Pandora's Heart คำสาปรักคืนใจเจ้าชายปีศาจ
เขียนโดย BlooDCherry
วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.41 น.
แก้ไขเมื่อ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2558 12.30 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) ตอนที่ 8 หารือ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 8
หารือ
..............................................................................
ร่างบางยืนเดาะลิ้นอย่างขัดใจอยู่กับที่ เขากรอกตาไปมานึกหงุดหงิดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นี่มันกี่ครั้งกันแล้วนะ ร่างบางนึก หนึ่งเดือนแล้ว ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ เขาได้แต่ฝันเรื่องเดิมซ้ำๆ ซากๆ
“เฮ้ย จะฝันอะไรกันนักกันหนาฟะเนี่ย!!!?” ร่างบางตะโกนพลางเตะของเหลวสีแดงกระจาย กลิ่นธาตุเหล็กลอยคลุ้งจนต้องยกมือปิดจมูก
“นายท่านของข้า..” เสียงแหบแห้งที่คุ้นหูเอ่ยออกมาอีกครั้งจากทุกทิศทาง
“............” อาร์น่าเงียบทันที หันมองไปรอบกาย แต่ก็เหมือนๆ กับทุกครั้ง ไม่มีใครยืนอยู่เลย
“นายท่าน นายท่านของข้า เรียกชื่อข้า ข้ารอท่านมานานเหลือเกิน นายท่าน”
ก็แล้วแกชื่ออะไรละฟะ!!!?
ร่างบางคิดในใจอย่างหงุดหงิด พลางกำหมัดแน่น เขาทนไม่ไหวแล้ว เขาต้องเจอกับเหตุการณ์อย่างนี้มาเป็นเดือนแล้ว เขาเบื่อและกำลังโกรธมาก
“นายท่าน โปรดเรียกชื่อข้า....”
“น่ารำคาญจริง...” เสียงหวานเอ่ยออกมาเบาๆ เขาก้มหน้ากำหมัดแน่น กัดฟันกรอดๆ
“นายท่าน..”
“น่ารำคาญ น่ารำคาญ น่ารำคาญ หุบปากซะที!!!!!!” ร่างบางตะโกนออกมาเสียงดัง บรรยากาศหนักอึ้งรายล้อมรอบตัวเด็กหนุ่มพร้อมกับลมประหลาดพัดกระจายเป็นวงกลมขยายวงกว้าง พัดของเหลวสีแดงแตกกระจาย...
....................................................................
“อาร์น่า!!” ร่างบางลืมตาพรึ่บ! เห็นเร็นกำลังเขย่าตัวเขากับเลออนที่ก้มลงมองอยู่ไม่ห่าง ทั้งห้องสว่างจ้า เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมา ในที่สุดก็ตื่นสักที
“นายทำอะไร? กระจกแตกหมดแล้วเห็นมั้ย” เร็นถามหน้าเครียด เขากับเลออนที่กำลังนอนอยู่ต้องสะดุ้งตื่นเมื่อแรงกดดันมากมายมหาศาลโถมทับร่างกายตามมาด้วยกระจกและแจกันดอกไม้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
“อีกเดี๋ยวผู้คุมกฎก็คงมา” เลออนเอ่ยเสียงเรียบแต่คิ้วขมวดมุ่น มองกระจกที่แตกแล้วก็หันกลับมามองร่างบางที่ทำหน้าเหรอหรา
“กระจกอะไร ฉันก็เพิ่งตื่นเมื่อกี้ แล้วใครทำมันแตกล่ะ?” ถามหน้าซื่อส่งให้เจ้าชายกับนักฆ่ามองหน้ากันก่อนจะหันไปมองประตูที่ถูกเคาะ
ก๊อกๆๆ
“นี่ผู้คุมกฎ เปิดประตูด้วย” เร็นเดินไปเปิดประตู เผยให้เห็นหนุ่มผมทองยืนตีหน้านิ่ง
“สวัสดีฮะรุ่นพี่” เร็นทักทายผู้มาเยือนยิ้มๆ อาเธอร์ มองเศษกระจกที่แตกแล้วตีหน้ายักษ์ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง เห็นเจ้าชายเลออนกับเด็กหนุ่มผมดำกำลังเก็บเศษกระจกอยู่
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมกระจกทุกบานถึงได้แตกหมด?” ผู้คุมกฎถามหน้านิ่ง มองเจ้าชายเลออนที่คิดว่าน่าจะมีพลังเวทมากที่สุดอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์พลังเวทที่รู้สึกได้เมื่อกี้คงมาจากเจ้าชายคนนี้แน่
“...เป็นความผิดของพวกเรา เดี๋ยวผมจะชดให้” เลออนกล่าวเสียงเรียบพลางก้มหน้าเก็บเศษกระจกต่อไป
“ ตามนั้น แต่พวกนายทั้งหมดต้องเขียนกฎหอพักสิบหน้ามาส่งพรุ่งนี้ก่อนหกโมงเย็น ที่ตักขยะกับไม้กวาดอยู่ชั้นล่าง” พูดจบก็เดินออกไป แม้จะไม่ได้คำตอบที่ต้องการ แต่เขาก็รู้ดีว่าเจ้าชายเลออนถ้าไม่คิดจะบอก ต่อให้เอาไม้มาง้างปากก็ไม่พูด
“เร็น เรื่องมันเป็นยังไง ฉันงงนะเนี่ย” ร่างบางถามขึ้นหลังจากที่เร็นไปเอาไม้กวาดกับที่ตักขยะมาแล้วเรียบร้อย
“นายเป็นคนทำมันแตก” เร็นเอ่ยเสียงเรียบพลางกวาดกระจกชิ้นเล็กๆ ใส่ที่ตักขยะ ขณะที่เลออนดึงมือของร่างบางมาถือไว้แล้วขมวดคิ้วมุ่น
“นายมีแผล” พูดแล้วก้ดึงมืออาร์น่าให้ลุกดินมานั่งที่เตียงก่อนจะหยิบกล่องปฐมพยาบาลออกมาจากลิ้นชักหัวเตียง
“เอ๊ะ” ร่างบางอุทานเสียงเบา ที่หลังมือขวาของเขามีขีดสีดำโค้งได้ครึ่งวงกลม เลือดสีแดงไหลซิบๆ ออกมาเป็นทาง
“โดนบาดเหรอ?” เลออนถามนิ่งๆ พลางเอาผ้าเช็ดเลือดออก
“.........” สองคนเงียบกริบมองหน้ากันจนเร็นหันมามอง บนหลังมือขวาที่ว่ามีเลือดออกพอเช็ดเลือดแล้วแต่กลับไม่มีแผล ซ้ำพอเช็ดไปแล้วเลือดก็ยังไหลออกมาจากรอยนั่นอีก
“หมายความว่าไงอ่ะ? -0-” อาร์น่าถามเลออนงงๆ ในใจรู้สึกหวั่นๆ เพราะยิ่งเช็ดท่าไหร่เลือดก็ยังไหลออกมาเหมือนเดิม
“นายเจ็บรึเปล่า” เลออนถามพลางขมวดคิ้ว เร็นเดินเข้ามาดูสองคนที่ทำแผลอยู่แล้วก็ต้องเบิกตาโตก่อนจะถาม
“อาร์น่า ผิวนายรั่วป่ะ?” ร่างบางส่งค้อนให้วงโต แล้วก็ตีหน้าเครียด
“ไม่เจ็บเลย เฮ้ยๆ ละ ไหลไม่หยุดเลยอ่ะ” อาร์น่าตอบก่อนจะทำหน้าหวั่นใจ นี่มันเกิดเรื่องอะไรกัน ฝันประหลาดไม่พอมีแผลประหลาดด้วย โอยตาย เครียด!!!
“ไหลไม่หยุดก็จริงแต่ก็ไม่ได้ไหลแรง เอาผ้าพันไว้ก่อน นายไม่ได้ไปจับอะไรแปลกๆ มาใช่มั้ย?” พูดพลงพันผ้าก็อซให้จนหนาแล้วมองหน้าร่างบางนิ่งๆ
“ไม่นี่ แต่ถ้าในฝันล่ะก็จับอยู่นะ” ร่างบางตอบเร็นเลิกคิ้วตาเป็นประกาย เลออนมองนิ่งๆ รอคำตอบ
“หืมมมม? นายไปจับอะไรมาน่ะ” อาร์น่ามองเพื่อนซี้แล้วก็อยากเตะ
“คิดบัดสีอะไรของนายอยู่เนี่ย ถึงจะอยากฝันแบบนั้นก็เถอะ ชิส์ ฉันฝันเรื่องเดิมซ้ำมาตั้งแต่เข้าเรียนมาแล้ว ในฝันฉันมีแต่ทะเลเลือดกับดาบเน่าๆ เอ๊ะ เดี๋ยวนะ ดาบเน่าๆ เหรอ? เอ๊ย ถ้าแกถามว่าจับอะไรแปลกๆ มาเห็นจะไม่พ้นดาบโกโรโกโสที่พ่อให้มานั่นแหละ”
“แปลกยังไง?” เลออนถาม ร่างบางถอนหายใจแล้วนั่งลงลากกระเป๋าถือออกมาจากใต้เตียง
“แปลกมั้ยล่ะ?” ว่าพลางก็เปิดกระเป๋าออก ข้างในมีทคทาผุๆ กับดาบเน่าๆ หักสองท่อนนอแอ้งแม้งอยู่ในนี้ เด็กหนุ่มไม่กล้าเอาออกไปใช้ พอถึงชั่วโมงเรียนฟันดาบกับเวทมนตร์จึงได้แต่เก็บไว้ใต้เตียงไม่ยอมเอาออกมา
“นี่สินะสาเหตุที่นายปวดหัวตัวร้อนท้องร่วงท้องผูกประจำเวลาถึงคาบฟันดาบกับเวทมนตร์” เร็นหรี่ตาถาม ร่างบาง เลออนมองของสองสิ่งในกระเป๋าหน้าเครียด
“ชิส์ แต่มันคงไม่เกี่ยวอะไรกับมือฉันหรอกมั้ง ดาบหักๆ กับคทาผุๆ นี่จะมีประโยชน์อะไรกันเชียว” พูดพลางมือก็จับคทาแกว่งไปมา ก่อนจะโยนขึ้นเตียงแล้วเอื้อมมาจับดาบหักๆ นั่นขึ้นมา
“นายคิดดูสิ ดาบเน่าๆ นี่จะไปทำอะไรได้ล่ะ?” ร่างบางเบ้ปาก ก่อนจะเบิกตาโต
“นายท่าน.....” เสียงที่ได้ยินในฝันดังขึ้นที่ข้างหู พลันหลังมือขวาที่เลือดไหลซิบๆ นั่นก็เจ็บจี๊ดจนต้องปล่อยดาบในมือร่วงผล็อยลงพื้นดังเคร้ง เลออนกับเร็นมองหน้าของร่างบางงงๆ
“เป็นอะไร?” เร็นเอ่ยถามงงๆ
“นายเจ็บแผลเหรอ” ร่างบางกุมมือแน่น หน้านิ่วคิ้วขมวดก่อนจะดึงมือร่างบางมาจับ
“อือ โอ๊ย เจ็บมาก!!” เลือดสีแดงซึมออกมา เลออนหน้าเครียดกว่าเก่า
“ไปหาอาจารย์มั้ย?” เจ้าชายน้ำแข็งถามด้วยความเป็นห่วง อาร์น่าส่ายหน้าปฏิเสธ เร็นเอื้อมมือไปหยิบดาบขึ้นมาจับแล้วก็ต้องตาโต เมื่อฝ่ามือรู้สึกแสบร้อนและเหมือนจะได้ยินเสียงใครพูดอะไร
“อย่าบังอาจมาแตะข้า...”
“เฮ้ย นี่มันอะไรกัน” เขาวางมันลงที่เดิมก่อนหงายฝ่ามือขึ้นดู รอยสีแดงจากการโดนลวก เลออนหันไปมองฝ่ามือที่เร็นหันมาให้ดูแล้วทำหน้าเครียด ร่างบางตรงหน้าก็บีบจนมือเขาเจ็บ เขาไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงดีแล้ว
“อาร์น่า หายเจ็บบ้างรึยัง?” เลออนถามพลางใช้เวทน้ำแข็งส่งความเย็นไปยังมือเล็ก อาร์น่าพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะว่า
“เย็นดีจัง ไม่เจ็บแล้วด้วย” เลออนถอนหายใจก่อนจะพูดยิ้มๆ
“ดีแล้ว เดี๋ยวฉันจะร่ายเวทเอาไว้ ดูว่าพรุ่งนี้มันจะหายรึเปล่า” เร็นที่พันแผลให้ตัวเองเสร็จก็ยื่นมือส่งให้เจ้าชายก่อนจะว่า
“ร่ายให้ด้วย”
พวกเขาลากเตียงทั้งหมดมาชิดกันแล้วนั่งล้อมวงมองหน้ากัน เร็นหันไปมองอาร์น่าที่เอาแต่มองหน้าเลออนไม่พูดไม่จามาตั้งแต่เอกี้แล้วก็อดถามไม่ได้
“เป็นอะไร?” เลออนหันไปมองร่างบางด้วยอีกคน คนถูกถามเกาแก้มแกรกๆ ก่อนจะว่า
“ก็เปล่าหรอก แบบว่า เลออนน่ะ พอมันยิ้มแล้วก็หล่อดีนะ แฮะๆๆ ^_____^” คนถูกพูดถึงหน้าขึ้นสีระเรื่อแต่อีกฝ่ายไม่ทันสังเกต ต่างจากเร็นที่เอาศอกสะกิดแรงๆ ไปทีนึงแล้วยักคิ้วหลิ่วตาให้
“จะให้นอนต่อก็คงนอนไม่หลับ เรามาวิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นกันเถอะ” เลออนกับเร็นหันไปมองหน้ากันหลังจากร่างบางพูดจบ ก่อนคนเป็นเจ้าชายจะหัวเราะคิกคักอย่างที่ไม่เคยเห็น ส่วนเร็นทำหน้าโอเวอร์แล้วหรี่ตามองคนพูดก่อนจะว่า
“หิมะตกเดือนมิถุนา ในพจนานุกรมของนายรู้จักคำว่าวิเคราะห์ด้วยเหรอ?” อาร์น่าค้อนขวับก่นด่าไปยกใหญ่ เลออนฟังร่างบางที่ตอนแรกด่าเร็นไปๆ มาๆ เขาก็ถูกรวบซะนี่ ไอ้ตัวยุ่งชอบพาลใส่เขาตลอดแหละ
“ซีเรียสนะเฮ้ย แม่ง พวกนายก็เอาแต่ไร้สาระอยู่นั่นแหละ” เร็นยิ้มกับคำว่าไร้สาระของร่างบาง ไม่เคยคิดว่าจะได้ยินคำๆ นี้หลุดออกจากปากของมัน
“โอเคๆ งั้นจะเริ่มจากไหนล่ะ” เร็นเปิดประเด็นอาร์น่าหันขวับ
“แน่นอนว่าเรื่องกระจก”
“ตามนั้น ฉันกับแลออนนอนอยู่ดีๆ แต่ก็ต้องตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกได้ถึงแรงกดดันบางอย่าง ไม่ถึงกับเป็นพลังเวทแต่ก็รุนแรงมากจนกระจกแตก แรงดันที่ว่า นายเป็นคนปล่อยออกมา เราสองคนรีบเข้าไปดูนายก่อนเป็นอันดับแรก แล้วนายก็ตื่น ตาฉันถาม ทำไมนายถึงได้ปล่อยแรงกดดันขนาดนั้นออกมา?”
“จะไม่รู้มั้ย? ตอนนั้นฉันหลับอยู่นี่”
“งั้นนายฝันรึเปล่า” เลออนถาม ร่างบางพยักหน้าหงึกหงัก
“ฉันฝันเรื่องเดิมซ้ำๆ มาหลายวันแล้ว ในฝันไม่มีใครอยู่แต่ได้ยินเสียงคนพูด ท้องฟ้าเป็นสีส้ม ไม่มีลมพัด ที่พื้นเจิ่งนองไปด้วยเลือดและซากดาบนับไม่ถ้วน ชิส์ คิดแล้วก็ไม่คิดอยากจะนอนไปชั่วชีวิตจริงๆ พับผ่าสิ”
“แค่นั้นเหรอ?”
“ก็ แบบว่าฉันฝันซ้ำ มาหลายวันก็เลยหงุดหงิด แล้วไอ้เสียงนั่นก็เอาแต่กรอกหูฉันอยู่นั่นแหละ ฉันรำคาญมากเลยตอนนั้น”
“แล้วไงต่อ” อาร์น่ามองเร็นนิ่งแล้วว่า
“ก็ไม่แล้วไง แค่นั้นแหละ”
“เสียงที่ว่านี่ใช่เสียงผู้ชายแหบห้าวหน่อยใช่มั้ย” เร็นถามเสียงเรียบ สองคนที่เหลือหันไปมองก่อนที่อาร์น่าจะถามอย่างตกใจ
“นั่นแหละ!! นายรู้ได้ไง?”
“ก็ ดาบเน่าๆ ของนายมันพูดน่ะสิ” งองูสองตัวขึ้นบนหน้าของเจ้าชายและหัวขโมย
“มันพูดกับฉันว่า อย่าบังอาจมาแตะข้า เห็นมือนี่มั้ย พอฉันจับ มันก็ค่อยๆ ร้อนขึ้น”
“งั้นเสียงนั่นพูดว่ายังไง?” เลออนที่เงียบมานานถามบ้าง
“นายท่าน โปรดเรียกชื่อข้า ประมาณนี้แหละ”
“งั้นก็แน่ใจได้ว่าคงมาจากดาบเล่มนี้” เร็นกล่าวพลางมองดาบคาตานะหักๆ นั่นไม่วางตา เลออนทำท่านึกก่อนจะเอื้อมมือลงไปหยิบดาบขึ้นมาถือบ้าง
“ปล่อยซะ..” ควันสีขาวลอยออกจากมือที่ถือดาบ พร้อมกับเสียงดังฉ่า เหมือนโดนไหม้ แต่เจ้าชายน้ำแข็งก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ
“เฮ้ย มือนาย ปล่อยสักทีสิ” พูดจบร่างบางก็คว้าเอาดาบมาถือไว้ก่อนจะดึงมืออีกฝ่ายมาดู
“ไม่เห็นมีรอยอะไร โธ่เอ๊ย คนอุตส่าห์เป็นห่วง”พูดจบก็โยนดาบลงพื้นดังเคร้ง
“ดาบนี่จริงๆ บางที ดาบเล่มนี้อาจจะเป็นดาบปีศาจ” เลออนเอ่ยเสียงเรียบ
“ดาบปีศาจ!?” อาร์น่ากับเร็นผสานเสียงกัน เลออนพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะพูดต่อ
“นายจำเรื่องของเซเรฟที่กิล เดอเรย์ เล่าให้ฟังวันนั้นได้มั้ย” สองคนพยักหน้า
“เรื่องของเซเรฟ ฉันพอรู้มาบ้าง เดิมทีเขามีดาบอยู่เล่มหนึ่ง เขาใช้ดาบเล่มนี้ฆ่าคนและปีศาจไปมากมาย รู้สึกเหมือนว่าเขากับเซฟิลอสเคยเป็นเพื่อนรักกันจึงไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนผนึกเซฟิลอสน่ะนะ หลังจากใช้พลังชีวิตไปทั้งหมดกับการผนึกจอมมาร หลังจากนั้นไม่กี่ปีเขาก็ตาย ดาบของเขาว่ากันว่ามีพลังมากมาย นักดาบทั่วแดนต่างอยากได้แสวงหามาครอบครอง แต่สุดท้าย นักดาบพวกนั้นไม่มีใครตายศพสวยสักคน ดูเหมือนจะถูกดาบครอบงำจนกลายเป็นบ้าและฆ่าตัวตาย มันถึงถูกเรียกว่าดาบปีศาจ แต่ถึงอย่างนั้นผู้คนก็ยังคิดที่จะสยบมัน เป็นความทระนงที่ไร้ค่า แล้วในที่สุด ร้อยปีก่อน ดาบปีศาจเล่มนั้นก็หายไป มีข่าวลือว่ามันอยู่ที่ราชาปีศาจเดออน แต่ก็มีใครรู้ว่าจริงรึเปล่า ถ้านี่เป็นดาบเล่มนั้นจริง ทำไมมันถึงหักอย่างนี้ล่ะ?”
“-______________- ขอร้องอย่าพูดอะไรน่ากลัวอย่างนั้น ถ้าเป็นงั้นจริง ฉันจะเอาดาบเล่มนั้นไปโยนทิ้งเดี๋ยวนี้แหละ” อาร์น่าพูดพลางทำท่าขนลุก
“ถึงจะเป็นอย่างงั้น แต่จะอธิบายเรื่องมือของอาร์น่ายังไงล่ะ? รึจะบอกว่า เจ้าของดาบปีศาจทุกคนก็เป็น” เร็นถามบ้าง อาร์น่ามองมือที่มีผ้าพันแผล ตอนนี้เริ่มจะกลายเป็นสีแดงหมดแล้ว
“ไม่เคยได้ยินมาก่อนเหมือนกัน เอามือมานี่” ตอบคำถามของเร็นแล้วก็ดึงมือร่างบางมาแกะผ้าออก แล้วเปลี่ยนผ้าให้ใหม่ คราวนี้พันหนากว่าเดิมจนอาร์น่าต้องบอกให้พอ เพราะยังไงเขาก็ยังใช้มือขวาเขียนหนังสือ ขืนพันมากกว่านี้ก็ไม่ต่างจากคนเป็นง่อย
“โอ๊ย อยากจะบ้าตาย นี่มันเรื่องอะไรกัน ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่มีแต่เรื่องปวดหัว แล้วทำไมมีแต่ฉันคนเดียวที่เป็นแบบนี้ล่ะ?” พูดจบก็ทิ้งตัวลงนอนทำหน้ามุ่ย
ถ้าพ่อไม่ให้เขามาที่นี่ก็คงไม่เกิดเรื่องหรอก!!!
คิดแล้วก็เจ็บใจ เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นคนขี้แย แต่ตอนนี้ขอบตากลับร้อนผ่าวอย่างห้ามไม่อยู่ เลออนเอื้อมมือมาวางบนผมนุ่มก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ยังไงพวกเราก็อยู่ข้างนาย เพื่อนกันไม่ใช่เหรอ? เลิกร้องไห้งอแงแล้วนอนดีกว่าน่า”
“ไม่ได้ร้องเฟ้ยไอ้บ้า” แว้ดๆ ใส่ แล้วก็ปล่อยให้อีกฝ่ายลูบหัวอยู่อย่างนั้น แม้จะได้ฉายาว่าเจ้าชายน้ำแข็ง แต่ฝ่ามือนี้กลับอุ่นกว่าที่คิด เร็นปิดไฟ พวกเขาสามคนนอนรวมกันบนเตียงที่นำมาต่อกัน จนหลับไปในที่สุด
*****************************************
To be continued
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ