My Dessert !! รักนะนายขนมหวาน (Yaoi)
เขียนโดย sodazaaa
วันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 03.00 น.
แก้ไขเมื่อ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2558 09.50 น. โดย เจ้าของนิยาย
14) My Dessert 12
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
My Dessert 12
ผมตื่นขึ้นมาในตอนเช้าพร้อมกับความรู้สึกอึดอัดเหมือนมีอะไรมาทับพอลืมตาก็ สังเกตเห็นท่อนแขนแข็งแรงพาดอยู่ที่เอว แม่งเอ้ย !! กูก็ว่าอยู่ทำไมมันอึดอัด ผมค่อยๆยกแขนมันออกช้าๆเพื่อไม่ให้มันรู้สึก ที่ผมทำแบบนี้ไม่ใช่ว่าผมกลัวมันหรอกนะจริงๆผมอยากจะถีบมันให้หงายด้วยซ้ำ แต่วันนี้ผมตื่นเช้ากว่าปกติเลยกะจะออกไปเดินเล่นซะหน่อย เดินแบบเดินคนเดียวโดยไม่มีใครคอยตามน่ะครับ
หลังจากอาบน้ำเสร็จผมก็ออกมาเดินเล่นรับลมทะเลที่ชายหาดคนเดียว ฮ้าาาา !! ลมเย็นๆ แสงแดดอ่อนๆ เสียงคลื่น กลิ่นทะเลยามเช้านี่มันช่างสดชื่นจริงๆ ยิ่งได้มาเดินคนเดียวแบบนี้บอกได้เลยว่าฟินน แต่ถ้าจะให้ฟินกว่านี้ต้องมาเดินกับแฟนนะครับ ผมเดินทอดน่องมาตามชายหาดเรื่อยๆโดยไม่ได้สังเกตเลยว่าเดินออกห่างจากบ้านมา ไกลแค่ไหนแล้ว ไม่ต้องห่วง ผมไม่หลงหรอกหน่าไม่ใช่เด็กๆนะครับที่ออกห่างจากบ้านแล้วจะกลับไม่ถูกน่ะ เดินอยู่อีกสักพักผมก็กลับบ้าน พอมาถึงหน้าบ้านผมก็ต้องตกใจที่เห็นไอ้พี่เดลมันวิ่งหน้าตื่นเข้ามา
ฟึ่บบ
“ อ๊ะ ” ผมร้องออกมเบาๆ เพราะตกใจที่อยู่ๆพี่เดลมันก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามากอดผม มันเป็นอะไรของมันอ่ะ “ พะ พี่เป็นอะไรมากอดผมทำไมเนี่ย ”
“ ... ”
“ พี่เดล เป็นอะไรรึป่าว ” ผมถามออกไป เพราะพี่เดลมันไม่พูดอะไรเลยเอาแต่กอดผมไว้นิ่งๆแบบนั้น ถ้าหูผมไม่ได้ฝาด ผมว่าผมได้ยินเสียงหัวใจพี่เดลเต้นโคตรแรงเลยล่ะ
“ ... ”
“ ... ”
“ อย่าทำแบบนี้ อย่าทำแบบนี้อีก ” เสียงพี่เดลพูดออกมาเบาๆ เหมือนกระซิบให้ผมฟัง
“ ทำอะไร ”
“ อย่าหายไปไหนโดยที่ไม่บอก ”
“ ผมแค่ไปเดินเล่นมาเองพี่ อย่าซีเรียสหน่า ” ผมบอกออกไปด้วยเสียงที่ติดตลก
“ จะไม่ให้กูซีเรียสได้ไง ตื่นมาก็ไม่เห็นมึงอยู่ในห้องเดินหาทั่วบ้านก็ไม่มี โทรศัพท์ก็ไม่เอาไปกูจะติดต่อมึงได้มั้ย กูคิดว่ามึงจะหนีกูไป แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นกับมึงจะเป็นยังไง กูจะรู้สึกยังไง กูแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้วที่มึงหายไปรู้บ้างมั้ย!! ” พี่มันพูดอย่างโมโหหลังจากปล่อยผม เสียงมันน่ะโมโหใส่อารมณ์เต็มที่ แต่แววตาของมันกลับไม่ใช่แบบนั้น มันเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและความเป็นห่วงที่เห็นว่าผมหายไป
ผมได้แต่ทำตาปริบๆ หน้าผมตอนนี้บอกได้เลยว่าเหวอมาก ตั้งแต่รู้จักกันมานี่ถือเป็นครั้งแรกได้มั้งที่พี่เดลมันพูดอะไรยาวๆแบบนี้ แล้วยังคำพูดของมันอีกที่ทำให้ผมตกใจ
“ ผะ ผมขอโทษ ” ผมบอกออกไปอย่างรู้สึกผิด ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมผมต้องรู้สึกผิดแค่ออกไปเดินเล่นเอง คงเป็นเพราะคำพูดและแววตาของมันที่แสดงออกว่าเป็นห่วงผมมากล่ะมั้งที่ทำให้ ผมรู้สึกผิดขึ้นมา
“ ช่างเถอะ ” พูดจบพี่มันก็หันหลังเดินเข้าบ้านไปเลย ปล่อยให้ผมยืนงงเป็นไก่อยู่ตรงนั้น พอผมเดินตามเขาไปในบ้านก็เห็นพี่เดลกำลังเก็บของ นี่อย่าบอกนะว่าจะกลับแล้วน่ะ
“ จะกลับแล้วหรอพี่ ”
“ อืม ”
“ ไหนบอกจะมาสองวัน ”
“ ทำไม มึงไม่ได้อยากมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วไม่ใช่หรอ กูเป็นคนบังคับมึงมา จะกลับช้ากลับเร็วก็คงเหมือนกัน ”
“ ... ” กริบเลยครับ ไปต่อไม่ถูก
ระหว่างทางกลับ ในรถเต็มไปด้วยความเงียบและบรรยากาศน่าอึดอัด ทั้งผมทั้งพี่เดลไม่มีใครพูดอะไรเลยตลอดทางแม้แต่เสียงเพลงก็ไม่มีสักนิด อึดอัดโคตรรรรรร ผมไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้อ่ะ ถ้าเป็นปกติผมคงเอะอะโวยวายไปแล้ว แต่เวลานี้บอกตรงๆผมไม่กล้าจะว่าผมป๊อดก็ได้ ตั้งแต่พี่มันพูดกับผมก่อนกลับผมก็รับรู้ได้เลยว่าอารมณ์มันไม่โอเค ผมถึงได้นั่งเงียบมาตลอดทางจนจะถึงบ้านนี่ไง
เอี๊ยดด
พี่มันมาส่งผมที่บ้านถึงแม้ว่ามันจะโกรธผมอยู่(รึป่าว) แต่ผมก็ยังไม่ได้ลงจากรถทันทีหรอกนะ ผมนั่งทำใจอยู่แปปนึงก่อนจะเอ่ยถามพี่มันออกไป
“ พี่โกรธผมหรอ ”
“ เปล่า ”
“ ก็เห็นอยู่ว่าพี่โกรธ ”
“ สนใจด้วยหรอ ”
“ ก็... เปล่าซะหน่อย ก็แค่สงสัยว่าพี่โกรธผมเรื่องอะไร แค่เรื่องที่ผมไปเดินเล่นเมื่อเช้าเนี่ยนะ? บ้าไปแล้วพี่ ”
“ เอออ!! กูมันบ้า บ้าที่เป็นห่วงมึง บ้าที่กลัวว่ามึงจะเป็นอะไร บ้าที่วิ่งตามหามึงให้วุ่น หมดกูมันบ้าเอง!!! ”
“ พี่เป็นอะไรวะ เอะอะก็มาตะคอกใส่ผม แค่ผมไปเดินเล่นแค่นี้มันเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องคอขาดบาดตายขนาดนั้นเลยรึไง!! ” ไม่ไหวแล้วนะ ตะคอกใส่กูอยู่นั่นแหละแม่ง กูทำอะไรผิดนักหนาวะ ผมก็ไม่ใช่คนที่จะมานั่งเงียบให้ใครเค้าด่าอยู่ฝ่ายเดียวหรอกนะ
“ ... ”
“ ยังไง ตอบมาดิ ทีอย่างนี้ทำไมไม่ตอบล่ะ เหอะ! อย่ามาทำเหมือนพี่เป็นห่วงอะไรผมนักหนาเลย ”
“ ก็กูเป็นห่วงมึงไง ถ้าไม่ห่วงกูจะเป็นแบบนี้มั้ย!!! ”
“ แล้วพี่จะมาเป็นห่วงอะไรผมนักหนาเล่า ผมโตแล้วนะไม่ใช่เด็ก 3 ขวบ ออกไปไหนมาไหนแค่นี้มันไม่ตายหรอก!!! ” มีคนเป็นห่วงผมก็รู้สึกดีนะ แต่อย่ามาทำเหมือนผมเป็นเด็กจะได้มั้ย จะออกไปไหนมาไหนคนเดียวมั่งไม่ได้เลยรึไง ผมโตแล้วนะ
“ ... ”
“ ... ” ผมกับพี่เดลต่างนั่งเงียบไม่มีใครพูดอะไร ผมตัดสินใจลงจากรถเข้าบ้านไปโดยไม่กล่าวขอบคุณและไม่หันหลังกลับมามองพี่มัน เลย คิดว่าตัวเองโมโหเป็นคนเดียวรึไง
หลังจากที่ทะเลาะกันวันนั้นผมก็ไม่ได้เจอพี่มันเลย ปกติตอนเช้ามันจะมานั่งรอส่งผมเข้าห้องเรียน พักเที่ยงก็มานั่งกินข้าวโต๊ะข้างๆ แต่ตั้งแต่วันนั้นมันก็หายไปมีแต่เพื่อนๆมันที่มานั่ง เฮอะ!! คิดว่าผมจะสนรึไงล่ะ จะไปไหน ทำอะไรก็ไปสิไม่เกี่ยวอะไรกับผมอยู่แล้ว ผมไม่ชอบหรอกนะคนที่ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้วมาใส่อารมณ์กับผมแบบนั้น ครอบครัวก็ไม่ใช่ เพื่อนก็ไม่ใช่ แฟนยิ่งไม่ใช่ใหญ่ ก็แค่รุ่นพี่เท่านั้นแหละ
“ มึงทะเลาะกับพี่เดลหรอวะ ” จูเนียร์ถามขณะที่เรานั่งกินข้าวกันอยู่ที่โรงอาหารใต้ตึกคณะ
“ เปล่าหนิ ”
“ ถ้าไม่ได้ทะเลาะแล้วพี่เดลมันหายไปไหนอ่ะ ปกติกูเห็นมันต้องมานั่งส่งมึงตอนเช้า มานั่งกินข้าวด้วยตอนเที่ยง มาเจ๊าะแจ๊ะกับมึงนี่หว่า ”
“ จะไปไหนก็ช่างมันสิ กูอิ่มแล้วนะ มึงอิ่มรึยังจะได้ขึ้นเรียน ”
“ อะไรวะ รีบไปไหน ”
“ กูร้อน ถ้ามึงยังไม่ขึ้นงั้นกูขึ้นก่อนนะ ” พูดเสร็จผมก็เอาจานข้าวไปเก็บทันที จูเนียร์เห็นอย่างนั้นเลยรีบยัดข้าวเข้าปากก่อนจะเอาจานไปเก็บแล้ววิ่งตามผม มา
“ เฮ้ยย รอกูด้วยดิวะไอ้คุณมัฟฟิน ”
-------------------- 50% --------------------
เลิกเรียน
“ เฮ้ยมึง วันนี้ไปผับกัน ” จูเนียร์พูดชวนผมในขณะที่เรากำลังเก็บของกลับบ้านกันอยู่
“ อ่าาา วันนี้กูขี้เกียจว่ะ ” ผมปฏิเสธออกไปเพราะรู้สึกขี้เกียจจริงๆ ถ้าเป็นปกติเวลาไอ้พวกนี้ชวนไปไหนผมไปหมดนะแต่ไม่รู้สิ วันนี้ผมแค่รู้สึกไม่อยากไปไหน ไม่อยากทำอะไร
“ ไปเหอะหน่าา พวกไอ้พายุก็ไปนะเว้ย มันให้กูมาชวนมึงไปด้วยเนี่ย นานๆทีจะพวกมันจะว่างตรงกันนะแล้วอีกอย่างมึงจะได้หาอะไรคลายเครียดด้วยไงกู เห็นช่วงนี้มึงดูอารมณ์ไม่ค่อยดี ” ผมนิ่งคิดไปสักพัก ก็ดีเหมือนกันนะ เพราะช่วงนี้ผมก็ไม่ค่อยได้เจอกับพวกพายุเลยเพราะเวลาไม่ค่อยตรงกัน ไปหาอะไรดื่มแก้เซ็งหน่อยก็ดี
“ เอางั้นก็ได้ กี่โมงอ่ะ ”
“ มันนัดกัน 3 ทุ่ม ”
“ งั้นมึงแวะรับกูด้วยแล้วกัน กูขี้เกียจขับรถไปเผื่อกูเมาจะได้ติดรถมึงกลับด้วย ”
“ โหห ไอ้เวรนี่กะไม่ให้กูกินเลยมั้งเนี่ย ภาระกูอีก เออๆ 2ทุ่มครึ่งเดี๋ยวกูไปรับครับไอ้คุณมัฟฟิน ”
“ ดีมากครับไอ้คุณจูเนียร์ งั้นกูกลับบ้านก่อนนะ 2ทุ่มครึ่งเจอกัน ” ผมบอกลาจูเนียร์แล้วขับรถกลับบ้านเพื่อไปเตรียมตัว
21:00 @CM Pub
ผมกับจูเนียร์มาถึงที่หมายในเวลา 3 ทุ่มเป๊ะตามนัดไม่ขาดไม่เกิน ถามว่าเวลาไปเรียนเคยไปตรงเวลาอย่างนี้บ้างมั้ยตอบเลยว่าไม่ครับ 555 ก็นะ เวลาไปเรียนฟีลมันไม่เหมือนกับไปเที่ยวนี่ครับมันก็ต้องขี้เกียจกันบ้างเป็น ธรรมดาหรือพวกคุณไม่เป็น
ผมเดินเข้าไปตรงโซนวีไอพีที่ชั้น 2 ระหว่างทางที่เดินไปก็มีแต่คนมองมาที่พวกผมทั้งหญิงทั้งชาย บางคนก็มองด้วยสายตาเคลิ้มฝันแต่บางคนนี่ก็มองด้วยสายตาโลมเลีย ผมล่ะเกลียดสายตาพวกนี้จริงๆ ถ้ามันมาจากผู้หญิงผมก็ไม่อะไรหรอกนะแต่นี่มันมาจากสายตาผู้ชายเนี่ยสิ เห็นหน้าผมหวานๆอย่างนี้แต่ผมก็ไม่ใช่เกย์นะเว้ย ผมยังชอบเสียบไม่ได้ชอบโดนเสียบ เห็นแล้วมันหงุดหงิดจริงๆ
“ เอ้าๆ ไอ้มัฟฟินไปกินรังแตนที่ไหนมาวะ หน้าหงิกมาเลย ” ชีต้าร์ทักผมทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะ
“ มันหงุดหงิดสายตาตัวผู้ทั้งหลายที่มองมันนั่นแหละ ” จูเนียร์เป็นคนตอบแทน แล้วก็ได้รับเสียงหัวเราะจากเพื่อนรักทั้งหลาย ขอบคุณมากไอ้เพื่อนเวร
“ อย่าซีเครียดเว้ย พวกนั้นก็แค่มองแหละหน่า เอาไปกูชงไว้ให้มึงโดยเฉพาะเลยนะเว้ย ” ชีต้าร์ยื่นแก้วเหล้าที่มันชงมาให้ผม ผมรับมาแล้วหรี่ตามองมันอย่างจับผิดไว้ใจได้แค่ไหนวะแก้วนี้
“ อะไร มองกูด้วยสายตาแบบนี้คือยังไง โหยแม่ง น้อยใจว่ะ กูรึอุตส่าหวังดีแต่เพื่อนกลับระแวงกูซะงั้น ” มันแกล้งพูดเสียงเล็กเสียงน้อยแล้วทำเป็นซบไหล่ไอ้พายุ ไอ้นั่นก็แค่มองมันนิ่งๆแต่ก็ไม่ได้ปัดออกแต่อย่างใด ยังไงวะคู่นี้ซัมติงจิงเกอเบลป้ะเนี่ย
“ กูยังไม่ได้พูดอะไรเลย อย่าดิ้นดิวะ ” ผมพูดพลางยักคิ้วกวนตีนส่งไปให้ ไอ้ต้าร์ก็ได้แต่ทำเสียงฟึดฟัดแต่ผมก็ไม่สนใจหรอกไอ้นี่มันงอนจริงซะที่ไหน ล่ะ
ผมนั่งกินไปเงียบๆ สายตาก็มองไปยังเหล่าผีเสื้อราตรีทั้งหลายที่พากันเต้นอย่างเมามันส์อยู่ ข้างล่าง แต่ก็ต้องหันกลับมาเพราะรู้สึกได้ถึงสายตาที่จ้องมองมาที่ผม ผมมองไปรอบๆก็พบกับสายตาคู่หนึ่งที่มองผมมาจากโต๊ะอีกมุมของโซน เหอะ ! มองแบบนี้ต้องการอะไร หายไปตั้งนานไม่โผล่หัวมาแล้วอยู่ๆก็มานั่งจ้องแบบนี้ทำเหมือนผมผิดงั้นแหละ กูไม่ผิดป่ะวะคิดแล้วแม่งก็โมโห ผมเลยซัดเหล้าไป 3 แก้วติด
“ เห้ยๆๆ ไอ้มัฟฟินเป็นไรวะ ค่อยๆแดกก็ได้ไม่มีใครแย่งมึงหรอก นี่เหล้านะเว้ยแม่งแดกเอาๆอย่างกับน้ำเปล่า ” จูเนียร์ที่นั่งอยู่ข้างๆบอกพลางดึงแก้วออกจากมือผมทำให้เพื่อนในโต๊ะต่าง หันมามองด้วยความสงสัยว่าเป็นห่าอะไร
“ ไม่มีอะไร เดี๋ยวกูมาไปห้องน้ำแปป ” ผมบอกเพื่อนในโต๊ะก่อนจะลุกออกไปโดยไม่ฟังเสียงเรียกจากเพื่อน
ผมเดินลงมาจากชั้น 2 ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมไม่เข้าห้องน้ำที่ชั้นนั้นเลย ก็ผมไม่ได้จะเข้าห้องน้ำซะหน่อย ผมก็แค่อยากออกไปสูดอากาศให้อารมณ์เย็นลงเฉยๆ ระหว่างที่เดินออกไปก็มีผู้ชายคนนึงเดินมาขวางผมไว้และมองผมด้วยสายตากรุ้ม กริ่ม ชิบหายเอ้ยย คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ยังเสือกมายุ่งกับกูอีก
“ สวัสดีครับ ชื่ออะไรอ่ะ ผมซันนะ ” ไอ้หน้าเหียกนั่นทักผมพร้อมกับแนะนำตัว เอาจริงๆหน้าตามันก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรนะพอไปวัดไปวาได้แหละแต่มัน เป็นตัวผู้ไงถ้ามึงเป็นผู้หญิงกูก็คงจะเล่นด้วยอยู่หรอก ผมไม่ตอบอะไรแล้วเดินเลี่ยงออกไปอีกทางแต่ไอ้สันหลังนั่นก็ยังไม่ลดละยัง เดินมาขวางพร้อมกับดึงแขนผมไว้
“ ปล่อย ” ผมมองมันด้วยสายตานิ่งๆ แขนก็พยามยามสะบัดออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย
“ แค่อยากรู้จักเอง ไปดื่มด้วยกันสักแก้วสิ ” ยังๆ ยังไม่หยุดสัสนี่ ดูหน้ากูด้วยว่ากูเล่นกับมึงมั้ย ผมสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมได้ก็ผลักมันออกไปไกลๆ
“ เสือก!! ”
“ อ้าวว คนสวย ผมอุตส่าพูดด้วยดีๆนะ ”
“ กูขอเหรอ ”
“ สัสนี่ วอนแล้วมั้ยล่ะมึง ” มันพูดเสร็จก็เงื้อหมัดขึ้นเหมือนจะต่อยผมที่ไปพูดจาหมาๆใส่ ผมก็ไม่ได้หลบนะต่อยมาผมก็ต่อยกลับอ่ะเอาดิ ผมก็ไม่ได้ง่อยนะแค่ปกติไม่ได้มีเรื่องอะไรเลยไม่ได้สู้คนอะไรมาก แต่ถ้าเรื่องมาหาผมก็พร้อมมีเสมอแหละยิ่งอารมณ์ผมตอนนี้บอกได้เลยว่าผมพร้อม มาก
พรึ่บบ!! ผัวะ!!
ในขณะที่ไอ้ซันอะไรนั่นกำลังจะปล่อยหมัดใส่ผม ก็มีมือหนึ่งมาดึงมือมันไว้แล้วตามมาด้วยเสียงหมัดกระทบใบหน้าจนไอ้นั่นล้ม ลงไปกองกับพื้น
“ คิดจะทำอะไร ” เสียงเข้มๆถามไอ้ซันออกไปพร้อมกับสายตาเชือดเฉือน
“ มึงเป็นใคร แล้วเสือกไรด้วยวะ ” ถามด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดแล้วถลามาจะต่อยใบหน้าของอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายหลบได้แล้วปล่อยหมัดใส่อีกหมัดจนมันตัวงอลุกไม่ขึ้น
“ อย่ายุ่งกับคนของกู ” พูดจบก็ลากแขนผมเพื่อจะออกไปข้างนอกแต่ผมขืนตัวเอาไว้แล้วสะบัดแขนออก
“ ไม่ต้องมาเสือก ”
“ กูเคยบอกมึงแล้วใช่มั้ยว่าให้พูดดีๆ ”
“ แล้วกูพูดเลวตรงไหน ” ว่าจบผมก็หันหลังเตรียมเดินกลับไปที่โต๊ะ ไม่ปงไม่ไปมันละแม่ง แต่พอผมจะเดินกลับตัวผมก็ลอยวืดขึ้นจากพื้นเพราะแรงกระชากจากคนตรงหน้าที่ กระชากผมไปแล้วยกพาดบ่าพาเดินออกไป ผมก็โวยวายไปตลอดทาง “ เรามีเรื่องต้องคุยกัน ”
“ ปล่อยนะเว้ย!! กูไม่ไป!! ไม่มีอะไรจะคุยเว้ย!! บอกให้ปล่อยไง!! หูหนวกอ๋อ!! ปล่อยดิวะ!! ” ผมโวยวายไปตลอดทางและก็มีสายตามองตามผมมาตลอดทางเช่นกัน
“ ถ้ามึงยังไม่หยุดกูจูบมึงตรงนี้แน่ อย่าคิดว่ากูไม่กล้า อยากลองก็เอา ”
“ ... ” ผมปิดปากฉับทันที ไม่ได้กลัวนะเว้ยแค่เกรงใจ มันพาผมเดินออกแล้วจับผมยัดเข้ารถมันทันที พอมันจะเดินไปฝั่งคนขับผมก็เปิดประตูออกแต่มันก็วิ่งกลับมาดันผมเข้าไป เหมือนเดิมแล้วขู่ผมด้วยสายตานิ่งๆกับน้ำเสียงที่บ่งบอกว่ามันเอาจริงแน่
“ ถ้ามึงก้าวลงมาแม้แต่ก้าวเดียว กูจัดการมึงตรงนี้แน่ ” พูดจบมันก็ไปฝั่งคนขับแล้วสตาร์ทรถออกไปทันทีโดยไม่พูดอะไรซึ่งผมเองก็นั่ง เงียบเอาแต่มองไปข้างๆตลอดทาง ไม่อยากมองหน้าแม่ง
ไอ้พี่เดลพาผมมาที่คอนโดนึงซึ่งก็คงเป็นคอนโดมันนั่นแหละ มันลากผมลงมาจากรถแล้วลากผมไปยังลิฟต์เพื่อขึ้นไปที่ห้องมันทันที
“ ปล่อย จะลากอีกนานมะ เดินเองได้ไม่ต้องให้ใครมาลาก ” ผมพูดพร้อมสะบัดแขนออก แต่แม่งมือเหนียวชิบหายสะบัดยังไงก็ไม่หลุด จนเป็นผมเองที่เจ็บแขน
“ เจ็บมั้ยล่ะ ถ้าเจ็บก็เลิกสะบัดซะ ” มันพาผมมาถึงห้องก็เหวี่ยงผมไปที่โซฟาจนผมจุก
“ ปล่อยดีๆไม่เป็นรึไง ” ผมตั้งตัวได้ก็กลับมานั่งดีๆ พร้อมสำรวจแขนตัวเองไปด้วย สัสเอ้ยแดงหมดเลย
“ เป็นห่าอะไร ”
________________________________________
- TBC.
สนุกไม่สนุกยังไงบอกได้น๊า
เรื่องนี้จะไม่ดราม่านะคะ เพราะโซเองก็ยังแต่งไม่เก่ง
เลยกลัวว่าถ้าดราม่าเดี๋ยวมันจะออกไม่ดี
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ขอคอมเม้นเป็นกำลังใจด้วยน๊า
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ