จำเลยสวาท
เขียนโดย sanny17
วันที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 15.47 น.
แก้ไขเมื่อ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2558 15.51 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) EP2 ป๊าบอกให้ง้อ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเสียงเพลงพิณดังลั่นอยู่คนเดียวในบ้านหลังขนาดกลาง ชายหนุ่มเม้มปากแน่นรอให้หล่อนพูดจบ ทนฟังที่เจ้าหล่อนบอกขอยกเลิกการหมั้น พอเธอพูดจบเขาก็รีบพูดต่อ
“พิสาเขาอยู่ข้างบ้าน หลอดไฟพัง เขาให้ไปช่วยเปลี่ยน” เสียงเข้มฟังดูดุเพราะเขาไม่พอใจที่หล่อนพูดเมื่อสักครู่ ประโยคคำอธิบายเดียวที่ทำให้หญิงสาวที่หลับหูหลับตาต่อว่าเขาชะงักกึก เมื่อกี้หล่อนเห็นยายพิสาอะไรนั่นถือหลอดไฟเก่าๆไปสองอัน หรือว่ามันจริงอย่างที่เขาพูด...
แถมยายพิสายังทำสีหน้าตกใจเสียโอเวอร์ตอนได้ยินเสียงหล่อนโวยวายด่ากฤษตฤณ
เพลงพิณนิ่งเงียบไปเขาก็รีบพูดต่อเพราะเห็นว่าหล่อนมีท่าทีคล้อยตาม
"พี่บริสุทธิ์ใจ ไม่เคยลับหลังอะไรกับผิง จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็พิจารณาจากนิสัยพี่แล้วกัน" ชายหนุ่มใช้ความรู้สึกใจใจกับหล่อน ให้หญิงสาวดูที่ผ่านมาว่าเขาเคยทำเจ้าชู้ไก่แจ้หรือเปล่า หากแต่ทว่าคำพูดและแววตาที่สื่อมาอย่างจริงจังต่างหากที่ทำใหญ่หญิงสาวรู้สึกได้ว่าเขาพูดเรื่องจริง ที่ว่าไม่ได้มีอะไรนอกจากเปลี่ยนหลอดไฟ
"ปล่อยผิงได้แล้ว" เขาล็อคมือหล่อนรวมกันแน่นจนเหงื่อออกตามผิวเนื้อที่แนบติดกัน แถมท่าคุยที่เป็นอยู่ก็พิสดารจนหล่อนนึกตะขิดตะขวงใจ ถึงแม้จะเลยขั้นนั้นไปแล้วแต่มันก็อดรู้สึกไม่ได้อยู่ดี
"เข้าใจที่พูดเมื่อกี้หรือเปล่าล่ะ" กฤษตฤณถามหล่อนด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ ต่างจากอารมณ์ในใจหญิงสาวเหลือเกินที่ไม่เคยเยือกเย็นได้เลยสักครั้งเวลาเจอเรื่องอะไรที่ชวนความดันขึ้นเช่นนี้ มีเพียงแววตาสงบของเขาเท่านั้นแหละที่จะเอามันลง
"ห้าสิบ ห้าสิบ" ตามนิสัยของเพลงพิณ หล่อนไม่ยอมเสียฟอร์มใดๆเด็ดขาด แล้วไอ้ที่โวยวายไปเมื่อกี้ล่ะ ใครจะรับผิดชอบ
"ถ้าอย่างนั้นไม่ปล่อย" ชายหนุ่มตั้งใจจะอธิบายยาวกว่านั้นให้หล่อนเข้าใจ แต่หากคนอึดอัดกับท่านอนที่โดนล็อคแขนเอาไว้เช่นนี้นั้นไม่มีความอดทนเลยสักนิด
"เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว"
"เข้าใจว่า..." กฤษตฤณไม่ยอมปล่อยมือ แล้วนั่นก็ทำให้คนใจร้อนโมโหจนต้องแว้ดอีกที
" ก็ปล่อยก่อนสิ ! "หญิงสาวตวาดเขาเต็มเสียง กฤษตฤณอยู่ด้านบนจะไปเข้าใจได้อย่างไรว่าโซฟาพนักสูงแบบนี้มันทำให้ร้อนและนอนไม่สะดวกในท่าขัดทางเฉียง แต่การขึ้นเสียงของเจ้าหล่อนก็ทำให้เขาไม่พอใจเช่นกัน
"หยุดใช้อารมณ์กับพี่ แล้วพูดดีๆ" เพลงพิณจ้องตาเขาเขม็ง กฤษตฤณกล้าดีอย่างไรมาสั่งหล่อน แต่ถ้าหากไม่ใจเย็นและทำตามที่เขาสั่งก็อย่าหวังว่าเขาจะปล่อย ถึงเขาจะใจดีอยู่เสมอก็จริงแต่ในเวลาที่หญิงสาววีนและคุมอารมณ์ไม่อยู่เช่นนี้ ชายหนุ่มก็มักจะมีวิธีจัดการให้หล่อนยอมจนได้ เหมือนตอนนี้ก็เช่นกัน เพลงพิณพยายามสูดหายใจเข้าลึกจนเต็มปอด ตั้งสติ เรียกสมาธิและคุมอารมณ์ให้คงที่ที่สุด
“พี่โก้ ปล่อยผิงก่อนค่ะ ผิงเจ็บ และมันร้อนด้วย" กฤษตฤณกระตุกแรงมือทันทีที่หล่อนบอกว่าเจ็บ เขาลงน้ำหนักมือตามความเคยชินเลยอาจรัดแน่นจนเกินไป พอหญิงสาวพูดจบประโยคเขาถึงได้ปล่อยมือและนั่งลงเคียงข้างหล่อนรอให้หญิงสาวงัดตัวที่ถูกยันไว้กับโซฟาเมื่อสักครู่ลุกขึ้นมา
"ว้าย!!" เพลงพิณนั่งได้ไม่ถึงสองวินาทีหล่อนก็คิดมาได้ว่าไหนๆก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ก็ตั้งใจจะไปเก็บรถเข้ามาด้านใน หากแต่พอขยับลุกขึ้นก้าวขาได้ข้างเดียวก็ถูกดึงจากด้านหลังจนเสียหลักลงไปนั่งอยู่บนตักชายหนุ่มเต็มๆ หรือเรียกให้ถูก เขาตั้งใจดึงหล่อนให้ลงไปในท่านั้นแล้วก็รีบรัดแขนรัดเอวหล่อนไว้ต่างหาก
"ไหนบอกเข้าใจแล้ว" ชายหนุ่มพูดเมื่อเห็นเจ้าหล่อนลุกขึ้นหนีแต่เขาก็อาศัยความเร็วกระชากหล่อนกลับมาได้ทัน
"ก็เข้าใจแล้วค่ะ" เพลงพิณดันวงแขนออกเล็กน้อยเตือนให้เขารู้ว่ารัดแน่นเกินไป แต่เขาก็แค่ขยายออกเพียงนิดเดียว
"เข้าใจแล้วจะไปไหนล่ะ"
"ผิงจะไปเอารถเข้ามาข้างใน ...เสร็จแล้วจะมาฟังคำแก้ตัวต่อ ...ให้จบ" เพลงพิณแหงนหน้าขึ้นไปขู่เขา หากแต่กฤษตฤณก็ยังไม่ยอมปล่อยหล่อนอยูดี
"เดี๋ยวพี่ไปเก็บเอง" ชายหนุ่มอาสาทำแทน
"อย่างนั้นก็ไปสิคะ"
"แต่จะเล่าเมื่อกี้ให้ฟังก่อน จะได้เลิกดึงหน้าใส่พี่สักที" หญิงสาวออกแรงกระแทกหลังตัวเองเข้ากับแผ่นอกที่รัดหล่อนแน่น ใครใช้ให้ทำให้เห็นล่ะ ถึงจะพยายามเข้าใจมันก็โมโหอยู่ดี
"บ้านเขาอยู่ข้างบ้านพี่นี่เอง" กฤษตฤณอธิบายพร้อมขยับแขนที่รวบแขนหญิงสาวเอาไว้ทั้งสองข้างออก แต่กลับไปรวบกอดที่เอวบางกลมแทน เพลงพิณก็พยักหน้าเข้าใจทั้งยังประกบแขนทับแขนเขาเอาไว้อีกทีอย่างเคยชิน
"อ่าฮะ"
"เขาอยู่คนเดียว พ่อแม่ไปอยู่กรุงเทพ เป็นครูโรงเรียนเอกชนอีกอำเภอนึง"
"อ่าฮะ"
"หลอดไฟห้องนอนเขาเสีย ช่างของโครงการไม่อยู่ ข้างบ้านอีกฝั่งเป็นอาม่าแก่ๆกับหลาน เขาเลยตามให้พี่ช่วย" แต่เพียงประโยคนี้ที่ทำให้หล่อนหันขวับไปมองคนที่กอดเอวตนอยู่ด้านหลัง
"เดี๋ยวนะ ห้องนอนเลยหรือ!"
"อ่าฮะ" กฤษตฤณหพยักหน้าลอกเลียนคำตอบหล่อนเมื่อครู่ แต่เพลงพิณไม่มีอารมณ์จะเถียงเขา เมื่อกี้ก็ว่าจะเข้าใจอยู่แล้ว
"อ่าฮะอะไร! พี่โก้ไปห้องนอนผู้หญิง!" ไหนบอกว่าทั้งชีวิตนอกจากห้องแม่ก็ห้องนอนหล่อนไงที่เคยเข้า นี่เขาสร้างสถิติเพิ่มด้วยการเข้าห้องนอนผู้หญิงข้างบ้านหรือ
"พี่ไปเปลี่ยนหลอดไฟ" กฤษตฤณแก้เมื่อคราวนี้คนตรงหน้าเงยหน้ามามองเขาด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนจากโกรธแบบเมื่อครู่เป็นรู้สึกไม่ชอบใจ ทันทีที่ได้ยินว่าเขาเข้าห้องนอนผู้หญิงอีกคน เจ้าหล่อนก็มีอาการลมออกหูทันที แบบนี้ทำให้เขาอารมณ์ดีกว่าตอนแรกตั้งเยอะ
"มีคนในห้องนอนกี่คน"
"2 สิ"
"แล้วยายนั่นเข้าไปด้วยทำไม เข้าห้องนอนกับผู้ชายสองคน คนอื่นรู้เข้าผิงจะอายแค่ไหน แฟนตัวเองขึ้นบ้าน ไปซ่อมบัลลาตให้สาวสวยที่อยู่ข้างๆ เนี่ยนะ พี่โก้!" เพลงพิณไม่พอใจมากจริงๆที่สถานการณ์มันเป็นเช่นนั้นแล้วหล่อนก็ควบคุมมันไม่ได้ จึงต้องมาต่อว่าเขาที่ปล่อยให้มันเป็นแบบนั้น
กฤษตฤณอยากจะยิ้มกับคำว่าแฟนและอาการหวงเกินหน้าของเจ้าหล่อน หากแต่ยิ้มตอนนี้มีหวังเขาคงโดนข่วน
"เขาเป็นเจ้าของบ้านไม่เข้าไปด้วยพี่จะรู้หรือว่าเสียตรงไหน แล้วอีกอย่างเจ้าของบ้านก็ต้องตามดูช่างอยู่แล้ว ปกติ" ชายหนุ่มเห็นอาการหัวเสียของหล่อนก็ชอบใจ ไม่ยอมบอกเหตุผลดีๆออกไปและขอโทษหล่อนที่ทำให้หงุดหงิด เพราะเขาชอบเห็นหญิงสาวในโหมดนี้มากกว่าโหมดนิสัยด่าพ่อล่อแม่เมื่อสักครู่
"แล้วทำไมไม่ตามคนอื่นไปด้วย เข้าไปสองคนมันดูไม่ดี ทำไมต้องให้บอกด้วยล่ะ แล้วถ้ายายกระสานั่นทำอะไรพี่โก้จะช่วยตัวเองยังไง!" เพลงพิณยังไม่วายเอ็ดเขา หญิงสาวคิดว่าตนเองออกเหตุผลที่จริงจังสุดๆแล้วแต่ทำไมมันฟังดูเหมือนหล่อนออกอาการหวงเขาจนเกินเหตุก็ไม่รู้ ไม่ใช่หรอก หล่อนแค่พูดไปตามความจริง ถึงเป็นผู้ชายก็ควรจะดูแลตัวเอง แต่ความโมโหคงทำให้หญิงสาวลืมอะไรบางอย่างไป
"เขาชื่อพิสา แล้วพี่ก็เป็นตำรวจ" จะมีใครทำอะไรเขาได้ก็คงเป็นเล็บคมๆและหมัดเล็กแต่แน่นของเจ้าหล่อนมากกว่า
"โอ๊ย!! อะไรก็เถียงๆ ผิงเบื่อพูดแล้ว อุตส่าห์เป็นห่วงเถอะ! ทีหลังก็ตามสบายนะคะ พ่อตำรวจใหญ่" เพลงพิณหายใจฟึดฟัดไม่พอใจเขาที่เถียงแทนสถานการณ์ที่หล่อนไม่ชอบนั่น
"ไหนบอกเข้าใจแล้ว อารมณ์เสียทำไม"กฤษตฤณรู้สึกถึงการหอบหายใจแรงของเจ้าหล่อนเพราะแขนที่รัดหล่อนเอาไว้
"อย่าไปสนใจเลยค่ะ ผิงบ่นไปอย่างนั้นแหละ ปากว่าง" ถ้าเขาไม่สนใจในสิ่งที่หล่อนบอกและยังเอาแต่เถียง เพลงพิณก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีก ไอ้เข้าใจก็เข้าใจแต่มันอดหวงไม่ได้นี่นะ ถ้าคนอื่นรู้เข้าแล้วเอาไปพูดล่ะ
"โอ้... ดุตลอด" กฤษตฤณหัวเราะเพราะชินกับนิสัยการพูดมะนาวไม่มีน้ำของเจ้าหล่อน พูดจาทีกระแทกใจคนฟังสุดๆ
"พี่ขอโทษ คราวหลังจะไม่ไปเปลี่ยนหลอดไฟให้ใครอีก"กฤษตฤณเห็นท่าทางไม่พอใจจริงๆเข้าก็เอาหน้าเข้าถูไถกับไหล่เล็กๆของหล่อนอย่างง้องอน
"ตามสบายเลยค่ะ เป็นคนของประชาชนนี่คะ ทำไปเถอะ" ดูคำตอบของเขาไม่มีเหตุผลใดนอกจากต้องการให้หล่อนสบายใจ หากแต่เขาพูดเพราะต้องการจะง้อ ถึงหล่อนจะเลิกไม่พอใจ แต่ถ้าเขายังไม่เข้าใจจุดประสงค์มันก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี
"โถ่... อย่าพูดงี้สิ ตอนทำงานพี่ก็เป็นคนของประชาชน แต่เลิกงานพี่เป็นคนของขนมผิงนะ อย่าโมโหเลย คราวหลังพี่จะระวังให้มากกว่านี้ ไม่เข้าห้องใครแล้วครับ และไม่รับเปลี่ยนหลอดไฟด้วยเอ้า ! " เพลงพิณยิ้มอย่างไม่ให้เข้าเห็นเพราะหล่อนหันหน้าออก ไม่รู้ว่าความขุ่นมัวเมื่อสักครู่มันหายไปเพราะคำพูดไหน ระหว่างที่เขาจะไม่ทำอีก หรือ เขาเป็นของหล่อน หรือไม่ก็อาจจะเป็นทั้งสอง รู้แต่ว่านาทีนี้ไม่มีความโกรธ โมโหเหลืออยู่อีกแล้ว มีแต่ความชอบอกชอบใจ แต่ก็ยังไม่วายวางฟอร์มใส่คนที่นัวเนียอยู่กับไหล่หล่อน
"แล้วที่เห็นกอดกันเมื่อกี้ล่ะ"
"หือ... นั่นคุณพิสาเขาใส่รองเท้าไม่ถนัดเพราะมือถือหลอดไฟแตกอยู่ เลยเสียหลักพี่อยู่ข้างหลังเลยรับไว้พอดี" กฤษตฤณอธิบายสถานการณ์เมื่อครู่ และคราวนี้หญิงสาวก็เข้าใจดี ไม่มีโมโหอะไรกับเขาอีก นอกจากบ่นอีกเล็กน้อยก่อนจะวางแขนที่ปลดลงไปเพราะโมโหกลับมาประกบกับเขาไว้อย่างเดิม
"อ๋อ... แล้วไป" เพลงพิณพยักหน้าเข้าใจ
"แล้ว... ผิงมาที่นี่ทำไมล่ะ" ได้เวลาคำถามของเขาบ้างแล้ว ยอมรับว่าตกใจไม่น้อยที่เห็นหลังหญิงสาวไวๆอยู่ตรงหน้าประตูเขานึกไม่ถึงว่าคราวนี้เพลงพิณจะยอมง้อเขาก่อนปกติเจ้าหล่อนทิฐิสูงจนคอตั้ง หรือไม่แน่หล่อนก็อาจมีธุระอย่างอื่นถึงได้มา เขาเลยต้องถามกันตาย
"ก็ผิงมาเซอร์ไพรส์พี่โก้น่ะสิ ไม่คิดว่าจะโดนเซอร์ไพรส์ซะเอง" คำตอบของหล่อนทำให้เขายิ้มพอใจ
"เรื่องเข้าใจผิดน่า แล้วของที่ทิ้งไว้หน้าบ้านล่ะว่าไง" เขาคงหมายถึงอาหารเย็นมากมายที่ล้วนมีของโปรดของหล่อนและเขาที่เลือกโยนทิ้งเอาไว้และตั้งใจจะไปเอาไม้เบสบอลในรถมาฟาดเขา แต่เหตุการณ์ก็เป็นอย่างนี้เสียก่อน
“ไปซื้อมาใหม่กัน ผิงหิว เหนื่อย เมื่อกี้ออกแรงเยอะ" กฤษตฤณหัวเราะทันทีก่อนจะพยักหน้าโอเค
"ซื้อสบู่ด้วย คราวที่แล้วพี่โก้ใช้ของผิงเสียหมดกระปุก ด่วนๆเลยนะคะ ผิงง่วงเมื่อคืนนอนดึก" หญิงสาวนึกอยากตีปากตัวเองที่เผลอพูดไป ดีนะยั้งทันไม่ได้พูดว่ามัวแต่นึกเรื่องเขาเลยนอนไม่หลับ แต่มีหรือคนงอนจะไม่รู้ทัน ก็เขานอนมองโทรศัพท์ตลอด เห็นเจ้าหล่อนส่งข้อความมาทิ้งช่วงไปเป็นชั่วโมงๆ จนถึงเที่ยงคืน ดูก็รู้ว่าส่งมาลองใจเขา พอเห็นไม่ตอบอีกหนึ่งชั่วโมงก็ส่งมาใหม่
"จะกินให้พุงแตก และสลบไป" เพลงพิณรีบพูดแก้เก้อเมื่อเห็นเขาอมยิ้ม
"เดี๋ยวนะ นี่จะนอนกับพี่หรือคืนนี้" กฤษตฤณรีบชะงักใจ เห็นเจ้าหล่อนพูดว่าจะอาบน้ำด้วย แสดงว่ามาง้อเขาจริงๆสินะ
"แหงแหละ ก็มีคนอยากให้มานี่" หญิงสาวตอบไม่มองหน้าเขา ทำเหมือนไม่สนใจกับสิ่งที่พูด ทั้งที่จริงหล่อนน่ะเขินจะตาย
"ง้อใช่ไหม" กฤษตฤณก็ยังอยากได้ฟังจากปากของหล่อนอยู่ดี แต่เขากลับได้รับคำตำหนิแทน แต่นั่นมันก็แปลว่าเจ้าหล่อนมาง้ออยู่ดีนั่นล่ะนะ
"ก็ใครใช้ให้แก่แล้วขี้งอนล่ะคะ ป๊ากับแม่ดุผิงใหญ่ว่านิสัยเสียกับพี่โก้ จริงๆแล้วน่ะคนผิดคือพี่โก้เองต่างหาก ผิงยังไม่ได้ตอบอะไรก็เข้าใจไปเอง สุดท้ายใครโดนว่าล่ะ... ขนมผิงนี่" กฤษตฤณก็หัวเราะชอบใจใหญ่หลังจากที่หล่อนพูดจบ ความหมายในประโยคตั้งหลายข้อความที่ทำให้เขาชอบใจ ที่สำคัญที่ก็คือความหมายที่ว่า เขาคิดไปเอง ก็แสดงว่าเจ้าหล่อนก็เห็นเขาเป็นคนพิเศษอยู่เหมือนกัน แต่นิสัยปากแข็งก็เลยว่าอีกอย่างออกมา ชายหนุ่มยิ้มกริ่มเอาหัวพิงไหล่หล่อน เขาอารมณ์ดีกว่า23ชั่วโมงที่แล้วตั้งเยอะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ