ตราบฟ้าไร้ดาว
เขียนโดย Kankrao
วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 15.46 น.
แก้ไขเมื่อ 1 กันยายน พ.ศ. 2558 16.01 น. โดย เจ้าของนิยาย
14) ตัวไกลแต่ใจใกล้ ๑๐๐%
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความแขกมากหน้าหลายตาและล้วนแล้วแต่แต่งเนื้อแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเนื้อดีราคาแพง กำลังทยอยเดินขึ้นรถกอล์ฟเปิดหลังคาตรงหน้าประตูใหญ่ทางเข้าของโรงแรม
รถเคลื่อนตัวออกช้าๆ เมื่อแขกเต็มรถแล้ว เพื่อให้ได้ชื่นชมอุโมงค์สีชมพูปูพื้นตรงโคนต้นด้วยกลีบดอกสีชมพูทอดยาวตั้งแต่ทางเข้าจรดหลังคาล๊อบบี
“สวยจังเลยค่ะคุณ”
สองสามีภรรยาอดออกปากชมในความงามไม่ได้ วริญรำไพกับสุภาภรณ์หันไปยิ้มให้กันด้วยความปลื้มใจแทนเจ้าของโรงแรม ที่เชิญทั้งสองมาเป็นขกที่มีจำนวนเกือบพันคน
พอลงรถได้ ก็มีพนักงานต้อนรับหนุ่มหล่อสาวสวยนับสิบยืนยกมือไหว้อย่างนอบน้อม พร้อมแจกเวลคั้มดริ้งให้แขกกระเป๋าหนักอย่างถ้วนทั่ว
“ยินดีด้วยนะคะคุณร๊อก สวยจริงๆ ค่ะ”
แขกคุ้นเคยชิงกล่าวทักทายเจ้าของโรงแรมหนุ่มหล่อในชุดทักซิโดและมีคู่หมั้นสาวสวยราวเทพธิดาในชุดราตรีเรียบหรูดูดี และราคาเป็นแสนคอยยืนเคียงข้างเพื่อต้อนรับแขก และประกาศก้องว่าหนุ่มคนนี้ถูกจับจองแล้วไปในตัว
“ขอบคุณค่ะที่คุณหญิงให้เกียรติมาร่วมงานด้วย ย่ากับร๊อกดีใจที่สุดเลยค่ะ ตามสบายนะคะคุณหญิง จะเดินชมด้านนอกก่อนก็ได้ค่ะ วิวสวยๆ ทั้งนั้น”
ทำเอาสาวสวยน้อยใหญ่ต่างผิดหวังไปตามๆ กัน รวมทั้งแขกผู้ใหญ่คนนี้ ที่อุตส่าห์พ่วงลูกสาวที่เป็นถึงราชนิกูลมาในงานด้วย เพื่อหมายจะให้เจ้าของโรงแรมหนุ่มหันมามองบ้าง
ทว่าในสายตาของชลธิปแล้ว ไม่อาจจะชื่นชมใครได้มากเท่าช่างภาพสาวที่มาในชุดเกาะอกสายเดี่ยวสีทับทิม ตัวผ้าโปร่งบางมีลายดอกไม้ประดับชายทับกระโปรงตัวในที่เป็นผ้าซาตินสีขาว
ดูแล้วสวยแปลกตาดีเหลือเกิน แม้ชุดที่หญิงสาวสวมอยู่นั้นจะไม่ได้มีราคาเรือนหมื่นหรือแสนเหมือนสาวคนอื่นๆ ในงาน รวมทั้งคนข้างๆ ของเขาด้วย
แต่ชลธิปก็บอกได้คำเดียวว่าช่างภาพสาวที่เขาเคยเห็นแต่ใส่กางเกงยีนส์กับเสื้อยืดบ่อยครั้งนั้น สวยตรึงหัวใจเขาได้มากกว่าใครในงาน รวมทั้งคู่หมั้นที่ยืนอยู่ข้างๆ อีกเช่นกัน
ใจอยากจะเข้าไปคว้าแขนแล้วจูงเดินหนีออกจากงาน แล้วไปคุยกันที่ไหนเงียบๆ แต่เขาไม่อาจจะทำได้ เพราะแขกมากมายหลายผู้หลายคน กำลังมาห้อมล้อมเขาอยู่
และแม้จะไม่ชอบอยู่กับคนหมู่มาก ไม่ชอบคุยกับคนที่ไม่รู้จัก หรือแค่เคยเห็นเพียงครั้งเดียว แต่เขาก็จำจะต้องอยู่ เพื่อให้โรงแรมที่ตัวเองตั้งใจสร้างขึ้นมาเป็นที่รู้จักของคนที่อยากจะหลีกหนีโรงแรมในกรุงเทพฯ
ขับรถไกลเมืองมานิดเดียว แล้วก็จะพบกับโรงแรมเสมือนแดนสวรรค์ที่‘ตาเบบูญา บางปูปาร์ค รีโซเทล แอนด์ สปา’ นี้ให้ได้แล้ว
แขกที่ในมือมีแก้วเวลคั้มดริ้งอยู่ควบคู่กับการเดินชมความงามใต้อุโมงค์จนอิ่มหนำ ต่างก็ค่อยๆ ทยอยเดินไปยังชายหาดจำลองที่เจ้าของกับคู่หมั้นรวมทั้งพ่อและแม่กำลังเดินนำไป
ทุกสายตาต่างจับจ้องอยู่กับทะเลจริงกับหาดจำลองที่อดยาวไปเป็นกิโลเมตรไปตามกัน พร้อมกับคำชื่นชมในไอเดียผู้เป็นเจ้าของไม่น้อยที่ฉลาดคิดเนรมิตหาดเลนเป็นหาดทรายได้สมจริง
“ต้องชมสถาปนิกกับช่างครับที่ทำให้ฝันผมเป็นจริง”
ชลธิปไม่คิดจะเอาความดีใส่ตัว แม้นี่จะเป็นฝีมือของเขาร่วมกับสถาปนิกและช่างก็ตาม เมื่อแขกยืนชื่นชมความงามเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลานำพาเดินไปยังสนามหญ้าเขียวขจีในเวลาหกโมงนิดๆ
บุบเฟ่ต์ไลน์ตั้งอยู่ทุกที่เพื่อความสะดวกของแขก รวมทั้งโต๊ะเก้าอี้นับร้อยที่ตั้งรอไว้กลางสนาม เพื่อให้แขกได้นั่งกรณียืนเมื่อย และส่วนใหญ่ผู้สูงวัยที่ไม่ยอมแก่จะเดินไปใช้บริการก่อนใครเพื่อน
แต่พอบรรกาศโดยรอบเริ่มมืดมิดทุกคนก็เข้าไปนั่งแล้วจับจ้องอยู่กับการแสดงแสงสีที่โอบรอบ ‘โรมิโอกับจูเลียต’อยู่เป็นตาเดียวกัน
แล้วจอมหึมาก็มีทั้งภาพเคลื่อนไหวสลับกับภาพนิ่งโลดแล่นไปมา เป็นที่ละลานตาดึงดูดใจให้ทุกคนอยากจะมาพักในห้องสวยหรูที่ตกแต่งด้วยลวดลายของ
‘ตาเบบูญาชมพูและเหลือง’
ยืนพื้นทั้งสิ้น และนั่นก็ถือเป็นภาพชวนฝันให้สาวๆ ในงานได้ใจลอยไปถึงคนพิเศษ จนอยากจะพามามีห้วงเวลาอันสำคัญด้วยกัน โดยไม่ต้องใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ ในการเดินทางให้เมื่อย
“ขอบคุณคุณสุกับทีมงานมากนะครับ สำหรับพรีเซ็นเทชั่นสวยๆ และประทับใจแขกทั้งงาน ไว้ผมจะส่งของขวัญเซอร์ไพรไปให้ทีหลังนะครับ”
ชลธิปรีบเอ่ยออกมาพร้อมใบหน้ายิ้มน้อยๆ ให้แขกสองคนสุดท้ายในเวลาห้าทุ่ม “สุต้องขอบคุณคุณร๊อกกับคุณย่ามากกว่าค่ะที่ให้โอกาสบริษัทเรา ยังไงถ้ามีอะไรให้สุรับใช้ก็อย่าได้เกรงใจนะคะ ยินดีเสมอๆ ค่ะ”
“แน่นอนครับ”
ชลธิปรับคำแค่นั้น แล้วหันไปหาคนข้างๆ เพราะไม่อยากมองไปยังอีกคนที่อยู่ในชุดสีทับทิมนัก ด้วยหัวใจมักจะเต้นแรงเสมอๆ
“ขอบคุณค่ะคุณสุ คุณเอ๋ยด้วยค่ะ งานแต่งของเราต้องให้เจ๋งๆ อย่างนี้นะคะ”
ดลยาส่งยิ้มให้ทั้งสองอย่างจริงใจ ผิดกับวริญรำไพที่แทบไม่กล้ามองสาวสวยราวนางฟ้าตรงหน้า และไม่กล้าแม้แต่จะหันมองคนข้างๆ ด้วยเช่นกัน ยิ่งได้ยินคำว่าแต่งงานยิ่งเหมือนมีเส้นตายมากางกั้นให้การได้พานพบกันกับเขาสั้นลงเรื่อยๆ
“งั้นเรากลับกันเถอะเอ๋ยดึกมากแล้ว”
สุภาภรณ์หันไปหาลูกน้องคู่ใจ ก่อนจะจูงมือกันก้าวขึ้นรถกอล์ฟเพื่อขึ้นไปยังอาคารจอดรถ ชลธิปก็ยังคงไม่ได้ให้ความสนใจกับสองสาวมากไปกว่าหันไปหาคู่หมั้นกับพ่อแม่ทั้งของตัวและของคู่หมั้นให้กลับบ้านก่อน
“ผมต้องดูแลความเรียบร้อยอีกหลายอย่างครับย่า อาจจะกลับดึกมากๆ หรือไม่ก็จะค้างที่นี่เลย ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะครับ” ส่วนตัวเองดึงเอาเรื่องงานมาอ้าง
“ค่ะ แล้วย่าจะโทรหาแต่เช้านะคะ”
“ครับ”
เขารับคำสั้นๆ แล้วยกมือไหว้ว่าที่พ่อตาแม่ยายและรับไหว้น้องเมียด้วยใบหน้ายิ้มน้อยๆ ก่อนหันไปหาแม่ที่ยืนเคียงข้างพ่อไม่ห่าง
“อย่าทำงานหนักมากเกินไปนะลูก เดี๋ยวจะไม่มีแรงไว้จัดงานแต่งของตัวเอง” อติรัตน์บอกลูกด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ก่อนจะยินยอมเดินตามสามีไปขึ้นรถ เมื่อเห็น
‘แม่ช่างภาพบ้านนอก’
กลับบ้านก่อนหน้าตัวเองแล้ว จึงไม่คิดว่าจะมีอะไรหรือลูกคงจะไม่มีโอกาสได้พาแม่สาวนั่นขึ้นไปตากฝนบนดาดฟ้าเป็นแน่
แต่ทันทีที่รถของพ่อแม่และคู่หมั้นคล้อยหลังไปได้ไม่นาน มือถือในกระเป๋าของเขาก็ถูกคว้าขึ้นมาใช้งานทันที ขณะก้าวเดินเข้าไปดูความเรียบร้อยที่มีพนักงานหลายสิบคนยังคงวุ่นอยู่กับการเก็บกวาด
‘ผมมัวแต่ยุ่งกับงานจนไม่ได้กินอะไรเลย’
‘สนใจจะเลี้ยงมื้อเย็นในยามดึกๆ ผมบ้างไหมครับ’
‘คุณคงไปยังไม่ไกลเท่าไหร่ วกรถกลับบมานะครับ’
‘ผมจะรอ/ร๊อก’
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ