แรดชิบหาย เมียอย่างมึง!
5.5
เขียนโดย LemonNest
วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.06 น.
42 chapter
66 วิจารณ์
54.37K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 21.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
32) ตอนที่ 31
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 31
ต้นข้าว
วันนี้เป็นวันที่ผมตื่นเต้นมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะวันนี้เป็นวันที่พวกเราสอบวันแรก ถึงจะอ่านมาดียังไงก็อดจะตื่นเต้นไม่ได้อยู่ดี เมื่อคืนก็นั่งติวให้ไอ้หล่อไปสองรอบติดกันมันลืม ตอนเช้าก็แวะซื้ออมยิ้มให้มันหนึ่งแท่งเป็นขวัญกำลังใจ ไอ้หล่อมันเอาอมยิ้มที่ผมให้เข้าห้องสอบครับ มารู้ตอนสอบเสร็จวิชาแรกนั่นแหละ
“ทำได้ไหมวะ?” เจอหน้าไอ้หล่อผมก็รีบถามทันที มันส่ายหน้าก่อนจะเงยหน้ามาแลบลิ้นใส่
“ซะเมื่อไหร่ล่ะ กูทำได้นะเมีย ต้องขอบคุณมึงที่นั่งติวให้กูเมื่อคืน รู้ป่ะ แม่งออกตรงเกือบทุกข้อ”
“อะไรวะ แอบซุ่มกันสองคน” เสียงไอ้ฟางดังมาสมทบกับผมที่ยืนรอไอ้หล่ออยู่หน้าห้องสอบ ได้ข่าวว่ามันเทพจัดยี่สิบนาทีเสร็จหมดทุกข้อ
“ใครกันแน่ไอ้ฟาง พี่ตี๋ติวให้ก็บอกมา กูรู้นะมึง” ไอ้หล่อกอดคอผมพากันออกมาจากหน้าห้อง ตามาด้วยสองสาวออมแตง ไอ้ฟางไอ้ติ้ว และปิดท้ายด้วยไอ้เต้ยที่กำลังคุยโทรศัพท์ด้วยท่าทางมีพิรุธ
“ติวให้อะไรล่ะ เมื่อคืนก็กวนกูทั้งคืน อยากเอาส้นตีนถีบหน้าแม่งอยู่”
“พี่ตี๋หรือมึงวะ มึงก็ไม่เบานะดูจากสันดาน” เพทายล้อเพื่อน ฟางตบหลังเพื่อนเสียงดัง
“อย่ากวนตีน กูเป็นผู้ชายเรียบร้อยเว้ย ชวนก่อนไม่มีหรอกครับ”
“เหรอออ กูเพิ่งรู้” ไอ้ติ้วก็เอากับเขาด้วย กลายเป็นไอ้ฟางโดนรุมสองต่อหนึ่ง และอัศวินของมันก็เข้ามาช่วยได้ทัน พี่ตี๋เดินกำชีทที่ใช้สอบสวนทางที่พวกผมกำลังเดินไป
“วันนี้ปาโป่งแถวตึกบริหาร ใครจะไปเที่ยวกับพี่บ้าง”
“ไปด้วยดิ กูจะไปส่องสาว” ไอ้ฟางโดนชีทตบเข้าแสกหน้า
“มึงยังไม่เข็ดใช่ไหมไอ้ฟาง เดี๋ยวเจอส้นตีนแปะลงบนหน้า”
“มีงานอะไรวะพี่ สอบวันแรกไม่น่าจะมีอะไรนะ” ติ้วถาม
“ก็เปิดให้เด็กที่จะเข้าปีหนึ่งมันมาสมัครเรียนไง มีแต่เด็ก ๆ ทั้งนั้นแหละ แต่พี่จะไปเฝ้าซุ้มเอาคะแนนเฉย ๆ”
“ไวจังวะ กูนึกว่าตัวเองเพิ่งจะปีหนึ่งอยู่เลย” กล้าพูดมากไอ้ฟาง
“แตงไปด้วยดิพี่ตี๋ ซุ้มพี่มันติดกับแพทย์ใช่ไหมคะ แตงจะไปนั่งส่องพี่แซม”
“แรดมากอินาง เรื่องแรดขอให้บอก ไวปานจรวดวิ่ง”
“มึงก็พอกับกูแหละอิฟาง อย่าให้กูพูดเรื่องวันนี้นะ” แตงยิ้มเย้ย ตี๋ทำหน้าสงสัยล็อคคอไอ้ฟางเข้ามาหา
“มีอะไรแตง ฟ้องพี่มา เดี๋ยวพี่ให้แซมมันมาหาถึงซุ้มเลย”
“จริงนะพี่ตี๋! ก็วันนี้อิฟางมัน…”
“ตัดเพื่อนนะเว้ย!! มึงเห็นผู้ชายดีกว่ากูได้ยังไง กูโป้งมึงนะอินาง” ฟางรีบแย้งขึ้นมา
“มึงปิดบังอะไรกูห้ะไอ้ฟาง ไหนมาเคลียร์กันตัวต่อตัวหน่อยมา” แล้วพี่ตี๋ก็ลากไอ้ฟางหายไปทางห้องน้ำชาย พวกผมเดินกันไปรอที่ใต้ตึกบริหาร
ตู้ม!!
ผมที่นั่งอยู่ใกล้ซุ้มสาวน้อยตกน้ำสะดุ้งตัวโหยง ผู้ชายหน้าหวานหนึ่งคนตกลงไปในบ่อน้ำลึกท่วมหัว เงยหน้าขึ้นมาหน้าตาน่ารักมุ้งมิ้ง ไอ้หล่อมันเอาศอกมากระทุ้งเอวผมให้หันไปมอง ผมหยิกเอวมันจนร้องเสียงหลง
“มึงมองอะไรห้ะ!!”
“น้องเขาน่ารักดี หรือมึงว่าไม่จริง” ผมหันกลับไปมองอีกรอบ หน้าตามันคุ้นหูคุ้นตา ยิ่งเสื้อที่มันใส่นั้นเป็นของเด็ก ม. ปลายนะครับ ใครมันแกล้งน้องวะ
“ตัส! มึงรีบขึ้นมาเลยเดี๋ยวพ่อมึงมาเห็นพวกกูซวยอีก” เสียงเพื่อนมันตะโกนดังมาแต่ไกล มีปีหนึ่งสองคนนั่งเฝ้าซุ้มก็พากันอุ้มไอ้เด็กตกน้ำขึ้นมาจากบ่อ
“พี่โจ้ไม่มาหรอก กูขอเล่นอีกแป๊บนึงจะกลับแล้ว นะพี่นะ ตัสขอเล่นอีกรอบนึง” ปีหนึ่งพากันมองหน้ากัน ผมว่าแล้วทำไมหน้ามันคุ้นนัก
“ตัส! มาทำอะไรที่นี่ครับ แล้วดู เปียกแบนี้จะกลับยังไง” ผมเดินไปเกาะบ่อที่ตัสนั่งห้อยขาเล่นอยู่ เพทายเดินมาโอบบ่าต้นข้าวมองสายตาดุ
“พี่จะบอกไอ้โจ้ ว่าเมียมันมาดื้ออยู่ที่นี่”
“ไม่เอานะครับ ตัสกลับแล้วก็ได้ ตัสแค่มาสมัครเรียนที่นี่ก็เท่านั้นเอง” ตัสรีบปีนลงมา ไอ้ปีหนึ่งสองคนมันรู้จักเพทายพากันยกมือไหว้ทั้งผมและไอ้หล่อ
“แกล้งน้องไอ้สัส” ผมพูดเบา ๆ กับไอ้หล่อ
“กูไม่ได้แกล้ง มึงคิดว่าไอ้โจ้ไม่รู้รึไงเมียมันอยู่ไหน ทำอะไรบ้าง เชื่อกูเหอะ ให้ตัสมันรีบขึ้นก่อนระเบิดจะลงตรงนี้ “
“ตัสเอาชุดมาเปลี่ยนนะครับ พี่ต้นข้าวจะไปไหนรึเปล่า ตัสจะให้พาทัวร์สักหน่อย” ตัสเอาผ้าขนหนูมาห่มตัวถามผม
“พาน้องเที่ยวก่อนก็คงไม่เป็นไรมั้ง มึงมีสอบพรุ่งนี้บ่ายนี่”
“อืม กูยังไงก็ได้ ตามใจเมียครับ” ผมหยิกแก้มมัน ไอ้หล่อก็แยกเขี้ยวน่ารักเลย
“งั้นโทรบอกพี่โจ้นะว่าอยู่กับพี่ข้าว พี่โจ้จะได้ไม่เป็นห่วง แล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยเรา พี่รอตรงนี้นะ” ผมนั่งรอที่เดิม ตัวพยักหน้าวิ่งหายไปกับเพื่อนอีกสองคน
“คนอื่นหายไปไหนหมดวะ?” ไอ้ฟางมาถึงก็ถามหาเพื่อนคนอื่นที่พากันไปซื้อของกินที่ซุ้มอาหารนานาชาติ
“ไปหาอะไรกิน กูเฝ้าซุ้มให้ก่อนมึงไปเดินเที่ยวกับพี่ตี๋ก่อนก็ได้”
“ว่าไงไอ้ตี๋?” ฟางมันถามพี่ตี๋
“กูไม่ไปอะ เดี๋ยวอาจารย์มาไม่เจอกูอดคะแนนพิเศษอีก มึงจะไปก็ไป แต่อย่าไปม่อสาว กูจับได้ตบหัวทิ่มแม่งตรงนั้น” ไอ้ฟางมันหย่อนก้นลงข้างผม
“มึงไม่ไปกูก็ไม่ไป พวกมึงไปกันเหอะ ขากลับแวะซื้อลูกชิ้นปลามาฝากกูด้วย”
“ไหนเงิน?” เพทายมันแกล้งแบมือออก ผมกระโดดลงจากที่นั่ง ไอ้ฟางมันหน้าบูดยื่นปากไปหาพี่ตี๋
“เงินกูอ่าตี๋ เมื่อเช้ามึงให้กูมาแค่ห้าสิบบาทเองนะ” พี่ตี๋หยิบกระเป๋าเงินไอ้ฟางออกมา ยื่นแบงก์ร้อยส่งให้ไอ้หล่อ
“ฮ่า ๆ ๆ เด็กน้อยเหรอวะฟาง มีการฝากเงินไว้กับผัว” เพทายหัวเราะเยาะ ไอ้ฟางก้มหน้าลงกระซิบ
“ฝากเหี้ยอะไร มันบอกกูมีเงินแล้วชอบเลี้ยงสาว แม่งยึดเงินกูไปหมดเลย” พี่ตี๋มันยกยิ้มส่งให้ผม พี่แม่งโคตรร้ายเลย
“อย่าบ่น เอาเว้ย เดี๋ยวกูซื้อน้องแบมมาฝาก คนที่มึงไปม่อเขาเมื่อเช้าไง” ไอ้หล่อมันกวนตีนกลับปล่อยระเบิดไว้ให้ไอ้ฟางลูกใหญ่ ไอ้ฟางหน้าหดเหลือสองนิ้ว พี่ตี๋ก็หน้าบึ้งหันไปกระชากคอเสื้อไอ้ฟางจนเกือบหงายหลัง
………………………………………………………………………………
เต้ย
ผมยืนพิงกำแพงมองไปที่ซุ้มไอ้แซมที่สาว ๆ พากันออต่อแถวยาวออกมาข้างนอก ใบหน้ามันยิ้มแย้มคงจะชอบที่มีสาวมาล้อมหน้าล้อมหลัง ผมกดโทรออกไปที่เบอร์มัน ไอ้แซมันขอตัวอกมาคุยข้างนอก
“ไม่ต้องแดกมันแล้วมั้งชาเขียวปั่น อิ่มแล้วสิมึง”
(ครับ? พี่ก็รอเต้ยมาอยู่นะครับ เต้ยอยู่ไหนล่ะครับ) ขนาดมันคุกับผมอยู่ยังมีคนมองเลย อย่างว่า มันเป็นเดือนมหาลัย ผมมันก็แค่นักศึกษาธรรมดา
“เหอะ แค่นี้นะ” ผมกดวางยกชาเขียวปั่นขึ้นดูด มายืนอยู่จุดนี้มันเหมือนผมกับมันอยู่คนละเส้นทางกันเลย มันมีพร้อมทุกอย่าง ทั้งหน้าตาและการศึกษา ที่มันคิดจะจีบผมก็คงเล่น ๆ ล่ะมั้ง
เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นอีก เป็นไอ้แซมที่โทรเข้ามาแล้วผมไม่ได้รับสามสาย ผมอยู่ในอารมณ์ที่อยากอยู่คนเดียว น้อยใจมันเหรอวะ ก็คงไม่หรอก แต่มันก็ไม่เห็นทำท่าทางว่าจีบผมเลยนี่หว่า กูคงสำคัญตัวเองมากเกินไป
“พี่เต้ย!” ใครวะ? ผมหันไปเจอน้องตัสกวักมือเรียกอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล สงสัยจะมีเพื่อนเที่ยวแล้วผม
“มากับใครวะตัส นี่เพื่อนมึงเหรอ” เพื่อนมันอีกสองคนยกมือไหว้ผม ตัสมันตัวเตี้ยกว่าผมสูงแค่ช่วงไหล่ ผมยกแขนพากหัวมัน ตัสเอามือดันออกตีหน้ายุ่ง
“พี่เต้ยชอบแกล้ง นี่ไอ้เจกับไอ้จา เพื่อนสนิทตัสเอง นี่พี่เต้ยพี่กูเอง”
“แล้วไง จะมาเข้าที่นี่ตามพี่รึไงวะตัส”
“เปล่าพี่ ตัสมาเข้าบริหาร พี่โจ้บอกเรียนที่นี่ดี จะได้มีคนดูแลตัส” ผมยิ้มในใจ จะได้มีคนรายงานว่ามึงไปไหนบ้างล่ะสิ ไอ้ตัส ไอ้เด็กน้อย
“พี่เลี้ยง จะกินอะไรบอกมา” ผมกอดคอตัสเดินไปตามซุ้มต่าง ๆ ตัสมันเข้ากับคนง่ายดีครับ ไปที่ไหนก็มีคนมาขอถ่ายรูปด้วย ก็มันน่ารักคุยเก่ง นิสัยมันคล้ายต้นข้าวเมื่อก่อนคือกวนส้นตีนแบบน่ารัก
“จา ๆ กูปวดฉี่ว่ะ พี่เต้ยอยู่กับไอ้เจไปก่อนนะ” ตัสมันกุมเป้ากางเกงลากมือเพื่อนชื่อจาไปทางห้องน้ำ ผมก็นั่งรอมันอยู่กับไอ้เจ ตัวแค่นี้หัดหล่อ ผมว่าถ้ามันขึ้นปีหนึ่งคงเนื้อหอมน่าดู
“พี่เต้ยมีแฟนยังครับ” ผมหันขวับ ไอ้จามันมองผมตาพราว ไม่นะ มึงคงไม่คิดอะไรกับกูใช่ไหม
“ทำไม?”
“ตัสมันมีแฟนเป็นผู้ชายผมก็พอรู้ แล้วพี่เต้ยล่ะ อยากลองคบผมเป็นแฟนดูไหม?”
เคร้ง!
เหี้ย! ผมหลบกระป๋องน้ำอัดลมอย่างหวุดหวิด มองไปยังต้นทางเจอไอ้แซมมันยืนมองผมกับเจสายตาเรียบนิ่ง ร่างใหญ่เดินมาหาผมเดาะลิ้นทำหน้าไม่พอใจ
“ขอโทษครับ มันหลุดมือ” เสียงเข้มของมันเอ่ยขึ้น
“หลุดไกลจังนะครับ ตกลงว่าไงพี่เต้ย ลองคบกับผมดูไหม?” เจถามซ้ำ ผมกลืนน้ำลายลงคอ
“พี่มีแฟนแล้วว่ะเจ พี่ขอตัวก่อนนะ นึกได้ว่ามีธุระ” ผมรีบปลีกตัวเองออกมากจากตรงนั้น ย้ำเท้าไปทางลานจอดรถเพื่อขับรถกลับหอ เพียงแค่มือแตะหมวกกันน็อคก็มีมืออีกคนมากระชากผมให้หันไปทางด้านหลัง
“อ่อยเด็กมันใช้ได้เหรอเต้ย” ผมสะบัดมือออก
“มันก็เรื่องของกู มึงไม่เห็นตั้งแต่แรกอย่ามาพูด” ผมสวนกลับไป ดูยังไงว่าผมอ่อยวะ หน้าอย่างผมเนี่ยนะ
“ก็พี่เห็นพี่เลยพูด ทำไมครับ ที่พี่โทรไปไม่รับเพราะมัวแต่มานั่งอี๋อ๋อกับมันรึยังไง”
“อย่าพูดให้กูขนลุก กูจะกลับห้อง” ผมไม่อยากคุยกับมันในตอนนี้ แซมมันอุ้มผมพาดบ่าเรียกสายตาของคนทั้งลานจอด ผมตัวไม่ได้ตัวเล็กและมันก็ไม่ได้ตัวใหญ่มาก ได้แต่รัวหมัดทุบหลังมันให้ปล่อย
ตุบ
“พี่ว่าเรากลับไปคุยกันที่ห้องพี่จะดีกว่า วันนี้แม่พี่ไม่อยู่บ้าน ใครจะมาขัดจังหวะเราอีกคงไม่มี” ผมเบิกตากว้างมือจับประตูจะเปิดลง แซมมันเหยียบคันเร่งดึงร่างผมให้ตัวติดเบาะล้มลงหน้าทิ่ม
ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจอมุมนี้ของไอ้หมอเหมือนกัน ผมกำลังกลัว กลัวว่าไอ้หมอมันคิดจะกดผมจริง
…………………………………………………………
เพทาย
ผมมีความรู้สึกเหมือนมีคนจ้องเราอยู่ตั้งแต่เดินออกมาจากหน้าตึกบริหาร พอหันไปก็ไม่เจอใคร ต้นข้าวมันก็ถามผมว่ามองอะไร ผมส่ายหน้าคงคิดไปเอง
“วันนี้วิศวะก็เปิดรับไม่ใช่เหรอวะ เราแวะไปดูน้องเรากันไหมหล่อ”
“มึงจะไปดูอะไรกันแน่เมีย” ผมถามเสียงเข้ม ต้นข้าวมันเงยหน้าขึ้นมาบิดหูผมซะแดง
“คิดอะไรวะหล่อ เดี๋ยวจูบโชว์มึงอย่ามาอาย” ผมก็อยากให้มันทำจริงนะ อย่างที่รู้ว่าเมียผมมันสุภาพบุรุษ รักเด็ก รักษ์โลก ทำขนมเป็น เรียนเก่ง ถ้าไปประกวดนางงามมันคงผ่าน
“มึง…นั่นมัน…” ทั้งผมทั้งมันหยุดยืนมองไปที่ร่างเล็กของอีกคนที่กำลังยื่นใบสมัครสาขาโยธา
“ลม” ต้นข้าวพึมพำออกมา
“มันเอาจริงสินะ” ผมกุมมือต้นข้าวที่สั่นแน่น “กูไม่ปล่อยให้มันทำอะไรมึงหรอกข้าว ตราบใดที่กูยังอยู่มึงจะปลอดภัย”
“กูก็ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น ของ ๆ กู กูก็รักนะหล่อ ถ้าไม่มายุ่งกับกู กูก็จะไม่ยุ่ง” ผมรู้มันไม่ได้อ่อนแอ ต้นข้าวมันเข้มแข็งกว่าที่ผมคิดเยอะ
“ทำเป็นโหด เมียใครวะน่ากลัวจัง” ผมแกล้งยิ้มขยี้หัวมันไม่ให้เครียด ต้นข้าวมันเอานิ้มมาดีดหน้าผากผมให้เลิกเล่น
“กูหิว! ไปหาอะไรกินกันสามี วันนี้เมียคนน่ารักจะเลี้ยงเอง เงินเดือนกูออกครับ” เราหมุนตัวกลับ ผมเหล่มามองทางด้านหลังเห็นสายตาของลมที่มองเราอยู่ ผมมองกลับไปหันกลับมาคุยกับต้นข้าวต่อ
อย่าคิดเล่นสกปรกกับคนอย่างกู
ถ้าผมเดาไม่ผิดไอ้เด็กคนนี้มันคุ้นหน้าคุ้นตาเหมือนเคยเห็นในงานเลี้ยงอะไรสักที่ ถ้าให้โจ้ลองสืบไม่นานคงได้รู้กันว่ามันเป็นใคร ในอนาคตผมอาจจะเจอมือที่สามเข้ามาได้ตลอดเวลา แต่ถ้าสามารถป้องกันได้ผมก็จะรีบทำ ผมจะไม่ยอมให้ความรักของผมล่มเป็นอันขาด ต่อให้เรารักกันมากแค่ไหน แต่ถ้าเจอคนเล่นสกปรกมามันก็ไม่แน่ที่มันจะเปื้อนกรอบที่ผมสร้างขึ้น
…………………………………………………………………….
พีช
ผมนอนฟังเพลงอยู่บนเตียงนุ่มมือกอดตุ๊กตาหมีตัวเล็กเอาไว้แนบอก ชีวิตประจำวันของผมคือเช้าตื่นมากินข้าวกินยา บ่ายก็ฟังเพลงบ้าง อาบน้ำแช่ตัวให้รู้สึกสบาย ปากผมฮัมเพลงคลอตามเอียงหน้าส่ายไปมา
“พีชครับ วันนี้น้ำจะพาไปเดินเล่นที่หลังบ้านนะ” ผมลุกขึ้นนั่งได้ยินเสียงต้นน้ำอยู่ใกล้ ๆ
“อืม ไปสิ”
ผมมองเลยไปที่ประตูหันหน้าคนละทางกับที่ต้นน้ำนั่งอยู่ น้ำตาผมจะไหลออกมาเมื่อเห็นหน้าต้นน้ำใกล้ ๆ อีกครั้ง เมื่อสองวันก่อนที่ผมไปหาอาหมอมาต่อจากไปหาซัมเมอร์ที่โรงพยาบาล อาหมอบอกผมหายดีแล้วแต่ต้องมาตรวจตามเวลานัดอยู่ ผมไม่ได้บอกใครเรื่องนี้ ไม่บอกใครสักคน
ผมอยากจะอยู่กับต้นน้ำ อยากให้เขาดูแลผม ใส่ใจผม
ผมกลืนก้อนแข็งลงคอความรู้สึกผิดมันจุกแน่นที่อก เพราะผมเดาไม่ออกเลยว่าที่ต้นน้ำมาดูแลผมมันเพราะอะไร เพราะเขารักผมจริงหรือแค่ต้องการรับผิดชอบ ผมไม่ได้ดูถูกความรู้สึกต้นน้ำ แต่มันจะผิดไหมที่ผมอยากจะยื้อเวลานี้ออกไปให้นานที่สุด
“พีช…น้ำกำลังจะแต่งงาน” ผมตัวชาไปชั่วขณะ ต้นน้ำแต่งงาน กับใคร? ตอนไหน?
“ทำไม…”
“รอพีชหายก่อนแล้วน้ำจะเล่าให้ฟังนะครับ ระหว่างนี้น้ำจะให้น่านมาดูแลพีชชั่วคราว”
“ทำไมล่ะ?! น้ำมีอะไรก็พูดมาตอนนี้สิ พีชทำอะไรผิด”
“พีชไม่ผิด…รอนะครับ รอน้ำกลับมา ไม่นานจริง ๆ” ผมแววตาสั่นระริกสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง น้ำจะไปไหน? เขาเบื่อผมแล้วใช่ไหม เบื่อกับคนแบบผมแล้วใช่ไหม?
TBC.
ต้นข้าว
วันนี้เป็นวันที่ผมตื่นเต้นมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะวันนี้เป็นวันที่พวกเราสอบวันแรก ถึงจะอ่านมาดียังไงก็อดจะตื่นเต้นไม่ได้อยู่ดี เมื่อคืนก็นั่งติวให้ไอ้หล่อไปสองรอบติดกันมันลืม ตอนเช้าก็แวะซื้ออมยิ้มให้มันหนึ่งแท่งเป็นขวัญกำลังใจ ไอ้หล่อมันเอาอมยิ้มที่ผมให้เข้าห้องสอบครับ มารู้ตอนสอบเสร็จวิชาแรกนั่นแหละ
“ทำได้ไหมวะ?” เจอหน้าไอ้หล่อผมก็รีบถามทันที มันส่ายหน้าก่อนจะเงยหน้ามาแลบลิ้นใส่
“ซะเมื่อไหร่ล่ะ กูทำได้นะเมีย ต้องขอบคุณมึงที่นั่งติวให้กูเมื่อคืน รู้ป่ะ แม่งออกตรงเกือบทุกข้อ”
“อะไรวะ แอบซุ่มกันสองคน” เสียงไอ้ฟางดังมาสมทบกับผมที่ยืนรอไอ้หล่ออยู่หน้าห้องสอบ ได้ข่าวว่ามันเทพจัดยี่สิบนาทีเสร็จหมดทุกข้อ
“ใครกันแน่ไอ้ฟาง พี่ตี๋ติวให้ก็บอกมา กูรู้นะมึง” ไอ้หล่อกอดคอผมพากันออกมาจากหน้าห้อง ตามาด้วยสองสาวออมแตง ไอ้ฟางไอ้ติ้ว และปิดท้ายด้วยไอ้เต้ยที่กำลังคุยโทรศัพท์ด้วยท่าทางมีพิรุธ
“ติวให้อะไรล่ะ เมื่อคืนก็กวนกูทั้งคืน อยากเอาส้นตีนถีบหน้าแม่งอยู่”
“พี่ตี๋หรือมึงวะ มึงก็ไม่เบานะดูจากสันดาน” เพทายล้อเพื่อน ฟางตบหลังเพื่อนเสียงดัง
“อย่ากวนตีน กูเป็นผู้ชายเรียบร้อยเว้ย ชวนก่อนไม่มีหรอกครับ”
“เหรอออ กูเพิ่งรู้” ไอ้ติ้วก็เอากับเขาด้วย กลายเป็นไอ้ฟางโดนรุมสองต่อหนึ่ง และอัศวินของมันก็เข้ามาช่วยได้ทัน พี่ตี๋เดินกำชีทที่ใช้สอบสวนทางที่พวกผมกำลังเดินไป
“วันนี้ปาโป่งแถวตึกบริหาร ใครจะไปเที่ยวกับพี่บ้าง”
“ไปด้วยดิ กูจะไปส่องสาว” ไอ้ฟางโดนชีทตบเข้าแสกหน้า
“มึงยังไม่เข็ดใช่ไหมไอ้ฟาง เดี๋ยวเจอส้นตีนแปะลงบนหน้า”
“มีงานอะไรวะพี่ สอบวันแรกไม่น่าจะมีอะไรนะ” ติ้วถาม
“ก็เปิดให้เด็กที่จะเข้าปีหนึ่งมันมาสมัครเรียนไง มีแต่เด็ก ๆ ทั้งนั้นแหละ แต่พี่จะไปเฝ้าซุ้มเอาคะแนนเฉย ๆ”
“ไวจังวะ กูนึกว่าตัวเองเพิ่งจะปีหนึ่งอยู่เลย” กล้าพูดมากไอ้ฟาง
“แตงไปด้วยดิพี่ตี๋ ซุ้มพี่มันติดกับแพทย์ใช่ไหมคะ แตงจะไปนั่งส่องพี่แซม”
“แรดมากอินาง เรื่องแรดขอให้บอก ไวปานจรวดวิ่ง”
“มึงก็พอกับกูแหละอิฟาง อย่าให้กูพูดเรื่องวันนี้นะ” แตงยิ้มเย้ย ตี๋ทำหน้าสงสัยล็อคคอไอ้ฟางเข้ามาหา
“มีอะไรแตง ฟ้องพี่มา เดี๋ยวพี่ให้แซมมันมาหาถึงซุ้มเลย”
“จริงนะพี่ตี๋! ก็วันนี้อิฟางมัน…”
“ตัดเพื่อนนะเว้ย!! มึงเห็นผู้ชายดีกว่ากูได้ยังไง กูโป้งมึงนะอินาง” ฟางรีบแย้งขึ้นมา
“มึงปิดบังอะไรกูห้ะไอ้ฟาง ไหนมาเคลียร์กันตัวต่อตัวหน่อยมา” แล้วพี่ตี๋ก็ลากไอ้ฟางหายไปทางห้องน้ำชาย พวกผมเดินกันไปรอที่ใต้ตึกบริหาร
ตู้ม!!
ผมที่นั่งอยู่ใกล้ซุ้มสาวน้อยตกน้ำสะดุ้งตัวโหยง ผู้ชายหน้าหวานหนึ่งคนตกลงไปในบ่อน้ำลึกท่วมหัว เงยหน้าขึ้นมาหน้าตาน่ารักมุ้งมิ้ง ไอ้หล่อมันเอาศอกมากระทุ้งเอวผมให้หันไปมอง ผมหยิกเอวมันจนร้องเสียงหลง
“มึงมองอะไรห้ะ!!”
“น้องเขาน่ารักดี หรือมึงว่าไม่จริง” ผมหันกลับไปมองอีกรอบ หน้าตามันคุ้นหูคุ้นตา ยิ่งเสื้อที่มันใส่นั้นเป็นของเด็ก ม. ปลายนะครับ ใครมันแกล้งน้องวะ
“ตัส! มึงรีบขึ้นมาเลยเดี๋ยวพ่อมึงมาเห็นพวกกูซวยอีก” เสียงเพื่อนมันตะโกนดังมาแต่ไกล มีปีหนึ่งสองคนนั่งเฝ้าซุ้มก็พากันอุ้มไอ้เด็กตกน้ำขึ้นมาจากบ่อ
“พี่โจ้ไม่มาหรอก กูขอเล่นอีกแป๊บนึงจะกลับแล้ว นะพี่นะ ตัสขอเล่นอีกรอบนึง” ปีหนึ่งพากันมองหน้ากัน ผมว่าแล้วทำไมหน้ามันคุ้นนัก
“ตัส! มาทำอะไรที่นี่ครับ แล้วดู เปียกแบนี้จะกลับยังไง” ผมเดินไปเกาะบ่อที่ตัสนั่งห้อยขาเล่นอยู่ เพทายเดินมาโอบบ่าต้นข้าวมองสายตาดุ
“พี่จะบอกไอ้โจ้ ว่าเมียมันมาดื้ออยู่ที่นี่”
“ไม่เอานะครับ ตัสกลับแล้วก็ได้ ตัสแค่มาสมัครเรียนที่นี่ก็เท่านั้นเอง” ตัสรีบปีนลงมา ไอ้ปีหนึ่งสองคนมันรู้จักเพทายพากันยกมือไหว้ทั้งผมและไอ้หล่อ
“แกล้งน้องไอ้สัส” ผมพูดเบา ๆ กับไอ้หล่อ
“กูไม่ได้แกล้ง มึงคิดว่าไอ้โจ้ไม่รู้รึไงเมียมันอยู่ไหน ทำอะไรบ้าง เชื่อกูเหอะ ให้ตัสมันรีบขึ้นก่อนระเบิดจะลงตรงนี้ “
“ตัสเอาชุดมาเปลี่ยนนะครับ พี่ต้นข้าวจะไปไหนรึเปล่า ตัสจะให้พาทัวร์สักหน่อย” ตัสเอาผ้าขนหนูมาห่มตัวถามผม
“พาน้องเที่ยวก่อนก็คงไม่เป็นไรมั้ง มึงมีสอบพรุ่งนี้บ่ายนี่”
“อืม กูยังไงก็ได้ ตามใจเมียครับ” ผมหยิกแก้มมัน ไอ้หล่อก็แยกเขี้ยวน่ารักเลย
“งั้นโทรบอกพี่โจ้นะว่าอยู่กับพี่ข้าว พี่โจ้จะได้ไม่เป็นห่วง แล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยเรา พี่รอตรงนี้นะ” ผมนั่งรอที่เดิม ตัวพยักหน้าวิ่งหายไปกับเพื่อนอีกสองคน
“คนอื่นหายไปไหนหมดวะ?” ไอ้ฟางมาถึงก็ถามหาเพื่อนคนอื่นที่พากันไปซื้อของกินที่ซุ้มอาหารนานาชาติ
“ไปหาอะไรกิน กูเฝ้าซุ้มให้ก่อนมึงไปเดินเที่ยวกับพี่ตี๋ก่อนก็ได้”
“ว่าไงไอ้ตี๋?” ฟางมันถามพี่ตี๋
“กูไม่ไปอะ เดี๋ยวอาจารย์มาไม่เจอกูอดคะแนนพิเศษอีก มึงจะไปก็ไป แต่อย่าไปม่อสาว กูจับได้ตบหัวทิ่มแม่งตรงนั้น” ไอ้ฟางมันหย่อนก้นลงข้างผม
“มึงไม่ไปกูก็ไม่ไป พวกมึงไปกันเหอะ ขากลับแวะซื้อลูกชิ้นปลามาฝากกูด้วย”
“ไหนเงิน?” เพทายมันแกล้งแบมือออก ผมกระโดดลงจากที่นั่ง ไอ้ฟางมันหน้าบูดยื่นปากไปหาพี่ตี๋
“เงินกูอ่าตี๋ เมื่อเช้ามึงให้กูมาแค่ห้าสิบบาทเองนะ” พี่ตี๋หยิบกระเป๋าเงินไอ้ฟางออกมา ยื่นแบงก์ร้อยส่งให้ไอ้หล่อ
“ฮ่า ๆ ๆ เด็กน้อยเหรอวะฟาง มีการฝากเงินไว้กับผัว” เพทายหัวเราะเยาะ ไอ้ฟางก้มหน้าลงกระซิบ
“ฝากเหี้ยอะไร มันบอกกูมีเงินแล้วชอบเลี้ยงสาว แม่งยึดเงินกูไปหมดเลย” พี่ตี๋มันยกยิ้มส่งให้ผม พี่แม่งโคตรร้ายเลย
“อย่าบ่น เอาเว้ย เดี๋ยวกูซื้อน้องแบมมาฝาก คนที่มึงไปม่อเขาเมื่อเช้าไง” ไอ้หล่อมันกวนตีนกลับปล่อยระเบิดไว้ให้ไอ้ฟางลูกใหญ่ ไอ้ฟางหน้าหดเหลือสองนิ้ว พี่ตี๋ก็หน้าบึ้งหันไปกระชากคอเสื้อไอ้ฟางจนเกือบหงายหลัง
………………………………………………………………………………
เต้ย
ผมยืนพิงกำแพงมองไปที่ซุ้มไอ้แซมที่สาว ๆ พากันออต่อแถวยาวออกมาข้างนอก ใบหน้ามันยิ้มแย้มคงจะชอบที่มีสาวมาล้อมหน้าล้อมหลัง ผมกดโทรออกไปที่เบอร์มัน ไอ้แซมันขอตัวอกมาคุยข้างนอก
“ไม่ต้องแดกมันแล้วมั้งชาเขียวปั่น อิ่มแล้วสิมึง”
(ครับ? พี่ก็รอเต้ยมาอยู่นะครับ เต้ยอยู่ไหนล่ะครับ) ขนาดมันคุกับผมอยู่ยังมีคนมองเลย อย่างว่า มันเป็นเดือนมหาลัย ผมมันก็แค่นักศึกษาธรรมดา
“เหอะ แค่นี้นะ” ผมกดวางยกชาเขียวปั่นขึ้นดูด มายืนอยู่จุดนี้มันเหมือนผมกับมันอยู่คนละเส้นทางกันเลย มันมีพร้อมทุกอย่าง ทั้งหน้าตาและการศึกษา ที่มันคิดจะจีบผมก็คงเล่น ๆ ล่ะมั้ง
เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นอีก เป็นไอ้แซมที่โทรเข้ามาแล้วผมไม่ได้รับสามสาย ผมอยู่ในอารมณ์ที่อยากอยู่คนเดียว น้อยใจมันเหรอวะ ก็คงไม่หรอก แต่มันก็ไม่เห็นทำท่าทางว่าจีบผมเลยนี่หว่า กูคงสำคัญตัวเองมากเกินไป
“พี่เต้ย!” ใครวะ? ผมหันไปเจอน้องตัสกวักมือเรียกอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล สงสัยจะมีเพื่อนเที่ยวแล้วผม
“มากับใครวะตัส นี่เพื่อนมึงเหรอ” เพื่อนมันอีกสองคนยกมือไหว้ผม ตัสมันตัวเตี้ยกว่าผมสูงแค่ช่วงไหล่ ผมยกแขนพากหัวมัน ตัสเอามือดันออกตีหน้ายุ่ง
“พี่เต้ยชอบแกล้ง นี่ไอ้เจกับไอ้จา เพื่อนสนิทตัสเอง นี่พี่เต้ยพี่กูเอง”
“แล้วไง จะมาเข้าที่นี่ตามพี่รึไงวะตัส”
“เปล่าพี่ ตัสมาเข้าบริหาร พี่โจ้บอกเรียนที่นี่ดี จะได้มีคนดูแลตัส” ผมยิ้มในใจ จะได้มีคนรายงานว่ามึงไปไหนบ้างล่ะสิ ไอ้ตัส ไอ้เด็กน้อย
“พี่เลี้ยง จะกินอะไรบอกมา” ผมกอดคอตัสเดินไปตามซุ้มต่าง ๆ ตัสมันเข้ากับคนง่ายดีครับ ไปที่ไหนก็มีคนมาขอถ่ายรูปด้วย ก็มันน่ารักคุยเก่ง นิสัยมันคล้ายต้นข้าวเมื่อก่อนคือกวนส้นตีนแบบน่ารัก
“จา ๆ กูปวดฉี่ว่ะ พี่เต้ยอยู่กับไอ้เจไปก่อนนะ” ตัสมันกุมเป้ากางเกงลากมือเพื่อนชื่อจาไปทางห้องน้ำ ผมก็นั่งรอมันอยู่กับไอ้เจ ตัวแค่นี้หัดหล่อ ผมว่าถ้ามันขึ้นปีหนึ่งคงเนื้อหอมน่าดู
“พี่เต้ยมีแฟนยังครับ” ผมหันขวับ ไอ้จามันมองผมตาพราว ไม่นะ มึงคงไม่คิดอะไรกับกูใช่ไหม
“ทำไม?”
“ตัสมันมีแฟนเป็นผู้ชายผมก็พอรู้ แล้วพี่เต้ยล่ะ อยากลองคบผมเป็นแฟนดูไหม?”
เคร้ง!
เหี้ย! ผมหลบกระป๋องน้ำอัดลมอย่างหวุดหวิด มองไปยังต้นทางเจอไอ้แซมมันยืนมองผมกับเจสายตาเรียบนิ่ง ร่างใหญ่เดินมาหาผมเดาะลิ้นทำหน้าไม่พอใจ
“ขอโทษครับ มันหลุดมือ” เสียงเข้มของมันเอ่ยขึ้น
“หลุดไกลจังนะครับ ตกลงว่าไงพี่เต้ย ลองคบกับผมดูไหม?” เจถามซ้ำ ผมกลืนน้ำลายลงคอ
“พี่มีแฟนแล้วว่ะเจ พี่ขอตัวก่อนนะ นึกได้ว่ามีธุระ” ผมรีบปลีกตัวเองออกมากจากตรงนั้น ย้ำเท้าไปทางลานจอดรถเพื่อขับรถกลับหอ เพียงแค่มือแตะหมวกกันน็อคก็มีมืออีกคนมากระชากผมให้หันไปทางด้านหลัง
“อ่อยเด็กมันใช้ได้เหรอเต้ย” ผมสะบัดมือออก
“มันก็เรื่องของกู มึงไม่เห็นตั้งแต่แรกอย่ามาพูด” ผมสวนกลับไป ดูยังไงว่าผมอ่อยวะ หน้าอย่างผมเนี่ยนะ
“ก็พี่เห็นพี่เลยพูด ทำไมครับ ที่พี่โทรไปไม่รับเพราะมัวแต่มานั่งอี๋อ๋อกับมันรึยังไง”
“อย่าพูดให้กูขนลุก กูจะกลับห้อง” ผมไม่อยากคุยกับมันในตอนนี้ แซมมันอุ้มผมพาดบ่าเรียกสายตาของคนทั้งลานจอด ผมตัวไม่ได้ตัวเล็กและมันก็ไม่ได้ตัวใหญ่มาก ได้แต่รัวหมัดทุบหลังมันให้ปล่อย
ตุบ
“พี่ว่าเรากลับไปคุยกันที่ห้องพี่จะดีกว่า วันนี้แม่พี่ไม่อยู่บ้าน ใครจะมาขัดจังหวะเราอีกคงไม่มี” ผมเบิกตากว้างมือจับประตูจะเปิดลง แซมมันเหยียบคันเร่งดึงร่างผมให้ตัวติดเบาะล้มลงหน้าทิ่ม
ไม่คิดไม่ฝันว่าจะเจอมุมนี้ของไอ้หมอเหมือนกัน ผมกำลังกลัว กลัวว่าไอ้หมอมันคิดจะกดผมจริง
…………………………………………………………
เพทาย
ผมมีความรู้สึกเหมือนมีคนจ้องเราอยู่ตั้งแต่เดินออกมาจากหน้าตึกบริหาร พอหันไปก็ไม่เจอใคร ต้นข้าวมันก็ถามผมว่ามองอะไร ผมส่ายหน้าคงคิดไปเอง
“วันนี้วิศวะก็เปิดรับไม่ใช่เหรอวะ เราแวะไปดูน้องเรากันไหมหล่อ”
“มึงจะไปดูอะไรกันแน่เมีย” ผมถามเสียงเข้ม ต้นข้าวมันเงยหน้าขึ้นมาบิดหูผมซะแดง
“คิดอะไรวะหล่อ เดี๋ยวจูบโชว์มึงอย่ามาอาย” ผมก็อยากให้มันทำจริงนะ อย่างที่รู้ว่าเมียผมมันสุภาพบุรุษ รักเด็ก รักษ์โลก ทำขนมเป็น เรียนเก่ง ถ้าไปประกวดนางงามมันคงผ่าน
“มึง…นั่นมัน…” ทั้งผมทั้งมันหยุดยืนมองไปที่ร่างเล็กของอีกคนที่กำลังยื่นใบสมัครสาขาโยธา
“ลม” ต้นข้าวพึมพำออกมา
“มันเอาจริงสินะ” ผมกุมมือต้นข้าวที่สั่นแน่น “กูไม่ปล่อยให้มันทำอะไรมึงหรอกข้าว ตราบใดที่กูยังอยู่มึงจะปลอดภัย”
“กูก็ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น ของ ๆ กู กูก็รักนะหล่อ ถ้าไม่มายุ่งกับกู กูก็จะไม่ยุ่ง” ผมรู้มันไม่ได้อ่อนแอ ต้นข้าวมันเข้มแข็งกว่าที่ผมคิดเยอะ
“ทำเป็นโหด เมียใครวะน่ากลัวจัง” ผมแกล้งยิ้มขยี้หัวมันไม่ให้เครียด ต้นข้าวมันเอานิ้มมาดีดหน้าผากผมให้เลิกเล่น
“กูหิว! ไปหาอะไรกินกันสามี วันนี้เมียคนน่ารักจะเลี้ยงเอง เงินเดือนกูออกครับ” เราหมุนตัวกลับ ผมเหล่มามองทางด้านหลังเห็นสายตาของลมที่มองเราอยู่ ผมมองกลับไปหันกลับมาคุยกับต้นข้าวต่อ
อย่าคิดเล่นสกปรกกับคนอย่างกู
ถ้าผมเดาไม่ผิดไอ้เด็กคนนี้มันคุ้นหน้าคุ้นตาเหมือนเคยเห็นในงานเลี้ยงอะไรสักที่ ถ้าให้โจ้ลองสืบไม่นานคงได้รู้กันว่ามันเป็นใคร ในอนาคตผมอาจจะเจอมือที่สามเข้ามาได้ตลอดเวลา แต่ถ้าสามารถป้องกันได้ผมก็จะรีบทำ ผมจะไม่ยอมให้ความรักของผมล่มเป็นอันขาด ต่อให้เรารักกันมากแค่ไหน แต่ถ้าเจอคนเล่นสกปรกมามันก็ไม่แน่ที่มันจะเปื้อนกรอบที่ผมสร้างขึ้น
…………………………………………………………………….
พีช
ผมนอนฟังเพลงอยู่บนเตียงนุ่มมือกอดตุ๊กตาหมีตัวเล็กเอาไว้แนบอก ชีวิตประจำวันของผมคือเช้าตื่นมากินข้าวกินยา บ่ายก็ฟังเพลงบ้าง อาบน้ำแช่ตัวให้รู้สึกสบาย ปากผมฮัมเพลงคลอตามเอียงหน้าส่ายไปมา
“พีชครับ วันนี้น้ำจะพาไปเดินเล่นที่หลังบ้านนะ” ผมลุกขึ้นนั่งได้ยินเสียงต้นน้ำอยู่ใกล้ ๆ
“อืม ไปสิ”
ผมมองเลยไปที่ประตูหันหน้าคนละทางกับที่ต้นน้ำนั่งอยู่ น้ำตาผมจะไหลออกมาเมื่อเห็นหน้าต้นน้ำใกล้ ๆ อีกครั้ง เมื่อสองวันก่อนที่ผมไปหาอาหมอมาต่อจากไปหาซัมเมอร์ที่โรงพยาบาล อาหมอบอกผมหายดีแล้วแต่ต้องมาตรวจตามเวลานัดอยู่ ผมไม่ได้บอกใครเรื่องนี้ ไม่บอกใครสักคน
ผมอยากจะอยู่กับต้นน้ำ อยากให้เขาดูแลผม ใส่ใจผม
ผมกลืนก้อนแข็งลงคอความรู้สึกผิดมันจุกแน่นที่อก เพราะผมเดาไม่ออกเลยว่าที่ต้นน้ำมาดูแลผมมันเพราะอะไร เพราะเขารักผมจริงหรือแค่ต้องการรับผิดชอบ ผมไม่ได้ดูถูกความรู้สึกต้นน้ำ แต่มันจะผิดไหมที่ผมอยากจะยื้อเวลานี้ออกไปให้นานที่สุด
“พีช…น้ำกำลังจะแต่งงาน” ผมตัวชาไปชั่วขณะ ต้นน้ำแต่งงาน กับใคร? ตอนไหน?
“ทำไม…”
“รอพีชหายก่อนแล้วน้ำจะเล่าให้ฟังนะครับ ระหว่างนี้น้ำจะให้น่านมาดูแลพีชชั่วคราว”
“ทำไมล่ะ?! น้ำมีอะไรก็พูดมาตอนนี้สิ พีชทำอะไรผิด”
“พีชไม่ผิด…รอนะครับ รอน้ำกลับมา ไม่นานจริง ๆ” ผมแววตาสั่นระริกสับสนกับความรู้สึกของตัวเอง น้ำจะไปไหน? เขาเบื่อผมแล้วใช่ไหม เบื่อกับคนแบบผมแล้วใช่ไหม?
TBC.
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5.4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ