รักวุ่นๆในรั้วโรงเรียน
6.7
เขียนโดย born
วันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.03 น.
7 chapter
3 วิจารณ์
10.05K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2558 21.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
7) เด็กหอ(3)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเฮ้อ.."เนตรถอนหายใจและหอบหายใจอย่างหนักเพราะรีบกลับมาที่หอจึงวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต อดีต(ลูก)นักกีฬาเชียวนะยังไงก็ต้องวิ่งเร็วเป็นธรรมดา เนตรคิดอย่างภาคภูมิใจ แต่ ก็ต้องหน้าหงอยลงทันทีเมื่ออ.รัตติยาเดินเข้ามาและพูดกับเธอว่า
"เพียงตาจ๊ะ หนูรู้ใช่มั้ยว่ามาสายกี่นาที"เนตรกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นแล้วตอบว่า
"ค่ะ..ทราบดีค่ะ หนูมาสายเอ่อ...ประมาณ"เธอพยายามยื้อเวลาออกไปให้นานที่สุดเพื่อให้ครูเปลี่ยนหัวข้อแต่มันก็ไม่ได้ผล รู้สึกว่าครูเขาเป็นคนอดทนแฮะ เนตรคิดอย่างหวาดๆ
"มาสาย 5นาที13วิค่ะ"ในที่สุดก็ต้องบอกจนได้..ถามว่าทำไมถึงไม่ค่อยอยากตอบทั้งๆที่รู้อยู่แล้วน่ะเหรอ หึ!คำตอบง่ายนิดเดียว ก็เธออายน่ะสิ! คิดดูล่ะกันว่าให้เธอตอบต่อหน้าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนี้ ก็เธอไม่ชอบน่ะสิ เธอคิดอย่างหัวเสีย(สำหรับเนตรการผิดเวลาเป็นเรื่องที่หนักมาก เพราะปกติเนตรเป็นคนที่ตรงเวลาอย่างมาก ปกติก็เป็นคนทำอะไรรวดเร็วเสมอๆ พอครั้งนี้เจอก็เลยหงอยไปเลย และที่สำคัญเนตรเป็นตนที่ไม่ชอบทำอะไรต่อหน้าคนเป็นจำนวนมากๆตั้งแต่สองคนขึ้นไปไม่(แต่ถ้าเป็นเรื่องดีๆอย่างได้รับรางวัล เนตรจะมั่นใจในตนเองและกล้าหาญอย่างมาก)หลังจากโดนเทศนามายืดยาวจนเธอจะหลับไปหลายตื่น(ถ้าหลับได้อ่านะ)เธอก็ถูกปล่อยตัวไปทำกิจกรรมสำหรับเด็กหอ ทุกคนคงสงสัยสินะว่าทำไมคุณครูถึงได้บ่นขนาดนี้กับอีแค่มาสาย 5 นาที 13 วิ ขนาดนี้คำตอบง่ายมากค่ะทุกท่าน.....ประชุมหอครั้งแรกของเทอมนี้!!
ฟังดูไม่ค่อย(จะ)ยิ่งใหญ่เท่าไรแต่สำหรับเด็กใหม่จะต้องเข้าร่วมพิธีทุกคนอย่างพร้อมเพรียง เนตรนั้นเดินและเพลินในหอไปหน่อยเลยลืมเรื่องนี้เสียสนิทเมื่อเนตรเดินเข้าไปในห้องประชุม.......
"แอด...."เสียงบานประตูที่เนตรเปิดดังขึ้น เป็นจุดสนใจคนในงานได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เนตรนั้นหน้าเสียลงเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มแหยๆ ให้กับคนที่มองมาแต่คนพวกนั้นกลับทำเป็นไม่เห็นและหันกลับไปนั่นทำให้อารมณ์ที่หน้าเสีย พรุ่งปรี้ดเปลี่ยนเป็นลมออกหูทันที เนตรจึงได้แต่ค่อยๆปิดประตูและหาที่นั่งที่คิดว่าน่าจะไกลจากบุคคลพวกนี้ที่สุด พอเจอที่นั่งที่คิดว่าตนพอใจแล้วจึงนั่งลงทันที พลางคิดว่า 'รกหูรกตา!!'
เนตรนั้นก็นั่งฟังที่มีคนบรรยายแบบไม่ค่อยตั้งใจเท่าไหร่และมองซ้ายมองขวา เพื่อ สังเกตะสถานที่ที่ตนเองอยู่อย่างสนใจ ห้องประชุมนี้อยู่ตรงกลางระหว่างหอหญิงกับหอชายและเป็นที่เดียวที่ไม่มีการทาสีแบ่ง แต่ทาสีเทาทั้งห้อง มีเก้าอี้ประมาณ20แถวได้ และ เธอนั่งแถวท้ายๆประมาณแถวที่17ซึ่งมีเธอนั่งอยู่คนเดียว ทางทิศตะวันออกของห้องประชุมจะเป็นโซฟาขนาดใหญ่และมีพวกคนใหญ่คนโตนั่งอยู่ ทิศเหนือจะเป็นพระพุทธรูป และ ถ้ามองต่อจากพระพุทธรูปมาทางขวาจะพบกับแท่นผู้บรรยาย มีโต๊ะไม้ที่หรูหราขนาดใหญ่อยู่ด้านหลังของแท่นผู้บรรยายทางทิศตะวันตกเป็นประกระจกใสขนาดใหญ่ ตรงซ้ายและขวาของประตูจะมีกระถางดอกไม้ตั้งไว้
และตรงกลางของห้องก็มีก็อย่างที่บอกมีเก้าอี้เรียงๆกันประมาณ20แถวได้ พอมองไปทางทิศใต้ ก็จะเห็นชั้นหนังสือขนาดใหญ่ตั้งปิดผนังทั้งแถบ
'แปลกจังนะชั้นหนังสือแต่กลับมาตั้งในห้องประชุม 'เธอคิดอย่างงๆ
พอเนตรเริ่มใกล้จะคอตกก็เลยตั้งสติและพยายามตั้งตนลุกขึ้นมาเพื่อฟังผู้บรรยายืพูด
ตอนแรกๆเธอก็ไม่ค่อยอยากจะฟังหรอกนะแต่ถ้าเกิดอธิบายอะไรที่เธอควรจะรู้แต่เธอไม่ฟังก็จบเห่น่ะสิ เพราะดูจากท่าทาง พวกผู้หญิงที่นั่งหน้าๆคงไม่น่าจะเสวนาด้วย
"หอของเราเป็นหอที่เก่าแก่เพราะก่อนจะมาเป็นหอพักของพวกเธอเคยเป็นบ้านของตระกูลใหญ่มาก่อน.." 'จริงอ่ะมิน่าล่ะถึงได้ใหญ่นัก'เนตรคิด"
"โรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนที่ค่อนข้างใหญ่เพื่อจุเด็กนักเรียนที่ทุกปีจะเข้ามา 600 คน ถ้ารวมทั้งโรงเรียนจะมี3,600คน แต่เด็กในแต่ละปีที่เข้ามาอยู่หอจะมีน้อยมาก อย่างปีนี้ก็คือพวกเธอไม่ว่าจะเป็นหอหญิง-หอชาย ก็มีแค่28คนเท่านั้น....." 'น้อยเหมือนกันนะ'
"และด้วยเหตุนี้อยากให้พวกเธอเป็นตัวแทนโรงเรียนในด้านต่างๆเพื่อเป็นเกียรติแก่หอพักของพวกเรา พิธีศักสิทธ์เราก็ทำเสร็จแล้ว ...." 'เห้ยทำกันตอนไหนฟะ ซวยและ'เนตรเริ่มเหงื่อตก ทำไมเธอถึงไม่รู้เรื่องเลยล่ะ!?
"เราจะขอให้เด็กหอทั้งหมดที่เข้ามาใหม่แนะนำตัวนะ เชิญลุกขึ้นทุกคน"ผู้บรรยายกล่าวพลางวางไมค์และทำสัญญานประมาณว่าให้ลุกขึ้น ฟรึ่บ!!เด็กใหม่ทั้งหมดลุกขึ้นพร้อมกัน และ คนที่อยู่หน้าสุดซึ่งเป็นผู้ชายที่ดูร่าเริงนั้นเหมือนจะรู้ตัวว่าควรแนะนำตัวคนแรกจึงเอ่ยขึ้น
"สวัสดีครับ กระผมชื่อ ด.ช.ธนภูมิ ใจรัก ครับชื่อเล่นของผมคือ ภูมิครับ"เด็กผู้ชายคนนี้เป็นเด็กผิวสีแทน ดวงตาสีเทา ผมสีเทาดูเป็นคนมีเสนห์และเป็นคนที่ยิ้มเก่งจึงทำให้น่ารักอย่างช่วยไม่ได้ คนต่อมาก็แนะนำตัวต่อ อย่างรู้งาน "สวัสดีครับ ผม อนุรักษ์ แจ้งเกิด ครับ ชื่อเล่น บีม ครับ"เด็กหนุ่มพูดจาอย่างสุภาพ หน้าตาที่หล่อเหลาทำสาวๆข้างหน้าหน้าแดงกันเป็นแถว ผมสีแดงและดวงตาสีแดง ผิวสีขาวอย่างกับพระเอกในการ์ตูนหล่อมากๆ
และทุกคนก็แนะนำตังเองเนตรนั่นเป็นคนสุดท้าย
"สวัสดัค่ะ ชื่อ เพียงตา บุญกำเนิดค่ะ เรียกว่าเนตรก็ได้ค่ะ" เนตรกล่าวยิ้ม แต่ข้างในไม่ยิ้มเลยสักนิด ก็นังพวกนั้นมองตาเป็นมันเลย!!พอเธอจะนั่งกลับไม่มีใครนั่งซักคนเหมือนกับยังไม่หมดเธอก็ทำหน้างงๆ
"ผม ด.ช. วรวิทย์..." 'เสียงนี้มัน!?'เธอคิดพลางลุกขึ้นและหันหลังทันที นี่มันเสียงของคนที่อยู่ในป่านี่!!!
"....เหนือเมฆ ชื่อเล่นว่า สิงห์ ครับ" ดวตาสีดำและผมสีเดียวกันผิวขาวแบบนี้ มันก็มีอยู่คนเดียวปะ เธอคิด
"เอาล่ะครับทุกคนเราก็รู้จักกันไปไม่มากก็น้อยแล้วนะ แยกย้ายเข้าหอได้"ผู้บรรยายกล่วจบก็แยกย้ายกันไปเนตรก็ค่อยๆเดินตามไปพลางคิดว่า....
'เหนือเมฆ....ทำไมนามสกุลนี้ เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนเลยแฮะ'
"เพียงตาจ๊ะ หนูรู้ใช่มั้ยว่ามาสายกี่นาที"เนตรกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นแล้วตอบว่า
"ค่ะ..ทราบดีค่ะ หนูมาสายเอ่อ...ประมาณ"เธอพยายามยื้อเวลาออกไปให้นานที่สุดเพื่อให้ครูเปลี่ยนหัวข้อแต่มันก็ไม่ได้ผล รู้สึกว่าครูเขาเป็นคนอดทนแฮะ เนตรคิดอย่างหวาดๆ
"มาสาย 5นาที13วิค่ะ"ในที่สุดก็ต้องบอกจนได้..ถามว่าทำไมถึงไม่ค่อยอยากตอบทั้งๆที่รู้อยู่แล้วน่ะเหรอ หึ!คำตอบง่ายนิดเดียว ก็เธออายน่ะสิ! คิดดูล่ะกันว่าให้เธอตอบต่อหน้าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนี้ ก็เธอไม่ชอบน่ะสิ เธอคิดอย่างหัวเสีย(สำหรับเนตรการผิดเวลาเป็นเรื่องที่หนักมาก เพราะปกติเนตรเป็นคนที่ตรงเวลาอย่างมาก ปกติก็เป็นคนทำอะไรรวดเร็วเสมอๆ พอครั้งนี้เจอก็เลยหงอยไปเลย และที่สำคัญเนตรเป็นตนที่ไม่ชอบทำอะไรต่อหน้าคนเป็นจำนวนมากๆตั้งแต่สองคนขึ้นไปไม่(แต่ถ้าเป็นเรื่องดีๆอย่างได้รับรางวัล เนตรจะมั่นใจในตนเองและกล้าหาญอย่างมาก)หลังจากโดนเทศนามายืดยาวจนเธอจะหลับไปหลายตื่น(ถ้าหลับได้อ่านะ)เธอก็ถูกปล่อยตัวไปทำกิจกรรมสำหรับเด็กหอ ทุกคนคงสงสัยสินะว่าทำไมคุณครูถึงได้บ่นขนาดนี้กับอีแค่มาสาย 5 นาที 13 วิ ขนาดนี้คำตอบง่ายมากค่ะทุกท่าน.....ประชุมหอครั้งแรกของเทอมนี้!!
ฟังดูไม่ค่อย(จะ)ยิ่งใหญ่เท่าไรแต่สำหรับเด็กใหม่จะต้องเข้าร่วมพิธีทุกคนอย่างพร้อมเพรียง เนตรนั้นเดินและเพลินในหอไปหน่อยเลยลืมเรื่องนี้เสียสนิทเมื่อเนตรเดินเข้าไปในห้องประชุม.......
"แอด...."เสียงบานประตูที่เนตรเปิดดังขึ้น เป็นจุดสนใจคนในงานได้ไม่น้อยเลยทีเดียว เนตรนั้นหน้าเสียลงเล็กน้อยก่อนจะส่งยิ้มแหยๆ ให้กับคนที่มองมาแต่คนพวกนั้นกลับทำเป็นไม่เห็นและหันกลับไปนั่นทำให้อารมณ์ที่หน้าเสีย พรุ่งปรี้ดเปลี่ยนเป็นลมออกหูทันที เนตรจึงได้แต่ค่อยๆปิดประตูและหาที่นั่งที่คิดว่าน่าจะไกลจากบุคคลพวกนี้ที่สุด พอเจอที่นั่งที่คิดว่าตนพอใจแล้วจึงนั่งลงทันที พลางคิดว่า 'รกหูรกตา!!'
เนตรนั้นก็นั่งฟังที่มีคนบรรยายแบบไม่ค่อยตั้งใจเท่าไหร่และมองซ้ายมองขวา เพื่อ สังเกตะสถานที่ที่ตนเองอยู่อย่างสนใจ ห้องประชุมนี้อยู่ตรงกลางระหว่างหอหญิงกับหอชายและเป็นที่เดียวที่ไม่มีการทาสีแบ่ง แต่ทาสีเทาทั้งห้อง มีเก้าอี้ประมาณ20แถวได้ และ เธอนั่งแถวท้ายๆประมาณแถวที่17ซึ่งมีเธอนั่งอยู่คนเดียว ทางทิศตะวันออกของห้องประชุมจะเป็นโซฟาขนาดใหญ่และมีพวกคนใหญ่คนโตนั่งอยู่ ทิศเหนือจะเป็นพระพุทธรูป และ ถ้ามองต่อจากพระพุทธรูปมาทางขวาจะพบกับแท่นผู้บรรยาย มีโต๊ะไม้ที่หรูหราขนาดใหญ่อยู่ด้านหลังของแท่นผู้บรรยายทางทิศตะวันตกเป็นประกระจกใสขนาดใหญ่ ตรงซ้ายและขวาของประตูจะมีกระถางดอกไม้ตั้งไว้
และตรงกลางของห้องก็มีก็อย่างที่บอกมีเก้าอี้เรียงๆกันประมาณ20แถวได้ พอมองไปทางทิศใต้ ก็จะเห็นชั้นหนังสือขนาดใหญ่ตั้งปิดผนังทั้งแถบ
'แปลกจังนะชั้นหนังสือแต่กลับมาตั้งในห้องประชุม 'เธอคิดอย่างงๆ
พอเนตรเริ่มใกล้จะคอตกก็เลยตั้งสติและพยายามตั้งตนลุกขึ้นมาเพื่อฟังผู้บรรยายืพูด
ตอนแรกๆเธอก็ไม่ค่อยอยากจะฟังหรอกนะแต่ถ้าเกิดอธิบายอะไรที่เธอควรจะรู้แต่เธอไม่ฟังก็จบเห่น่ะสิ เพราะดูจากท่าทาง พวกผู้หญิงที่นั่งหน้าๆคงไม่น่าจะเสวนาด้วย
"หอของเราเป็นหอที่เก่าแก่เพราะก่อนจะมาเป็นหอพักของพวกเธอเคยเป็นบ้านของตระกูลใหญ่มาก่อน.." 'จริงอ่ะมิน่าล่ะถึงได้ใหญ่นัก'เนตรคิด"
"โรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนที่ค่อนข้างใหญ่เพื่อจุเด็กนักเรียนที่ทุกปีจะเข้ามา 600 คน ถ้ารวมทั้งโรงเรียนจะมี3,600คน แต่เด็กในแต่ละปีที่เข้ามาอยู่หอจะมีน้อยมาก อย่างปีนี้ก็คือพวกเธอไม่ว่าจะเป็นหอหญิง-หอชาย ก็มีแค่28คนเท่านั้น....." 'น้อยเหมือนกันนะ'
"และด้วยเหตุนี้อยากให้พวกเธอเป็นตัวแทนโรงเรียนในด้านต่างๆเพื่อเป็นเกียรติแก่หอพักของพวกเรา พิธีศักสิทธ์เราก็ทำเสร็จแล้ว ...." 'เห้ยทำกันตอนไหนฟะ ซวยและ'เนตรเริ่มเหงื่อตก ทำไมเธอถึงไม่รู้เรื่องเลยล่ะ!?
"เราจะขอให้เด็กหอทั้งหมดที่เข้ามาใหม่แนะนำตัวนะ เชิญลุกขึ้นทุกคน"ผู้บรรยายกล่าวพลางวางไมค์และทำสัญญานประมาณว่าให้ลุกขึ้น ฟรึ่บ!!เด็กใหม่ทั้งหมดลุกขึ้นพร้อมกัน และ คนที่อยู่หน้าสุดซึ่งเป็นผู้ชายที่ดูร่าเริงนั้นเหมือนจะรู้ตัวว่าควรแนะนำตัวคนแรกจึงเอ่ยขึ้น
"สวัสดีครับ กระผมชื่อ ด.ช.ธนภูมิ ใจรัก ครับชื่อเล่นของผมคือ ภูมิครับ"เด็กผู้ชายคนนี้เป็นเด็กผิวสีแทน ดวงตาสีเทา ผมสีเทาดูเป็นคนมีเสนห์และเป็นคนที่ยิ้มเก่งจึงทำให้น่ารักอย่างช่วยไม่ได้ คนต่อมาก็แนะนำตัวต่อ อย่างรู้งาน "สวัสดีครับ ผม อนุรักษ์ แจ้งเกิด ครับ ชื่อเล่น บีม ครับ"เด็กหนุ่มพูดจาอย่างสุภาพ หน้าตาที่หล่อเหลาทำสาวๆข้างหน้าหน้าแดงกันเป็นแถว ผมสีแดงและดวงตาสีแดง ผิวสีขาวอย่างกับพระเอกในการ์ตูนหล่อมากๆ
และทุกคนก็แนะนำตังเองเนตรนั่นเป็นคนสุดท้าย
"สวัสดัค่ะ ชื่อ เพียงตา บุญกำเนิดค่ะ เรียกว่าเนตรก็ได้ค่ะ" เนตรกล่าวยิ้ม แต่ข้างในไม่ยิ้มเลยสักนิด ก็นังพวกนั้นมองตาเป็นมันเลย!!พอเธอจะนั่งกลับไม่มีใครนั่งซักคนเหมือนกับยังไม่หมดเธอก็ทำหน้างงๆ
"ผม ด.ช. วรวิทย์..." 'เสียงนี้มัน!?'เธอคิดพลางลุกขึ้นและหันหลังทันที นี่มันเสียงของคนที่อยู่ในป่านี่!!!
"....เหนือเมฆ ชื่อเล่นว่า สิงห์ ครับ" ดวตาสีดำและผมสีเดียวกันผิวขาวแบบนี้ มันก็มีอยู่คนเดียวปะ เธอคิด
"เอาล่ะครับทุกคนเราก็รู้จักกันไปไม่มากก็น้อยแล้วนะ แยกย้ายเข้าหอได้"ผู้บรรยายกล่วจบก็แยกย้ายกันไปเนตรก็ค่อยๆเดินตามไปพลางคิดว่า....
'เหนือเมฆ....ทำไมนามสกุลนี้ เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อนเลยแฮะ'
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ