3Kill ฆ่า ฆ่า ฆ่า
9.8
เขียนโดย ชิโร่
วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 20.04 น.
26 ตอน
32 วิจารณ์
31.38K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558 22.57 น. โดย เจ้าของนิยาย
9)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความCR.SHL
ไอร่า... ได้ตัดสินใจทรยศเฮลไซท์จนได้ เป็นไปตามแผนที่ผมวางไว้ แถมรากูเอลยังถูกปล่อยตัวอีก ถึงแม้ว่าพวกเราจะจากกันไปแล้ว แต่อีกไม่นานรากูเอลต้องได้รับใช้ผมแน่ ไม่มีทางที่ทวยเทพคิดจะโกหกผมหรอก เรื่องนี้ที่แน่นอน
แต่ว่า... นรกป่านนี้คังวุ่นวายกันน่าดู โดยเฉพาะเธอ เฮลไซท์ ผมอยากจะรู้จริงๆว่าเธอจะทำหน้ายังไง..
''ลูกแก้วสีดำ'' เป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งของปราสาทนรก ไอร่าได้บอกว่า หากมีสิ่งนี้ การคงอยู่ของปีศาจในโลกมนุษย์จะสะดวกสบายยิ่งขึ้น แต่มันก็ไม่ได้มีผลอะไรกับผมและไอร่า เพราะเราต่างมีส่วนมนุษย์ที่ยังหลงเหลือ แต่ที่เราหยิบลูกแก้วสีดำมา ก็เพื่อป้องกันว่า เฮลไซท์จะไม่มายังโลกมนุษย์
หรือจะสรุปง่ายๆ หากเธอมาที่โลกมนุษย์ก็เท่ากับการฆ่าตัวตาย เพราะหากเธอไม่ได้ครอบครองลูกแก้วสีดำ ก็เหมือนปีศาจกากๆธรรมดานั่นแหละ เฮลไซท์... ไพ่ของเธอน่ะ อยู่บนมือผมหมดแล้วนะ
แต่ถึงจะพูดแบบนั้นผมก็ไม่สามารถที่จะฆ่าเฮลไซท์ได้ หากผมฆ่าเธอ ชีวิตของผมก็จะกลายเป็นอมตะชั่วนิรันดิ์ จะไม่มีใครสามารถฆ่าผมได้ และเพราะแบบนั้น ผมจึงได้วางแผนว่า หากเฮลไซท์มาที่โลกใบนี้เมื่อไหร่ ผมจะจับเธอมาทรมาน จากนั้นเมื่อเธอยอมผม เธอก็จะยอมฆ่าผม และผมก็จะได้ตายสมใจอยาก
ตอนนี้ ผมและไอร่า กลับมาจากนรก โดยที่พวกเรา ยืนอยู่ท่ามกลางดาดฟ้าของโรงเรียนบรรยากาศที่นี่มันสดชื่นจริงๆ ยิ่งดวงจันทร์เต็มดวงไร้เมฆพร้อมบรรยากาศหนาวๆ ลมแรงๆ ผมชอบมาก อาจจะเป็นเพราะอยู่ในคุกนานเกือบ 3 เดือนก็เป็นได้ ป่านนี้เพื่อนๆในห้องทุกคนจะเป็นอย่างไรบ้างนะ ลืมผมไปรึยัง ^^
อา.. ผมค่อยๆสูดอากาศพร้อมหลับตาไปพลางๆ
''เอ่อ..อะ แอล ค..คือว่านะ''
ดูท่าไอร่าเธอยังทำตัวไม่ค่อยถูก เพียงเพราะยังไม่ชินกับผมล่ะมั้ง เอาเถอะ พึ่งจะทรยศนายที่รักมาสดๆ ผมก็ไม่คิดว่าเธอจะปรับตัวได้เร็วหรอกนะ ไม่ต้องห่วง เธอหมดประโยชน์เมื่อไหร่ ผมจะฆ่าเธอเอง เพราะงั้นเตรียมตัวหลบให้สบายเถอะนะ ไอร่า...
''ไอร่า... บอกไปแล้วนิ ผมจะปกป้องเธอเอง ^^''
ในขณะที่พวกเรายืนท่ามกลางดาดฟ้าที่ลมหนาวโชยมา วินาทีนั้นผมใช้มือขวาจับไปคางของไอร่าเบาๆ ไม่นานผมก็ยื่นริมฝีปากออกไปจูบเธออย่างไม่ลังเล...
ริมฝีปากของพวกเรากระทบกันในที่สุด ไอร่าเธอถึงกับตาค้างไปเลย แต่ถึงเธอจะตกใจ แต่ผ่านไปไม่กี่วินาทีเธอก็ยินยอมให้ผมจูบ โดยจากที่เธอตาค้าง กลายเป็นค่อยๆหลับตาซะแบบนั้น
เมื่อพวกเราจูบกันได้ไม่นาน ผมจึงได้แยกปากออกมาจากเธอ
และมันก็เหมือนเดิม เธอยังคงทำตัวไม่ถูก พยายามหลบหน้าผมอยู่หลายครั้ง
''ไม่เชื่อใจผมยังงั้นเหรอ ไอร่า...''
ผมแกล้งทำหน้าเศร้าๆออกไป
''ตะ..แต่ว่า จะดีจริงๆเหรอ แอล''
ผมเองก็ไม่ได้พูดอะไรหรอก ได้แต่รุกตัวเข้าไปกอดเธออย่างใกล้ชิด... โอบหลังและหัวของเธอเอาไว้ด้วยความอ่อนโยนจอมปลอม
''ไม่เป็นไรน่า.. บอกไปแล้วนิ ใครที่มาแตะต้องเธอ ผมจะฆ่ามันให้เองนะ''
''พะ..พูดจริงเหรอ แอล ฉันเชื่อใจคุณได้นะ''
หึ...
''ผมไม่ชอบโกหกหรอกนะ โดยเฉพาะคนที่ผมรัก ^^''
_______________________________________________________
ณ บัลลังค์ของเฮลไซท์
เฮลไซท์ถึงกับอาละวาดออกมาทันทีที่ได้ยินเรื่องแอลแหกคุก แต่นั่นมันไม่เท่าไหร่ เธอช็อกยิ่งกว่าคือไอร่าทรยศ แถมรากูเอลยังหนีไปได้อีก !! นี่เป็นเรื่องใหญ่ที่กระทบกับนรกเป็นอย่างมากไม่ผิดแน่ โดยเฉพาะเรื่อง รากูเอล
เธออาละวาด ทุบนู้น ทุบนี่ ทุบมันทั้งหมด ไม่ว่าจะแก้วแหวนเงินทอง ผนัง เก้าอี้บัลลังค์ของตัวเอง
''ทำไมถึงเป็นแบบนี้ !!! แมมม่อน.. เธอพูดจริงสินะ ไอร่าหนีไปแล้วใช่ไหม !!?''
''ค่ะ... ให้ตามฆ่าไอร่ากับรากูเอลดีไหมคะ''
และคนที่รายงานเรื่องนี้ให้เฮลไซท์ทราบ ก็คือแมมม่อนนั่นเอง โดยเธอกำลังทำท่านั่งเคารพเฮลไซท์พร้อมรายงานสถานการณ์ปัจจุบัน
''ไปเอาลูกแก้วดำมาซะ ฉันจะไปล่ามันที่โลกมนุษย์ ตอนนี้เลย!!''
เฮลไซท์ชี้หน้าใส่แมมม่อนให้ทำตามคำสั่ง
แต่ว่าวินาทีนั้น....
''ท่านเฮลไซท์ โปรดรอก่อนค่ะ...''
วินาทีนั้น ''เซร่าฟิม'' ก็ปรากฏตัวขึ้น โดยเธอค่อยๆเดินเข้ามายังห้องบัลลังค์ของเฮลไซ์ช้าๆ เธอคือหนึ่งใน 7 บาป เป็นปาบแห่งความตะกละ ลักษณะของเธอคือ ใส่เสื้อกล้ามตัวเดียวพร้อมเสื้อคลุมสีดำ กางเกงขายาว หน้าตาดูต่างจากบาปคนอื่น หุ่นของเธอเหมือนนางแบบไม่มีผิด
ลักษณะที่โดดเด่นกว่านั้นคือเธอไว้ผมหางม้าที่ยาวจนถึงช่วงเอว แววตาสีน้ำเงิน ริมฝีปากของเธอคือสีธรรมดาของมนุษย์ ซึ่งแตกต่างจากบาปคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด
''เซร่าฟิม.... เธอจะสื่ออะไร คิดจะมาห้ามเราเหรอ ไปเอาลูกแก้วสีดำมาเดี๋ยวนี้''
''ค่ะ ตอนนี้ลูกแก้วได้ถูกขโมยไปแล้วค่ะ...''
เซร่าฟิมบอกกับเฮลไซท์ด้วยน้ำเสียงเคารพ
''ห๊ะ !!''
สรุปตอนนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับโลกนรกที่ไม่สามารถไปโลกมนุษย์ได้ เฮลไซท์ได้รับบทเรียนแล้วว่า หากประมาทแอลเพียงชั่วครู่ ก็ทำให้นรกถึงกับสั่นคลอนไปด้วยความโกลาหนได้
''เซร่าฟิม... ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ถึงจะสร้างลูกแก้วสีดำอีกอันหนึ่งได้..''
เฮลไซท์เหงื่อตกเอามากๆ ท่าทางจะโกรธไม่ใช่น้อย ถึงแม้ตนเองจะพยายามคุมสติและระงับอารมณ์อยู่หลายครั้งก็ตาม
''ค่ะ... เดี๋ยวฉันจะจัดการให้ค่ะ ท่านเฮลไซท์ พักผ่อนให้สบายเถอะค่ะ''
''เข้าใจแล้ว เซร่าฟิม ฝากจัดการด้วยแล้วกัน''
คำพูดของเซร่าฟิม ดูเหมือนว่าจะทำให้เฮลไซท์ใจเย็นและยอมกลับมานั่งบนบัลลงค์ดีๆ
วินาทีที่เซร่าฟิมกำลังจะออกจากห้องบัลลังค์ของเฮลไซท์ ก็ได้ส่งสายตาไปหาแมมม่อน ราวกับว่า มีเรื่องจะคุยด้วย ''ขอให้มาคุยนอกห้องหน่อย'' ทางด้านแมมม่อนก็ยอมแต่โดยดี และบริวารทั้งสองของเฮลไซท์ ก็ได้เดินออกจากห้องบัลลังค์ไปอย่างเงียบๆเพื่อคุยกัน
เมื่อเซร่าฟิมและแมมม่อนออกมาจากห้องบัลลังค์แล้ว จึงได้ปิดประตูและหันมาคุยกันสองต่อสอง ...แต่ดูท่าแมมม่อนจะกดดันมากๆที่ได้คุยกับเซร่าฟิม
ระดับมันต่างกัน...
''แมมม่อน รู้รึเปล่าว่าที่ฉันเรียกตัวเธอมาเพราะเรื่องอะไร !?''
สายตาของเซร่าฟิมเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานด้วยความโกรธ แมมม่อนเธอถึงกับไม่กล้าหือ
''เซร่าฟิม... เจ้าก็รู้นิว่าข้าเกลียดมนุษย์''
แมมม่อนพยายามแก้ตัว ก้มหน้าลงแบบสำนึกผิด....
''เพราะเธอรังเกียจมนุษย์ไงละ ถึงได้ละเลยในการจับตาดู ที่มันหนีไปได้ เพราะความผิดเธอส่วนหนึ่ง เข้าใจเอาไว้ด้วย แมมม่อน!''
''ขะ..เข้าใจแล้ว ทีหลังข้าจะระวังมากกว่านี้''
''เข้าใจไว้ก็ดี พักหลังมานี้ท่านเฮลไซท์โกรธบ่อยเกินไปแล้ว หากเธอทำงานพลาดอีก อย่างหวังว่าจะได้รับการอภัยโทษเลย แต่คราวนี้ฉันจะทำเป็นไม่เห็น...''
เซร่าฟิมสั่งให้แมมม่อนทำตัวดีขึ้น ดูออกเลยว่าเธอเหนือกว่าบาปอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด
''เข้าใจแล้ว...''
______________________________________________________
ทางด้านแอล...
ตอนนี้ผมเองก็เดินกลับบ้านพร้อมกับไอร่า โดยผมใช้มือซ้าย โอบไหล่เธอเอาไว้และเดินไปพร้อมๆกันอย่างใกล้ชิด สนิทสนม.. ท่าทางเธอจะยอมผมทุกอย่างจริงๆนะ ไอร่า ตราบเท่าทีเธอมีประโยชน์ ผมจะปกป้องเธอตามสัญญาแน่อน ถ้าหมดประโยชน์ก็เตรียมตัวตายได้เลย
ในระหว่างที่พวกเราเดินกลับบ้านนั่นเอง ผมก็นึกอะไรดีๆออก
''จริงสิไอร่า... ผมมีเรื่องต้องทำ เธอมีพลังอย่างพวกสะกดจิตหรือเปล่าล่ะ ?''
ผมถามกลับไปพร้อมมองหน้าเธอ
''ถ้าใช้กับสัตว์หรือมนุษย์ ฉันพอทำได้อยู่นะ''
ไอร่าตอบกลับมาพร้อมมองหน้าผม...
''ถ้างั้น ไปนอนรอที่บ้านผมก่อนแล้วกันนะ เธอรู้ทางใช่ไหมล่ะ ส่วนผมมีเรื่องต้องทำ''
ผมบอกกับไอร่าไปแบบนั้น ดูท่านางจะติดผมจริงๆ แววตามันบ่งบอกว่า อย่าจากฉันไปนะ
ก็ใช่สิ หากผมทิ้งเธอเมื่อไหร่ เธอก็จะกลายเป็นหมาหัวเน่า ไม่มีที่อยู่ อนาคต หรืออะไรทั้งนั้น แถมยังถูกเฮลไซท์ตามล่าอีก ชีวิตของเธอมันขึ้นอยู่กับผมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะทิ้งจะขว้างยังไงก็ได้ เพราะงั้นจะติดผมเหมือนสามี ก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ
''ไม่เอาน่าไอร่า ผมไปแปบเดียว เดี๋ยวก็กลับ เธอไปรออยู่ที่บ้านเถอะ แล้วก็สะกดจิตพ่อแม่ผมด้วยนะ เกรงว่าพวกท่านจะทำอะไรแผงๆ ยังไงถ้าจะให้ดี ลบความทรงจำเกี่ยวกับผมให้หน่อยแล้วกัน''
ไอร่าเงียบ... ไม่นานเธอก็ก้มลงแบบเศร้าๆ
''เข้าใจแล้ว แอล ฉันจะทำตามคุณทุกอย่าง''
''อืม.. แบบนั้นแหละดี อ้อ.. แล้วก็น้องชายผม อย่าไปทำอะไรเขานะครับ''
''เข้าใจแล้ว ตะ..แต่ว่านะ แอล เธอจะล้างแค้นยังงั้นเหรอ.. ให้ฉันไปด้วยเถอะนะ !''
อืม จะว่าไปเธอเองก็รู้เรื่องของผมซะเยอะเลยนี่นา ท่าทางวันที่ผมฆ่าไอจอร์จเธอก็น่าแอบดูอยู่ด้วย ไม่สิไอร่า เธอคงจะตามสืบประวัติของผมมาก่อนหน้านี้แล้วสิท่า
แต่ว่า ผมเองก็ไม่มีรสนิยมให้ผู้หญิงมาฆ่าล้างแค้นแทนตัวเองหรอก ผมจึงค่อยๆเอาปากไปแนบหูกับไอร่าช้าๆ และพูดขึ้นมาเบาๆ
''ไอร่า.. ผู้หญิงที่สวยงามน่ะ ไม่เหมาะกับเลือดหรอกนะ ^^''
___________________________________________________________
และผมกับไอร่า ก็จากกันตรงที่สวนสารธารณะ เอาล่ะ มาเริ่มการล้างแค้นกันดีกว่า เหล่ามิตรสหายของผม เอาเป็นใครดี เพื่อน... หรือว่าครูอาจารย์ละ ?
ในใจยังพลางคิดไปมา เมื่อผมเดินไปเด็ดดอกไม้สีชมพูข้างทางมา จากนั้นก็เริ่มเด็ดดอกของมันออกทีละใบ เพื่อเสี่ยงทายโชคชะตาว่าผมควรจะฆ่าใครก่อนดี..
''เพื่อน''
''ครู''
''เพื่อน''
''ครู''
''เพื่อน''
''ครู''
''เพื่อน''
''ครู.... ''
โอเค งั้นวันนี้คือวันตายของอาจารย์ที่ปรึกษาสุดสวยสินะ จะว่าไป หล่อนเองก็ยังไม่มีสามีนี่นา งั้นขอละกันน่า ความสดใหม่ของเธอน่ะ จะย่ำยีไม่ให้เหลือเลย
และด้วยเหตุนั้น ก็ว่าจะไปแวะซื้อน้ำอัดลมมาดื่มอยู่พอดี ผมเองก็ไม่รู้หรอกว่าแวมไพร์จะสามารถดื่มน้ำอัดลมได้ไหม แต่อยากดื่มสุดๆ เพราะตอนนี้คอแห้งมาก รู้งี้ขอไอร่าดูดเลือดตอนกลับบ้านซะก็ดีหรอก ไม่น่าเลยเรา...
ว่าแล้วก็เริ่มเดินออกไปยังร้านสะดวกซื้อใกล้ๆกับสวนสารธารณะ โดยที่นั่นมันเป็นร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง เป็นร้านที่เปิดใหม่ก่อนที่ผมจะไปนรก ไม่สิ ไม่ได้เป็นร้านเปิดใหม่ มันคือร้านที่ปรับปรุงใหม่ต่างหาก
ผมค่อยๆเดินไปยังร้านสะดวกซื้อแห่งนั้นอย่างช้าๆ
ผมได้เดินผ่านผู้คนหลายคนที่มาแวะยังร้านนี้
พวกเขาเหล่านั้นที่เดินผ่านตัวผม ต่างวิ่งหนีกันไปหมด
พอจะเดาได้ว่าทำไมถึงหนี
นั่นก็เพราะ เหตุการณ์ฆาตรกรรมจอร์จ มันมีกล้องวงจรปิดอยู่ ตัวผมเมื่อกลายเดือนที่แล้วคงออกข่าว แม้แต่ตอนนี้ก็อาจจะยังออกข่าวหน้าหนึ่งก็เป็นได้ ฆาตกรเลือดเย็นที่โด่งดังไปทั่วและตำรวจยังตามจับตัวไม่ได้ แต่เรื่องนั้นก็ช่างมันก่อน ตอนนี้หิวน้ำสุดๆ
ประตูร้านสะดวกซื้อเป็นแบบเปิดอัตโนมัติ เพียงผมเดินเข้าไปมันก็เปิดอ้าออกมา
แต่ว่าตอนที่ผมเข้าไปยังร้าน พนักงานต่างพากันวิ่งหนีซะแบบนั้น
โดยพวกเขาทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นวัยหนุ่มหรือวัยสาว แต่งตัวด้วยชุดพนักงานสีเขียว ก็ต้องผวาไร้ทางหนี เมื่อผมเอาร่างกายมาปิดประตูทางออกไว้ ทำให้พวกเขา หนีไปไหนออกจากร้านไม่ได้
''ย่ะ.. อย่าทำอะไรพวกเราเลย ขอร้องละ !!''
ใครจะให้พวกแกหนีฟ่ะ ! ถ้าพวกแกหนี ก็จะไปแจ้งตำรวจมาจับผมล่ะสิ เรื่องแบบนั้นใครมันจะไปยอม ขอโทษทีนะ พวกแกทั้งร้านสะดวกซื้อต้องตายตรงนี้ แต่ว่าก่อนจะฆ่าพวกมัน ก็อยากจะถามอะไรหน่อย
''พวกคุณ.. กลัวผมขนาดนั้นเลยเหรอ ดูท่าผมจะเป็นคนดังมากๆเลยสินะ ^^''
แน่นอนว่าตอนนี้บอกได้คำเดียว ผมกลายเป็นไอดอลฆาตกรไปแล้ว ดังกว่าที่คิดไว้จริงๆนะ คนทั้งประเทศอาจจะรู้จักผมก็เป็นได้ หึๆ.. การที่ถูกคนหลายคนรู้จัก มันตื่นเต้นดีออกนะ
จังหวะนั้น...
จังหวะที่ผมยืนปิดประตูหน้าร้านเพื่อไม่ให้พวกพนักงานหรือลูกค้าในร้านหนี พวกมันก็วิ่งเข้ามารุมทำร้ายผม พวกมันอาจจะคิดว่าผมคงเป็นเหมือนเด็กเกรียนแก่นแตกคนหนึ่ง แต่ผิดแล้ว เพราะไม่ว่ายังไงพวกแกก็ตายอยู่ดี.... ร่างกายผมอาจจะบอบบางเหมือนเด็กมัธยมทั่วไป... แต่ว่า
เฉือด!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เพียงผมใช้มือข้างขวาข้างเดียว สับไปที่หัวของชายคนแรกที่มาทำร้ายผม หัวมันก็แหลกละเอียดได้เลย สมองถึงกับแตกกระจายออกมาทั้งร้าน เลือดกระฉูดออกมาเหมือนปืนฉีดน้ำแตก กระจกใสๆของร้านสะดวกซื้อกลายเป็นคราบเลือดสมองของมัน
เป็นการเชือดไก่ 1 ตัวให้ลิงดู
ในตอนที่ผมฆ่าชายพนักงานคนหนึ่ง พวกมันก็ร้องโวยวายกันทั่วร้าน ถึงจะมีบางคนไปแอบหลังร้านเพื่อโทรเรียกตำรวจ แต่อย่าคิดนะว่าพวกตำรวจโง่ๆมันจะมาทันเวลา
''เอ้าๆ เงียบหน่อย จะกรี๊ดกร๊าดกันไปทำไม ผมฆ่าทุกคนอยู่แล้ว ไม่เจ็บมากหรอกน่า ความตายน่ะ มันดีจะตาย ไม่รู้หรือไง ?''
ผมเดินไปอย่างช้าๆ ใช้มือทั้งสองหักคอพนักงานหญิงคนหนึ่งจนหัวบิด 180 องศา ตายโดยตาไม่หลับ จากนั้นก็เริ่มด้วยการฆ่าชายคนต่อไปโดยการตบไปที่ปากครั้งหนึ่ง จนปากทั้งปากแตกระเอียดไปด้วยเลือด ล้มลงนอนดิ้นกระวนกระวายจนสิ้นใจ
พวกมันวิ่งหนีกันหัวซุกหัวซุน บางคนหนีไปประตูหลังร้านและล็อกกลอน บางคนวิ่งไปยังชั้น 2 ของร้านเพื่อกระโดดหน้าต่างหนีก็มี แต่ช่างเถอะ ผมไม่อยากเสียเวลามาฆ่าพวกสวะพวกนี้หรอกนะ
ผมน่ะแค่ต้องการน้ำอัดลมเฉยๆ ผมจึงเดินไปยังตู้เย็นของร้านสะดวกซื้อ พร้อมหยิบกระป๋องโคล่ามาหนึ่งกระป๋อง เปิดมันออกมาพร้อมกระดกด้วยความชื่นใจ และก็เป็นอย่างที่คิด เมื่อโคล่ามันหวานเย็นถูกปากเหลือเกิน
อ๊ะ.. ดูเหมือนว่าในร้านจะมีเด็กน้อยวัย 6 ขวบอยู่ด้วยนี่นา แถมยังมีเด็กสาววัย 15-16 ปี หรือพวกนักเรียนอยู่ด้วย พวกเขาไม่สามารถหนีไปยังหลังร้านได้เลย เพราะว่ามีคนไปล็อกประตู หรือจะพูดง่ายๆว่ามีพวกหัวไวหนีไปล็อกประตูหลังร้านก่อน พวกที่เหลือเลยไม่สามารถเข้าไปแอบในร้านได้
ดูสิ พวกเด็กน้อยกำลังผวาต่อผม ไปแอบหลังตู้ไอติมบ้าง แผงลอยขายขนมบ้าง ใต้โต๊ะเช็คเงินบ้าง.. จะหนีไปทำไมนักหนาล่ะเนี่ย ผมไม่ได้ใจดำถึงขนาดนั้นซะหน่อย
บอกตรงๆว่าโครตเกลียดพวกที่เอาตัวรอดโดยทิ้งคนอื่น...
ด้วยเหตุนั้นผมจึงเดินไปยังประตูหลังร้าน แล้วพังมันด้วยมือเปล่า
เมื่อผมพังประตูนั่นไปแล้วก็พบว่า มันไม่ใช่ประตูหลังร้านอย่างที่คิด มันคือห้องเก็บสินค้าของร้านสะดวกซื้อต่างหาก แถมห้องก็แคบ แออัดไปด้วยกล่องสินค้าสีน้ำตาล จนไม่มีที่แอบอีก
พวกมันประมาณ 5 คน ถอยอย่างรวดเร็วไปจนสุดมุมห้อง และ 5 คน ล้วนเป็นพนักงานของร้านนี้ทั้งนั้น มีชาย 3 คน และหญิงสาวอีก 2 คน ตะโกนร้องว่าอย่านะ ดูสิ ผู้หญิงคนนั้นฉี่ราดออกมาแล้ว
บางคนก็ผลักผู้หญิงที่ฉี่แตกออกมาหาผม เพื่อให้เธอตายก่อน หรือจะเรียกง่ายๆว่า เธอไปให้มันฆ่าก่อนสิ ฉันไม่อยากตายก่อนนะ ทั้ง 4 คน รุมกันผลักผู้หญิงคนนั้นให้ผมฆ่าเธอก่อน
เสียใจด้วยนะ วันนี้ผมอารมณ์ดี จะปล่อยให้รอดไปซักคนก็ได้
''อยากหนีก็หนีไปสิ... งั้นจะฆ่า 4 คนนี้แทนเธอแล้วกัน ไปฉี่ข้างนอกแล้วกันนะ สาวน้อย ^^''
ผมกล่าวให้เธอหนีออกไปด้วยตัวคนเดียว และเธอก็วิ่งออกประตูไปทันที ในขณะที่ห้องเก็บของตอนนี้ยังมีมนุษย์ที่ขี้ขลาดอยู่ทั้งหมด 4 คน
''ใครจะตายเป็นคนต่อไป.... ''
เป็นไปอย่างที่คิด เมื่อมันเสนอตัวออกมาให้ผมฆ่าทิ้ง มันคงจะคิดว่าผมจะปล่อยมันเพราะความกล้าหาญละมั้ง แต่ผิดไปหน่อยแล้ว แกไม่ได้กล้าหาญ แกอยากให้ผมเห็นใจและปล่อยตัวเองไปเหมือนผู้หญิงฉี่แตกคนแรก
ผมจึงได้ฉุนและลงมือฆ่าพวกมันทั้ง 4 คนแบบไร้ปราณี เริ่มด้วยคนแรก ถูกผมถีบหน้าจนกระโหลกศีรษะแตกออกไปเหมือนแตงโมไร้เม็ด คนที่สองถูกผมควักไส้จนตายคาที่ คนที่สามถูกผมหักคอจนตายคาที่เช่นกัน และคนสุดท้ายก็เป็นผู้หญิงซะด้วย ขอเป็นดูดเลือดแล้วกัน...
กึก !!!
ผมฉุดร่างกายของเธอมา จากนั้นก็จับเธอดูดเลือดที่คออย่างโหดเหี้ยม เธอพยายามดิ้นขัดขืนผมอยู่หลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ ในที่สุด เธอก็ถูกผมดูดเลือดจนหมดตัว ร่างกายสูบแห้งเหมือนคนแก่... ตาเหลือกออกมาเหมือนคนไร้น้ำในร่างกาย ท้ายสุดก็ล้มลงตายแบบแห้งเหือด
พอออกจากห้องเก็บของแล้วก็เดินกลับเข้ามายังร้านอีกครั้ง มองไปรอบๆ ก็ต้องพบว่าทุกคนในร้านต่างพากันหนีไปหมดแล้ว อีกเดี๋ยวคงเกิดเรื่องใหญ่แน่ๆ.. ไม่สิ ตอนนี้ก็เกิดเรื่องใหญ่แล้วนิ
เมื่อผู้หญิงที่ผมปล่อยให้เธอมีชีวิตรอดเมื่อกี้ พาตำรวจกว่า 20 คนมาจับผม
ตำรวจเหล่านั้น มีปืนมากมาย.. เสียงหวอตำรวจดังมาแต่ไกลเลยนะครับ...
''หยุดอยู่ตรงนั้น ! มอบตัวซะ... เอามือไว้บนหัว !''
''บนหัว !... ฮ่ะ ๆ ฮ๊าๆ ฮ้าๆ ฮ้าๆ หัวแกนะเหรอ ไอ้ตำรวจโสโครก!''
คุณอาจจะมีกระสุนของคุณนะ คุณตำรวจ แต่ผมก็มีกระสุนของผมเช่นกัน หากจะถามว่ากระสุนของผมคืออะไร แน่นอน ผมควักลูกตาสดๆของผมออกมา และขว้างใส่หัวตำรวจอย่างรุนแรง ลูกตาของผมสามารถเจาะกระโหลกของตำรวจได้จนเป็นรูโบ๋.. สมองของเขาถึงกับไหลย้อยลงมา สร้างความตกตะลึงให้แก่คนทั้งหลาย ขนของพวกเขาลุกซู่ทันที
จากนั้นเสียงกระหน่ำยิงปืนก็ได้ส่งเสียงขึ้น ผมได้ถูกยิงหลายร้อยนัด ระดมยิงกันเข้ามาจนร่างกายของผมเป็นรูกระสุนเต็มร่างกายไปหมด ผมล้มลงไปนอนหงายทันทีที่โดนกระสุนเหล่านั้น
พวกตำรวจก็คงคิดว่าผมตายแล้ว จึงได้แห่กันเข้ามาดูศพผม... น่าตลกนะ ที่จริงผมแกล้งตายต่างหาก เมื่อพวกเขาเดินมาใกล้ผม มันก็สะดวกที่จะใช้ฝ่ามือธรรมดาฆ่าพวกคุณยังไงล่ะ
ผมใช้มือขวา สับไปที่ต้นคอของตำรวจคนหนึ่งจนขาดสะบั้น มือของผมมันคมยิ่งกว่ามีดหรือเคี้ยวฉลามสะอีกนะ.. จากนั้นก็หยิบปืนของตำรวจคนนั้นที่ตายไปแล้ว ไล่ยิงตำรวจที่เหลือจนตายเกลี้ยงไปหมด ไม่มีใครซักคนที่รอดไปจากน้ำมือของผมได้แม้แต่คนเดียว จนร้านสะดวกซื้อตอนนี้ทั้งร้าน มันระนองไปด้วยเลือดที่อาบโชก ส่วนผู้หญิงที่ผมไว้ชีวิตในตอนแรก ดูเหมือนจะหนีรอดไปได้
''เฮ้อ... สบายใจจริงๆ''
ผมยืดเส้นยืดสายออกมาโดยการยื่นแขนทั้งสองเหนือศีรษะ บิดร่างกายไปมาอยู่หลายครั้ง เพราะร่างกายตอนนี้มันเมื่อยสุดๆ
หลังจากที่ผมเตรียมอะไรหลายๆอย่างเสร็จแล้ว จึงเดินไปหยิบถุงยางซักถุงมา ไม่สิ ไม่ใช้แค่ถุงเดียว ผมหยิบมา 3 ถุงต่างหาก แต่ละอันมีกลิ่นแตกต่างกัน คงจะได้ประสบการณ์ดีๆล่ะนะ
ใช่ไหมละครับ... คุณครู รายต่อไปคือคุณนั่นแหละ
ไอร่า... ได้ตัดสินใจทรยศเฮลไซท์จนได้ เป็นไปตามแผนที่ผมวางไว้ แถมรากูเอลยังถูกปล่อยตัวอีก ถึงแม้ว่าพวกเราจะจากกันไปแล้ว แต่อีกไม่นานรากูเอลต้องได้รับใช้ผมแน่ ไม่มีทางที่ทวยเทพคิดจะโกหกผมหรอก เรื่องนี้ที่แน่นอน
แต่ว่า... นรกป่านนี้คังวุ่นวายกันน่าดู โดยเฉพาะเธอ เฮลไซท์ ผมอยากจะรู้จริงๆว่าเธอจะทำหน้ายังไง..
''ลูกแก้วสีดำ'' เป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งของปราสาทนรก ไอร่าได้บอกว่า หากมีสิ่งนี้ การคงอยู่ของปีศาจในโลกมนุษย์จะสะดวกสบายยิ่งขึ้น แต่มันก็ไม่ได้มีผลอะไรกับผมและไอร่า เพราะเราต่างมีส่วนมนุษย์ที่ยังหลงเหลือ แต่ที่เราหยิบลูกแก้วสีดำมา ก็เพื่อป้องกันว่า เฮลไซท์จะไม่มายังโลกมนุษย์
หรือจะสรุปง่ายๆ หากเธอมาที่โลกมนุษย์ก็เท่ากับการฆ่าตัวตาย เพราะหากเธอไม่ได้ครอบครองลูกแก้วสีดำ ก็เหมือนปีศาจกากๆธรรมดานั่นแหละ เฮลไซท์... ไพ่ของเธอน่ะ อยู่บนมือผมหมดแล้วนะ
แต่ถึงจะพูดแบบนั้นผมก็ไม่สามารถที่จะฆ่าเฮลไซท์ได้ หากผมฆ่าเธอ ชีวิตของผมก็จะกลายเป็นอมตะชั่วนิรันดิ์ จะไม่มีใครสามารถฆ่าผมได้ และเพราะแบบนั้น ผมจึงได้วางแผนว่า หากเฮลไซท์มาที่โลกใบนี้เมื่อไหร่ ผมจะจับเธอมาทรมาน จากนั้นเมื่อเธอยอมผม เธอก็จะยอมฆ่าผม และผมก็จะได้ตายสมใจอยาก
ตอนนี้ ผมและไอร่า กลับมาจากนรก โดยที่พวกเรา ยืนอยู่ท่ามกลางดาดฟ้าของโรงเรียนบรรยากาศที่นี่มันสดชื่นจริงๆ ยิ่งดวงจันทร์เต็มดวงไร้เมฆพร้อมบรรยากาศหนาวๆ ลมแรงๆ ผมชอบมาก อาจจะเป็นเพราะอยู่ในคุกนานเกือบ 3 เดือนก็เป็นได้ ป่านนี้เพื่อนๆในห้องทุกคนจะเป็นอย่างไรบ้างนะ ลืมผมไปรึยัง ^^
อา.. ผมค่อยๆสูดอากาศพร้อมหลับตาไปพลางๆ
''เอ่อ..อะ แอล ค..คือว่านะ''
ดูท่าไอร่าเธอยังทำตัวไม่ค่อยถูก เพียงเพราะยังไม่ชินกับผมล่ะมั้ง เอาเถอะ พึ่งจะทรยศนายที่รักมาสดๆ ผมก็ไม่คิดว่าเธอจะปรับตัวได้เร็วหรอกนะ ไม่ต้องห่วง เธอหมดประโยชน์เมื่อไหร่ ผมจะฆ่าเธอเอง เพราะงั้นเตรียมตัวหลบให้สบายเถอะนะ ไอร่า...
''ไอร่า... บอกไปแล้วนิ ผมจะปกป้องเธอเอง ^^''
ในขณะที่พวกเรายืนท่ามกลางดาดฟ้าที่ลมหนาวโชยมา วินาทีนั้นผมใช้มือขวาจับไปคางของไอร่าเบาๆ ไม่นานผมก็ยื่นริมฝีปากออกไปจูบเธออย่างไม่ลังเล...
ริมฝีปากของพวกเรากระทบกันในที่สุด ไอร่าเธอถึงกับตาค้างไปเลย แต่ถึงเธอจะตกใจ แต่ผ่านไปไม่กี่วินาทีเธอก็ยินยอมให้ผมจูบ โดยจากที่เธอตาค้าง กลายเป็นค่อยๆหลับตาซะแบบนั้น
เมื่อพวกเราจูบกันได้ไม่นาน ผมจึงได้แยกปากออกมาจากเธอ
และมันก็เหมือนเดิม เธอยังคงทำตัวไม่ถูก พยายามหลบหน้าผมอยู่หลายครั้ง
''ไม่เชื่อใจผมยังงั้นเหรอ ไอร่า...''
ผมแกล้งทำหน้าเศร้าๆออกไป
''ตะ..แต่ว่า จะดีจริงๆเหรอ แอล''
ผมเองก็ไม่ได้พูดอะไรหรอก ได้แต่รุกตัวเข้าไปกอดเธออย่างใกล้ชิด... โอบหลังและหัวของเธอเอาไว้ด้วยความอ่อนโยนจอมปลอม
''ไม่เป็นไรน่า.. บอกไปแล้วนิ ใครที่มาแตะต้องเธอ ผมจะฆ่ามันให้เองนะ''
''พะ..พูดจริงเหรอ แอล ฉันเชื่อใจคุณได้นะ''
หึ...
''ผมไม่ชอบโกหกหรอกนะ โดยเฉพาะคนที่ผมรัก ^^''
_______________________________________________________
ณ บัลลังค์ของเฮลไซท์
เฮลไซท์ถึงกับอาละวาดออกมาทันทีที่ได้ยินเรื่องแอลแหกคุก แต่นั่นมันไม่เท่าไหร่ เธอช็อกยิ่งกว่าคือไอร่าทรยศ แถมรากูเอลยังหนีไปได้อีก !! นี่เป็นเรื่องใหญ่ที่กระทบกับนรกเป็นอย่างมากไม่ผิดแน่ โดยเฉพาะเรื่อง รากูเอล
เธออาละวาด ทุบนู้น ทุบนี่ ทุบมันทั้งหมด ไม่ว่าจะแก้วแหวนเงินทอง ผนัง เก้าอี้บัลลังค์ของตัวเอง
''ทำไมถึงเป็นแบบนี้ !!! แมมม่อน.. เธอพูดจริงสินะ ไอร่าหนีไปแล้วใช่ไหม !!?''
''ค่ะ... ให้ตามฆ่าไอร่ากับรากูเอลดีไหมคะ''
และคนที่รายงานเรื่องนี้ให้เฮลไซท์ทราบ ก็คือแมมม่อนนั่นเอง โดยเธอกำลังทำท่านั่งเคารพเฮลไซท์พร้อมรายงานสถานการณ์ปัจจุบัน
''ไปเอาลูกแก้วดำมาซะ ฉันจะไปล่ามันที่โลกมนุษย์ ตอนนี้เลย!!''
เฮลไซท์ชี้หน้าใส่แมมม่อนให้ทำตามคำสั่ง
แต่ว่าวินาทีนั้น....
''ท่านเฮลไซท์ โปรดรอก่อนค่ะ...''
วินาทีนั้น ''เซร่าฟิม'' ก็ปรากฏตัวขึ้น โดยเธอค่อยๆเดินเข้ามายังห้องบัลลังค์ของเฮลไซ์ช้าๆ เธอคือหนึ่งใน 7 บาป เป็นปาบแห่งความตะกละ ลักษณะของเธอคือ ใส่เสื้อกล้ามตัวเดียวพร้อมเสื้อคลุมสีดำ กางเกงขายาว หน้าตาดูต่างจากบาปคนอื่น หุ่นของเธอเหมือนนางแบบไม่มีผิด
ลักษณะที่โดดเด่นกว่านั้นคือเธอไว้ผมหางม้าที่ยาวจนถึงช่วงเอว แววตาสีน้ำเงิน ริมฝีปากของเธอคือสีธรรมดาของมนุษย์ ซึ่งแตกต่างจากบาปคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด
''เซร่าฟิม.... เธอจะสื่ออะไร คิดจะมาห้ามเราเหรอ ไปเอาลูกแก้วสีดำมาเดี๋ยวนี้''
''ค่ะ ตอนนี้ลูกแก้วได้ถูกขโมยไปแล้วค่ะ...''
เซร่าฟิมบอกกับเฮลไซท์ด้วยน้ำเสียงเคารพ
''ห๊ะ !!''
สรุปตอนนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับโลกนรกที่ไม่สามารถไปโลกมนุษย์ได้ เฮลไซท์ได้รับบทเรียนแล้วว่า หากประมาทแอลเพียงชั่วครู่ ก็ทำให้นรกถึงกับสั่นคลอนไปด้วยความโกลาหนได้
''เซร่าฟิม... ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ถึงจะสร้างลูกแก้วสีดำอีกอันหนึ่งได้..''
เฮลไซท์เหงื่อตกเอามากๆ ท่าทางจะโกรธไม่ใช่น้อย ถึงแม้ตนเองจะพยายามคุมสติและระงับอารมณ์อยู่หลายครั้งก็ตาม
''ค่ะ... เดี๋ยวฉันจะจัดการให้ค่ะ ท่านเฮลไซท์ พักผ่อนให้สบายเถอะค่ะ''
''เข้าใจแล้ว เซร่าฟิม ฝากจัดการด้วยแล้วกัน''
คำพูดของเซร่าฟิม ดูเหมือนว่าจะทำให้เฮลไซท์ใจเย็นและยอมกลับมานั่งบนบัลลงค์ดีๆ
วินาทีที่เซร่าฟิมกำลังจะออกจากห้องบัลลังค์ของเฮลไซท์ ก็ได้ส่งสายตาไปหาแมมม่อน ราวกับว่า มีเรื่องจะคุยด้วย ''ขอให้มาคุยนอกห้องหน่อย'' ทางด้านแมมม่อนก็ยอมแต่โดยดี และบริวารทั้งสองของเฮลไซท์ ก็ได้เดินออกจากห้องบัลลังค์ไปอย่างเงียบๆเพื่อคุยกัน
เมื่อเซร่าฟิมและแมมม่อนออกมาจากห้องบัลลังค์แล้ว จึงได้ปิดประตูและหันมาคุยกันสองต่อสอง ...แต่ดูท่าแมมม่อนจะกดดันมากๆที่ได้คุยกับเซร่าฟิม
ระดับมันต่างกัน...
''แมมม่อน รู้รึเปล่าว่าที่ฉันเรียกตัวเธอมาเพราะเรื่องอะไร !?''
สายตาของเซร่าฟิมเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานด้วยความโกรธ แมมม่อนเธอถึงกับไม่กล้าหือ
''เซร่าฟิม... เจ้าก็รู้นิว่าข้าเกลียดมนุษย์''
แมมม่อนพยายามแก้ตัว ก้มหน้าลงแบบสำนึกผิด....
''เพราะเธอรังเกียจมนุษย์ไงละ ถึงได้ละเลยในการจับตาดู ที่มันหนีไปได้ เพราะความผิดเธอส่วนหนึ่ง เข้าใจเอาไว้ด้วย แมมม่อน!''
''ขะ..เข้าใจแล้ว ทีหลังข้าจะระวังมากกว่านี้''
''เข้าใจไว้ก็ดี พักหลังมานี้ท่านเฮลไซท์โกรธบ่อยเกินไปแล้ว หากเธอทำงานพลาดอีก อย่างหวังว่าจะได้รับการอภัยโทษเลย แต่คราวนี้ฉันจะทำเป็นไม่เห็น...''
เซร่าฟิมสั่งให้แมมม่อนทำตัวดีขึ้น ดูออกเลยว่าเธอเหนือกว่าบาปอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด
''เข้าใจแล้ว...''
______________________________________________________
ทางด้านแอล...
ตอนนี้ผมเองก็เดินกลับบ้านพร้อมกับไอร่า โดยผมใช้มือซ้าย โอบไหล่เธอเอาไว้และเดินไปพร้อมๆกันอย่างใกล้ชิด สนิทสนม.. ท่าทางเธอจะยอมผมทุกอย่างจริงๆนะ ไอร่า ตราบเท่าทีเธอมีประโยชน์ ผมจะปกป้องเธอตามสัญญาแน่อน ถ้าหมดประโยชน์ก็เตรียมตัวตายได้เลย
ในระหว่างที่พวกเราเดินกลับบ้านนั่นเอง ผมก็นึกอะไรดีๆออก
''จริงสิไอร่า... ผมมีเรื่องต้องทำ เธอมีพลังอย่างพวกสะกดจิตหรือเปล่าล่ะ ?''
ผมถามกลับไปพร้อมมองหน้าเธอ
''ถ้าใช้กับสัตว์หรือมนุษย์ ฉันพอทำได้อยู่นะ''
ไอร่าตอบกลับมาพร้อมมองหน้าผม...
''ถ้างั้น ไปนอนรอที่บ้านผมก่อนแล้วกันนะ เธอรู้ทางใช่ไหมล่ะ ส่วนผมมีเรื่องต้องทำ''
ผมบอกกับไอร่าไปแบบนั้น ดูท่านางจะติดผมจริงๆ แววตามันบ่งบอกว่า อย่าจากฉันไปนะ
ก็ใช่สิ หากผมทิ้งเธอเมื่อไหร่ เธอก็จะกลายเป็นหมาหัวเน่า ไม่มีที่อยู่ อนาคต หรืออะไรทั้งนั้น แถมยังถูกเฮลไซท์ตามล่าอีก ชีวิตของเธอมันขึ้นอยู่กับผมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะทิ้งจะขว้างยังไงก็ได้ เพราะงั้นจะติดผมเหมือนสามี ก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ
''ไม่เอาน่าไอร่า ผมไปแปบเดียว เดี๋ยวก็กลับ เธอไปรออยู่ที่บ้านเถอะ แล้วก็สะกดจิตพ่อแม่ผมด้วยนะ เกรงว่าพวกท่านจะทำอะไรแผงๆ ยังไงถ้าจะให้ดี ลบความทรงจำเกี่ยวกับผมให้หน่อยแล้วกัน''
ไอร่าเงียบ... ไม่นานเธอก็ก้มลงแบบเศร้าๆ
''เข้าใจแล้ว แอล ฉันจะทำตามคุณทุกอย่าง''
''อืม.. แบบนั้นแหละดี อ้อ.. แล้วก็น้องชายผม อย่าไปทำอะไรเขานะครับ''
''เข้าใจแล้ว ตะ..แต่ว่านะ แอล เธอจะล้างแค้นยังงั้นเหรอ.. ให้ฉันไปด้วยเถอะนะ !''
อืม จะว่าไปเธอเองก็รู้เรื่องของผมซะเยอะเลยนี่นา ท่าทางวันที่ผมฆ่าไอจอร์จเธอก็น่าแอบดูอยู่ด้วย ไม่สิไอร่า เธอคงจะตามสืบประวัติของผมมาก่อนหน้านี้แล้วสิท่า
แต่ว่า ผมเองก็ไม่มีรสนิยมให้ผู้หญิงมาฆ่าล้างแค้นแทนตัวเองหรอก ผมจึงค่อยๆเอาปากไปแนบหูกับไอร่าช้าๆ และพูดขึ้นมาเบาๆ
''ไอร่า.. ผู้หญิงที่สวยงามน่ะ ไม่เหมาะกับเลือดหรอกนะ ^^''
___________________________________________________________
และผมกับไอร่า ก็จากกันตรงที่สวนสารธารณะ เอาล่ะ มาเริ่มการล้างแค้นกันดีกว่า เหล่ามิตรสหายของผม เอาเป็นใครดี เพื่อน... หรือว่าครูอาจารย์ละ ?
ในใจยังพลางคิดไปมา เมื่อผมเดินไปเด็ดดอกไม้สีชมพูข้างทางมา จากนั้นก็เริ่มเด็ดดอกของมันออกทีละใบ เพื่อเสี่ยงทายโชคชะตาว่าผมควรจะฆ่าใครก่อนดี..
''เพื่อน''
''ครู''
''เพื่อน''
''ครู''
''เพื่อน''
''ครู''
''เพื่อน''
''ครู.... ''
โอเค งั้นวันนี้คือวันตายของอาจารย์ที่ปรึกษาสุดสวยสินะ จะว่าไป หล่อนเองก็ยังไม่มีสามีนี่นา งั้นขอละกันน่า ความสดใหม่ของเธอน่ะ จะย่ำยีไม่ให้เหลือเลย
และด้วยเหตุนั้น ก็ว่าจะไปแวะซื้อน้ำอัดลมมาดื่มอยู่พอดี ผมเองก็ไม่รู้หรอกว่าแวมไพร์จะสามารถดื่มน้ำอัดลมได้ไหม แต่อยากดื่มสุดๆ เพราะตอนนี้คอแห้งมาก รู้งี้ขอไอร่าดูดเลือดตอนกลับบ้านซะก็ดีหรอก ไม่น่าเลยเรา...
ว่าแล้วก็เริ่มเดินออกไปยังร้านสะดวกซื้อใกล้ๆกับสวนสารธารณะ โดยที่นั่นมันเป็นร้านสะดวกซื้อที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง เป็นร้านที่เปิดใหม่ก่อนที่ผมจะไปนรก ไม่สิ ไม่ได้เป็นร้านเปิดใหม่ มันคือร้านที่ปรับปรุงใหม่ต่างหาก
ผมค่อยๆเดินไปยังร้านสะดวกซื้อแห่งนั้นอย่างช้าๆ
ผมได้เดินผ่านผู้คนหลายคนที่มาแวะยังร้านนี้
พวกเขาเหล่านั้นที่เดินผ่านตัวผม ต่างวิ่งหนีกันไปหมด
พอจะเดาได้ว่าทำไมถึงหนี
นั่นก็เพราะ เหตุการณ์ฆาตรกรรมจอร์จ มันมีกล้องวงจรปิดอยู่ ตัวผมเมื่อกลายเดือนที่แล้วคงออกข่าว แม้แต่ตอนนี้ก็อาจจะยังออกข่าวหน้าหนึ่งก็เป็นได้ ฆาตกรเลือดเย็นที่โด่งดังไปทั่วและตำรวจยังตามจับตัวไม่ได้ แต่เรื่องนั้นก็ช่างมันก่อน ตอนนี้หิวน้ำสุดๆ
ประตูร้านสะดวกซื้อเป็นแบบเปิดอัตโนมัติ เพียงผมเดินเข้าไปมันก็เปิดอ้าออกมา
แต่ว่าตอนที่ผมเข้าไปยังร้าน พนักงานต่างพากันวิ่งหนีซะแบบนั้น
โดยพวกเขาทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นวัยหนุ่มหรือวัยสาว แต่งตัวด้วยชุดพนักงานสีเขียว ก็ต้องผวาไร้ทางหนี เมื่อผมเอาร่างกายมาปิดประตูทางออกไว้ ทำให้พวกเขา หนีไปไหนออกจากร้านไม่ได้
''ย่ะ.. อย่าทำอะไรพวกเราเลย ขอร้องละ !!''
ใครจะให้พวกแกหนีฟ่ะ ! ถ้าพวกแกหนี ก็จะไปแจ้งตำรวจมาจับผมล่ะสิ เรื่องแบบนั้นใครมันจะไปยอม ขอโทษทีนะ พวกแกทั้งร้านสะดวกซื้อต้องตายตรงนี้ แต่ว่าก่อนจะฆ่าพวกมัน ก็อยากจะถามอะไรหน่อย
''พวกคุณ.. กลัวผมขนาดนั้นเลยเหรอ ดูท่าผมจะเป็นคนดังมากๆเลยสินะ ^^''
แน่นอนว่าตอนนี้บอกได้คำเดียว ผมกลายเป็นไอดอลฆาตกรไปแล้ว ดังกว่าที่คิดไว้จริงๆนะ คนทั้งประเทศอาจจะรู้จักผมก็เป็นได้ หึๆ.. การที่ถูกคนหลายคนรู้จัก มันตื่นเต้นดีออกนะ
จังหวะนั้น...
จังหวะที่ผมยืนปิดประตูหน้าร้านเพื่อไม่ให้พวกพนักงานหรือลูกค้าในร้านหนี พวกมันก็วิ่งเข้ามารุมทำร้ายผม พวกมันอาจจะคิดว่าผมคงเป็นเหมือนเด็กเกรียนแก่นแตกคนหนึ่ง แต่ผิดแล้ว เพราะไม่ว่ายังไงพวกแกก็ตายอยู่ดี.... ร่างกายผมอาจจะบอบบางเหมือนเด็กมัธยมทั่วไป... แต่ว่า
เฉือด!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เพียงผมใช้มือข้างขวาข้างเดียว สับไปที่หัวของชายคนแรกที่มาทำร้ายผม หัวมันก็แหลกละเอียดได้เลย สมองถึงกับแตกกระจายออกมาทั้งร้าน เลือดกระฉูดออกมาเหมือนปืนฉีดน้ำแตก กระจกใสๆของร้านสะดวกซื้อกลายเป็นคราบเลือดสมองของมัน
เป็นการเชือดไก่ 1 ตัวให้ลิงดู
ในตอนที่ผมฆ่าชายพนักงานคนหนึ่ง พวกมันก็ร้องโวยวายกันทั่วร้าน ถึงจะมีบางคนไปแอบหลังร้านเพื่อโทรเรียกตำรวจ แต่อย่าคิดนะว่าพวกตำรวจโง่ๆมันจะมาทันเวลา
''เอ้าๆ เงียบหน่อย จะกรี๊ดกร๊าดกันไปทำไม ผมฆ่าทุกคนอยู่แล้ว ไม่เจ็บมากหรอกน่า ความตายน่ะ มันดีจะตาย ไม่รู้หรือไง ?''
ผมเดินไปอย่างช้าๆ ใช้มือทั้งสองหักคอพนักงานหญิงคนหนึ่งจนหัวบิด 180 องศา ตายโดยตาไม่หลับ จากนั้นก็เริ่มด้วยการฆ่าชายคนต่อไปโดยการตบไปที่ปากครั้งหนึ่ง จนปากทั้งปากแตกระเอียดไปด้วยเลือด ล้มลงนอนดิ้นกระวนกระวายจนสิ้นใจ
พวกมันวิ่งหนีกันหัวซุกหัวซุน บางคนหนีไปประตูหลังร้านและล็อกกลอน บางคนวิ่งไปยังชั้น 2 ของร้านเพื่อกระโดดหน้าต่างหนีก็มี แต่ช่างเถอะ ผมไม่อยากเสียเวลามาฆ่าพวกสวะพวกนี้หรอกนะ
ผมน่ะแค่ต้องการน้ำอัดลมเฉยๆ ผมจึงเดินไปยังตู้เย็นของร้านสะดวกซื้อ พร้อมหยิบกระป๋องโคล่ามาหนึ่งกระป๋อง เปิดมันออกมาพร้อมกระดกด้วยความชื่นใจ และก็เป็นอย่างที่คิด เมื่อโคล่ามันหวานเย็นถูกปากเหลือเกิน
อ๊ะ.. ดูเหมือนว่าในร้านจะมีเด็กน้อยวัย 6 ขวบอยู่ด้วยนี่นา แถมยังมีเด็กสาววัย 15-16 ปี หรือพวกนักเรียนอยู่ด้วย พวกเขาไม่สามารถหนีไปยังหลังร้านได้เลย เพราะว่ามีคนไปล็อกประตู หรือจะพูดง่ายๆว่ามีพวกหัวไวหนีไปล็อกประตูหลังร้านก่อน พวกที่เหลือเลยไม่สามารถเข้าไปแอบในร้านได้
ดูสิ พวกเด็กน้อยกำลังผวาต่อผม ไปแอบหลังตู้ไอติมบ้าง แผงลอยขายขนมบ้าง ใต้โต๊ะเช็คเงินบ้าง.. จะหนีไปทำไมนักหนาล่ะเนี่ย ผมไม่ได้ใจดำถึงขนาดนั้นซะหน่อย
บอกตรงๆว่าโครตเกลียดพวกที่เอาตัวรอดโดยทิ้งคนอื่น...
ด้วยเหตุนั้นผมจึงเดินไปยังประตูหลังร้าน แล้วพังมันด้วยมือเปล่า
เมื่อผมพังประตูนั่นไปแล้วก็พบว่า มันไม่ใช่ประตูหลังร้านอย่างที่คิด มันคือห้องเก็บสินค้าของร้านสะดวกซื้อต่างหาก แถมห้องก็แคบ แออัดไปด้วยกล่องสินค้าสีน้ำตาล จนไม่มีที่แอบอีก
พวกมันประมาณ 5 คน ถอยอย่างรวดเร็วไปจนสุดมุมห้อง และ 5 คน ล้วนเป็นพนักงานของร้านนี้ทั้งนั้น มีชาย 3 คน และหญิงสาวอีก 2 คน ตะโกนร้องว่าอย่านะ ดูสิ ผู้หญิงคนนั้นฉี่ราดออกมาแล้ว
บางคนก็ผลักผู้หญิงที่ฉี่แตกออกมาหาผม เพื่อให้เธอตายก่อน หรือจะเรียกง่ายๆว่า เธอไปให้มันฆ่าก่อนสิ ฉันไม่อยากตายก่อนนะ ทั้ง 4 คน รุมกันผลักผู้หญิงคนนั้นให้ผมฆ่าเธอก่อน
เสียใจด้วยนะ วันนี้ผมอารมณ์ดี จะปล่อยให้รอดไปซักคนก็ได้
''อยากหนีก็หนีไปสิ... งั้นจะฆ่า 4 คนนี้แทนเธอแล้วกัน ไปฉี่ข้างนอกแล้วกันนะ สาวน้อย ^^''
ผมกล่าวให้เธอหนีออกไปด้วยตัวคนเดียว และเธอก็วิ่งออกประตูไปทันที ในขณะที่ห้องเก็บของตอนนี้ยังมีมนุษย์ที่ขี้ขลาดอยู่ทั้งหมด 4 คน
''ใครจะตายเป็นคนต่อไป.... ''
เป็นไปอย่างที่คิด เมื่อมันเสนอตัวออกมาให้ผมฆ่าทิ้ง มันคงจะคิดว่าผมจะปล่อยมันเพราะความกล้าหาญละมั้ง แต่ผิดไปหน่อยแล้ว แกไม่ได้กล้าหาญ แกอยากให้ผมเห็นใจและปล่อยตัวเองไปเหมือนผู้หญิงฉี่แตกคนแรก
ผมจึงได้ฉุนและลงมือฆ่าพวกมันทั้ง 4 คนแบบไร้ปราณี เริ่มด้วยคนแรก ถูกผมถีบหน้าจนกระโหลกศีรษะแตกออกไปเหมือนแตงโมไร้เม็ด คนที่สองถูกผมควักไส้จนตายคาที่ คนที่สามถูกผมหักคอจนตายคาที่เช่นกัน และคนสุดท้ายก็เป็นผู้หญิงซะด้วย ขอเป็นดูดเลือดแล้วกัน...
กึก !!!
ผมฉุดร่างกายของเธอมา จากนั้นก็จับเธอดูดเลือดที่คออย่างโหดเหี้ยม เธอพยายามดิ้นขัดขืนผมอยู่หลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ ในที่สุด เธอก็ถูกผมดูดเลือดจนหมดตัว ร่างกายสูบแห้งเหมือนคนแก่... ตาเหลือกออกมาเหมือนคนไร้น้ำในร่างกาย ท้ายสุดก็ล้มลงตายแบบแห้งเหือด
พอออกจากห้องเก็บของแล้วก็เดินกลับเข้ามายังร้านอีกครั้ง มองไปรอบๆ ก็ต้องพบว่าทุกคนในร้านต่างพากันหนีไปหมดแล้ว อีกเดี๋ยวคงเกิดเรื่องใหญ่แน่ๆ.. ไม่สิ ตอนนี้ก็เกิดเรื่องใหญ่แล้วนิ
เมื่อผู้หญิงที่ผมปล่อยให้เธอมีชีวิตรอดเมื่อกี้ พาตำรวจกว่า 20 คนมาจับผม
ตำรวจเหล่านั้น มีปืนมากมาย.. เสียงหวอตำรวจดังมาแต่ไกลเลยนะครับ...
''หยุดอยู่ตรงนั้น ! มอบตัวซะ... เอามือไว้บนหัว !''
''บนหัว !... ฮ่ะ ๆ ฮ๊าๆ ฮ้าๆ ฮ้าๆ หัวแกนะเหรอ ไอ้ตำรวจโสโครก!''
คุณอาจจะมีกระสุนของคุณนะ คุณตำรวจ แต่ผมก็มีกระสุนของผมเช่นกัน หากจะถามว่ากระสุนของผมคืออะไร แน่นอน ผมควักลูกตาสดๆของผมออกมา และขว้างใส่หัวตำรวจอย่างรุนแรง ลูกตาของผมสามารถเจาะกระโหลกของตำรวจได้จนเป็นรูโบ๋.. สมองของเขาถึงกับไหลย้อยลงมา สร้างความตกตะลึงให้แก่คนทั้งหลาย ขนของพวกเขาลุกซู่ทันที
จากนั้นเสียงกระหน่ำยิงปืนก็ได้ส่งเสียงขึ้น ผมได้ถูกยิงหลายร้อยนัด ระดมยิงกันเข้ามาจนร่างกายของผมเป็นรูกระสุนเต็มร่างกายไปหมด ผมล้มลงไปนอนหงายทันทีที่โดนกระสุนเหล่านั้น
พวกตำรวจก็คงคิดว่าผมตายแล้ว จึงได้แห่กันเข้ามาดูศพผม... น่าตลกนะ ที่จริงผมแกล้งตายต่างหาก เมื่อพวกเขาเดินมาใกล้ผม มันก็สะดวกที่จะใช้ฝ่ามือธรรมดาฆ่าพวกคุณยังไงล่ะ
ผมใช้มือขวา สับไปที่ต้นคอของตำรวจคนหนึ่งจนขาดสะบั้น มือของผมมันคมยิ่งกว่ามีดหรือเคี้ยวฉลามสะอีกนะ.. จากนั้นก็หยิบปืนของตำรวจคนนั้นที่ตายไปแล้ว ไล่ยิงตำรวจที่เหลือจนตายเกลี้ยงไปหมด ไม่มีใครซักคนที่รอดไปจากน้ำมือของผมได้แม้แต่คนเดียว จนร้านสะดวกซื้อตอนนี้ทั้งร้าน มันระนองไปด้วยเลือดที่อาบโชก ส่วนผู้หญิงที่ผมไว้ชีวิตในตอนแรก ดูเหมือนจะหนีรอดไปได้
''เฮ้อ... สบายใจจริงๆ''
ผมยืดเส้นยืดสายออกมาโดยการยื่นแขนทั้งสองเหนือศีรษะ บิดร่างกายไปมาอยู่หลายครั้ง เพราะร่างกายตอนนี้มันเมื่อยสุดๆ
หลังจากที่ผมเตรียมอะไรหลายๆอย่างเสร็จแล้ว จึงเดินไปหยิบถุงยางซักถุงมา ไม่สิ ไม่ใช้แค่ถุงเดียว ผมหยิบมา 3 ถุงต่างหาก แต่ละอันมีกลิ่นแตกต่างกัน คงจะได้ประสบการณ์ดีๆล่ะนะ
ใช่ไหมละครับ... คุณครู รายต่อไปคือคุณนั่นแหละ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ