Bird & Butterfly
-
เขียนโดย Mind_Mind_Mind
วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 19.21 น.
7 chapter
0 วิจารณ์
8,961 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2558 19.09 น. โดย เจ้าของนิยาย
7) สัญญา / Promise
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ.
แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา ชายหนุ่มค่อยๆลืมตาขึ้น เขามองเห็นเพดานสีขาวและหลอดไฟดวงเล็กๆดวงหนึ่ง
“ที่นี่ที่ไหนนะ”
“โอ๊ะ!”
ชายหนุ่มร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวดขณะลุกขึ้นนั่ง เขาสังเกตเห็นบาดแผลพุพองเต็มร่างกายเขาไปหมด ซึ่งมันทำให้เขาเจ็บมาก แล้วเมื่อเขามองไปรอบๆจึงรู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่โรงพยาบาล
“แล้วซอลฮยอนล่ะ ซอลฮยอนเป็นยังไงแล้วบ้างนะ”
ชายหนุ่มนึกถึงเธอเป็นคนแรก เขายังคงเป็นห่วงเธอ แต่ก็คิดว่าเธอน่าจะเดินทางไปโซลกับพ่อของเธอแล้ว
ซอกจินค่อยๆลุกออกจากเตียงและพาร่างกายที่บอบช้ำนี้เดินไป เขามองออกไปนอกหน้าต่างเห็นท้องฟ้าสดใส เขาจึงตัดสินใจเดินออกจากห้องไป
......
ซอกจินเดินลงบันไดและเดินไปตามทางเรื่อยๆอย่างช้าๆ จนถึงบริเวณหนึ่งที่เริ่มมีผู้คนหนาตา คนรอบข้างต่างมองเขาด้วยสายตาที่แปลก บ้างก็เดินหลีกหนีเขาราวกับว่าเขาเป็นตัวประหลาด
“มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกคนถึงมองฉันแบบนั้น”
ชายหนุ่มยังคงเดินตามทางต่อไปเรื่อยๆ และปฏิกิริยาของผู้คนรอบข้างที่มีต่อเขาก็ยังเหมือนเดิม
.
“อย่าเข้าไปใกล้เค้าสิลูก”
เสียงผู้หญิงคนหนึ่งกล่าวพร้อมดึงแขนลูกน้อยให้ออกห่างจากซอกจิน และเมื่อเขามองเธอ เธอกลับหลบสายตาก่อนจะรีบเดินจากไปโดยเร็ว
ซอกจินเห็นดังนั้นจึงรู้ทันทีว่าต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นแน่ ชายหนุ่มมองหาห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดและเดินเข้าไปทันที แต่แม้แต่คนในห้องน้ำก็ยังคงมองเขาและรีบเดินออกมา ทำให้ชายหนุ่มยิ่งไม่สบายใจ
.
“ม..ไม่นะ...”
ซอกจินหันไปมองกระจกและเห็นเงาของตนเองที่อยู่ตรงหน้า
“ไม่จริง... มันต้องไม่ใช่ความจริง...”
ซอกจินจ้องมองตนเองในกระจก เขาเห็นใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยแผลไฟไหม้และรอยบาก และแผลบางส่วนยังคงถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผล เขาจึงค่อยๆแกะมันออก
และเมื่อเขาแกะผ้าพันแผลออกหมดแล้วก็ยิ่งทำให้เขาตกใจ เมื่อเขาพบรอยแผลไฟไหม้ขนาดใหญ่อยู่ที่ใบหน้าด้านขวาเกือบทั้งหมด เขาไม่แปลกใจเลยที่ทำไมผู้คนรอบข้างถึงมีท่าทีต่อเขาแบบนั้น เพราะสิ่งที่เขาเห็นตรงหน้าคือชายที่อัปลักษณ์ราวกับปีศาจ
“ทำไม... ทำไมถึงเป็นแบบนี้...” ชายหนุ่มทรุดลงไปกับพื้น ในตอนนี้ความคิดของเขาสับสนไปหมดแล้ว
.
“ซอกจิน หลานอยู่นี่เอง ปู่ตามหาตั้งนาน”
“คุณปู่...”
.........
ชายหนุ่มกลับมาที่ห้องและนั่งนิ่งอยู่นาน ชายชราที่นั่งอยู่ข้างเตียงก็พอเข้าใจว่าเขารู้สึกอย่างไร
.
“ซอลฮยอนไปโซลกับพ่อของเธอรึยังครับ” ในที่สุดซอกจินก็พูดอะไรบางอย่าง
“อืม เธอไปตั้งแต่คืนวันนั้นแล้วล่ะ”
“แล้วมีใครรู้รึเปล่าครับว่าผมอยู่ที่นี่”
“ยังไม่มีใครรู้ ปู่ยังไม่ได้บอกใครเลย”
“งั้นคุณปู่ช่วยเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับได้มั้ยครับ ช่วยบอกกับทุกคนที ว่าผมตายไปแล้ว”
“ซอกจินอย่าทำแบบนั้นสิ ปู่จะรักษาแผลพวกนี้ให้หาย หลานจะต้องกลับมาเหมือนเดิม”
“เราทำแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ พวกเราไม่เงินพอ บ้านพวกเราก็ถูกไฟไหม้ไปจนหมด ไหนคุณปู่จะต้องใช้เงินรักษาโรคร้ายนั้นอีก”
“ซอกจิน...”
“ผมขอร้องล่ะครับคุณปู่ ช่วยบอกทุกคนแบบนั้นเถอะครับ...” เขากล่าวต่อ “...ผมไม่อยากให้ซอลฮยอนรู้ว่าผมเป็นแบบนี้”
“ซอกจิน...”
“ผมขอร้องนะครับคุณปู่... ผมขอร้อง...”
ซอกจินอ้อนวอนให้ปู่ของเขาปกปิดความจริงเรื่องที่เขายังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าชายชราจะไม่ต้องการทำตามแต่เขาก็สงสารหลานของเขามากเช่นกัน เพราะมันคือความจริงที่พวกเขาไม่มีเงินพอที่จะรักษาซอกจินให้กลับมาเหมือนเดิมได้
ชายหนุ่มลงจากเตียงและเปิดลิ้นชักเพื่อค้นหาของสำคัญบางอย่าง
“อยู่ไหนนะ?”
“หาอะไรเหรอซอกจิน?”
ชายหนุ่มค้นหาของดังกล่าวด้วยความร้อนใจ เขากลัวมากว่าของสิ่งนั้นจะมอดไหม้ไปกับเปลวเพลิงแล้ว
“อยู่ไหนนะ...”
และในที่สุดซอกจินก็หาของสำคัญของเขาเจอ นั่นก็คือสร้อยรูปผีเสื้อของซอลฮยอน เขากุมสร้อยไว้แน่นและนำมาไว้ที่กลางอกตนเอง
.
“ปล่อยให้ฉันตายไปจากใจเธอเถอะนะ เธอจะต้องมีชีวิตที่ดี และเธอจะต้องมีความสุข ซึ่งฉันก็ไม่รู้จริงๆว่าฉันจะให้สิ่งเหล่านั้นกับเธอได้อย่างไร ฉันแทบไม่มีอนาคตเลย... ตอนนี้ฉันเป็นแค่ชายอัปลักษณ์คนหนึ่งที่ทำไม่ได้แม้แต่จะเดินเคียงข้างเธอ... ฉันขอโทษจริงๆนะ คิมซอลฮยอน...”
...............
ในขณะเดียวกันสาวน้อยก็นั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นในบ้านหลังใหม่ ตอนนี้จิตใจของเธอว้าวุ่นมากเพราะเธอยังไม่ได้ข่าวใดๆของซอกจินเลยแม้แต่นิด
...
“พี่โชอา”
“นั่นซอลฮยอนเหรอจ๊ะ”
สาวน้อยต่อโทรศัพท์ถึงพี่สาว หลายวันที่ผ่านมานี้ เธอพยายามติดต่อโชอาและเพื่อนๆที่อยู่ในจอนจูตลอด เธอคอยติดตามข่าวคราวของซอกจินแต่ก็ไม่มีใครรู้เลยสักคน
“พี่โชอาได้ข่าวของพี่ซอกจินบ้างรึยังคะ พี่ซอกจินเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้พี่เขาปลอดภัยรึยัง” สาวน้อยกล่าวด้วยความกังวลใจ
“ซอลฮยอน ใจเย็นๆนะ ตอนนี้พี่ยังไม่ได้คราวของซอกจินเลย พี่พยายามติดต่อคุณปู่ แต่ก็ไม่มีใครเห็นคุณปู่เลยเหมือนกัน”
“พี่โชอาคะ ฉันเป็นห่วงพี่ซอกจินมาก ฉันอยากกลับไปจอนจูแต่พ่อไม่ยอมเลย”
“อยู่กับพ่อเธอก่อนเถอะซอลฮยอน ยังไงพี่จะคอยตามข่าวของซอกจินให้นะ ไม่ต้องเป็นห่วง”
“ขอบคุณมากนะคะพี่โชอา”
เมื่อซอลฮยอนคุยโทรศัพท์กับโชอาเสร็จ เธอก็กลับมานั่งบนเตียงในห้องนอนตนเอง สาวน้อยกุมสร้อยรูปนกที่เขามอบให้ไว้แน่น
.
“พี่จะต้องไม่เป็นอะไรนะ พี่ซอกจิน”
---------------------------------
“หลานคิดดีแล้วใช่ไหม” ชายชราเอ่ยถามครั้งสุดขณะที่พวกเขายืนรอรถไฟที่ชานชาลา
“ครับ”
เสียงหวูดรถไฟดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เป็นสัญญาณบอกว่าชายหนุ่มจะต้องจากเมืองนี้ไปแล้ว เมืองที่เขาเติบโต และเมืองที่มีความทรงจำที่สวยงามกับเธอ
เมื่อรถไฟจอดลง ชายหนุ่มประคองปู่ของเขาขึ้นรถไฟ เขาเหลียวหลังออกไปมองข้างนอกเป็นครั้งสุดท้ายอย่างใจหายแล้วจึงขึ้นรถไฟตามคุณปู่ไป
ซอกจินและคุณปู่เดินไปนั่งข้างใน เสียงหวูดสุดท้ายดังขึ้นก่อนที่รถไฟจะเคลื่อนออกไป ชายหนุ่มคิดถึงภาพของสาวน้อย และความทรงจำทุกอย่างที่เขาและเธอมีร่วมกันที่นี่ แล้วน้ำตาลูกผู้ชายเริ่มก็เอ่อล้นออกมา
.
“ลาก่อนนะ”
.
---------------------------------
กริ๊งง.. กริ๊งง... กริ๊งง...
“ส...สวัสดีค่ะ”
เสียงโทรศัพท์ในห้องนั่งเล่นดังขึ้น และซอลฮยอนที่นั่งเฝ้าอยู่แล้วก็รีบรับทันที
“ซอลฮยอนเหรอจ๊ะ”
“พี่โชอา..” สาวน้อยเรียกชื่อพี่สาวด้วยความร้อนใจ “...พี่ได้ข่าวของพี่ซอกจินแล้วใช่มั้ยคะ?”
ซอลฮยอนเอ่ยถามโชอา แต่พี่สาวกลับนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ทำให้สาวน้อยเริ่มใจคอไมดี
“พี่โชอา บอกฉันทีว่าพี่ซอกจินปลอดภัย... ได้โปรดบอกฉันที”
“ซอลฮยอน ทำใจดีๆไว้นะ...” พี่สาวกล่าวต่อ “...ซอกจินเค้าเสียแล้ว”
“อ...อะไรนะคะ”
สาวน้อยได้ยินสิ่งที่โชอาบอก ทำให้เธอรู้สึกสับสนไปหมด มันยากที่จะเชื่อว่าชายที่เธอรักได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ในตอนนี้เธอรู้สึกราวกับว่าหูของเธอได้อื้อสนิท ตาของเธอเหมือนเลือนลางลงไป และเหมือนโลกใบนี้ได้หยุดหมุนลง สาวน้อยพยายามรวบรวมสติกลับมาให้เร็วที่สุด แต่มันก็ไม่ง่ายเลย
“ซอลฮยอน ยังอยู่ตรงนั้นรึเปล่า”
โชอาเรียกชื่อเธอ แม้ว่าเธอจะได้ยินพี่สาวเรียก แต่เธอก็ไม่สามารถขานรับพี่สาวได้ตอนนี้ สาวน้อยเริ่มร้องไห้อย่างหนักแบบที่ไม่เคยร้องมาก่อนเลยในชีวิต
“ซอลฮยอน เป็นอะไรมากรึเปล่าจ๊ะ” โชอาได้ยินเสียงน้องสาวร้องไห้สะอื้นจึงเอ่ยถามขึ้นอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง
“พ..พี่โชอา... ฮึก...”
“ซอลฮยอน เข้มแข็งไว้นะ”
โชอาได้แต่พูดปลอบน้องสาวทางโทรศัพท์ แม้ว่าตอนนี้เธออยากจะเข้าไปกอดน้องสาวมาก แต่ทั้งคู่ก็อยู่ไกลกันมาก
“ฉันจะ... ฮึก... ฉันจะกลับไปจอนจู ฉันอยากไปเคารพศพพี่ซอกจินเป็นครั้งสุดท้าย”
“คงไม่ต้องมาหรอกซอลฮยอน ไม่ได้มีพิธีศพที่นี่ คุณปู่ของซอกจินก็ย้ายจากจอนจูไปแล้ว ไม่รู้เลยว่าย้ายไปเมืองไหน ไม่มีใครสามารถติดต่อได้เลย”
“ฮึก... อย่างงั้นหรอกเหรอคะ”
“เข้มแข็งไว้นะซอลฮยอน แล้วพี่จะหาโอกาสไปเยี่ยมเธอที่โซลบ่อยๆนะ ดูแลตัวเองด้วยล่ะ”
“ขอบคุณนะคะพี่โชอา”
ซอลฮยอนวางหูโทรศัพท์ลงหลังจากคุยกับพี่สาวเสร็จ เธอรีบเดินกลับไปที่ห้องนอนตนเองโดยเร็ว สาวน้อยล้มลงบนเตียงและร้องไห้หนักยิ่งกว่าเก่า
.
“พี่ซอกจิน... พี่จากฉันไปแล้วจริงๆเหรอ...”
สาวน้อยกล่าวและนำสร้อยรูปนกที่เธอสวมอยู่มากุมไว้แน่น
.
“พี่ทำเพื่อฉันมามากแล้ว... จากนี้ไป ฉันจะทำตามความตั้งใจทุกอย่างของพี่เอง ฉันจะทำให้ได้”
.
“ฉันสัญญา...”
.
.
To be continued…
.
แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา ชายหนุ่มค่อยๆลืมตาขึ้น เขามองเห็นเพดานสีขาวและหลอดไฟดวงเล็กๆดวงหนึ่ง
“ที่นี่ที่ไหนนะ”
“โอ๊ะ!”
ชายหนุ่มร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวดขณะลุกขึ้นนั่ง เขาสังเกตเห็นบาดแผลพุพองเต็มร่างกายเขาไปหมด ซึ่งมันทำให้เขาเจ็บมาก แล้วเมื่อเขามองไปรอบๆจึงรู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่โรงพยาบาล
“แล้วซอลฮยอนล่ะ ซอลฮยอนเป็นยังไงแล้วบ้างนะ”
ชายหนุ่มนึกถึงเธอเป็นคนแรก เขายังคงเป็นห่วงเธอ แต่ก็คิดว่าเธอน่าจะเดินทางไปโซลกับพ่อของเธอแล้ว
ซอกจินค่อยๆลุกออกจากเตียงและพาร่างกายที่บอบช้ำนี้เดินไป เขามองออกไปนอกหน้าต่างเห็นท้องฟ้าสดใส เขาจึงตัดสินใจเดินออกจากห้องไป
......
ซอกจินเดินลงบันไดและเดินไปตามทางเรื่อยๆอย่างช้าๆ จนถึงบริเวณหนึ่งที่เริ่มมีผู้คนหนาตา คนรอบข้างต่างมองเขาด้วยสายตาที่แปลก บ้างก็เดินหลีกหนีเขาราวกับว่าเขาเป็นตัวประหลาด
“มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกคนถึงมองฉันแบบนั้น”
ชายหนุ่มยังคงเดินตามทางต่อไปเรื่อยๆ และปฏิกิริยาของผู้คนรอบข้างที่มีต่อเขาก็ยังเหมือนเดิม
.
“อย่าเข้าไปใกล้เค้าสิลูก”
เสียงผู้หญิงคนหนึ่งกล่าวพร้อมดึงแขนลูกน้อยให้ออกห่างจากซอกจิน และเมื่อเขามองเธอ เธอกลับหลบสายตาก่อนจะรีบเดินจากไปโดยเร็ว
ซอกจินเห็นดังนั้นจึงรู้ทันทีว่าต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นแน่ ชายหนุ่มมองหาห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดและเดินเข้าไปทันที แต่แม้แต่คนในห้องน้ำก็ยังคงมองเขาและรีบเดินออกมา ทำให้ชายหนุ่มยิ่งไม่สบายใจ
.
“ม..ไม่นะ...”
ซอกจินหันไปมองกระจกและเห็นเงาของตนเองที่อยู่ตรงหน้า
“ไม่จริง... มันต้องไม่ใช่ความจริง...”
ซอกจินจ้องมองตนเองในกระจก เขาเห็นใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยแผลไฟไหม้และรอยบาก และแผลบางส่วนยังคงถูกพันไว้ด้วยผ้าพันแผล เขาจึงค่อยๆแกะมันออก
และเมื่อเขาแกะผ้าพันแผลออกหมดแล้วก็ยิ่งทำให้เขาตกใจ เมื่อเขาพบรอยแผลไฟไหม้ขนาดใหญ่อยู่ที่ใบหน้าด้านขวาเกือบทั้งหมด เขาไม่แปลกใจเลยที่ทำไมผู้คนรอบข้างถึงมีท่าทีต่อเขาแบบนั้น เพราะสิ่งที่เขาเห็นตรงหน้าคือชายที่อัปลักษณ์ราวกับปีศาจ
“ทำไม... ทำไมถึงเป็นแบบนี้...” ชายหนุ่มทรุดลงไปกับพื้น ในตอนนี้ความคิดของเขาสับสนไปหมดแล้ว
.
“ซอกจิน หลานอยู่นี่เอง ปู่ตามหาตั้งนาน”
“คุณปู่...”
.........
ชายหนุ่มกลับมาที่ห้องและนั่งนิ่งอยู่นาน ชายชราที่นั่งอยู่ข้างเตียงก็พอเข้าใจว่าเขารู้สึกอย่างไร
.
“ซอลฮยอนไปโซลกับพ่อของเธอรึยังครับ” ในที่สุดซอกจินก็พูดอะไรบางอย่าง
“อืม เธอไปตั้งแต่คืนวันนั้นแล้วล่ะ”
“แล้วมีใครรู้รึเปล่าครับว่าผมอยู่ที่นี่”
“ยังไม่มีใครรู้ ปู่ยังไม่ได้บอกใครเลย”
“งั้นคุณปู่ช่วยเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับได้มั้ยครับ ช่วยบอกกับทุกคนที ว่าผมตายไปแล้ว”
“ซอกจินอย่าทำแบบนั้นสิ ปู่จะรักษาแผลพวกนี้ให้หาย หลานจะต้องกลับมาเหมือนเดิม”
“เราทำแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ พวกเราไม่เงินพอ บ้านพวกเราก็ถูกไฟไหม้ไปจนหมด ไหนคุณปู่จะต้องใช้เงินรักษาโรคร้ายนั้นอีก”
“ซอกจิน...”
“ผมขอร้องล่ะครับคุณปู่ ช่วยบอกทุกคนแบบนั้นเถอะครับ...” เขากล่าวต่อ “...ผมไม่อยากให้ซอลฮยอนรู้ว่าผมเป็นแบบนี้”
“ซอกจิน...”
“ผมขอร้องนะครับคุณปู่... ผมขอร้อง...”
ซอกจินอ้อนวอนให้ปู่ของเขาปกปิดความจริงเรื่องที่เขายังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าชายชราจะไม่ต้องการทำตามแต่เขาก็สงสารหลานของเขามากเช่นกัน เพราะมันคือความจริงที่พวกเขาไม่มีเงินพอที่จะรักษาซอกจินให้กลับมาเหมือนเดิมได้
ชายหนุ่มลงจากเตียงและเปิดลิ้นชักเพื่อค้นหาของสำคัญบางอย่าง
“อยู่ไหนนะ?”
“หาอะไรเหรอซอกจิน?”
ชายหนุ่มค้นหาของดังกล่าวด้วยความร้อนใจ เขากลัวมากว่าของสิ่งนั้นจะมอดไหม้ไปกับเปลวเพลิงแล้ว
“อยู่ไหนนะ...”
และในที่สุดซอกจินก็หาของสำคัญของเขาเจอ นั่นก็คือสร้อยรูปผีเสื้อของซอลฮยอน เขากุมสร้อยไว้แน่นและนำมาไว้ที่กลางอกตนเอง
.
“ปล่อยให้ฉันตายไปจากใจเธอเถอะนะ เธอจะต้องมีชีวิตที่ดี และเธอจะต้องมีความสุข ซึ่งฉันก็ไม่รู้จริงๆว่าฉันจะให้สิ่งเหล่านั้นกับเธอได้อย่างไร ฉันแทบไม่มีอนาคตเลย... ตอนนี้ฉันเป็นแค่ชายอัปลักษณ์คนหนึ่งที่ทำไม่ได้แม้แต่จะเดินเคียงข้างเธอ... ฉันขอโทษจริงๆนะ คิมซอลฮยอน...”
...............
ในขณะเดียวกันสาวน้อยก็นั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นในบ้านหลังใหม่ ตอนนี้จิตใจของเธอว้าวุ่นมากเพราะเธอยังไม่ได้ข่าวใดๆของซอกจินเลยแม้แต่นิด
...
“พี่โชอา”
“นั่นซอลฮยอนเหรอจ๊ะ”
สาวน้อยต่อโทรศัพท์ถึงพี่สาว หลายวันที่ผ่านมานี้ เธอพยายามติดต่อโชอาและเพื่อนๆที่อยู่ในจอนจูตลอด เธอคอยติดตามข่าวคราวของซอกจินแต่ก็ไม่มีใครรู้เลยสักคน
“พี่โชอาได้ข่าวของพี่ซอกจินบ้างรึยังคะ พี่ซอกจินเป็นยังไงบ้าง ตอนนี้พี่เขาปลอดภัยรึยัง” สาวน้อยกล่าวด้วยความกังวลใจ
“ซอลฮยอน ใจเย็นๆนะ ตอนนี้พี่ยังไม่ได้คราวของซอกจินเลย พี่พยายามติดต่อคุณปู่ แต่ก็ไม่มีใครเห็นคุณปู่เลยเหมือนกัน”
“พี่โชอาคะ ฉันเป็นห่วงพี่ซอกจินมาก ฉันอยากกลับไปจอนจูแต่พ่อไม่ยอมเลย”
“อยู่กับพ่อเธอก่อนเถอะซอลฮยอน ยังไงพี่จะคอยตามข่าวของซอกจินให้นะ ไม่ต้องเป็นห่วง”
“ขอบคุณมากนะคะพี่โชอา”
เมื่อซอลฮยอนคุยโทรศัพท์กับโชอาเสร็จ เธอก็กลับมานั่งบนเตียงในห้องนอนตนเอง สาวน้อยกุมสร้อยรูปนกที่เขามอบให้ไว้แน่น
.
“พี่จะต้องไม่เป็นอะไรนะ พี่ซอกจิน”
---------------------------------
“หลานคิดดีแล้วใช่ไหม” ชายชราเอ่ยถามครั้งสุดขณะที่พวกเขายืนรอรถไฟที่ชานชาลา
“ครับ”
เสียงหวูดรถไฟดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เป็นสัญญาณบอกว่าชายหนุ่มจะต้องจากเมืองนี้ไปแล้ว เมืองที่เขาเติบโต และเมืองที่มีความทรงจำที่สวยงามกับเธอ
เมื่อรถไฟจอดลง ชายหนุ่มประคองปู่ของเขาขึ้นรถไฟ เขาเหลียวหลังออกไปมองข้างนอกเป็นครั้งสุดท้ายอย่างใจหายแล้วจึงขึ้นรถไฟตามคุณปู่ไป
ซอกจินและคุณปู่เดินไปนั่งข้างใน เสียงหวูดสุดท้ายดังขึ้นก่อนที่รถไฟจะเคลื่อนออกไป ชายหนุ่มคิดถึงภาพของสาวน้อย และความทรงจำทุกอย่างที่เขาและเธอมีร่วมกันที่นี่ แล้วน้ำตาลูกผู้ชายเริ่มก็เอ่อล้นออกมา
.
“ลาก่อนนะ”
.
---------------------------------
กริ๊งง.. กริ๊งง... กริ๊งง...
“ส...สวัสดีค่ะ”
เสียงโทรศัพท์ในห้องนั่งเล่นดังขึ้น และซอลฮยอนที่นั่งเฝ้าอยู่แล้วก็รีบรับทันที
“ซอลฮยอนเหรอจ๊ะ”
“พี่โชอา..” สาวน้อยเรียกชื่อพี่สาวด้วยความร้อนใจ “...พี่ได้ข่าวของพี่ซอกจินแล้วใช่มั้ยคะ?”
ซอลฮยอนเอ่ยถามโชอา แต่พี่สาวกลับนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ทำให้สาวน้อยเริ่มใจคอไมดี
“พี่โชอา บอกฉันทีว่าพี่ซอกจินปลอดภัย... ได้โปรดบอกฉันที”
“ซอลฮยอน ทำใจดีๆไว้นะ...” พี่สาวกล่าวต่อ “...ซอกจินเค้าเสียแล้ว”
“อ...อะไรนะคะ”
สาวน้อยได้ยินสิ่งที่โชอาบอก ทำให้เธอรู้สึกสับสนไปหมด มันยากที่จะเชื่อว่าชายที่เธอรักได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ในตอนนี้เธอรู้สึกราวกับว่าหูของเธอได้อื้อสนิท ตาของเธอเหมือนเลือนลางลงไป และเหมือนโลกใบนี้ได้หยุดหมุนลง สาวน้อยพยายามรวบรวมสติกลับมาให้เร็วที่สุด แต่มันก็ไม่ง่ายเลย
“ซอลฮยอน ยังอยู่ตรงนั้นรึเปล่า”
โชอาเรียกชื่อเธอ แม้ว่าเธอจะได้ยินพี่สาวเรียก แต่เธอก็ไม่สามารถขานรับพี่สาวได้ตอนนี้ สาวน้อยเริ่มร้องไห้อย่างหนักแบบที่ไม่เคยร้องมาก่อนเลยในชีวิต
“ซอลฮยอน เป็นอะไรมากรึเปล่าจ๊ะ” โชอาได้ยินเสียงน้องสาวร้องไห้สะอื้นจึงเอ่ยถามขึ้นอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง
“พ..พี่โชอา... ฮึก...”
“ซอลฮยอน เข้มแข็งไว้นะ”
โชอาได้แต่พูดปลอบน้องสาวทางโทรศัพท์ แม้ว่าตอนนี้เธออยากจะเข้าไปกอดน้องสาวมาก แต่ทั้งคู่ก็อยู่ไกลกันมาก
“ฉันจะ... ฮึก... ฉันจะกลับไปจอนจู ฉันอยากไปเคารพศพพี่ซอกจินเป็นครั้งสุดท้าย”
“คงไม่ต้องมาหรอกซอลฮยอน ไม่ได้มีพิธีศพที่นี่ คุณปู่ของซอกจินก็ย้ายจากจอนจูไปแล้ว ไม่รู้เลยว่าย้ายไปเมืองไหน ไม่มีใครสามารถติดต่อได้เลย”
“ฮึก... อย่างงั้นหรอกเหรอคะ”
“เข้มแข็งไว้นะซอลฮยอน แล้วพี่จะหาโอกาสไปเยี่ยมเธอที่โซลบ่อยๆนะ ดูแลตัวเองด้วยล่ะ”
“ขอบคุณนะคะพี่โชอา”
ซอลฮยอนวางหูโทรศัพท์ลงหลังจากคุยกับพี่สาวเสร็จ เธอรีบเดินกลับไปที่ห้องนอนตนเองโดยเร็ว สาวน้อยล้มลงบนเตียงและร้องไห้หนักยิ่งกว่าเก่า
.
“พี่ซอกจิน... พี่จากฉันไปแล้วจริงๆเหรอ...”
สาวน้อยกล่าวและนำสร้อยรูปนกที่เธอสวมอยู่มากุมไว้แน่น
.
“พี่ทำเพื่อฉันมามากแล้ว... จากนี้ไป ฉันจะทำตามความตั้งใจทุกอย่างของพี่เอง ฉันจะทำให้ได้”
.
“ฉันสัญญา...”
.
.
To be continued…
.
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ