นักเขียนสาว หัวใจ บ.ก.
เขียนโดย Dashathone
วันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23.19 น.
แก้ไขเมื่อ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558 23.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) เเอบส่องเด็ก100%
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 6
แผนที่สอง...แอบส่องเด็ก
ครืด ครืด ครืด...
เสี่ยงสั่นจากเครื่องสื่อสารมือถือสั่นเตือนว่ามีสายเรียกเข้าติดกันไม่หยุด ปรารภจึงตัดสินใจหยุดมือที่กำลังสาละวนง่วนล้างจานชาม เพื่อล้วงมือในกระเป๋ากางเกงหยิบมันขึ้นมาดูหน้าจอด้วยอมยิ้มมุมปากอ่อนโยน ก่อนจะกรอกเสียงลงไปตามสายอย่างคุ้นเคยเช่นทุกครั้งที่ได้สนทนาด้วย
“ครับนม”
‘คุณหนูทานอาหารฝีมือคุณปราภได้เยอะไหมคะ’ นมพร้อมถามด้วยอยากรู้ ว่าเมนูอาหารที่ชายหนุ่มของคำแนะนำไปนั้นจะถูกปากจิดารันหรือไม่
“เราทานเรียบร้อยแล้วครับ ผมกำลังจะกลับพอดี” เขาตั้งใจเช่นนั้น ขืนอยู่นานกว่านี้มีหวังคงได้แอบชิมเลาะเล็ม ‘เป้าหมาย’ กันบ้างล่ะ
‘งั้นนมรบกวนตรวจดูหน้าต่างประตูทุกบานให้หน่อยได้ไหมคะ คุณหนูน่ะชอบเผอเรอลืมอยู่เรื่อยเชียว ผู้หญิงอยู่บ้านคนเดียวอันตรายมันอันตรายน่ะค่ะ’ ได้ยินดังนั้น ใจที่เคยกรุ่นโกรธเรื่องไม่ได้ล็อกประตูหน้าบ้านก็ผุดขึ้นมาทันที เห็นทีเขาต้องตรวจให้ละเอียดถ้วนทั่วทุกซอกทุกมุมก่อนกลับเสียแล้ว
“ครับนม ไม่ต้องห่วงครับ” ปรารภจึงรับคำหนักแน่นเสียไม่ได้ ก่อนจะละมือจากงานครัว แล้วทำตามเคร่งครัดไม่แพ้กัน
บก.หนุ่มมาดเนี๊ยบนิยมความสมบูรณ์แบบเริ่มทำการตรวจตั้งแต่สภาพกลอนประตูหน้าต่าง ลูกบิด โซ่คล้องระหว่างวงกลบและประตู สภาพผ้าม่านทุกผืนของทุกห้อง รวมถึงมุ่งลวดกันยุงและเหล็กดัดทุกช่องของชั้นหนึ่งด้วย เมื่อมั่นใจว่าทุกอย่างที่แสงดถึงระบบการป้องกันภัยพื้นฐานแล้ว เขาจึงเดินขึ้นไปชั้นสองและทำแบบเดียวกันอย่างละเอียดยิบราวกับเป็นนักพิทักษ์ของมีค่าอะไรสักอย่าง ซึ่งอาจนับมูลค่าไม่ได้
ลัล ลัล ลา ลัล ลัล ลา....
เท้าหนาแกร่งที่กำลังจะก้าวขึ้นไปยังชั้นสามเป็นต้องหยุดชะงักกึก เมื่อหูได้ยินเสียงฮัมเพลงอารมณ์ดีจากทางห้องนอนใหญ่เพียงห้องเดียวของทาวน์โฮมหลังนี้ แล้วไอ้เสียงหวานๆใสๆแบบนี้เขายิ่งคุ้นเคยนัก ก็เพราะเพิ่งได้คุยกันบนโต๊ะอาหารเมื่อสิบนาทีก่อนหน้านี้เอง ราวกับต้องมนต์อันใดกัน เท้าที่หยุดอยู่กับที่เมื่อสักครู่เริ่มก้าวเดินไปตามทิศทางของเสียงนั้นช้าๆ เยี่ยมหน้าเข้าไปสำรวจสอดส่ายหาต้นเสียงหวานละมุนผ่านช่องประตูที่แง้มไว้เพราะเจ้าของห้องคงลืมปิด หวังแค่ว่าจะได้เห็นใบหน้าเนียนกำลังยิ้มมีความสุขกับบทเพลงหวาน
หากแต่สิ่งที่กำลังปรากฏต่อสายตาหนุ่มแก่อายุสามสิบแปดถึงกับต้องปิดปากกลั้นเสียงสบถดังลั่น ดวงตาคมเบิกกว้าง หัวใจสะดุดแทบวายตายล้มลงบนพื้น
“กรรมของไอ้ปราภ...” จะไม่ให้เป็นกรรมของเขาได้ยังไง ก็ภาพที่หญิงสาวเต็มวัยเนื้อตัวขาวผ่องกำลังร้องเพลงเสียงหวานไพเราะจับใจไปถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นๆไปด้วย ก่อนจะรูดกางเกงขาสั้นจู๋สะบัดออกจากขาเรียวงามในที่สุด แล้วหมุนรอบตัวเองหนึ่งรอบแล้วหันหน้าเลี้ยวเข้าห้องน้ำท่ามกลางอารมณ์สุนทรีสุดๆ แม้เห็นเพียงด้านหลังเปลือยเปล่าตั้งแต่ลำคอระหง เอว ก้นและขาเรียว แต่มันเย้ายวนจินตนาการในสายตาคนมองนักหนา สำหรับเขาที่เจนสังเวียนสวาทมานักต่อนัก ก็สามารถพูดได้เต็มปากว่าหุ่นยัยเด็กอีโรติกนี่ ‘เอ็กซ์เซ็กส์’ ขนาดไหน
แค่ลองทำไม้ทำมือกะขนาดซึ่งมั่นใจว่า’ใหญ่เกินตัว’ แน่นอนจากประสบการณ์ที่สั่งสมมา แต่มันกลับทรมานคนที่แอบมองอยู่หลังบานประตูมากกว่าทุกครั้ง ปรารภท่อง....ยุบหนอ พองหนอ ตั้งสติสูดลมหายใจเข้าออกลึกๆหลายครั้งเพื่อบรรเทา มือข้างขวายกขึ้นมาทาบอกข้างซ้ายเพื่อให้มันช่วยคลายแรงเต้นระทึกในอก ส่วนมือข้างซ้ายเลื่อนไปกุมเป้ากางเกงกึ่งกลางกายอย่างลืมตัว พร้อมกับสูดปากซื้ดดดดด....อย่างอดกลั้น!!!กับการตื่นตัวของเจ้าโลกดุนดันขึ้นจนปวดหนึบไปหมด
แต่ปรารภไม่หยุดอยู่แค่หน้าประตู เพราะเสียงเพลงยังคงเอื่อยๆลอยอวลจากห้องน้ำนั่น ชักจูงให้เลือดในกายอุณหภูมิสูงกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว บวกกับเขาอยากรู้ว่าผู้หญิงที่สวยที่สุดตอนไร้เครื่องสำอางและเสื้อผ้านั้นเป็นจริงทุกคนหรือไม่ หากเป็นจิดารันเจ้าของนามปากกานิยายวาบหวิวคนนี้เล่า คนซึ่งเขาพิสูจน์ด้วยริมฝีปากมาแล้วว่า ‘เวอร์จิ้น!’ อืม....เห็นทีว่าเขาต้องพิสูจน์ ว่าสาวบริสุทธิ์จะสวยเซ็กซี่แค่ไหนเวลาเปลือย! แค่คิดลำคอก็แห้งผากจนต้องกลืนน้ำลายแล้ว
คนร่างสูงบังคับฝ่าเท้าค่อยๆออกก้าวเดินเข้าไปในห้อง ก้มลงหยิบ ‘ชิ้นส่วน’ ที่จิดารันถอดทิ้งเอาไว้ขึ้นมาพิจารณาดูใกล้ๆ ทว่ากลิ่นหอมอ่อนๆผสมกับกลิ่นกายสาวรุ่นกรุ่นใจจนต้องเอามาแนบชิดปลายจมูก แล้วสูดดมเสียเต็มปอดกักเก็บตุนเอาไว้คล้ายกับพวกคนโรคจิตโดยไม่รู้ตัว
ลัล ลัล ลา ลัล ลัล ลา....
หากเพลงหวานใสไพเราะที่เริ่มท่อนใหม่อีกครั้ง เรียกสติให้ปรารภหันไปมองประตูห้องน้ำอย่างช่างใจ ถ้าได้เห็นภาพ...เปลือย แล้วเขาจะอดใจไม่กระโจนใส่เธอไหวไหม ถ้าเธอรู้ว่ามีคนมาถ้ำมองตอนอาบน้ำนี่จะโกรธหน้าแดงสักแค่ไหนเชียว พอคิดแผน ‘ยั่ว’ เด็กได้ หนุ่มแก่จึงหันกลับไปมองเตียงที่จัดเก็บเรียบร้อยแล้วตาพราวเจ้าเล่ห์ ก้าวกระโดดขึ้นไปนอนเหยียดยาวบนนั้น แขนทั้งสองข้างไขว้กันรองใต้ศีรษะบนหมอนนุ่มสะอาด ก่อนจะกระดิกเท้าและหลับตาลงผิวปากเป็นเสียงดนตรีคล้องกับเสียงหวานในห้องน้ำอย่างสบายอารมณ์
จิดารันใช้ผ้าขนหนูซับน้ำพราวบนตัวให้หมาดแล้วชโลมโลชั่นทั้งใบหน้าและตัว ก่อนจะตบท้ายด้วยครีมกันแดดเพื่อป้องกันผิวเสีย หญิงสาวคว้าผ้าเช็ดตัวอีกผืนมาห่อหุ้มแล้วขมวดปมเหนือทรวงอกอิ่มแน่นหนา เพื่อก้าวออกจากห้องน้ำไปเลือกชุดมาสวมใส่เช่นที่ทำเป็นจะทุกวัน เพราะเธออยู่บ้านคนเดียวไม่มีคนร่วมห้อง จึงไม่จำเป็นต้องเอาชุดที่จะใส่ไปเปลี่ยนในห้องน้ำ ออกมาเลือกจึงสะดวกกว่ามาก ทว่าสิ่งที่ปรากฏต่อสายตาเมื่อเหลือบเห็นใครอยู่บนเตียงนั้น ทำเอาหัวใจหล่นไปที่ตาตุ่ม
“กรี้ดดดดด....อุ๊บ อื้อๆ” จิดารันได้กรีดร้องเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะถูกมือใหญ่ปิดให้เงียบฉับพลัน
“จะร้องเสียงดังทำไม เดี๋ยวคนข้างบ้านก็แตกตื่นกันหมด” ปรารภเอามือออกจากปากจิ้มลิ้ม เมื่อเห็นว่าเจ้าของห้องสงบแล้ว
“ก็แล้ว บก.เข้ามาทำอะไรในห้องรันล่ะคะ ตกใจหมด” จิดารันเอมมือทาบอกหอบหายใจเหนื่อย แต่ไม่ลืมกระชับปมผ้าขนหนูให้แน่นไว้
“มาส่องเด็ก” หาปรารภกลับตอบยียวนแทน จึงโดนเด็กด่าเอาตรงๆ
“โรคจิต” ก็มีแต่คนโรคจิตเท่านั้นล่ะที่มาแอบส่งดูถึงในบ้านคนอื่นแบบนี้
“อืม แต่เป็นโรคจิตปล้นสวาทนะ” ไม่เพียงแต่ปากเท่านั้นที่พูด ปรารภยังทำหน้ายิ้มกริ่มใช้สายตาแพรวพราวโลมเลียเธอตั้งแต่ใบหน้าจรดปลายเท้า ก่อนจะวกกลับมาจ้องที่อกอิ่มล้นขอบผ้าขนหนู แล้วใช้ลิ้นเลียขอบปากตัวเองราวกับกระหาย เหมือนพวกโรคจิตไม่มีผิด
“กรี้ด ไอ้เฒ่าลามก” จิดารันเห็นแล้วก็อดแหวกลับไม่ได้
“แล้วคนที่แอบฟังเสียงเซ็กส์สุดสยิวข้างบ้าจนเอามาเขียนนิยายอีโรติดนี่เรียกว่าอะไร ฮึ” ปรารภจ้องตาว่ากลับเชิงล้อเลียน เพราะเธอกับเขาก็คงหื่นสมน้ำสมเนื้อกันดี นี่สิถึงจะเรียกว่า ‘คู่ควร’ หึหึ
“หยุดนะรัน ถ้ากรีดอีกที พี่จูบปิดปากแน่” ปรารภขู่คนด่าทันทีเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าทำท่าจะโวยอีกรอบ เขากลัวคนเข้าใจผิดจะแห่มาเคาะประตูบ้านหญิงสาว คราวนี้ล่ะได้เป็นข่าวดังแน่ หนุ่มใหญ่คาสโนว่าเป็นพวกโรคจิตถ้ำมอง! หึ มีหวังโดนเพื่อนฝูงล้อไปจนลูกแก่ จิดารันจึงยกมือปิดปากฉับเพราะกลัง ‘เฒ่าลามก’ จูบปากอีก
“จะใส่เสื้อผ้าก่อนไหม” เพราะเขามั่นใจว่าขืนนานกว่านี้คงอดใจไม่ไหวจนกระโจนบังคับเอากับเธอเสียดื้อๆ
“ค่ะๆ” คนโดนขู่รับคำลนลานวิ่งไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วเลือกชุดเสื้อแขนยาวขายาววิ่งเข้าห้องน้ำไป ก่อนจะกลับออกมาในสภาพรัดกุมมากที่สุดเท่าที่เธอเคยใส่ตอนอยู่บ้าน
“หึหึ เรามีเรื่องต้องคุยกัน” ปรารภอดหัวเราะไม่ได้เมื่อเห็นลุ๊คใหม่ของหญิงสาว แต่ก็แอบขัดใจที่ไม่ยอมเอาผ้ามาเช็ดผมที่เพิ่งสระมาด้วย เขาจึงเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กมาคลุมศีรษะเล็กทุยให้ ก่อนจะค่อยๆซับน้ำออกอย่างเบามือในขณะที่ปากก็พูดคุยไปด้วย
“ทำไมไม่ล็อกประตูหน้าบ้าน กลอนประตูห้อง แล้วก็หน้าต่างทุกบานด้วย โดยเฉพาะห้องนี้ ถ้าเป็นคนอื่นป่านนี้คงโดนข่มขืน หรือไม่ก็โดนปล้นไปแล้ว เป็นผู้หญิงอยู่บ้านคนเดียวมันอันตราย...” ปากก็บ่นสอนไป ส่วนมือหนาก็เช็ดผมให้คนที่นั่งหน้ากระจกไปด้วย แต่หางตาก็อดชำเลืองมองผิวหน้าเนียนใสไร้เครื่องสำอางไม่ได้ น่าหอมนัก!
“ไม่เห็นเคยมี” จิดารันโพล่งทันควัน ก็เธออยู่ที่นี่มาตั้งสี่ปีแล้ว ไม่เห็นมีใครที่ไหนเข้ามาสักคนเดียว ถ้าจะมีโจรก็มีเขาแค่คนเดียวนี่ล่ะ
“ยังจะเถียงอีก เดี๋ยวจะโดนทำโทษ” แค่นั้นปรารภก็เห็นปากอิ่มยื่นออกเล็กน้อยอย่างขัดใจตามนิสัยคุณหนู มันน่าจูบให้เจ่อนัก ฮึ
“ผู้ใหญ่รังแกเด็ก!” จิดารันแหวกลับ จะมาลงโทษเธอเรื่องอะไรเล่า ไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย
“หืม ก็อยากรังแกนะ แต่กลัวติดบ่วง” เขาก็อยากจะแน่ใจในความรู้สึกลึกๆของตัวเองเช่นกัน ว่าจะยินดีกระโจนใส่บ่วงวงนี้ด้วยความเต็มในและ...รัก ทั้งสองฝ่าย จะได้ไม่เป็นการตัดโอกาสเด็กสาวที่จะได้เจอคนที่ดีกว่าเขา
“บ่วงอะไรคะ” เธอกำลังงงว่า ‘ทำโทษ’ แล้วมันเกี่ยวกับ ‘ติดบ่วง’ยังไง แต่ก็กระจ่างชัดทันทีเมื่อได้ยินคำตอบเหนือศีรษะ
“บ่วงสวาท!!!” ไอ้ลอง ‘ชิม’ น่ะปรารภอยากมาก แต่กลัวว่าถ้าได้ลอง ‘กิน’ แล้วจะติดใจรสสวาทพรหมจันทร์สาวยี่สิบเอ็ดจนถอนตัวไม่ขึ้น จนพร้อมจะกักขังเธอไว้เป็นของเขาคนเดียวไปจนวันตายต่างหาก มันจะกลายเป็นว่าเขาเห็นแก่ตัวไปตัดโอกาสที่จิดารันจะได้เจอผู้ชายอื่นที่ดีกว่าเขาในอนาคตเสียเปล่า เฮ้อ...แค่คิดว่าผู้หญิงที่เขากำลังปรนนิบัติเช็ดผมให้อยู่นี่ จะได้เจอคนอื่นที่ไม่ใช่เขาก็ให้ปวดใจนัก กรรมของไอ้ปราภ!!! แต่ประโยคที่ตัดใจเอ่ยออกมากลับทำให้คนฟังงงหนัก
“มีไดร์เป่าผมไหม”
“คะ?”
“พี่ถามว่ารันมีไดร์เป่าผมไหม เราผมหนาและยาวคงไม่แห้งง่าย เดี๋ยวพี่เป่าให้” เมื่อลงมือเช็ดอยู่นานไม่แห้งสักที เขาคิดว่าเอาไดร์มาเป่าร้อนคงแห้งเร็วกว่า จะได้รีบๆตัดใจกลับบ้านไปสงบสติอารมณ์ ‘อยาก’ ก่อนดีกว่า
“น่ารักจัง” จิดารันเผลอหลุดปากชมออกไป เพราะนอกจากนมพร้อมแล้ว เขาเป็นผู้ชายคนแรกที่ทำแบบนี้ให้เธอ
“อะไรนะ” ถ้าไม่แก่จนหูฝาด เขาได้ยินเธอชมนะ
“อ๋อ รันบอกว่าขอบคุณค่ะ เดี๋ยวรันทำเองดีกว่า” จิดารันแก้คำพูดกลบเกลื่อนความอาย
“อย่าดื้อ นี่ก็มืดแล้ว งั้นเมื่อไหร่จะได้นอน” เขาทำเสียงดุเมื่อรู้สึกถูกขัดใจ ก่อนจะหันซ้ายหันขวามองหาก็พบไดร์เป่าผมบนแขวนอยู่ข้างกระจก จัดการหยิบมาเสียบปลั๊กแล้วเลือกลมอุ่นเป่าผมนุ่มหนายาวสลวยที่เปียกชื้นให้จนแห้งดี จึงละมือมาหยิบหวีสางสองสามครั้งพอ
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้ขอบคุณเขา ยิ่งตอกย้ำให้ปรารภเข้าใจว่าตัวเองแก่จนยัยเด็กแสบต้องทำความเคารพนพไหว้ คล้ายกับเป็นญาติผู้ใหญ่มากกว่าจะเป็นอื่น แต่ก็น่ารักดี!
ฟอด!!! “ขอบคุณสำหรับรางวัล” เมื่ออดรนทนกับความน่ารักน่าใคร่ตรงหน้าไม่ไหว ปรารภจึงหน้าด้านขโมยหอมแก้มเสียฟอดใหญ่ แต่ไม่ลืมขอบคุณรางวัลขี่ตู่เอาเอง เรียกเลือดฝาดบนแก้วสาวให้แดงเรื่อ ยิ่งดูน่ามองมากขึ้นไปอีกในสายตาคนแก่
“คนฉวยโอกาส” จิดารันว่าแล้วค้อนหน้าขวับเข้าให้
“พี่อยากฉวยนะ แต่กลัวไดวิวาห์เหาะคืนนี้” จบประโยค ปรารภก้าวออกจากห้องลงบันไดไปชั้นล่างทันที ท่ามกลางเสียงวีดว้ายคนในห้องตามหลังมาไกลๆ
“คนบ้า!!! ตาเฒ่าหัวงู” ลับหลังหนุ่มแก่ จิดารันกระโดดขึ้นเตียงมุดผ้าห่มหนีอ้ายกรีดร้องเจ็บใจอยู่คนเดียว ครั้งที่แล้วโดนขโมยจูบ ครั้งนี้โดนขโมยหอมแก้ม แต่ถ้าคิดว่านี่เป็นการให้รางวัลเขาสำหรับเมนูอาหารอร่อยและค่าเป่าผมให้ ครั้งต่อไปคงไม่แคล้วเปลืองตัวมากกว่านี้หรือ แค่ลุ้นว่าครั้งหน้าเขาจะเอาส่วนไหนบนร่างกายเธอเป็นรางวัล ก็รู้สึกหน้าร้อนผ่าวเขินยิ้มกว้างหุบไม่ลงจนต้องมุดผ้าห่มหนีอีกรอบ
“ยุทธ ฉันมีงานให้ทำ” ปรารภกรอกเสียงลงไปตามสาย เมื่ออยู่ลำพังในรถยนต์คันหรูของตัวเอง เพื่อมุงหน้ากลับคอนโดฯส่วนตัวใจกลางเมือง
‘ครับนาย’ เสียงของยุทธเลขาส่วนตัวควบตำแหน่งบอดี้การ์ดตอบกลับเจ้านายทันใจ
“ส่งคนสักสองสามคนมาเฝ้าบ้านจิดารัน”
“ใครครับนาย” ยุทธออกจะแปลกใจกับงานใหม่นัก ร้อยวันพันปีไม่เคยได้ยินคำสั่งทำนองนี้จากเจ้านายสักครั้ง แล้วทำไมต้องไปเฝ้า
“เด็กฉัน” ปรารภยกยิ้มมุมปากขบขันกับคำว่า ‘เด็กฉัน’ ที่ตัวเองพูดออกมาอย่างไม่อายปาก เพราะเขาไม่เคยเรียกผู้หญิงที่มีเซ็กส์ด้วยว่าเป็นเด็กของเขาเลยสักคน แต่กับจิดารันเขากล้าเรียกเสียอย่างนั้น ทั้งๆที่ยังไม่ได้มีอะไรกัน ก็แค่ชิมๆเล็มๆทางปากเท่านั้น
“เด็ก! อายุเท่าไหร่ครับนาย”
“ยี่สิบเอ็ด”
“โอ้ย บรรลุนิติภาวะแล้วครับนาย กำลังอร่อย” ยุทธอดจะหยอกเย้าเจ้านายไม่ได้ เพราะเขาร่วมงานรับใช้เจ้านายมาตั้งแต่เริ่มทำงาน
“เออ ฉันไม่มีความคิดจะพรากผู้เยาว์” ใช่ ปรารภก็คิดเช่นนั้น แต่ในความรู้สึกเขาตอนนี้มันมีอะไรมากกว่านั้น
“จริงจังเหรอครับคนนี้” เพราะยุทธมั่นใจว่ายังไม่มีใครเข้าตาผู้เป็นนายจนต้องให้คนไปนั่งเฝ้าแบบนี้
“เปล่า ฉัน....หวง”….และหึงมากด้วย ปรารภต่อเองในใจโดยไม่ให้ลูกน้องคนสนิทรับรู้
“งั้นผมให้เฝ้าไม่ไรที่ไหนมาตอมเด็ดขาดเลยครับ” ยุทธรับคำหนักแน่น เพราะรู้สึกได้ว่าคนนี้นายคงเอาจริง เห็นทีเขาคงจะมีนายหญิงอายุน้อยเร็วๆนี้
“โดยเฉพาะผู้ชาย!!!” ปรารภคิดว่าตัวเองแก่เกินกว่าจะไปวิ่งตามจีบเด็กเหมือนวัยรุ่นทั่วไป แต่สิ่งที่เขาอยากแสดงให้เห็นคือจริงใจ ปลอดภัยและมั่นคง เขาพร้อมจะดูแลให้หญิงสาวสุขสบายไปตลอดชาติ หากเธอผู้นี้พร้อมจะเดินไปพร้อมกันกับเขา
“หึหึ ครับ” เลขาหนุ่มอดขำคนแก่หวงเด็กไม่ได้ คงจะตามกันเหนื่อยน่าดู คิดจะมีเมียเด็กก็ต้องฟิตร่างกายครับเจ้านาย
“ขอบใจ” ปรารภกดตัดสายทันที เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะขำล้อเลียนจากลูกน้องมือขวา นี่สินะ อาการคนหวงเด็ก
ปล. ถึงพี่ปราภจะหื่นเเต่ก็เเอบสุภาพบุรุษนะ ยับยั้งได้ครับ ยังไม่ถึงเวลาที่พี่จะกินน้องรันหรอกนะ รีดเดอร์วางใจได้ครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ