Don't gentle ! ✱ ล่ารัก .. กระชากหัวใจนายสุดฮอต
เขียนโดย แก้มมม
วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 19.25 น.
แก้ไขเมื่อ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2558 19.37 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) สร้างความโดดเด่นให้เป็นที่น่าจดจำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
2*
- - ◖ สร้างความโดดเด่นให้เป็นที่น่าจดจำ ◗- -
วันต่อมา ..
ฉันเดินอย่างหมดอารมณ์พร้อมชักสีหน้าที่เซ็งสุด ๆ เพราะตอนนี้พวกเรามอหก ต้องเดินทางข้ามถนนมาโรงเรียนอื่นที่อยู่อีกฝั่ง เพื่อที่จะไปแข่นขันกิจกรรม ที่ทางโรงเรียนร่วมใจกันเรียกว่าชื่อกิจกรรมนี้อย่าง เริ่ดหรูว่า …
‘ กิจกรรมเชื่อมสัมพันธ์ พวกเรารักกันจุงเบยอ่า ’ -*-
ชื่อกะจะดีอยู่แล้วเชียวถ้าไม่มีอีตรงสามพยางค์ท้าย ๆ เฮ้ออออ ..จะมีอะไรที่เริ่ดหรูอู้ฟู่กว่าชื่อนี้อีกมั้ยเนี่ย
“ รูบี้ .. แกเป็นไรอ่ะดูหน้าตาเบื่อ ๆ ”
มิกกิถามขึ้นหลังจากที่แอบสังเกตพฤติกรรมของฉันมาตั้งแต่เดินออกจากห้องเรียนแล้ว
“ จะไม่ให้เบื่อได้ยังไง .. นี่พวกเราต้องเข้าร่วมกิจกรรมอะไรก็ไม่รู้ ชื่อก็แบ๊วเกิ๊นนนน แถมฉันยังต้องเดินถ่อสังขารข้ามถนนตากแดดร้อน ๆ มาเพื่อคะแนนกิจกรรมแค่ 15คะแนนเนี่ยนะ .. มันคุ้มมั้ยเนี่ย !! ”
“ ต้องคุ้มสิ เพราะวันนี้ฉันก็มีโอกาสจ้องหน้า ‘ ฟาเรนไฮ ’ หนุ่มฮอตสุดหล่อแสนเร้าใจของฉันโดยที่เขาจะไม่ได้ปริปากไล่สักคำ ”
“ ทำไมอ่ะ ”
“ เอ้า !เพราะกิจกรรมที่เราจะต้องเข้าร่วมชมก็คือ .. โต้วาที ! ”
“ แต่ฉันอยากไปนั่งดูกิจกรรมแสดงละครมากกว่า ”
ฉันแย้งใครมันจะอยากไปนั่งฟังคนเถียงกัน ด้วยหัวข้องี้เง้า
“ ไปนั่งเป็นเพื่อนฉันหน่อยไม่ได้รึไง ”
“ ไม่อ่ะ .. แกก็ชวนเอด้าสิ ”
“ ยัยนั้นตกลงแล้ว เหลือแต่แกนั้นแหละ นะ ๆ ”
“ ไม่เอา .. ทำไมฉันต้องไปนั่งอยู่ในห้องที่มีไอ้บ้านั้นอยู่ด้วยล่ะ ไม่แน่นะฉันอาจจะทนไม่ได้แล้วลุกขึ้นไป .. ‘ สั่ง ! ...สอน ...’ ”
ฉันเปล่งคำพวกนั้นออกมาช้า ๆ ทีละคำอย่างชัดเจนแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
“ เรารีบไปกันเหอะ ”
“ อ้าวเห้ยยย !ไปไหน ”
“ ไปหาไอ้ .. เทพบุตรซาตาน ของแกยังไงล่ะ มิกกิ ”
“ แต่เมื่อกี้แกบอกเสียงหนักแน่นเลยนะว่า ... ”
“ นั้นมันตอนนั้น .. แต่ตอนนี้ฉันชักเริ่มสนใจกิจกรรมนี้เข้าซะแล้ว .. เร็ว ! ”
“ โอ๊ย ๆๆ เบา ๆ ”
ฉันใช้มือทั้งสองข้างจับหมับ ! ไปที่แขนของยัยเอด้าและมิกกิอย่างรวดเร็วพร้อมกับกระชากพวกนั้นไปที่ห้องกิจกรรม .. โต้วาที !
มารยา บทแรก คือ ...
ถ้าเราอยากที่จะอยู่ในสายตาของเขา ..เราต้องทำตัวเองให้โดดเด่นและเป็นที่หน้าสนใจ และถ้าเราทำสำเร็จ เขาจะจำหน้าเราไปตลอดชีวิต !!
เพราะฉะนั้น .. ฉันต้องโดดเด่น ! ฉันจะต้องเป็นที่แตะตาของทุกคนในนั้น ไม่เว้นแม้แต่เขา !
ห้องกิจกรรมโต้วาที ..
ฉันเดินไปหยุดอยู่หน้าห้อง พอไปถึงฉันก็ค่อย ๆ ปล่อยแขนของเพื่อนทั้งสองลง แล้วเพ่งมองไปที่ประตู จากนั้นฉันก็แสยะยิ้มออกมาแล้ว หัวเราะ หึ หึ อยู่ในลำคอ
ทั้งเอด้าและมิกกิต่างมองหน้ากันแล้ว เอด้าเลิกคิ้วที่ได้รูปของตัวเองขึ้น .. ซึ่งเป็นเชิงถามกันเป็นภาษากายว่า ‘มันเป็นอะไรของมัน ’ ส่วนมิกกิก็เผยมือทั้งสองข้างออก นั้นหมายความว่า ‘ ไม่รู้เหมือนกัน ’ จากนั้นทั้งสองก็ค่อย ๆ หันกลับมามองหน้าฉันด้วยสายตาสงสัย ฉันไม่สนใจสายตาของยัยพวกนั้นสักนิด ต่อจากนั้นฉันก็ค่อย ๆ เอื้อมมือไปจับลูกบิดกลอนประตูแล้วจัดการบิดแล้วเปิดประตูบานนั้นออกแล้วเดินชับ ๆ เข้าไปในห้องนั้น ด้วยทาท่าที่มั่นใจ พร้อมกับเชิดหน้าอีก 45องศาเป็นการเรียกความมั่นใจให้กับตัวเอง ..
สายตาทุกคู่ที่มานั่งรอฟังการโต้วาทีอยู่ก่อนแล้ว พอเห็นฉันเดินเข้าไปก็หันมามองกันเป็นตาเดียว ไม่เว้นแต่ .. หมอนั้นที่กำลังนั่งเทรนกับเพื่อนอีกสองคนเพื่อเตรียมตัวขึ้นโต้วาทีในเวลาอีกไม่ถึง 10นาที .. อยู่ที่เก้าอี้แถวแรกติดกับเวที .. เขาเงยหน้าขึ้นมามองหน้าฉันแล้วขมวดคิ้วนิด ๆ ก็ที่จะก้มลงไปฟังเพื่อนหนุ่มผมสีดำสนิทหน้าตาซื่อบื้อนั้นต่อ
หน็อยยยย ! ทำเป็นไม่สนใจไปเถอะ .. นายจะไม่สนใจฉันเฉพาะตอนนี้แหละ .. อีกสิบนาทีข้างหน้านายจะต้องโดนฉันสั่งสอนและขยี้ให้จมดิน !!
ฉันหย่นก้นลงไปนั่งที่เก้าอี้แถวท้าย ๆ แล้วเอนหลังไปพิงกับผนักของเก้าอี้จากนั้นก็ยกขาขึ้นไขว่ห้างอย่างสบายใจ ตั้งแต่เข้าห้องนี้มาสายตาของฉันก็ไม่เคยห่างจากใบหน้าของ ผู้ชายที่ทำให้พี่ของฉันต้องนองน้ำตา .. แม้แต่นาทีเดียว !
“ นี่พวกเธอ ”
ฉันผละสายตาจากเป้าหมายแล้วเงยหน้าไปหาบุคคลที่ยืนอยู่ทางเดิน
“ คะ .. อาจารย์ ”
“ ว่างกันอยู่รึเปล่า ? ”
อาจารย์ที่สอนภาษาไทยของโรงเรียนฉันพูดขึ้น
“ ถ้าไม่ว่างคงมาไม่นั่งอยู่นี่มั่งคะ ”
ฉันพูดประชดพร้อมกับฉีกยิ้มออกมา
“ ขึ้นไปโต้วาทีแทน เพื่อนหน่อยสิ .. พอดีว่าเพื่ออีกคนที่ต้องเข้าร่วมแข่งขันท้องเสีย แล้วเราต้องหาคนแทนให้ครบ 3ไม่งั้นจะถือว่าแพ้ ”
“ ขึ้นไปบนนั้นน่ะเหรอค่ะ ”
ฉันชี้นิ้วไปที่เวที อาจารย์พยักหน้ารับเบา ๆ แล้วทำหน้าตาอ้อนวอนอย่างสุดความสามารถ
โต้วาที .. เหรอ ? ขึ้นไปเถียงกับไอ้หมอนั้นที่อยู่อีกโรงเรียนงั้นเหรอ
ดีล่ะ .. ฉันรู้แล้วว่าจะสร้างความโดดเด่นยังไง !!
“ โรงเรียนเราจะแพ้ โรงเรียนไอ้ ! .. เอ่อ .. โรงเรียน .. เขา .. ไม่ได้นะคะ เสียศักดิ์ศรีหมด ”
“ แล้วจะทำครูทำยังไง ไล่ถามมาตั้งแต่เก้าอี้แถวหน้าจนมาถึงเก้าอี้แถวสุดท้ายแล้วเนี่ย ไม่มีใครช่วยได้สักคน ”
“ หนูไงคะ .. หนูจะขึ้นไปเอง !”
“ รูบี้ !! ”
ยัยสองแสบตะโกนใส่หน้าฉันเสียงดังด้วยความตกใจกับสิ่งที่ฉันได้ตัดสินใจลงไป
“ อะไรเล่า .. ถ้าฉันไม่ไปแทนนะโรงเรียนเราแพ้แน่ ! ”
“ แต่แกรู้ว่าเหรอว่าเราต้องรู้จักกติกา .. การวางตัว .. การพูด หรือว่าจะเป็น ... ”
“ ทำไมต้องรู้ด้วย .. เราแค่ยึดมั่นในสิ่งที่เราคิดว่าถูก ใช่มั้ยค่ะอาจารย์ ”
ฉันหันหน้าไปถามอาจารย์ที่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
“ เอ่อ .. คือมันมีมากกว่าที่เธอบอกอีกนิ๊ดดดดดนึง ”
“ เห็นมั้ย ? บอกแล้วมันง่ายจะตายไป ”
ฉันรีบหันไปบอกเพื่อนอีกสองคนที่ทำท่าทางไม่ไว้วางใจในตัวของฉัน
“ ค .. ครูยังพูดไม่จบเลย ”
อาจารย์คนนั้นยกมือขึ้นมาเกาหัวแครก ๆ ส่วนฉันพอเห็นว่าเพื่อนทั้งสองคนไม่คัดค้านแล้วฉันก็เงยหน้าไปมองอาจารย์ผู้หญิงคนนั้นพร้อมกับลุกขึ้นจากเก้าอี้
“ เราจะไปกันได้ยังคะ ”
ฉันเดินนำอาจารย์ไปที่เวทีท่ามกลางสายตานับร้อยของสองโรงเรียนที่มารอนั่งฟังการโต้วาที ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นศิลปะของการให้เหตุผล และ การพูดเชิงโน้มน้าวใจ ..
ฉันขึ้นไปบนเวที เพื่อที่จะไปเผชิญหน้ากับไอ้บ้านั้นที่ยืนมองนิ่งอยู่โพเดี่ยมตรงข้าง
เราทั้งสองโรงเรียนอยู่คนละโพเดี่ยมที่วางอยู่ตรงข้ามกันไม่ไกลนัก ส่วนตรงกลางระหว่างโพเดี่ยมทั้งสองก็มีแล้วมี โต๊ะของคณาจารย์ของทั้งสองโรงเรียนเป็นกรรมการตัดสินวางอยู่ระหว่างโพเดี่ยมทั้งสอง
และอีกไม่กี่อึดใจเดียวเท่านั้น .. เราจะเริ่มปะทะฝีปากกันแล้ว !
5
4
3
2
1 …
“ สวัสดีค่า นักเรียนและอาจารย์ทุกท่าน วันนี้เรามีกิจกรรมโต้วาทีคะ ซึ้งฝ่ายเสนอคือโรงเรียน คาร์เดีย คอนแวน ส่วนฝ่ายค้านคือ โรงเรียน รัตนภาทาร์ ค่าาา ”
กิจกรรมเริ่มขึ้นโดยการดำเนินการโดยยัยแว่นท่าทางวิชาการคนนึงของโรงเรียน คาร์เดีย คอนแวน .. ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงเอายัยนี้เป็นพิธีกร
โรงเรียนฉันเป็น ‘ ฝ่ายค้าน ’ งั้นเหรอ .. เหอะ สนุกล่ะงานนี้แม่จะเล่นให้น่วมเลย ^O^
“ หัวข้อที่เราจะนำมา โต้วาทีในครั้งนี้คือ .. ‘ผู้หญิงกับผู้ชายใครกันแน่ที่ .. ร้ายกาจ’ ”
เป็นหัวข้อที่ฉันปลื้มที่สุด เพราะฉันจะได้ถือโอกาสด่าไอ้พฤติกรรมแย่ ๆ ที่ชอบแย่งแฟนคนอื่นแบบไอ้บ้านั้น ! โดยที่ไม่ต้องเกรงกลัวอะไรทั้งนั้น
และที่ไปเห็นดีเห็นงามด้วยไปกว่านั้นคือ .. ฝั่งฉันเป็นผู้หญิงหมด ส่วนฝั่งนั้นก็มีแต่ผู้ชายหมด ! มันช่างเหมาะเจาะอะไรอย่างเน้ ๆๆ ฮี่
“ถ้าสมาชิกแต่ละฝ่ายพร้อมกันแล้ว .. เราขอเริ่มด้วยฝ่ายเสนอค่ะ ”
ฟาเรนไฮ เดินก้าวเข้ามาอยู่ตรงกลางของอีกสองคนที่เหลือแล้วเปล่งเสียงของเขาผ่านไมค์โครโพนหนึงตัวที่วางนิ่งอยู่ตรงหน้า
“ ครับ .. ถ้าจะถามว่าเพศหญิงหรือชายใครร้ายกาจกว่ากัน ผมตอบว่า ‘ผู้หญิง ’ ครับ ”
“ ขอค้านค่ะ ! ”
ฉันเดินมาหยุดที่ไมโครโฟนของฝั่งตัวเองแล้วพูดขึ้นบ้าง
“ แต่สำหรับฉันแล้ว .. คือ ‘ผู้ชาย ’ !! ”
ฉันกระแทกเสียงลงไปแล้วมองหน้าเขานิ่ง .. ซึ่งดูเหมือนเขาก็ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เขาจ้องหน้าฉันกลับด้วยท่าทางที่ไม่พอใจนัก
“ ที่ผมพูดว่า ผู้หญิงร้ายกาจ นั้นก็เพราะ ผู้หญิงเป็นเพศที่มีความอิจฉา ! ริศยา ! มากกว่าเพศชาย ชอบทำเรื่องเล็ก ๆ ให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ และที่สำคัญ ผู้หญิงไม่ใช่เหรอครับที่เป็นฝ่ายตบตีกันแย่งผู้ชาย หลักฐานเราก็ได้เห็นผ่านคลิปต่าง ๆ ผ่านโซเชียวเน็ตเวริค์แล้วไม่ใช่หรือครับ ! ”
“ ถ้าคุณคิดว่าเรื่องตบตีเป็นเรื่องใหญ่แล้วมาสรุปว่าผู้หญิงร้าย และข่าวที่ผู้หญิงโดนฆ่า .. ข่มขืน .. เพราะไอ้พวกผู้ชายหื่นกาม !! ที่ตกเป็นข่าวกันทุกวันล่ะค่ะจะว่ายังไง .. ฝ่ายเสนอมองข้ามพฤติกรรมแบบนี้ไปได้ยังไงกัน .. ผู้ชายต่างหากที่ร้ายกยิ่งกว่า !!”
ฉันเริ่มทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน อย่างไม่มีขาดตกปกพร่องแม้แต่นิด
“ ผมยังคงยืนยันครับว่า ผู้หญิง .. เคยได้ยินคำโบราณที่ว่า ‘ ผู้หญิงมารยา 100เล่มเกวียนมั้ยครั้บ ’ ถ้าผู้หญิงไม่เป็นไปตามที่คำโบราณจริงเขาจะพูดแบบนั้นทำไมล่ะครับ ”
“ ขอค้านค่ะ .. !! แล้วคำว่า 18มงกุฎที่ใช้กับพูดชายล่ะคะ ”
“ แล้ว 100มันก็มากว่า 18 จริงมั้ยล่ะครับ ”
หน๋อยยยยยยยยยยย ! ไอ้บ้านี่ ! ปากกรรไกรไม่เบาเลยนะเนี่ย !
“ แล้วข่าวที่ผู้ชายชอบลวงผู้หญิงไปทำอนาจารล่ะคะจะว่ายังไง .. หรือว่าคุณเคยเห็นข่าวที่ผู้ชายโดนผู้หญิงข่มขื่นอ่ะ ! ”
“ ครับ .. ผมยอมรับว่าไม่เคย ”
“ เห็นมั้ยล่ะ ... ”
“ แต่ผมก็ไม่เคยเห็นข่าวที่ผู้ชาย โดนจับเพราะ .. ‘ขายตัว ’เหมือนกัน !!”
“ แต่พวกที่บังคับผู้หญิงพวกนั้นไปขายตัวก็ไม่ใช่ผู้ชายรึไง !! ”
ฉันเริ่มทนไม่ไหวกับหน้าตาทาทางและพฤติกรรมของเขาซึ่งมันบ่งบอกว่าฉันแพ้ !!
เต็มทน
“ เอ่อ .. ใจเย็น ๆ กันก่อนนะค่ะ .. เอางี้ !ถอยห่างออกจากไมค์แล้วให้คนอื่นได้เสนอบ้างดีมั้ยคะ ”
ยัยแว่นเดินมาหยุดอยู่ตรงกลางแล้วหันหน้ามามองหน้าฉันสลับกับหมอนั้นเชิงข้อร้องเพราะคงจะไม่อยากให้ กิจกรรมครั้งนี้นองเลือด !
“ ไม่ !! /ไม่ดี ! ”
ฉันกับเขาตะโกนขึ้นพร้อมกันอย่างไม่มีใครยอมใครจนทำให้ยัยแว่นต้องก้มหน้าลงแล้วค่อย ๆ เดินถอยห่างออกจากตรงนั้นช้า ๆ
“จะเอายังไงก็ว่ามา ! ”
ฉันเป็นฝ่ายเริ่มพูดขึ้นก่อน
“ ก็ไม่เอายังไง แค่จะบอกว่าผู้หญิงนั้นแหละที่สมควรที่จะได้รับคำนั้น .. คำว่า ร้ายกาจ ! ”
“ ผู้ชายอย่างนายดีตายแหละ ที่ผู้หญิงโดนข่มขื่น โดนพาเข้าม่านรูทมันเป็นเพราะพวกผู้ชายอย่างนายมัน หื่นกามมมมมมม ! ”
“ เน่ ! ถอนคำพูดเดี๋ยวนี้เลยนะ ”
เขาให้นิ้วชี้หน้าฉันแล้วเริ่มแสดงสายตาที่ดุดันพร้อมกับท่าทางที่โกรธเกรี้ยวนั้นออกมาให้เห็น
“ ไม่ !ก็มันจริงมั๊ยล่ะ พวกผู้ชายชอบดูหนังโป๊ แล้วเกินอารมณ์พอเห็นผู้หญิงเดินผ่านก็จับปล้ำอ่ะ ! ”
“ ผู้หญิงอย่างเธอดีตายแหละ .. ชอบจับผู้ชายรวย ๆ ใช้มารยาหลอกหล่อจนผู้ชายตายใจแล้วฉวยโอกาสฆ่าเพื่อหุบสมบัติ !!!ข่าวแบบนี้มีออกจะบ่อยไป ”
“ ฉันไปใช้หุบสมบัติบ้านนายรึไง !!ที่เป็นแบบนี้เพราะพวกผู้ชายโง่เองต่างหาก !!”
“ แล้วผู้ชายมันไปดูหนังโป๊บนหัวเธอรึไง !! ถึงผู้ชายจะเป็นฝ่ายที่ดูมากกว่า แต่ก็ไม่ใช่ว่าผู้หญิงอย่างพวกเธอจะไม่ดู ... และฉันอยากจะบอกว่า ฉันไม่เคยดู เพราะฉะนั้นถอนคำพูดซะ !!! ”
“ ไอ้บ้านี่ !! ”
“ รู้อะไรรึเปล่าครับ ”
“ อะไร ”
“ เอ้า ! ก็รู้มั้ยว่าทำไมผมถึงบอกว่าผู้หญิงร้ายกาจ ”
“ ไม่รู้ค่ะ !!! ”
“ เหอะ ! เพราะฉันดูจากเธอนั้นแหละ ”
ว..ว่าไงนะหน๋อยยยย มันจะมากไปแล้ว .. ปากนายมันคมมากเกินไปแล้วและฉันจะไม่ทน !!
“ ให้โอกาสพูดอีกที ! ”
ฉันทำหน้าขึงขันพร้อมกับใช้นิ้วชี้ไปที่หน้าของเขา
“ ฉัน .. ดู .. จาก .. เธออออ ! ”
“ ไอ้บ้าฟาร์ ! ”
“ ก็แล้วยัยบ้าที่ไหนอยู่ ๆ ก็พุ่งเข้ามาต่อยหน้าฉันและหนักไปกว่านั้น .. ฉันกับเธอเราไม่เคยรู้จักกัน ! เธอทำร้ายคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนได้ขนาดนี้ ถ้าไม่เรียกว่าร้ายกาจและจะให้เรียกว่าอะไร ”
“ ก็แล้วไอ้ผู้ชายเลวทรามคนไหนที่มันมาแย่งแฟนพี่ชายของฉัน ! ”
“ แฟนพี่เธอมันคนไหน ฉันไม่รู้ด้วยหรอกนะ แล้วอีกอย่างฉันไม่เคยแย่งแฟนใครเข้าใจซะใหม่ด้วย ! ”
“ พูดแบบนี้จะบอกว่ายัยนั้นเข้ามาเสนอตัวให้นายเองรึไง ”
“ ก็ใช่น่ะสิ ”
“ แล้วนายทำไมถึงไปกับยัยนั้นง่าย ๆ เล่า ”
“ ของฟรี .. มันดีออกจะตายไป ใครจะปล่อยไปง่าย ๆ ”
ร .. ร้าจกาจ !
“ นั้นไง .. ที่แท้นายก็เป็นพวก .. บ้ากามมมมม ”
“ หน็อยยย .. ยัยถังแก๊สสส ”
“ กรี๊ดดดดดดดดดดด !! นี่นายบอกว่าฉันอ้วนงั้นเหรอ ! ”
ฉันแหกปากใส่ไมค์โครโฟนเสียงดังลั่นห้อง .. เส้นความอดทนขาดพรึง ! ประโยคนี้แทงใจดำฉันสุด ๆ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีผู้ชายหน้าไหนพูดจากับฉันแบบนี้สักคน นายกล้าดียังไงเนี่ยยยยย !
“ ก้มลงดูเอาเองสิ .. แขนก็ย้อย หน้าก็บาน ขาก็ใหญ่ ”
“ ปากนายน่ะ ไปกินหมามารึไง ห๋าาาา !! ”
“ นี่เธอ ! ”
“ ทำม่ะ .. ! ไอ้หน่วยวัดอุณหภูมิต๊อกต๋อย "
* ฟาเรนไฮ คือชนิดสเกลค่าวัดอุณหภูมิชนิดหนึ่ง
ที่ถูกตั้งชื่อตามนักฟิสิกส์ชาวเยอรมัน เกเบรียล ฟาเรนไฮ
" หน๋อยยยย .. ยัยทับทิมสวนลุม "
" กรี๊ดดดดดดด ! ชื่อฉันมันแปลว่าทับทิมที่เป็นอัญมณีไม่ใช่ทับทิมกรอบที่ขายตามถนนคนเดินเฟ้ยยยยย "
“ ยังไงซะผู้หญิงอย่างเธอมันก็ร้ายกาจจจจจ ”
“ ฉัน – ขอ – ค้านนนนนนนนนนนนน !! ”
“ หยุดเลย .. ทั้งสองคน !! ”
ฉันกับฟาเรนไฮเลิกทำหน้าอาฆาตแค้นใส่กันแล้วหันควับ !ไปทางอาจารย์ที่ยืนขึ้นจากโต๊ะคณะกรรมการ
“ นักเรียนค่ะ กิจกรรมนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อ สานสัมพันธ์ของเราทั้งสองโรงเรียนนะคะ มองขึ้นไปบนไวนิลซิค่ะ ‘กิจกรรมสานสัมพันธ์ พวกเรารักกันจุงเบยอ่า ’ ไง ”
อาจารย์คนนั้นพูดพร้อมทั้งทำท่าทางแอ๊บแบ๊วชวนอ้วก .. ฉันทำหน้าตาเอือมระอาแล้วหันกลับไปจ้องหน้าเขาต่อ
“ เอาเป็นว่า การโต้วาทีวันนี้ตัดสินให้ ‘ ฝ่ายเสนอ ’ ชนะก็แล้วกันเพราะเหตุผลเขาหนักกว่าและมีความเป็นจริงมากกว่า ”
อาจารย์ผู้ชายที่ดูมีอายุกว่าอาจารย์คนอื่น ๆ พูดขึ้น
“ ไอ้หมอนี่ชนะได้ยังไง ! ไม่ได้นะคะอาจารย์ก็เห็น ๆ ผู้ชายผู้ชายมันร้ายกาจกว่าผู้หญิงอ่ะ”
“ เอาล่ะ ๆ แยกย้าย ๆ การโต้วาทีวันนี้จบลงแล้ว ”
สิ้นเสียงอาจารย์อาวุโสนักเรียนทุกคนพร้อมทั้งอาจารย์ก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วทยอย ๆ กันออกไปจากห้องใหญ่ ๆ ห้องนั้นทันทีจะเหลือก็แต่ ฉันกับเพื่อนสนิททั้งสองคนและ ..
ฟาเรนไฮ !ไอ้ผู้ชายปากกรรไกร คนนั้น !
ที่เกมจบ .. คน .. ไม่จบ !
“ ไม่ได้นะฉันไม่ยอม ! ”
“ แพ้แล้วพาลงั้นเหรอ ? เลิกโวยวายได้ล่ะ .. น่ารำคาญ ”
เขาพูดพร้อมกับล้วงประเป๋าเดินกำลังจะเดินลงจากเวที แต่ฉันคว้าแขนเอาไว้ได้ซะก่อน เขาหยุดเดินแล้วก้มลงมาที่แขนของเขาที่โดนฉันจับไว้แล้วใช้มือที่เหลือบัดมือของให้ออกจากแขนของเขาอย่างไร้มารยาท !
“ จะไปไหน เรายังเคลียร์กันไม่จบ ”
“ ไปไกล ๆ จากคนอย่างเธอ ! ”
“ไอ้ .. ไอ้ .. ! ”
“ อ่อ .. แล้วหวังว่าฉันจะไม่ได้เจอเธออีก ! เพราะแค่นี้ฉันก็ขยะแขยงมากพอแล้ว ”
เขาใช้สายตาฉุนเฉียวนั้นมองฉันแล้วหันหลังเดินลงจากเวทีแล้วเดินไปหยิบกระเป๋าของตัวเองเหวี่ยงขึ้นหลังแล้วเดินออกจากห้องนั้นไป ..
“ หืยยยยยย ! ”
ฉันกำหมัดแน่นด้วยความโมโห .. โต้วาทีก็ได้แค่เสมอ .. แล้วไหนจะโดนบัดมือออกด้วยท่าทางที่รังเกียจอีก .. ฉันรู้แล้วว่าทำไมผู้หญิงหลายคนต้องมาเสียใจและเสียน้ำตาเพราะเขา !
“ แกยิ้มอะไร .. นี่เราแพ้นะเว้ย ”
มิกกิถามขึ้นเมื่ออยู่ ๆ จากที่ฉันแสดงสีหน้าโมโหมาตอนนี้ฉันกลับเผยยิ้มออกมาอย่างปีศาจ
“ ฉันรู้ ”
“ รู้แล้วทำไมถึง .. ”
“ ที่ฉันยิ้มเพราะ เขาติดกับฉันแล้วน่ะสิ ! ”
ใช่ ! .. แผนสร้างความโดดเด่นให้เป็นที่น่าจดจำได้สำเร็จไปอย่างสมบูรณ์แบบ ..
นายพูดถูกตั้งแต่แรก ... " ผู้หญิง เป็นเพศที่ร้ายกาจ "
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ