Lightillusen- ศึกมนตราทะลุมิติ

-

เขียนโดย MaJesteR

วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 18.46 น.

  4 chapter
  0 วิจารณ์
  7,209 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 19.15 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) Facing the Burning flame

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

01

 

          วิ้งๆๆๆๆๆ

            เหวอออออออ

            “ที่นี้มันอะไรกัน”  เมื่อลืมตาขึ้นมา แลนด์ตกใจกับสิ่งที่เห็นรอบข้าง เหมือนกับว่าเขาอยู่ในห้วงมิติเวลาอะไรซักอย่าง ถึงแมว่าเขาเพิ่งจะผ่านเรื่องราวที่ไม่คาดฝันมามากมายแล้ว แต่คงทำใจให้ชินกับมันได้ยาก

            “ฉันใช้พลังในการเคลื่อนย้ายค่อนข้างมาก ฉันจะเข้าไปในตัวนายเพื่อพื้นพลังก่อนก็แล้วกัน นายจะสามารถ Soul Linked กับฉันได้แต่คงอีกซักพักล่ะนะ” เสียงจากภูติสาวตัวน้อยดังขึ้น

            แลนด์พยักหน้าตอบ จากนั้นเบลจังก็กลายสภาพเป็นก้อนพลังงานแล้ว ลอยเข้าไปในร่างของแลนด์ อีฟที่ลอยอยู่ข้างหน้าพวกแลนด์ เหลือบไปเห็นแสงสว่างที่อยู่ตรงหน้า จึงกวักมือเรียกพวกแลนด์ให้ตามไป

            วุ่มมมมมมมมมมมม

            เมื่อออกจากปากทาง แล้วก็พบว่าทุกอยู่ในห้องของโบสถ์เหมือนตอนแรก เหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป

            “เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอ ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย?”  แลนด์เกิดข้อสงสัย

           “ ไพร์มเมนิส พวกเราอยู่ที่นั่นแล้ว”  อีฟตอบทันที

            เย่ เย่ เย่

            รินที่ไม่รู้เรื่องราวกกระโดดโลดเต้นดีใจและวิ่งออกจากประตู วิ่งหายไป

            ริน!!”  ทั้งอีฟและแลนด์จึงรีบออกจากอีแลนเดียและตามหารินทันทีไปทันที  เมื่อทั้งคู่วิ่งตามออกมาก็พบกับ พื้นที่ว่างเปล่ากว้างๆ  ผู้คนเดินผ่านไปมา เป็นเพียงสนามหญ้าเท่านั้นไม่มีอะไรพิเศษดูคล้ายกับสวนสาธารณะขนาดย่อมๆ

            “ระวัง!”  ทันใดนั้นก็มีสิ่งมีชีวิตกระโจนเข้ามาสองตัว เป็นสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายมนุษย์ แต่หัวของมันมีลักษณะเหมือน อีที (ET) หน้าตาน่ากลัว น่าขยะแขยง มันกระโดดเข้ามาหมายที่ทำร้ายมนุษย์

            กรี๊ดดด  

            ผู้คนต่างพากันตกใจและวิ่งหนีตายเอาชีวิตรอด ปีศาจปริศนาก็ไล่ล่าคร่าชีวิตผู้คน แลนด์และอีฟตกใจกับภาพที่เห็นและเป็นห่วงว่าจะเกิดอันตรายขึ้นกับริน  แลนด์จึงตั้งท่าพร้อมต่อสู้ทันที

            Burning Flare!

            ทันใดนั้น ก็มีลูกไฟขนาดใหญ่พุ่งจากด้านหลังพวกแลนด์ ตรงไปจัดการกับหนึ่งในสัตว์ประหลาด มันโดนเปลวไฟปริศนาทำร้ายจนบาดเจ็บล้มกลิ้งกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด  จากนั้นมันก็สลัดเปลวไฟออกและลุกขึ้นมาอีกครั้ง และพุ่งตรงมาหมายที่จะโจมตีแลนด์กับอีฟที่อยู่ใกล้ๆกันทันที

            “แลนด์!!”  อีฟตะโกนขึ้น  แลนด์ก็ตอบรับและชักดาบของเขาออกมาตั้งท่าพร้อมต่อสู้ จู่ๆชายหนุ่มคนหนึ่งกระโจนเข้ามาขวางพวกแลนด์แล้วใช้ดาบที่ลุกไหม้ไปด้วยเปลวเพลิงโจมตีศัตรูทันที มันบาดเจ็บและถอยหลังออกไป

            ชายที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกแลนด์นั้น เป็นเด็กชายร่างผอมบาง ที่ผมสีแดงปนสีส้ม แต่ทรงผมของเขาปัดไปคนละข้างกับแลนด์ ดวงตาสีแดงเหมือนเปลวเพลิง อายุน่าจะใกล้เคียงกับแลนด์ สูงกว่าแลนด์เล็กน้อย เขาสวมเสื้อเชิ้ตกางเกงสแล็คสีดำ รองเท้าหนังสีดำ ผูกเนคไทสีดำ ดูเหมือนนักเรียนปกติทั่วไป

            “ระวังด้วยนะแลนด์ ฉันสัมผัสได้ว่าเขาต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างน่นอน”  เบลจังพูดขึ้นมาในหัวของแลนด์ เขาพยักหน้าตอบและคอยจับตาดูชายคนนั้น โดยที่ไม่ลดการป้องกัน

            จากนั้นเด็กผมแดงคนนั้นก็เริ่มกระหน่ำโจมตีทันที เขาวิ่งตรงไปยังเป้าหมายคือเหล่า ET  ฟันซ้ายขวา ขวาซ้าย ตัดล่าง ตัดบน จนมันบาดเจ็บเลือกโชกแต่ไม่มีส่วนใดฉีดขาดจากกัน มันถอยกลับเล็กน้อยด้วยอาการบาดเจ็บและพุ่งมาโจมตีอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มตั้งท่ารับการโจมตี อยู่ๆมือขวาของเขาก็เปล่งแสงสีแดงเล็กๆ ดูเหมือนว่าพลังกำลังหลั่งไหลไปยังมือของเขา เขาวางมือขวาที่เปล่งแสงสีแดงทาบลงดาบของเขา ดูแล้วเหมือนกับการถ่ายเทพลังไปยังดาบของเขา จากนั้นเปลวไฟสีแดงๆปนส้มๆก็ลุกขึ้นมา     

            เบลจังตกใจและร้องเสียงดัง เสียงสูงๆแหลมๆแต่เล็กๆของเธอมันกรีดแก้วหูแลนด์จนแทบจะฉีดขาด จากนั้นเธอก็พูดต่อไปว่า 

          “การที่เขาสามารถใช้รูนได้อย่างนั้นล่ะก็ แสดงว่าเขาต้องเป็นจอมเวทย์อย่างแน่นอน ถ้าเป็นเขาอาจจะรู้อะไรเกี่ยวกับโลกนี้ก็ได้นะ”  แลนด์พยักหน้าตอบ

            กรี๊ดดดดด

            เสียงร้องของหญิงสาวคนหนึ่งที่ผ่านมาเจอเหตุการณ์พอดี เธอไม่มีแรงพอจะหนีได้ทัน จึงโดนสัตว์ประหลาดผลักล้มลงจะนั่งคร่อมเธอ หมายที่จะทำร้ายเธอ เด็กหนุ่มผมร้อนแรงดุจเปลวเพลิง กำลังปะทะกับปีศาจอยู่รีบสลัดมันออกไป วิ่งกระโจนเข้าไปช่วยเหลือทันที เขาฟันเข้าที่กลางหลังมัน เปลวเพลิงจากดาบสร้างความเสียหายได้เป็นอย่างมันมันล้มลง เขาถีบมันออกไปจากร่างเด็กสาวผู้เคราะห์ร้าย และบอกให้เธอหนีออกไปจากบริเวณนั้นไป   

            ทันใดนั้นสัตว์ประหลาดตัวแรกที่เขาโจมตีมันไปนั้น ค่อยๆฟื้นสภาพร่างกาย บาดแผลทั้งคมดาบ ทั้งรอยแผลไหม้ จนเกือบหายหมด มันกระโดดขึ้นและพุ่งตรงไปยังเด็กหนุ่มผมสีแดงทันที  มันโจมตีด้วยการถีบ เขาไหวตัวทันจึงใช้ดาบบล็อคการโจมตี แต่ทว่าพลังของมันค่อนข้างที่จะรุนแรงจนเกินกว่าที่เขาจะรับไหว เขาจึงกระเด็นออกไปเสียหลักเล็กน้อย วินาทีที่เขาเสียหลักล้มลง และพยายามลุกขึ้นอีกครั้ง สัตว์ประหลาดมันพุ่งเข้ามาโจมตีเขาทันที

            Lighting Break!

            ลำแสงสีเหลืองทองๆ ปนเขียวเล็กน้อยพุ่งตรงมาโจมตีพวกมันจนกระเด็นออกไป ภายใต้แสงนั่นปรากฏเด็กชายผมสีเลม่อน ถือดาบรูปทรงประหลาดยืดอยู่ตรงหน้าเขาเด็กหนุ่มที่กำลังพยายามลุกขึ้น มันทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก

            จากนั้น แลนด์กำมือขวาแน่น จนเกิดแสงสีเหลืองสว่างออกมา เขาพยายามกระทำเหมือนกับเด็กหนุ่มเกศาเพลิงตามคำแนะนำของเบลจัง เขาพูดทิ้งท้ายว่า

            “มันต้องทีเดียวจบ!” เขาอัดพลังแสงสีเหลืองทองไปที่ดาบของเขา มันค่อยๆเปล่งแสงสว่างขึ้น มันสว่างเป็นออร่าอยู่ที่ตัวดาบเป็นสีเหลืองปนเขียวอ่อนๆ รับกันได้ดีกับตัวดาบ จากนั้นเขาโจมตี ET โดยการฟันมันทางซ้ายของร่างกายหนึ่งครั้ง เกิดเป็นลำแสงดาบแนวของวิถีดาบเหมือนกับแสงของออร่าบนดาบของเขา เขาลากแขนกลับและฟันตัดขวางกลางลำตัวอีกหนึ่งที คราวนี้ร่างกายของมันขาดสองท่อน จากนั้นมันก็ระเบิดหายไป ส่วนอีกตัวที่เห็นว่าเพื่อนโดนจัดการไปแล้วคิดว่า ท่าไม่ดีแล้วจึงคิดที่จะหนี

            “แลนด์! คราวนี้ขอ3!” เบลจังพูดขึ้นมาโดยใช้ร่างของแลนด์  “เข้าใจแล้ว!!” แลนด์ก็ตอบกลับด้วยร่างเดียวกัน  เขาทำใช้วิธีการเดิมโดยการกำหมัดแน่นจนเกิดแสงสว่างขึ้น แล้วแบบออกปรากฏลูกบอลแสงเหลืองทองมสามลูกอยู่บนฝ่ามือของเขา

            “ตอนนี้แหละ!  เบลจังให้สัญญาณ”  เขาโยนลูกบอลแสงออกไปหนึ่งลูก วิถีของมาพุ่งตรงไปยังศัตรูที่กำลังจะหนี..ช่วงเวลาที่บอลแสงลอยออกไปนั้น แลนด์ยกดาบด้วยมือซ้ายของเขาขึ้นสู่ฟ้า เขาก็ฟันลูกบอลแสงทันที เกิดเป็นวงแหวนเวทย์สีเหลืองสว่าง และร่างกายของเขาก็โดนแสงสีเหลืองปนเขียวห่อหุ้มไว้และพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

            แลนด์พุ่งออกไปด้วยความเร็วมหาศาล มันเร็วมากจนแทบจะมองด้วยตาเปล่าไม่ทัน เขาโจมตีศัตรูจนมันกระเด็นออกไปข้างๆวิถีลำแสง เมื่อโจมตีสำเร็จลำแสงก็เจือจางหายไป ปรากฏให้เขาร่างของแลนด์ที่กำลังจะทำการโจมตีอีกครั้ง เขาดีดลูกบอลแสงออกไปอีกหนึ่งลูก ลอยไปทางด้านขวาของร่างกายศัตรูและฟันมัน จากนั้นเขาก็พุ่งตรงไปโจมตีศัตรูอีกครั้งอย่างรวดเร็ว จนร่างของมันบิดหมุนไปเป็นเกลียว ต่อไปแลนด์ก็ทำอย่างเดิมอีกครั้งเขาโจมตีศัตรูอีกครั้งอย่างรวดเร็ว โดยในการโจมตีทั้งสามครั้งนั้นใช้เวลาเพียงแค่ 3 วินาทีเท่านั้น ศัตรูร่างก็ระเบิดหายไปในที่สุด

            “อะไรกัน ความเร็วขนาดนั้น”  เด็กหนุ่มผมสีแดงที่ลุกขึ้นมาแล้ว ตกตะลึงกับความสามารถของแลนด์ ส่วนอีฟที่อยู่ในใกล้ๆกันเดินตรงมา เงยหน้ามองดูแลนด์ที่จัดการศัตรูได้สำเร็จและพูดขึ้นว่า

            “นี้แหละ การโจมตีประสานของเบลจัง เธอใช้ร่างของแลนด์เป็นสื่อกลางให้การดำเนินกระบวนท่าและใช้พลังของเธอในการโจมตีด้วย Lighting Break สามครั้งซ้อน โจมตีศัตรูอย่างรวดเร็วสามครั้ง ในลักษณะมุมสามเหลี่ยม เพราะถ้าโดนไปหนึ่งครั้งร่างกายโดนหมุนติ้วไปเพราะความเร็ว และทำอย่างนี้ไปสามครั้งในเวลาเพียงสามวินาที ซึ่งมันก็คือ..”

            Triangle Slash !  (สามเหลี่ยมสังหาร)

            แลนด์ที่จัดการศัตรูสำเร็จแล้วนั้น เขาเดินกลับมาหาอีฟ เธอก็ยิ้มให้เขา เขาก็ยิ้มตอบ และพลังของแลนด์หายไป เขาออกจากการประสานวิญญาณกับเบลจังแล้ว ดวงตาสีแดงกร่ำ เส้นผมสีน้ำตาล เสาอากาศที่ขาวสว่าง กลับคืนเหมือนปกติ เขาเดินตรงมายังเด็กหนุ่มผมสีแดง

            “นายหนะเป็นจอมเวทย์สินะ แถมมีสปิริตด้วยสินะ” แลนด์ถามตรงๆ เขาก็พยักหน้าตอบ และพูดว่า “ฉันชื่อเบิร์น ไฟเออร์” แลนด์พยักตอบ พลางจับมือกันกับเขา และก็แนะนำตัวเองกับอีฟ

            “เอาฉันออกไปทีแลนด์!”  เสียงจากเบลจังดังขึ้นในหัวของแลนด์ จากนั้นเขาก็ใช้มือซ้ายจับหัวใจเกิดเป็นแสงสว่างขึ้น และเกิดปีกสีเหลืองสว่างออกมา เขาหยิบบางสิ่งออกมาและปล่อยออก ปรากฏเป็นกลุ่มก้อนพลังงานรูนสีเหลืองทองสว่าง มันค่อยๆเปลี่ยนรูปร่างจนกลายเป็นเบลจังในที่สุด

            “โอ้! ถ้าอย่างนั้นนี้คู่หู่ของฉัน แฟรย์!” จากนั้นเขาก็ทำขั้นตอนเหมือนๆแลนด์ทุกประการแต่ทว่า รูนที่ออกมานั้นลุกไฟเป็นเปลวไฟสีแดงอมส้มสวยงาม ปรากฏเป็นร่างของแฟรี่จิ๋วขนาดตัวเท่าๆกันกับเบลจัง เพศหญิง ผมยาวสลวยลงมาจนถึงก้นสีส้มอมแดง ดวงตาสีส้มอมแดง สวมชุดคลุมยาวสีแดงทั้งตัว

            “เธอรู้จักรึป่าวหนะ เบลจังแฟรี่ตนนั้นอ่า”  แลนด์กระซิบถามเบล แต่เธอก็ส่ายหน้าตอบ จากนั้นเธอก็พูดต่อไปว่า “ถ้าอย่างนี้ก็ไม่แปลกหรอกที่เขาเวทมนตร์ได้” แลนด์พยักหน้าเห็นด้วย

            “ถ้าอย่างนั้นขอถามอะไรหน่อย เกี่ยวกับโลกนี้..” อีฟเดินเข้ามาถามกันตรงๆ คำถามนั้นทำให้ทั้งเบิร์นและแฟรย์ ตะลึง และกระโดดออกไปหนึ่งก้าว

            “พวกนายเป็นพวกของ ดี แอนเซี่ยนอย่างนั้นเหรอ” เบิร์นถามด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว

          แลนด์ไม่ได้ตอบอะไร ซึ่งมันทำให้เบิร์นฉุนขาด soul linked กับแฟรย์ ทันที และพูดว่า

           “ก็พอรู้หรอกนะว่าสาเหตุของความวุ่นวายทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นเพราะพวกนาย…ลำพังทางนี้รับมือของไฟเออร์ไคซิสก็แทบแย่แล้ว ยังจะกล้าเสนอหน้ามาให้เฉือดถึงที่เลยรึยังไงกัน?”

            “ผู้คนที่อาศัยในโลกแห่งนี้ ครึ่งหนึ่งเป็นจอมเวทย์ทั้งนั้น ซึ่งโลกแห่งนี้ก็จะมีผู้ใช้พลังไฟทั้งหมดไม่มีธาตุอื่นใดๆ ผู้คนอยู่กันอย่างสงบสุขให้ประโยชน์จากเวทย์ไฟในการดำรงชีวิตเหมือนปกติ แต่ผลกระทบจากปรากฏการณ์โลกซ้อนทำให้รูนจากโลกอื่นๆเข้ามาในโลกแห่งนี้ทำให้ความสมดุลหายไป ผู้คนไม่สามารถควบคุมพลังของตนเองได้ ลุกไหม้ เผาทำลาย บ้านเมืองลุกเป็นไฟ แถมไอ้พวก ไฟเออร์ไคซิสอีก.. ไม่นึกเลยว่า ดี แอนเชี่ยนจะส่งคนมาจัดการพวกเราเร็วขนาดนี้” แฟรย์พูดเสริมขึ้นมาพูดขึ้นมา          

            แลนด์อึ้งตะลึงไปชั่วครู่หนึ่งกับเรื่องราวที่คู่หูเปลวเพลิงเล่าให้ฟัง ทันใดนั้น..

            ย๊ากกกกกกกกก ฉันไม่ยอมให้นายเอามันไปได้หรอก!

            เบิร์นพุ่งกระโจนเข้ามาโจมตีแลนด์อย่างรวดเร็ว จนเขาตั้งตัวไม่ทัน แต่เขาก็หลบคมดาบไปได้อย่างฉิวเฉียด เสียหลักและล้มลง  ตายซะ! เบิร์นจับดาบมั่นด้วยสองมือยกดาบขึ้นเหนือศีรษะตน ดาบนั่นมีเปลวไฟที่แสงส้มห่อหุ้มอยู่ เขาฟันลงมาอย่างสุดแรง ส่วนแลนด์ที่กำลังตกที่นั่งลำบาก เบลจังพุ่งตรงมาที่ร่างของเขาและเข้าไปทันที ทำให้รูปลักษณ์ของเขาเปลี่ยนไป ผมสีเลม่อน ดวงตาสีเลม่อนทั้งสองข้าง เขายกดาบบล็อคการโจมตีของเบิร์นได้ทันเวลา

            แลนด์สลัดการโจมตีของเบิร์นออกไป และลุกขึ้น คลายสภาพนั้นออกกลับสู่สภาวะปกติ แลนด์ตกใจเล็กน้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนว่าเขาจะจำอะไรในช่วงเวลาสั้นๆนั่นไม่ได้เลย

            “แลนด์ เมื่อกี้ฉันใช้ร่างของนายไปละนะ เป็นการเข้าสิงและควบคุมร่างนายอย่างสมบรูณ์แบบ นายจะจำอะไรเกี่ยวกับช่วงเวลานั้นไม่ได้ และทำอะไรไม่ได้จนกว่าฉันจะออกจากร่างนาย ฉันจะทำอย่างนี้เมื่อนายสู้ไม่ได้ หรือตกที่นั่งลำบากจริงๆนะ”  เบลพูดขึ้นมาในหัวของเขา

            “แฟรย์จัง..ถ้าจะมาชิงตัวไปละก่อน ต้องผ่านศพฉันไปให้ได้ก่อน” เบิร์นยื่นคำขาด

            “จะเอาอย่างนั้นเหรอ?”  แลนด์ถามถึงแม้เขายังไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่เบิร์นพูดแต่เขาก็ไม่อาจทนคำพูดท้าทายนั่นได้  เบิร์นพยักหน้าตอบรับ แลนด์ยิ้มและพูดว่า “จัดให้ตามคำขอ!!”

            ย๊ากกกกกกกกกกกกก

            จากนั้นทั้งสองคนก็กระโจนเข้ามาหากันทันที…..

            ทั้งสองคนเข้าต่อสู้แลกหมัด ต่างฝ่ายต่างโจมตี ต่างฝ่ายต่างรับการโจมตี สลับไปสลับมา ทั้งสองคนต่อสู้กันได้สูสีมากๆ แลนด์พลิกตัวหลบคมดาบติดไฟของเบิร์นไปได้ เขาใช้ดาบที่มีแสงออร่าสีเขียวปนเหลืองอ่อนๆของเขาชิงจังหวะฟันตัดเข้ากลางลำตัวทันที

            แกร๊ก!

            เบิร์นยกดาบของเขาขึ้นมาบล็อกการโจมตีได้ทันเขา พร้อมกับแสยะยิ้ม แต่ทว่าเหลือบไปเห็นมุมปากของแลนด์ที่ยิ้มอยู่เช่นกัน จากนั้นดาบของแลนด์ก็เปล่งแสงขึ้นมาอีกครั้ง พลังของมันเพิ่มสูงขึ้นและผลักให้ร่างเล็กๆของเบิร์นกระเด็นออกไป

            “หมอนี้มันไม่ธรรมดานะ เบิร์นนายต้องเอาจริงเต็มที่แล้วละ”  แฟรย์พูดขึ้นเบาๆในหัวของเบิร์น เขาก็พยักหน้าตอบ และตั้งหลักใหม่อีกครั้ง

            “ถ้าอย่างนั้นเจอแบบนี้ล่ะ เป็นยังไง?”  แลนด์พูดขึ้นมาพร้อมชูกับสองนิ้วขวาขึ้นมา ระหว่างนิ้วทั้งสองข้างมีลูกบอลแสงอยู่หนึ่งลูก  

            Lighting break!

            แลนด์โจมตีอย่างเร็วรวด ลำแสงสีเหลืองสว่างนำพาร่างของเขาพุ่งตรงไปยังเป้าหมายทันที จนทำให้เบิร์นตกใจเล็กน้อย แต่ก็ใช้ดาบของเขารับการโจมตีได้อย่างชำนาญ

            ทั้งสองคนต่างพากันต้านพลังของกันและกันอย่างหนักหน่วง เบิร์นที่ค่อนข้างจะเสียเปรียบ ขาทั้งสองข้างของเขาค่อยเลื่อนถอยออกไปที่ละนิดที่ละนิดจนเริ่มจะเสียสมดุล จนในที่เขาก็พลาด ไม่รับการโจมตีนั้นต่อไปอีกได้เขากระเด็นออกไปไกลถึงสิบเมตรเข้าไปในป่าแห่งด้านนอกเมืองเลย

            “ฮึ้ยยย แกร่งจริงๆ”   เบิร์นพูดขึ้นในขณะที่กำลังพยุงตัวเองขึ้นโดยใช้หลังยันกับต้นไม้ที่อยู่ด้านหลัง

            เบิร์นลุกขึ้นมาปัดเนื้อตัวที่เปรอะเปื้อน และมองตรงที่ยังแลนด์ที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยสายตามุ่งมั่น จากนั้นเขาก็วิ่งตรงออกมาจากป่าทันที เขาวิ่งด้วยความเร็วด้วยและโยนลูกบอลไฟ ออกไปข้างหน้า แลนด์เห็นดังนั้นจึงวิ่งตรงเข้าไปหาเขาเช่นกันโดยที่โยนลูกบอลแสงออกไปข้างหน้าเหมือนกัน

            จากนั้นก็เกิดเปลวไฟห่อหุ้มร่างของเบิร์นเมื่อเขาใช้ทิ่มที่ssที่อยู่ตรงหน้า และพุ่งมาด้วยความเร็วสูง ส่วนทางแลนด์ก็เช่นกันเขาฟันssที่อยู่ตรงหน้าเกิดเป็นลำแสงสว่างสีเหลืองห่อหุ้มร่างเขาไว้และพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูงเหมือนกัน

            Lighting Break!  // Flame Tackle!

            พลังทั้งสองเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง ที่กลางป่าแห่งนั้น พลังของทั้งสองฝ่ายนั้นรุนแรงมาก จนกระเกิดไปเป็นแรงอัดอากาศกระจายออกไป พัดเอาเปลวเพลิงที่อยู่รอบๆไปจนทำให้เกิดไฟไหม้ป่าไปทั่ว จนในที่สุดก็กลายเป็นทะเลเพลิงในที่สุด

            “อะไรกัน พลังรุนแรงขนาดนี้เลยเหรอ” แลนด์หันมองรอบข้างที่ลุกโชนไปด้วยเปลวไฟ ร้อนระอุจนเหงื่อไหลเป็นน้ำๆ

            “ทำไมกันแลนด์ ทั้งๆที่นี้มีพลังขนาดนี้ ยังต้องการหัวใจแห่งโลกนี้ไปทำไมกัน?” เบิร์นเปิดด้วยคำถาม

            “หัวใจแห่งโลกนี้? นายพูดเรื่องอะไรกัน?” แลนด์ตอบกลับทันที ถึงแม้จะงงๆอยู่บ้าง

            “อย่างนายจะทำอะไรได้! แค่นี้โลกยังพินาศไม่พออีกอย่างนั้นเหรอ?” เบิร์นพูดเสียงดังด้วยความโกรธ ทั้งสองคนพยายามดันและต้านพลังของอีกฝ่าย แต่ดูเหมือนกว่าพลังของเบิร์นจะเหนือกว่าเล็กน้อย เขาคอยๆดันให้แลนด์ถอยหลังออกไปเรื่อยๆทีละนิดทีละนิด

            “ถึงไม่รู้นะว่านายกำลังพูดถึงเรื่องอะไร แต่ว่า…ฉันน่ะ..ฉันจะต้องช่วยให้โลกทั้งหมดสงบสุขให้ได้!!” คำพูดของแลนด์กับแววตาที่มุ่งมั่น ทำให้เบิร์นชะงักเล็กน้อยจึงทำให้พลังตกลงไปเล็กน้อย ผนวกกับแรงฮึดของแลนด์ทำให้พลังทั้งสองต้านกันอย่างรุนแรงและสูสี

            ย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก

            ตูมมมมมมมมมมมม

            พลังที่ต้านกันอย่างรุนแรงทั้งสองระเบิดออกอย่างรุนแรงสร้างความเสียหายกระจายออกเป็นวงกว้าง ผลักร่างของทั้งสองให้กระเด็นออกไปไกลคนละทิศ ทั้งสองคนใช้ขาทั้งสองตั้งฐานให้มั่นและทรงตัวขณะที่โดนแรงผลักไถลออกไป จนทั้งสองยืนได้มั่นแล้วจึงเตรียม ตั้งท่าและพุ่งเข้ามาปะทะกันอีกครั้ง

            แลนด์โจมตีด้วยการฟันลงพื้น แต่เบิร์นก็เบี่ยงหลบไปทางซ้ายได้อย่างสบายๆ จากนั้นเขาก็ลากดาบด้วยมือเดียวละฟันสวนกลับที่ลำตัวด้านขวา แต่แลนด์ไหวตัวได้ทันจึงกระโดดขึ้นบนฟ้า เขารีบฟันลงมาทันในจังหวะที่แขนของเบิร์นแกว่งดาบไปจนสุดแล้ว

            “เสร็จฉันละ!” แลนด์ยิ้มที่กำลังได้เปรียบ  แต่ทว่าเบิร์นดูไม่ได้เดือดร้อนเช่นกัน

            Burning Step!

            แลนด์ฟาดดาบลงอย่างสุดแรง โดนเป้าหมายเต็มๆขาดสะพายแล่ง ร่างเล็กๆที่โดนจัดการไปนั้นกลายสภาพเป็นเปลวเพลิง และแตกออกเผาผลาญร่างกายของแลนด์จนร้องด้วยความเจ็บปวด

            แลนด์ลุกขึ้นและแกว่งดาบออกไปข้างตัว จนเกิดกระแสลมพัดเอาเปลวไฟที่ติดตามเนื้อตัวเสื้อผ้าของเขาออกไป ปรากฏให้เห็นแผลไหม้ตามเนื้อตัวหลายที่  เขาค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาก็พบเบิร์น ยืนอยู่ตรงหน้าเขา ดวงตาสีเพลิงคู่นั้น เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตสังหารที่พร้อมจะจัดการแลนด์ได้ทุกเวลา

            “นายยังต้องการตัวแฟรย์อยู่อีกอย่างนั้นเหรอ?”  เบิร์นวางดาบจ่อที่คอหอยของแลนด์ แลนด์จ้องตาของเขาด้วยแววตาที่ไม่ยอมแพ้ และตอบกลับไปว่า

           “ฉันต้องการพลังเพื่อที่จะช่วยโลกให้ได้ ฉันต้องทำได้!”  คำพูดนั่นมันทำให้เบิร์นฉุดขาดเข้าแทงเข้าไปที่คอของแลนด์ แต่แลนด์เบี่ยงหลบไปจึงโดนแค่เฉียดๆคอ เกิดทั้งรอยบาดและรอยไหม้จึงทำให้เขาเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เขารีบใช้แขนทั้งสองยันพื้นยกตัวขึ้นและบิดลำตัวมายันเบิร์นออกไป แล้วตั้งหลักใหม่อีกขึ้น

            ทั้งสองคนตั้งท่าใหม่อีกครั้งหนึ่งและพุ่งกระโจนเข้ามาโจมตีอีกครั้ง คราวนี้ทั้งสองฟาดดาบปะทะกันตรงๆ พลังที่ห่อหุ้มดาบทั้งสองไม่ว่าจะเป็นออร่าที่เขียวปนเหลือง หรือจะเปลวไฟนั้นตามมีพลังที่รุนแรง มันปะทะกันจนทำให้สายลมปั่นป่วน พลังที่ต้านกันอย่างรุนแรงนั้น ดีดออกจากกันทำให้ทั้งคู่กระเด็นออกไป พวกเขาตั้งหลักใหม่อีกครั้งและพุ่งเข้ามาโจมตีกันอีกซ้ำไปมา

            “คราวนี้ละ ย๊ากกกกกกกกกก”

            “หยุดซักที่ได้ไหม พวกนาย!” ทันใดนั้นอีฟที่ยืนดูเหตุการณ์ที่ทั้งสองคนต่อสั้นอย่างดุเดือดมาตลอด กลับโผล่อยู่ตรงกลางคั่นระหว่างทั้งสองคนไว้ ที่กำลังจะปะทะในอีกระยะอีก 5 เมตร เธอกุมมือทั้งสองไว้แน่นปากพึมพัมอะไรบางอย่างอยู่ จากนั้นเธอย่อตัวลงวางฝ่ามือทั้งสองกดพื้นดินไว้

             Gravity Field!

            ทันใดนั้นเกิดวงแหวนเวทย์ขนาดใหญ่ ที่พื้นดิน เกิดแสงสว่างจากวงแหวนเวทย์ จากนั้นพวกแลนด์ก็ถูกแรงพลังมหาศาล กดทับจนล้มลงติดพื้นดิน ไม่ว่าจะพยายามลุกขึ้นแค่ไหนก็ลุกไม่ได้ ราวกับว่าร่างกายมันหนักขึ้นเป็นอย่างมาก จากนั้นเธอก็พูดว่า 

          “ผลการต่อสู้ของพวกนายมันน่าจะรู้กันอยู่แล้วนินา” เธอพูดพร้อมกับมองที่ดาบของทั้งสองคน 

          “พลังจากรูนก็หมดลงพร้อมกันทั้งคู่ ก็เท่ากับทั้งคู่เสมอกัน แล้วยังจะสู้อะไรกันอีก? มันไม่มีความหมายอะไรเลย!”  เธอหันไปมองค้อนใส่แลนด์ 

           “แลนด์นายก็รู้เรามาทำอะไรนายจะเอาเวลาที่เสียกับเรื่องไร้สาระอย่างนี้ได้ยังไงกัน? เบลจังก็ด้วยไม่คิดจะห้ามเขาเลย” แลนด์ที่ทำอะไรไม่ได้ เขาทำได้เพียงอยู่เฉยๆและคืนสภาพกับเป็นอย่างเดิมในที่สุด จากนั้นเธอก็หันไปมองที่เบิร์น 

          “นาย…พวกฉันต้องการช่วยโลกจริงๆ และพวกเราไม่รู้จัก ดี แอนเชี่ยน หรือไฟเออร์ไคซิสหรอกนะ พวกเราจะชิงตัวของแฟรย์ไปทำไมกัน? ไม่สิ..พวกเราเพิ่งรู้จักกันวันนี้ มันเป็นไปได้เหรอที่จะมาชิงตัวเป้าหมายที่ไม่รู้จัก?” 

            “แต่ว่า….” เบิร์นค้านเสียงอ่อยๆ แต่อีฟใช้สายตามองเขา จนทำให้เขาสลดลงและยอมรับ(ก็ได้) จากนั้นเธอจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก และปลดเวทย์ของเธอออกไป ทั้งสองขึ้นจึงยืนขึ้นได้ เบิร์นที่ลุกขึ้นได้จับดาบเตรียมจะง้าง แต่ว่าเขาเหลือบไปเห็นแววตาของอีฟ มันชั่งน่ากลัวมากสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิต จนเขาไม่กล้าที่จะทำอะไร

            “แย่ละ! อาละวาดกันซะพังพินาศขนาดนี้ พวกนั้นต้องหาเราเจอได้ไม่ยากแน่ๆ” เบิร์นนึกเอะใจอะไรบางอย่างได้และวิ่งเข้าไปในป่าพร้อมกับกวักมือเรียกพวกแลนด์ให้ตามเขาเข้าไป

            แลนด์และอีฟก็วิ่งตามไป ส่วนเบิร์นพาวิ่งเข้าไปในป่า เขาเหลือบไปเห็นกลุ่มคนที่ก็เหาะอยู่กลางอากาศกำลังมองหาบางสิ่งอยู่ เขาคิดในใจ “แย่ละสิ ถ้าหาเจอตอนนี้พวกเราแย่แน่ๆ”  แลนด์กับอีฟที่วิ่งตามมาติดๆก็เห็นกลุ่มคนที่ลอยอยู่เช่นกัน จู่เบิร์นที่วิ่งอยู่นำหน้าก็ พูดขึ้นด้วยเสียงสั่นว่ะ  “อย่าไปยุ่งกับพวกมันจะดีกว่านะ”

            ทันใดนั้นพวกมันก็ดิ่งลงมาดักหน้าทั้งสามคน เบิร์นตกใจมาก อยู่ๆทำไมพวกมันรู้ตำแหน่งของพวกเขาได้อย่างไรกัน เขาหันไปมองพวกแลนด์ก็ไม่มีท่าใดๆที่จะทำให้พวกมันรู้ได้ เขายืนคิดอยู่ซักครู่หนึ่ง จนในที่สุดก็นึกออกว่า เขายังอยู่ในการประสานวิญญาณกับแฟรย์อยู่ ทำให้เพลิงพลังงานในตัวเขาทำให้พวกเขาจับตำแหน่งได้

            “หึหึ..วันนี้ละนะฉันจะไม่ปล่อยให้แกหนีไปอีกแล้ว…เบิร์น” เสียงชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินมาจากด้านหลังของทั้งสามคน เบิร์นตกใจกับสิ่งที่เห็นเป็นอย่างมาก

            เบรนน…

            “เบรน?”  อีฟสงสัยว่าเขาเป็นใครเธอจึงถาม แต่ว่าร่างกายของเขาสั่นเทา ขาทั้งสองยืนแทบจะไม่อยู่แล้วและตอบเสียงสั่นๆว่า “เขาเป็นพี่ชายของฉันเอง เขาต้องการแฟรย์  เขาเป็นคนที่ทำให้โลกใบนี้ต้องวุ่นวาย!”

            คำพูดนั้นมันทำให้เบรนกลั้นที่จะหัวเราะไม่อยู่ ชายหนุ่มรูปร่างสมส่วน สูงยาวเข่าดี เส้นผมสีแดงเลือด ดวงตาสีแดงกร่ำ เขาสวมชุดคลุมยาวสีดำสนิท เขายืนssออกมาจ่อหน้าของเบิร์น

            “หายไปซะ!” เขาบีบรูนแสงสีแดงจนแตกเกิดวงแหวนเวทย์ขนาดเล็กๆ และก็มีเปลวไฟพวยพุ่งออกมาทำร้ายเบิร์นจนเขากระเด็นออกไปไกล สร้างความตะลึงให้กับพวกแลนด์เป็นอย่างมากที่ว่าคนเก่งๆอย่างเบิร์นไม่น่าจะโดนเล่นงานขนาดนี้

            “พวกนายเป็นใคร ทำร้ายเขาทำไม?” แลนด์เข้ามาขวางเบรนที่กำลังจะเดินไปทำร้ายเบิร์นที่นอนสติเลือนรางอยู่ใต้ต้นไม้อยู่

            “พวกแกไม่เกี่ยว ออกไปซะ!”  เบรนตอบกลับทันที พร้อมกันโยนลูกบอลไป ออกมามันเปลี่ยนสภาพกลายไปเปลวเพลิงขนาดใหญ่พุ่งมาโจมตีแลนด์  แต่เลี้ยววินาทีที่เปลวไฟจะโดนเนื้อตัวแลนด์ ดวงตากับสีผมของเขาก็เปลี่ยนไป กลายเป็นสีเขียวอมเหลือง และเบี่ยงหลบลูกไฟนั้นได้อย่างฉิวเฉียด ลูกไฟที่โจมตีพลาดนั้นพุ่งไปทำร้ายกลุ่มคนที่ยืนดักหน้าพวกแลนด์ตั้งแต่ตอนแรก จนเจ็บล้มลงนอนกลิ้ง กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

            “พวกแลนด์ไม่เกี่ยวนะ!” เบิร์นที่ได้สติแล้ว ลุกขึ้นตะโกนขึ้น แรงฮึดของเขาทำให้เขากระโจนพุ่งเข้ามา

            ย๊ากกกกกกกก  Flame Tackle!

            เบิร์นพุ่งเข้ามาด้วยเปลวเพลิงที่เร่าร้อน เขาพุ่งที่จัดการเป้าหมายอย่างรวดเร็ว

            “กระจอก!”  ทันใดนั้นอยู่เปลวเพลิงของเขาก็กระจายออก และมารวมกันอยู่ที่ฝ่ามือของเบรน สร้างความตกใจเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าเบิร์นจะไม่สามารถทำอะไรได้เลยขนาดนี้ จากนั้นเบรนก็ย่อตัวลงอัดเปลวไฟนี้เข้ากลางลำตัวของเบิร์นจนกระอั่กเลือด เปลวไฟที่เผาผลาญร่างกายของเขา เขาไม่สามารถจะขยับร่างกายบาดเจ็บหนักนั่นได้ พวกมันไม่ยอมฟังคำสั่งใดๆของเจ้าของ ได้แต่นิ่งอยู่ในฝ่ามือของเบรนพร้อมๆกับโดนไฟของตัวเองเผาผลาญอยู่ทั้งอย่างนั้น

            Lighting Break!

            ลำแสงสีเหลืองสว่างพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ปัดมือของเบรนออกไป ทำให้เบิร์นหลุดรอดจากการโจมตีที่ไร้ความปราณีของเบรน แววตาสีแดงกร่ำข้างขวาสบกับดวงสีเหลืองอมเขียวนั้นแสดงความโกรธกริ้วเป็นอย่างมาก

            “ฉันเตือนนายแล้วนะ!” เบรนหยิบลูกบอกไฟ ออกมาจากหลังมือซ้ายของเขาและโยนมันลอยขึ้นท้องฟ้า เขาย่อเข่าลงและกระโดดขึ้นสู่ท้องฟ้า ในขณะที่ลอยตัวขึ้นไปเขาหมุนตัวไปด้านขวา เกิดเป็นเปลวเพลิงวิ่งวนตามทิศทางการหมุนของเขาราวกับว่าเป็นพายุแห่งเปลวเพลิงที่กำลังจะทำลายทุกสิ่งให้มอดไหม้ไป เมื่อเขาลอยขึ้นไปถึงแล้วลูกไฟที่ได้โยนขึ้นมาก่อนหน้า จึงให้เท้าขวาหวดที่ลูกไฟ นั่นอย่างสุดแรง เกิดเป็นเปลวเพลิงห่อหุ้มลูกไฟนั่นไว้

            Fire Tornado!

            จากนั้นลูกไฟนั่น ก็เปลี่ยนสภาพกลายเป็นวงแหวนเวทย์ จากนั้นก็ปล่อยลูกไฟขนาดใหญ่ที่ร้อนระอุพุ่งตรงดิ่งไปยังแลนด์ที่ยืนอยู่ด้านล่าง

            “แลนด์ ลูกไฟนั้นเป็นพลังที่เกิดจากการบีบอัดของรูน นะ จึงทำให้เกิดพลังมหาศาล แต่ว่ามันจะมีแก่นพลังงานอยู่ที่ไหนซักที่อย่างแน่นอน ถ้าหามันเจอก็จะหยุดมันได้!” เบลจังพูดขึ้นในหัวของแลนด์

          “ถ้าพูดเฉยๆมันง่ายนะ เบลจัง”  คำแนะนำของเบลจังทำให้เขาเผยรอยยิ้ม เขาปักดาบลงพื้น และยืนด้วยสองขาอย่างมั่นคง รอลูกไฟนั้นเข้ามาใกล้ตัวเอง

            เมื่อมันมาถึง เขากำมือขวาไว้แน่นเกิดแสงสว่างขึ้นที่มือของเขา และเอื้อมไปรับลูกไฟขนาดใหญ่ที่หมุนควงเหมือนควงสว่าน ลูกไฟที่อัดแน่นไปด้วยเปลวเพลิง พลังทำลายนั้นมหาศาลมาก ทำให้เกิดแรงต้านอย่างรุนแรงมันค่อยๆ ผลักร่างของแลนด์ให้ถอยออกไปทีละนิด

            “เหอะ! พลังของแกจะหยุดได้ซักแค่ไหนกัน”  เบรนพูดเย้ยหยัน

            ย๊ากกกกกกกกกกกก

            แลนด์ใช้พลังของเขา เขาทุ่มจนสุดตัวเพื่อต้านพลังนี้ไว้

            ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

          จากการปะทะที่รุนแรงของพลังเพลิงที่รุนแรงราวกับจะเผาทุกอย่างให้มอดไหม้ในพริบตา กับประกายแสงสว่างที่งดงามของแลนด์ จึงทำให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง เกิดเป็นควันฟุ้งกระจายทั่วทั้งป่าลึก

            4 ชั่วโมงต่อมา

            โอยยย…  แลนด์ร้องด้วยความเจ็บปวด เขากุมช่วงท้องไว้ คงได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก หันมองดูรอบข้างก็พบอีฟที่นั่งอิงกองไฟอยู่ โดยที่มีเบิร์นนอนสลบอยู่ใกล้ๆกัน

            อีฟพูดขึ้นมาว่า…  “แฟรย์โดนชิงไปแล้ว!”

 

Facing the Burning Flame

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

02

 

“อะ..อะ…อีฟ เกิดอะไรขึ้นอย่างนั้นเหรอ?”  แลนด์ที่ค่อยๆได้สติคืนมาค่อยๆลุกขึ้นเอามือกุมหัว พลางมองรอบข้างความอาการมึนหัวเล็กน้อย  อีฟพยักหน้าตอบแล้วจริงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“หลังจากที่นายโดนจัดการด้วยพายุไฟนั่น และนายก็หมดสติไป เบิร์นเขาค่อยๆได้สติคืนมาอีกครั้งพอดี เขาพยายามต่อสู้กับเบรนอย่างเต็มที่…”

ณ เหตุการณ์ตอนนั้น

ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

 “อะไรกัน” แลนด์ตกใจกับภาพที่เห็นเป็นอย่างมาก เขาโดนพลังมหาศาล กระแทกอัดร่างกระเด็นไปกระแทกหินขนาดใหญ่ที่อยู่กับน้ำตกในป่าแห่งนั้น จนเขาสลบไป

“ฮึยย แกเบรนน!!” เบิร์นฉุนขาด เข้าปะทะกับเบรนทันที เขาฟาดฟันเบรนอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นฟันขึ้นบนผ่าลงล่าง ฟันตัดขวาง หรือจะมุมเฉียง ไม่ว่าจะอย่างไรเบรนก็สามารถหลบหลีกได้อย่างสบายๆถึงแม้ว่าจะหลับตาอยู่ก็ตาม

            “หนอยย…เอาแต่หลบอยู่ได้” เบิร์นที่กำลังอยู่ในวังวนแห่งความโกรธ เขาไล่ฟาดฟันโจมตีไปแบบไม่ยั้งคิด เขาแค่โจมตีอย่างต่อเนื่องที่บ้าคลั่งเท่านั้นไป มันสามารถหลบได้อย่างง่าย กลายเป็นการโจมตีที่ไร้ค่าเสียอย่างนั้น เพราะไม่ว่าจะลองอีกทีก็ไม่โดนเบรนเลยแม้แต่ครั้งเดียว เบรนกระโดดหลบวิถีดาบที่ฟาดตัดขาได้อย่างสบายๆ เขาถอยห่างออกไปและยืนนิ่งอยู่ซักครู่หนึ่ง

            “ถ้าอย่างนั้นเจอแบบนี้ละเป็นยังไง?”  เบรนโยนลูกไฟลอยขึ้นฟ้าไป มันกลายสภาพเป็นพายุเพลิงที่ร้อนแรงพุ่งตรงไปยังเบิร์นทันที

          Fire Tornado  เป็นท่าไม้ตายที่ เบรนเตะเข้าที่รูนอย่างรุนแรงทำให้เกิดแรงส่งที่มีพลังมหาศาล แต่ก็สามารถใช้มันด้วยไม่เพิ่มแรงส่งได้ด้วยแน่นอนว่าความรุนแรงและความเร็วก็จะแตกต่างกันออกไป

          เบิร์นที่ยืนอยู่นั้น ตั้งท่ามั่นแล้วจับดาบที่ลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิง ฟันลงอย่างรุนแรง พลังทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรง เขาพยายามกัดฟันสู้ จนในที่สุดเบิร์นก็สามารถตัดรูนของเบรนได้ แต่ว่าร่างของเขาก็โดนกระแสลมอัดกระแทกถอยกลับไปเล็กน้อยด้วยเช่นกัน

            “ดูท่าจะเก่งขึ้นมาอีกหน่อยแล้วสินะ”  เบรนยิ้มเยาะอย่างชอบใจ ก่อนที่เข้าจะยืนกอดอกอย่างสบายใจ เบิร์นที่ยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว ก็ตั้งท่าพร้อมที่จะโจมตีต่อไปทันที

            “เบิร์นคงต้องใช้ต่อล่อนะ” /  “อืม เข้าใจแล้ว”  เบิร์นกับแฟรย์ปรึกษากันในห้วงความคิดของเบิร์น

            Flame tackle!

            เบิร์นวิ่งตรงมาหาเบรนอย่างรวดเร็วร่างกายของเขาห้อมล้อมไปด้วยเปลวไฟอันร้อนระอุ เขาวิ่งตรงไปยังเป้าหมายด้วยความมุ่งมั่น แต่ทว่า…

            Fire style : Flame control 

            อยู่ดีๆ เปลวไฟที่ห้อมล้อมร่างของเบิร์นก็หายไปในพริบตาราวกับมันไม่เคยมีมาก่อน สร้างความมึนงงให้กับเขาเป็นอย่างมาก ในระหว่างที่เขากำลังตกใจอยู่นั้น เบรนได้อยู่ตรงหน้าเขา แทงเข่าที่กลางท้องเขาจนเขาลอยขึ้นฟ้าไป

            อึก เบิร์นที่ร่างกระเด็นลอยขึ้นท้องฟ้านั้นแสดงอาการจุกเล็กน้อย ก่อนที่เข้าจะพลิกตัวได้และลงมาสู่พื้นไปอย่างปลอดภัย เบิร์นรู้สึกกดดันเป็นอย่างมากที่พลังของเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกจึงโจมตีอีกครั้ง

            Flame tackle!

            เปลวเพลิงพุ่งตรงไปยังเบรนอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าเบรนกลับยืนเฉยหลับตาอย่างสบายใจ และก็กระโดดหลบพลังของเบิร์นไปได้อย่างสบายๆ มันสร้างความตกใจให้กับเบิร์นเป็นอย่างมาก แต่ว่าเบิร์นยิ้ม เขายึดขายืนให้มั่นและเบรก ทำให้เกิดเสียงดัง เอี๊ยดๆๆ ก็รอยดำทางตามที่ผ่านมาลากยาวกว่า 10 เมตร จากการที่หยุดอย่างกะทันหัน ทำให้เปลวไฟมันแตกออกจากร่างของเบิร์นกระจายออกไปรอบข้าง เบิร์นพลิกตัวหันหน้ากลับมาอย่างรวดเร็ว และเขาก็โยนรูนขึ้นไปบนฟ้าและก็กระโดดขึ้นตามไป

            “รึว่าแก!” ภาพที่เห็นทำให้เบรนตกใจมาก

            เบิร์นกระโดดขึ้นไปพร้อมกับบิดลำตัวหมุนควงขึ้นไปบนท้องฟ้าเกิดเปลวไฟวิ่งวนตามแนวการหมุนของเข้า เมื่อเขาลอยขึ้นไปถึงรูนเขาใช้เท้าขวาหวดลูกไฟนั่นอย่างรุนแรง ทำให้เปลวไฟขยายใหญ่ขึ้น สะสมพลังงานเข้าไปในนั้น จนเกิดระเบิดเล็กๆก่อนที่มันกลายเป็นวงแหวนเวทย์ และมีเปลวขนาดใหญ่พุ่งตรงไปยังเบรนที่ตกลงพื้นแล้ว

            เบรนแสยะยิ้ม และหัวเราะอย่างชอบใจ เขาตั้งท่าพร้อมที่จะตั้งรับ เมื่อลูกไฟเข้าไปใกล้เข้า….

            รับไปซะพลังที่แท้จริงของฉัน! เบรนเบ่งพลังมหาศาลออกมาในครั้งเดียว ปรากฏเป็นร่างของปีศาจไฟขนาดใหญ่ ร่างกายมันประกอบล้วนไปด้วยเปลวไฟขนาดใหญ่ มันใช้มือทั้งสองข้างวางทับกันให้เบรนเหยียบเป็นฐานและเข้าก็กระโดดขึ้นไป หมุนตัวกลางอากาศมีไฟห่อหุ้มร่างกายเขาเป็นวงกว้าง และเขาก็เตะเข้าที่ลูกไฟของเบิร์นทันที

            Fire Strom!!

            เบรนเตะพลังพายุหมุนของเบิร์นกลับไปอย่างง่ายดาย เกิดเป็นพลังประสานที่รุนแรงมากยิ่งขึ้นไป คลื่นพลังนั่นพุ่งตรงไปหาเบิร์นอย่างรวดเร็ว ความร้อนระอุดุจความโกรธของปีศาจไฟตนนั้น ความรุนแรงนั้นเหมือนกับหมัดแห่งความโกรธที่พร้อมจะทำลายทุกสิ่งให้พินาศไป  แต่ว่าเข้าใช้ดาบของเขาต้านไว้ได้ทัน แต่ว่าพลังนั้นรุนแรงจนเกินกว่าที่เขาจะรับไหว มันดีดดาบของเขากระเด็นและกระแทกเข้ากลางลำตัวและระเบิดอย่างรุนแรง จนเขากระเด็นเข้าไปในป่าจนสลบไป

            “จากนั้นฉันก็ไม่เห็นอะไรอีกเลย….”  อีฟเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แลนด์ฟัง

            โอย…  เบิร์นค่อยๆได้สติขึ้นมา เขาพยายามลุกขึ้นแต่ด้วยอาการบาดเจ็บเขาให้เขาขยับร่างกายไม่ได้อย่างใจหวัง เขาพยายามพูดเสียงอ่อยๆเบาๆ จนแลนด์จับความได้ว่า  “แฟรย์โดนชิงไปแล้ว”

            คำพูดนั่นทำให้แลนด์นึกสงสัยเป็นอย่างมาก เขาแสดงสีหน้าที่สงสัยอย่างชัดเจน เบิร์นนั่งนิ่งอยู่ชั่วครู่แล้วจึงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดไป

            “พวกมันคือไฟเออร์ไคซิส!” เบิร์นพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง

            “พวกมันเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่คิดจะควบคุมพลังไฟทั้งหมดในโลกใบนี้ ซึ่งถ้ามันสามารถควบคุมได้ก็จะทำอะไรกับโลกนี้ได้ทุกอย่าง ซึ่งเพื่อการนั้นมันจึงจำเป็นต้องชิงแฟรย์ไปยังไงละ!”

             แลนด์ตะลึง

            “แฟรย์เป็นสปิริตที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่งนี้ เพียงคนที่มีจิตวิญญาณแห่งเปลวไฟอย่างแท้จริงนั้นที่แฟรย์จะยอมรับและได้รับพลังของยังไงล่ะ พวกมันที่ต้องการปกครองโลกด้วยความโหดร้าย แฟรย์ไม่มีทางที่จะยอมรับพวกมันได้หรอก”   เบิร์นขยายความต่อ

            แลนด์พยักหน้าเข้าใจ

            “พวกมันตั้งใจที่จะปลุกพลังเนตรอัคคีให้เบรน เพื่อที่จะครองโลกแห่งนี้ เพื่อการนั้นจำเป็นต้องมีพลังของแฟรย์และก็ ร่างของเด็กสาวที่มีพลังเวทย์สูง บูชายัญเด็กคนนั้น เพื่อปลุกเนตรอัคคี ซึ่งยอมไม่ได้!!” แต่ทว่า ฉันเคยท้าสู้กับหมอนั่นหลายครั้งแล้วแต่ก็แพ้ไม่เป็นท่าทุกครั้งๆเลย”

            อ่ะ!!  อีฟร้องขึ้นมาดูเหมือนว่าเธอจะสะกิดใจอะไรบางอย่างได้ และพูดขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้นรินหายไปอย่างไร้ร่องรอย อาจจะเป็นฝีมือของพวกนั้นก็ได้นะแลนด์”

            “อะไรกัน! ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง? ก็ยอมไม่ได้แล้ว!”  แลนด์ลุกขึ้นยืนทันที

            “เด็กสาวธรรมดาก็ใช้ได้จริงๆ แต่ว่าพวกนายไม่ได้มาล่าตัวแฟรย์จริงๆอย่างนั้นเหรอ?”  เบิร์นถาม

            “ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่านายพูดถึงเรื่องอะไร อีกอย่างฉันไม่มีความจำเป็นที่จะชิงตัวแฟรย์เลย แต่ว่าน้องสาวคนเดียวของฉันกำลังตกอยู่ในอันตราย ถ้าฉันช่วยเธอไว้ไม่ได้ ฉันก็คงไม่มีทางที่จะช่วยอะไรใครได้ทั้งนั้น! และอีกอย่างพวกมันต้องถูกทำลาย ใครจะยอมให้มีผู้เสียสละอย่างนี้กัน!” แลนด์พูดอย่างแน่วแน่

            เบิร์นมองตาแลนด์ เขาสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นและแววตาของเขาไม่ได้โกหกเลย เขาจึงยิ้ม…

            “ปราสาทของพวกมันอยู่ที่กลางเมืองแห่งนี้ ฉันจะพาไปให้มั้ยละ อย่างน้อยๆเราก็มีเป้าหมายเดียวกันแลนด์ ของฉันคือการช่วยเหลือแฟรย์ ส่วนนายคือน้องสาวนาย ส่นเป้าหมายร่วมกันคือทำลายไฟเออร์ไคซิสให้พินาศสิ้น” เบิร์นพูดเสริมขึ้นมา

            “พวกมันจะอยู่ในปราสาทซึ่งอยู่ถัดจาก Route of Fire (ถนนแห่งเปลวเพลิง) ซึ่งเป็นเส้นทางที่อันตรายมากๆ รายล้อมไปด้วยสมุนของพวกมัน และนักฆ่าที่แข็งแกร่งมากๆ แต่ทว่า ถ้าเป็นพลังของทั้งฉันและนายต้องสามารถผ่านมันไปได้อย่างแน่นอน ไปกันเถอะแลนด์!”  เบิร์นขยายความขึ้นอีก

            “ได้เลยเบิร์น ตอนนี้เราเป็นสหายกันแล้วนะ!” ชายหนุ่มทั้งสองกำหมัดและชกหมัดแลกหมัดกันแสดงถึงมิตรภาพอย่างแท้จริง ส่วนอีฟที่นั่งมองดูอยู่ ก็เผยยิ้มแย้มอย่างสดใส

            “ไปบุกปราสาทของไฟเออร์ไคซิสกัน!!”

          เช้าวันรุ่งขึ้น..

            ทั้งสามคนลุกขึ้นตื่น ล้างหน้าล้างตาอยู่ที่ริมแม่น้ำในป่าแห่งนั้น ทั้งสามคนช่วยกันดับไฟและเตรียมตัวพร้อมที่จะออกเดินทาง

            “พร้อมนะทุกคน?”  เด็กหนุ่มผมสีแดงหันมาถามความพร้อมของเพื่อนพ้องของเขา ทุกคนพยักหน้าตอบ จากนั้นจึงเริ่มออกเดินทางกันโดยทางเท้า ทั้งสามคนเดินตรงออกจากป่าไปยังใจกลางแห่งโลกใบนี้ แต่ในระหว่างทางที่จวนจะถึง ถนนแห่งเปลวเพลิงที่เป็นทางเชื่อมกับตัวปราสาทกับพื้นดิน เบิร์นเริ่มสะกิดใจอะไรบางอย่างได้

            “ฉันว่ามันแลจะราบรื่นไปหรือป่าว?” เขาเปิดด้วยคำถาม  

          “มันก็ดีแล้วไม่ใช่เหรอ?” แลนด์ตอบโดยที่พยุงร่างของอีฟที่เริ่มเหนื่อยล้า  

          เบิร์นพยักหน้าเห็นด้วย และพูดว่า “มันก็จริงแต่ว่าปกติแล้วมันไม่น่าจะเป็นอย่างนี้ นี้มันรังของศัตรูนะ มันจะเดินทางง่ายกันเกินไปแล้ว เดินไปอีกไม่กี่ร้อยเมตรก็ถึง Route of Fire แล้วนะ ยังไม่เจอศัตรูเลยซักกะคน”

            แลนด์พยักหน้าเห็นด้วยและถามกลับไปว่า “ดูเหมือนว่านายจะรู้ดีจังเลยนะ นี้คงเป็นผลจากการที่แอบบุกมาหลายครั้งอย่างนั้นเหรอ” 

           เบิร์นพยักหน้าตอบและพูดเสริมไปอีกว่า “ไม่เชิงหรอก จริงๆแล้วนั่นเป็นบ้านของฉันเอง ดังนั้นแล้ว Route of Fire ก็เหมือนสวนหลังบ้านของฉันแหละ” 

          คำพูดของเขามันให้แลนด์ตะลึงอ้าปากค้าง และชี้ไปยัง เส้นทางที่เป็นเหมือนทางเดินโดยมีไฟรอบล้อมทอดยาวยังตัวปราสาทที่อยู่บนเกาะลอยฟ้าที่เห็นอยู่ไกลๆ “นั่นมันบ้านของนายอย่างนั้นเหรอ!” เบิร์นพยักหน้าโดยที่ไม่ตอบอะไร เขาเพียงแค่กวักมือให้ตามเขามาทางนี้

            เมื่อทั้งสามเดินทางกันมาถึง ปากทางของถนนแห่งเปลวเพลิง ในขณะที่จวนจะก้าวข้ามไปนั้น อยู่ๆ ก็เสียงประหลาดดัง วี๊ดๆๆ แสบแก้วหูเป็นอย่างมากจนพวกเขากลับล้มคุกเข่าปิดหูและร้องโอยด้วยความเจ็บปวด ซักครู่หนึ่งเสียงนั้นก็หายไป ทั้งสามโล่งใจ ไม่มีอะไรแสบแก้วหูอีกต่อไปแล้วแต่ก็สัมผัสได้ถึงอันตรายครั้งใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น  พวกเขาหันไปมองที่ถนนก็พบว่า เปลวไฟที่ห้อมล้อมถนนกับตัวถนนนั้นเอง มันได้กลายสภาพเป็น พื้นที่รูปวงกลมขนาดใหญ่ รอบข้างล้อมไปด้วยกำแพงไฟสูง และที่สำคัญพวกเขาทั้งสามคนถูกห้อมล้อมในกำแพงไฟอย่างจนตรอก

            เปาะ!

            เสียงดีดนิ้วดังขึ้น ทันใดนั้นก็มีกรงห้อยลงมาจากวงแหวนเวทย์ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า เป็นกรงขนาดที่ต่างกัน เล็กหนึ่งใหญ่หนึ่ง และภายหลังกำแพงไฟก็ปรากฏเหล่าทหารกล้าของเบรนขึ้นมารายล้อมรอบพื้นที่ รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 1000 คนได้

            พวกแลนด์ตกใจกับภาพที่ได้เห็นเป็นอย่างมาก และในระหว่างที่กำลังมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ก็มีลูกไฟขนาดใหญ่ตรงลงมาตรงหน้าพวกเขาจนระเบิด ผลักร่างของพวกเขาทั้งสามกระเด็นออกไปคนละทิศคนละทาง ภายใต้เปลวไฟนั่นปรากฏสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายมนุษย์อยู่ เมื่อกลุ่มควันนั้นเริ่มเจือจางก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่านั้นคือ เบรน!

            เบรน!  เบิร์นตกใจจนร้องเรียกชื่อเขาออกมา และตะโกนถามกลับไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว “แกคิดจะทำอะไร!”

            เบรนยิ้มตอบพร้อมกับยักไหล่หยอกล้อ และตอบกลับไปว่า “ก็เหมือนทุกที ที่แกไม่เคยจะทำสำเร็จยังไงล่ะ” คำพูดนั่นกระตุกต่อมโมโหของเบิร์นจนขีดสุด จนทำให้เขาพุ่งกระโจนเข้าไปโจมตีอย่างไม่ยั้งคิด เขาชักดาบออกมา ไล่ฟาดฟันเบรนอย่างต่อเนื่อง แต่ว่าการโจมตีที่บ้าคลั่งราวกับพายุของเบิร์นนั้นไม่อาจที่จะสร้างบาดแผลให้เบรนได้เลยแม้แต่แผลเดียว เขาเพียงแค่หลับตาเอี้ยวตัวเบี่ยงหลบวิถีดาบไปได้อย่างสบายๆ การโจมตียังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง จนวินาทีเบิร์นจับดาบด้วยสองมือและยกเพื่อขึ้นฟันลงอย่างรุนแรง เบรนก็แค่ถอยหลังไปหนึ่งก้าวก็สามารถหลบไปได้อย่างสบายๆ  แถมเขายังแบมือวางตรงหน้าของเบิร์น กำแน่นจนเกิดแสงสีแดงจางๆ และแบออก เกิดเปลวไฟพุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา ซัดร่างของเบิร์นกระเด็นออกไปพร้อมๆกับเผาไหม้ร่างกายเขา แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรมากเพราะร่างกายของเขาทนเปลวไฟได้เป็นอย่างดีอยู่แล้ว

            เบรนยิ้มและ พูดขึ้นว่า  “นี้คือลานประลอง ฉันกับพวกนายใครกันแน่ที่จะได้ครองโลกนี้กันแน่ ในการต่อสู้นี้ทางฉันมีตัวประกันทั้งสอง พวกแกจะเอายังไงล่ะ? จะสู้ไปด้วยช่วยตัวประกันไปด้วยอย่างนั้นเหรอ? ไม่มีทาง! เพราะพวกแกไม่มีทางเอาชนะฉันได้อยู่แล้ว และถ้าคิดจะออกจากลานประลองนี้ บรรดาลูกน้องของฉันก็จะจัดการพวกแกเอง เอาล่ะไม่มีทางที่จะรอดไปได้แล้วพวกแก เลือกวิธีตายของพวกแกมาซะ”

            สถานการณ์เริ่มตึงเครียด จนกระทั่งเบิร์นเหลือบไปเห็นสิ่งที่อยู่ในกรงทั้งสอง ปรากฏเป็น แฟรย์ที่อยู่ในกรงเล็ก ส่วนในกรงใหญ่ก็พบเด็กสาวตัวเล็กผมสีแดงเข้มนอนหมดสติอยู่ เขาตกใจเป็นอย่างมาก และหันไปปรึกษาแลนด์

            “เด็กคนนั้นคือน้องสาวของนายหรือเปล่า?” เบิร์นหันมาถาม

          ทำให้แลนด์เพ่งไปที่กรงที่มีขนาดใหญ่กว่าฉุนขาดและตอบกับไปว่า 

          “จัดการไอ้สารเลวนั่นเลยเบิร์น คงต้องใช้สิ่งนั้น……เราซ้อมกันมาทั้งคืนแล้ว!” เบิร์นพยักหน้าตอบ

 

            เมื่อเข้าใจตรงกันแล้ว ทั้งแลนด์และเบิร์นก็วิ่งตรง ไปยังเป้าหมายที่อยู่ตรงหน้า โดยมีเบิร์นวิ่งนำหน้าบังแลนด์จากมุมสายตาของเบรนไว้ แลนด์ที่วิ่งตามหลังมาใช้มือกุมอกจนเกิดแสงสว่างขึ้น จากแสงนั่นปรากฏปีกสีเหลืองที่สวยงามจากกลุ่มก้อนพลังที่มือของเขา จากนั้นทั้งแลนด์และเบลจังพูดพร้อมเพรียงกัน  Soul Linked!

            ทันใดนั้นท่าทางของแลนด์ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่ลักษณะภายนอกที่เส้นผมเปลี่ยนสี ดวงตาดูเป็นประกายสีเหลืองอมเขียว แถมเขาดูสุขุมเยือกเย็นขึ้น ทั้งสองเปลี่ยนท่าทีเป็นการโจมตีที่ต่อเนื่องและประสานกันอย่างดี ทั้งคู่ต่างพากันสลับโจมตี แลนด์กับเบิร์นสลับกันโจมตีอย่างต่อเนื่อง ไม่มีหยุดพักแต่กยังคงไม่เป็นผล เบรนก็ยังหลบได้อย่างง่ายดาย เขาเพียงแต่ดูท่าทีของทั้งสองคนอย่างช้าๆ จนพบช่องว่างระหว่างการโจมตีประสานที่ ทั้งสองคนกำลังหมุนตัวจะเข้าออกโจมตี เขาจึงยิงไฟสวนกลับมาทันที

            ตามคาด! มันตรงกับแผนที่เบิร์นได้วางไว้ พอดีทั้งสองคนมองตากันก็รู้ได้ทันทีว่าอยู่ในแผนแล้วจึงกระโดดแยกจากกันทันที ทำให้ไฟนั่นพุ่งผ่านทั้งสองคนไปยังกรงขังที่อยู่ด้านบน ซึ่งมันทำให้เบรนตกใจเป็นอย่างมากที่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น 

          Fire style: Flame control!

            เบรนใช้วิชาของเขาทำให้เปลวไฟที่ปล่อยออกไปนั้นเปลี่ยนทิศทางออกไปยังด้านนอกได้อย่างสบายๆ สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความไม่ประทับให้กับเบิร์นเป็นอย่างมาก เพราะมันผิดจากแผนที่เขาได้วางไว้อย่างสิ้นเชิง เบรนยิ้มและพูดขึ้นว่า

           “รู้แล้ว..พวกนายใช้แผนโดยการโจมตีล้อมวงแบบ2-1และเปลี่ยนทิศทางของฉันไม่เรื่อยๆจนถึงมุมที่ตนต้องการและเปิดช่องว่างให้ฉันโจมตีแต่การโจมตีนั่นเป็นตัวหลอก จริงๆแล้วคือให้ทำลายกรงนั้นสินะ ไม่มีทาง!”

            ชิ  เบิร์นไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาหันมามองหน้าแลนด์ แลนด์ก็พยักหน้าตอบ จากนั้นเบิร์นโยนรูนลูกไฟขึ้นไป รูนนั่นค่อยๆเปล่งแสงสว่างสีแดงฉานลุกไหม้ดั่งเปลวไฟอันร้อนระอุ จนระเบิดออกกลายเป็นพายุเพลิงพุ่งตรงไปยังกรงทันที  

            ลูกไฟนั้นรุนแรงขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก มันพุ่งตรงไปยังกรงที่ยังที่อยู่ด้านบนอย่างรวดเร็ว  แต่ทว่าเมื่อเบรนใช้วิชาควบคุมไฟอีกครั้ง  เปลวไฟนั้นก็แยกออกไปสองทางและพุ่งออกจากเป้าหมายไปอย่างน่าเสียดาย เบิร์นเห็นแล้ววิเคราะห์อย่างละเอียดและเดินไปซุบซิบกับแลนด์อยู่สองคน

            จากนั้นแลนด์ก็สลับตำแหน่งกับเบิร์น เขาขึ้นมายืนนำหน้า และพูดว่า

           “ถ้าเจอแบบนี้ละจะเป็นยังไง”  จากนั้นเขาโยนรูนแสงของเขาขึ้นไป มันแตกออกกลายเป็นลูกศรเวทย์สีเหลืองสว่างพุ่งทะยานขึ้นท้องฟ้าไป จากนั้นเบิร์นก็กระโดดตามขึ้นไปหมุนควงอย่างรวดเร็วเกิดเป็นเปลวไฟรอบตัวเขา และเขาเตะเข้าที่ลูกศรแสงของแลนด์อย่างรุนแรง

            อีฟอยู่ๆก็อธิบายท่าไม้ตายขึ้นมาว่า “โดยปกติแล้วรูนของแต่ละนั้น จะมีลักษณะเฉพาะตัว ตัวอย่างเช่นธาตุไฟจะเป็นการเพลิงเผาผลาญทำลายล้าง ส่วนของแลนด์ ธาตุแสงนั้นคือลูกศรแสงที่พุ่งทะยานไปได้อย่างรุนเร็วยังไงล่ะ ถ้านำพลังทั้งสองมาประสานกันอย่างลงตัว จะเกิดเป็นพลังที่ทำลายล้างอย่างรวดเร็วที่เรียกว่า”

            Lighting Tornado!            

           ลูกศรแห่งแสงพุ่งตรงไปยังกลางโซ่ที่เชื่อมกรงทั้งสองไว้อยู่อย่างรวดเร็ว แถมพลังทำลายรุนแรงมากกว่าเดิม ด้วยการพลังเสริมจากเบิร์นทำให้ยิ่งรุนแรงขึ้นเป็นอย่างมาก

            “วิชาควบคุมไฟของนายจะใช้ได้ต่อเมื่อนายมองเห็นไฟนั้นอยู่ แต่ถ้ามันเคลื่อนที่เร็วขนาดนี้จนนายมองไม่ทันล่ะจะเป็นยังไง”  เบิร์นพูดท้าทาย

            เบรนยิ้มตอบ และตอบกลับไปว่า “ก็แค่มองจุดสุดท้ายที่มันเป็นเป้าหมายสิวะ!”

            Fire style: Flame control!

            พลังประสานของแลนด์กับเบิร์นนั้นแตกตัวออก แยกเป็นพายุไฟกับลูกศรแห่งแสงออกไปคนละทิศทาง เบรนสามารถหยุดพลังของทั้งสองได้อย่างสิ้นเชิง แต่ทว่าเหนือความคาดหมายทั้งแลนด์และเบิร์นกระโดดขึ้นสูงลอยเหนือพลังทั้งสองที่แยกออกจากกัน  และเตะเข้าไปอย่างรุนแรง จนมันเคลื่อนที่พุ่งตรงไปยังกรงขังได้อย่างแม่นยำทั้งคู่ จนเกิดประกายไฟขึ้น เบิร์นรีบพุ่งกระโจนเข้าไปในกรงเล็กทันทีแต่ทว่ามันเกิดระเบิดขึ้น!

            “เบิร์น!!”  แลนด์ร้องเรียกในขณะที่เขาช่วยของเด็กสาวได้แล้ว

            อีฟวิ่งตรงเข้ามาหาแลนด์ และบอกว่าเธอจะดูแลรินเอง แลนด์จึงฝากน้องไว้กับเธอ และวิ่งเข้าไปดูสถานการณ์ของทางเบิร์นบ้าง

            จากการระเบิดทำให้เกิดควันฟุ้งกระจายไปทั่ว ปรากฏร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งยืนนิ่งอย่างสง่าอยู่ในกลุ่มควันนั่น และเมื่อมันจางลงก็เห็นเป็น เด็กชายผมสีแดงอมส้ม ดวงตาสีแดงส้มลุกไฟดุจเปลวเพลิงที่แฝงไปด้วยมุ่งมั่น ยืนอยู่เขายืนถือดาบที่ลุกไหม้อยู่

            ภาพที่เห็นมันทำเบรนโมโหเป็นอย่างมาก จนแววตาของเขาเปลี่ยนไป มันมีลวดลายคล้ายกับรูปเปลวไฟ

            Hell Firer! เพลิงนรก!

            เบิร์นสัมผัสได้ถึงอันตรายบางอย่างที่จะเกิดขึ้น จึงเบี่ยงตัวหลบออกอย่างอัตโนมัติ และแล้วมันก็เกิดขึ้นจริงๆ จากตำแหน่งที่เบรนมองเกิดเปลวไฟสีดำขนาดย่อมๆ ลุกไหม้ขึ้น เคราะห์ดีที่เบิร์นเบี่ยงหลบไปได้อย่างฉิวเฉียดจริงไม่ได้รับความเสียหายใดๆ เขาเริ่มวิเคราะห์เปลวไฟนั้น

            “นี้เหรอเพลิงนรก เป็นพลังที่น่ากลัวจริง แถมยังไม่มอดอีก” เขาพูดในใจ

            “มันไม่มีทางดับได้หรอก! มันจะเผาผลาญรูนยังไงล่ะ ถ้ารูนของเป้าหมายยังไม่หมดไปมันจะไม่ทางดับลงได้หรอก!” เบรนอธิบายให้ฟัง จนทำให้เบิร์นรู้สึกหมั่นไส้อยู่ในใจเล็กน้อย

          Fire Tornado!

            พายุหมุนไฟที่รุนแรงพุ่งตรงไปยังเบรน แต่ว่าเขาไม่แสดงท่าทีเดือดร้อนใดๆเลย เขาเพียงแต่ยืนมองลูกไฟนั่นอย่างเยือกเยือน จากนั้นเขาหลับตาลงจนสัมผัสได้ว่าทุกอย่างมันเงียบสงบลงราวกับไม่มีสิ่งใดเคลื่อนไหว มันเงียบซะยิ่งกว่าป่าช้าเสียอีก ทันใดนั้นเขาก็ลืมตาเผยให้เห็นลวดลายบนนัยน์ตาเปลวเพลิงที่สวยงาม  

          เพลิงนรก!

            เกิดเปลวไฟสีดำสนิทเผาผลาญ มันเผาพลังพายุหมุนเปลวเพลิงของเบิร์นได้อย่างสมบรูณ์แบบจนสลายหายไปอย่างสิ้นเชิง.. ซึ่งมันทำให้ทั้งแลนด์และเบิร์นต่างพากันตะลึงกับภาพที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ว่าเบิร์นกลับยิ้มอย่างชอบใจ และพูดว่า “มันต้องอย่างนี้สิ!” 

            “ดี! ถ้าชอบจะจัดให้อีก!”  เบรนเปิดฉากโจมตีใส่เบิร์นอย่างต่อเนื่อง โดยการจ้องบริเวณที่เขายืนอยู่และเผามันด้วยพลังของเขา เบิร์นวิ่งหนีวนไปรอบๆสนามๆ โดยที่มีเปลวไฟสีดำวิ่งวนตามเขาอยู่ตลอด

            Lighting Break!

            จู่ๆ ลำแสงสีเหลืองสว่างก็พุ่งตรงไปยังเบรนจนทำให้เขาจำต้องหลบการโจมตีและคาดสายตาไปจากเบิร์น ภายใต้แสงนั่นปรากฏร่างของแลนด์ขึ้นมา เขากระหน่ำโจมตีด้วยการฟันดาบของเขา แต่ว่าก็ไม่โดนเบรนเลยแม้แต่นิดเดียว ในระหว่างที่แลนด์กำลังปะทะกับเบรนอยู่ Fire Tornado

            การโจมตีประสานระหว่างแลนด์กับเบิร์น ทำให้เบรนถึงกับตกใจ พายุหมุนเปลวเพลิงที่หมุนควงเข้ามาจากด้านหลังของเบรน แต่ว่าเขามองไม่เห็น แลนด์ยิ้มหยิบรูนของเขาออกมา Lighting Break!! แลนด์พุ่งเข้าใส่เบรนทันที แต่ว่าเบรนก็ดันหลบได้ทันอีก แต่ถึงอย่างนั้นร่างกายของเขา หงายขึ้นและเสียหลัก จนเหลือบไปเห็นลูกไฟที่พุ่งมาจากด้านหลัง…

            ตูมมมมมมมมมมมมม

            การโจมตีของเบิร์นทำให้เกิดการระเบิดที่รุนแรง ทำให้เกิดกลุ่มควันฟุ้งกระจายไปทั่ว ภายใต้กลุ่มควันปรากฏร่างเงาของเบรน ที่คลุมไปด้วยออร่าให้เปลวเพลิงที่ร้อนแรง โดยสิ่งนั้นพัดควันทั้งหมดให้กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ปรากฏให้เห็นเป็นร่างของปีศาจขนาดใหญ่รูปร่างคล้ายมนุษย์ กำยำล่ำสัน ใส่ผ้าคลุมหัวไว้จนมองไม่เห็นว่าเป็นใคร ร่างกายประกอบไปด้วยเปลวไฟทั้งหมด

            “คอยดูให้ดีละนี้คือพลังของ เทพอัคคี!!”

 

 

Facing the Burning Flame II

 

 

 

 

 

 

 

 

 

03

 

“เทพ….อัคคี?”    เบิร์นตะลึงกับภาพที่เห็นตรงหน้าเป็นอย่างมาก จนมือไม้ของเขาสั่นเทา เรี่ยวแรงค่อยหายไปราวกับว่าถูกเจ้าปีศาจนั่นกลืนกิน

          “อะไรกัน เจ้ายักษ์นั่น?”  แลนด์มองที่กลุ่มพลังงานขนาดใหญ่ที่ห่อหุ้มร่างของเบรนอยู่ ในขณะเดียวกัน เขาก็แอบๆพารินหลบไปอยู่ที่ปลอดภัยกับอีฟที่มุมเวที ที่ห่างจากเปลวไฟราวๆ 5 เมตร

          “พวกเธอหลบอยู่ตรงนี้กันนะ …รออีกแค่แปปเดียวเท่านั้นแหละ เดี๋ยวก็จบแล้ว” แลนด์คุกเข่าพูดพลางลูบหัวริน ปลอบประโลมโดยความอ่อนโยน ภาพของสองพี่น้องที่รักกันกลมเกลียว ความรู้สึกที่แรงกล้านี้ส่งไปถึงอีฟที่นั่งอยู่ใกล้ๆ จนเผลอเผยอมยิ้มออกมา  

          จากนั้นแลนด์ลุกขึ้น หันหน้าไปเผชิญกับเบรนที่อยู่ตรงหน้า และกำลังจะก้าวขาเดิน

          “นายจะต้องรอดกลับมานะแลนด์…”  อีฟกระโดดโผ คว้าแขนของแลนด์มากอดไว้ และสะอื้นเล็กน้อย เขาเห็นมายิ้มตอบ และปาดน้ำตาของเธอ จากนั้นเขากำหมัดแน่นทุบเข้าที่กลางอกเขา  “สัญญาเลย!!” ทั้งคู่ยิ้ม ก่อนที่อีฟจะปล่อยแขนแลนด์ไป..

          “ขอโทษที่ทำให้เสียเวลานะ เบรน..”  แลนด์เดินตรงมาหาเบรน อีแลนเดอร์ที่ห้อยข้อมือของเขาเปล่งแสง มันขยายใหญ่ขึ้นเป็นดาบยาวรูปร่างคล้ายสายฟ้าสีเหลืองทอง แลนด์หันมองไปที่เบิร์นที่กำลังสั่นเทาอยู่ และส่ายหน้า เขาหันกลับมามองที่เบรน

          “เอาละนะเบลจัง Soul Linked!!”  

          ทันใดนั้นก็เกิดแสงสว่างวาบขึ้น ในเวลาเดียว ลำแสงที่เหลืองปนเขียวพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว พุ่งตรงไปยัง เบรนที่ยืนสบายใจอยู่

          Lighting Break!!

          ลำแสงพุ่งตรงปะทะกับเทพอัคคีอย่างรุนแรง..แต่ทว่าพลังของแลนด์ก็ไม่อาจจะผ่านการป้องกันของเทพอัคคีไปได้ เขาจึงกระเด็นออกไป เบรนยิ้มกระโดดตามขึ้นตามไปแทงเข่า แลนด์เบี่ยงตัวหลบได้ พลิกตัวหมุนฟันสวนกับไปทันที แต่เทพอัคคีก็ปัดดาบของเขาออกได้ ทำให้ร่างของแลนด์กระเด็นออกตามดาบของเขา แต่ว่าเขาได้ทิ้ง รูน ไว้สามลูก รอบๆเบรนที่กำลังลอยตัวอยู่กลางอากาศ

          Triangle Slash!!

          แลนด์พลิกตัวกับมา และพุ่งตรงมายังรูนที่เป็นสื่อกลางในการเคลื่อนอันรวดเร็วของเขาทันที เขาโจมตีต่อเนื่องโดยการ พุ่งฟันเป้าหมายสามครั้งต่อเนื่องในลักษณะสามเหลี่ยม  แต่การโจมตีทั้งหมดของเขาก็ไม่อาจจะสร้างรอยขีดข่วนใดๆให้กับเบรนได้เลย ในช่วงที่การโจมตีของแลนด์กำลังจะสิ้นสุด ลำแสงของเขากำลังจะค่อยเลือนรางหายไปนั้น เขาเหลือบไปเห็น เงาของฝ่ามือขนาดใหญ่ที่ห่อหุ้มไปด้วยเปลวเพลิงอยู่เหนือหัวของเขา  มันกำลังพุ่งลงมาตบร่างของเขาให้จมดินพริบตา

          ตูมมมม!!!

          จากการโจมตีที่รุนแรงของเทพอัคคีอัดร่างเล็กของแลนด์ กระเด็นร่วงลงไปกระแทกพื้นอย่างรุนแรงเกิดแรงสั่นเทือนมหาศาล พื้นแตกเกิดเป็นรอยแยกเป็นแนวยาวหลายสิบเมตร

          “แหลกไปแล้วสินะ หึหึ”  เบรนคิดอยู่ในใจ ในขณะที่กำลังกวาดสายตามองดูรอบข้าง เมื่อมองจนทั่วแล้ว เขาจึงตัดสินในมองขึ้นไปข้างบนเหมือนมีอะไรมาดลใจ ก็พบกับเบิร์นที่กำลังประคองร่างที่อ่อนแรงของแลนด์อยู่ ถึงแม้จะดูเจ็บหนักแต่พวกเขาทั้งสองกำลังลอยตัวอยู่บนท้องฟ้าเหนือศรีษะของเบรนด้วยปีกแห่งเปลวไฟที่ลุกไหม้อยู่กลางหลังของเบิร์น ซึ่งมันสร้างความตกใจให้กับเบรนเป็นอย่างมาก

          “คราวนี้ล่ะ พวกเราจะต้องชนะ!” เบิร์นได้กล่าวไว้ ก่อนที่เขาจะปล่อยร่างของแลนด์ทิ้งร่างดิ่งตรงสู่พื้น จากนั้นเขาก็พุ่งตรงมาหาเบรนด้วยปีกแห่งเปลวไฟคู่นั้น

          ย๊ากกกกกกก!! 

          เบิร์นกำลังรวบรวมพลัง เพื่อทุ่มให้การโจมตีครั้งนี้ของเขา

           “โอกาสมีครั้งเดียวนะเบิร์น! เราจะพลาดไม่ได้นะ” เสียงของแฟรย์ดังขึ้นในหัวของเบิร์น เขาพยักหน้าตอบ และพูดขึ้นมาว่า

           “คอยดูให้ดี พลังของฉัน” จากนั้นเขายกดาบของเขาขึ้นตั้งท่าพร้อมโจมตี เขาปล่อยรูนออกมาสี่ลูก มันลอยล้อมรอบดาบของเขา และแตกตัว ทำให้เกิดเปลวไฟห่อหุ้มดาบของเบิร์น เปลวไฟสีแดงอมส้มที่กำลังเคลื่อนที่หมุนวนห้อมล้อมรอบดาบ

          ท่าไม้ตาย! Burning Clash 

           จากนั้นเขาใช้พลังทั้งหมด จับดาบมั่นด้วยสองมือและ ฟาดทุกสิ่งที่อย่างใส่เทพอัคคี ที่ห่อหุ้มร่างของเบรนไว้อยู่ พลังทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรง เกิดเป็นกระแสไฟฟ้าสปาร์คกันอย่างรุนแรง ดันกันไปกันมาไม่มีใครยอมแพ้ต่อกันเลย

          “ฮ่าๆ พลังของแก ไม่สามารถผ่านเทพอัคคีของฉันได้หรอก!”  เบรนยิ้มและหัวเราะเยาะเย้ย ในขณะเดียวกันเบิร์นก็แอบยิ้มมุมปากเล็กน้อย

          เขาตะโกนขึ้นว่า “ตอนนี้ล่ะ แลนด์!!”

          Lighting Break!

          ลำแสงสีเหลืองสว่างขึ้นตรงหน้าเบรน จนทำให้เขามองอะไรไม่เห็นก่อนที่เขาจะทันรู้ตัวว่าเป็นการโจมตีของแลนด์มันก็ช้าเกินไปแล้ว

          “หึ! ดูถูกความเร็วของฉันมากไปแล้ว”  เบรนยิ้ม เขาใช้พลังควบคุมเทพอัคคีให้อยู่ในรูปแบบป้องกัน แต่ทว่า เทพอัคคีไม่ยอมขยับตามคำสั่งของเขา เขาตกใจและหันขึ้นไปเห็นเบิร์นที่ยืนเหยียบเทพอัคคีข้างๆดาบที่ปักไว้ของเขา มันกระตุกต่อมโมโหของเบรนเป็นอย่างมากจนเขาฉุนขาด

          จากความโมโหที่ถึงขั้นสุด เบรนจึงระเบิดเทพอัคคีทิ้งเสีย ทำให้เกิดการระเบิดที่รุนแรงและมีพลังทำลายมหาศาล ทำให้ทั้งแลนด์และเบิร์นได้รับความเสียหายจนกระเด็นออกมาในสภาพที่ยับเยิน จากความมหาศาลที่ได้รับทำให้แลนด์นอนนิ่งไปเลย ส่วนเบิร์นก็เจ็บหนักไม่แพ้กัน เขาค่อยๆพยายามดันตัวเองขึ้น แต่ก็ยังไม่มีกำลังมากพอที่จะทำได้        

          “พลังอะไรกันนะ เมื่อกี้” เบิร์นตกใจมากกับพลังที่มหาศาลที่ระเบิดจนทำให้การโจมตีประสานของเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลย เขาลุกขึ้นคุกเข่า กำมือแน่นและทุบลงพื้นอย่างรุนแรง กำปั้นแห่งความโกรธ ที่ไม่อาจจะทำอะไรได้ เขาได้แต่โทษตัวเองที่ไม่แกร่งพอ

          “มันไม่ใช่แบบนั้นหรอก!”  แลนด์ตะโกนขึ้นเสียงดัง เสียงของเขาทำให้ เบิร์นหยุดคิดทบทวน จากนั้นแลนด์จึงพูดต่อไปอีกว่า “ถ้านายไม่สามารถหยุดเขาได้ ก็ไม่มีใครที่จะแกร่งพอที่จะหยุดเขาได้แล้ว นายต้องทำให้ได้สิ นายต้องคิดว่าจะทำยังไงที่จะหยุดเขาให้ได้สิ!”

          จากคำพูดของแลนด์ มันกระตุ้นแรงใจให้กับเบิร์น จนเขาเผยรอยยิ้มที่อ่อนโยนและค่อยๆลุกขึ้นช้า หันหลังส่งมือให้แลนด์ ทั้งสองยิ้ม พวกเขาเข้าใจและรู้กันเป็นอย่างดี จากนั้นพวกเขากำหมัดและชนกันก่อนที่จะแบมือออกและเบิร์นก็ดึงร่างของแลนด์ขึ้นมาพร้อมกับพูดว่า “ฉันจะหยุดหมอนั่นได้อย่างแน่นอน” พร้อมรอยยิ้ม

          “พวกแกไม่มีทางที่จะหยุดฉันได้หรอก ไม่มีทาง!” เบรนที่ฉุนขาด เขากำลังคลั่งและระเบิดพลังออกมา เกิดเป็นเปลวไฟห่อหุ้ม ร่างกายของเขา 

          “ฉันจะต้องไปถึงอินฟริท” คำพูดทิ้งท้ายก่อน เปลวไฟจะระเบิดออกจากร่างของเขาและห่อหุ้มร่างกายของเขาไว้ พุ่งเข้ามาโจมตีเบิร์นกับแลนด์ทันที

          “วิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์!” ท่าไม้ตายใหม่ของเบรน ให้ขณะที่เขาพุ่งตรงไปยังเป้าหมาย เปลวเพลิงที่ห่อหุ้มร่างกายของเขาไว้ ค่อยๆเปลี่ยนรูปร่างจนกลายวิหคเพลิงขนาดใหญ่ ที่สามารถกลืนกินทั้งสองคนและเผาให้กลายเป็นผงธุลีได้ในพริบตา

          “ไม่ยอมหรอกน่า”  แลนด์กุมมือซ้ายของเขาไว้ที่หัวใจรวบรวมพลังอีกครั้งเกิดเป็นก้อนพลังแสงสีเหลืองทอง ดวงตาและเส้นผมของเขากลับมาสู่สีเดิมอีกครั้ง นัยน์ตาสีแดง ส่องสว่างสะท้อนกับแสงอาทิตย์เกิดเป็นประกายแสงที่สวยงาม เขาดึงพลังออกมาจากหัวใจ ก้อนพลังงานเกิดปีกสีเหลืองทองสว่างวาบทั่วท้องฟ้า เขาใช้มือแห่งแสงรับพลังวิหคเพลิงศักดิ์สิทธิ์ พลังทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรง มันดันกันไปดันกันมาไม่มีใครยอมแพ้ต่อกัน

“พวกแกไม่มีทางหยุดฉันได้หรอกน่า!” เบรนพูดขึ้นมาพร้อมกับหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง พลังของเขาค่อยๆดันแลนด์ให้ถอยหลังไปเรื่อยๆ

ตูมมมมมมมมมมมมมมม

          ดูเหมือนว่าพลังของแลนด์จะไม่เพียงพอที่จะหยุดเบรนไว้ได้ ทั้งแลนด์และเบิร์นรับการโจมตีที่รุนแรงของวิหคเพลิงที่ระเบิดออกเป็นวงกว้าง สร้างความเสียหายได้มหาศาล ทุกสิ่ง รวมถึงสนามประลองทุกทำลาย ความเสียหายลุกลามไปทั่วพื้นที่ คลื่นความร้อนและพลังของเบรนแผขยายออกไปหลายสิบเมตร มันกว้างพอที่จะลามไปถึงรินกับอีฟ พวกเธอทั้งสองกำลังตกอยู่ในอันตราย ก็ปรากฏเงาของชายหนุ่มยืนบังคลื่นพลังนั้นไว้ เขาใช้ดาบของเขาต้านคลื่นพลังของเบรน  ตอนนี้คลื่นพลังทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรง ดูท่าทางชายหนุ่มคนนั้นจะบาดเจ็บสาหัสน่าดูจนแทบไม่มีแรงที่จะต่อต้านได้เลย

          “ฉันช่วยเอง!” เสียงของแลนด์ดังขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของเขา ต่อหน้าพวกอีฟ เขายิ้มให้พวกเธอ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเลือด เนื้อตัวอาบไปด้วยเลือดแดงฉาน เสื้อผ้าขาดเป็นริ้วๆตามตัว ขาทั้งสองสั่นเทา จนยืนแทบจะไม่ไหว เขาหันหน้ากลับไป หวดอีแลนเดอร์เข้ากับคลื่นพลังของเบรน ทั้งแลนด์และเบิร์นต่างก็สภาพไม่ต่างกัน พวกเขาบาดเจ็บมากเกินไปแล้ว

          “ยอมแพ้ และก็หายไปจากโลกนี้ซะพวกแก!”  เบรนตะโกนเสียงดังลั่น พร้อมๆกับพลังที่เพิ่มขึ้นของเขา มันผลักทั้งแลนด์และเบิร์นกระเด็นออกไป 

          อ๊ากกก  ทั้งสองร้องด้วยความเจ็บปวดหลังจากที่ร่างที่โดนซัดลอยขึ้นฟ้าแล้ว หล่นลงมากระแทกกับพื้นอย่างรุนแรง ความเจ็บปวดของทั้งสองคนสร้างความพอใจให้กับเบรนเป็นอย่างมาก

          ทั้งสองคนนอนแน่นิ่งไม่มีทีท่าว่าจะขยับแม้แต่นิดเดียวร่างกายคงจะชาจนหมดความรู้สึกไปแล้ว เบรนยิ้มและค่อยๆเดินตรงมายังเบิร์นช้าๆ ใช้มือซ้ายบีบคอเบิร์นและยกร่างเขาขึ้น เบิร์นได้สติกลับคืนมาเพราะกำลังจะขาดหายเขาดิ้นทุรนทุรายคามือของเบรน พยายามที่จะทุบเตะถีบเบรนก็ไม่เป็นผล มือไม้ของเขาอ่อนแรงเกินไป และในขณะที่เขากำลังจะหมดลมนั้น แลนด์ค่อยๆลุกขึ้นช้าๆและพูดขึ้นมาว่า

          “นายยังไม่ยอมแพ้ ใช่ไหม แค่นี้คือพลังทั้งหมดของนายอย่างนั้นเร้อะ? ไหนบอกว่าจะหยุดเขาและปกป้องโลกนี้ไว้ให้ได้ยังไง แค่นี้ก็ยอมแพ้แล้วอย่างนั้นเร้อะ เบิร์น!”

          เบรนไม่สนใจเสียงของแลนด์ เขาใช้มืออีกข้างทะลวงเข้าไปที่กลางอกของเบิร์น เกิดเป็นวงแหวนเวทย์และมือของเขาก็ค่อยๆทะลุเข้าไป เบิร์นที่ไม่อาจจะทำอะไรได้  เขาได้แต่คิดว่าตัวเองที่ไร้พลังอยู่ในใจ

          “ทำไมนายถึงไม่สู้อย่างนั้นเหรอ เบิร์น?” เสียงของแฟรย์ดังขึ้นให้หัวของเบิร์น

          เขาตอบกลับไปว่า “พวกเขาไม่สามารถเอาชนะเขาได้ แฟรย์เธอก็รู้”  แฟรย์ส่ายหน้า และตอบเขา 

          “นายใช้พลังทั้งหมดแล้วอย่างนั้นเหรอ?”  เบิร์นอึ้งไปเล็กน้อย

          ก่อนที่แฟรย์จะยิงอีกคำถาม เขาก็พูดแทรกขึ้น “ไม่มีทางหรอก! ถ้าต้องปล่อยให้โลกเป็นอย่างนี้ ถ้าฉันต้องเสียเธอไป ถ้าโลกจะเป็นของเบรน ฉันขอสู้จนตัวตายที่นี้ยังจะดีเสียกว่า!” 

          ดวงตาของเบิร์นลุกโนขึ้นอีกครั้ง ประกายไฟแสดงถึงความร้อนแรงและแน่วแน่ของจิตใจของ  ซึ่งทำให้แฟรย์ยิ้มออกมา

          ในขณะที่เบรนกำลังดำเนินการ ดึงแฟรย์ออกมาจากร่างของเขา ก็เกิดเปลวห่อหุ้มร่างกายของเบิร์น มันร้อนมากจนเสียจนเบรนต้องสลัดมือจากร่างของเขา กลุ่มเปลวไฟที่ลุกไหม้เบิร์นนั้น พาร่างของเขาลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าสูง และค่อยๆขยายตัว จนแตกออกปรากฏเป็น

          ร่างของสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายมนุษย์ สูงราวๆ 167 ลอยตัวอยู่กลางอากาศ เขาสวมชุด คลุมยาวสีเหลืองนวล มีแทบคาดตามขอบชายเสื้อและกางเกงสีดำ รอบๆกายเขามีผ้าบางๆสีขาว ประดับอยู่ นัยต์ตาสีแดงฉาด ที่พร้อมจะเผาไหม้ทุกสิ่ง เส้นผมยาวสลวยตรงปะบ่า และเขาทั้งสองข้างปะดับอยู่เหนือหูทั้งสองของ เขาของเขาลุกไหม้เป็นเปลวเพลิงสีส้มที่สว่างไสว เขาถือดาบยาวสีแดงสด ยาวประมาณราวๆเมตรครึ่ง เป็นดาบสองคมตรง ปลายแหลม เป็นที่มีใบมีดกว้างถึง 12 เซนติเมตร

          เขาสบัดผมที่ยาวสลวยของเขา เส้นผมของเขาเป็นดั่งเพลิงที่เผาผลาญ ตามร่างกายของเขาก็มีเปลวไฟลุกขึ้น ที่พร้อมจะปะทุได้ตลอดเวลา ซึ่งภาพที่ทุกคนเห็นทำให้ พวกเขาต่างพากันตกใจ

          รินที่หลบอยู่กับอีฟ เห็นภาพ ก็หัวเราะและพูดขึ้นมาว่า “ฮ่าๆ พี่ชายกลายร่างเป็นพี่สาวแล้ว” เสียงของเธอมันกระตุกความคิดของแลนด์ เขานึกเรื่องราวดีๆ จนเขารู้ได้ว่า นั้นคือ  “เบิร์น”

          เบิร์นในตอนนี้ ร่างกายของเขาดูเหมือน อวตารของเทพให้เปลวเพลิงเลยก็ว่าได้ ภาพที่ปรากฏตัว ความงดงามความ สง่างาม และทรงพลัง

เบรนที่เห็นรูปร่างของเบิร์นที่เปลี่ยนไปนั้น เขาโกรธมาก ใบหน้าที่บูดเบี้ยว กำหมัดนั่นจนเส้นเลือดปูด “แก! ทำไมอย่างแกถึงกลายเป็น อินฟรีทได้!” 

แต่เบิร์นนิ่งไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงลอยอยู่กลางอากาศมองดูเบรนที่โกรธกริ้วอยู่ แลนด์ยิ้มยกนิ้วขึ้น ชี้หน้าเบรน และตอบกลับไปว่า

 “เพราะเขาไม่เคยยอมแพ้ยังไงล่ะ! เพราะเขาตั้งใจฝึกฝนเพื่อที่จะเอาชนะแก เบรน เขารู้ดีว่าเขาไม่อาจจะเขาชนะนายได้ แต่เขาก็ไม่มีท่าทางว่าจะยอมแพ้ยังคงสู้ต่อไป แม้ตัวจะต้องตายนั้นยังไงล่ะ เหตุผลที่ทำให้เขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าแก! เบรน”

กรอดดด!! เบรนโมโหจนถึงขีดสุด เขาผู้ทิ้งท้ายไว้ว่า “แกนะ! เป็นใครกัน?” แลนด์ยิ้มตอบพลางยกหัวแม่โป้งของมือซ้ายสะกิดที่จะจมูกของเขา เป็นท่าประจำเวลาที่เขารู้สึกมั่นใจ และตอบกลับไปว่า

 “ฉันก็แค่คนที่เดินทางผ่านมา อย่าไปสนใจเลย!” สิ้นเสียงเบรนระเบิดพลังออกมา กลายเป็นวิหคเพลิงขนาดใหญ่และพุ่งเข้ามาโจมตีอย่างรวดเร็ว

วิ้ง!!  เกิดแสงสีแดงสว่างขึ้นจากในกระเป๋ากางเกงของเบิร์น มีวัตถุกลมลอยขึ้นมา มันคือรูนสีแดงสด มันเปล่งแสง รับกับแสงของอีแลนเดอร์ จากนั้นมันก็ลอยเขามาในหัวใจของเขา และหายไป แลนด์ยิ้ม และพูดขึ้นมาว่า 

          “ลุยกันเถอะ เบิร์น!” สิ้นคำพูดของแลนด์ เขายกอีแลนเดอร์ขึ้น ตั้งท่าพร้อมต่อสู้ จู่ๆ แสงสีแดงก็วาบขึ้นมาจากภายในร่างกายของแลนด์

          วิหคเพลงที่กำลังเข้ามาโจมตีพวกเข้าอย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่มันใกล้จะถึงตัวแลนด์ที่เป็นเป้าหมายแล้ว เบิร์นของปรากฏต่อหน้าเขา และใช้ดาบยาวสีแดงเลือด สะบัดหนึ่งครั้ง เกิดกระแสลมที่รุนแรง พัดเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ให้หายไปต่อหน้าต่อไป อย่างไร้ร่องรอย

          “แข็งแกร่ง”  เขาพูดขึ้นมาเบาๆ อึ้งอยู่กับความยอดเยี่ยมกับภาพตรงหน้า มันทำให้เขารู้สึกตื่นเต้น 

          “มันคือการประสานวิญญาณขั้นสูง หรือที่เราเรียกกันว่า Hyper Linked มันเป็นที่สุดในการประสานพลังกับสปิริตอย่างพวกฉัน ซึ่งก็ได้มาซึ่งร่างอวตารของสปิริตตนนั้นและพลังอันแข็งแกร่งอย่าง ดีไวนเนอร์ก็ถูกพัฒนากลายเป็นอาวุธของสปิริตตนนั้น แต่การที่จะทำอะไรแบบนั้นได้ก็คงต้องได้รับความเชื่อใจจากสปิริตตนนั้นอย่างมากเลยล่ะ”  เบลพูดขึ้นในหัวของแลนด์

          เขายิ้ม แต่เบลก็พูดขัดขึ้นทันที “อย่างนายอีกนานกว่าจะทำอะไรแบบนั้นได้ แลนด์!”

          โธ่…  เขาอุทานในใจเบาๆ ก่อนที่จะหันกลับมามีสติอีกครั้งกับการต่อสู้ เขาเหลือบขึ้นไปมองฟ้าก็พบ เบิร์นกับเบรนที่กำลังปะทะกันอยู่ ต่างฝ่ายต่างพากันโจมตีด้วยเปลวเพลิง ช่างเป็นการต่อสู้ที่ร้อนระอุ เบรนโจมตีด้วยหมัดเพลิง แต่เบิร์นก็หยุดไว้ได้ด้วยมือเปล่า จากนั้นเบรนจึงหมุนร่าง กวาดเท้าและเตะเข้ากลางลำตัวของเบิร์นพอดี ความเร็วของการโจมตี นั้นมากพอที่จะทำให้เบิร์นไม่อาจจะป้องกันได้ทัน

          “Burnnig Step!” เบิร์นโดนเตะเต็มๆ แต่ทว่าร่างกายเขาก็ระเบิดออกกลายเป็นเปลวไฟที่เผาผลาญ ร่างกายของเบรนอย่างต่อเนื่อง จนเขาร้องด้วยความเจ็บปวด

          เบิร์นที่ถอยออกมาเขาหลบมายืนข้างแลนด์ สบตากันกับเขา และพูดว่า “จัดการมันเลย!” จากนั้นทั้งสองคนก็ตั้งท่าพร้อมที่จะโจมตี

          “Flame tackle!”  เบรนพุ่งมาด้วยพลังแห่งเปลวเพลิงที่รุนแรงตรงเข้ามาหาทั้งสองคนอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าเบิร์นได้พุ่งออกไปรับการโจมตีของขาด้วยดาบเพลิงสีแดงฉานของเขา

          “ฉันจะถ่วงเวลาให้ และเมื่อฉันให้สัญญาณ จัดการเขาทันที แลนด์”  เบิร์นออกคำสั่งให้ ในขณะที่เขาก็พยายามที่จะต้านพลังของเบรนไว้ คราวนี้เขาสามารถรับเปลวเพลิงของเบรนได้อย่างสบายๆ เบรนไม่สามารถที่จะดันเข้ามาได้เลย และเมื่อเบิร์นเห็นช่องว่างของเปลวเพลิงของเบรนเขาจึงรีบชิงโอกาส โดยการสไลด์ขาออกไปด้านข้าง พร้อมกับหมุนตัวออกเพื่อเบี่ยงหลบการโจมตี จากพ้นแล้ว ทำให้เบรนเสียหลักเนื่องจากเป็นการโจมตีที่สุดตัว ผนวกกับความบ้าคลั่ง เบิร์นตั้งหลักมั่นและหวดดาบของเขาที่ลุกโชนไปด้วยเปลวไฟที่แดงอมส้มสว่างๆ เปลวไฟจากดาบของเขาปะทะกับเปลวไฟของเบรน พลังทั้งสองต่อต้านกัน แต่ไฟของเบิร์นนั้นเหนือกว่าอย่างมาก เขาซัดเบรนลอยขึ้นท้องฟ้าไปอย่างง่ายดาย

          “จังหวะนี้แหละ!”  เบิร์นให้สัญญาณ

          ทันใดนั้น แลนด์กระโดดลอยขึ้นไป พร้อมๆกับเบิร์นทีบินขึ้นไปอย่างรวด ทั้งสองคนหยิบ รูน ออกมา แลนด์ที่ทำหน้างงๆเพราะใช้ไม่เป็น จนเบลเครียดและกุมขมับ และตอบไปว่า 

          “นี่! นายเคยสังเกตอะไรบ้างไหมหะ? ตรงด้ามจับ ปลายของมันน่ะ! มันมีรูไว้ใส่รูนเพื่อเวลาที่ใช้ท่าไม้ตายไว้!”  แลนด์พยักหน้าตอบ และดำเนินการตามที่เบลได้กล่าวไว้ เขาใส่รูนเข้าไปที่อีแลนเดอร์ของเขา จากนั้นก็เกิดเปลวไฟลุกขึ้นท่วมอีแลนเดอร์

          อีแลนเดอร์เปลี่ยนรูปร่างไป กลายที่ขวานขนาดใหญ่สีแดงเลือด มันยาวเท่ากับส่วนสูงของเขา ใบมีดนั้นใหญ่โตมาก และอาจกว้างถึง 30 เซนติเมตรเลยก็ว่าได้ ส่วนเบิร์นเขาก็ถืออาวุธแบบเดียวกัน เขาพูดขึ้นว่า 

          “รูนหัวใจในการใช้ท่าไม้ตาย แลนด์! การที่นายใช้มันเท่ากับว่า นายกำลังใช้พลังของพวกเราอยู่! จัดการ!”  แลนด์พยักหน้า ตั้งท่ากลางอากาศพร้อมที่จะโจมตี ขวานของเขาเกิดแสงสว่างขึ้น เหมือนกับกว่าพลังกำลังค่อยๆหลั่งไหลเข้ามาในขวานของเขา และมันก็ค่อยๆสว่างขึ้นเรื่อยๆ จนขวานของเขาเรืองแสงสีแดงสว่างทั้งอัน

          MEDIGADO CROSS!

          สิ้นเสียง ทั้งสองคนระดมฟันขวานใส่เบรนไม่ยั้ง ความรุนแรงของเปลวเพลิงนั้นเขาทำลายเบรนจากเขาร้องด้วยความเจ็บปวด พวกเขาโจมตีจากทั้งสองด้านหน้าหลังทำให้เบรนไม่สามารถที่จะป้องกันได้เลย การโจมตีที่ต่อเนื่องของทั้งสองคน นั้นรัวจนไปถึงฮิตที่ 16 จากนั้นพวกเขาก็สบัดขวานให้เกิดกระแสลม ทันใดนั้นเกิดเปลวเพลิงขนาดใหญ่เขาทำลายเบรนอย่างรุนแรง จนเขาหมดสภาพและร่วงตกลงไปสู่พื้นด้านล่าง

          เบิร์นค่อยๆ พยุงแลนด์ลงมาสู่พื้นได้อย่างปลอดภัย ร่างของอินฟรีทได้หายไป เส้นผมที่สีอ่อนลงมา ชุดนักเรียนที่ขาดไม่มีชิ้นดี บาดแผลเต็มร่างกาย ส่วนแลนด์ก็ไม่ใช่น้อย เขากลับสู่สภาพปกติ ดวงตาสีแดงมองมาที่เบิร์น และเขายิ้ม พร้อมกับกำหมัดชนกันอีกครั้ง แสดงความยินดีหลังได้รับชัยชนะ จากนั้นแลนด์ก็สลบไป.

          วันรุ่งขึ้น

          แลนด์รู้สึกตัว เขาอยู่ที่ต้นไม้อีแลนเดีย ในห้องของเขา เขาลุกขึ้นขยี้ขี้ตา ตบหน้าสองสามทีเรียกสติ เขาเหลือบไปเห็นรินที่นอนกอดหมอนข้างอยู่บนเตียงของเขา เขายิ้มอย่างอ่อนโยนและลูบหัวเธอเบาๆ เธอขยับร่างกายเล็กน้อย ละเมอ พูดขึ้นว่า 

          “พี่แลนด์ พี่คือฮีโร่ของหนู” แลนด์ดีใจ จนเผยแววตาที่อ่อนโยน มือที่ลูกไล้เส้นผมสีแดง สัมผัสนั้นช่างบางเบาราวกับปุยนุ่น ทำให้เขานึกถึงเรื่องราวต่างๆที่ได้พบเจอกับริน แล้วเผลอยิ้มออกมา ไม่แปลกใจเลยว่าทำเขาถึงรู้สึกรักเธอ เพราะเธอน่ารักขนาดนี้

          จากนั้นเขาค่อยๆลุกขึ้น ค่อยๆจับริน นอนอยู่บนเตียงของเขาและห่มผ้าปิดไฟ เขาเดินออกมาจากห้องตรงมายังห้องโถงก็พบ อีฟกำลังนั่งคุยอยู่กับเบิร์น

          เบิร์น! แลนด์ตกใจจนอุทานออกมา เสียงของเขาทำให้เบิร์นหันไปมอง เบิร์นจึงรีบลุกขึ้นเดินตรงไปหาแลนด์ทันที ใช้สองมือกุมมือของแลนด์ไว้และเขย่า และพูดว่า

           “ฉันขอบคุณนายมากๆเลยนะ ถ้าไม่มีนายโลกใบนี้พังทลายไปแล้วแน่ๆ ฉันขอบคุณนายจริงๆ” แลนด์ส่ายหน้าตอบ 

          “ไม่เป็นไร” และถามต่อไปอีกว่า 

          “ว่าแต่อินฟรีท.นายคืออินฟรีทตั้งแต่แรกๆอย่างนั้นเหรอ?” เบิร์นส่ายหน้า และพูดกลับว่า 

          “อินฟรีทคือเทพอัคคีที่ปกป้องรักษาดินแดนแห่งนี้ไว้ แต่ว่าท่านเป็นพลังเพลิงที่แข็งแกร่งที่สุด ที่เบรนต้องการจะครอบครอง เพื่อที่จะครองโลกนี้ยังไงล่ะ” 

          แลนด์พยักหน้า และถามอีกว่า “แล้วรูนสีแดงนี้ล่ะ? มันเป็นของสำคัญไม่ใช่เหรอ ฉันไม่เอาไปก็ได้นะ” พร้อมกับยืนลูกแก้วสีแดงสว่างคืน แต่เบิร์นดันมือของเขากลับและพูดว่า

          “มันเป็นของนายแลนด์ ฉันรู้นะว่านายเป็นใคร ฉันเชื่อนะว่านายจะทำให้โลกนี้สงบสุขได้อย่างแน่นอน และพวกฉันจะเป็นพลังให้กับนายเอง เพราะลูกแก้วนั้นคือ สัญลักษณ์ว่าเราเป็นเพื่อนกัน!”

          เขากำหมัดและยกขึ้น แลนด์เข้าใจในทันที เขาจึงรีบชนหมัดกับเบิร์นทันที ทันใดนั้น อยู่ๆก็เกิดแสงสว่างขึ้นในห้อง เกิดวงแหวนเวทย์ขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมทั้งหมดของอีแลนเดีย และอีฟที่นั่งหลับตาอยู่ เธอลืมตาขึ้นและพูดว่า “ที่ต่อไปคือ รีเวอร์เรน!”

          แสงสว่างวาบขึ้น จนมองอะไรไม่เห็นไปซักระยะหนึ่ง และเมื่อแสงค่อยๆจางลง แลนด์ค่อยๆลืมตา เขากวาดตามองรอบข้างก็ไม่พบเบิร์น เขาจึงวิ่งออกไปเปิดประตูก็พบกับ…บ้านเมืองที่ปกคลุมไปด้วยหิมะและต้นไม้บางต้นโดนแช่แข็ง อีแลนเดียก็เช่นมันกำลังจะค่อยๆแข็งตัว ตอนนี้น้ำแข็งเริ่มจับแถวบริเวณรากของต้นไม้ แลนด์ตกใจกับภาพที่เห็นเป็นอย่างมาก ลมได้พัดพาเอาความหนาวและหิมะเข้ามา อีฟตกใจและตะโกนขึ้นว่า “แลนด์ห้ามให้ต้นไม้นี้แข็งเด็ดขาด ทำให้อุ่นเร็วแลนด์” 

          แลนด์ที่กำลังงงๆกับสถานการณ์ก็พยักหน้าเออออ วิ่งออกไปนอกประตูและปิดทันที เขาก็พบกับ พายุหิมะที่รุนแรง มันกำลังกระหน่ำพัด จนอีแลนเดียโนแช่แข็งไปมากกว่าครึ่งแล้ว

          แย่ล่ะสิ แลนด์คิดอยู่ในใจ ในขณะที่เขาตัวหนาวสั่นด้วยลมเย็น เบลพูดในหัวเขาว่า “ใช้สิ่งนั้นสิแลนด์!” แลนด์นึกออกทันที เขาเพ่งสมาธิไปที่รูนบนฝ่ามือของเขา จากนั้นมันค่อยๆส่องแสงสีแดงสว่างขึ้นมา เหมือนกับตอนที่ Soul Linked กับเบลจัง แต่คราวนี้ ผมของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงอมส้มสว่าง ดวงตาสีส้มที่สัมผัสได้ถึง เปลวเพลิงอันร้อนแรง จากสภาวะนี้ทำให้เขาไม่รู้สึกหนาวแม้แต่นิดเดียว ร่างกายเขาอบอุ่นด้วยพลังเพลิงจากภายในร่าง ความน่าอัศจรรย์นี้ทำให้แลนด์ตกใจจนอึ้งเป็นไก่ตาแตก

           “เลิกงงได้แล้วนา! นายได้พลังของแฟรย์มาแล้วนิตอนนี้นายก็เหมือนมีสปิริตสองตนแล้วนะ นายสามารถเปลี่ยนสลับได้ตามความเหมาะสมนะ แต่ตอนนี้รีบละลายน้ำแข็งนี้ก่อนเร็ว!” เบลพูดขึ้น

          แลนด์พยักหน้าตอบ จากนั้นกำไลอีแลนเดอร์ที่ข้อมือของเขาก็ส่องแสงขึ้น มันขยายใหญ่ขึ้นจนเป็นขนาดปกติ แลนด์หยิบรูนสีแดงสดของเทพแห่งเปลวเพลิงเขาหย่อนมันที่ดาบเขาขึ้นทันทีรูน แตกออกกลายเป็นเปลวไฟห่อหุ้มดาบไว้

          เปลวไฟค่อยๆรวมตัวกันที่ปลายดาบของเขากลายเป็นกลุ่มก้อนพลังงานขนาดใหญ่พร้อมที่จะปล่อยไปในการโจมตีครั้งเดียว 

          Burning Flare!

          แลนด์หวดดาบของเขาด้วยสุดแรง ยิงลูกไฟออกไปหนึ่งลูก มันปะทะกับน้ำแข็งที่อีแลนเดีย เผาทำลายจนละลายหมดสิ้น ความร้อนจากพลังเพลิงของแลนด์ ที่ให้อากาศรอบข้างอบอุ่นขึ้นมาทันที จากนั้นแลนด์หยิบรูนขึ้นมา 1 ลูก เขากุมสิ่งนั้นไว้อย่างอ่อนโยน จนมันเกิดแสงสว่างสีแดงขึ้น และเขาคลายมือออกก็พบ ลูกไฟสีแดงอมส้ม ลอยอยู่ มันสร้างความอบอุ่นในบริเวณรอบข้าง ค่อยๆละลายน้ำแข็งที่อยู่บริเวณรอบข้าง

          Ice Cannon!

          “แลนด์! ระวังมีบางอย่างกำลังมาทางด้านซ้าย” เบลพูดขึ้นมาในหัวแลนด์  เขาหันไปมองด้านซ้าย ก็เห็นมีก้อนน้ำแข็งขนาดเท่าลูกบอล ไซส์ 6 พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว เขายกดาบขึ้นมาป้องกันตัวเอง แต่ทว่าความรุนแรงของลูกบอลรุนแรงมาก มันค่อยๆดันร่างของแลนด์ แต่ทว่ามันค่อยๆละลายเรื่อยเนื่องจากความร้อนจากแลนด์จนละลายหมดสิ้นไป

          “นายเป็นใคร?” ภายในพายุหิมะที่โหมกระหน่ำตรงหน้าแลนด์ปรากฏร่างเงาของผู้ชายคนหนึ่งขึ้น รูปร่างดี สูงประมาณ 165 เซนติเมตร เขาค่อยๆเดินออกมา ภายให้เห็นเส้นผมตรงสีฟ้าที่แซมไปด้วยสีขาวดูแล้วคล้ายกลับก้อนเมฆ ดวงตาสีฟ้าสว่าง สวมชุดสีขาว ผิวพรรณขาวสว่างดุจหิมะ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าชายหิมะลงมายืนตรงหน้าแลนด์

          “พลังเพลิงในดินแดนรีเวอร์แลนด์แห่งนี้ นั้นเป็นเรื่องต้องห้าม ต้องหายไป!” ชายคนนั้นกล่าวขึ้นมา สร้างความมึนงงให้กลับแลนด์เป็นอย่างยิ่ง เขาไม่รู้จะทำยังไงดี เขาจึงตั้งดาบขึ้นอย่างอัตโนมัติ

           “นี้นาย! ตั้งดาบขึ้นมาทำไมยะ! อย่างนี้เขาก็นึกว่าเป็นศัตรูสิ!” เบลพูดเตือนด้วยน้ำเสียงแบบจะกัดหัวแลนด์ได้เลย

          ชายนิรนามเห็นดังนั้นเขาจึงพุ่งนี้เข้ามาโจมตีแลนด์ทันที แลนด์จุดไฟที่ดาบของเขาด้วยรูนและฟันลงมา เขายิ้ม และให้มือซ้ายมือเดียวรับดาบไว้ ภาพนั้นทำให้แลนด์ตกใจเป็นอย่างมาก

           “อย่าเพิ่งตกใจแลนด์ นั้นรูน สังเกตที่มือเขาสิ” แลนด์เหลือบไปมองที่มือของเขาก็พบ ก้อนน้ำแข็งที่จับตัวกับเปลวไฟของแลนด์ ในระหว่างที่ตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น

          แลนด์! เบลส่งเสียงเตือนสติ  แต่ไม่ทันการแล้ว มือซ้ายที่จับดาบของแลนด์ไว้ทำให้เขาไม่อาจจะเคลื่อนที่ได้ มือขวาของเขากำหมัดแน่นเกิดเป็นวงแหวนเวทย์เล็ก และก็มีก้อนน้ำแข็งห่อหุ้มมือของเขา และเขาชกเข้าที่หน้าท้องของแลนด์เต็มๆ จนเขากระอักเลือดและกระเด็นออกไป กระแทกกับอีแลนเดีย จนทะลุเขาไปให้ห้องโถงเลย อีฟที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ก็ตกใจ กับสภาพของแลนด์ที่บาดเจ็บ มือกุมท้อง นอนดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้น อีฟแสดงให้เห็นถึงความเครียดด้วยการกัดฟันแน่น

           เธอจึงถามกลับไปว่า “นายเป็นใคร ทำแบบนี้ทำไม?”

          ชายคนนั้นเดินเข้ามาพร้อมกับพายุหิมะที่พัดเข้ามาให้อีแลนเดีย ทำให้เกิดความหนาวเหน็บและอุปกรณ์ตกแต่งบางชิ้นเริ่มโดนแช่แข็งไปแล้ว

          แลนด์มองเห็นสภาพห้องและตกใจ ในใจเขานึกถึง รินที่นอนห้องข้างบน และลุกขึ้นทันที เปลวไฟในจิตใจของเขาลุกโชนขึ้นมาทันที

          ความเร่าร้อนของแลนด์ทำให้ชายนิรนามยิ้ม และพูดขึ้นมาว่า “เปลวเพลิงในโลกนี้นั้นเป็นสิ่งต้องห้าม ฉัน ฟรอสต์ โนว่า จะหยุดนายเอง!”

          “ฉันแลนด์ อีเกล ฉันไม่มีทางถูกจัดการได้หรอก เพราะฉันมีสิ่งที่สำคัญที่ต้องปกป้องอยู่” แลนด์ตอบกลับทันที ทั้งสองจ้องตากัน ยังไม่ท่าทีว่าจะขยับร่าง แต่อีฟสัมผัสได้ถึงพลังงานที่ยิ่งใหญ่ของทั้งแลนด์ที่ต่อต้านกันอย่างรุนแรง

          ทันใดนั้น ชายผมสีฟ้าอมขาวที่สว่างสะท้อนแสงอาทิตย์ ก็หายไปในพายุหิมะต่อหน้าพวกแลนด์ พร้อมกับพูดทิ้งท้ายไว้ว่า 

          “ระวังไว้ซะ เปลวไฟไม่ได้รับอนุญาติในดินแดนแห่งนี้” แลนด์รู้สึกโล่งอก อยู่ๆเขาก็นึกขึ้นได้ว่ารินอยู่ชั้นบน เขาจึงรีบวิ่งขึ้นไปที่ห้องของเขาโดยที่อีฟตามมาติดๆ ก็พบ รินที่นอนคดอยู่ในผ้าห่มตัวสั่นเทา แลนด์เอามือไปแตะหน้าผาก หน้าผากของเด็กสาวร้อนมาก ใบหน้าเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงให้ความร้อนจากพลังเพลิงให้ควาบอบอุ่นแก่เธอ อีฟที่สังเกตการอยู่ก้มลงมองรินและลูบหัว หลับตาใช้สมาธิอยู่ซักครู่หนึ่ง เธอตกใจและพูดขึ้นมาว่า

          “นี้เป็นอาการป่วยจากผลกระทบที่โลกนี้ ต้องรีบรักษาไม่อย่างนั้นเธอตายอย่างแน่นอน!”

 

 

          Facing the Burning Flame III [End]

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา