แรดชิบหาย เมียอย่างมึง!
5.5
เขียนโดย LemonNest
วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.06 น.
42 chapter
66 วิจารณ์
54.42K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 21.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) บทนำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทนำ
ต้นข้าว
สิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว...เราไม่สามารถย้อนเวลาไปแก้ไขมันได้
คำพูดผมอาจจะมีสาระ แต่...
กูไม่ตลกนะเฮ้ย!
ผมชื่อต้นข้าวปีสองวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมเป็นผู้ชายหน้าตาดีที่เงินในบัญชีมีแค่ห้าพันกับเศษสองร้อยที่ติดกระเป๋าตังไว้เป็นขวัญกระเป๋า อย่าคิดว่าหล่อๆอย่างนี้กูจะมีเงินครับ
เคยเห็นไหม หล่อแต่จนของจริง
เรื่องที่ผมกำลังพูดถึงมันโคตรจะดราม่าเตรียมผ้าเช็ดหน้าไว้ซับน้ำตากันให้ดีๆ เมื่อคืนผมไปเที่ยวผับตามฉบับแก๊งหล่อประจำสาขา หยุดเพ้อ หยุดฝัน ว่าผมจะเสียประตูหลังในผับเหมือนนิยายหวานแหววเพราะเรื่องบัดซบนั่นมันเกิดที่...
ข้างถังขยะ!!!
ไม่ได้มาเล่นมุกตลกหรือพูดเล่นให้คลายเครียดกัน แต่มันคือความจริงที่เด็กวิศวกรรมคนนี้มันไม่สามารถเปิดเผยให้ประชาชีรู้ได้ เอากูทั้งทีเลือกโลเคชั่นดีๆหน่อยก็ไม่ได้
แล้วถ้าถามว่าตอนนี้ผมอยู่ไหน หึ กูก็ไม่รู้เว้ยยย
ตื่นมาอีกทีโผล่มาห้องใครสักคนที่หรูเชี้ยๆ ผมเดินสำรวจมารอบห้องเจอแต่ข้าวของแสนแพงจนไม่กล้าจับ ช่วงล่างมันเกินจะบรรยายไม่ต่างกับโดนรถสิบล้อทับก้นสักเท่าไหร่
แกร๊ก
เคยดูหนังเกาหลีตอนพระเอกข่มขืนนางเอกไหม ผมกำลังวิ่งกลับไปนอนที่เตียงเอาผ้ามาห่มตัวแกล้งหลับตาลงใช้แต่ประสาทสัมผัสแค่หู เสียงฝีเท้าเดินตรงมาที่เตียงผมใจเต้นตึกตัก
“พี่ตี๋ เต้ยว่าเอามันไปฝังกลบหน้าบ้านดีกว่าว่ะพี่”
“อืม พี่กำลังคิดอยู่เลย พุงออกขนาดนี้ท่าทางจะอืดแล้วว่ะ”
“หรือเราจะสับมันเป็นชิ้นๆให้หมามันแทะดี ได้บุญด้วยนะพี่”
ฝังกลบ? อืด? หมาแทะ?
ผมกำลังประมวลผลในสมองว่าบทสนทนาที่ได้ยินคืออะไร แล้วพี่ตี๋กับไอ้เต้ยมันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เอ๊ะ พี่ตี๋ ไอ้เต้ย!!!
พรึ่บ
ผ้าห่มผืนบางถูกสะบัดออก ต้นข้าวลุกขึ้นนั่งจ้องมองคนสองคนที่รู้จักกันดี ไอ้พระเอกนางเอกที่คิดไว้ตอนแรกเป็นเพียงความคิดที่หลุดลอยไปไกล เพราะไอ้ที่นั่งอยู่ข้างเตียงเป็นรุ่นพี่ที่คณะและเพื่อนสนิทเพียงคนเดียว
“เฮ้ย! พี่มาได้ไงวะ” ผมถามออกไป
“หืม อะไรของมึง นี่ห้องกูทำไมกูจะมาไม่ได้ เต้ย กูว่าสับมันแล้วให้หมาแทะเหอะ”
“ไม่ๆ นี่ห้องพี่เหรอวะ” ผมกำลังงงแดก เมื่อคืนผมโดนซั่มแล้วก็หมดสติไป หลังจากนั้น...อะไรวะ มันเกิดอะไรขึ้น
“เออสิวะ! เมาแล้วสติเลอะเลือนนะมึง” เรื่องบ้าอะไรกันวะ พี่ตี๋เดินออกไปผมเลยมาคาดคั้นไอ้เต้ยต่อ
“กูมาอยู่ห้องพี่ตี๋ได้ไงวะ” มันมองผมเหมือนทำอะไรผิด
“ควาย ไม่ใช่แค่มึงครับ ทุกคนแม่งก็มานอนนี่หมด แต่มึงตัวร้อนๆท่าจะไม่สบายพี่ตี๋เลยให้มึงนอนที่เตียงแทน เอ้า แดกข้าวแดกยาเองได้นะ” เต้ยวางยาไว้โต๊ะข้างเตียงพร้อมชามโจ๊ก
ร่างสูงเดินออกไปกดปิดประตูให้ ลับหลังเพื่อนต้นข้าวตบหน้าผากตัวเองคิดหนัก หน้าก็จำไม่ได้เสือกมาทิ้งกูไว้อีก คอยดูนะมึง ถ้ากูรู้ว่าเป็นใครจะจับทำเมียแม่งให้เข็ด
………………………………………………................................
เพทาย
ฮัดชิ้ววว ฮัดชิ้ววว
เพทายจามออกมาเสียงดังบีบจมูกโยกให้หายเคือง เป็นหวัดแต่เช้าเลยกู ร่างกำยำเดินเปื่อยท่อนบนไปหยิบน้ำอุ่นมาดื่มแก้กระหาย เมื่อคืนรู้ตัวว่าเมาหนักแต่ก็จำได้ลางๆว่าร้องครางไม่หยุดเหมือนกัน ผู้หญิงเมื่อคืนลีลาเด็ดใช้ได้ทำเอาคลั่งหน้ามืดจับปล้ำไม่เลือกสถานที่
เห้อ เสียดายลูกน้องเขาลากกลับมาบ้านเสียก่อน ไม่ทันได้ถามชื่อเลย
“นายครับคุณท่านเรียกไปหาที่ห้องทำงานครับ” ป๋าเรียกอะไรแต่เช้า เพทายสวมเพียงเสื้อคลุมตัวเดียวเดินไปห้องทำงานผู้เป็นพ่อ
“ถ้าแกจะเคารพฉันขนาดนี้นะไอ้ลูกเวร” เสียงเข้มเอ่ยดุแต่ไม่จริงจัง
“ป๋ามีอะไรอ่า” ผมรีบถามจะได้กลับไปนอนต่อ เพทายปิดปากหาวปากกว้างเอนหลังพิงพนักเก้าอี้
“เทอมที่แล้วแกได้เกรดเท่าไหร่”
“ก็...สองกว่าไง” ผมตอบอ้อมแอ้ม สองจุดหนึ่งมันก็กว่าป่ะวะ
“เหอะ ส่งคุณชายหรือส่งควายไปเรียน” ป๋าใจร้ายว่าลูกเป็นควาย ผมตั้งใจแล้วนะแต่ติดอย่างเดียว ติดตรงกูโง่เนี้ย เรียนไปเพื่อทดสอบความโง่ตัวเอง
“ป๋า…” ผมจะพูดแต่โดนป๋าขัด
“พอๆ ฉันจ้างคนมาสอนแกแล้ว” ติวเตอร์เหรอ ผมตาวาวคิดไว้ว่าต้องสวยหุ่นน่าฟัดแน่
“จริง! งั้นเริ่มเลย วันนี้เพเลิกเรียนบ่าย”
“หึ ฉันรู้ว่าแกคิดอะไร แต่เสียใจด้วยคนนี้เป็นผู้ชายอยู่ปีสามคณะแกนั่นแหละ”
“ไม่! เปลี่ยนคนนะป๋า เพจะเอาผู้หญิง จะเอาๆๆๆ”
“ก็ได้” ผมยิ้มแป้น “แต่ฉันจะยึดรถยึดคอนโดแกแล้วให้มาอยู่บ้านแทนดีไหม” หุบยิ้มแทบจะไม่ทัน ไล่ให้ไปตายยังจะดีซะกว่า
“ม่ายยย ทำไมป๋าทำงี้วะ” ผมบ่นเอาปากกามานั่งเขี่ยกองเอกสารเล่น
“แกวะกับใคร”
“ขอโทษครับ ป๋าเอาเลยตามสบาย จะให้เรียนตอนไหนบอกโจ้ไว้แล้วกัน” ผมเดินหน้าบึ้งออกจากห้องส่งโจ้ลูกน้องคนสนิทเข้าไปนั่งฟังแทน
ช่างมัน แต่งตัวไปเรียนดีกว่าเผื่อจะฉลาดขึ้นบ้าง
…………………………………………………………………..
ต้นข้าว
ต้นข้าวเดินกระสับกระส่ายวนอยู่ในห้องเรียน จิ๊ ใครวะ แม่งเป็นใครวะ!!!
“โอ๊ย กูเวียนหัวไอ้ห่า มึงเป็นอะไรครับเพื่อน” เต้ยโวยวายนั่งทึ้งหัวตัวเองเริ่มจะบ้าตามเพื่อน ต้นข้าวมันเป็นบ้าอะไรแต่เช้าวะ
“เต้ย เมื่อคืนมึงแน่ใจนะว่าเจอกูนอนสลบอยู่ข้างห้องน้ำ” ผมถามเพื่อความมั่นใจ
“เออ ก็มึงบอกจะไปเข้าห้องน้ำแล้วมึงก็หายไปซะนานไอ้สัส กูจะกลับกันแล้วเลยลองไปดู เจอมึงนอนหน้าซีดหน้าห้องน้ำนั่นแหละ”
“ใช่เหรอวะ” ผมหยิบดินสอมาขีดระบายอารมณ์ลงกับกระดาษสมุด โมโห! มันกล้าทำกับกูอย่างนี้เลยเหรอวะ ฟันแล้วทิ้ง ฮือ มันเจ็บจี๊ดไปจนถึงหัวใจ
“ถามทำไมนักหนาวะ” เต้ยมันจ้องหน้าผมหรี่ตาจับผิด โอเค กูยอมแล้ว
“เออๆ ช่างมันเหอะ ไหนๆเมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ” ผมตีเนียนเดินไปหาเพื่อนคนอื่น เต้ยมันยังจ้องผมไม่เลิกนั่งจับคางคิดอะไรสักอย่าง
@CF Coffee
ผมยกมือไหว้พี่ๆที่ทำงานเดินไปเปลี่ยนเป็นชุดพนักงานของร้านในห้องน้ำ ในทุกวันผมจะแวะมาทำงานพิเศษที่นี่ก่อนกลับประมาณสามสี่ทุ่ม เงินดีเพื่อนร่วมงานดีก็อยู่กันยาวหน่อย
“เค้กส้มกับนมปั่นของโต๊ะสี่นะสุดหล่อ” ผมชอบมองหน้าสวยๆของพี่แคชเชียร์ว่ะ
“ครับ สุดสวย”
“อะแฮ่มๆ อยากโดนไล่ออกไหมต้นข้าว” เสียงกระแอมดังขัดจังหวะ จะใครซะอีกนอกจากพี่เตชินเจ้าของร้าน ชิ เบื่อคนมีแฟน
“ได้แล้วครับผม” เค้กส้มกับนมปั่นวางลงบนโต๊ะอย่างเบามือ ผมเงยหน้าขึ้นมองเห็นเป็นเข็มตรามหา’ลัย เดียวกันจริงยิ้มหวานไปให้
“น่ารักจัง มีแฟนยังครับ” ว่าไงนะ
“ห้ะ เมื่อกี้พี่ว่าอะไรครับ” หูฝาดแน่มึงเอ๊ย เจอผู้ชายจีบ
“ฮ่าๆๆ น่ารักจริงด้วย” เออ ยิ้มหวานให้อีก กรี๊ดดด ต้นข้าวขนลุก ผมจ้ำอ้าวกลับมาเก็บถาดที่เคาน์เตอร์
เสียงริงโทนที่ตั้งเอาไว้ดังขึ้นพร้อมระบบสั่น ผมขอพี่พิมแคชเชียร์คนสวยออกไปคุยโทรศัพท์บริเวณไม่ไกลมากนัก ขอแค่ให้ห่างจากลูกค้าไม่รบกวนการใช้บริการก็พอ
“ว่าไงพี่ต้น” ผมกดรับสายพี่ต้นน้ำ ไม่อยากจะอวดพี่ชายผมหล่อและเก่งโคตร แต่เหมือนตอนคลอดแม่จะให้ความฉลาดกับพี่มากไปน้องเลยมีแต่ขี้เลื่อย
(พี่ได้งานพิเศษเพิ่มแล้วนะ เงินดีงานง่ายด้วย)
“พอเหอะพี่ จะขยันไปถึงไหนวะ ทั้งเรียนทั้งทำงานเดี๋ยวไม่สบายขึ้นมาแย่เลยนะ”
(เอาน่า พี่อยากให้แกสบายเหมือนคนอื่นเขาสักที)
“แค่นี้ข้าวก็มีความสุขแล้วครับ” ผมกลืนน้ำลายลงคอตื้นตันน้ำตาจะไหล
(คิดถึงแกนะไอ้น้องชาย วันนี้กลับไวแกจะกินอะไรไหม)
“อืม ข้าวอยากกินซูชิอ่า เมื่อวานเดินผ่านร้านอาหารญี่ปุ่นแต่ไม่กล้าซื้อ” ผมใช้จ่ายทีต้องคิดแล้วคิดอีก เงินส่วนหนึ่งก็ของพี่ต้นน้ำ ส่วนค่าขนมผมก็หาเอง
(งั้นเดี๋ยวพี่แวะซื้อเข้าไป เอาอะไรอีกไหม)
“ไม่แล้วครับ ดูแลตัวเองด้วยนะ” ผมวางสายพี่ต้นน้ำเดินกลับเข้ามาในร้าน
“ต้นข้าว เมื่อกี้มีหนุ่มมาถามหาด้วย กิ้วๆ ยังไงจ๊ะ” พี่พิมแซว
“ใครครับ”
“หนุ่มโต๊ะสี่ไง หล่อดีนะ ลูกค้าประจำที่นี่ด้วย” เวร ลูกค้าประจำอีก ผมส่งยิ้มแหยให้พี่พิม
ที่ว่าคนโดนใหม่ๆแล้วฟีโรโมนพลุ่งพล่านท่าจะจริง
ต้นข้าวเดินไปเดินมาในร้านอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย พี่ๆพนักงานในร้านพากันรักเด็กน้อยคนนี้และหวงมากเช่นกัน พนักงานที่ไว้ใจได้และซื่อสัตย์อย่างต้นข้าวก็ใช่จะมีเยอะ
“ให้พี่ไปส่งไหม” เสียงพี่เตชินถามผมที่เดินออกจากห้องน้ำมาชุดนักศึกษา พี่พิมพยักหน้ายิ้ม แต่บ้านผมมันก็แค่ถัดไปสองซอยเอง
“แค่นี้เองพี่ ไปแล้ว กลับดีๆนะพี่ สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ทุกคนเดินสะพายกระเป๋าออกมา
ปิ้นๆ
ปิ้นๆๆๆๆ
ผมหันกลับไปมองด้านหลัง พี่คนที่จะจีบผมลดกระจกรถลงชะโงกหัวมายิ้มให้ผม
“ขึ้นมาสิ พี่ไปส่ง” วันนี้วันต้นข้าวเหรอวะ ขยันไปส่งกูจัง
“ไม่เป็นไรครับ” ผมไม่อยากขึ้นรถกับคนแปลกหน้า ผมปฏิเสธเดินจ้ำอ้าวก่อนจะถึงซอยตัวเอง รถพี่เขาก็ยังขับชะลอตามผมอยู่
“บ้านอยู่ซอยนี้เหรอ” ก็เห็นเดินเลี้ยวเข้าจะถามทำไม
“ครับ พี่กลับไปได้แล้วเดี๋ยวพี่ชายผมมาเห็น” ผมไม่ได้ไล่แต่พี่ต้นน้ำชอบคิดมาก อะไรที่เป็นเรื่องของผมจะเป็นเรื่องของพี่ชายทั้งหมด
“มีพี่ชายด้วย อืม งั้นพรุ่งนี้เจอกันที่ร้านนะ” ผมถอนหายใจทิ้ง สรุปก็เจออยู่ดี เห้อ
ผมมองรถยนต์จนขับออกไปจนสุดสายตา เดินเปิดประตูรั้วเข้าไปในบ้านเห็นพี่ชายกำลังนั่งอ่านหนังสือ ส่วนผมน่ะเหรอ ขอพักสายตาสักชั่วโมงก่อนแล้วกัน
…………………………………………………………….
เพทาย
เพทายนั่งหน้าบึ้งเท้าคางมองจอแอลซีดีขนาดใหญ่ภายในห้องที่คอนโด น่าเบื่อ ร่างสูงกดรีโมทปิดนอนแผ่หลามือคว้าโทรศัพท์มากดเล่นเกมส์
“โจ้ มึงว่าป๋าทำถูกไหม” ลูกน้องคนสนิทครุ่นคิด
“กักบริเวณเจ้านายน่ะเหรอครับ อืม คุณท่านคงอยากให้เจ้านายลดเที่ยวบ้างมั้งครับ”
“กูก็ว่ากูเที่ยวไม่บ่อยนะ” โจ้หันมามองหน้าเพทาย เกือบทุกวันไม่บ่อยเล้ยยย
“เจ้านายเบื่อเหรอครับ งั้นโทรหาเพื่อนๆให้มาหาที่ห้องก็ได้นี่ครับ ไม่ได้ขัดคำสั่งคุณท่านด้วย” โจ้เสนอสายตาเจ้าเล่ห์
“เออว่ะ มึงนี่มันฉลาดจริงๆ” เพทายลุกไปหยิบโทรศัพท์อีกเครื่องมาต่อสายหาเพื่อน
(ว่าไงวะ)
“ไอ้ฟาง มึงโทรชวนไอ้ติ้วมานั่งดื่มห้องกูด้วย พาสาวมาสักคนสองคน”
(อะไรวะ หรือว่าคำสั่งป๋า ฮ่าๆๆๆ เออ ไอ้ลูกที่ดี) เวร! ผมแค่ห่วงรถห่วงที่อยู่แค่นั้น
“แล้วมึงอยู่ไหนเสียงอารมณ์ดีผิดปกติ”
(เพิ่งกลับห้อง เออมึง ว่างๆจะพาไปดูว่าที่เมียกู น่ารักชิบหาย)
“เมียคนที่เท่าไหร่วะ เออๆช่างแม่ง มึงมาให้ไวเลยกูเสี้ยน” ผมไม่ได้แตะสิ่งมึนเมามาตั้งวันนึง อีกสามวันติวเตอร์ก็จะมาสอนผมแล้วขอเมาให้หายอยากก่อนแล้วกัน
(ปากดี เออ รำคาญมึงชิบหาย ห้าทุ่มกูเข้าไป)
“โจ้ เอาสาวสักคนไหมกูหาให้” ผมไม่อยากให้มันเบื่อ วันๆกกอยู่แต่กับผมจนจะได้เสียกันอยู่รอมร่อ
“ผมไม่นิยมบริโภคผู้หญิงสักเท่าไหร่ แฮ่ๆ” โจ้ยิ้มแหยยกมือลูบท้ายทอย
“อืม กูก็พอรู้” มันอยู่กับผมมาสามปีเรื่องที่มันรสนิยมแปลกผมก็รู้มาสักพัก ทำเอาระแวงกันไปจนเข้าหน้าไม่ติด แต่โจ้มันก็พูดกับผมตรงๆว่าผมไม่ใช่สเปกมัน
ถามจริง...จิ้มทางประตูหลังมันดีจริงเหรอวะ?
“เอ่อ...ที่จริง...เจ้านายก็เคย...” หืม ผมหันไปสนใจมันที่พูดจาแปลกๆ
“อะไรวะ?”
“เคยเสียบข้างหลังผู้ชายมาแล้วนี่ครับ” โจ้ยิ้มก้มมองพื้นกลั้นขำ
“มึงว่าไงนะ!!! เหอะ อย่าพูดล้อเล่นแบบนี้นะมึงกูขนลุกชิบหาย” ผมลูบขนแขนตัวเองที่ตั้งชันขึ้นมา
“เอ๋? ผมพูดจริงนะเจ้านาย”
“พอๆกูไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ ถ้าวันไหนกูทำอย่างที่มึงว่านะ...เอาถังขี้มาสาดใส่หน้ากูได้เลย" คนไม่รู้เรื่องพูดออกมาด้วยความมั่นใจ โจ้นึกขำในใจ
สงสัยต้องไปเตรียมถังขี้มาอย่างที่ว่าจริงๆ แต่ใครจะไปกล้าสาดกันเจ้านาย
TBC.
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5.4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ