สวรรค์บันดาลรักหรือพลัดพราก?
เขียนโดย Matsee
วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 01.01 น.
แก้ไขเมื่อ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 02.38 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) จุดเริ่มของโชคชะตา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 1 : จุดเริ่มของโชคชะตา
ในย่านตัวเมืองของกรุงเทพที่ผู้คนพลุกพล่าน รถราติดขัดตลอดทั้งวัน เหล่าพนักงานเงินเดือนต่างทำงานหลังขดหลังแข็งแลกกับค่าแรงที่น้อยนิด หญิงสาวตัวเล็กๆคนหนึ่งที่ไม่ได้เป็นจุดสนใจอะไรของเมืองนี้กำลังเผชิญกับปัญหาสภาวะว่างงาน ทั้งๆที่เศรษฐกิจยังคงรุ่งเรืองอยู่ ทำไมน่ะเหรอ? เพราะไอ้เจ้านายแก่ตัณหากลับมันดันมาแต๊ะอั๋งเธอน่ะสิ! แถมยังบอกอีกว่า ‘ถ้ายอมมาเป็นเด็กเสี่ย เสี่ยจะเลี้ยงให้สุขสบายไปตลอดชาติเลย’ พลางเอามือเหี่ยวย่นมาลูบก้นเธอไปมา เธอเลยสนองตัณหาตาแก่นั้นโดยเอาแฟ้มงานที่ถือมาฟาดลงที่กลางหัวล้านโล่งของไอ้แก่นั่น! แล้วเตะไปที่กล่องดวงใจของมันก่อนจะวิ่งออกมาจากบริษัทนั้น โดยไม่ลืมตะโกนบอกลาออกพลางยกนิ้วกลางใส่!
หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นทำให้หญิงสาววัย 23 ปีที่ชื่อ ‘อิงอร’ กลายเป็นคนตกงาน ถ้าพูดให้ดูสวยหรูก็ประมาณว่า ‘กำลังอยู่ในสภาวะว่างงาน’ ไม่ใช่ว่าเธอไม่เสียใจที่ต้องตกงานหรอกนะ! เธอเสียใจ . . เสียใจเพราะเธอไม่คิดให้รอบคอบก่อนจะทำเรื่องที่ควรทำแบบนั้นไป! ถ้าเธอลองยอมให้ไอ้แก่ตัณหากลับแต๊ะอั๋งเธออีกสักเดี๋ยว แล้วค่อยอัดเสียงตอนมันพูดกล่อมให้เธอเป็นเมียน้อยมัน แล้วใช้คำพูดอ่อนหวานให้มันตายใจ ก่อนจะนำคลิปเสียงไปให้กับภรรยาของมัน เมื่อถึงตอนนั้นถึงเธอจะโดนไล่ออก แต่มันก็คุ้มล่ะนะ! เผลอๆ อาจจะได้ทิปเล็กๆน้อยๆจากภรรยาของมันก็ได้! เฮ้อ! แต่มาคิดได้ตอนนี้ก็สายไปซะแล้ว!
อิงอรตบหน้าของตัวเองเบาๆเพื่อเรียกสติของเธอกลับมา แล้วเปิดคอมพิวเตอร์ขึ้นเพื่อหางานตามเว็บไซต์ต่างๆที่ลงรับสมัครไว้ บางที . . อาจจะมีงานที่เหมาะกับเธอมากกว่างานนั่งโต๊ะจัดเอกสารก็ได้! เธอคิดให้กำลังใจตัวเอง เธอเริ่มหารายชื่อเว็บไซต์หางานทีละเว็บ ดูงานแต่ละงานที่ลงรับสมัครไว้ นั่งคิดว่าตัวเองจะเหมาะกับงานไหน? จนสายตาไปสะดุดกับงานไกด์นำเที่ยวขึ้นมา!
พลางเลื่อนเมาส์ตัวเล็กลงอย่างรวดเร็ว อิงอรกวาดสายตาอ่านทุกตัวอักษร งานเลขานุการผู้จัดการแผนก xxx ของบริษัท XiWanZX ที่ประเทศจีน และไม่นานรอยยิ้มก็ปรากฏอยู่บนหน้าของหญิงสาว อันนี้แหละ! ฉันเอาอันนี้แหละ! เมื่อคิดได้ดังนั้น อิงอรก็รีบจัดการตนเองและเอกสารที่จำเป็นในการสมัครงาน แล้วปฏิบัติตามเวลาการนัดสัมภาษณ์ เวลาผ่านไปเกือบสามเดือน ทำให้หญิงสาวรู้สึกว่าตนต้องชวดงานนี้แน่ ความเศร้าถาโถมเข้ามาเล็กน้อย แต่เธอยังคงมีใจสู้ต่อไป ก้าวเดินไปเปิดคอมพิวเตอร์ที่โต๊ะเพื่อหาข้อมูลงานอื่นๆต่อไป หญิงสาวเปิดอีเมลล์แอดเดรสขึ้นมา ก่อนจะเห็นว่าบริษัท XiWanZX ได้ส่งข้อความมาให้เธอเมื่อตอนเช้า อิงอรเปิดเอกสารดู ความเศร้าเมื่อครู่หายไปในพริบตา เนื่องจากเธอได้งานนี้!
อิงอรลุกจากเก้าอี้ก่อนจะเดินตรงไปที่ห้องน้ำ เมื่อปิดประตูเสร็จ เสียงร้องลั่นด้วยความดีใจก็ดังขึ้น แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเพื่อนข้างห้องเธอได้ตะโกนกลับมา “หนวกหู! จะไปกรี๊ดที่ไหนก็ไป แต่ไม่ใช่ที่นี่!”
หลังจากจัดการทุกอย่างให้พร้อมตามเอกสารที่บริษัทแนบมา ซึ่งคือไปรายงานตัวที่บริษัทในประเทศไทย ก่อนที่จะส่งตัวไปที่บริษัทแม่ที่จีน สิ่งที่อิงอรกังวลคือเรื่องการเดินทางและการใช้ชีวิต แต่ทางบริษัทได้กำหนดคร่าวๆว่าที่ต้องไปทำงานนั้นไม่ได้มีแค่เธอคนเดียว แต่มีอีกสามคนที่จะไปกับเธอ ซึ่งที่อยู่และการเดินทางนั้น บริษัทได้จัดเตรียมไว้ให้ เนื่องจากนโยบายของผู้บริหารคนใหม่ได้กำหนดไว้ เมื่อทางบริษัทชี้แจงเสร็จก็ยื่นเอกสารชี้แจงต่างๆให้เธอ พร้อมกับตารางเวลาในการเดินทาง และตั๋วเครื่องบิน!
เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก ก็ถึงวันที่หญิงสาวต้องไปทำงานที่ประเทศจีน แม้เธอจะมีความรู้ด้านภาษาจีนอยู่บ้าง จากครอบครัวและมหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่ได้แตกฉานนัก ทำให้หญิงสาวพอมั่นใจได้ว่าเธอจะไม่ลำบากในการใช้ภาษาในการดำเนินชีวิตเท่าไรนัก อิงอรจัดการตัวเองและสัมภาระเรียบร้อยตามที่พี่เลี้ยงที่ทางบริษัทส่งมาดูแลบอก ตลอดเวลาบนเครื่องบินเธอรู้สึกเหมือนอึดอัดอยู่ภายใน แต่ใจก็ยังคิดในแง่ดีว่าไม่เป็นไร แค่อาจจะเป็นอาการเมาเครื่องบินก็ได้ ก่อนจะพยายามข่มตาหลับ
อิงอรหลับไปนานเท่าไร ตัวหล่อนเองไม่ทราบแน่ชัด รู้ตัวอีกทีตอนที่แอร์โฮสเตสมาปลุก อิงอรหันไปมองเพื่อนร่วมงานอีกสามคนและพี่เลี้ยง พบว่าพวกนั้นเดินเลยเธอไปแล้ว รู้จักคำว่ารอไหมยะ?! หญิงสาวขอบคุณแอร์โฮสเตสคนนั้นก่อนจะรีบตามทุกคนไป
พี่เลี้ยงคนนั้นเริ่มเปลี่ยนจากการใช้ภาษาไทยมาเป็นภาษาจีนอย่างรวดเร็ว ทำให้คนอื่นที่มาด้วยกันแสดงสีหน้าด้วยความไม่เข้าใจในสิ่งที่พี่เลี้ยงสื่อ แต่สำหรับอิงอร สิ่งนี้ไม่เป็นปัญหาสำหรับเธอ พี่เลี้ยงบอกคร่าวๆว่าจะมีรถตู้มารอรับ ให้ขนสัมภาระแล้วเดินตามเธอไป อิงอรได้แต่ทำหน้าที่เป็นล่ามให้เพื่อนที่เหลือ เพราะเพื่อนร่วมงานแม้จะได้ภาษาจีน แต่ไม่มากพอที่จะเข้าใจทั้งหมด พวกเธอถนัดในการใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลักมากกว่า ก่อนที่หญิงสาวจัดการนำสัมภาระของตัวเองมาเก็บที่รถตู้ที่ทางบริษัทเตรียมไว้แล้วขึ้นรถไป
ตอนอยู่บนรถพี่เลี้ยงกล่าวขึ้นว่า “ดิฉันจะพาพวกคุณไปที่บ้านพักนะคะ ในส่วนค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับที่พัก ทางบริษัทจะเป็นผู้ออกให้หมด ส่วนเรื่องค่ากินอยู่หรือเสื้อผ้าหรือของใช้ส่วนตัวหรือแม้แต่ค่ารถค่าน้ำมันที่ใช้ในการเดินทางต่างๆ ทางคุณจะต้องเป็นคนออกค่าใช้จ่ายเอง ดิฉันจะให้เวลาพวกคุณเก็บสัมภาระ 15 นาทีและให้เวลาในการแต่งตัวเป็นชุดทำงานอีก 15 นาที รวมเป็น 30 นาที ย้ำนะคะว่าแค่ 30 นาที กรุณาอย่าเลทเด็ดขาด จากนั้นจะพาพวกคุณไปรายงานตัวต่อบริษัทและแบ่งหน้าที่ให้พวกคุณตามความสามารถของพวกคุณเอง พวกคุณจะต้องเริ่มงานวันนี้ค่ะ แค่นี้ล่ะค่ะ” หลังจากนี้ พี่เลี้ยงคนนี้ก็ไม่ได้กล่าวอะไรอีกเลย เธอนั่งเงียบตลอดทาง และแล้วอิงอรก็โดนเพื่อนร่วมงานจำเป็นเขย่าพลางบอกว่าให้แปลให้หน่อย อิงอรรู้สึกว่าเธอจะต้องเจอเรื่องวุ่นอย่างนี้อีกนานเลย
หลังจากมาถึงบ้านพักเรียบร้อยแล้ว สภาพบ้านพักเป็นแบบแมนชั่นสี่ชั้น โดยแบ่งเป็นแมนชั่นหญิงและชายหลายๆแมนชั่น ซึ่งชั้นหนึ่งๆมีห้องอยู่ห้าห้อง โดยห้องท้ายสุดของชั้นแรกจะเป็นห้องของผู้ดูแลบ้านพัก
เมื่อพี่เลี้ยงบอกให้เก็บของพลางยื่นกุญแจห้องให้ แต่ละคนต่างแยกย้ายจับจองห้องของตนเอง ห้องของทุกคนอยู่ที่ชั้นสอง โดยห้องของอิงอรนั้นอยู่ติดกับบันไดทางขึ้น ในห้องมีเตียงขนาดเล็กหนึ่งเตียง ทีวีเครื่องเล็ก พัดลมตัวเล็กหนึ่งตัว ตู้เย็นขนาดเล็ก โต๊ะเครื่องแป้งติดกระจกหนึ่งชุดและตู้เสื้อผ้าที่พอใส่แค่ชุดไม่เกินห้าตัว แถมห้องน้ำในตัวขนาดเล็กให้ด้วย โดยรวมแล้วก็เหมือนห้องของเธอที่ไทย เพียงแต่ขนาดเล็กกว่ามาก มีพื้นที่ใช้สอยน้อย แต่ก็อยู่ได้ อิงอรเก็บสัมภาระคร่าวๆใส่ตู้โดยใช้วิธีการยัด แล้วหยิบกระเป๋าถือใบเล็กออกมา ใส่กระเป๋าสตางค์และมือถือรวมถึงบัตรต่างๆไว้ในนั้น ก่อนจะเปลี่ยนเป็นชุดทำงานที่เตรียมมา
วันนี้เป็นวันแรกของการทำงาน อิงอรเลือกใส่ชุดสูทสตรีสีเทาเข้มราคาถูก พร้อมกับจัดเสื้อสูทและกระโปรงที่สั้นประมาณเข่าของเธอให้เข้าที่ แล้วหันมารวบผมเป็นหางม้าสูงเหมาะแก่การทำงาน หญิงสาวตรวจดูความเรียบร้อยอีกครั้ง ก่อนเดินออกจากห้องไปโดยไม่ลืมล็อกประตู อิงอรเดินลงมายังชั้นแรกก็เจอกับพี่เลี้ยงที่ยืนรออยู่แล้ว ไม่นานนักเพื่อนร่วมงานที่มาด้วยกันก็ทยอยลงมาจนครบ ทั้งหมดจึงขึ้นรถตู้เดินทางไปยังบริษัทที่ห่างจากบ้านพักไปประมาณสองกิโลเมตร
“บ้านพักที่พวกคุณจะต้องอาศัยอยู่นั้น ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของบริษัท โดยพื้นที่นั้นๆจะแบ่งเป็นหลายส่วน ส่วนหลักๆจะเป็นตัวบริษัทซึ่งเป็นสำนักงาน ส่วนโรงงานผลิตสินค้าและบริการ ส่วนบ้านพักพนักงาน และส่วนเนื้อที่แปลงการเกษตรที่บริษัทจัดทำขึ้น . . . ” พี่เลี้ยงสาวอธิบายเรื่องต่างๆให้พวกเธอฟัง อิงอรพยายามตั้งใจฟัง แต่ก็เหมือนกับเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา สิ่งที่ฟังล้วนไม่ซึมซับเข้าสู่หัวสมองของเธอเลย ร่างกายเธอเหมือนคนที่เพิ่งกลับจากการออกกำลังกาย ใจเต้นแรง เหงื่อซึมออกมาตามร่างกาย จนเพื่อนที่นั่งข้างๆก็คอยถามตลอด แต่อิงอรก็บอกได้แค่ว่าไม่เป็นไร เธอหวังว่าวันนี้จะจบลงอย่างเร็ว และเธอจะได้กลับไปนอนพักเสียที
หลังจากจัดการเรื่องแผนกต่างๆเสร็จ รวมทั้งเข้าพบผู้จัดการแผนกแล้ว ทุกคนก็ต่างแยกย้ายไปทำงานของตน แม้ว่าวันนี้จะไม่ได้พบท่านประธาน แต่อิงอรก็ไม่เก็บมาใส่ใจนัก กลับเป็นเพื่อนร่วมงานที่มาด้วยกันมากกว่าที่คิด ถึงอย่างไรมันก็ไม่ใช่เรื่องของเธออยู่ดี วันแรกของการทำงานผ่านไปอย่างหนักหน่วงพอสมควร นอกจากจะทำการผูกมิตรกับเพื่อนร่วมงานแล้ว ยังต้องจัดการเอกสารที่ค้างมาจากเจ้าหน้าที่คนก่อนอีก อิงอรเหนื่อยแสนเหนื่อย ทั้งหัวไหล่ บั้นเอว และข้อต่อต่างๆก็ปวดไปหมด พอกลับไปถึงห้อง เธอก็สลบคาเตียงเลย
คืนนั้น อิงอรฝันเห็นเงาตัวเองในชุดแปลกตา คล้ายชุดจีนในราชวงศ์ชิง มือขวาของเธอกุมมือของผู้ชายคนหนึ่งไว้ เขาสวมชุดจีนเช่นกัน ส่วนมือซ้ายของเธอกลับถือม้วนกระดาษสีเหลืองไว้ เมื่ออิงอรเงยหน้าขึ้นสบตากับตัวเองในความฝัน กลับพบสิ่งที่ทำให้เธอเจ็บปวดในใจ หน้าซีกขวาของเงาตัวเธอในฝันนั้น ยิ้มแย้มอย่างมีความสุข แต่อีกซีกหน้ากลับเต็มไปด้วยหยดน้ำตา
ตัวอิงอรนั้นไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเธอตรงหน้าถึงมีอารมณ์ต่างกันในเวลาเดียวกัน เธอรู้สึกเพียงว่าเหมือนมีก้อนหินมากดทับในใจ ผลักมันอย่างไรก็ไม่ออก อิงอรเหลือบมองผู้ชายที่อยู่ด้านข้างเงาของตัวเธอ กลับพบว่าเห็นได้แค่เอวลงมาเท่านั้น ช่วงบนเหมือนมีเงาพาดผ่านไม่ยอมให้เธอเห็น หญิงสาวพยายามก้าวเดินไปหาเงาร่างของตัวเอง แต่เงาร่างทั้งสองกลับจางหายไป หลงเหลือเพียงแค่ม้วนกระดาษสีเหลืองตรงหน้าเธอเท่านั้น อิงอรก้มหยิบม้วนกระดาษขึ้นมา เธอกางมันออก พลันปรากฏตัวอักษรจีนที่ด้านขวามือว่า ‘ราชโองการ’ ตามด้วยลงท้ายผู้รับว่า ‘เฉินฉิงเอ๋อร์’ แต่เนื้อหากลับไม่มีแม้แต่ตัวอักษรเดียว หลังจากหญิงสาวอ่านจบ สายลมพลันพัดเข้าใส่เธอ คล้ายกับร่างกายหมดแรง และแล้วอิงอรก็ไม่รู้สึกอะไรอีก
แสงแดดสาดส่องเข้ามาในห้อง อิงอรรู้สึกตัวแต่กลับขยับเขยื้อนไม่ได้ คล้ายร่างกายเหมือนโดนของหนักทับ อาการปวดเมื่อยยังไม่จางหายไป หญิงสาวพยายามที่จะลืมตา แต่ก็ทำไม่ได้ อิงอรถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ก่อนจะเริ่มปล่อยทุกอย่างให้ไปตามธรรมชาติ สักพักหญิงสาวก็เริ่มมีแรงขึ้นมา คราวนี้เธอสามารถลืมตาได้แล้ว แต่ภาพตรงหน้าเธอ แทนที่จะเป็นฝ้าสีขาวไม่มีลวดลายในห้องนอนใหม่ แต่กลับเป็นเหมือนไม้เนื้อดีที่แกะสลักอย่างสวยงาม
ภาพของเมื่อวานผุดเข้าหัวเธอ หลังกลับจากบริษัทเธอก็ล้มตัวนอนเลยนิ น้ำท่าก็ยังไม่อาบด้วย ห้องนอนก็เป็นสีขาวล้วน เตียงก็เป็นเตียงนอนธรรมดา ก็ถูกต้องนี่ แต่ภาพตรงหน้ากลับไม่ใช่อย่างนั้น หรือบริษัทอาจจะจัดเกมเพื่อรับพนักงานใหม่ อิงอรพยายามยกศีรษะมองสภาพที่ๆเธออยู่ แต่ก็ทำได้ไม่ดีนัก หญิงสาวเลยใช้วิธีเอาศีรษะพิงกำแพงแล้วค่อยดันตัวเองขึ้นทีละน้อย เหมือนที่เคยได้ยินอาจารย์ที่เป็นโรคบ้านหมุนบอกไว้ตอนอาการกำเริบ แต่กว่าที่จะดันจนตัวเองลุกขึ้นมานั่งได้ก็กินเวลาไปพอสมควร
อิงอรใช้เวลาพักร่างกายสักครู่ ใช้ผนังเป็นที่พักพิง ก่อนจะมองสภาพห้องที่เธอกำลังอยู่ ห้องนี้ใหญ่กว่าห้องที่เธออยู่มาก ต่อให้เอาห้องที่เธอพักตอนอยู่ไทยซึ่งใหญ่กว่าห้องพักที่จีนมารวมกัน ก็ได้เพียงครึ่งหนึ่งของห้องนี้เท่านั้น ค่าเช่าจะเท่าไรกัน? ยังไม่รวมถึงเครื่องเรือนที่ทำด้วยไม้เนื้อดีอีกหลายอย่าง อาทิ โต๊ะ-เก้าอี้ เตียง ฉากกั้นไม้ หน้าต่าง แค่ของพวกนี้ก็กินเงินเดือนเธอไปหมดแล้ว ไม่สิต้องบอกว่าถึงจะใช้เงินเดือนเธอทั้งเดือนก็ไม่พอ บริษัทช่างทุ่มทุนในการรับเด็กใหม่เหลือเกิน!
หญิงสาวก้มลงมองตัวเอง พบว่าเสื้อผ้าที่ใส่อยู่นั้นก็เป็นชุดที่เธอแน่ใจว่าไม่ใช่ของเธอแน่ ชุดที่ใส่นั้นเป็นชุดจีนสีชมพูอ่อน ปักลายดอกบัวสีชมพูไว้ ฝีมือประณีตจนเธออดชื่นชมไม่ได้ พอลองจับที่ผม ก็ต้องแปลกใจที่เส้นผมเธอนุ่มขึ้นมาก ราวกลับไม่ใช่ผมเธอ และที่น่าสงสัยคือเพราะอะไรผมเธอจึงยาวมาก ความยาวน่าจะเลยก้นไปแล้ว ทั้งที่เธอไว้ผมยาวแค่กลางหลังเท่านั้น หรือว่าบริษัทจะต่อผมให้เธอด้วย? จะคิดเงินภายหลังไหมนะ?
อิงอรเลื่อนมือมาจับที่หน้า ความสงสัยก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ทำไมใบหน้าเล็กลง? สิวที่เคยกลับไม่มี? หญิงสาวเลื่อนฝ่ามือออก สีหน้าของเธอพลันไร้สีเลือด
“นี่ไม่ใช่มือฉัน!” มือคู่หนึ่งตรงหน้าอิงอรนั้น หญิงสาวควบคุมได้ราวกลับเป็นมือของตนเอง แต่รูปลักษณ์กลับไม่ใช่มือของตนเอง รอยขี้แมลงวันที่เคยมีก็กลับไม่มี รอยแผลเป็นที่เคยปรากฏกลับหายไป ผิวพรรณที่เป็นอยู่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เธอเคยมี อิงอรไม่อยากจะเชื่อภาพตรงหน้า ถึงเธอรู้ว่านี่ไม่ใช่เธอ แต่ก็รู้สึกเช่นกันว่าเป็นเธอ “ต้องหากระจก!” อิงอรมองไปรอบๆห้อง เพื่อหากระจก แต่กลับไม่พบ มีเพียงแต่ถาดสีเหลืองที่ตั้งอยู่หน้าโต๊ะที่คล้ายโต๊ะเครื่องแป้งเท่านั้น น่าจะใช้ได้ หญิงสาวก้าวลงจากเตียงอย่างทุลักทุเล แม้ว่าจะเจ็บสักแค่ไหน สองเท้าก็ยังคงก้าวต่อไป
“ได้แล้ว!” เมื่ออิงอรได้ถาดสีทองมา หญิงสาวทรุดลงนั่งหน้าโต๊ะตัวนั้น ก่อนจะมองภาพที่สะท้อนออกมา ตัวเธอแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง เมื่อภาพตรงหน้ากลับปรากฏเป็นตัวเธอในวัย 12 ปี! เพียงมีบางจุดที่ต่างไปบ้าง แต่ภาพที่สะท้อนออกมาก็ยังคงเป็นเธอ ต่อให้บริษัทมีวิทยาการด้านเทคโนโลยีมากแค่ไหน ก็ทำแบบนี้ไม่ได้!!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ