Love in water falls น้ำตกนี้จะเป็นของเธอ ^o^
เขียนโดย Rasberry
วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 22.28 น.
แก้ไขเมื่อ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 13.14 น. โดย เจ้าของนิยาย
18) บทที่ 17
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความRyu Say
ณ ห้อง 6/1
“เคน!!” เคนถึงกับสะดุ้งสุดตัวเมื่อผมเรียกด้วยเสียงอันดัง
“ว่า?”
“เมื่อไหร่เรย์กับนายะจะมาสักทีอ่ะ”
“ถามฉันแล้วจะให้ฉันไปถามใคร! ริว”
“พวกนายนะ กำลังพูดถึงพวกเราอยู่รึเปล่า”
“ระ เรย์”
“ใช่แล้วล่ะ เรย์พวกผมกำลังพูดถึงนายกับนายะอยู่”
“พูดถึงทำไม”
“เปล่านิ~~” เคนกับผมพูดขึ้นมาพร้อมกัน
“แน่จั้ย” เรย์ทำหน้าเหมือนไม่ค่อยเชื่อพวกผมสักเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา นอกจากเดินออกจากห้องไปพร้อมกับถือกระเป๋าของนายะไปด้วย สองคนนั้นจะไปไหนกันหว่า น่าสงสัยแฮะ แต่ช่างเหอะตอนนี้เรียนก่อนดีกว่า อาจารย์ปฏิพัทธ์เข้าล่ะ
“ทุกคนนั่งที่”
“ครับ/ค่ะ”
“ครูก็พึ่งรู้เรื่องเมื่อกี้เหมือนกันนะ”
“เรื่องอะไรค่ะครู” หัวหน้าถามอย่างสงสัย
“เรื่อง ชิบุยะ นะ”
“ทำไมอ่ะ” นักเรียนหญิงทุกคนถามขึ้นพร้อมกัน
“ชิบุยะ เขาจบการศึกษาไปแล้วนะ ซึ่งเวลาเรียนของที่นู่นกับที่นี่ไม่ตรงกันนะเด็กๆ เขาเลยจบก่อนพวกเรา แต่ไม่เป็นไรนะ งั้นพวกเรามาเรียนต่อละกัน”
“อาจารย์ นายะไปไหนครับ” ผมถามอย่างสงสัย
“เธอออกไปธุระกับชิบุยะนะ”
“ครับๆ”
End Ryu Say
ด้านนายะ
“เด็กมาแล้วเหรอ”
“คะ คุณแม่” นายะร้องขึ้นทำให้ผมรีบหันไปมองทันที ผมแทบจะยกมือไหว้ไม่ทัน
“สวัสดีครับ คุณน้า”
“คุณน้าอะไรกันเรย์ ต้องเรียกคุณแม่สิ”
“ครับๆ”
“เอาล่ะ เข้าไปข้างในกันได้แล้ว”
“ครับ/ค่ะ”
พอพวกผมเข้าไปข้างในก็เท่านั้นแหละ ผมถึงกับช็อกไปเลยทีเดียว
“อย่าพึ่งช็อกเรย์” พ่อเรียกสติผมกลับมา
“นี่มันใช่งานหมั่นแน่เหรอพ่อ”
“ใช่”
“ใครเป็นคนจัดอ่ะพ่อ ผมนึกว่างานแต่ง”
“แม่ของหนูนายะเป็นคนจัดนะ”
“....” ผมถึงกับช็อกรอบสอง ไม่ช็อกไม่ได้นี่มันงานแต่งชัดๆ เพียงแค่ไม่มีคนอื่นมานอกจากคนในครอบครัว ส่วนเพื่อนผมนะเหรอก็ย่างที่รู้นั้นแหละ พวกมันเรียนอยู่ จะเป็นยังไงต่อก็ไม่รู้ล่ะนะ
“เรย์ๆ”
“หืม มีอะไรเหรอนายะ”
“เหม่ออะไรอยู่นะเรย์”
“ก็เปล่านี่ แต่ช็อกเรื่องที่พ่อผมบอกนิดหน่อยน่ะ”
“ช็อกเรื่องอะไรอ่ะเรย์ บอกหน่อยนะ
“จะเรื่องอะไรล่ะถ้าไม่ใช่เรื่องที่แม่ของเธอเป็นคนจัด งานหมั้นนี้ขึ้นมาทั้งหมดน่ะ”
“ท่านแม่น่าจะชอบนะ ถ้าได้ยินเรย์พูดแบบนี้นะ”
“คงจะอย่างนั้นล่ะมั้งนะ”
“พวกเราเข้าไปกันดีกว่านะ ให้ผู้ใหญ่เขารอมันไม่ดี”
2 เดือนผ่านไป
เมื่อผ่านเรื่องงานหมั้นไปทุกอย่างก็เริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น นายะตกลงที่จะบริหารบริษัทต่อจากพ่อแม่ของเธอหลังจากที่เรียนจบหรือแต่งงานแล้ว ซึ่งทางบริษัทที่พ่อแม่ผมทำอยู่นั้นก็ได้ไรท์ที่จะมาบริหารต่อหลังเรียนจบเช่นเดียวกับนายะเลยไม่ต้องมีอะไรที่ต้องเป็นห่วงมากนักและตอนนี้ผมเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงไปแล้ว ส่วนเรื่องที่หอศิลป์ผมก็โทรไปยกเลิกแล้ว ตอนแรกๆเขาก็ไม่ยอมสักเท่าไหร่ แต่พอผมบอกว่า ผมจะเป็นนักร้อง เขาก็เข้าใจอย่างนั้น เรื่องใบสมัครที่ Blue Rose Ice University ก็ได้ส่งไปตั่งแต่เดือนที่แล้ว และได้การอนุมัติมาแล้วด้วย พรุ่งนี้ต้องเดินทางไปอเมริกาซะด้วยสิ คนอื่นจะไปกันทีหลัง เพราะยังไม่จบการศึกษาที ผมเลยต้องเรียนที่นั้นก่อนพวกนั้น (แต่ว่านะ Blue Rose Ice University เรียนเกี่ยวกับอะไรบ้างอ่ะ)
เช้าวันต่อมา
เฮ้อ~~~~ วันนี้เงียบแบบนี้ก็ดีเหมือนกันเอาเถอะถึงเวลาแล้ว แต่ก็ดีแล้วล่ะ ผมเดินขึ้นเครื่องอย่างไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เพราะผมรู้ว่ายังไงก็ไม่มีใครมาส่งอยู่แล้ว พวกเขาไม่รู้น่ะนอกจากคนขับรถกับชาร์สเตอร์
10 นาทีผ่านไป
เครื่องขึ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กิจวัตรบนเครื่องผมก็ยังคงเหมือนเดิมคือการวาดรูปบนเครื่องอ่ะนะ ผมวาดในสมุดวาดรูปและใช้ดินสอวาด เพราะกลัวเลอะเปื้อนมือด้วยล่ะนะ แต่เอาเถอะจะวาดด้วยอะไรมันก็ไม่ต่างกันหรอก ผมวาดรูปไปด้วยคิดเรื่องที่ Blue Rose Ice University ไปด้วย ที่ Blue Rose Ice University มีการเรียงลำดับความสามารถโดยแบ่งเป็น Class King , Class Queen , Class Jack และยังมีชั้นเรียนอื่นๆที่ไม่ใช่ในระดับสูงอีก 10 ห้อง ระดับ Class King , Class Queen , Class Jack เป็นชั้นเรียนระดับสูงหรือชั้นเรียนพิเศษ ที่มีสมาชิกในห้องไม่ถึง 20 คนด้วยซ้ำ ผมจะได้อยู่ชั้นไหนหว่า Class Queen จะมีแต่ผู้หญิง เราจะได้อยู่ Class King หรือ Class Jack หรือห้องทั่วไปหว่า แต่เอาเถอะ จะเรียนห้องไหนมันก็เหมือนกันนั้นแหละ เรียนคงไม่ต่างกันหรอก ที่นู้นคงไม่มีใครรู้จักเราหรอกเชื่อสิ เราไม่ได้ดังอะไรขนาดนั้นสักหน่อยนิ อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด ตอนนี้เราพักผ่อนก่อนดีกว่า
2 วันต่อมา
ในที่สุดผมก็มาถึงสนามบินของที่อเมริกา แต่ผมก็ถึงกับช็อกไปเลย จะไม่ให้ช็อกได้ไงก็ในเมื่อผมลงเครื่องมาแล้วนักข่าวเต็มไปหมดเลยอ่ะ อุส่ามาไม่บอกแล้วนะ
“คุณเรย์ค่ะ” นักข่าวเริ่มสัมภาษผม
“ครับ” ผมก็ต้องตอบตามน้ำไปใช่ไหม
“อะไรเป็นเหตุจูงใจ คุณเรย์ เลือกที่จะร้องเพลงล่ะค่ะ ทั้งๆที่คุณก็ชอบงานวาดรูปเหมือนกัน”
“อ๋อ ผมอยากให้ทุกคนที่ฟังเพลงของผมแล้วยิ้มได้น่ะครับ” ผมตอบพร้อมหันไปเห็นพวกชูการ์ยืนอยู่ครบทุกคนเลย พวกเขาคงมารับผมสินะ
“ค่ะ ขอสัมภาษอีกข้อนะค่ะ”
“เชิญครับ”
“ตอนนี้คุณเรย์มีใครในดวงใจแล้วรึยังค่ะ”
“คนในดวงใจ ? หมายถึงคนที่ผมรักรึเปล่าครับ”
“ใช่ค่ะ”
“มีแล้วครับ และหมั้นไปเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมานี้เองครับ”
“ค่ะ ขอบคุณที่ให้คำสัมภาษครั้งนี้นะค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” ผมตอบพวกนักข่างแล้วโค้งให้พอเป็นพิธีเล็กน้อยแล้วเดินไปหาพวกชูการ์ที่ยืนคอยอยู่ พร้อมกับเห็นใบมิ้นกับมีมี่ที่ยืนหน้าแดงอยู่ แต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรก็แค่ไปลูบหัวเธอเล่นเล็กน้อย
“นักข่าวรุมสัมภาษนายทำไมอ่ะ”
“แงะ ใจร้ายกันจังเลยนะ”
“ใจร้ายตรงไหนเนี้ย คนเค้าอุส่าโดดเรียนมารับเลยนะเนี้ย”
“ฮะๆ โทษที พอดีว่าผมเข้าเป็นนักร้องของค่าย diamond music แล้วนะ แล้วก็เริ่มฝึกไปเรื่อยๆ โดยที่ประธานค่ายก็ไม่ว่าอะไรเลย ผมจะทำอะไรก็ได้ ซึ่งตอนนี้ก็เป็นนักร้องของค่ายได้ 2 เดือนแล้วล่ะ”
“เพราะงั้นมาที่นี่เลยโดนนักข่าวรุมสัมภาษอย่างนั้นนะเหรอ”
“ก็นะ แต่ว่าพวกนายมาอยู่ที่นี่หมดแล้วใครคอยจัดหารเรื่องที่ Blue Rose Ice University ล่ะ” ผมหันไปมองชูการ์เพื่อขอคำตอบที่ดี
“ไม่มีใครคุมหรอก ตอนนี้พวกคนอื่นๆเรียนกันอยู่ ไม่มีใครออกมาอารวาทกันหรอก”
“อืมๆ” ตอนนี้พวกผมเดินมาถึงรถที่พวกชูการ์เตรียมมา คือพวกนั้นนั่งรถของ Blue Rose Ice University มาอ่ะนะ แล้วที่แปลกไปกว่านั้นคือผมเจอ ผอ. โรงเรียน Blue Rose Ice University นั่งอยู่ในรถด้วย ผมสวัสดีแทบจะในทันที สร้างเสียงหัวเราะให้กับ ท่านผู้อำนวยการทันที
“ดังแล้วนะนายนะ”
“รู้ด้วยเหรอครับ”
“รู้สิ ก็เห็นนายเล่นคอนเสิร์ตผ่านทางทีวี”
“อย่างงี้เองเรอะ”
“เอ่อ ผมรู้สึกเสียงสันหลังอ่ะ”
“งั้นพวกเราขึ้นรถไปโรงเรียนกันเถอะ”
“ครับ” พูดจบพวกผมก็ขึ้นรถกันทันที พอถึงโรงเรียนเท่านั้นแหละ ผมรีบเอาแว่นมาสวมแทบจะทันทีเพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรแบบที่สนามบินอีกรึเปล่านะสิ กันไว้ก่อนดีที่สุด
“นายใส่แว่นด้วยเหรอเรย์” ใบมิ้นถามขึ้นมาทันทีที่เห็นผมสวมแว่น
“ปกติก็ไม่ใส่หรอก แต่ที่ใส่นี่กันไว้ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นแบบที่สนามบินนะ”
“รอบคอบจังนะ”
“มันก็ต้องมีบ้างสิ” ผมพูดอย่างขำๆเมื่อเห็นใบมิ้นทำหน้าอย่างทึ่งๆ
“ว่าแต่ผมเรียนห้องไหนเหรอ”
“Class King เหมือนพวกเรานี่แหละ”
“คาสนั้นมีผู้หญิงได้ด้วยเหรอ”
“ใช่ แต่ Class Queen จะมีแต่ผู้หญิงนะ Class King จะเป็นคาสที่คนเปอร์เฟ็กต์หรือคนอัจฉริยะอยู่กันนะ โดยไม่มีการแบ่งแยกว่า ชายหรือหญิง แต่ Class Queen จะให้มีแต่ผู้หญิงทั้งหมดนั้นก็เพราะว่า....จะให้พูดยังไงดีล่ะ” ชูการ์คิด
“จะบอกว่า Queen เปรียบเสมือนสุภาพสตรีชั้นสูงใช่ไหม”
“มันก็ไม่เชิงหรอกนะ แต่ที่เรย์พูดมามันก็เป็นส่วนเกี่ยวข้องเหมือนกันนั้นแหละ” คาร์ที่เงียบมานาเอ่ยขึ้นมาบ้าง
“งั้นสรุปง่ายๆเลยนะ Class King คือคนที่เปอร์เฟ็กต์ เพียบพร้อมทุกด้าน Class Queen คือคาสกุลสตรีชั้นสูงหรือพวกตระกูลผู้ดีที่มีชื่อเสียง Class Jack คือพวกลูกชายลูกสาวเจ้าของบริษัท ที่ดิน สังหาริมทรัพย์ฯ อะไรประมาณนั้นใช่ไหม”
“พูดมาก็ถูกอีกนั้นแหละ แล้วก็นะระดับชั้นปกติคือพวกนักเรียนทุนอะไรประมาณนั้นนะ”
“แบ่งพรรคแบ่งพวกรึไงเนี้ย”
“คงจะอย่างนั้นแหละ”
ณ Blue Rose Ice University
“ถึงสักที” เมื่อมาถึงโรงเรียนอันก็บ่นทันที
“เอ้อนี่ อยากถามนานล่ะ”
“พวกนายเรียนปีไหนเนี้ย”
“ปี 1” ทุกคนตอบพร้อมกัน ส่วนท่านผอ. เดินเข้าอาคารเรียนไปแล้ว
“ไหงตอนแรกยอมให้ผมเรียกรุ่นพี่ล่ะชู”
“ก็ค่ตอบตามน้ำไปล่ะ”
“ไม่เอาน่าเรย์ ที่นี่มีเรียนตั่งแต่ระดับมัธยมนะ” วี
“นี่ผมสมัครเข้ากลางคันน่ะสิ”
“ก็นะ พึ่งเปิดเทอม 5-6 เดือนเอง ”
“ง้นก็เท่ากับว่า ที่ผมมาแลกเปลี่ยนก็เป็นวันเปิดเทอมน่ะสิ”
“ใช่” x8
‘พร้อมเพียงกันดีจริงๆ หน้าหมั่นไส้ว่ะ’ ผมบ่นในใจ
“วี”
“ว่าไงเรย์”
“มีงานอะไรแล้วมั่งอ่ะ”
“เยอะแต่ตอนนี้รีบขึ้นห้องเรียนเหอะ”
“ให้ผมเปลี่ยนชุดก่อนสิ”
“ค่อยเปลี่ยนคาบพักน่าเรย์ นี่พึ่งคาบ 2 เอง ”ชูการ์ว่าพลางลากผมไปด้วย
“เฮ้อ~~~ ครับๆ”
Class King Room (ห้องประจำ)
“ขออนุญาตครับ”
“อ้าวแปลกนะที่พวกนายมาสายนะ”
“คือพวกผมไปรับเด็กใหม่ที่สนามบิน ตามคำสั่งของ ผอ. นะครับ”
“อ๋อ จ๊ะ งั้นไปนั่งที่นะ ครูให้วาดรูปอะไรก็ได้ แต่ละโต๊ะจะมีกระดาษอยู่แล้วนะ มีของเธอด้วยนะ”
“ผมหรอครับ” เรย์ถามขึ้นอย่างงง
“ใช่จ๊ะ บอกชื่อมาก่อนสิจ๊ะ”
“ชิบุยะ เรย์ ครับผม”
“ชิบุยะ เรย์นะจ๊ะ”
“ครับ”
“วาดในกระดาษร้อยปอนวาดยากแฮะ”
“อาจารย์ครับ”
“มีอะไรรึเปล่าจ๊ะชิบุยะคุง”
“กำหนดให้วาดด้วยดินสออย่างเดียวหรือวาดด้วยอะไรก็ได้ครับ”
“แล้วแต่ความถนัดจ๊ะ”
“ใช้สีโปสเตอร์คงได้สินะครับ”
“ได้จ๊ะ”
“ครับ”
1 ชม.ผ่านไป
ผมเงยหน้าจากกระดาษแล้วมองไปรอบๆห้องถึงได้รู้ว่ายังไม่มีใครลงมือวาดเลยสักคน อาจจะเพราะคิดรูปไม่ออกก็ได้มั้ง ส่วนพวกชูการ์นะเหรอ นั่งเครียดกันอยู่ส่วนผมน่ะวาดไปได้เยอะแล้วล่ะ ผมวาดด้วยสีโปสเตอร์อ่ะนะ(ผมวาดน้ำตกแก้วนั้นแหละ)
“เฮ้อ~” ผมถอนหายใจเมื่อวาดรูปเสร็จ
“ถอนหายใจทำไมเรย์ ท้อซะแล้วเหรอ” วีพูดขึ้นเมื่อเห็นผมอนหายใจ
“เปล่าสักหน่อย ผมทำเสร็จแล้วต่างหากล่ะ”
“เฮ้ยจริงดิ พวกฉันยังคิดไม่ได้เลยนะ อย่ามาโกหกหน่อยเลย”
“เปล่าโกหกนะ เสร็จแล้วจริงๆ” ผมว่าพร้อมวางภาพที่วาดลงบนโต๊ะทำให้พวกชูการ์ถึงกับอึ้งไปเลยทีเดียว
“นายคิดรูปพวกนี้ขึ้นมาได้ยังไงน่ะ”
“ผมวาดขึ้นจากสถานการณ์จริงต่างหากล่ะ”
ผมพูดจบก็ลุกขึ้นเอาภาพไปส่งทันที(ผมเขียนชื่อกำกับไว้ในรูป) เมื่ออาจารย์เห็นก็ถึงกับอึ้งทันที แกคงไม่คิดว่าจะมีคนที่วาดอะไรแบบนี้ออกมาได้ล่ะมั้งนะ
“ครูจะเก็บไว้ก็ได้นะครับ ผมไม่เอาคืนหรอกครับ”
“จ๊ะ”
“ตอนนี้ ผมสามารถทำอะไรได้บ้างล่ะครับ”
“แล้วแต่จ๊ะ”
“เล่นกีต้าได้ไหมครับ เผื่อเพื่อนจะคิดอะไรออกบ้างนะครับ”
“จ๊ะ จะร้องเพลงด้วยก็ได้นะ”
“ครับผม” ผมเดินกลับที่นี่ของตัวเอง แล้วหยิบกีต้าขึ้นมาบรรเลงเพลงที่ทุกคนรู้จักดี (ซาโยนาระ)
“รอยยิ้มของเธอ ยังคงอ่อนหวานซึ้งใจ~~~
แววตาคู่เดิม ยังคงสวยเกินกว่าใคร~~~
อยากมองหน้าเธอ กอดเธอแนบชิดอิงกาย~~~
แต่ทำไม่ได้ เพราะใจเหนื่อยล้าเกินทน~~~
แต่ยิ่งรักก็ยิ่งจะทรมาน พยายามจะหลบแล้ว~~~
พยายามจะหลีกแล้ว แต่ก็ยังไม่แคล้วรักเธออีกครั้ง~~~
พยายามจะหยุดพัก พยายามจะหยุดรัก~~~
แต่มันยากนัก ที่จะหยุดรัก~~~
ยิ่งพยายามยังไงในใจมันร้องตะโกน โอ๊ย~~~
ใจมันเจ็บ ใจมันปวด ใจมันรวด ใจมันร้าว~~~
ใจมันร้องตะโกน อ๊าว เจ็บนี้อีกยาว~~~
* ต่อให้เธอไม่รักคนอื่น ต่อให้ฉันไม่มีคนใหม่~~~
ต่อให้เรานั้นเข้ากันได้ อะไรทำนองนั้น~~~
แต่ก็รู้ว่าในวันหนึ่ง วันที่รักของเรามาถึงทางตัน~~~
เธอและฉัน เราคงรับมันไม่ไหว~~~
** ฉันว่าเราหยุด ก่อนดีไหม~~~
ก่อนจะสายไป ก่อนอะไรๆจะเปลี่ยนแปลง~~~
หนึ่งคำพูดแรงๆ เลิกแสดง~~~
ว่าเรายังคงรักกันเหมือนเดิม~~~
เจ็บอย่างนี้รู้ดีว่าคงอีกนาน~~~
คิดไว้แล้วว่าฉันนั้นควรจะทำยังไง~~~
I know how to survive from this critical of my lifetime~~~
ถ้ารักแล้วมันต้องฝืน ฉันก็คงไม่ขืน~~~
Sayonara Japanese goodbye~~~
Bye bye เมื่อรักมันเริ่มจะขมก็คงต้อง Goodbye~~~
Bye bye-bye~~~
( * , ** )
ฉันว่าเราหยุด ก่อนดีไหม~~~
ก่อนจะสายไป ก่อนอะไรๆจะเปลี่ยนแปลง~~~
หนึ่งคำพูดแรงๆ เลิกแสดง ( ฮู้ว )~~~
ว่าเรายังคงรัก~~~
( ** )”
เมื่อผมร้องเพลง ซาโยนาระจบพร้อมกับเสียงกีต้าคอร์ดสุดท้ายจบ คาบเรียนก็หมดพอดีส่วนคนอื่นๆก็วาดรูปไปได้อย่างรวดเร็วเหมือนกับว่าเสียงเพลงคือแรงกระตุ้นให้ทุกคนมีกำลังใจในการทำงาน
“เฮ้อ หมดคาบแล้ว”
“คาบต่อไปวิชาอะไรอ่ะ”
“คาบพักนั้นแหละ”
“ผมไปเปลี่ยนชุดล่ะ อยู่ในห้องประธานใช่ม่ะ”
“ใช่ ชุดของนายจะเหมือนกับชุดของพวกเรา เพราะเป็นกลุ่มของประธานนักเรียนน่ะนะ”
“อ้อ จะไปโรงอาหารกันใช่ม่ะ”
“ใช่ จะไปไหมล่ะ ถ้าไปพวกเราจะได้รอ”
“ไปสิ ผมจะได้เองานวิชาอื่นของชูมาลอกด้วย”
“เฮ้ยๆ ของวีดีกว่า” ชูการ์พูดห้ามขึ้นมาซะงั้น
“ทำไมอ่ะ”
“คือ....”
“ชูเรียนไม่เก่งน่ะ เห็นแบบนี้น่ะ สอบตกเกือบทุกวิชาเลยล่ะ” คาร์
“>//////<” -> ชูการ์
“โห สุดยอดอ่ะ”
“แต่ชูเก่งด้านการบริหารจัดการนะ” อันพูดเสริม
“เคร งั้นเอาของวีก็ดะ”
“ชุดอยู่บนโต๊ะผม ไปเอาแล้วเปลี่ยนในห้องนั้นแหละ”
“รู้น่า” ผมเดินเข้าไปในห้องแล้วหยิบชุดนักศึกษาของผมแล้วเอาไปเปลี่ยนในห้องน้ำ ส่วนชุดที่ผมใส่มาก็พับใส่กระเป๋านักเรียนแล้วดินออกไปหาคนอื่นๆที่ยืนรออยู่หน้าห้องประธานนักเรียน
“เท่อ่ะเรย์” ใบมิ้น
“ขอบคุณ”
ระหว่างทางเดินไปโรงอาหาร พวกผู้หญิงจะหันมามองทางพวกผมกันเกือบหมดเลยอ่ะ เพราะอะไรอ่ะ อ้อ ลืมบอกไปว่าตอนนี้ผมยังใส่แว่นอยู่นะ
“นี่ ทำไมคนพวกนั้นต้องมองมาทางนี้ด้วยล่ะ วี”
“เรื่องปกติน่ะ เวลาพวกเราไปไหนในโรงเรียนก็จะมีคนมองแบบนี้แหละ แล้วยิ่งมีนายอยู่ด้วยคนยิ่งมองใหญ่เลยล่ะ”
“งั้นก็ขอโทษด้วยล่ะกัน”
“หึหึ”
“หือ คนพวกนั้น Black Rose Dark University สินะ”
“เก่งดีนี่”
“พวกนายมาทำอะไรที่นี่!!!!!” ชูการ์เอ่ยปากถามเสียงดัง แบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
“ไม่เจอกันไม่กี่เดือนเอง ก็ขึ้นเสียงใส่แล้วเหรอ แบบนี้น่าซัดให้หายปากเก่งจริงๆ”
“อึก” ผมหันไปเห็นชูการ์ที่ทำหน้าไม่ถูก
“มีอะไรก็รีบพูดมา” ผมพูดขึ้นอย่างไม่เกรงกลัวอะไร
“หืม นายไม่เคยเห็นหน้าเลย เด็กใหม่สินะ แบบนี้ต้องสั่งสอนให้รู้จักจำหน่อยแล้ว” พวก Black Rose Dark University พูดจบก็มุ่งหน้าจะมาทำร้ายผม แต่มีเหรอที่ผมจะกลัว
“เขาไม่เกี่ยวนะ” นายไม่ต้องปกป้องผมก็ได้ชู
“จะไม่เกี่ยวได้ไง เด็กใหม่ก็ต้องสั่งสอนให้รู้จักจำสิ” พูดจบมันก็พุ่งมาหาผมอีกครั้ง ผมไม่กลัวหรอกนะ หึหึ
ผ่านไป 5 นาที
พวก Black Rose Dark University ที่มาทำล้ายผมนอนราบอยู่กับพื้นโดยที่มีแผลเต็มตัวต่างจากผมที่ไม่มีแผลเลยสักนิด สร้างความตกใจให้กับชูเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
“อ้าวๆ คนปากเก่งเมื่อกี้ไปไหนแล้วล่ะครับ” ผมพูดพลางเอาเท้าเหยียบหลังคนที่คิดว่าน่าจะเป็นหัวหน้า ส่วนลูกน้องมันนะเหรอตอนนี้ไม่มีใครกล้าเข้ามาเลยสักคนเดียว เกรงว่าพวกมันยังคงกลัวผมอยู่ บางคนถึงกับหน้าซีด บางคนถึงกับหงายหลังลงไปนั่งกับพื้น หึหึ เห็นผมเป็นแบบนี้ก็เถอะนะ แต่ถ้ามาว่าเพื่อนผมหรือมาหาต่อว่าเพื่อนผมกับโรงเรียนล่ะก็ผมเอาจริงแน่ ไม่อยากเจ็บตัวก็อย่ามาหาเรื่อง
“กะ แก”
“พูดให้มันสุภาพหน่อย ไม่งั้นผมจะกระทืบซ้ำอีกที”
“คะ ครับ พะ พวกเรา ขะ ขอโทษ ที่มาหาเรื่องครับ”
“หึ รู้ตัวก็ดี” ผมพูดพร้อมกับเอาเท้าออกจากหลังมัน
“นายชื่ออะไร”
“ชิบุยะ เรย์” เมื่ออีกฝ่ายได้ยินชื่อถึงกับหน้าซีดไปเลย แหงล่ะตระกูลชิบุยะ เป็นตระกูลเจ้าชายที่สูงส่งกว่าตระกูลของชูการ์ซะอีก
“พะ พวกผมขอ ประทานโทษเป็นอย่างสูงเลยครับท่าน ขะ ขอพวกเราติดตามท่านได้ไหมครับ” เมื่อพวกนั้นพูดแบบนี้ก็ยิ่งทำให้พวกชูการ์งงอีกรอบ
“ว่าไงดีล่ะชู”
“ไม่รู้สิ แล้วแต่นายล่ะกัน”
“ก็เอาสิ”
“ขอบคุณครับท่านชิบุยะ”
“หึ หึ” ผมหันไปหาวีกับอัน
“ถ้าจะถามหาใบสมัครล่ะก็ไม่ต้องถามหาหรอกจ๊ะ” อันพูดพร้อมกับส่งใบสมัครให้เจ้าพวกนั้น
25 นาทีผ่านไป
เจ้าพวกนั้นส่งใบสมัครแล้วก็โทรไปทางโรงเรียนแล้วแจ้งเรื่องลาออกทันที แล้วก็เดินตามพวกผมไปที่โรงอาหารทันที(พวกนั้นมีชื่อว่า โยรุโนะ เซ็ทสึระ [ โยรุ, เซ็ทจัง,เซ็ทสึระ[แล้วแต่คนจะเรียก]) คุโรโนะ มาริโนะ (มาริ) ดาร์ก ไคล์(ไคล์) โยสึระ นากิระ (โยนา) ]
1 ปีผ่านไป (เร็วอย่างโกหก)
‘ตอนนี้พวกนั้นจะมาถึงรึยังนะ อยากเจอแฟนวุ้ย’ ตอนนี้ผมอยู่ในห้องประธานนักเรียน คนอื่นทำงานไปส่วนผมนั่งถอนหายใจ โดยที่มือคิดเลขไปด้วย ระหว่างคิดนั้น.....
ครืด~~~~~~~
088 1443 xxx
“สวัสดีครับ ทีรัก”
“ตอนนี้อยู่หน้าโรงเรียนแล้วนะ มารับหน่อยสิ”
“ครับๆ เดี๋ยวผมไปเดี๋ยวนี้แหละ”
‘แฟนมาชัวร์เลย’ ทุกคนในห้องคิดพร้อมกันเพราะหลังจากเรย์วางสายก็วิ่งออกจากห้องไปทันที
“เฮ้ย เรย์ทางนี้!!!!!” ริวที่มองเห็นผมก่อนก็โบกมือพร้อมกับตะโกนเรียกเพื่อบอกให้รู้ว่าอยู่ตรงนั้น
“สบายดีมั้ย แฮ่กๆ” ผมหอบนิดๆ เนื่องจากผ่านการวิ่งมา
“เรย์ ไม่เป็นไรนะ” นายะรีบถามผมด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นผมหอบเล็กน้อย
“ทานเรย์ ดื่มน้ำก่อนครับ”
“ขอบในนะ โซ” ผมตอบพร้อมกับดื่มน้ำ โดยมีนายะเช็ดเหงื่อให้ผมอยู่
“ขอบคุณนะ โซ นายะ”
“ไม่เป็นไร ครับท่านเรย์/จ้า”นายะกับโซพูดขึ้นพร้อมกัน
“ว่าแต่ไรท์ไปไหนล่ะ”
“อีกเดี๋ยวคงจะมาถึงนะครับ” ไนท์พูดขึ้น
“อืม~~~ มาด้วยเครื่องบินส่วนตัวอีกแล้วสินะ”
“ขอโทษที่ให้รอ” นั้นไง ไม่น่าพูดถึงเลยวุ้ย
“มากันครบแล้วใช่ไหม” ผมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมีเสียงจากคนที่รู้จักดีพูดขึ้นมาจากด้านหลัง
“ครับ/ค่ะ”
“งั้นตามมา”
“งานเสร็จแล้วเหรอชู”
“ไม่เสร็จไม่ออกมาหรอกนะ”
“ครับๆ พ่อคนเก่ง”
“ก็รู้นี่”
“แต่ได้ข่าวว่านายสอบได้คะแนนเฉลี่ยเกือบตกเลยนี่นา” ผมพูดไล่หลังชูการ์แล้ว เดินนำลิ่วไปทันทีโดยในมือถือกระเป๋าของนายะไปด้วย
“อ้าว เรย์รอนายะด้วยสิ” นายะพูดพร้อมกับวิ่งตามหลังผมมา
Sugar Say
ผมยืนมองเรย์กับนายะที่เดินเข้าไปในอาคารของตึกประธานนักเรียน มันเป็นภาพที่ผมเห็นจนเคยชินของรุ่นพี่กับรุ่นน้องที่มีแฟนกันเดินไปไหนมาไหนเป็นคู่แบบนี้ ผมเห็นมันจนเคยชินแล้วล่ะ
ห้องประธานนักเรียน
“เดี๋ยวพวกเธอจัดการเคลียร์เอกสารนี่ก่อนนะ” คาร์พูดขึ้นหลังจากที่พวกเราเดินเข้ามาในห้องประธานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“แล้วของนายะล่ะค่ะ รุ่นพี่”
“ของเธอกับไรเฟอร์น่ะ เรย์ทำให้หมดแล้ว”
“เอ่อพี่ชื่อ......” นายะ
“พี่ชื่อ...”
“ชู ตรงนี้ทำไงอ่ะ” ผมพูดยังไม่ทันจบก็โดนเรย์เรียกซะงั้น
“พี่ชูเหรอค่ะ”
“ครับ” ผมตอบแล้วเดินไปอธิบายวิธีทำให้เรย์ฟังอย่างเข้าใจง่าย
1 ชม.30 น.
“โอ๊ย เหนื่อยอ่ะ” วีพูดขึ้นหลังจาทำงานมาเป็นชั่วโมงโดยไม่ได้พักเลย
“นั้นสินะ”
“พวกท่านจะเอาอะไรไหมค่ะ” โยนาอาสา
“งั้นผมขอน้ำเปล่ากับขนมรสวนิลาล่ะกันครับ” เรย์สั่งแล้วยังจดใส่กระดาษแผ่นเล็กๆให้อีกที
“ผมเอา นมจืดนะ”
บลาๆๆๆ
20 นาทีผ่านไป
“มาแล้วครับ/ค่า” เสียงนั้นมาพร้อมกับเปิดประตูเข้ามา แล้วเดินเอาให้คนละถุง สองถุง
“ซื้อข้าวมาให้ผมด้วยเหรอโยรุ”
“ค่ะ เพราะท่านทำงานดึกทุกวันจนบางทีไม่ได้ทานข้าวเช้า กับ ข้าวเย็นน่ะค่ะ”
“สังเกตด้วยเหรอ”
“ค่ะ”
“ขอบคุณนะ”
พวกเราทำงานในห้องประธานนักเรียนจนมืดค่ำแล้วเผลอฟุบหลับลงกับโต๊ะทำงานของแต่ละคน แล้วต่อจากนั้นผมก็หลับสบาย
End Sugar Say
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ