ถึงคราวนางร้าย ทะลุมิติ
เขียนโดย nightshadow
วันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 20.45 น.
แก้ไขเมื่อ 23 กันยายน พ.ศ. 2558 16.14 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) ทำความรู้จักและจับสังเกตุ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลังจากพราวนภาได้มอบของขวัญและกล่าวคำอำลา ท่านเจ้ากรมการคลังเรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางกลับมาถึงบ้านของคหบดี พร้อมบอกกล่าวว่าตนได้ทำหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายเรียบร้อยแล้ว
"ข้าได้มอบของขวัญแก่ท่านเจ้ากรมการคลังถึงมือ ตามที่ได้รับมอบหมายแล้วเจ้าค่ะ ท่านพ่อ ถ้าท่านพ่อไม่มีอะไรจะให้ข้าทำแล้ว ลูกขออนุญาติออกไปเดินเที่ยวนอกบ้านกับอันหนิง ได้หรือไม่เจ้าคะ?"
"เอาสิลูก พ่ออยากให้เจ้าออกไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาข้างนอกบ้างก็ดี แต่ก่อนเห็นเจ้ามัวแต่อุดอู้ อยู่แต่ในบ้าน ไม่ค่อยออกไปไหนกับใครเขาบ้างเลย พ่อดีใจนะที่เจ้ารู้จักอยากออกไปเที่ยว ยังไงก็ระวังตัวเองดีๆล่ะ" หลังจากรับคำพราวนภาก็ชวน อันหนิง ออกมาเดินเที่ยวนอกบ้าน เพราะเธออยากทำความรู้จักกับสถานที่ในเมืองของภพใหม่ที่เธอไม่เคยได้เห็น ยังไงเธอก็ต้องออกไปสำรวจอะไรไว้บ้างในฐานะที่จะต้องใช้ชีวิตในร่างใหม่ สถานที่ใหม่ เธอเองก็ยังรู้สึกใจหายและหดหู่อยู่บ้างเหมือนกันที่ ต้องจากบิดา มารดา ในภพเดิมสมัยที่ยังเป็นพราวนภาอยู่ แต่ถึงจะยังไงมันก็ต้องทำใจ เพราะมันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีกแล้ว นอกจากเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ แต่ถึงเธอจะมาในร่างใหม่ และอยู่ในที่ต่างจากเดิม เธอก็ยังคงเป็นเธอ ที่กล้าพอที่จะทำตามใจตัวเอง เพราะสำหรับเธอแล้วชีวิตเธอ เธอก็ต้องลิขิตเองสิ และในเมื่อเธอได้รับโอกาสกลับมามีชีวิตใหม่ เธอก็จะขอใช้สิทธิ์นี้ให้คุ้มกับโอกาสที่ได้รับ
"อันหนิง เดี๋ยวเจ้าช่วยแนะนำ พาข้าไปเดินดูสถานที่ต่างๆ ที่น่าสนใจทีนะ อย่างที่ข้าบอกไปแล้วว่าข้าจำอะไรไม่ได้เลย คงต้องให้เจ้าช่วยบอกสิ่งต่างๆที่ลืมเลือนไปที" "ได้สิเจ้าคะคุณหนูเดี๋ยวบ่าวจะพาท่านไปเดินเที่ยวให้ทั่วเลยเจ้าค่ะ หลังจากรับคำนายสาวของตน สองสาวก็พากันเดินดูนั่นนี่ไปเรื่อย พราวนภารู้สึกตื่นเต้นกับสถานที่ในยุคจีนโบราณที่เคยเห็นแต่ในหนังจีนย้อนยุค แต่พอมีโอกาสได้มาเห็นของจริงก็อดที่จะรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้ "บ่าวอยากพาคุณหนูไปสถานที่หนึ่ง เป็นสถานที่งดงามมากเจ้าค่ะ รับรองคุณหนูต้องชอบแน่เจ้าค่ะ เมื่อก่อนคุณหนูไม่ค่อยชอบออกจากบ้านไปไหน แต่มีสถานที่หนึ่ง คุณหนูกับข้ามักเคยมาด้วยกัน ในยามทีี่คุณหนูไม่สบายใจ น่ะเจ้าค่ะ"
หลังจากนั้น อันหนิงก็พาเธอมายังสถานที่หนึ่ง พบว่าบริเวณที่นั่นเป็นน้ำตกที่สวยงาม บริเวณนั้นมีพรรณไม้สีสันสดใสสวยงามยิ่งนัก และสาวใช้ได้พาเธอมาเดินจนมาหยุดอยู่อีกด้านของน้ำตก พบว่าเป็นบ่อน้ำใสสะอาด จนสามารถมองเห็นปลาแหวกว่ายได้ชัดเจน สองสาวเดินมานั่งพักชมทิวทัศน์ต่างๆอย่างสะบายตาสะบายใจ ระหว่างที่มองดูทิวทัศน์เพลินๆอยู่นั้น พราวนภาก็ได้ยินเสียงใครคนหนึ่ง ทักขึ้น "อ้าวๆ นั่นใช่นางฟ้าเฟิงเซียนคนสวยใช่ไหมๆ ?" พอหันไปตามเสียงก็พบว่าผู้ที่ทักตนคือชายหนุ่มปัญญาอ่อนที่เธอเคยช่วยไว้ กับสหายอีกคนของเขา เธอก็ได้ยิ้มทักทายออกไป
"อ้าว...นั่นเทียนฟงนี่นา เจ้ามาทำอะไรที่นี่ล่ะเนี่ย? ไม่นึกว่าจะได้เจอเจ้าอีกนะเนี่ย"
"อ๋อ? ข้า..ให้สหาย ของข้า! พามาเที่ยวน่ะ! มาเล่นด้วยกันสินะๆนางฟ้านะ"
"อืม ได้สิว่าแต่สหายเจ้าอีกคนใครน่ะ?" เธอเอ่ยถามพร้อมเหลือบมองไปยังชายหนุ่มอีกคน
"เรียนแม่นาง ข้าชื่ออี้หนานเป็นสหายสนิทกับเทียนฟงตั้งแต่ยังเล็กน่ะ เห็นเทียนฟงเล่าให้ข้าฟังว่าแม่นางเป็นคนช่วยเขาไว้จากพวกเด็กเกเร ข้าต้องขอบคุณแม่นางมากที่ช่วยสหายของข้า"
"ไม่เป็นไรหรอก เรื่องเล็กน้อยน่ะ เพื่อนมนุษย์ด้วยกันก็ต้องช่วยกันอยู่แล้ว มานั่งคุยกันตรงนี้ดีไหม ทิวทัศน์ที่นี่งดงามดีนะ ข้าเองเอาอาหารมาซื้อขนมติดมาเยอะเลย มาทานด้วยกันดีไหม?" เธอเอ่ยพร้อมหยิบกล่องขนมที่ภายในมีอยู่หลายชิ้นออกมาเปิด
"เย้ๆ ดีๆ ข้ากินด้วยคนนะ" ชายหนุ่มปัญญาอ่อน กล่าวจบก็รีบคว้าขนมหยิบมากินทันทีท่าทางน่าอร่อย หญิงสาวยิ้มขันอย่างไม่ถือสา พลางกล่าวแนะนำสาวใช้ข้างกาย "นี่ อันหนิง สาวใช้ของข้าเอง "ยินดีที่ได้รู้จักแม่นางอันหนิง" ชายหนุ่มยิ้มรับทำความรู้จัก ในใจก็รู้สึกถูกชะตากับสาวใช้ตรงหน้า นางจัดว่าเป็นหญิงสาวหน้าตาน่ารัก งามเรียบ ดูอ่อนหวาน แม้ไม่งามเย้ายวนเท่าเจ้านายสาวของตน แต่ก็เป็นหญิงสาวที่น่ามองไม่เบื่อ ในขณะที่กำลังดื่มด่ำกับบรรกาศที่งดงามก็มีเสียงของหญิงสาวนางหนึ่งดังขึ้น "อู๊ยตาย เฟิงเซียนกับนังคนใช้ แอบหนีงานมาทำอะไรที่นี่ล่ะเนี่ย?" ไม่ต้องหันมามองก็จำเสียงได้ว่า เป็นเสียงของเหม่ยเซียนพี่สาววายร้ายของเฟิงเซียนนั่นเอง ทำเอาอารมณ์ที่อยากชมธรรมชาติกร่อยทันที
พราวนภากรอกตาขึ้นฟ้าอย่างเซ็งจัด พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย "ข้าว่าท่านพี่กล่าวผิดแล้วละมั้งเจ้าคะ ข้าจำได้ว่าท่านพ่อบอกให้ท่านเป็นคนทำงานบ้านแทนข้าไม่ใช่เหรอเจ้าคะ? แล้วข้าก็ได้ขออนุญาติท่านพ่อก่อนแล้ว ข้าก็มาเที่ยวของข้าบ้างน่ะสิเจ้าคะ"
เหม่ยเซียนชักสีหน้าถลึงตาใส่น้องสาวต่างมารดา แต่แล้วก็เหลือบไปเห็นหนุ่มทั้งสองที่อยู่ด้วยกัน เหม่ยเซียนรีบเดินเข้าไปคล้องแขน อี้หนาน เพราะจำได้ว่าเป็นชายหนุ่มที่มาเกี้ยวพาราสีตน แล้วก็เหลือบไปมองชายหนุ่มอีกคนที่นั่งกินขนมอยู่กับน้องสาวด้วยท่าทางมูมมามปากเขลอะด้วยขนม ท่าทางปัญญาอ่อน ก็เบ้สีหน้าดูถูก พรางเอ่ยปากถามกับ อี้หนาน
"ท่านนั่นเอง ข้าจำท่านได้นะที่มาคุยกับข้า อี๊! นั่นอะไรน่ะ? ผู้ชายคนนั้นท่าทางสติไม่ดี เฟิงเซียนเดี๋ยวนี้เจ้ามีคนปัญญาอ่อนเป็นสหายด้วยเหรอ? แต่มันก็ดูเหมาะสมกันดีนะ" หญิงสาวกล่าวถากถาง พลางทำหน้านึกอะไรได้ก็ยิ้มอย่างหมายมั่น แล้วจู่ๆก็หยิบชิ้นหยกที่ห้อยติดตัวมาชิ้นหนึ่ง พลางชูขึ้นแล้ว เอ่ยขึ้นว่า
"นี่ๆเจ้าคนปัญญาอ่อน" เหม่ยเซียนหันมาหาชายหนุ่มปัญญาอ่อน แล้วเขวี้ยงชิ้นหยกในมือทิ้งลงน้ำ แล้วกล่าวขึ้นว่า "อุ๊ยข้าทำชิ้นหยกตกน่ะดูสิ เจ้าลงไปงมให้หน่อยนะ" อี้หนานเห็นดังนั้นแม้จะรู้สึกไม่พอใจแต่ก็อาสา งมชิ้นหยกมาให้หญิงสาวแทน "ข้าขอลงไปงมให้แม่นางแทนเขาเองก็แล้วกัน"
แต่แล้ว พราวนภาก็ได้เอ่ยปากปรามขึ้นซะก่อน "เดี๋ยวก่อนนะ อี้หนานเจ้าไม่ต้องลงไปงมให้พี่สาวข้าหรอก" กล่าวจบก็เดินเข้าไปหาเหม่ยเซียน แล้วเอ่ยถามขึ้น ท่านพี่ไม่ทราบว่าท่านจำได้หรือไม่เจ้าคะ ว่าชิ้นหยกมันตกลงไปตรงไหน? ลองชี้ให้ข้าดูทีซิ" เธอพูดพร้อมเดินเข้าไปใกล้หญิงสาว ทางด้านเหม่ยเซียนก็คิดว่า น้องสาวต่างมารดาจะเป็นผู้ลงไปงมก็ยิ้มสมใจ รีบชี้มือไปยังจุดที่ชิ้นหยกตก
"นั่นไงล่ะ มันตกตรงนั้นเจ้าจะลงไปงมให้ข้าใช่หรือไม่?" พราวนภาเออออรับคำ "อืม อ้อ ตรงนั้นสินะเจ้าคะ? ท่านพี่คงเข้าใจอะไรผิดไปแล้วล่ะ! ในเมื่อรู้จุดแน่แล้วก็ขอเชิญท่านพี่ลงไปงมเอาเองก็แล้วกันนะเจ้าคะ!" กล่าวจบก็ยกเท้าขึ้นยันไปที่บั้นท้ายของหญิงสาวจนร่างตกลงไปในน้ำ ตู้ม!! แล้วกล่าวสำทับไปว่า "ในเมื่อโยนลงไปเอง ก็ขอเชิญเก็บเอาเองก็แล้วกันนะท่านพี่เจ้าขา" "พวกเราไปที่อื่นกันต่อเถอะ" เธอหันมาบอกกับสาวใช้ของตนและสองหนุ่ม
การกระทำของเธอตกอยู่ในสายตาของชายหนุ่มปัญญาอ่อนที่ลอบสังเกตุมาตั้งแต่ต้น ชายหนุ่มลอบยิ้มขัน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ