The Last Night
เขียนโดย pyclub70
วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 20.31 น.
แก้ไขเมื่อ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559 20.39 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) 04-เตรียมตัว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
04-เตรียมตัว
เนเน๊ะตายแล้วหรือนี่..!!!?
ทางด้านหมู่คี-คูได ได้ก่อกองไฟขนาดใหญ่เจิดจ้า เพื่อให้แสงสว่างและไล่ความหนาวในช่วงย่ำค่ำ คาไดเรียกทุกคนออกมารวมตัวกันที่กลางหมู่บ้าน รวมทั้งยายแขขาวด้วย เพื่อทำการประชุมเรื่องเนเน๊ะ
"เป็นเวลา3วันแล้วที่เนเน๊ะได้ออกเดินทาง ข้ารู้สึกเป็นห่วงและกังวลว่า เธอจะได้รับอันตรายหรืออาจตายไปแล้วก็ได้ ข้าจึงเรียกทุกคนออกมาประชุม เพื่อขอความคิดเห็นว่า เราควรจะออกเดินทางตามหาเธอหรือไม่?"หลังมากันครบ สีหน้าจริงจังของคาไดได้กล่าวขึ้นเสียงดัง ทำให้ทุกคนนิ่งเงียบไม่สามารถให้คำตอบแก่เขาได้ เพราะคงไม่มีใครอยากจะเอาชีวิตไปเสี่ยง แต่ก็ไม่ใครกล้าคัดค้านเขา เว้นแต่ยายแขขาว..
"ข้าว่าเจ้าอยู่เฉยๆเสียเถิด เนเน๊ะจะไม่ได้รับอันตรายอย่างแน่นอน เจ้าก็รู้ไม่ใช่รึไง?"ยายแขขาวพูดแทนชาวบ้านด้วยความใจเย็นหลังมาถึงเป็นคนสุดท้าย ช่วงนี้ ทุกคนยังคงเงียบและไม่ยอมออกความคิดใดๆ
"นี่ๆๆ พวกเจ้าจะไม่ยอมพูดอะไรบ้างเลยรึไง"คาไดบึ้งตึงเมินคำพูดยายแขขาว ยืนกล่าวพลางสะบัดมือทั้ง2ข้างขึ้นรัวๆกับทุกคนในหมู่บ้าน
"อืม.. คาไดเจ้าทำเป็นใจร้อนไปได้เย็นๆหน่อยสิ ก็อย่างที่ข้าบอกไงเนเน๊ะต้องปลอดภัย อีกทั้งคนในหมู่บ้านเองก็ไม่ใช่นักรบคงไม่มีใครกล้าเอาชีวิตไปเสี่ยงหรอกนะ ส่วนเรื่องสมุนไพรน่ะไม่ต้องห่วงข้ายังพอมีเหลือไว้ใช้ได้อีกหลายวัน นี่ก็คืนที่3แล้ว ประเดี๋ยวอีก2-3วันเนเน๊ะก็กลับ"ยายแขขาวแสดงท่าทีรำคาญ ใช้คำพูดเหน็บแนมเล็กน้อยต่อคาได ซึ่งทุกคนต่างพยักหน้ากันหงึกๆเห็นด้วยกับยายแขขาว จนท้ายสุด คาไดจึงบอกเลิกประชุมไป
การประชุมสิ้นสุดลงโดยใช้เวลาไม่นาน
หลังจากทุกคนแยกย้ายเข้าที่พักของตัวเองนั้น คาไดได้แต่นั่งชันเข่าก้มหัวอยู่ตลอดเวลาข้างกองไฟกลางหมู่บ้าน จนบรรยากาศดึกดื่นค่อนคืน น้ำค้างเริ่มจับตัวกันเป็นหยดบนใบไม้สูงต่ำเรียงราย คาไดมีความวิตกกับสิ่งที่ได้เห็นหลังจากเนเน๊ะออกเดินทางไปสองวัน มันคือภาพความตายของเธอในสายธาร ยิ่งคิดยิ่งกลุ้ม คาไดถอนหายใจเบาๆ จากนั้นเขาจึงรีบรวบรวมสมาธิ ใช้ความสามารถของตนในการหยั่งรู้อีกครั้ง
หลับตาแน่นขมวดคิ้วอยู่ไม่ช้า ภาพลางๆที่ได้เห็นในครั้งใหม่คือการกลับมายังหมู่บ้านของเนเน๊ะ ซึ่งนี่เองคงทำให้คาไดใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง
-----------
..เวลาล่วงเลยเข้าวันที่สี่ของการเดินทางร่างของเนเน๊ะยังไร้วี่แววจะปรากฎขึ้นมา เหล่าบรรดาเทพเทพีทั้งหลายในนครเกลซาโร่เกิดความวิตกกันเสียยิ่งกระไร แผ่นกระจกยักษ์ไม่สามารถจับภาพเนเน๊ะได้ ครั้งจะลงไปช่วยเด็กสาวก็มิอาจทำได้อีกเช่นกัน ภาวนามีแต่ภาวนาเท่านั้น
สายธารกลืนกินร่างของเนเน๊ะไปอย่างสาปสูญ เธอคงจมติดอยู่ที่ไหนสักแห่งในสายธาร..
..ตะวันเริ่มบ่ายคล้อย ทุกสิ่งทุกอย่างยังเงียบสงบ..
ลมพัดหวิวโชย แสงแดดส่องสายน้ำเลี้ยงทุ่งหญ้า ให้อาหารให้ความอบอุ่น
"ห่ะ..!!"
เนเน๊ะสะดุ้งลุกพรวดจากนิทรา หลังแสงแดดส่องต้องใบหน้าจากช่องโหว่ข้างบนปลุกให้ตื่น เธอหันซ้ายแลขวาแล้วพบว่าตนอยู่ในที่ใดสักแห่ง สาวน้อยลืมทุกสิ่งทุกอย่างกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ มีเพียงจิตใต้สำนึกเท่านั้นที่ควบคุมเธอไว้ เนเน๊ะนั่งอยู่บนพื้น ภายห้องในสี่เหลี่ยมแคบๆและสกปรก สร้างจากอิฐสีเหลืองเข้มนำมาเรียงต่อกันเป็นผนังสามด้าน ด้านหน้าของเธอเป็นลูกกรงเหล็กฟันไม่ถี่มากและมีประตูที่ทางด้านขวาแต่มีแม่กุญแจล็อกไว้ ส่วนด้านหน้าถัดออกไปอีกคือเดินแคบๆ ติดกับทางเดินคือห้องแบบเดียวกันนี้และอีกห้องหลายเรียงกันยาวไปตลอดสองฝั่ง สาวน้อยยันกายลุกขึ้นได้พบว่าร่าเธอเปียกซกไปด้วยน้ำ เธอมองร่างตัวเองแล้วแปลกใจ แต่ไม่ได้ติดใจอะไรมากมายแค่รู้สึกหนาวจนตัวสั่นก็เท่านั้น สาวน้อยกอดแขนตนเองพลางถูไปมาช้า ค่อยๆก้าวขาไปข้างหน้าทางด้านขวา เพื่อจะออกจากห้องนี้ ทีล่ะก้าว ทีล่ะก้าว จนสายตาหลุบลง พร้อมจับแม่กุญแจแล้วกระชากไปสามสี่ที ทว่า มันไม่ยอมคลาย เธอจึงเขย่าประตูอย่างแรง แรงขึ้นและแรงขึ้น แต่มันไร้ผล สีหน้าในตอนนี้บ่งบอกไม่ชัดว่าเธอรู้สึกอย่างไรหากแววตาคู่นั้นดูเย็นเยือก
ติ๊ก.. ติ๊ก.. ติ๊ก..
เสียงน้ำหยดลงพื้นจากชุดของเนเน๊ะ ดังขึ้นในความเงียบหลังหมดหนทางจะหาวิธีออกไป เธอพยายามลองใหม่อีกครั้ง แต่คราวนี้ใช้มีดของยายแขขาวเข้าแซะ แงะ กระแทก เฉือนและสารพัดวิธีตามแต่จะคิดได้ สุดท้าย ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิมมันไม่ยอมคลายออก ช่วงเวลานี้เหมือนดูกดดัน แต่สีหน้าค่าตาของเธอกลับดูเย็นชาเหมือนคนตาปือใกล้ปิด เธอเหนื่อยล้า เก็บมีดนั้นลงซอง แล้วถอยห่างออกจากประตูไปสองก้าว และเดินกลับเข้าไปใหม่
เกร้งงงง!!
เสียงเหล็กกระแทกลงพื้นดังจากด้านซ้าย เนเน๊ะเอาใบหน้าเบียดลูกกรงพยายามชำเลืองให้เห็น จากการได้ยินเสียงกับระยะที่ควรจะเห็นสิ่งนั้นมันไม่ไกลกับเธอมาก เนเน๊ะควานสายตาหาอยู่นานก็ถอนตัวออกจากลูกกรง พลันนั้น เธอเห็นใครบางคนวิ่งผ่านหน้าห้องกรงไปทางขวาอย่างรวดเร็ว เนเน๊ะเอาใบหน้าแนบลูกกรงอีกครั้ง แต่หันไปทางขวา ซึ่งพบแต่ความว่างเปล่า.. แต่ทันที ที่เธอถอนใบหน้าออก หันกลับไปตรงๆก็พบใครบางคน รูปทรงอัปลักษณ์หน้าตาน่าเกลียด ยืนถมึงตาใส่โดยมือเหี่ยวแห้งของมันได้รวบผมเนเน๊ะจากด้านหลังไว้นานแล้วตอนเธอเผลอ ไม่ช้า มันก็กระชากมือนั้นเข้าหาตัวอย่างแรง จนใบหน้าและร่างเนเน๊ะลอยเข้ากระแทกกับลูกกรง
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง..!!
ผ่านไปหลายทีกว่ามันจะหยุดและทรุดลงไป ใบหน้าและร่างโชกเลือดยืนกำมีดแน่นด้วยกายสั่นเทิ้ม เนเน๊ะปรายตามองมันอย่างสมเพช ก่อนนั่งลงเอื้อมมือไปยังศพควานหาลูกกุญแจซึ่งแขวนอยู่กับเอว เมื่อได้มันมาแล้ว เธอจึงลองไปไขดูพบว่ามันไขออก เนเน๊ะก้าวออกมาช้าๆ มองซ้ายและขวา ไม่ว่าทางไหนมันก็เหมือนกัน สองฝั่งมีแต่ลูกกรงยาวออกไปจนสุดสายตาจะหยั่งเห็นได้ เธอเลือกไปทางซ้าย โดยวิ่งไป หวังจะเจอทางออกในส่วนปลาย วิ่งอยู่นานจนแทบถลาลงไปกอดพื้น ทว่า สาวน้อยวนกลับมายังจุดเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย จุดที่มีศพอัปลักษณ์นอนตายตาเหลือกอยู่ เนเน๊ะประหลาดใจเหลือบมองมันพร้อมอาการเหนื่อยหอบ เธอเกาะลูกกรงด้วยมือข้างหนึ่ง แล้วก้มหน้าสูดหายใจแรงหวังช่วยให้ร่างกายระบายความร้อน
ห่ะ ห่ะ ห่ะ....
เธอเหนื่อยและเจ็บจากบาดแผลที่อักเสบ ไม่ช้าเธอคงตายแน่หากเลือดยังไหลอยู่เช่นนี้ เส้นผมเนเน๊ะเปียกไปด้วยเหงื่อ ใบหน้าของเธอโชกไปด้วยเลือดสดๆ ขณะยังเหนื่อยไม่ส่าง ศพร่างนั้นกลับใช้มืออันน่าเกลียดเข้าคว้าข้อเท้าเธอไว้แน่น เนเน๊ะสะดุ้งเฮือกและหันขวับ พยายามดิ้นรนขยับร่างตัวเองให้หลุด จนสุดท้ายต้องใช้เท้าอีกข้างเตะเข้าใบหน้ามันอย่างจัง จนเธอพุ่งล้มไปข้างหน้า เนเน๊ะหวาดผวาแล้วลุกตัวขึ้นอย่างช้าๆ จ้องมองมันด้วยสายตาลุ้นระทึก ภาพตรงหน้านั้น มันนอนแน่นิ่งดั่งเดิมไร้พิษสง แล้วจู่ๆ บทบรรยายลึกลับก็ได้ดังขึ้นจากเสียงของใครบางคนก้องไปทั่วพื้นที่ เนเน๊ะละสายตาจากศพ พลันหมุนร่างหว่านตาหาเสียงลึกลับ แม้จะมองทางใดหรือเงี่ยหูฟังทางไหน เธอก็หาไม่พบต้นเสียงก่อนออกตัววิ่งด้วยความหวาดหวั่น ในตอนนี้ ศพร่างเดิมเริ่มขยับกายอย่างติดๆขัดๆคล้ายดั่งผีดิบ
"สิ่งที่เด็กสาวได้แสดงออกมาข้าประทับใจยิ่งนัก การวิ่งหนีเอาตัวรอดจากความตาย การใช้ความมุ่งมั่น ช่างเป็นที่น่านับถือ แต่สาวเจ้ากรรมจะรู้หรือไม่ หากหยดเลือดของเธอไหลหลั่งลงพื้นจะเป็นการเรียกฝูงแมลงวันนับแสนจากกลิ่นคาว ไม่ช้าเหล่าอสรพิษจะเผยออกกายพร้อมเหล่าตะกวดอันน่าขยะแขยง พลันเรียกฝูงหมาล่าเนื้ออีกนับร้อยให้เข้าร่วมชุมนุม.. การไล่ล่าได้เริ่มขึ้นแล้ว!! ในตอนนี้เธอปรารถนาสิ่งใดเล่า น้ำตาของเธอช่างไร้ค่าหากเทียบกับความตายที่ถูกหยิบยื่นให้.. (ในตอนนี้เนเน๊ะยังคงวิ่งแล้วก็วิ่ง วิ่งหนีอย่างสุดชีวิตหลังศพร่างนั้นสาวเท้าตามมาเรื่อยๆโดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุด) หึหึ.. จงวิ่งต่อไปเถิดสาวน้อย ชะตากรรมดั่งหมูในอวยได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่ช้าเธอจะต้องถูกเฉือนอย่างเลือดเย็นและถูกแร่เนื้อออกเป็นชิ้นๆโดยเหล่าตะกวดตัวอวบอ้วน เครื่องในของเธอจะถูกฉีกและเขมือบด้วยฝูงหมาล่าเนื้อ หึหึหึ จงวิ่งต่อไป วิ่ง!! ต่อ!! ไป!!"
พลันสิ้นเสียงบทบรรยายลึกลับ เนเน๊ะถูกต้อนจนมุมเข้าสู่ทางตันอย่างเหลือเชื่อ เธอหันขวับกลับมา มองมันอย่างวิตกพร้อมกำมีดไว้ในมือแน่นสนิท ทันทีที่มันเข้ามาใกล้ เธอกลับถอยกรูดเสียหลักทรุดตัวลงไป ทำให้เข้าทางมันที่กระโจนตัวเข้าใส่คร่อมร่างสาวน้อย การไล่ล่ายุติลง!! มันแย้งมีดจากเนเน๊ะได้อย่างง่ายดาย สาวน้อยเผยสายตาตะลึงงันบนใบหน้าปกติ เธอใช้สองมือปัดไปปัดมายื้อสู้ถึงที่สุด จนกระทั่ง เมื่อมีดอยู่ในมือมัน มันจึงจ้วง! จ้วง! จ้วง! ..... กระหน่ำลง หลายครั้ง หลายแผล เลือดพุ่งกระฉูดฉีดขึ้นเป็นเส้นหลังทุกกครั้งที่มันยกมีดขึ้นและไหลนองลงทั้งร่างทั้งพื้นแดงฉานไปหมด ใบหน้าเนเน๊ะแน่นิ่ง เปลือกตาดูริบหรี่จวนปิด แต่มันยังคงสาวมือจ้วงแทงสาวไส้ร่างเนเน๊ะแทบกลายเป็นรังถึง พอหนำใจ สิ่งชั่วร้ายแสยะยิ้มพลางหัวเราะลั่นออกมาอย่างสะใจบ้าคลั่ง แล้วเลียนิ้วตัวเองเพื่อลิ้มรสคาวเลือดสาวอย่างวิตถาร เมื่อมือสะอาด มันจึงก้มลงเลียเลือดสดบนร่างเนเน๊ะแผล่บๆด้วยลิ้นน่าขยะแขยง ร่างสาวน้อยเกิดอาการกล้ามเนื้อกระตุกตลอดเวลาไปทั่วร่างเหตุพราะจากการถูกแทง นั่นยิ่งทำให้มันรู้สึกสนุกมากเลยทีเดียว แต่สาวน้อยหาได้ตายจริง พอมันเผลอ เธอด่วนแย่งมีดกลับคืนและ.. ปักเข้าที่คอมัน!! ฉับพลัน สิ่งชั่วร้ายชะงักนิ่งและล้มทับตัวเธอ สาวน้อยฝืนใช้กำลังทั้งหมดผลักมันออกไปให้พ้นอย่างสาหัส เนเน๊ะในตอนนี้ เธอนอนสั่นระริกจากอาการล่อแล่ ความเป็นความตายมีเพียงแค่เส้นด้ายบางๆมาขวางกั้น เธออ้าปากค้างดวงตาเบิกกว้าง เกิดอาการอึกๆอั่กๆพลางเอามือกุมแผล อีกไม่นานเธอคงตายหลังจากหมดสติไป..
"อืมมม เจ้าช่างมีความกล้าหาญยิ่งนัก เปี่ยมไปด้วยศรัทธาและความมุ่งมั่น ครั้งนี้ข้าจะช่วยชีวิตเจ้า"เสียงทุ้มลึกลับเปล่งดังก้องในสถานที่เกิดเหตุ แต่เนเน๊ะกลับไม่ได้ยิน
ผ่านไปชั่วครู่..
ซ่าาา!!
มวลคลื่นน้ำได้ไหลหลั่งเข้ามายังพื้นที่เกิดเหตุการณ์ประหลาด ทั้งร่างเนเน๊ะและศพนั่นต่างถูกโถมซัดก่อนท่วมร่างและจมลงไป..
แสงแดดเย็นเหยียบลงสายธารผ่านสายลมล้าละลังแลปลายหญ้าพลันพริ้วไสว
ร่างของเนเน๊ะค่อยๆลอยขึ้นจนพ้นผิวน้ำแล้วลอยเข้าหาฝั่งทุ่งล้านแสง
การช่วยเหลือครั้งนี้เกิดจากผู้พิทักษ์แห่งสายธารที่หนึ่ง
เนเน๊ะรู้สึกตัวจากการสำลักน้ำ เปลือกตาค่อยๆเปิดออกทีละนิดจนเต็มดวง เมื่อความรู้สึกกลับมา เนเน๊ะสะดุ้งลุกขึ้นนั่งทันที
"ห่ะ..!!"
เธอมองไปรอบๆทั่วบริเวณและมองไปยังสายธารที่สาม รู้สึกตกใจปนตะลึงสุดขีดว่าทำไมถึงข้ามมาได้...
"ทำไมล่ะ ทำไมถึงข้ามมาได้!?!"แม้จะมีคำถามเกิดขึ้นในใจ แต่ก็ไม่สามารถหาคำตอบจากใครได้ เธอทำได้เพียงตั้งสติให้มั่นคงเท่านั้น
หลังจากฟื้นตัวอยู่นาน พักหนึ่งก็ลุกขึ้นยืนและเดินไปตามทางทิศเหนือ เพื่อออกตามหาสมุนไพร ซึ่งช่วงนี้เป็นเวลาใกล้พลบค่ำ เธอยังคงเดินต่อไป เดินหาไปเรื่อยๆอย่างไม่ลดละ ด้วยความมุ่งมั่น ในที่สุดก็พบเจอ เธอไม่รอช้า บรรจงใช้น้ำค้างยามรุ่งอรุณรดไปที่รากและใช้น้ำหอมดอกมะลิพรมลงบนเกสร ตามคำบอกของวูดตัน ดอกของสมุนไพรส่งกลิ่นหอมอันอบอุ่น เป็นสัญญาณให้เนเน๊ะรับรู้ว่าทำสำเร็จ เนเน๊ะตัดดอกนั้นมาเก็บไว้ในกระเสื้ออย่างดี แต่กว่าเนเน๊ะจะหาเจอ จนถึงตอนนี้แม้ว่าจะเป็นช่วงราตรีแล้ว แต่ที่นี่ยังทอแสงตลอดเวลา ช่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก
เนเน๊ะรีบเดินทางกลับอย่างรวดเร็ว และเมื่อมาถึงสายธารที่สาม........ เธอคงเพลียจนสลบไป
รุ่งเช้าวันใหม่
หลังตื่นนอน เนเน๊ะยังอยู่ทุ่งล้านแสงและสายธารที่สาม สายน้ำที่เคยเชี่ยวกราดตอนนี้ได้กลับกลายเปลี่ยนไป มันทั้งเชื่องนิ่งและสงบ บริเวณที่เคยลึกสุดเปลี่ยนไป เป็นพื้นน้ำตื้นๆ สามารถข้ามได้โดยการเดินเท้า ไม่เว้นแม้แต่สายธารที่สองซึ่งสงบนิ่ง และทันทีที่ออกจากสายธารที่หนึ่ง
เนเน๊ะรีบวิ่งไปตรงจุดพักม้า แต่แล้วม้าตัวนั้นได้หายไป ซึ่งสาวร้อยคงไม่แปลกใจอะไร เธอจึงจำเป็นต้องเดินด้วยเท้าของตัวเอง
ไปต่อเรื่อยๆจนเข้าสู่เขตป่าคี-ดูเอล เนเน๊ะย่ำเข้าไปพักเดียวต้องระแวงหนักและชั่งใจ เพราะความผิดปกติในป่าแห่งนี้ได้แสดงออกมาชัดเจน... ด้วยสายลมรุนแรง โหมกระหน่ำให้ใบไม้ใบหญ้าน้อยใหญ่โบกสะบัด สาวน้อยหยุดนิ่ง ยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วหรี่ตามองไปรอบๆ แต่ในความคิดเธอนั้น..
"คุณวูดตัน.. ออกมาเถอะค่ะ"เนเน๊ะเอ่ยพลางหมุนตัวไปทั่ว แน่ใจว่าต้องเป็นวูดตันแน่ๆ
"ไม่ นั่นไม่ใช่ฝีมือข้าหรอก มีบางสิ่งกำลังตามหาเจ้า จงระวังตัวด้วย!!"(เสียงวูดตันกระซิบเบาๆผ่านสายลมมาข้างหูเนเน๊ะ)
ได้ยินดังนั้น มืออีกข้างของเธอเลื่อนกุมด้ามมีดไว้แน่น
กิ่งไม้ใหญ่น้อยสั่นไสวไปมาตามแรงลมที่กระทบ เสียงที่เกิดจากต้นไม้ ด้วยใบเสียดสีกันฟังดูมันช่างน่าหดหู่เหลือเกิน บนท้องนภาเหนือก้อนเมฆมีบางอย่างพุ่งตรงมาอย่างรวดเร็ว เป้าหมายคือเนเน๊ะผู้อยู่เบื้องล่าง นัยน์ตาเฉียบคม ขนาดร่างกายอันยิ่งใหญ่ถูกปกคลุมไปด้วยขนสีขาว ทะยานลงมาจากฟากฟ้าและชะลอความเร็วลงก่อนถึงร่างเนเน๊ะ มันคืออินทรีขาวและใครบางคนอยู่บนหลังมันเป็นผู้นำทางมาที่นี่
"ไม่ นั่นไม่ใช่ศัตรูของเรา"หลังสายลมกระหน่ำสลายสิ้น เจ้าของอินทรีขาวรีบกล่าวอย่างรวดเร็วหลังจอดลงพื้นพร้อมใช้มือตบหลังมันเบาๆ เพื่อห้ามปรามขณะมันกำลังจ้องหน้า และคิดจะทำร้ายเนเน๊ะที่ยังกุมด้ามมีดไว้แน่น
คนแปลกหน้าค่อยๆก้าวลงจากอินทรีขาวอย่างสง่า เขาสวมชุดเกราะดูน่าเกรงขาม มีธนูและลูกเกาทัณฑ์ดูขรึงขลังคาดอยู่สะพายแล่ง ท่าทางอันสง่างามเดินตรง เข้าหาเนเน๊ะที่กำลังจ้องมองด้วยความงงและระวังตัว
เนเน๊ะเปิดฉากทักทายก่อน ที่พวกเขาจะเข้ามาใกล้ไปมากกว่านี้
"สวัสดีค่ะคุณนักรบ"เนเน๊ะทำใจดีสู้เสือ เพื่อบรรเทาอาการตึงเครียดในหัว
"สวัสดี..เธอชื่อเนเน๊ะใช่ไหมจ๊ะ แล้วทำไมถึงได้มาเก็บสมุนไพรคนเดียวล่ะ ไม่กลัวบ้างเลยรึไงฮึ? ฉันชื่อ เพียล่า ยินดีที่ได้รู้จักนะเนเน๊ะ แล้ว.. ก็ปล่อยมือจากอาวุธนั่นได้แล้วนะ"ด้วยใบหน้าอันอ่อนโยน กับคำพูดเป็นมิตรหลังคลายหมวกเกราะออกเผยใบหน้าสะสวย เนเน๊ะคลายความตึงเครียดลงได้บ้าง ก่อนละมือที่กุมด้ามมีดออกแล้วสบตากับสาวนักรบ
เพียล่าดีใจเป็นอย่างมากที่ได้พบเนเน๊ะ โดยมีความตั้งใจว่าจะนำเธอเข้าร่วมกลุ่มในการทำภารกิจ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ