Red Umbrella
10.0
1) บทนำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ-บทนำ-
...คุณเชื่อจริงๆหรือ? ว่าคำสาปมีจริง ว่าตำนานที่เล่าขานต่อๆกันมาเป็นเรื่องจริง ...คุณเชื่อคำพูดนั่นจริงๆหรือ? คำพูดที่บอกว่ารัก คำพูดที่สัญญาแบบขอไปทีนั่นน่ะ
...คุณเชื่อมันจริงๆหรือ?...
คุณรู้อะไรไหม ว่าคำสาปบนโลกนี้น่ะมันสามารถสาปกันได้ง่ายๆ แค่ควงฆทาไปมาแล้วท่องมนต์แค่นั้นก็จบแล้ว เปลืองสมองเนอะคุณว่าไหม? ไม่ว่าหนังสือเล่มไหนๆก็กล่าวถึงคำสาปเหมือนๆกันหมดทุกเล่ม ...น่าเบื่อ... ไม่ว่าอะไรก็บอกวิธีร่ายสาปที่เหมือนๆกันอย่างกับคัดลอกกันมางั้นแหละ แล้วหนังสือทุกเล่มก็ไม่เคยมีเล่มไหนบอกวิธีแก้สาปเลยแม้แต่นิดเดียว น่าโมโห แต่คุณคิดเหมือนกับฉันไหมว่ามันสื่อถึงว่า
...ขอให้คำสาปคุ้มครองคุณ...
มาเลโล่ปิดหนังสือปกหนังสีม่วงแก่ลง แล้วโยนทิ้งลงบนเตียงอย่างไร้ปราณีใดๆทั้งสิ้น ทำให้มันลงไปนอนกองกับหนังสือเล่มอื่นๆอย่างน่าสงสาร มาเลโล่กำลังหมดความอดทนกับหนังสือที่เธออ่านไปเป็นสิบกว่าเล่ม แต่ละเล่มล้วนเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคำสาป แต่ไม่ว่าเล่มไหนก็กล่าวเหมือนๆกัน(จนทำให้คุณอยากวิ่งกลับไปเอาเงินที่ซื้อไปมาคืน) ไม่มีวิธีแก้สาป วนไปมาแต่กับเรื่องเดิมๆ แข่งกันร่ายบทความให้ยืดยาวและแต่งเรื่องให้ยุ่งเหยิง จนอ่านแค่บทนำไม่ทันจบก็อยากจะโยนทิ้งไปซะไกลๆ
มาเลโล่เงยหน้าขึ้นมาจากโต๊ะทำงานที่ทำจากไม้โอ๊คสีขาวบริสุทธิ์ก่อนจะเอื้อมนิ้วเรียวยาวไปหยิบหนังสือเก่าๆปกหนังสีเขียวขึ้นมา เปิดไปยังหน้าหลังๆที่ัยังวางอยู่แล้วบรรจงจดบันทึกของวันนี้ลงไปคำส่วนใหญ่จะมีแต่คำว่า "น่าเบื่อ"บ้างก็"ไร้สาระ" อยู่เต็มหน้ากระดาษ ในคืนนั้นพ่อกับแม่ของมาเลโล่กลับบ้านดึก ทำให้เธอต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง เธอจึงจัดปาร์ตี้ฉลองเล็กๆให้กับตนเองโดยการหอบของกินต่างๆเข้าไ้ปในห้องนอนแล้วนั่งอ่านหนังสือนิทานอย่างสนุกสนาน ห้องของเธอนั้นมีแต่หนังสือกองตระหง่านเป็นกำแพงป้อมปราการ ทำให้เธอมักจะหมกตัวอยู่ในห้องตลอดทั้งวัน
ในค่ำคืนนั้นเมื่อเวลาล่วงเลยไปถึง เที่ยงคืน ของวันเมื่อนาฬิกาของทั้งเมืองชี้ไปยังเลข 12 ทั้งเข็มสั้นและยาว มันก็เกิดเสียงดังขึ้นแต่... วันนี้มันแปลกไปนาฬิกาทุกเรือนหยุดอยู่ตรงนั้นไม่มีเสียง ไม่ขยับ มาเลโล่ที่ปกติเป็นคนที่นอนดึกอยู่แล้วจึงแปลกใจ ลุกขึ้นมาเปิดหน้าต่างใบเล็กแล้วชะเง้อหน้าออกไปดูเมืองผ่านทางนอกหน้าต่าง ทุกสิ่งปกติดี เว้นแต่... ผู้คนทั้งเมืองที่กำลังเดิน นั่ง กิน วิ่ง อยู่กับไม่เคลื่อนไหวทุกสิ่งนิ่งไปหมด แมวตัวจ้อยที่กำลังวิ่งไล่จับหนูอย่างเอาเป็นเอาตายก็หยุดอยู่ตรงทางเข้าตรอกซอยเล็กๆสกปรกข้างถนนใหญ่ คู่รักที่กำลังเดินจูงมือกันอย่างมีความสุขก็หยุดเดินอยู่ข้างๆน้ำตกกลางสวนสาธารณะ
...มันเกิดอะไรขึ้น...
มาเลโล่รีบปิดหน้าต่างลงอย่างรีบเร่งเธอกำลังจะวิ่งไปยังประตูห้องเพื่อไปดูพ่อและแม่ของเธอ แต่... โอ้...ไม่... มาเลโล่ที่รัก เธอคนนั้นอยู่ๆก็เหมือนกับวิ่งลงไปในหลุมดำหลุมหนึ่งที่อยู่ดีๆก็ผุดขึ้นมาตัดหน้าเธอ ทำให้เธอตกลงไป ในเสี้ยวนาทีนั้นเธอเห็นห้องทั้งห้องหมุนขวาง ผู้คนกำลังมีความสุขอิ่มเอมกับความรักแล้วดื่มกินเฉลิมฉลอง เห็นผู้คนล้มป่วยลงและผู้คนที่กำลังร้องไห้เศร้าเสียใจแล้วตายลงวนเวียนเป็นวัฎจักรก่อนที่สติจะดับลง...
...คุณเชื่อจริงๆหรือ? ว่าคำสาปมีจริง ว่าตำนานที่เล่าขานต่อๆกันมาเป็นเรื่องจริง ...คุณเชื่อคำพูดนั่นจริงๆหรือ? คำพูดที่บอกว่ารัก คำพูดที่สัญญาแบบขอไปทีนั่นน่ะ
...คุณเชื่อมันจริงๆหรือ?...
คุณรู้อะไรไหม ว่าคำสาปบนโลกนี้น่ะมันสามารถสาปกันได้ง่ายๆ แค่ควงฆทาไปมาแล้วท่องมนต์แค่นั้นก็จบแล้ว เปลืองสมองเนอะคุณว่าไหม? ไม่ว่าหนังสือเล่มไหนๆก็กล่าวถึงคำสาปเหมือนๆกันหมดทุกเล่ม ...น่าเบื่อ... ไม่ว่าอะไรก็บอกวิธีร่ายสาปที่เหมือนๆกันอย่างกับคัดลอกกันมางั้นแหละ แล้วหนังสือทุกเล่มก็ไม่เคยมีเล่มไหนบอกวิธีแก้สาปเลยแม้แต่นิดเดียว น่าโมโห แต่คุณคิดเหมือนกับฉันไหมว่ามันสื่อถึงว่า
...ขอให้คำสาปคุ้มครองคุณ...
มาเลโล่ปิดหนังสือปกหนังสีม่วงแก่ลง แล้วโยนทิ้งลงบนเตียงอย่างไร้ปราณีใดๆทั้งสิ้น ทำให้มันลงไปนอนกองกับหนังสือเล่มอื่นๆอย่างน่าสงสาร มาเลโล่กำลังหมดความอดทนกับหนังสือที่เธออ่านไปเป็นสิบกว่าเล่ม แต่ละเล่มล้วนเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคำสาป แต่ไม่ว่าเล่มไหนก็กล่าวเหมือนๆกัน(จนทำให้คุณอยากวิ่งกลับไปเอาเงินที่ซื้อไปมาคืน) ไม่มีวิธีแก้สาป วนไปมาแต่กับเรื่องเดิมๆ แข่งกันร่ายบทความให้ยืดยาวและแต่งเรื่องให้ยุ่งเหยิง จนอ่านแค่บทนำไม่ทันจบก็อยากจะโยนทิ้งไปซะไกลๆ
มาเลโล่เงยหน้าขึ้นมาจากโต๊ะทำงานที่ทำจากไม้โอ๊คสีขาวบริสุทธิ์ก่อนจะเอื้อมนิ้วเรียวยาวไปหยิบหนังสือเก่าๆปกหนังสีเขียวขึ้นมา เปิดไปยังหน้าหลังๆที่ัยังวางอยู่แล้วบรรจงจดบันทึกของวันนี้ลงไปคำส่วนใหญ่จะมีแต่คำว่า "น่าเบื่อ"บ้างก็"ไร้สาระ" อยู่เต็มหน้ากระดาษ ในคืนนั้นพ่อกับแม่ของมาเลโล่กลับบ้านดึก ทำให้เธอต้องอยู่บ้านเพียงลำพัง เธอจึงจัดปาร์ตี้ฉลองเล็กๆให้กับตนเองโดยการหอบของกินต่างๆเข้าไ้ปในห้องนอนแล้วนั่งอ่านหนังสือนิทานอย่างสนุกสนาน ห้องของเธอนั้นมีแต่หนังสือกองตระหง่านเป็นกำแพงป้อมปราการ ทำให้เธอมักจะหมกตัวอยู่ในห้องตลอดทั้งวัน
ในค่ำคืนนั้นเมื่อเวลาล่วงเลยไปถึง เที่ยงคืน ของวันเมื่อนาฬิกาของทั้งเมืองชี้ไปยังเลข 12 ทั้งเข็มสั้นและยาว มันก็เกิดเสียงดังขึ้นแต่... วันนี้มันแปลกไปนาฬิกาทุกเรือนหยุดอยู่ตรงนั้นไม่มีเสียง ไม่ขยับ มาเลโล่ที่ปกติเป็นคนที่นอนดึกอยู่แล้วจึงแปลกใจ ลุกขึ้นมาเปิดหน้าต่างใบเล็กแล้วชะเง้อหน้าออกไปดูเมืองผ่านทางนอกหน้าต่าง ทุกสิ่งปกติดี เว้นแต่... ผู้คนทั้งเมืองที่กำลังเดิน นั่ง กิน วิ่ง อยู่กับไม่เคลื่อนไหวทุกสิ่งนิ่งไปหมด แมวตัวจ้อยที่กำลังวิ่งไล่จับหนูอย่างเอาเป็นเอาตายก็หยุดอยู่ตรงทางเข้าตรอกซอยเล็กๆสกปรกข้างถนนใหญ่ คู่รักที่กำลังเดินจูงมือกันอย่างมีความสุขก็หยุดเดินอยู่ข้างๆน้ำตกกลางสวนสาธารณะ
...มันเกิดอะไรขึ้น...
มาเลโล่รีบปิดหน้าต่างลงอย่างรีบเร่งเธอกำลังจะวิ่งไปยังประตูห้องเพื่อไปดูพ่อและแม่ของเธอ แต่... โอ้...ไม่... มาเลโล่ที่รัก เธอคนนั้นอยู่ๆก็เหมือนกับวิ่งลงไปในหลุมดำหลุมหนึ่งที่อยู่ดีๆก็ผุดขึ้นมาตัดหน้าเธอ ทำให้เธอตกลงไป ในเสี้ยวนาทีนั้นเธอเห็นห้องทั้งห้องหมุนขวาง ผู้คนกำลังมีความสุขอิ่มเอมกับความรักแล้วดื่มกินเฉลิมฉลอง เห็นผู้คนล้มป่วยลงและผู้คนที่กำลังร้องไห้เศร้าเสียใจแล้วตายลงวนเวียนเป็นวัฎจักรก่อนที่สติจะดับลง...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ