มัน กูจะทำยังไงให้มึงหลาบจำดีวะ”ไอ้ภูพูดเหมือนเหลืออด ผมก็ยักไหล่
“ถ้ามึงคิดจะเอากูทำเมียล่ะก็ พวกมึงทนได้ก็ทนไปสิ กูเป็นของกูแบบนี้”ผมยืนยันเหมือนเดิมว่ามันไม่มีทางเปลี่ยนสันดานของผมได้หรอก ถึงช่วงนี้ผมจะไม่ได้คบกับแฟนชาวบ้านเขาเลยก็ตาม แต่คนอย่างผมซะอย่าง อีกไม่นานก็มีเข้ามาแน่ ไอ้ฟิกฟันธง มีเรื่องให้ผมแปลกใจอีกแล้ว เมื่อผมกลับมาที่หอก็เจอไอ้โตมารออยู่ที่ด้านล่าง หน้าตาเครียด ๆ
“ใครวะ”เสียงไอ้ภูถาม เมื่อไอ้โตมันโบกไม้โบกมือมาทางผม
“เพื่อนกูเอง”
“เพื่อนแน่เหรอ”ไอ้ตินถามซ้ำ ผมได้แต่กลอกตาไปมา เพื่อนกูเว้ยย น่ารำคาญพวกมันสองตัวจริง จุกจิกวุ่นวาย
“เออ มึงเห็นกูเดินไปจูบปากมันไหมล่ะ”โมโหแล้วนะเว้ย ผมเดินหนีพวกมันสองคนไปหาไอ้โต
“เป็นไรวะ หน้าตาเคร่งเครียดเชียวมึง”สังหรณ์ไม่ดีมีเรื่องอะไรเกี่ยวกับไอ้ปลิวรึเปล่าวะ
“เออ เรื่องเมียเก่ามึงนั่นแหละ”น่าน ซื้อหวยไม่ยักจะถูก
“ทำไมวะ”มันไปทำเรื่องอะไรอีก
“ก็มันกับไอ้ป่านน่ะสิ กัดกันฉิบหายเลย”มันทึ้งหัวตัวเองเหมือนเครียดจัด
“แล้วมันกัดกันเรื่องอะไรวะ”
“ก็เรื่องมึงไง ไอ้ควาย พอไอ้ปลิวสารธยายว่ามันเป็นเมียมึง ได้กับมึงท่านู้นท่านี้ ไอ้ป่านก็เกิดบ้า อาละวาดบ้านแทบแตก มึงเอามันกลับไปเลยนะ กูทนไม่ได้ว่ะ กูจะสมองระเบิดเพราะพวกมันเนี่ยแหละ!”ไอ้โตดูเหมือนคนเก็บกดมาก พูดออกมาได้อารมณ์เหลือเกิน ผมก็ถอนหายใจ
“กูให้มันมาอยู่กับกูไม่ได้หรอกว่ะ”ผมพูดอย่างลำบากใจ ผมเหลือบไปทางไอ้ภู ไอ้ติน มันยังไม่ขึ้นห้อง แต่ยืนกอดอก เท้าเอวมองผมอยู่ แค่เห็นท่าทางของพวกมันผมก็หงุดหงิดจนทนไม่ไหว หันหลับมามองไอ้โตเหมือนเดิม
“มึงเห็นไอ้สองคนนั้นป่ะ”
“เออ จ้องกูตาจะถลนแล้ว พวกมันเป็นใครวะ ทำไมถึงมากับมึงอ่ะ”
“ก็….”ผมยื่นหน้าไปกระซิบกับมัน
“พวกมันสองคนอ่ะ ตามราวีกูฉิบเป๋ง มันเริ่มจากกูไปแอบกิ๊กกับแฟนมันสองคนพวกมันเลยโกรธจับกู…เอ่อ”ผมพูดไม่ค่อยออก ไอ้โตเลิกคิ้ว สีหน้าประหลาด ๆของมันบ่งบอกว่ามันพอจะรู้ว่าผมจะพูดอะไรต่อ ไอ้โตเหลือบมองมันสองคนอีกครั้ง
“จริงดิ แม่ง พูดตรง ๆกูไม่รู้จะสงสารหรือสะใจมึงดีว่ะ มันก่ำกึงกันอ่ะ”อ้าวไอ้เวร มึงต้องสงสารกูเซ่
“จริง ๆนะเว้ย กูให้ไอ้ปลิวมาอยู่กับกูไม่ได้หรอก ไม่งั้นมันสองคนเล่นงานกูแน่”ผมพูดทำหน้าตาน่าสงสารเข้าไว้
“เล่นงานมึง? พวกมันซ้อมมึงหรือวะ มา เดี๋ยวกูเคลียร์ให้เอาไหม”มันมีท่าทีโมโห ผมล่ะซึ้งใจจัง ถ้ามันแค่ซ้อมผมก็ดีน่ะสิ แต่มันเดือดร้อนก้นผมด้วยอ่ะดิ
“เฮ้ย ๆไม่ต้องหรอก”มึงจะเจ็บตัวฟรีน่ะสิ อย่าลืมว่าไอ้ภูมันพกปืนน่ะครับ
“แต่พวกมันทำมึงเจ็บนะเว้ย”มันยังคงโมโห
“เออ เจ็บตูด”ไม่รู้ว่าทำไม แต่ผมไม่รู้สึกอายเท่าไหร่ที่ได้บอกเรื่องนี้กับไอ้โต ถึงสถานการณ์มันจะไม่น่าบอกก็เถอะ ไอ้ตัวมารสองตัวก็ยังยืนจ้องอยู่เลย
“ห๊ะ”มันทำหน้างง ๆ ว่าผมโดนซ้อนแล้วไปเจ็บตูดได้ไง ประมาณนี้
“เออ ช่างเหอะ แต่กูไม่เป็นอะไรหรอก”
“กูเป็นห่วงมึงนะเว้ย แล้วไอ้ชายกับไอ้เคนมันไม่ช่วยอะไรมึงเลยหรือวะ”พูดถึงมันสองตัวแล้วผมก็ปลง คือมันสองคนคิดว่าไอ้ภูกับไอ้ตินแค่เล่น ๆแกล้งผมเท่านั้น มันถึงชอบล้อผมซะสนุกปากเลย
“มึงก็รู้อยู่ว่ามันสองคนเป็นยังไง”ไอ้โตถอนหายใจก่อนจะพูดเสริม
“ส่วนเรื่องไอ้ปลิว กูจะช่วยมึงก็แล้วกัน แต่กูไม่รับปากนะว่าจะทนได้นานแค่ไหน”มันก็มีสีหน้าลำบากใจไม่น้อยเหมือนกัน
“ขอบใจมึงมากเลยนะเว้ย”ผมพูดมาจากใจจริง ๆ มันตบไหล่ผมก่อนจะกลับ พอไอ้โตไปปุ๊บ มันทั้งสองก็เดินมาหาผมทันที
“ทำไมคุยนานจังวะ”
“เพื่อนเก่าเพื่อนแก่น่ะ”แล้วผมก็เดินขึ้นหอไปก่อนพวกมัน ขี้เกียจเถียง ช่างเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ที่วุ่นวายและเฮงซวยมากสำหรับผม
……………………………………
ช่วงนี้ผมก็ไม่ค่อยได้เจอมันสองคนสักเท่าไหร่เนื่องด้วยผมมีงานต้องทำจึงต้องอยู่ที่คณะดึกดื่น บางวันถึงกับต้องขนเสื้อผ้าไปอาบน้ำนอนที่ช็อปเลยก็มี มันสองคนก็คงเข้าใจ(ล่ะมั้ง)ไม่เห็นมันว่าอะไรพวกมันเองก็ยุ่ง ๆเหมือนกัน คงไม่มานั่งว่างจับผิดผมหรอก หลังจากที่ส่งงานเสร็จ ผมก็เตรียมจะกลับหอ อยากนอนหลับพักผ่อนยาว ๆไปเลย
“มีเด็กมาหามึงแน่ะ”ไอ้เคนสะกิดบอกผมซึ่งถอนหายใจทันทีที่เห็นว่าเป็นใคร ไอ้คิมอีกแล้ว
“เฮ้ย นั่นใช่เด็กที่กูหามาให้มึงรึเปล่าวะ”ไอ้ชายเดินมากอดคอผมแล้วมองไปที่ไอ้คิมที่นั่งอยู่ที่ร้านกาแฟข้างคณะ เหมือนมันจะเห็นผม เพราะมันเดินมาทางนี้แล้ว
“พี่ฟิก”มันส่งยิ้มมาให้ ผมก็มองมันแบบเซ็ง ๆ ผมว่าผมคุยกับมันไปแล้วนะไอ้เคนกับไอ้ชายรีบเดินออกไปเพราะไม่อยากเป็นก้างขวางคอ มันบอกมาอย่างนั้น
“มึงมาทำไมเนี่ย”ผมเอ่ยถามอย่างรำคาญเมื่อมันเดินตามผม
“ถามแปลกผมก็มาหาพี่น่ะสิ”มันยังมีหน้ามายิ้มระรื่นใส่ผมอีก ผมมองซ้ายมองขวา คณะไอ้ตินอยู่ข้าง ๆนี่เอง ถ้าเกิดมันหรือเพื่อนมันมาเห็นล่ะก็ ผมนี่แหละจะเดือดร้อน
“มาทำไม กูไม่ได้เกี่ยวอะไรกับมึงซักหน่อย”แล้วมันรู้ได้ไงว่าผมเรียนที่ไหน
“ผมคิดถึงพี่อ่ะ แล้วก็มีเรื่องอยากปรึกษา”มันเดินเข้ามาหาผม
“กูไม่ใช่อ.ที่ปรึกษาของมึง ถ้าอยากคุยไปหาคนอื่นไป”
“โธ่พี่ฟิก ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ พี่ช่วยผมหน่อยสิ พี่เห็นคนที่มากับผมคราวก่อนรึเปล่า”ผมหยิบหมวกกันน็อคมาใส่ ไม่ใส่ใจที่มันพูดจนมันเริ่มหน้าเสีย
“มันตามราวีผม ผมแค่อยากสนุก ๆแต่มันตามผมไม่เลิกเลย”
“กูก็รู้สึกแบบมึงไง”มันอ้าปากค้างเมื่อโดนสวนกลับ
“มันไม่ใช่แบบนั้น…มันขู่ผมด้วยถ้าผมไม่ยอมนอนกับมัน”มันพูดเสียงเบา
“มึงจะบอกกูทำไม กูช่วยมึงไม่ได้หรอก มึงกลับไปเถอะ เดี๋ยวแฟนกูมาเห็นเขาจะเข้าใจผิด”ผมใช้คำว่าแฟนมาอ้างอีกรอบ สายตาก็มองไปรอบ ๆอย่างระแวดระวัง
“แต่ว่าพี่ฟิก…”
“คิม”ผมเลิกคิ้วเมื่อเห็นใครอีกคนโผล่เข้ามา ไอ้ผู้ชายตัวใหญ่ที่มากับมันนั่นเอง มันมองผมด้วยสายตาดุดันที่เต็มไปด้วยความโกรธ รู้สึกเหมือนงานเข้า
“พี่ใหญ่”ชื่อเหมาะดีนะ ไอ้คิมมีสีหน้าตกใจมันวิ่งมาหลบอยู่ด้านหลังผม อ้าว เดี๋ยวกูก็ซวยแทนมึงหรอก
“มึงเป็นใคร”มันตะคอกถาม มันไม่รอคำตอบแต่ตวัดสายตามองไปที่ไอ้คิม
“คิมต้องมากับพี่ ไหนคิมสัญญาแล้วไง ว่าจะไม่หนีพี่ไปไหนอีก”ไอ้คิมกำชายเสื้อผมแน่น ผมก็รู้สึกได้นะ ว่ามันกลัว แต่ผมไม่ใช่ฮีโร่เหมือนในหนัง เตะต่อยอะไรก็ไม่ได้ผมไม่มีปัญญาไปต่อกรกับไอ้นี่หรอก แล้วอีกอย่างผมไม่ได้เกี่ยวอะไรกับมัน
“พี่ฟิกช่วยคิมด้วยนะ”ผมไม่ตอบคำร้องขอมันแต่รีบสตาร์ทรถทันที กลัวโดนลูกหลงไปด้วย ไอ้พี่ใหญ่มันเดินเข้ามาหาไอ้คิม แล้วกระชากแขนเล็ก ๆ ของไอ้คิมจนมันตัวปลิว
“ถ้าพี่ไม่ตามมาจะรู้ไหมว่าคิมหนีพี่ออกมา”แล้วมันก็พยายามจะฉุดกระชากลากถูไอ้คิมให้ไปกับมัน เมื่อมันไม่ยอมไอ้พี่ใหญ่ก็ตบหน้าไอ้คิมเต็มแรง ผมตกใจมาก ไม่คิดว่ามันจะทำรุนแรงขนาดนี้ หน้าตาไอ้คิมน่าสงสารมากเลย แต่ก็นั่นแหละมันไม่ใช่เรื่องของผม
“พี่ฟิกช่วยผมด้วยมันจะฆ่าผมแล้ว”ไอ้คิมดิ้นหลุดมาจากพี่ใหญ่มันวิ่งมาซ้อนท้ายรถผมหน้าตาเฉย เฮ้ย อย่าหาเรื่องให้กู
“หนอย มึงหนีมาหาชู้ใช่ไหม ไอ้คิม”จี๊ดเลย ผมถูกกล่าวหาว่าเป็นชู้กับไอ้คิม ผมไม่มีเวลาปฏิเสธเพราะมันปรี่เข้ามาหาผมแล้ว ผมรีบบิดรถหนี มันก็กลับเข้าไปขับรถมันตามมา แย่แน่ๆ นี่รถฟีโน่นะ
“ไอ้คิมมึงทำกูเดือดร้อน”ผมตะโกนแข่งกับเสียงลม พยายามบิดให้แรงเท่าที่จะทำได้ ไอ้คิมเกาะเอวผมแน่น
“ผมขอโทษ แต่ผมไม่มีทางเลือกจริง ๆ”กูจะไม่มีทางรอดเพราะมึงนั่นแหละ นั่น ไอ้พี่ใหญ่มันตามมาติด ๆแล้ว ผมกลัวว่ามันจะมีปืนแล้วยิงผมขึ้นมาน่ะสิ ไอ้พี่ใหญ่ก็บีบแตรเสียงดัง ผมรีบขับไปที่คณะวิศวะทันที คนแรกที่จะช่วยผมได้คือไอ้ภู!ผมเชื่อว่ามันช่วยผมได้ โชคช่วยผมเหลือเกินเพราะผมเห็นมันอยู่ที่รถสปอร์ตกำลังกดโทรศัพท์หาใครสักคน ผมไม่ต้องเดามันโทรหาผมแน่ ๆ เพราะโทรศัพท์ผมสั่นอยู่
“ไอ้ภูเว้ย มึงช่วยกูด้วย ไอ้รถคันหลังมันจะเล่นงานกู”ทันทีที่ผมรับผมกูรีบพูดทันที มันงงเล็กน้อย แต่เมื่อผมบิดรถมาใกล้ ๆมัน มันก็หายงง มันชี้มือให้ผมไปจอดด้านในคณะมัน มันมองไอ้คิมตาเขม็งแต่นั่นยังไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือไอ้พี่ใหญ่ต่างหาก ผมจอดรถในตำแหน่งที่มันบอก ไอ้พี่ใหญ่ก็จอดตาม ทันทีที่มันลงมาจากรถ มันก็ถลามาหาผม
พลั่ก!
นี่ไม่ใช่เสียงผมโดนต่อยแต่อย่างใดเป็นเสียงไอ้พี่ใหญ่โดนไม้หน้าสามฟาดที่หลังต่างหากคนทำไม่ใช่ไอ้ภูแต่เป็นเพื่อนมัน ผมอ้าปากค้างอะไรมันจะอุกอาจขนาดนี้ นี่มันในคณะเลยนะเว้ย ไอ้พี่ใหญ่ถึงกับทรุด
“มึงจะทำอะไรเมียกู”ไอ้ภูเอ่ยถามเสียงเรียบแต่ในมือมันถือมีดเล่มบางอยู่ ผมใจหายวูบ นี่มึงพกของมีคมเข้าคณะหรือเนี่ย แต่มุมจอดรถตรงนี้ก็เป็นมุมอับเหมือนกันเพราะมีต้นไม้บัง
“ไอ้นั่นเหรอเมียมึง มันแอบนัดเจอกับแฟนกูต่างหากเว้ย”ไอ้พี่ใหญ่ตะโกนใส่ไอ้ภู มันหันมามองผม แล้วก็มองไอ้คิม
“ไม่ใช่นะเว้ย กูไม่ได้นัดมัน มันมาหากูเอง”ผมตอบไปตามตรง แต่ไอ้ภูจะเชื่อผมหรือไม่ก็อีกเรื่องนึง
“อ้อ กูเข้าใจแล้ว มึงแอบนัดกับไอ้เด็กนี่ แล้วแฟนมันตามมาพอดี มึงโดนเล่นงานก็เลยมาหากูใช่ไหม”มันหันปลายมีดมาทางผม ผมรีบถอยหนี นี่มีดเชียวนะ ถึงจะอันเล็กแต่มันก็คมเฉียบ
“ไอ้ภูใจเย็น”ไอ้พี่ปาเอ่ยปรามแตะไหล่มันเบา ๆ
“กูนึกว่ามึงจะสำนึกแล้วซะอีก กูไม่น่าหลงดีใจเลย”มันพูดเสียงแผ่ว ผมหันไปมองไอ้คิม
“มึงบอกมันสิ มึงมาหากูเอง กูไม่ได้นัดมึงมา”ผมตะคอกให้ไอ้คิม มันหาเรื่องให้ผมอีกแล้ว
“มึงไม่ต้องบังคับให้มันพูดหรอก”ไอ้ภูก็ตีความเป็นอย่างนั้นไปอีก โทรศัพท์ผมดังไอ้ตินโทรมา ไอ้ภูกระชากโทรศัพท์ไปจากผม มันกดรับ
“เออ กูเอง มึงเลิกเรียนแล้วใช่ไหม กลับไปเจอกันที่หอนะ ไอ้ฟิกสร้างเรื่องอีกแล้ว”แล้วมันก็วางสายมองหน้าผมด้วยสายตาโหด ๆ เพื่อนไอ้ภูไปคุมเชิงไอ้พี่ใหญ่ไม่ให้ตุกติก
“มึงมากับกู”มันยังไม่เก็บมีดครับ ผมก็กลัวก็เลยต้องตามไป ไอ้คิมก็ดูกลัว ๆก็เลยไม่กล้าพูดอะไรออกมา
“ไอ้ปา กูวานมึงจัดการหน่อยนะ”มันบอกกับเพื่อนมัน พลางส่งสายตาไปยังไอ้พี่ใหญ่กับไอ้คิม ผมไม่รู้ว่ามันจะทำอะไรแต่คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ระหว่างทางมันไม่พูดอะไรเลยจนผมกลัวไปหมด หวังว่ามันคงไม่ฆ่าผมหรอกนะ ผมเห็นว่าไอ้ตินมาแล้วเพราะเห็นรถมันจอดอยู่
“มีเรื่องอะไรหรือพี่ภู”ไอ้ตินถามทันทีเมื่อผมกับไอ้ภูก้าวเข้ามาในห้อง
“มึงถามมันสิ”
“กูไม่ได้ทำอะไร กูก็บอกมึงไปแล้วว่าไอ้คิมมันมาหากูเอง กูไม่ได้นัดมันมา”ผมเริ่มโมโห ไอ้ภูมันก็ยิ่งหงุดหงิด
“กูไม่เชื่อสันดานคนอย่างมึงหรอก รู้แบบนี้กูน่าจะให้ไอ้นั่นมันเล่นงานมึงให้ตายไปเลย”ไอ้ตินก็พอจะจับทางได้ มันก็คงจะโมโหผมเหมือนกันแต่มันคงเห็นไอ้ภูกำลังจะอาละวาด มันก็เลยมาดึงให้ผมถอยห่างจากไอ้ปีศาจร้าย หวังว่ามึงคงไม่กลายร่างไปด้วยหรอกนะ
“กูเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าถ้ามึงทำแบบนี้อีก มึงจะโดนอะไร”ไอ้ตินกระซิบเบา ๆกับผม ผมสะบัดมันออกสุดแรงแต่ไอ้ภูก็เข้ามาดักผมไว้ ผมเหมือนหมาจนตรอกที่หาทางหนีไม่ได้
“พวกมึงถอยออกไปให้พ้นนะเว้ย”ผมสู้จริง ๆแน่ถ้าพวกมันเข้ามา ผมจะไม่ยอมพวกมันอีกแล้ว ความอดทนของผมมีขีดจำกัด
“มึงจะทำอะไรกูล่ะ”สิ้นคำพูดของไอ้ภู ผมก็พุ่งเข้าไปหามันทันที ซัดหมัดใส่หน้ามันสุดแรงเท่าที่ผมมีมันเซล้มลง ผมรีบใช้โอกาสวิ่งออกจากห้องทันที แต่ไอ้ตินก็มาขวางไว้ ผมไม่มีทางเลือกนอกจากกลั้นใจต่อยมันไปอีกคน
“แน่จริงมึงก็อย่าหนีสิวะ”ไอ้ตินวิ่งตามมา ผมวิ่งออกมาจากหอ ไม่ได้คว้ากุญแจรถติดมือมาด้วย ผมหันไปมองด้านหลังมันสองคนก็วิ่งตามมาผมโบกแท็กซี่ที่กำลังเข้ามาใกล้
“ขับไปเรื่อย ๆ เลยพี่”ผมบอกพี่คนขับ รถออกตัวไปแล้ว ผมเห็นไอ้ภูมันกลับไปที่รถสปอร์ตของมันผมเร่งให้เขาขับไวขึ้น ในหัวกำลังคิดว่าผมจะไปหลบอยู่ที่ไหนที่ปลอดภัยที่พวกมันไม่รู้ แถมไอ้ภู มันเป็นคนมีพวกพ้องเยอะ ทำไงดีวะ ผมจะหนีมันสองคนพ้นไหมเนี่ย!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ