ลิขิตรักฉบับคานทอง

6.3

เขียนโดย Dashathone

วันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23.38 น.

  14 บท
  1 วิจารณ์
  17.95K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 กันยายน พ.ศ. 2558 14.14 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ฉบับที่ 3 บุพเพหรือพรหมลิขิต

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
ฉบับที่ 3
บุพเพหรือพรหมลิขิต
 
   “สวัสดีค่ะ พี่ดา” ณธิดาเอ่ยทักเลขาสาวใหญ่รุ่นพี่ที่เธอสนิทด้วยตั้งแต่สมัยอยู่มหาวิทยาลัย 
   “อ้าว  น้องเกรซเอาขนมมาส่งเองเลยเหรอจ้ะ” รันดาเอ่ยถามด้วยความสงสัยเพราะปกติจะเป็นพนักงานที่ร้านผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาส่งที่ออฟฟิศเธอเป็นประจำ
“อ้อ  คือวันนี้เกรซเอาขนมสูตรใหม่มาให้กับภัทรชิมด้วยนะค่ะ”  เพราะณธิดา
ต้องเอาขนมมาฝากพื่อนสนิทด้วย  เธอเลยอาสาเอาขนมที่รันดาสั่งเอาไว้ให้เจ้านายเป็นประมาส่งให้ด้วย
   “นี่ค่ะ กล่องใหญ่นี้ขนมที่พี่ดาสั่งค่ะ ส่วนอีกกล่องเกรซเอามาฝากพี่ค่ะ” 
หญิงสาวยื่นขนมสองกล่องให้รันดาสองกล่อง  เพื่อให้รันดาเอาไปเสิร์ฟเจ้านายของเธออย่างเช่นที่ทำทุกเช้า
   “ขอบใจจ้ะ  งั้นพี่รบกวนเกรซหน่อยได้ไหมจ้ะ  คือพี่กำลังยุ่งเตรียมเอกสารการประชุมด่วนน่ะ”  รันดาหันมาขอบคุณด้วยรอยยิ้มขณะที่มือก็กำลังระวิงกับการจัดเอกสารให้เจ้านาย  ซึ่งสั่งเรียกประชุมด่วนเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมานี้เอง
   “คะ…?”
   “พี่รบกวนเกรซช่วยเอาขนมนี่จัดใส่จานไปเสิร์ฟเจ้านายพี่ในห้องหน่อยได้ไหมจ้ะ  ขอบใจจ้ะ  แล้วเย็นนี้เจอกันที่ร้านนะ” เลขาสาวใหญ่หอบเอกสารพะลุพะลังเดินกึ่งวิ่ง  พร้อมกับหันหลังกลับมาพูดกับคนตัวบาง  ก่อนหายวับเข้าไปในห้องประชุมโดยที่หญิงสาวไม่ทันได้ทักท้วงใดๆ
            “ก๊อก ๆ” เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำงานใหญ่ของภวินท์ที่ดังขึ้น  ขัดจังหวะความคิดของชายหนุ่มที่กำลังเหม่อลอยไปถึงผู้หญิงเจ้าของใบหน้าสวยพริ้งที่เพิ่งจากมาไม่กี่นาที
   “เชิญ” ภวินท์ตอบกลับคนหน้าประตูเสียงเรียบ  เดินกลับมานั่งบนเก้าอี้หนังหลังโต๊ะตัวใหญ่  แล้วก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารการประชุมก่อนที่ชายหนุ่มจะเข้าร่วมอีกสิบนาทีข้างหน้า
   “ขอโทษค่ะ พี่ดา….” ณธิดากำลังจะบอกว่ารันดาให้เธอเอาขนมมาเสิร์ฟแทนเลขาของเขา  เสียงหวานกังวานใสทำให้ใบหน้าคมเข้มต้องเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารที่กำลังจดจ่ออยู่  ดวงตาคมเข้มสีน้ำตาลหม่นค้างไปหลายวินาที เมื่อสบเข้ากับดวงตาดำกลมโตหวานซึ้ง ณธิดาอ้าปากเตรียมจะพูดแต่ก็หุบฉับลงอีกครั้ง ดวงตาเบิกกว้างเพียงเสี้ยววินาที  แล้วเปลี่ยนเป็นขมวดคิ้วโก่งเรียวแทน สมองมึนงงไปชั่วขณะ  ลมหายใจติดขัด ทำให้เธอเป็นใบไปหลายวินาที  เธอหันซ้ายหันขวา  พยายามจะเปล่งเสียงออกมาแต่ก็กลายเป็นติดอ่างขึ้นมากะทันหัน
   “เอ่อ…” จากคนที่เคยเป็นคนมั่นใจ กล้าพูด กล้าคิด ตรงไปตรงมา  แต่พอสบเข้ากับดวงตาของเขาแล้ว  มันกลับทำให้ความตั้งใจที่จะพูดอะไรออกมากลับลำบากไปเสียอย่างนั้น ในขณะที่ภวินท์อมยิ้มมุมปากนิดนึง  แล้วเปลี่ยนเป็นสีหน้าเรียบเฉย  เลิกคิ้วขึ้น จ้องมองดวงหน้าหวาน  การสบตากับดวงตากลมโตนั้น  ทำให้หัวใจเขาเต้นดังอื้ออึงก้องในอกซ้าย  เลือดสูบฉีด  อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น สิ่งรอบกายหยุดหมุนไปชั่วขณะ  เขาหันตัวเอี้ยวไปทางขวาก้มหน้าต่ำลงเผยริมฝีปากยิ้มกว้างจนปากแทบฉีก  แล้วหันกลับมาทำสีหน้าเรียบเฉยดังเดิม
   “อะ  แอ่ม…” ภวินท์กระแอมดังขึ้นหลังจากที่ปรับสีหน้ากลบเกลื่อนความตื่นเต้นของตนเองได้แนบเนียน
   “พี่ดาให้ฉันเอาขนมมาเสิร์ฟแทนค่ะ  พอดีพี่ดาติดเตรียมเอกสารประชุมด่วนอยู่ค่ะ” ณธิดาโพล่งออกมาซะยืดยาวหลังจากตั้งสติเรียบเรียงประโยคในสมองได้  โดยที่ไม่สบตาเขาตรงๆ เพราะดวงตาสีน้ำตาลเข้มนั่นสามารถหยุดการทำงานของสมองเธอได้ทุกเมื่อ
   “ครับ  ขอบคุณครับ” ภวินท์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ        สีหน้านิ่งเฉย เขาเอนหลังพิงเก้าอี้ไปด้านหลังด้วยท่าทางผ่อนคลาย  แต่มือทั้งสองข้างที่ประสานกันบนตักกลับชื้นด้วยเหงื่อ  ยิ่งภายในร่างกายเขานั้นร้อนลุ่มจนอุณหภูมิสูงแทบระเบิดล้นทะลักออกมาด้านนอกอยู่รอมร่อ 
   “งั้นฉันเอาวางไว้ตรงนี้นะคะ  ขอตัวก่อนค่ะ” ณธิดากุลีกุจอรีบเอาจานขนมวางที่โต๊ะตัวเตี้ยมุมรับแขก  แล้วหันหลังกลับโดยพยายามบังคับขาทั้งสองข้างบนรองเท้าส้นสูงสี่นิ้ว  ให้เดินอย่างมั่นคงออกไปพ้นบานประห้องทำงานใหญ่โดยเร็วที่สุด  เมื่อพ้นขอบประตูมาได้ก็ยืนหอบหายใจแรง  พิงหลังกับประตูเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยว  กลัวว่าขาทั้งสองข้างจะล้มพับนั่งอยู่หน้าประตูให้อับอายคนที่เดินผ่านไปมา
   “ฮูว์ ๆ  ๆ” หญิงสาวร่างบางพ่นลมหายใจออกแล้วสูดลมหายใจเข้า พ่นออกแล้วสูดเข้า  ทำอยู่อย่างนี้สองสามรองเพื่อลดการกระหน่ำเต้นของหัวใจในอกข้างซ้ายให้บรรเทาบางลง  แต่ใบหน้าเนียนใสของเธอกลับรู้สึกว่ามีร้อนผ่าวขึ้นที่แก้มทั้งสองข้างแทน
   “ฮูว์…..” ส่วนคนที่อยู่ในห้องทำงานใหญ่ก็ไม่ได้รู้สึกต่างกันนัก  หลังจากที่คนหน้าสวยพริ้มออกไปแล้ว  ภวินท์พ่นลมหายใจออกอย่างแรง  ฉีกยิ้มกว้างอวดฟันขาวจนตาหยี มือทั้งสองข้างที่ประสานกันไว้  บัดนี้ถูไปมาสามสี่ครั้งเพื่อลดความประหม่าในอกให้เบาบางลงบ้าง     ทั้งสองคนคงไม่มีใครคาดคิดว่าคนที่เพิ่งจะเจอหน้ากันในลิฟต์เมื่อเช้านี้  จะได้พบเจอกันเป็นครั้งที่สองทั้งๆที่เพิ่งห่างกันไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ
   ร่างสูงสมาร์ทในชุดสูทหรูลุกเจ้าเก้าอี้บุหนังนุ่มที่เคยนั่งทำงานเป็นประจำ  ก้าวเดินไปที่โซฟาชุดรับแขกรูปทรงโมเดิร์น ดวงตาจ้องมองจานขนมหวานที่เจ้าของร้านคนสวยเอามาส่งด้วยตัวเอง หย่อนก้นลงนั่งบนโซฟาหนังสีเรียบ ดวงตาเข้มพิจารณาขนมแต่ละชิ้นราวกับว่ากลัวมันจะละลายอันตรธารหายไปจากสายตาอย่างไรอย่างนั้น  เขาเอื้อมมือไปหยิบชิ้นแรกค่อยๆบังคับมันมาจรดริมฝีปากหนา อ้าปากเตรียมจะละเลียดชิมรสชาติของมันว่าจะนุ่มลิ้น  หอมอบอวล  และหวานละมุน  เหมือนหญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยหวานพริ้มรึเปล่า  แต่ทันใดนั้น
   “ก๊อกๆ” มือของชายหนุ่มที่ถือขนมอยู่ชะงักค้างกลางอากาศทันที  เมื่อถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเคาะประตูดังขึ้นหน้าห้อง
   “บอสคะ ถึงเวลาประชุมแล้วค่ะ เอ่อ…..ว่าแต่ขนมอร่อยไหมคะ” รันดาเอ่ยถามทันทีเมื่อเดินเข้ามาในห้อง  แล้วเห็นเจ้านายหนุ่มกำลังหยิบขนมเข้าปากอยู่พอดี
   “เอ่อ….ก็….” ภวินท์พยายามหาคำตอบว่ารสชาติของมันจะอร่อยและหอมหวานมากแค่ไหน  ทั้งๆที่ยังไม่ได้ลิ้มรสเลยด้วยซ้ำ
   “ขอโทษค่ะ  บอสไม่สบายรึเปล่าคะ ดู……” รันดาเลขาสาวเอ่ยถามด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม  เอียงคอมองเจ้านายหนุ่มอย่างพิจารณา  พร้อมส่งสายตาล้อเลียนมีเลศนัย
   “อะไรครับ” ชายหนุ่มโพล่งขัดจังหวะขึ้นเสียก่อน  เพราะเขามั่นใจว่าตั้งแต่ออกมาจากบ้านมา  เขายังปกติดีทุกอย่าง  ไม่เจ็บไม่ไข้  จนกระทั่ง…..ตอนอยู่ในลิฟต์…..เมื่อเช้านั่นแหละ
   “คือ  ดิฉันหมายถึงหน้าเจ้านายนะค่ะ  มันดูแดงๆเหมือนไข้ขึ้น
รึเปล่าคะ” รันดาเฉลยให้เจ้านายเข้าใจในอาการของเขาที่แสดงออกมาทางสีหน้าอย่างชัดเจนว่าดู  ‘อายๆ’  ยังไงชอบกล
   “ว่าแต่ขนมอร่อยไหมคะ  วันนี้เจ้าของร้านมาส่งเองเลยนะค่ะ  น้องเกรซเนี้ยะสวยขาว สูงหุ่นดี  เซ็กซี่  รอยยิ้มหวานหยด  การศึกษาดี  ฐานะก็ดี  ที่สำคัญโสดค่ะ  ดิฉันคอนเฟิร์ม ” เลขาสาวยังคงพูดถึงณธิดาเจ้าของร้านขนมดังน้องสาวคนสนิทไม่หยุดปาก  พร้อมทำมือสัญลักษณ์เพื่อยืนยันว่าเป็นแบบที่พูดไว้จริง หวังว่าเจ้านายสุดหล่อจะสนใจผู้หญิงที่เพียบพร้อมแถมยังโสดอย่างณธิดา ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือฐานะทางการเงิน  แต่ก็ยังไร้คู่มาจนอายุสามสิบสี่เฉียดใกล้คานทองเข้าไปทุกวัน
   “ครับ  เกรซ…..เอ้ย  คุณดา  เราเข้าประชุมกันดีกว่าครับ” ภวินท์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงติดๆขัดๆ  แต่ก็กลบเกลื่อนด้วยการเอ่ยชวนรันดาเข้าประชุมแทน  กลัวว่าจะโดนจับพิรุธได้ซะก่อน
   “ค่ะ” รันดาตอบรับด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก  ดวงตาแพรวพราวเป็นประกาย  มองตามหลังเจ้านายที่เดินนำหน้าไปทางห้องประชุม  เพราะเธอเห็นอะไรบางอย่างในดวงตาเจ้านาย!  เวลาเธอพูดถึงน้องสาวคนสวยอย่าง ณธิดา  ณราวรกาลกุณ


ปล. ติดตามพูดคุยกันได้ที่ Dashathone

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา