ถึงคราวนางร้าย ทะลุมิติ

8.7

เขียนโดย nightshadow

วันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 20.45 น.

  29 ตอน
  7 วิจารณ์
  71.27K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 กันยายน พ.ศ. 2558 16.14 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

15) ประชุมวางแผน ตอนที่2 / และความคิดในมุมของตัวร้าย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

พราวนภา นิ่งคิดอยู่ชั่วครู่ จึงเอ่ยขึ้นว่า "เราต้องใช้โอกาสที่ทางฝ่ายนั้น ยังไม่ลงมือปลุกปั่นยั่วยุราษฎร ให้ฝ่าบาททรงสร้างผลงาน ทำประโยชน์ต่างๆให้ราษฎรในนามของคนปัญญาอ่อนเทียนฟง คอยช่่วยเหลือชาวบ้านผู้เดือดร้อน ทุกข์ยาก เพราะในเมื่อฝ่าบาทก็อยู่นอกวังอยู่แล้ว ก็ค่อยๆ ใช้โอกาสนี้สร้้างผลงาน ทำให้ราษฎรรักและยอมรับในตัวเทียนฟงที่เป็นคนปัญญา่อ่อนให้ได้ เมื่อไหร่ที่ราษฏรรู้ว่าเทียนฟงที่ราษฎรส่วนใหญ่รู้จัก คือ ฮ่องเต้นอกจากจะไม่คิดต่อต้านราษฎรก็อาจเป็นเกราะ ช่วยกันปกป้องฝ่าบาทอีกด้วย แบบนั้นก็จะหมดปัญหาหากฝ่ายนั้นคิดทำอย่างที่ว่า"  

 

"ทรงปราดเปรี่ยงยิ่งแล้วพะยะค่ะ" อี้หนานกล่าวชื่นชม   ทางด้านฮ่องเต้หนุ่มรู้สึกภาคภูมิใจ ในตัวหญิงสาวยิ่งนัก เขารู้สึกโชคดี ที่ค้นพบอัญมณีล้ำค่า ที่เข้าต้องไขว้คว้าไว้ครอบครองให้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม

 

"เอ่อ... มีเรื่องหนึ่งที่กระหม่อม อยากปรึกษาฮองเฮาหน่อยน่ะพะยะค่ะ  เรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่ฝ่าบาทยังทรงพระเยาว์ ในตอนนั้นมีการลอบปลงพระชนม์ มีการวางยาพิษในพระกระยาหารที่ฝ่าบาทจะทรงเสวย แต่ผู้ที่เสวยและสวรรคต คือพระปิตุลาซึ่งเป็นลุงของฝ่าบาทน่ะพะยะค่ะ แต่ปรากฏว่าเรื่องยุติแค่ว่าพ่อครัวผู้ปรุงพระกระยาหาร ถูกประหาร แล้วไม่สามารถหาตัวผู้บงการใดๆได้เลย เรื่องนี้ทั้งฝ่าบาทและกระหม่อมรู้สึกค้างคาใจมาตลอด ไม่ทราบว่าจะทำประการใดดีกระหม่อมจึง อยากขอถามความเห็นของฮองเฮาช่วยทรงวินิจฉัยด้วยพะยะค่ะ"

พราวนภาเอามือลูบปลายคาง ขมวดคิ้วนิ่ง แล้วจึงกล่าวว่า "แม้ว่าเรื่องนี้้จะเกิดขึ้นมานานแล้ว จนบางทีอาจไม่เหลือหลักฐานใดๆอีก... แต่ว่าผู้บงการและผู้สมรู้ร่วมคิดยังคงอยู่ ไม่จำเป็นต้องหาหลักฐานเพื่อเอาผิด เพราะว่าจนป่านนี้แล้วคงไม่หลงเหลือหลักฐานอะไรหรอก แต่หากจะเริ่มสืบว่าใครเป็นผู้กระทำผิดบ้างก็คงได้อยู่นะ"  

 

"ต้องเริ่มสืบตั้งแต่เรื่องที่ว่าใครเป็นผู้ช่วยในการปรุงเครื่องเสวยในครั้งนั้นบ้าง อาจลองสอบถามว่าในตอนนั้นได้มีการบันทึกหรือไม่ว่า ผู้ที่ช่วยกันปรุงพระกระยาหารถวายนั้นมีใครบ้าง? จากนั้นก็สืบว่าผู้ที่สอบสวน คดีในครั้งนั้นเป็นใคร มีใครเป็นพยานในคราวนั้นบ้าง? เพราะคาดว่าคนพวกนั้นต้องช่วยกันปกปิดสมรู้ร่วมคิดกันโดยตรงแน่นอน   เพราะเรื่องใหญ่ขนาด ลอบปลงพระชนม์กลับปิดเงียบ แสดงว่ามีผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย ผู้บงการอาจมีเพียงคนเดียว  แต่พวกที่ร่วมกันปิดบังเพราะตัวเองก็มีชนักติดหลังจึงจำเป็นต้องร่วมมือด้วยเพื่อความอยู่รอดของตนเอง ก็น่าจะมี แล้วคนเหล่านั้นส่วนมากเป็นพวกวัวสันหลังหวะ เพราะตัวเองเป็นผู้ร่วมรู้เห็นด้วย ทั้งยังไม่ได้อยู่ในฐานะผู้นำหรือผู้บงการโดยตรง ก็จะเกิดความกลัวโดยธรรมชาติอยู่แล้ว"  

 

"ขอเพียงให้รู้แน่นอน  ว่าในตอนนั้นมีใครสมรู้ร่วมคิดกันบ้าง แม้ไม่ต้องมีหลักฐานก็อาจจะใช้แผนทำให้คนพวกนั้นหวาดระแวงกันเอง ใช้จิตวิทยาหลอกล่อให้คนพวกนั้นเชื่อว่า  เรื่องที่พวกตนร่วมรู้เห็นเป็นใจกับคดีนั้นแดงขึ้นมาแล้ว เพราะถูกหักหลังจากผู้สมรู้ร่วมคิดคนอื่นๆ เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนั้น ก็จะเริ่มเกิดความไม่ไว้วางใจและกำจัดกันเอง โดยที่พวกเราไม่ต้องลงมือทำอะไรเลยเพียงแต่จำเป็นต้องสืบเรื่องนี้ให้แน่ชัดซะก่อนว่ามีใครร่วมมือกันบ้าง จึงจะใช้แผนนั้นได้้ เพียงแต่การดำเนินการต้องค่อยเป็นค่อยไป อย่าทำให้ไก่ตื่น เพราะ อย่าลืมว่าผู้บงการอาจกำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวอยู่ ต้องดำเนินการอย่างลับๆ และรอบคอบที่สุดไม่ให้พวกนั้นไหวตัวทัน แต่เรื่องนี้ลำพังเจ้า เพียงคนเดียวอาจตึงมือเกินไป"  

 

"หลังจากรวบรวมคนที่ภักดีกับฝ่าบาทได้แล้ว ก็ขอความร่วมมือจากพวกเขาให้ช่วยอีกแรงหนึ่งแล้วกัน"

ในขณะที่พราวนภาคิดไปพลาง กล่าวไปพลาง โดยไม่ได้สังเกตุเลยว่า คนฟังในนี้นั้นพากันนิ่งเงียบ ต่างฝ่ายต่างคิด  คนแรกอี้หนานคิดว่า ช่างเป็นฮองเฮาผู้ปราดเปรื่องโดยแท้ ส่วนสาวใช้อันหนิงก็คิดว่า หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าใช่คุณหนูของตนแน่หรือ? ที่สามารถคิดอะไรได้ถึงขนาดนี้ ส่วนฮ่องเต้หนุ่มนั้นคิดว่านับเป็นอีกเรื่องที่ตอกย้ำได้เป็นอย่างดี ว่านาง ไม่ใช่หลิวเฟิงเซียน เพราะหญิงสาวสามัญที่วันๆ ไม่ค่อยได้ออกจากบ้าน เก็บตัว หัวอ่อน ไม่มีทางที่จะมีความคิดที่ปราดเปรื่องถึงขั้นนี้ได้แน่  ตัวตนของนางเป็นใครกันแน่นะ

 

นั่นเป็นความคิดของแต่ละคนที่อยู่ที่นั่น  แต่สำหรับพราวนภา เพราะเธอเคยแสดงบทบาทนางร้ายมาทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะร้ายโจ่งแจ้ง ร้ายลึก ร้ายวางแผนบทที่เธอแสดง เคยเป็นหลากหลายทั้งผู้บงการ ผู้สั่งการ ไปจนถึงผู้รับคำสั่ง

เพราะศาสตร์แห่งการแสดงนั้น ก่อนที่จะแสดงให้สมจริงจนทำให้คนดูเชื่อ ก็ต้องคิดว่าเราเป็นตัวละครตัวนั้นจริงๆ ต้ิองถอดจิตวิญญาณ ความคิดของตัวละครตัวนั้นออกมาก่อน แล้วจึงแสดงเพื่อให้คนดูเชื่อว่าเราเป็นเช่นนั้นจริง ดังนั้นในขณะที่กำลังใช้ความคิด เธอก็ได้ลองถอดจิตวิญญาณเป็นตัวร้าย ที่เธอกำลังจะต้องไปเผชิญหน้า เพราะละครที่เธอเคยแสดงที่แล้วมาหากผิดพลาดยังมีเทคใหม่ได้ แต่ละครชีวิตจริงในครั้งนี้ ไม่อนุญาติให้มีความผิดพลาดใด

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา