อุ่นรัก ที่พักใจ
10.0
เขียนโดย อาบตะวัน
วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 18.47 น.
2 ตอน
0 วิจารณ์
4,707 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558 18.55 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) วันเดินทาง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ แสงแดดจาง ๆ ส่องผ่านผ้าม่านลูกไม้สีขาวในห้องนอนสีไม้สะอาดตา หญิงสาวผิวขาวรูปร่างผอมบางตลบผ้าม่านขึ้นรับแสงสว่างยามรุ่งอรุณอย่างกระฉับกระเฉงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่บนเตียงนอนเปิดอ้าเผยให้เห็นถึงสัมภาระมากมายซึ่งจัดวางไว้อย่างเป็นระเบียบ "เสร็จรึยังหมอกเตรียมอะไรไปมากมายจ๊ะตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ" ประตูเปิดออกพร้อมกับหญิงสาวผู้สูงวัยกว่ารูปร่างผอมสูงผิวคล้ำดูแข็งแรงสดใสแบบนักเดินทางยิ้มทักทายน้องสาวอย่างอารมณ์ดี
"กลัวลืมของน่ะพี่ม่านคิดวนไปวนมาหลายรอบแล้ว พี่ช่วยมาดูหน่อยสิว่าหมอกควรจะเตรียมอะไรไปเพิ่มมั้ย " สายหมอกจูงมือพี่สาวมาดูสัมภาระของตนในกระเป๋าม่านฝนหัวเราะคิก "เตรียมตู้เสื้อผ้าไงหมอกเตรียมเผื่อล้นตู้บ้านพี่ชล อ้อ! เอาโต๊ะเครื่องแป้งไปเผื่อด้วยก็ดีนะเดี๋ยวที่วางเครื่องสำอางมีไม่พอ " หญิงสาวว่าพลางลุกขึ้นโยกหัวน้องสาว "ลงไปได้แล้วเดี๋ยวรถจะมารับแล้วนะ " สายหมอกโคลงศีรษะกวาดสายตามองสิ่งของทั่วห้องอย่างลังเล "เออ...ก็เกือบหมดห้องแล้วนะคงไม่ลืมอะไรแล้วมั้ง "
“ปี้น ๆ”
เสียงแตรรถดังสนั่นจากหน้าบ้านสายหมอกรีบปิดกระเป๋า พลางยกกึ่งลากลงจากเตียงเสียงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่หล่นโครมลงพื้นไม้เสียงดังตามด้วยเสียงลากกระเป๋าที่ดังยาวมาจนถึงประตูบ้าน "โอ้โห!ย้ายบ้านเหรอหมอก ไปอาทิตย์เดียวนะจ๊ะกะอยู่ตลอดชีวิตรึไง" หนุ่มใหญ่ผิวคล้ำรูปร่างสูงใหญ่โดดลงมาช่วยยกกระเป๋าพลางล้อเลียนยิ้ม ๆหญิงสาวนิ่วหน้า "อย่าแซวพี่...ขอร้อง ของจำเป็นทั้งนั้นนี่ถ้าลืมนะถึงขั้นต้องเสียสตางค์ซื้อใหม่เชียว" "พอ ๆกับยายนรีเลยยายนั่นขาดแค่ห้องน้ำเท่านั้นแหละที่ไม่เอามาด้วยขนาดตู้เสื้อผ้ามันยังเอามาด้วยเลย" ชายหนุ่มหน้าตี๋ร่างเล็กซึ่งลงมาช่วยชลยกกระเป๋าเอ่ยขึ้น สองหนุ่มหัวเราะอย่างขบขันขณะที่ผู้ถูกเอ่ยถึงเลื่อนกระจกรถออกมาจ้องตาเขียว
"อะไรยะชั้นกลัวหนาวย่ะ ที่เมืองปายช่วงเนี้ย .. ถึงขั้นยะเยือกนะยะ ดึก ๆอย่ามาขอปันผ้าห่มก็แล้วกัน คิดค่าเช่าด้วย จะบอกให้"
นรีแลบลิ้นใส่สองหนุ่มก่อนจะหันมาทักทายม่านฝนและสายหมอก
"ไง..ม่านทริปนี้เตรียมตัวมาดีป่ะ พาน้องมาด้วย เฮ้วมากไม่ได้นะแก...ไงจ๊ะน้องหมอกคนสวยไม่พาแฟนมาด้วยล่ะฮึ"
สายหมอกยิ้มและส่ายหน้าแทนคำตอบก่อนจะเลือกที่นั่งด้านหลังสุดเพียงลำพังในขณะที่ม่านฝนนั่งลงข้าง ๆ นรี
"เที่ยวนี้ไม่ได้เตรียมอะไรนอกจากเบียร์ 2 ลัง ฮ่า"
หญิงสาวว่าพลางตบหลังเพื่อนแรง ๆ 2-3 ที
"เอาไว้แก้หนาวแทนผ้าห่มไง .. ขี้เกียจเสียตังค์เช่าแก......นรี"
นรีค้อนเพื่อนสาววงเล็ก ๆ พองามชะเง้อชะแง้มองสองหนุ่มที่ช่วยกันขนของขึ้นรถก่อนที่จะได้ยินเสียงปิดท้ายรถซึ่งเป็นสัญญาณแสดงความพร้อมว่าถึงเวลาออกเดินทางได้แล้ว ภายในรถตู้สิบสองที่นั่งดูโล่งกว้างกว่าปกติ เมื่อเทียบกับจำนวนผู้โดยสารภายในรถ 'ชล' บ.ก.หนุ่มใหญ่ขับรถฮัมเพลงเบา ๆ ข้าง ๆ มีภูผา ผู้ช่วยหน้าตี๋คอยเปลี่ยนแผ่นซีดีให้ พร้อมกับวิจารณ์เพลงต่าง ๆ ที่ชลร้องประสานขึ้นมา
"ขายไม่ออกแน่แผ่นนี้...พี่ชลร้องเป็น...เปลี่ยนดีกว่า"
ม่านฝนนอนเหยียดยาวบนเก้าอี้แถวถัดมามีนรีเพื่อนสนิทยื่นหน้ามาคุยเรื่องสัพเพเหระอย่างออกรสออกชาติ สายหมอกนั่งเงียบ ๆตามลำพังบนเก้าอี้แถวหลังสุด เหม่อมองสายตาออกไปด้านนอกตัวรถแสงแดดยามสายสะท้อนประกายน้ำทะเลสองข้างทางระยิบระยับครั้งนี้เป็นการเดินทางครั้งแรกของเธอนับตั้งแต่เรียนจบและเป็นการเดินทางที่ไกลที่สุด จากหาดใหญ่ไปไกลถึงแม่ฮ่องสอนหญิงสาวทอดสายตาออกไปไกล มองดูต้นสนวิ่งแข่งกับทะเลอย่างเศร้า ๆในใจคิดถึงใครบางคนที่เธอเพิ่งจากมา "พี่ไม่ไปจริง ๆเหรอคะ" หญิงสาวนึกถึงน้ำเสียงอ่อนหวานที่เอยชวนชายคนรักมาร่วมเดินทางครั้งนี้ด้วยวายุตอบปฏิเสธโดยไม่แม้แต่จะหันมามอง
"พี่ไม่ว่างหรอกหมอกไปเถอะเที่ยวเผื่อพี่ด้วยนะ"
เขายิ้มกับโต๊ะทำงานโบกมือลาหญิงสาว ที่เดินออกจากบ้านไปอย่างหดหู่ด้วยสายตาเรียบเฉย ก่อนจะก้มหน้าก้มตาร่างแบบบนโต๊ะทำงานอย่างใจจดใจจ่อต่อไป สายหมอกถอนใจกับความมุ่งมั่นในการทำงานของชายหนุ่ม .. จน .. ดูเหมือนละเลยเธอ.. .
วายุอายุมากกว่าสายหมอก 5 ปี เขาเรียนจบและทำงานเป็นสถาปนิกให้กับโครงการบ้านจัดสรรแห่งหนึ่งในแถบชานเมืองหาดใหญ่นับตั้งแต่เขาได้ทำงานที่นี่ ความใส่ใจที่เคยมีให้กับเธอค่อย ๆ ลดน้อยลงจนปัจจุบันที่เธอแทบไม่ได้สัมผัสกับความรู้สึกที่เรียกว่า " รัก " จากเขาเลยความว้าเหว่เดียวดายคลอเคลียเป็นเพื่อนบัณฑิตตกงานอย่างเธอมาเป็นเวลาร่วมปีเศษแล้ว
เสียงหัวเราะดังลั่นของม่านฝนทำให้หญิงสาวตื่นจากภวังค์ชั่วคราวมองดูพี่สาวคนเดียวลุกขึ้นควานหาน้ำดื่มแก้สำลักถั่วลิสงทั้งน้ำตาอย่างนึกขันพี่สาวนักเขียนวัย 28 ปี ที่มองเรื่องความรักเป็นละครน้ำเน่าที่ไร้สาระ ดูเข้ากันได้ดีกับ 'นรี' คู่หูนักเดินทาง ที่ต้องคอยหาประสบการณ์เพื่อเป็นวัตถุดิบในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในนิตยสารชื่อดังของ 'ชล' ทัวร์ครั้งนี้ก็เป็นหนึ่งในการทำงานของพวกเขาเพียงแต่พี่สาวทนดูสภาพเอื่อยเฉื่อยไร้ชีวิตชีวาของน้องสาวอย่างเธอไม่ได้จึงได้ชักชวนมาชมบรรยากาศเมืองหนาวด้วยกัน
“เผื่อแกจะอยากมาเป็นนักเขียนเหมือนพี่ไงสนป่ะ”
สายหมอกไม่อยากจะเป็นนักเขียนแต่เธอสนใจอยากจะมาหางานทำไกลบ้าน จึงยินยอมตามมาด้วยประกอบกับอยากจะชื่นชมธรรมชาติสวย ๆท่ามกลางบรรยากาศเย็นเยียบของเมืองเหนือในฤดูหนาวซึ่งบ้านเธอไม่เคยมี รถแล่นผ่านเข้าตัวเมืองใหญ่แห่งหนึ่งในเวลาพลบค่ำ สายหมอกงัวเงียลุกขึ้นจากการนอนเหยียดยาวบนเบาะหลัง หันซ้ายหันขวามองออกไปข้างนอกตัวรถ ความสับสนวุ่นวายของเมืองที่ไม่เคยหลับใหลก็ปรากฏผ่านแสงไฟวอบแวมกับกับรถราบนถนนที่ตีโค้งอยู่บนท้องฟ้าราวกับสายรุ้งหลายเส้น
"กลัวลืมของน่ะพี่ม่านคิดวนไปวนมาหลายรอบแล้ว พี่ช่วยมาดูหน่อยสิว่าหมอกควรจะเตรียมอะไรไปเพิ่มมั้ย " สายหมอกจูงมือพี่สาวมาดูสัมภาระของตนในกระเป๋าม่านฝนหัวเราะคิก "เตรียมตู้เสื้อผ้าไงหมอกเตรียมเผื่อล้นตู้บ้านพี่ชล อ้อ! เอาโต๊ะเครื่องแป้งไปเผื่อด้วยก็ดีนะเดี๋ยวที่วางเครื่องสำอางมีไม่พอ " หญิงสาวว่าพลางลุกขึ้นโยกหัวน้องสาว "ลงไปได้แล้วเดี๋ยวรถจะมารับแล้วนะ " สายหมอกโคลงศีรษะกวาดสายตามองสิ่งของทั่วห้องอย่างลังเล "เออ...ก็เกือบหมดห้องแล้วนะคงไม่ลืมอะไรแล้วมั้ง "
“ปี้น ๆ”
เสียงแตรรถดังสนั่นจากหน้าบ้านสายหมอกรีบปิดกระเป๋า พลางยกกึ่งลากลงจากเตียงเสียงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่หล่นโครมลงพื้นไม้เสียงดังตามด้วยเสียงลากกระเป๋าที่ดังยาวมาจนถึงประตูบ้าน "โอ้โห!ย้ายบ้านเหรอหมอก ไปอาทิตย์เดียวนะจ๊ะกะอยู่ตลอดชีวิตรึไง" หนุ่มใหญ่ผิวคล้ำรูปร่างสูงใหญ่โดดลงมาช่วยยกกระเป๋าพลางล้อเลียนยิ้ม ๆหญิงสาวนิ่วหน้า "อย่าแซวพี่...ขอร้อง ของจำเป็นทั้งนั้นนี่ถ้าลืมนะถึงขั้นต้องเสียสตางค์ซื้อใหม่เชียว" "พอ ๆกับยายนรีเลยยายนั่นขาดแค่ห้องน้ำเท่านั้นแหละที่ไม่เอามาด้วยขนาดตู้เสื้อผ้ามันยังเอามาด้วยเลย" ชายหนุ่มหน้าตี๋ร่างเล็กซึ่งลงมาช่วยชลยกกระเป๋าเอ่ยขึ้น สองหนุ่มหัวเราะอย่างขบขันขณะที่ผู้ถูกเอ่ยถึงเลื่อนกระจกรถออกมาจ้องตาเขียว
"อะไรยะชั้นกลัวหนาวย่ะ ที่เมืองปายช่วงเนี้ย .. ถึงขั้นยะเยือกนะยะ ดึก ๆอย่ามาขอปันผ้าห่มก็แล้วกัน คิดค่าเช่าด้วย จะบอกให้"
นรีแลบลิ้นใส่สองหนุ่มก่อนจะหันมาทักทายม่านฝนและสายหมอก
"ไง..ม่านทริปนี้เตรียมตัวมาดีป่ะ พาน้องมาด้วย เฮ้วมากไม่ได้นะแก...ไงจ๊ะน้องหมอกคนสวยไม่พาแฟนมาด้วยล่ะฮึ"
สายหมอกยิ้มและส่ายหน้าแทนคำตอบก่อนจะเลือกที่นั่งด้านหลังสุดเพียงลำพังในขณะที่ม่านฝนนั่งลงข้าง ๆ นรี
"เที่ยวนี้ไม่ได้เตรียมอะไรนอกจากเบียร์ 2 ลัง ฮ่า"
หญิงสาวว่าพลางตบหลังเพื่อนแรง ๆ 2-3 ที
"เอาไว้แก้หนาวแทนผ้าห่มไง .. ขี้เกียจเสียตังค์เช่าแก......นรี"
นรีค้อนเพื่อนสาววงเล็ก ๆ พองามชะเง้อชะแง้มองสองหนุ่มที่ช่วยกันขนของขึ้นรถก่อนที่จะได้ยินเสียงปิดท้ายรถซึ่งเป็นสัญญาณแสดงความพร้อมว่าถึงเวลาออกเดินทางได้แล้ว ภายในรถตู้สิบสองที่นั่งดูโล่งกว้างกว่าปกติ เมื่อเทียบกับจำนวนผู้โดยสารภายในรถ 'ชล' บ.ก.หนุ่มใหญ่ขับรถฮัมเพลงเบา ๆ ข้าง ๆ มีภูผา ผู้ช่วยหน้าตี๋คอยเปลี่ยนแผ่นซีดีให้ พร้อมกับวิจารณ์เพลงต่าง ๆ ที่ชลร้องประสานขึ้นมา
"ขายไม่ออกแน่แผ่นนี้...พี่ชลร้องเป็น...เปลี่ยนดีกว่า"
ม่านฝนนอนเหยียดยาวบนเก้าอี้แถวถัดมามีนรีเพื่อนสนิทยื่นหน้ามาคุยเรื่องสัพเพเหระอย่างออกรสออกชาติ สายหมอกนั่งเงียบ ๆตามลำพังบนเก้าอี้แถวหลังสุด เหม่อมองสายตาออกไปด้านนอกตัวรถแสงแดดยามสายสะท้อนประกายน้ำทะเลสองข้างทางระยิบระยับครั้งนี้เป็นการเดินทางครั้งแรกของเธอนับตั้งแต่เรียนจบและเป็นการเดินทางที่ไกลที่สุด จากหาดใหญ่ไปไกลถึงแม่ฮ่องสอนหญิงสาวทอดสายตาออกไปไกล มองดูต้นสนวิ่งแข่งกับทะเลอย่างเศร้า ๆในใจคิดถึงใครบางคนที่เธอเพิ่งจากมา "พี่ไม่ไปจริง ๆเหรอคะ" หญิงสาวนึกถึงน้ำเสียงอ่อนหวานที่เอยชวนชายคนรักมาร่วมเดินทางครั้งนี้ด้วยวายุตอบปฏิเสธโดยไม่แม้แต่จะหันมามอง
"พี่ไม่ว่างหรอกหมอกไปเถอะเที่ยวเผื่อพี่ด้วยนะ"
เขายิ้มกับโต๊ะทำงานโบกมือลาหญิงสาว ที่เดินออกจากบ้านไปอย่างหดหู่ด้วยสายตาเรียบเฉย ก่อนจะก้มหน้าก้มตาร่างแบบบนโต๊ะทำงานอย่างใจจดใจจ่อต่อไป สายหมอกถอนใจกับความมุ่งมั่นในการทำงานของชายหนุ่ม .. จน .. ดูเหมือนละเลยเธอ.. .
วายุอายุมากกว่าสายหมอก 5 ปี เขาเรียนจบและทำงานเป็นสถาปนิกให้กับโครงการบ้านจัดสรรแห่งหนึ่งในแถบชานเมืองหาดใหญ่นับตั้งแต่เขาได้ทำงานที่นี่ ความใส่ใจที่เคยมีให้กับเธอค่อย ๆ ลดน้อยลงจนปัจจุบันที่เธอแทบไม่ได้สัมผัสกับความรู้สึกที่เรียกว่า " รัก " จากเขาเลยความว้าเหว่เดียวดายคลอเคลียเป็นเพื่อนบัณฑิตตกงานอย่างเธอมาเป็นเวลาร่วมปีเศษแล้ว
เสียงหัวเราะดังลั่นของม่านฝนทำให้หญิงสาวตื่นจากภวังค์ชั่วคราวมองดูพี่สาวคนเดียวลุกขึ้นควานหาน้ำดื่มแก้สำลักถั่วลิสงทั้งน้ำตาอย่างนึกขันพี่สาวนักเขียนวัย 28 ปี ที่มองเรื่องความรักเป็นละครน้ำเน่าที่ไร้สาระ ดูเข้ากันได้ดีกับ 'นรี' คู่หูนักเดินทาง ที่ต้องคอยหาประสบการณ์เพื่อเป็นวัตถุดิบในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในนิตยสารชื่อดังของ 'ชล' ทัวร์ครั้งนี้ก็เป็นหนึ่งในการทำงานของพวกเขาเพียงแต่พี่สาวทนดูสภาพเอื่อยเฉื่อยไร้ชีวิตชีวาของน้องสาวอย่างเธอไม่ได้จึงได้ชักชวนมาชมบรรยากาศเมืองหนาวด้วยกัน
“เผื่อแกจะอยากมาเป็นนักเขียนเหมือนพี่ไงสนป่ะ”
สายหมอกไม่อยากจะเป็นนักเขียนแต่เธอสนใจอยากจะมาหางานทำไกลบ้าน จึงยินยอมตามมาด้วยประกอบกับอยากจะชื่นชมธรรมชาติสวย ๆท่ามกลางบรรยากาศเย็นเยียบของเมืองเหนือในฤดูหนาวซึ่งบ้านเธอไม่เคยมี รถแล่นผ่านเข้าตัวเมืองใหญ่แห่งหนึ่งในเวลาพลบค่ำ สายหมอกงัวเงียลุกขึ้นจากการนอนเหยียดยาวบนเบาะหลัง หันซ้ายหันขวามองออกไปข้างนอกตัวรถ ความสับสนวุ่นวายของเมืองที่ไม่เคยหลับใหลก็ปรากฏผ่านแสงไฟวอบแวมกับกับรถราบนถนนที่ตีโค้งอยู่บนท้องฟ้าราวกับสายรุ้งหลายเส้น
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ