ทายาท อันดับห้า แห่งฉางเมือง
-
เขียนโดย หกแสบ
วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 22.27 น.
4 ตอน
0 วิจารณ์
6,534 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 22.40 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) เชื่อมสัมพันธ์ part 1
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความทายาท อันดับห้า แห่งฉางเมือง part 1
ตอนที่ 2 เชื่อมสัมพันธ์
โดย หกแสบ
**+++***+++***+++***+++***+++***+++***+++*
หัวหน้ายมทูตขาว: “ฐานข้อมูลลับเป็นแหล่งเก็บรวบรวมข้อมูล ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตไว้ รวมไปถึงข้อมูลตั่งแต่เกิดจนตายของทุกคนบนโลกนี้โดยเฉพาะข้อมูลในอนาคตสำคัญมาก ยกตัวอย่างเช่น อีก 150 ปีข้างหน้านับจากนี้มนุษย์จะสามารถ คิดค้นสร้างปัญญาประดิษฐ์ ได้ นำไปประยุกใช้กับหุ่นยนต์ หุ่นยนต์สามารถคิดเองได้ และวิทยาการอีกมากมายที่ไม่มีในปัจจุบัน และอีกอย่างหนึ่งนะครับผมไม่ได้เป็นคนดูแลขอมูลลับนั้นผมแค่รวบรวมข้อมูลที่ได้มาจากเครือขายเด็กชานเมืองอีกชื่อหนึ่งก็คือแก๊งเด็กชานเมืองที่แฝงตัวอยู่ในทุกองค์กรที่มีอยู่ทั่วโลกและส่งมอมต่อให้ โปรเจคเอ็ม เป็นผู้ดูแล”
จอมพลที่9:“และโปรเจคเอ็มคืออะไร”
อันดับที่1: “ไม่ใช้สิ่งที่ท่านควรจะรู้จอมพลที่เก้า มันเป็นคำสั่งระดับ SSS เป็นคำสั่งสูงสุดภายใต้สัญลักษณ์สูงสุดนั้นคือดาบชามูไรงาช้างยกขาวหรือดาบยมทูตขาว”
หัวหน้ายมทูตขาว: “ท่านควรอ่านประวัติศาส บางนะจอมพลที่เก้า”
จอมพลที่9: “ และไม่ทราบว่าท่านจะสอนวิชาประวัติศาสได้หรือไม่”
หัวหน้ายมทูตขาว: “คำสั่งระดับ SSS เป็นคำสั่งของปฐมอันดับรุ่นที่หนึ่ง เมื่อนานมาแล้วเป็นคำสั่งรักษาข้อมูลลับสุดยอดแค่นั้น ไม่มีข้อมูลระบุว่ามันคืออะไร และมันยุที่ไหน รู้แค่เพียงว่าพวกเรามีหน้าที่รวบรวมข้อมูลทั้งหมดและส่งต่อให้โปรเจคเอ็ม เก็บรักษา”
จอมพลที่8:“ในเมื่อรู้แล้วว่ามันต้องการอะไรและจะป้องกันอย่างไง”
จอมพลที่เจ็ดซึ่งได้ฉายยาว่า ‘ขมเบ้งหญิงแห่งจอมพล’ เป็นผู้หญิงที่ได้เป็นจอมพลคนใหม่แทนคนเก่าที่ทรยศไป คงไม่แปลกหากความสามารถที่เธอมีทำให้เธอถูกคัดเลือกขึ้นมาเป็นจอมพลเธอสามารถวางกลยุทธ์ลับมือกับศัตรูได้อย่างชาญฉลาดและวางแผนแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีในทุกสถานการเช่นเดียวกับในกรณีนี้ด้วย สมองของเธอคิดวิเคราะห์และวางแผนไว้ตั่งแต่เริ่มสนทนา “ดิฉันคิดว่าเราจะต้องส่งสารไปยังเมืองใหญ่น้อยต่างๆ เพื่อให้รับรู้ถึงภัยที่จะมาถึงและพร้อมรับมือทุกเมื่อ รวมถึงเราต้องสร้างมิตรเพื่อร่วมมือกันในการที่จะรับมือกับศัตรู ”
จอมพลที่4:“คงไม่ง่ายเพราะความสัมพันธ์ของเรากับระหว่างเมืองน้อยใหญ่ไม่ดีนัก”
จอมพลที่2:“เราตักขาดออกจากโลกภายนอกมานาน คงยากที่จะให้เมืองน้อยใหญ่ เมืองอื่นๆยอมเป็นมิตร และไม่ใช้เฉพาะสามจอมพลนั้นที่ต้องการจะได้ข้อมูลลับไว้ในครอบครอง เมืองใหญ่น้อยก็ต้องการเช่นกัน พวกมันอาจถือโอกาสนี้รอบกัดเราก็ได้”
จอมพลที่7:“ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ใช้การแต่งงานเป็นสื่อเชื่อมความสัมพันธ์ และมันก็ใช้ได้ผล เพราะเมื่อเชื่อมความสัมพันธ์แล้วก็คือบ้านพี่เมืองน้อง และเพื่อไม่ให้มีการหักหลังกันเกิดขึ้นในภายหลังจึงมีการเขียนสัญญาขึ้นในวันแต่งงาน คำถามของเราก็คือเมืองไหนเหมาะที่จะเชื่อมความสัมพันธ์ด้วย เมืองนั้นจะต้องเป็นเมืองที่มีอิทธิพลเป็นอย่างมากต่อเมืองอื่น ๆ เพื่อที่จะมีอำนาจเจรจาต่อรองกับเมืองน้อยใหญ่ให้ร่วมมือกันรับมือกับภัยในครั้งนี้”
อันดับ3:“ท่านจอมพลที่เจ็ดท่านคงไม่คิดว่าจะเกิดมหาสงคราบโลกปีศาจขึ้นเป็นครั้งที่สองใช้หรือไม่”
จอมพลที่7:“จากการวิเคราะห์ของดิฉันมันจะเกิดขึ้นแน่ในไม่ช้านี้เมื่อสามจอมพลนั้นควบคุมปีศาจได้หรือเจรจาต่อรองกับปีศาจระดับสูงเป็นผลสำเร็จ สามจอมพลนั้นจะมีกำลังเพิ่มมากว่าเรา10เท่าและมันพร้อมที่จะบดขยี้เราในทันที่ เรามีโอกาสชนะแค่หนึ่งในร้อยเท่านั้นแต่ถ้าเรามีกองกำลังจากเมืองอื่นๆเราจะมีโอกาสชนะห้าสิบห้าสิบ”
อันดับ3:“งั้งพวกท่านก็เสนอมาว่าใครในเหล่าอันดับทั้งห้า จะเป็นผู้ตกนรก ไม่ใช้ชิเสียสละ ฉันข้อโหวดให้อันดันที่หนึ่ง”
อันดับ1:“โยนขี้ให้กันเห็นๆเลยนะ ไอ้น้องเวร 555 แต่ฉันมีความคิดดีดี แล้ว คนที่มันไม่มาประชุมในครั้งนี้ก็โยนให้มันไป ดิ 5555”
อันดับ2:“ฉันเห็นด้วย “
อันดับ3:‘ใช้เลยโยนให้มัน”
อันดับ4: “แต่อันดับห้าหนีออกไปจากที่นี้ได้สองปีแล้ว พวกพี่จะยกหน้าที่นี้ ให้เป็นหน้าที่ของหลานมันจริงเหลอ ที่อันดับห้าหนีไปเพราะอะไรพวกพี่ก็รู้” ***
+++คำพูดนั้นทำให้อันดับหนึ่งนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสองปีก่อน
สองปีก่อน อันดับห้าหนีออกจากฉางเมือง
“อันดับห้า ท่านจะหนีจริงๆเหลอครับ หากเหล่าอันดับรู้ จะโดนลงโทษนะครับ”เด็กหนุ่มพร้อมกับผู้ติดตามหลบทหารยามและวิ่งลัดเลาะขอบกำแพง “ก็หนีจริงๆนะสิ แล้วไม่ต้องเรียกเราว่าอันดับห้า เราไม่อยากตายเหมือนท่านพ่อท่านแม่”เด็กหนุ่มพูดด้วยท่าทีนิ่งเฉยพร้อมวิ่งไปยังไปประตูกำแพงเมืองขนาดใหญ่ที่กำลังเปิดออก ‘อีกนิดเดียวก็จะเป็นอิสละแล้ว’ เด็กหนุ่มคิดในใจ
“หยุด ตกนั้นและอับดับห้า” เด็กหนุ่มได้ยินเสียง แล้วหยุดทันทีพร้อมการปรากฏตัวของอันดับสีที่เกิดจากการรวมตัวของกลีบกุหลาบ
“หยุดความคิดของเจ้าเดี๋ยวนี้อันดับห้า มิเช่นนั้นเจ้าอย่าว่าข้าไม่เตือน”
“ท่านนั้นแหละที่ต้องหลีกทางข้า อันดับสี่ ถ้าไม่หลีกอย่าว่าเราไม่เตือน”
“เจ้าจะไปทีไดกันอันดับห้า ข้าเป็นห่วงเจ้านะ”
“หากท่านเป็นห่วงข้าจริง สิบปีทีแล้วท่านพ่อท่านแม่ข้าก็ไม่ต้องตายหลอก เป็นเพราะพวกท่านไม่ไปช่วยท่านพ่อกับท่านแม่ ทำให้ท่านพ่อท่านแม่ต้องเสียสละตัวเอง พวกท่านมันเห็นแก่ตัว ไอ้ตำแหน่งอันดับห้าไรเนี่ยข้าไม่ต้องการ พวกท่านเอาท่านพ่อท่านแม่ข้าคืนมาได้หรือไม่เหล่า” อันดับได้ยินดังนั้นหน้าตาก็เศร้าหมอลงทันที
“มันไม่ใช้อย่างที่เจ้าเข้าใจนะอันดับห้า เป็นเพราะ มันเป็นเป็นเพราะพวกเราต้องไปต่อกรกับเหล่าปีศาจที่มาพุกเมือง ทำให้เราไป.....ไป..ไป ...ไปช้า แต่เรามารู้ว่าเป็นแผนพวกมัน ที่หลังว่าพวกสามจอมพลนั้นมันวางแผนส่งปีศาจมาโจมตี ทำให้พวกเราออกไปต่อกรด้วยเพื่อถ่วงเวลาให้มันหาฐานข้อมูลรับแต่อันดับห้าพ่อของเจ้าและพระนางอัปสรสวรรค์รู้แผนการของพวกมันเลยเข้าขัดขวางกว่าพวกเราจะรู้และไปถึงสถานทีเกิดเหตุมันก็สายเกินไปเราพบแต่เจ้าที่นอนหมดสติอยู่
เราตามหาพ่อกับแม่เจ้าแต่ก็ไม่พบจนมารู้จากปากเจ้าตอนเจ้าตื่นว่า....”ยังไม่ทันที่อันดับสี่จะพูดจบ ก็มีเสียงแทรกขึ้นมาพร้อมกับการปรากฏตัวของอันดับหนึ่ง
“ปล่อยมันไป อันดับสี่ หากมันมิเห็นสิ่งที่อันดับห้ารุ่นก่อนกับพระนางอัปสรปกป้องด้วยชีวิตเป็นสิ่งสำคัญแล้วละก็ มันก็ไม่สมควรอยู่ที่นี้และสืบทอดตำแหน่งอันดับห้า” เด็กหนุ่มได้ยินดังนั้นก็เดินผ่านอันดับสี่และอันดับหนึ่งออกประตูไปโดยไม่หันหลังกับมาแต่น้อยเมื่ออันดับสี่เรียก ‘เจ้าจงมีอิสละดังใจเจ้าต้องการเถอะนะหลานข้า ใจจริงข้าอยากจะรังเจ้าไว้แต่ข้าทำผิดต่อพ่อเจ้าแม่เจ้ามากพอแล้วข้าไม่อยากทำผิดต่อพวกเขาและเจ้าได้ ข้าไม่อยากเห็นเจ้าเป็นดังคำทำนายไม่ข้าไม่อาจที่รับความศูนย์เสียได้อีกแล้ว’ อันดับหนึ่งได้แต่คิดในใจและมองตามหลังหลานที่เขารักและเอ็นดูเหมือนลูกในใส่หากแต่เพียงนิสัยปากแข็งทำให้ไม่กล้าที่จะพูก
ออกไปหากแต่รางบางของอันดับสีที่ยืนเคียงข้างสังเกตที่ดวงตาก็รับรับรู้ความรู้สึกที่ขมขื่นนี้ได้ อันดับสองที่เกิดจากการรวมตัวของกลีบดอกไม้ชนิดหนึ่งนั้นคือดอกชากุระ “ที่ท่านให้อันดับห้าไปคงไม่ใช้เพราะคำทำนาย ที่ว่า อันดับห้าทุกรุ่นจะเป็นผู้เสียสละหลอกนะ” อันดับหนึ่งได้แต่หันหน้ามองด้วยสายตาที่เศร้าหมองและหันหลังเดินจากไป
เด็กหนุ่มเดินออกจากประตูขนาดใหญ่ มุงตรงสู่ตะวันออกเฉียงเหนือ หากแต่ใครจะรู้เหล่าว่าการเป็นอิสละของเด็กหนุ่มกับกายเป็นการเสียสละทั้งชีวิตที่มีของเขา +++
*** "พวกพี่ยังจะโยนหน้าที่นี้ให้เป็นของหลานอีกเหลอครับ" เสียงย้ำเตือนอีกครั้งทำให้อันดับหนึ่งหลุดออกจากความคิด
อันดับที่1:“เวลาที่ผ่านมามันเที่ยวเล่นพอแล้วมันสมควรที่จะกับมาทำหน้าที่อันดับได้แล้ว”
หัวหน้ายมทูตขาว:“สองปีที่ผ่านมาทางเราได้ใช้เครือข่ายในการตามหาตัวของท่านอันดับห้า แต่เราก็ไม่พบแม้รองรอย ขนาดเครือข่ายเราคอบคุมขนาดนี้ยังหาไม่เจอเลยแล้วเราจะตามหาท่านอันดับห้าได้ที่ไหน”
อันดับ1:“นั้นเป็นหน้าที่เจ้ากับหัวหน้ายมทูตดำที่เจ้าจะต้องตามหาให้เจอกระจายเครือค่ายให้มากที่สุดทำยังไงก็ได้ตามหาให้เจอ”
อันดับ2:“หึ ขอให้ตามหามันเจอหลอกนะ 555 เห็นที่เราคงจะต้องไปเยี่ยมมหาจักรพรรดิที่สาม คนรู้จักเก่าแก่ของเจ้าเสียแล้ว เจ้าว่าไงอันดับสี่”
อันดับ4:“แล้วแต่ ถ้าท่านจะผูกมิตรกะไอ้คนโกหกนั้น ลูกมันก็คงไม่ต่างจากพ่อมันเมื่อสิบปีก่อนหลอก”
จอมพลที่6: “ ผมเห็นด้วย แต่ว่ามหาจักรพรรดิที่สามมีโอรสองค์เดียวไม่ใช้เหลอครับไม่มีพระธิดา”
อันดับ1 .”..................”
จอมพลที่10:“ในอดีตก็มีการแต่งงานกันระหว่างองค์ชายกับองค์ชายทั้งสองเมืองเพื่อผูกมิตร การอยู่ร่วมกันก็เป็นแบบพี่น้อง อยู่รวมกันแบบเพื่อนต่างผ่ายต่างมีอิสระขึ้นอยู่กับการทำสัญญาตอนแต่งงาน”
อับดับ1และ2 “นั้นละชินะ ไม่แปลเท่าไรนิ”
อันดับ3:” นั้นสรุปตามนี้เราจะผูกมิตรกับเมืองชากะซึ่งมีมหาจักรพรรดิที่สามเป็นผู้คลองเมือง สงสารแจ้งเตือนภัยไปยังเมืองต่าง อีกสองวันเราจะออกเดินทางไปยังเมืองชากะเพื่อผูกมัยตรีอีกครั้งเจ้าว่าดีมั้ยอันดับที่สี่”พร้อมกับยิ้มมุมปาก
ห้องโถงใหญ่
“นาวาสวรรค์พร้อมออกเดินทางแล้วครับท่านอันดับ”
อันดับ4 “การออกเดินทางครั้งนี้เป็นการออกเดินทางจากเมืองเป็นครั่งแรงนับจากที่เราตัดขาดจากเมืองต่างๆให้ท่านจอมพลที่หนึ่ง จอมพลที่สอง และจอมพลที่สิบ นำนักรบที่มีกำลังลบ 1:100 (นักลบหนึ่งคนสามารถฆ่าคนได้หนึ่งร้อยคนภายใน1-2นาที) ติดสามไปด้วยคนละหนึ่งกองร้อย และให้จอมพลที่เหลือ ตึงกำลังตั่งรับศัตรูรอบกำแพงพร้อมรับมือตลอดเวลา”
จอมพลที่7 “ครับท่านอันดับสี่”
จอมพลที่1 “การเดินทางครั้งนี้คงจะสนุกไม่ใช้น้อย 555”
to be continued
***++++***++++****++++****+++****+++
ติชมคอมเม้นกันเพื่อเป็นกำลังใจกันนะครับ
ตอนที่ 2 เชื่อมสัมพันธ์
โดย หกแสบ
**+++***+++***+++***+++***+++***+++***+++*
หัวหน้ายมทูตขาว: “ฐานข้อมูลลับเป็นแหล่งเก็บรวบรวมข้อมูล ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตไว้ รวมไปถึงข้อมูลตั่งแต่เกิดจนตายของทุกคนบนโลกนี้โดยเฉพาะข้อมูลในอนาคตสำคัญมาก ยกตัวอย่างเช่น อีก 150 ปีข้างหน้านับจากนี้มนุษย์จะสามารถ คิดค้นสร้างปัญญาประดิษฐ์ ได้ นำไปประยุกใช้กับหุ่นยนต์ หุ่นยนต์สามารถคิดเองได้ และวิทยาการอีกมากมายที่ไม่มีในปัจจุบัน และอีกอย่างหนึ่งนะครับผมไม่ได้เป็นคนดูแลขอมูลลับนั้นผมแค่รวบรวมข้อมูลที่ได้มาจากเครือขายเด็กชานเมืองอีกชื่อหนึ่งก็คือแก๊งเด็กชานเมืองที่แฝงตัวอยู่ในทุกองค์กรที่มีอยู่ทั่วโลกและส่งมอมต่อให้ โปรเจคเอ็ม เป็นผู้ดูแล”
จอมพลที่9:“และโปรเจคเอ็มคืออะไร”
อันดับที่1: “ไม่ใช้สิ่งที่ท่านควรจะรู้จอมพลที่เก้า มันเป็นคำสั่งระดับ SSS เป็นคำสั่งสูงสุดภายใต้สัญลักษณ์สูงสุดนั้นคือดาบชามูไรงาช้างยกขาวหรือดาบยมทูตขาว”
หัวหน้ายมทูตขาว: “ท่านควรอ่านประวัติศาส บางนะจอมพลที่เก้า”
จอมพลที่9: “ และไม่ทราบว่าท่านจะสอนวิชาประวัติศาสได้หรือไม่”
หัวหน้ายมทูตขาว: “คำสั่งระดับ SSS เป็นคำสั่งของปฐมอันดับรุ่นที่หนึ่ง เมื่อนานมาแล้วเป็นคำสั่งรักษาข้อมูลลับสุดยอดแค่นั้น ไม่มีข้อมูลระบุว่ามันคืออะไร และมันยุที่ไหน รู้แค่เพียงว่าพวกเรามีหน้าที่รวบรวมข้อมูลทั้งหมดและส่งต่อให้โปรเจคเอ็ม เก็บรักษา”
จอมพลที่8:“ในเมื่อรู้แล้วว่ามันต้องการอะไรและจะป้องกันอย่างไง”
จอมพลที่เจ็ดซึ่งได้ฉายยาว่า ‘ขมเบ้งหญิงแห่งจอมพล’ เป็นผู้หญิงที่ได้เป็นจอมพลคนใหม่แทนคนเก่าที่ทรยศไป คงไม่แปลกหากความสามารถที่เธอมีทำให้เธอถูกคัดเลือกขึ้นมาเป็นจอมพลเธอสามารถวางกลยุทธ์ลับมือกับศัตรูได้อย่างชาญฉลาดและวางแผนแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีในทุกสถานการเช่นเดียวกับในกรณีนี้ด้วย สมองของเธอคิดวิเคราะห์และวางแผนไว้ตั่งแต่เริ่มสนทนา “ดิฉันคิดว่าเราจะต้องส่งสารไปยังเมืองใหญ่น้อยต่างๆ เพื่อให้รับรู้ถึงภัยที่จะมาถึงและพร้อมรับมือทุกเมื่อ รวมถึงเราต้องสร้างมิตรเพื่อร่วมมือกันในการที่จะรับมือกับศัตรู ”
จอมพลที่4:“คงไม่ง่ายเพราะความสัมพันธ์ของเรากับระหว่างเมืองน้อยใหญ่ไม่ดีนัก”
จอมพลที่2:“เราตักขาดออกจากโลกภายนอกมานาน คงยากที่จะให้เมืองน้อยใหญ่ เมืองอื่นๆยอมเป็นมิตร และไม่ใช้เฉพาะสามจอมพลนั้นที่ต้องการจะได้ข้อมูลลับไว้ในครอบครอง เมืองใหญ่น้อยก็ต้องการเช่นกัน พวกมันอาจถือโอกาสนี้รอบกัดเราก็ได้”
จอมพลที่7:“ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ใช้การแต่งงานเป็นสื่อเชื่อมความสัมพันธ์ และมันก็ใช้ได้ผล เพราะเมื่อเชื่อมความสัมพันธ์แล้วก็คือบ้านพี่เมืองน้อง และเพื่อไม่ให้มีการหักหลังกันเกิดขึ้นในภายหลังจึงมีการเขียนสัญญาขึ้นในวันแต่งงาน คำถามของเราก็คือเมืองไหนเหมาะที่จะเชื่อมความสัมพันธ์ด้วย เมืองนั้นจะต้องเป็นเมืองที่มีอิทธิพลเป็นอย่างมากต่อเมืองอื่น ๆ เพื่อที่จะมีอำนาจเจรจาต่อรองกับเมืองน้อยใหญ่ให้ร่วมมือกันรับมือกับภัยในครั้งนี้”
อันดับ3:“ท่านจอมพลที่เจ็ดท่านคงไม่คิดว่าจะเกิดมหาสงคราบโลกปีศาจขึ้นเป็นครั้งที่สองใช้หรือไม่”
จอมพลที่7:“จากการวิเคราะห์ของดิฉันมันจะเกิดขึ้นแน่ในไม่ช้านี้เมื่อสามจอมพลนั้นควบคุมปีศาจได้หรือเจรจาต่อรองกับปีศาจระดับสูงเป็นผลสำเร็จ สามจอมพลนั้นจะมีกำลังเพิ่มมากว่าเรา10เท่าและมันพร้อมที่จะบดขยี้เราในทันที่ เรามีโอกาสชนะแค่หนึ่งในร้อยเท่านั้นแต่ถ้าเรามีกองกำลังจากเมืองอื่นๆเราจะมีโอกาสชนะห้าสิบห้าสิบ”
อันดับ3:“งั้งพวกท่านก็เสนอมาว่าใครในเหล่าอันดับทั้งห้า จะเป็นผู้ตกนรก ไม่ใช้ชิเสียสละ ฉันข้อโหวดให้อันดันที่หนึ่ง”
อันดับ1:“โยนขี้ให้กันเห็นๆเลยนะ ไอ้น้องเวร 555 แต่ฉันมีความคิดดีดี แล้ว คนที่มันไม่มาประชุมในครั้งนี้ก็โยนให้มันไป ดิ 5555”
อันดับ2:“ฉันเห็นด้วย “
อันดับ3:‘ใช้เลยโยนให้มัน”
อันดับ4: “แต่อันดับห้าหนีออกไปจากที่นี้ได้สองปีแล้ว พวกพี่จะยกหน้าที่นี้ ให้เป็นหน้าที่ของหลานมันจริงเหลอ ที่อันดับห้าหนีไปเพราะอะไรพวกพี่ก็รู้” ***
+++คำพูดนั้นทำให้อันดับหนึ่งนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสองปีก่อน
สองปีก่อน อันดับห้าหนีออกจากฉางเมือง
“อันดับห้า ท่านจะหนีจริงๆเหลอครับ หากเหล่าอันดับรู้ จะโดนลงโทษนะครับ”เด็กหนุ่มพร้อมกับผู้ติดตามหลบทหารยามและวิ่งลัดเลาะขอบกำแพง “ก็หนีจริงๆนะสิ แล้วไม่ต้องเรียกเราว่าอันดับห้า เราไม่อยากตายเหมือนท่านพ่อท่านแม่”เด็กหนุ่มพูดด้วยท่าทีนิ่งเฉยพร้อมวิ่งไปยังไปประตูกำแพงเมืองขนาดใหญ่ที่กำลังเปิดออก ‘อีกนิดเดียวก็จะเป็นอิสละแล้ว’ เด็กหนุ่มคิดในใจ
“หยุด ตกนั้นและอับดับห้า” เด็กหนุ่มได้ยินเสียง แล้วหยุดทันทีพร้อมการปรากฏตัวของอันดับสีที่เกิดจากการรวมตัวของกลีบกุหลาบ
“หยุดความคิดของเจ้าเดี๋ยวนี้อันดับห้า มิเช่นนั้นเจ้าอย่าว่าข้าไม่เตือน”
“ท่านนั้นแหละที่ต้องหลีกทางข้า อันดับสี่ ถ้าไม่หลีกอย่าว่าเราไม่เตือน”
“เจ้าจะไปทีไดกันอันดับห้า ข้าเป็นห่วงเจ้านะ”
“หากท่านเป็นห่วงข้าจริง สิบปีทีแล้วท่านพ่อท่านแม่ข้าก็ไม่ต้องตายหลอก เป็นเพราะพวกท่านไม่ไปช่วยท่านพ่อกับท่านแม่ ทำให้ท่านพ่อท่านแม่ต้องเสียสละตัวเอง พวกท่านมันเห็นแก่ตัว ไอ้ตำแหน่งอันดับห้าไรเนี่ยข้าไม่ต้องการ พวกท่านเอาท่านพ่อท่านแม่ข้าคืนมาได้หรือไม่เหล่า” อันดับได้ยินดังนั้นหน้าตาก็เศร้าหมอลงทันที
“มันไม่ใช้อย่างที่เจ้าเข้าใจนะอันดับห้า เป็นเพราะ มันเป็นเป็นเพราะพวกเราต้องไปต่อกรกับเหล่าปีศาจที่มาพุกเมือง ทำให้เราไป.....ไป..ไป ...ไปช้า แต่เรามารู้ว่าเป็นแผนพวกมัน ที่หลังว่าพวกสามจอมพลนั้นมันวางแผนส่งปีศาจมาโจมตี ทำให้พวกเราออกไปต่อกรด้วยเพื่อถ่วงเวลาให้มันหาฐานข้อมูลรับแต่อันดับห้าพ่อของเจ้าและพระนางอัปสรสวรรค์รู้แผนการของพวกมันเลยเข้าขัดขวางกว่าพวกเราจะรู้และไปถึงสถานทีเกิดเหตุมันก็สายเกินไปเราพบแต่เจ้าที่นอนหมดสติอยู่
เราตามหาพ่อกับแม่เจ้าแต่ก็ไม่พบจนมารู้จากปากเจ้าตอนเจ้าตื่นว่า....”ยังไม่ทันที่อันดับสี่จะพูดจบ ก็มีเสียงแทรกขึ้นมาพร้อมกับการปรากฏตัวของอันดับหนึ่ง
“ปล่อยมันไป อันดับสี่ หากมันมิเห็นสิ่งที่อันดับห้ารุ่นก่อนกับพระนางอัปสรปกป้องด้วยชีวิตเป็นสิ่งสำคัญแล้วละก็ มันก็ไม่สมควรอยู่ที่นี้และสืบทอดตำแหน่งอันดับห้า” เด็กหนุ่มได้ยินดังนั้นก็เดินผ่านอันดับสี่และอันดับหนึ่งออกประตูไปโดยไม่หันหลังกับมาแต่น้อยเมื่ออันดับสี่เรียก ‘เจ้าจงมีอิสละดังใจเจ้าต้องการเถอะนะหลานข้า ใจจริงข้าอยากจะรังเจ้าไว้แต่ข้าทำผิดต่อพ่อเจ้าแม่เจ้ามากพอแล้วข้าไม่อยากทำผิดต่อพวกเขาและเจ้าได้ ข้าไม่อยากเห็นเจ้าเป็นดังคำทำนายไม่ข้าไม่อาจที่รับความศูนย์เสียได้อีกแล้ว’ อันดับหนึ่งได้แต่คิดในใจและมองตามหลังหลานที่เขารักและเอ็นดูเหมือนลูกในใส่หากแต่เพียงนิสัยปากแข็งทำให้ไม่กล้าที่จะพูก
ออกไปหากแต่รางบางของอันดับสีที่ยืนเคียงข้างสังเกตที่ดวงตาก็รับรับรู้ความรู้สึกที่ขมขื่นนี้ได้ อันดับสองที่เกิดจากการรวมตัวของกลีบดอกไม้ชนิดหนึ่งนั้นคือดอกชากุระ “ที่ท่านให้อันดับห้าไปคงไม่ใช้เพราะคำทำนาย ที่ว่า อันดับห้าทุกรุ่นจะเป็นผู้เสียสละหลอกนะ” อันดับหนึ่งได้แต่หันหน้ามองด้วยสายตาที่เศร้าหมองและหันหลังเดินจากไป
เด็กหนุ่มเดินออกจากประตูขนาดใหญ่ มุงตรงสู่ตะวันออกเฉียงเหนือ หากแต่ใครจะรู้เหล่าว่าการเป็นอิสละของเด็กหนุ่มกับกายเป็นการเสียสละทั้งชีวิตที่มีของเขา +++
*** "พวกพี่ยังจะโยนหน้าที่นี้ให้เป็นของหลานอีกเหลอครับ" เสียงย้ำเตือนอีกครั้งทำให้อันดับหนึ่งหลุดออกจากความคิด
อันดับที่1:“เวลาที่ผ่านมามันเที่ยวเล่นพอแล้วมันสมควรที่จะกับมาทำหน้าที่อันดับได้แล้ว”
หัวหน้ายมทูตขาว:“สองปีที่ผ่านมาทางเราได้ใช้เครือข่ายในการตามหาตัวของท่านอันดับห้า แต่เราก็ไม่พบแม้รองรอย ขนาดเครือข่ายเราคอบคุมขนาดนี้ยังหาไม่เจอเลยแล้วเราจะตามหาท่านอันดับห้าได้ที่ไหน”
อันดับ1:“นั้นเป็นหน้าที่เจ้ากับหัวหน้ายมทูตดำที่เจ้าจะต้องตามหาให้เจอกระจายเครือค่ายให้มากที่สุดทำยังไงก็ได้ตามหาให้เจอ”
อันดับ2:“หึ ขอให้ตามหามันเจอหลอกนะ 555 เห็นที่เราคงจะต้องไปเยี่ยมมหาจักรพรรดิที่สาม คนรู้จักเก่าแก่ของเจ้าเสียแล้ว เจ้าว่าไงอันดับสี่”
อันดับ4:“แล้วแต่ ถ้าท่านจะผูกมิตรกะไอ้คนโกหกนั้น ลูกมันก็คงไม่ต่างจากพ่อมันเมื่อสิบปีก่อนหลอก”
จอมพลที่6: “ ผมเห็นด้วย แต่ว่ามหาจักรพรรดิที่สามมีโอรสองค์เดียวไม่ใช้เหลอครับไม่มีพระธิดา”
อันดับ1 .”..................”
จอมพลที่10:“ในอดีตก็มีการแต่งงานกันระหว่างองค์ชายกับองค์ชายทั้งสองเมืองเพื่อผูกมิตร การอยู่ร่วมกันก็เป็นแบบพี่น้อง อยู่รวมกันแบบเพื่อนต่างผ่ายต่างมีอิสระขึ้นอยู่กับการทำสัญญาตอนแต่งงาน”
อับดับ1และ2 “นั้นละชินะ ไม่แปลเท่าไรนิ”
อันดับ3:” นั้นสรุปตามนี้เราจะผูกมิตรกับเมืองชากะซึ่งมีมหาจักรพรรดิที่สามเป็นผู้คลองเมือง สงสารแจ้งเตือนภัยไปยังเมืองต่าง อีกสองวันเราจะออกเดินทางไปยังเมืองชากะเพื่อผูกมัยตรีอีกครั้งเจ้าว่าดีมั้ยอันดับที่สี่”พร้อมกับยิ้มมุมปาก
ห้องโถงใหญ่
“นาวาสวรรค์พร้อมออกเดินทางแล้วครับท่านอันดับ”
อันดับ4 “การออกเดินทางครั้งนี้เป็นการออกเดินทางจากเมืองเป็นครั่งแรงนับจากที่เราตัดขาดจากเมืองต่างๆให้ท่านจอมพลที่หนึ่ง จอมพลที่สอง และจอมพลที่สิบ นำนักรบที่มีกำลังลบ 1:100 (นักลบหนึ่งคนสามารถฆ่าคนได้หนึ่งร้อยคนภายใน1-2นาที) ติดสามไปด้วยคนละหนึ่งกองร้อย และให้จอมพลที่เหลือ ตึงกำลังตั่งรับศัตรูรอบกำแพงพร้อมรับมือตลอดเวลา”
จอมพลที่7 “ครับท่านอันดับสี่”
จอมพลที่1 “การเดินทางครั้งนี้คงจะสนุกไม่ใช้น้อย 555”
to be continued
***++++***++++****++++****+++****+++
ติชมคอมเม้นกันเพื่อเป็นกำลังใจกันนะครับ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ