จำนนเสน่หาแบดบอย

3.7

เขียนโดย ศิริพารา

วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 21.04 น.

  21 ตอน
  0 วิจารณ์
  21.90K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 22.11 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) จำนนเสน่หาแบดบอย ตอนที่ 4 50%

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ทันทีที่เดินทางมาถึงเกาะส่วนตัวของเขาก็ต้องยิ้มออกมาเมื่อเห็นปราสาทบาร็อกหลังคาสีเขียวขี้ม้าก็ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงหน้า พิลาสินีเดินผ่านรั้วต้นไม้เตี้ยๆที่ตัดแต่งอย่างเป็นระเบียบ แปลงดอกบลูเบลล์ซึ่งตอนนี้มีเพียงต้นของมันแต่ความถี่และจำนวนที่เห็นทำให้นึกไปถึงช่วงเวลาที่ดอกสีม่วงนี้บานสะพรั่ง กลิ่นหอมที่ลอยคละคลุ้งอยู่ทั่วบริเวณคงทำให้อารมณ์ดีไปหลายวัน ตรงกลางสวนหย่อมเป็นลานน้ำพุที่มีรูปปั้นคิวปิดตัวน้อยราวห้าหกตัวอยู่ในอิริยาบถที่แตกต่างกันออกไป

“เชิญด้านในดีกว่าครับ” โยวันเอ่ยขึ้นเมื่อเดินตามหลังมาแล้วเห็นว่าหญิงสาวชะงักการก้าวเดินครู่หนึ่ง กวาดสายตามองไปรอบๆบริเวณ

พิลาสินีส่ายหน้าให้กับความทรงจำครั้งเก่าที่เคยมีร่วมกับเจ้าของเกาะแห่งนี้ ถ้าคิดว่าสิ่งที่เห็นเขาสร้างตามความคิดของตนก็คงเป็นความคิดที่เลื่อนเปื้อน ช่วงเวลาเพียงสามเดือนที่รู้จักกันจะทำให้เขาจดจำเธอได้ทุกวินาทีอย่างไร

“เอากระเป๋าคุณผู้หญิงขึ้นไปเก็บในห้องที่เตรียมไว้” โยวันส่งกระเป๋าเดินทางของเธอให้กับแม่บ้านที่เดินออกมาต้อนรับ

“ไม่ต้องก็ได้ค่ะ ดิฉันคงไม่รบกวนคุณถึงขนาดนั้น คิดว่าคงจะใช้เวลาคุยกับมิสเตอร์คอนราดสันไม่นาน อีกอย่างดิฉันจองตั๋วเครื่องบินกลับคืนนี้ด้วยค่ะ” พิลาสินีบอกและได้แต่มองตามกระเป๋าเดินทางใบเล็กของตนที่ถูกแม่บ้านหิ้วขึ้นไปชั้นบนแล้ว

“ถึงอย่างนั้นก็ต้องมีห้องสำหรับทำธุระส่วนตัวนะครับ คุณเดินทางมาหลายชั่วโมงคงจะเพลียไม่น้อย ผมว่าระหว่างที่รอท่าน ขึ้นไปล้างหน้าล้างตาหรือหลับสักงีบ ถ้าท่านมาถึงเดี๋ยวผมจะให้คนไปเรียกนะครับ”

พิลาสินียิ้มอย่างเกรงใจเพราะไม่คิดว่าจะได้รับการต้อนรับที่ดีเยี่ยมเช่นนี้จึงได้แต่เดินขึ้นไปยังชั้นบนตามที่ชายหนุ่มผายมือเชื้อเชิญ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าโยวันนั้นทำเพื่อถ่วงเวลาให้เธอรอเจ้านายด้วยความสบายใจ เพราะหากต้องมานั่งชะเง้อรอโดยไม่มีกิจกรรมอย่างอื่น นั่นยิ่งจะเพิ่มความกระวนกระวายใจให้เธอมากขึ้น

 

เมื่อแม่บ้านสาวเดินออกไปจากห้องแล้วพิลาสินีจึงกวาดสายตามองรอบๆ ความหรูหราในสไตล์บาร็อกทั้งภายนอกและภายในปราสาทหลังนี้ทำให้เธอเจริญตาเจริญใจได้ไม่น้อย หากไม่มีเรื่องธุรกิจซึ่งสร้างความหนักใจมาตลอดระยะเวลาร่วมปี ก็ถือว่าห้องนอนที่ปรากฏต่อสายตานี้เป็นกำไรอย่างหนึ่งของชีวิตได้เช่นกัน

ความความอ่อนล้าทั้งร่างกายและจิตใจทำให้นึกอยากแช่น้ำอุ่นๆเพื่อเรียกความสดชื่น หญิงสาวจึงเดินไปหยิบกระเป๋าเดินทางใบย่อมของตนเดินเข้าไปในส่วนของห้องน้ำที่แบ่งพื้นที่ใช้สอยได้อย่างลงตัว อากาศหนาวเย็นที่ได้สัมผัสมาเมื่อครู่ถูกปลอบประโลมด้วยสายน้ำอุ่นจัด แม้ว่าใจจริงแล้วอยากเอนตัวลงแช่ในอ่างครึ่งวงกลมที่ตั้งอยู่ริมหน้าต่างบานใสนั้นก็ตามแต่จุดประสงค์ในการมาพบเจ้าของปราสาทหลังนี้ทำให้เธอต้องรีบจัดการกับตัวเอง การลงไปนั่งรอเขาจึงเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติเสียมากกว่าหาความสำราญใจให้ตัวเอง เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงไม่รีรอที่จะทำตามและไม่กี่นาทีต่อมาพิลาสินีก็อยู่ในเสื้อผ้าชุดใหม่แล้วนั่งรอพบพ่อมดทางการเงินแห่งยุโรปในห้องนั่งเล่นตามที่คนสนิทของเขาเชื้อเชิญ

...จากครึ่งชั่วโมงกลายเป็นชั่วโมง จากหนึ่งชั่วโมงกลายเป็นสี่ชั่วโมง พิลาสินีขี้คร้านจะนับว่าภายในสี่ชั่วโมงนี้ตนถอนหายใจออกมาแล้วกี่ครั้ง เมื่อเวลาในช่วงบ่ายที่ควรจะได้พูดคุยกับลินเนอุสหมดไปโดยเปล่าประโยชน์ ความอร่อยของอาหารมื้อกลางวันในตอนบ่ายสองเศษที่ยกเข้ามาทำให้ลืมเรื่องเวลาไปได้ชั่วครู่และทำให้อดทนรอต่อไปได้อีกราวชั่วโมงครึ่ง

พิลาสินีมองดูนาฬิกาสลับกับบริเวณหน้าทางเข้าปราสาทอยู่บ่อยครั้งก็ไม่มีวี่แววว่าจะได้พบกับคนที่เธอรอเลยสักครั้ง ความอดทนสิ้นสุดลงเมื่อนั่งรอเขานานถึงห้าชั่วโมงครึ่งจึงได้ลุกขึ้นเดินออกจากห้องนั่งเล่นพลางสอดส่ายสายตาหาร่างคนสนิทของเขาที่ได้พูดคุยกันครั้งสุดท้ายเมื่อตอนที่แม่บ้านยกอาหารกลางวันมาให้

ความหรูหรา งดงาม ใหญ่โตที่ควรมองแล้วให้ความรู้สึกอบอุ่นแต่กลับเงียบเชียบจนดูเป็นเย็นชาทั้งที่มันคือบ้านซึ่งต้องรายล้อมไปด้วยความอบอุ่น พิลาสินีเดินเข้าไปหาแม่บ้านคนหนึ่งซึ่งกำลังก้มๆเงยๆเช็ดตู้กระจกบานใหญ่กลางห้องโถง

“ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่ามิสเตอร์คอนราดสันจะกลับมาเมื่อไหร่?” ถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติที่สุด แต่คนฟังกลับหมุนตัวมาหาด้วยใบหน้าและท่าทางเหลอหลาแล้วโต้ตอบด้วยภาษาสวิดิชที่เธอไม่อาจจะเข้าใจ แต่กิริยาที่แม่บ้านยื่นมือออกมาเชิงให้รออยู่ที่นี่แล้ววิ่งหายเข้าไปด้านในก็ทำให้พิลาสินีเข้าใจได้ว่าคงไปจะเรียกคนที่สามารถสื่อสารกับเธอได้มาหา

ไม่กี่อึดใจต่อมาเสียงฝีเท้าของใครบางคนที่เดินใกล้เข้ามาก็ทำให้พิลาสินีหันกลับไปมองยังประตูทางเข้าของตัวปราสาท

“ต้องการให้ผมช่วยอะไรไหมครับ เห็นแม่บ้านบอกว่าคุณถามอะไรเขาสักอย่าง” โยวันถามด้วยน้ำเสียงสุภาพทันทีที่เดินเข้ามาเห็นร่างอ้อนแอ้นยืนอยู่กลางห้องโถง

“คือ... ดิฉันอยากทราบว่ามิสเตอร์คอนราดสันจะมาถึงที่นี่สักกี่โมงคะ” พิลาสินีกลั้นใจถามออกไป รู้ดีว่าเป็นการเสียมารยาทเพราะต่อให้ต้องรอเขานานแค่ไหน เธอก็ไม่ควรจะเกี่ยงงอนแต่เวลาเดินทางกลับประเทศไทยในกลางดึกของคืนนี้เป็นตัวเร่งให้ต้องถามออกไปตรงๆเช่นนั้น

“เอ่อ...” สมองของโยวันกำลังนึกหาเหตุผลดีๆที่ทำให้คนรอมาหลายชั่วโมงใจเย็นรอเจ้านายของตนต่อไป แต่ยังไม่ทันได้ชี้แจง เสียงหวานก็เอ่ยขึ้นมาด้วยความเกรงใจจนคนฟังอดสงสารไม่ได้

“ดิฉันทราบว่าเป็นการเสียมารยาทมาก แต่ถ้าไม่ได้จองตั๋วกลับไทยไว้คืนนี้ดิฉันก็คงไม่ต้องรีบร้อนแบบนี้ เอาอย่างนี้ได้ไหมคะ คุณพาดิฉันไปรอพบมิสเตอร์คอนราดสัน ถ้าเขาเสร็จจากงานก็จะได้พูดคุยกันเลย ไม่ต้องเสียเวลาให้เขาเดินทางมาที่นี่อีก” พิลาสินีอธิบายความจำเป็นของตนทั้งรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อเห็นท่าทางของชายตรงหน้าก็รีบอ้อนวอนอีกครั้ง “นะคะ... ดิฉันจำเป็นจริงๆ”

แน่นอนว่าโยวันไม่เคยใจแข็งกับสุภาพสตรีได้สักครั้ง เขาลอบถอนหายใจและผายมือเชิญให้หญิงสาวเดินนำหน้าออกจากปราสาทหลังงามพลางนึกถึงเจ้านายที่พยายามติดต่อเพื่อรายงานสถานการณ์ทางนี้ แต่เจ้าตัวกลับปิดเครื่องมือสื่อสารหลังจากที่เขาแจ้งให้ทราบว่า เธอกำลังทำธุระส่วนตัวในห้องพักที่เตรียมไว้ให้แล้ว

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา