ลิขิตรักฉบับคานทอง
เขียนโดย Dashathone
วันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23.38 น.
แก้ไขเมื่อ 19 กันยายน พ.ศ. 2558 14.14 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ฉบับที่ 1 ทำไมฉันไม่มีแฟน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ฉบับที่ 1
ทำไมฉันไม่มีแฟน
“ปี๊น ปี๊นๆ ปี๊นๆ” เสียงบีบแตรสนั่นหวั่นไหวของรถยนต์ที่คับคั่งบนท้องถนน ต่างพยายามเร่งเครื่องขับเคลื่อนยานพาหนะ เพื่อให้ทันเวลาเข้างานของเหล่ามนุษย์เงินเดือน ซึ่งเป็นสิ่งรบกวนโสตประสาทหูของผู้คนสัญจรไปมาเป็นประจำ จนกลายเป็นภาพชินตาของผู้ที่ได้พบเห็น ท่ามกลางบรรยากาศยามเช้าในชั่วโมงเร่งรีบของใจกลางเมืองอย่างกรุงเทพมหานคร ซึ่งรายล้อมไปด้วยตึกสำนักงานสูงระฟ้ามากมาย หญิงสาวเต็มวัยผู้มีใบหน้าเนียนใสอ่อนกว่าวัยราวกับเด็กมหาวิทยาลัย กำลังก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงบนพื้นฟุตบาททางเท้าริมถนน ณธิดา ณราวรกาลกุณ หรือ เกรซ หญิงสาวเต็มวัยอายุสามสิบสี่ปี เจ้าของใบหน้าหวานพริ้มเพลาถูกตกแต่งด้วยโทนธรรมชาติ เธอมีผิวขาวออร่าอมชมพูแบบสุขภาพดี ดั่งเช่นผู้หญิงหลายคนปรารถนา ผมดำยาวสลวยถึงกลางหลังถูกรวบเป็นหางม้าไว้ด้านหลังท้ายทอย ริมฝีปากอวบอิ่มอมชมพูน่าจูบถูกเคลือบด้วยลิปกลอสใส หน้าอกอวบนูนสมส่วนรับกับเอวคอดและสะโพกผาย ด้วยส่วนสูงร้อยเจ็ดสิบกว่าส่งผลให้เธอดูโดดเด่นเกินมาตรฐานหญิงไทย และสง่างามดึงดูดทุกสายตาเมื่ออยู่บนรองเท้าส้นสูง วันนี้ณธิดาสวมใส่เสื้อเชิ้ตคอปกสีขาว พับแขนขึ้นมาแค่ศอก ปลดกระดุมลงมาสองเม็ด เผยให้เห็นเนินอกอวบขาวน่าสัมผัส ทับด้วยกระโปรงทรงดินสอสีฟ้าพาสเทลยาวเลยเข่าเล็กน้อย เธอสวมรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วสีนู้ด ส่งผลให้รูปร่างของเธอดูเพรียวบางน่าทะนุถนอม และสง่างามราวกับนางแบบตามนิตยสารดัง ที่สำคัญไปกว่านั้น ณธิดายังเป็นผู้หญิงที่มีรอยยิ้มกว้างหวานหยดชนิดละลายใจผู้คนที่ได้พบเห็นให้เคลิบเคลื้มไปตามๆกัน
หญิงสาวกำลังก้าวเดินด้วยท่าทางมุ่งมั่นและมั่นคงจากคอนโดกลางใจเมืองของเธอ เพื่อมุ่งหน้าตรงไปยังสุดหัวมุมถนนโซนเศรษฐกิจ ที่รายล้อมไปด้วยตึกสำนักงานหลายสิบชั้นจำนวนมาก ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านขนมชื่อดังอย่าง House of Choco & Bake โดยมีเธอเป็นเจ้าของ เธอเริ่มจับธุรกิจร้านขนมตั้งแต่หลังจากเรียนจบปริญญาโทจากเมืองผู้ดีใหม่ๆ ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอชื่นชอบและรักในการทานขนมทุกชนิดที่มีส่วนผสมของช็อคโกแลตเป็นชีวิตจิตใจ จนเพื่อนรักอย่างพิมพ์ภัทรมักจะพูดแซวอยู่บ่อยๆว่าถ้าใครอยากมีใบหน้าดูอ่อนกว่าอายุจริงและหวานเหมือนเธอ คงต้องกินช็อคโกแลตแทนข้าว ร้านขนมของณธิดาขายเฉพาะเครื่องดื่มและเบเกอรี่ที่มีส่วนผสมของช็อคโกแลตเป็นหลัก ตัวร้านเป็นบ้านไม้สีขาวทั้งหลัง ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีขาวอมชมพูแลดูอบอุ่นอ่อนหวาน ซึ่งตัดกับเคาท์เตอร์สีน้ำตาลช็อคโกแลตเข้ม บริเวณรอบๆร้านแวดล้อมไปด้วยต้นลีลาวดีใบเขียวชอุ่มเพื่อให้ร่มเงา และประดับด้วยกล้วยไม้หลากหลายสายพันธุ์และสีสัน ทำให้บรรยากาศของร้านดูเย็นตามากขึ้น พร้อมกับมีโต๊ะเก้าอี้ให้ลูกค้าได้เลือกนั่งผ่อนคลายอารมณ์จากอากาศที่ร้อนอบอ้าว ร้าน House of Choco & Bake อยู่ได้เพราะไม่ต้องต้องจ่ายค่าเช่าที่แพงหูฉี่เมื่อเทียบกับทำเลทองย่านธุรกิจในแถบนี้ เพราะมันเป็นมรดกตกทอดมาจากพ่อและแม่ของเธอเมื่อหลายปี ก่อนที่ท่านเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุด้วยเครื่องบินตกขณะเดินทางไปทัวร์รอบโลก บวกกับรสชาติอร่อยเป็นที่ติดอกติดใจของบรรดาลูกค้าทั้งไทยและชาวต่างชาติ ทำให้ขนมของร้านเธอขายดีแบบเทน้ำเทท่าแทบทุกวัน ร้านขนมเล็กๆของเธอจึงอยู่ได้สบายๆ
แต่พอนึกย้อนกลับไปถึงความสำเร็จต่างๆที่เธอเคยทำได้มาแล้วนั้น ทำให้ธิณดาอดอมยิ้มด้วยความภาคภูมิใจไม่ได้ หลายๆคนบนโลกใบนี้อาจมีเป้าหมายในชีวิตที่อยากจะทำให้ได้แตกต่างกันไป ส่วนเธอมักมีเป้าหมายที่ชัดเจนให้กับชีวิตเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการสอบเข้าและเรียนจบด้วยเกียตินิยมจากมหาวิทยาลัยรัฐชื่อดังของประเทศ ได้ร่วมงานกับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มั่นคงทันทีหลังเรียนจบ แต่ใครอยากจะเป็นลูกน้องไปตลอดชีวิตกันล่ะ นี่จึงเป็นเหตุผลให้ตัดสินใจสอบเข้าเพื่อศึกษาต่อในระดับปริญญาโทในมหาวิทยาลัยท็อปเท็นของโลกแห่งเมืองผู้ดี และกลับมาเริ่มต้นทำธุรกิจร้านขนมทันที แต่ใครจะไปคาดคิดว่าร้านขนมเล็กๆจะสามารถทำรายได้ให้เธอถึงหกหลักต่อเดือน และถือว่านี่เป็นความสำเร็จอีกอย่างหนึ่งของการเริ่มต้นทำธุรกิจขั้นแรกในชีวิตของณธิดา ส่วนเป้าหมายต่อไปนะเหรอ อย่าให้พูดเลย!
“ เฮ้อ……ยิ่งคิดก็ยิ่งกลุ้ม “ ณธิดาได้แต่นั่งถอนหายใจคนเดียวอยู่ในห้องทำงานส่วนตัว ขณะกำลังตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของร้านที่เธอต้องทำเป็นกิจวัติประจำวันทุกๆเช้า สาเหตุของการกลุ้มใจไม่ได้มาจากปัญหาระดับชาติอะไรหรอก แต่เป็นเพราะงานเลี้ยงศิษย์เก่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาต่างหากล่ะ
‘ เกรซ เมื่อไหร่พวกเราจะได้รับเชิญไปร่วมงานแต่งเธอบ้างล่ะ ‘ เพื่อนสาวคนหนึ่งในกลุ่มเอ่ยขึ้นขัดจังหวะการทานขนมอย่างเอร็ดอร่อยเพราะเป็นสิ่งที่เธอชื่นชอบ
‘ เอ่อ…คือ….ฉัน…..’ ณธิดาเงยหน้าจากจานขนมแล้วพยายามหาเหตุผลของการอยู่เป็นโสดจนถึงทุกวันนี้ เธอคาดไม่ถึงว่าการมางานเลี้ยงศิษย์เก่าเหมือนที่เคยมาทุกปี จะทำให้กลายเป็นใบ้ไปชั่วขณะทั้งๆที่เป็นคนมั่นอกมั่นใจกับทุกเรื่องในชีวิต แต่กับเรื่องการแต่งงานและสามี ก็ยังเป็นปัญหาใหญ่หลวงที่เธอไม่สามารถหาคำตอบได้จนถึงตอนนี้
‘ เอ่ะ หรือว่าการที่เธอได้ไปเรียนยูท็อปเมืองผู้ดีมันทำให้เธอกลัวว่าจะมีผู้ชายมาช่วยใช้สมบัติมากมายก่ายกองที่พ่อแม่เธอทิ้งไว้ให้กันล่ะ จริงไหมพวกเรา’ หญิงสาวอีกคนที่หน้าตาไม่ได้โดเด่นเท่าณธิดาเอ่ยถามด้วยเสียงเย้ยหยัน เพราะเธอนั้นโชคเข้าข้างที่ได้เป็นคุณนายของนักธุรกิจท้องถิ่นทางใต้ตั้งแต่เพิ่งเรียนจบปริญญาตรี แต่เธอก็ไม่ได้มีสมบัติติดตัวมาตั้งแต่เกิดแบบณธดา ซึ่งได้รับมรดกมากมายแบบใช้ทั้งชาติก็คงไม่หมด
‘ นั่นนะสิเกรซ ตอนอยู่มหาลัยเธอเป็นถึงดาวคณะที่หนุ่มทั้งหลายจับตามองเชียวนะ จนพวกฉันเนี้ยะอิจฉาสุดๆ ทำไม๊ทำไมปัจจุบันเธอยังไม่ลงเอยกับใครอีกล่ะจ้ะ’ เพื่อนชายใจหญิงเอ่ยสนับสนุนขึ้น ส่งผลให้คนที่มั่นใจในความสวยของตัวเองมาตลอดอย่าง ณธิดา ณราวรกาลกุล ถึงกับสูญเสียความมั่นใจที่สั่งสมไปเกือบหมด
‘ ดูอย่างฉันสิขนาดเป็นกระเทยไทยสำเร็จรูปไม่ได้ส่งออกนอก ยังมีแฟนหล่อล่ำควงเป็นตัวเป็นตนเลยนะยะ’ เพื่อนชายใหญ่หญิงยังไม่ยอมหยุดค่อนแขวะเพื่อนร่วมรุ่นอย่างณธิดา ที่ตอนนี้ใบหน้าเนียนใสเริ่มม้านและก้มลงมองเพียงขนมตรงหน้า
“ก็นั่นนะสิ ทำไมฉันถึงไม่มีแฟนสักที เฮ้อ” หญิงสาวถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายอยู่คนเดียวในห้องทำงาน ความจริงแล้ว ณธิดาไม่ได้ปิดกั้นตัวเองเรื่องการมีแฟน หรือแม้แต่พ่อกับแม่ของเธอก็ไม่เคยปริปากห้ามเรื่องการคบหาเพื่อนชาย เพราะท่านทั้งสองยึดถือคติที่ว่าเคารพการตัดสินใจของลูกสาวคนเดียวมาตลอด หากลูกจะรักใครพ่อแม่เช่นท่านก็ยินดีจะรักและเอ็นดูด้วยเช่นกัน แต่เท่าที่ผ่านมาเธอเลือกที่จะตั้งใจเรียนมุ่งมั่นทำกิจกรรมมากกว่าสนใจที่จะสานสัมพันธ์กับเพื่อนชายมากหน้าหลายตาที่เข้ามาจีบอยู่เสมอ จริงอยู่ที่มีผู้ชายหลากหลายออฟชั่นเข้ามาตีสนิท และคาดหวังว่าเธอจะให้ความสนิทด้วย เฉกเช่นแฟนควงกันออกหน้าออกตา แต่พอผ่านไปไม่กี่สัปดาห์เขาเหล่านั้นก็ล่าถอยกลับไป พร้อมกับให้เหตุผลที่ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมด้วยหน้าตาและฐานะเกินไป คงจะมีแฟนที่เหมาะสมอยู่แล้วเลยไม่สนใจพวกเขา หรือไม่ก็ว่าไฮโซอย่างเธอคงไม่มองผู้ชายธรรมดาแบบพวกเขาหรอก พวกผู้ชายเหล่านั้นไม่เคยถามเหตุผลเธอเลยสักครั้ง ว่าเหตุใดเธอจึงไม่สนใจที่จะมีแฟนควงไปไหนมาไหนสักที จะว่าเธอไม่เคยมองใครก็คงจะพูดได้ไม่เต็มปากนัก เพราะสมัยนั้นหญิงสาวเคยแอบปลื้มรุ่นพี่ต่างคณะคนหนึ่ง ซึ่งตอนนั้นชายหนุ่มเรียนวิศวะอยู่ปีสี่ ในขณะที่เธอเรียนปีหนึ่งในคณะบริหาร พี่ธีร์ หรือ ธีร์ภพ เป็นผู้ชายธรรมดาที่มีหน้าตาสะอาดสะอ้าน ผิวขาว ตัวสูงเกินร้อยแปดสิบเซนติเมตร หน้าตาหล่อเหลาเป็นที่กรี้ดกร้าดของสาวน้อยใหญ่หลายคณะ ณธิดาเคยคุยกับเขาแค่สองสามครั้ง เมื่อตอนเขาเป็นผู้ช่วยอาจารย์บรรยายคลาสพิเศษวิชาหนึ่งที่เธอเคยเข้าร่วม ทำให้เธอสนใจเขาเป็นพิเศษและอยากใกล้ชิดแต่ก็ผิดหวัง! เพราะเธอได้ข่าวมาจากเพื่อนสนิทที่เคยเป็นแฟนคลับเขา ว่าได้ทุนจากมหาวิทยาลัยไปเรียนต่อเมืองนอก หลังจากนั้นณธิดาไม่เคยได้ข่าวหรือได้ติดต่อกับพี่ธีร์ของเธออีกเลย
“ ก็นี่ไงล่ะเหตุผลที่ฉันยังไม่มีแฟนจนจะขึ้นคานอยู่แล้วย่ะ” หลังจากที่คิดหาข้ออ้างของการไม่มีแฟนอยู่ดีๆ หญิงสาวก็โพล่งออกมาอย่างหงุดหงิด ก็เพราะผู้ชายเหล่านั้นมีความคิดงี่เง้าแบบนี้ไงเล่า เธอถึงไม่มีแฟนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ณธิดาได้แต่โทษผู้ชายเหล่านั้นในใจเพื่อลดความกดดันเท่านั้น เพราะงั้นเป้าหมายของเธอในปีนี้....คือ ‘หาผู้ชายดีๆ สักคนมาแต่งงานด้วยให้ได้!!!’ เพื่อลบคำเย้ยหยันของเพื่อนร่วมรุ่นปากเสียนั่น ที่มาสะกิดปมในใจของเธอ แต่มีข้อแม้ว่า ‘เธอจะไม่กินเด็ก!!!’ เพราะเธอไม่อยากเป็น ‘อมตะ’
ปล. ติดตามพูดคุยกันได้ที่ Dashathone
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ