War Sword สงครามดาบราชาสีรุ้ง
10.0
เขียนโดย Soman
วันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 22.12 น.
2 บท
4 วิจารณ์
4,773 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2558 22.23 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) เรื่องราว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความปี พ.ศ. 3, 568
ในยุคสมัยใหม่ที่ทุกๆคนต่างค้นคว้าเทคโนโลยีที่ทันสมัย และอำนวยความสะดวก ที่มนุษย์นั้นได้สร้างขึ้นมีการก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีเป็นอย่างมากจนทุกๆคนนั้นลืม เรื่องราว ความเชื่อเรื่องภูติผีปีศาจ วัฒนะธรรมต่างๆ และสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตเลือนลางหายไปจากมนุษย์ในปัจจุบันเกือบจะหมดสิ้น และสิ่งที่มนุษย์นั้นเชื่อในตอนนี้คือวิทยาศาตร์ที่สามารถพิสูตรได้ 100% เท่านั้น
จนราวๆ ปี พ.ศ. 3, 600 ซึ่งมีการค้นพบอะไรบางอย่างที่อยู้ใต้ผืนพิภพเป็นเวลายาวนานนับพันปี มันเป็นโครงสร้าง ของสิ่งแปลกประหลาดที่ไม่เคยมีมาก่อนเป็นโครงสร้างของตัวประหลาดที่มีรูปร่างใหญ่และสูงพอๆกับตึกสูงสามชั้น ผู้ที่ค้นพบเรื่องราวเหล่านี้เป็นประเทศที่เจริญและก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีไปไกลกว่าประเทศอื่นในตอนนี้คือ รัสเซีย ญีปุ่น สหรัฐอเมอริกา อังกฤษ และฝรั่งเศษ 5 ประเทศที่มีการก้าวหน้าทางวิวัฒนาการไกลที่สุดของโลกได้ค้นพบสิ่งเหล่านี้ และคิดจะปกปิดเป็นความลับต่อผู้คนบนโลกทั้งหมด เพื่อจะได้ไม่เกิดความชุลมุนกันขึ้น
แต่ผ่านไปได้เพียง 3 เดือน ก็เกิดเหตุการณ์แปลกประหลาดขึ้น มีการสั่นไหวของแผ่นดินเป็นบริเวนกว้างและเป็นหลุมขนาดลึกจนมองไม่เห็นก้นของหลุมและหลุมเหล่านี้เกิดขึ้นไปทั่วทั้งโลก ผู้คนต่างพากันตกใจและหลายประเทศเริ่มถกเถียงกันในเรื้องที่เกิดขึ้นจนเป็นการก่อจลาจล หลังจากนั้นผ่านไปได้เพียง 3 วันหลังเกิดหลุมขนาดใหญ่นั่นก็มีแสงสีแดงสดมันเหมือนกับสีเลือดที่ได้พวยพุ่งออกมาจากหลุมนั้นซึ่งผู้คนนั้นไม่รู้เลยว่ามันคืออะไรกันแน่ บ้างก็บอกแสงแห่งหายนะ บ้างก็บอกแสงแห่งความตายจนผู้คนนั้นต่างหวาดกลัว และทั้นใดนั้นที่เกิดแสงสีแดงนั้นขึ้นสัตว์ประหลาดที่ 5 ประเทศแถวหน้าเคยค้นพบเมื่อ 3 เดือนก่อนพวกนั้นก็ได้ปรากฏตัวขึ้นตามหลุมที่มีอยู่ทั่วโลก และพวกมันได้ฆ่ามนุษย์และกัดกินมนุษย์เป็นอาหารไปเป็นจำนวนมาก หลายประเทศต่างงัดอาวุธออกมาเพื่อโค่นสัตว์ประหลาดพวกนั้น แต่ก็เหมือนจะไร้ผล เพราะทำอะไรร่างกายที่สูงใหญ่และหน้าเกลียดน่ากลัวนั้นได้เลย
แม้แต่รอยขีดข่วนก็มิอาจทำให้เกิดขึ้นได้ พวกมนุษย์เริ่มอ่อนแรงที่จะสู้ และตายไปเป็นจำนวนมากส่วนพวกที่ยังรอดชีวิตอยู่ก็เริ่มจะหมดหวังไปแล้ว
ผ่านไป 5 เดือนหลังวันแห่งหายนะเกิดขึ้น
ก็มีกองทัพทหารจากหลายประเทศซึ่งมารวมตัวกันได้คิดค้นอาวุธที่สามารถฆ่าพวกมันได้สำเร็จ นั้นมันคือ ดาบสีดำ ที่รวบรวมสะสารต่างๆไว้ในนั้นมันทำให้เกิดพลังอันมหาศาลที่พอจะฆ่าสัตว์ประหลาดพวกนั้นได้ และกองกำลังที่รวมตัวกันได้ตั้งชื่อของพวกเขาขึ้นมาเองว่า Black Sword และเรียกเหตุการ์ณที่พวกสัตว์ประหลาดออกมาจากแสงสีแดงนั้นว่า แสงแห่งเลือด และนี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังพบโครงสร้างประหลาดนั่น และเกิดหายนะครั้งใหญ่ต่อมนุษยชาติ
ประเทศญีปุ่น เมืองโตเกียว...........
"แม่ครับ พ่อครับ อยู่ที่ไหนคับ ?"
"พ่อครับ แม่ครับ ออกมาซักทีสิ พ่อครับ แม่ครับ !!!"
เสียงเรียกอย่างอ่อนเพลียของเด็กชายวัยเพียง 10 ขวบได้เดินร้องเรียกหาบิดาและมารดาของตนด้วยเนื้อตัวที่มอมแม็ม ร่างกายที่ซุบผอม หลังจากที่พวกสัตว์ประหลาดได้ปรากฏตัวขึ้นและเข่นฆ่าผู้คนทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่นั้นมีเพียงแค่เด็กชายที่รอดพ้นมาได้จากการช่วยเหลือของพ่อกับแม่ตนที่เอาชีวิตนั้นแลกกับชีวิต
"แม่ครับ พ่อครับ ออกมาสักที ผมไม่มีแรงแล้ว ผมอยากเจอพ่อกับแม่จังเลย"
เด็กชายยังคงเดินและร้องเรียกหาบิดาและมารดาของตนไปเรื่อยๆตามท้องถนนและซากปรักหักพังไปทั่วบริเวณ ถึงแม้จะไม่มีแรงเหลือที่จะเดินไปได้ไม่ไกลแต่เขาก็ยังเดินและร้องเรียกไปเรื่อยๆจนกระทั้ง
ฟื้วววว..... ฟี้ววววว..... ฟี้ววววววว................
"นั้นมันเสียงอะไรผมมองไม่ค่อยเห็นแล้วตาลายไปหมด มะ แม่ครับ พะ พ่อครับ"
"ตึ่ง.....!!!"
เสียงของร่างกายที่อ่อนล้าของเด็กชายได้ค่อยๆล้มลงไปกับพื้นอย่างช้าๆ และสิ่งที่เด็กหนุ่มเห็นก่อนจะหมดสติ มีหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งมาหาเขาและเรียกเขาให้ฟื้นสติขึ้น แต่ด้วยร่างกายที่อ่อนล้าเขาจึงทำให้แค่กำมือของหญิงสาวไว้เพียงเท่านั้น
ผ่านไป 3 วัน
"ที่นี่ที่ไหนกัน ?"
"พ่อครับแม่ครับอยู่ที่ไหน?"
เสียงร้องของเด็กหนุ่มหลังจากที่ตื่นขึ้นได้เพียงไม่นาน เขาอยู่ในห้องแคบๆที่ไหนสักที่ มันเป็นเหมือนฐานทัพมากกว่าจะเป็นบ้านของคน
แก็กๆ.....แก็กๆ.....แก็กๆ......
เสียงบิดลูกบิดดังขึ้น
"เป็นยังไงบ้างเจ้าหนู ยังไม่ตายใช่ไหม"
ผู้หญิงใส่ชุดสีขาวผมสีแดง ได้เข้ามาในห้องของเด็กชายแล้วเอ่ยปากถามถึงสภาพร่างกายตอนนี้ของเขาว่าเป็นเช่นไร
"มะ ไม่เป็นไร"
"แล้วพ่อกับแม่ของผมละ ?"
เด็กหนุ่มพูดขึ้นหลังจากตอบคำถามของหญิงสาว
"ตายไปหมดแล้วละนะที่เห็นมีแค่นายคนเดียวที่รอดเจ้าหนู โชคช่วยไวจริงๆ"
หญิงสาวได้พูดขึ้นพร้อมกับคาบบุหรี่อยู่ในปาก สีหน้าของเธอดูเข้มแข็งเหมือนจะบอกเด็กหนุ่มว่า ไม่มีเวลามานั่งเสียใจ เราต้องเดินไปข้างหน้า อย่าจมปลักกับอดีตที่ผ่านมา
"แล้วคุณช่วยผมไว้อย่างนั้นหรอแล้วพวกสัตว์ประหลาดนั้นละ"
"พวกมันโดนฉันฆ่าไปหมดแล้วล่ะ ก็ดีนะที่ฉันไปเจอก่อนแกจะเป็นอาหารของพวกมันเสียก่อน"
"พวกคุณฆ่ามันได้ใช่ไหม ?"
"ผมอยากฆ่าพวกมันเหมือนกันสอนผมทีสอนผมด้วยเถอะผมขอร้อง ทั้งพ่อทั้งแม่ ทั้งความสุข ความดีใจ ผมจะชิงจากพวกมันกลับคืนมาให้หมด"
เด็กหนุ่มได้แหงนหน้ามองขึ้นไปหาใบหน้าของหญิงสาวพร้อมกับสีของดวงตาที่แดงฉานและน้ำตาที่ร่วงรินอาบแก้มของเขามันทำให้หญิงสาวคนนั้น ตอบอย่างอื่นออกมาไม่ได้เลยนอกจาก
"ก็ได้ฉันจะทำให้แกฆ่าพวกสัตว์ประหลาดพวกนั้นก็แล้วกัน เรียกฉันว่า มิซึกิซะสิ ฉันคืออาจารย์ของแก แล้วแกละชื่ออะไรเด็กน้อย"
"ผมนะหรอครับ ยามิโตะ คานาชิ"
โปรดติดตามตอนต่อไป วิจารณ์ติชมกันได้นะครับ อิอิ
ในยุคสมัยใหม่ที่ทุกๆคนต่างค้นคว้าเทคโนโลยีที่ทันสมัย และอำนวยความสะดวก ที่มนุษย์นั้นได้สร้างขึ้นมีการก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีเป็นอย่างมากจนทุกๆคนนั้นลืม เรื่องราว ความเชื่อเรื่องภูติผีปีศาจ วัฒนะธรรมต่างๆ และสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตเลือนลางหายไปจากมนุษย์ในปัจจุบันเกือบจะหมดสิ้น และสิ่งที่มนุษย์นั้นเชื่อในตอนนี้คือวิทยาศาตร์ที่สามารถพิสูตรได้ 100% เท่านั้น
จนราวๆ ปี พ.ศ. 3, 600 ซึ่งมีการค้นพบอะไรบางอย่างที่อยู้ใต้ผืนพิภพเป็นเวลายาวนานนับพันปี มันเป็นโครงสร้าง ของสิ่งแปลกประหลาดที่ไม่เคยมีมาก่อนเป็นโครงสร้างของตัวประหลาดที่มีรูปร่างใหญ่และสูงพอๆกับตึกสูงสามชั้น ผู้ที่ค้นพบเรื่องราวเหล่านี้เป็นประเทศที่เจริญและก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีไปไกลกว่าประเทศอื่นในตอนนี้คือ รัสเซีย ญีปุ่น สหรัฐอเมอริกา อังกฤษ และฝรั่งเศษ 5 ประเทศที่มีการก้าวหน้าทางวิวัฒนาการไกลที่สุดของโลกได้ค้นพบสิ่งเหล่านี้ และคิดจะปกปิดเป็นความลับต่อผู้คนบนโลกทั้งหมด เพื่อจะได้ไม่เกิดความชุลมุนกันขึ้น
แต่ผ่านไปได้เพียง 3 เดือน ก็เกิดเหตุการณ์แปลกประหลาดขึ้น มีการสั่นไหวของแผ่นดินเป็นบริเวนกว้างและเป็นหลุมขนาดลึกจนมองไม่เห็นก้นของหลุมและหลุมเหล่านี้เกิดขึ้นไปทั่วทั้งโลก ผู้คนต่างพากันตกใจและหลายประเทศเริ่มถกเถียงกันในเรื้องที่เกิดขึ้นจนเป็นการก่อจลาจล หลังจากนั้นผ่านไปได้เพียง 3 วันหลังเกิดหลุมขนาดใหญ่นั่นก็มีแสงสีแดงสดมันเหมือนกับสีเลือดที่ได้พวยพุ่งออกมาจากหลุมนั้นซึ่งผู้คนนั้นไม่รู้เลยว่ามันคืออะไรกันแน่ บ้างก็บอกแสงแห่งหายนะ บ้างก็บอกแสงแห่งความตายจนผู้คนนั้นต่างหวาดกลัว และทั้นใดนั้นที่เกิดแสงสีแดงนั้นขึ้นสัตว์ประหลาดที่ 5 ประเทศแถวหน้าเคยค้นพบเมื่อ 3 เดือนก่อนพวกนั้นก็ได้ปรากฏตัวขึ้นตามหลุมที่มีอยู่ทั่วโลก และพวกมันได้ฆ่ามนุษย์และกัดกินมนุษย์เป็นอาหารไปเป็นจำนวนมาก หลายประเทศต่างงัดอาวุธออกมาเพื่อโค่นสัตว์ประหลาดพวกนั้น แต่ก็เหมือนจะไร้ผล เพราะทำอะไรร่างกายที่สูงใหญ่และหน้าเกลียดน่ากลัวนั้นได้เลย
แม้แต่รอยขีดข่วนก็มิอาจทำให้เกิดขึ้นได้ พวกมนุษย์เริ่มอ่อนแรงที่จะสู้ และตายไปเป็นจำนวนมากส่วนพวกที่ยังรอดชีวิตอยู่ก็เริ่มจะหมดหวังไปแล้ว
ผ่านไป 5 เดือนหลังวันแห่งหายนะเกิดขึ้น
ก็มีกองทัพทหารจากหลายประเทศซึ่งมารวมตัวกันได้คิดค้นอาวุธที่สามารถฆ่าพวกมันได้สำเร็จ นั้นมันคือ ดาบสีดำ ที่รวบรวมสะสารต่างๆไว้ในนั้นมันทำให้เกิดพลังอันมหาศาลที่พอจะฆ่าสัตว์ประหลาดพวกนั้นได้ และกองกำลังที่รวมตัวกันได้ตั้งชื่อของพวกเขาขึ้นมาเองว่า Black Sword และเรียกเหตุการ์ณที่พวกสัตว์ประหลาดออกมาจากแสงสีแดงนั้นว่า แสงแห่งเลือด และนี่เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังพบโครงสร้างประหลาดนั่น และเกิดหายนะครั้งใหญ่ต่อมนุษยชาติ
ประเทศญีปุ่น เมืองโตเกียว...........
"แม่ครับ พ่อครับ อยู่ที่ไหนคับ ?"
"พ่อครับ แม่ครับ ออกมาซักทีสิ พ่อครับ แม่ครับ !!!"
เสียงเรียกอย่างอ่อนเพลียของเด็กชายวัยเพียง 10 ขวบได้เดินร้องเรียกหาบิดาและมารดาของตนด้วยเนื้อตัวที่มอมแม็ม ร่างกายที่ซุบผอม หลังจากที่พวกสัตว์ประหลาดได้ปรากฏตัวขึ้นและเข่นฆ่าผู้คนทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่นั้นมีเพียงแค่เด็กชายที่รอดพ้นมาได้จากการช่วยเหลือของพ่อกับแม่ตนที่เอาชีวิตนั้นแลกกับชีวิต
"แม่ครับ พ่อครับ ออกมาสักที ผมไม่มีแรงแล้ว ผมอยากเจอพ่อกับแม่จังเลย"
เด็กชายยังคงเดินและร้องเรียกหาบิดาและมารดาของตนไปเรื่อยๆตามท้องถนนและซากปรักหักพังไปทั่วบริเวณ ถึงแม้จะไม่มีแรงเหลือที่จะเดินไปได้ไม่ไกลแต่เขาก็ยังเดินและร้องเรียกไปเรื่อยๆจนกระทั้ง
ฟื้วววว..... ฟี้ววววว..... ฟี้ววววววว................
"นั้นมันเสียงอะไรผมมองไม่ค่อยเห็นแล้วตาลายไปหมด มะ แม่ครับ พะ พ่อครับ"
"ตึ่ง.....!!!"
เสียงของร่างกายที่อ่อนล้าของเด็กชายได้ค่อยๆล้มลงไปกับพื้นอย่างช้าๆ และสิ่งที่เด็กหนุ่มเห็นก่อนจะหมดสติ มีหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งมาหาเขาและเรียกเขาให้ฟื้นสติขึ้น แต่ด้วยร่างกายที่อ่อนล้าเขาจึงทำให้แค่กำมือของหญิงสาวไว้เพียงเท่านั้น
ผ่านไป 3 วัน
"ที่นี่ที่ไหนกัน ?"
"พ่อครับแม่ครับอยู่ที่ไหน?"
เสียงร้องของเด็กหนุ่มหลังจากที่ตื่นขึ้นได้เพียงไม่นาน เขาอยู่ในห้องแคบๆที่ไหนสักที่ มันเป็นเหมือนฐานทัพมากกว่าจะเป็นบ้านของคน
แก็กๆ.....แก็กๆ.....แก็กๆ......
เสียงบิดลูกบิดดังขึ้น
"เป็นยังไงบ้างเจ้าหนู ยังไม่ตายใช่ไหม"
ผู้หญิงใส่ชุดสีขาวผมสีแดง ได้เข้ามาในห้องของเด็กชายแล้วเอ่ยปากถามถึงสภาพร่างกายตอนนี้ของเขาว่าเป็นเช่นไร
"มะ ไม่เป็นไร"
"แล้วพ่อกับแม่ของผมละ ?"
เด็กหนุ่มพูดขึ้นหลังจากตอบคำถามของหญิงสาว
"ตายไปหมดแล้วละนะที่เห็นมีแค่นายคนเดียวที่รอดเจ้าหนู โชคช่วยไวจริงๆ"
หญิงสาวได้พูดขึ้นพร้อมกับคาบบุหรี่อยู่ในปาก สีหน้าของเธอดูเข้มแข็งเหมือนจะบอกเด็กหนุ่มว่า ไม่มีเวลามานั่งเสียใจ เราต้องเดินไปข้างหน้า อย่าจมปลักกับอดีตที่ผ่านมา
"แล้วคุณช่วยผมไว้อย่างนั้นหรอแล้วพวกสัตว์ประหลาดนั้นละ"
"พวกมันโดนฉันฆ่าไปหมดแล้วล่ะ ก็ดีนะที่ฉันไปเจอก่อนแกจะเป็นอาหารของพวกมันเสียก่อน"
"พวกคุณฆ่ามันได้ใช่ไหม ?"
"ผมอยากฆ่าพวกมันเหมือนกันสอนผมทีสอนผมด้วยเถอะผมขอร้อง ทั้งพ่อทั้งแม่ ทั้งความสุข ความดีใจ ผมจะชิงจากพวกมันกลับคืนมาให้หมด"
เด็กหนุ่มได้แหงนหน้ามองขึ้นไปหาใบหน้าของหญิงสาวพร้อมกับสีของดวงตาที่แดงฉานและน้ำตาที่ร่วงรินอาบแก้มของเขามันทำให้หญิงสาวคนนั้น ตอบอย่างอื่นออกมาไม่ได้เลยนอกจาก
"ก็ได้ฉันจะทำให้แกฆ่าพวกสัตว์ประหลาดพวกนั้นก็แล้วกัน เรียกฉันว่า มิซึกิซะสิ ฉันคืออาจารย์ของแก แล้วแกละชื่ออะไรเด็กน้อย"
"ผมนะหรอครับ ยามิโตะ คานาชิ"
โปรดติดตามตอนต่อไป วิจารณ์ติชมกันได้นะครับ อิอิ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ