World End Game [เกม...โลกสุดท้าย]
8.0
3) The Real life…..?
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ[CHAPTER. 3 : The Real life…..? ]
“วันนี้ผมมีธุระ เพราะงั้นไม่ต้องทำข้าวเย็นนะวิชชี่” ผมหันไปบอกเธอ ก่อนจะนำช่อดอกไม้ไปแช่ไว้ในกระถางต้นไม้ในห้องรับแขก
อือ...ไอ้เจ้านี่(ดอกไม้)เอามาใช้ประโยชน์ได้แฮะ
พวกลูกค้า(สาวๆที่มารับการรักษา)คงประทับใจ แหงๆ (ชั่ว)
ผมเดินไปสตาร์ทรถ แล้วขับออกไป ที่จริง...มันเป็นเรื่องน่าแปลกใจมากที่ไอ้งี่เง่านั่น(แฮร์ริส) ดันมาบอกเรื่องนั้น(สิ่งที่เขียนอยู่ในการ์ด)กับผม ทั้งๆที่เกลียดกันเข้าไส้ อือ...คงมีเรื่องบางอย่างสินะ...
กริ้งงงง.......กริ้งงงง.....กริ้งงงง.....
“มีอะไร หลุยส์”
[ ไม่สุภาพเลยนะครับ อารมณ์ไม่ดีหรือไงกัน? ] เสียงทุ้มต่ำจากอีกฝ่าย เอ่ยด้วยน้ำเสียงตลกขบขัน
“อือ อารมณ์เสียอยู่ กำลังไปหาแล้ว แค่นี้นะ”
[ อ้าว เดี๋ยวสิครับ อย่าโกรธเลยน่า ผมอุตส่าห์เรียก ‘คุณ’ มาเชียวนา...? ]
“ดีใจจังเลยยย...” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเนือยๆ
[ ไม่จริงใจเลย...ช่างเถอะ ยังไงคุณก็รีบหน่อยนะครับ เพราะยิ่งดึกยิ่งคุยลำบาก ]
“แต่นายดันชอบมาเรียกผม ตอนกลางคืน เนี่ยนะ”
[ ก็มันช่วยไม่ได้นี่ครับ เพราะคุณว่างแค่หลังตอนเย็นแล้วนี่นา ]
“อ่าๆ แล้วเจอกัน พอดีมันมาแล้ว” ผมตัดสายทิ้ง แล้วเอื้อมไปหยิบบางสิ่งส่องประกายสีเงินออกมาจากที่เก็บของในเบาะหลัง
พอดีกับที่ผมไปทันสังเกตเห็นรถลีมูซีนสีดำ 3 คัน ไล่มาทางด้านหลัง
แกร้ก
“…จะรีบล่ะนะ...”
.
.
.
.
.
.
.
.
.....................................................................................
ผมนั่งรอที่โต๊ะบาร์ จนเวลาเลยมาถึงสองทุ่มกว่าเกือบสามทุ่ม ผมจึงเดินไปพลิกป้ายตรงประตู แล้วก็ได้ยินเสียงเบียดล้อดังเอี้ยดของเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ตามมาด้วยร่างของคนๆนึงที่ผมกำลังรออยู่
“...รีบมากเลยนะครับ” ผมหยอกเขา
“เฮอะ! เพราะพวกมันตื๊อต่างหาก”
“ไม่ใช่เพราะคุณเกิดใจอ่อนขึ้นมาเหรอครับ”
ควับ
โอ๊ะ......ท่าจะแหย่เล่นเยอะไปแฮะ
ตาวาวโรจน์เชียว....ทำให้โกรธจริงๆซะแล้ว
“ล้อเล่นน่ะครับ อย่าโกรธเลยนะครับ”
“....เปล่าโกรธซะหน่อย”
โกรธอยู่ชัดๆ.....เอาเถอะ เปลี่ยนเรื่องดีกว่า…..
“อ้อ เรื่องที่ผมเรียกคุณมาวันนี้น่ะ...”
“มันทำไมล่ะ”
“เกี่ยวกับ W.G.(รัฐบาลโลก) น่ะครับ”
กึก
สนใจสินะ...
“เล่ารายละเอียดมาซิ”
“ครับ คือผมได้ข่าวมาว่า พวกนั้นมันกำลังเริ่มจะ ‘ไล่ล่า’ แล้วน่ะครับ ทำให้พวกคาสิโนกับบ่อน ผิดกฎหมายพากันหนีกันใหญ่ แต่ดูท่าว่าจะไม่รอดอย่างทุกทีน่ะครับ ถูกจับเข้าคุกหมด”
“คงเอาตำรวจโลกฝีมือดีมาทำงานนี้สินะ ใครล่ะ”
“คนๆนั้นไม่มีชื่อหรอกครับ ถ้าฉายากับเอกลักษณ์ล่ะก็ พอจะบอกได้ อยากรู้มั้ยครับ”
“...”
“ผมจะถือว่าคุณอยากรู้นะ ฉายาของเขาคือ Demon Mutation (ปีศาจกลายพันธุ์) ส่วนเอกลักษณ์คือ ผมแดงเพลิงครับ”
“พวกพิเศษสินะ”
“ครับ เหมือนกับคุณ”
“.........เหรอ”
...ดูเงียบผิดปรกติแฮะ...ธรรมดาต้องโกรธแล้วนี่นา....
“รายต่อไป”
“เอ๋”
“รายต่อไปที่ไอ้กลายพันธุ์มันจะ ‘ไล่ล่า’ คือใคร”
“..........แก๊งที่ใหญ่ที่สุดใน สามรัฐทางใต้ ‘R.T.’ ครับ........”
.....................................................................................
ผมขับรถกลับบ้านโดยที่คำพูดทิ้งท้ายของหลุยส์ยังวนอยู่ในหัว
‘เรื่องก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ เพราะคุณผูกพันกับแก๊งมาก จึงอยากให้ระวังตัวเอาไว้....’
“........มัน...จะ...เป็นไปได้จริงๆงั้นเหรอ...” ผมรำพึง ใช่ เพราะผมผูกพันกับสิ่งนั้นมาก ทำให้ผมมักมีอันตรายเข้ามาในชีวิตบ่อยๆ แต่ว่า....จะให้เลิกยุ่งมันก็.....
ปัง!!!
เสียงยางรถล้อหลังแตกทำให้รถเสียหลัก จนผมต้องรีบหาจังหวะออกจากรถก่อนที่มันจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ
“...เฮ้ๆ นั่นเพิ่งจะได้มาไม่ถึงปีเลยนา...” ให้ตายสิ! คนอย่างผมก็เจ็บปวดเป็นนะ
ลาก่อน ลูกรักของพ่อ...พ่อจะไม่ลืมเจ้าเลย....
ตอนนั้นเองที่ผมเห็นเงาของกลุ่มคนจากอีกฟากถนน ตรานั่น...ตำรวจโลกสินะ.......แต่เป็นพวกที่เหมือนกับตอนขามา....งั้นก็....
“เฮ้อ....กว่าจะถึงบ้านก็อีกยี่สิบกว่ากิโลฯ เลยสินะ...ช่างเป็นการเดินทางที่ทรหดจริงๆ”
“แกเป็นพวกไหนกันแน่?” หนึ่งในนั้น(ที่น่าจะเป็นหัวหน้า)ถามขึ้น
“....หึ....”
“ขำอะไรของแก?!”
“ขำสิ...ขนาดหน้าตาที่แท้จริง พวกแกยังไม่รู้ แล้วจะมาทำอะไรฉันได้?” ขอเพิ่มอีกนิด...ตอนนี้ผมกำลังใส่หน้ากากปลอมอยู่ครับ...
“หน็อย...” ไม่พูดพร่ำทำเพลง ผมก็ตรงรี่เข้าไปหาพวกมันทันที และได้มายืนอยู่ตรงหน้าเจ้าตัวการ
“ไง? ฉันวิ่งเร็วใช่มั้ยล่ะ.....?”
“อึก!”
หึ
………………………………………………………………………………
{In Game}
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณคาเซ่” น้ำเสียงอ่อนโยนลอยเข้ามาในโสตประสาท
“เมอร์...ชี่...........?”
“คิก ใช่ค่ะ คุณหลับไป 'นาน' มากเลยนะคะ”
“อ่า โทษทีนะ แล้ว...ยูนิซัสล่ะ” ดูน่าอายชะมัดเลยแฮะ...
“อ๋อ ดิฉันให้เขาไปเดินเล่นน่ะค่ะ ซักพักคงกลับมา”
“อือ วันนี้ผมจะเข้าเมืองนะ”
“เมืองไหนเหรอคะ”
“โตรันต้า(TORANTA) ว่าจะไปหาของนิดหน่อยน่ะ”
“เอ๋ เอ่อ จริงเหรอคะ...ดิฉันหมายถึงว่า...คุณจะไปจริงๆเหรอคะ” เมอร์ชี่ถามตะกุกตะกัก น้ำเสียงเหมือนเป็นกังวล
“...เหอ ก็ใช่น่ะสิ มีอะไรรึ?”
“ป...เปล่าค่ะ ดิฉันคงจำตำนานเมืองมาผิดๆ...”
“ตำนาน? เรื่องอะไรน่ะ ลองเล่ามาซิ”
“ค...ค่ะ คือ ดิฉันเคยได้ยิงเรื่องของ ตำนานแห่งเมืองโตรันต้า มาน่ะค่ะ รายละเอียดก็..................
ข้อมูล : โตรันต้า
เมืองของชนเผ่า 4 มือ เล่ากันว่า เมื่อแรกเริ่มสร้างจักรวาล ความตายและชีวิตได้ร่วมมือสร้างโลกขึ้น แต่เหล่าบรรดาเทพเจ้าองค์อื่นๆได้ต่อต้านต่อความรักของพวกเขาจึงได้แยกพวกเขาออกจากกัน ด้วยความเศร้าของดวงใจที่แตกสลาย ทำให้ความตายสาปแช่งต่อโลกที่เขากับชีวิตได้สร้างขึ้นมาว่า
‘ในอีกหลายพันปี ความตายจักฟื้นคืน ทุกสิ่งพังทลาย เหล่าผู้พลัดพลากจงดับสลาย ไร้ซึ่งความหวัง มีเพียง ชีวิต เท่านั้นที่จะหยุดยั้งได้’
นับแต่นั้น ทุกๆพันปี ชาวโตรันต้า จะจัดงานฉลองขึ้น เพื่อขอให้โลกยังดำเนินต่อไป โดยหวังให้ใครซักคนมาแก้คำสาป
.........
......
....
...
..
.
“....แค่นั้นน่ะนะ”
“เอ่อ...ค่ะ แค่นั้น”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ผมว่าผมไม่น่าดวงซวยขนาดนั้นน่ะนะ เพราะงั้นถ้าวันต่อไปผมยังไม่ออกมาจากเมืองก็ไปต่อเองเลยละกันนะ” ผมเตรียมตัวออกเดินทางเมื่อเห็นว่า ม้าของผมกลับมาแล้ว
“ดิ..ดิฉันจะรอค่ะ!”
“....หึ....งั้นก็ช่วยรอหน่อยละกันนะ”
เมืองโตรันต้า
พระเจ้า...ลูกเกลียดท่านยิ่งนัก...
เพราะอะไรน่ะรึ....? เพราะมันเป็นวันแห่งคำสาปบ้าๆนั่นพอดีไงล่ะ!!!
“ ผม เกลียด ที่ นี่ ” ผมกัดฟันพูด งึมงำกับตัวเองไปเรื่อยๆ อะไรนะ ทำไมผมถึงรู้น่ะเหรอ เพราะก่อนหน้านี้ผมกะจะออกจากเมืองหลังซื้อของที่ต้องการเสร็จแล้ว แต่พอไปถึงประตูเมืองเท่านั้นแหละ โดมแก้วใสก็คลอบครุมทั่วเมืองทันที แถมมีประกาศอีกว่า วันนี้คือวันแห่งคำสาป จึงมาสามารถออกจากเมืองได้!!!
............................................
“ ผม เกลียด ที่ นี่ ”ผมบ่นเป็นรอบที่ร้อย จนเดินเหม่อเข้าไปในป่าทึบ กว่าจะรู้ตัวก็มาสุดขอบป่าแล้ว
“สวยจัง” ภาพด้านหน้าคือ ขอบผาติดทะเลสีน้ำเงินฟ้าใสแสนงดงาม กลิ่นเกลือสมุทรทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้นมา ก่อนจะนั่งลงตรงขอบผารับลมทะเลที่พัดมาเอื่อยๆแต่อ่อนโยน ชั่วขณะหนึ่ง ผมลืมไปว่าตัวเองอยู่ที่ไหนและเป็นใคร รู้เพียงอยากอยู่ในบรรยากาศแบบนี้ต่อไป
แกร้ก
เสียงบางอย่างดังขึ้นมาจากด้านหลัง ผมชักดาบปลายคู่ออกมาแล้วหันไปตั้งตัว ร่างของอะไรบางอย่างขยับไปมาในความมืด
“ออกมาเถอะ ผมไม่ทำร้ายคุณหรอก”
(แต่ในมือดู ไม่ทำร้ายเลยนะเธอว์...; นักเขียน)
ร่างนั้นขยับอีกครั้งก่อนเดินออกมาจากเงาของป่า เผยให้เห็นร่างของชายรูปงาม ใช่...งาม ไม่ใช่...หล่อ(นี่เจ้าชายรูปงามปริ้นซ์ชาร์มมิ่งชัดๆ!) ดวงตาสีดำสนิทไร้แวว ตัดกับผิวขาวออกซีดของเขาดูชวนให้ขนลุกแปลกๆ
เขามองหน้าผมที่กำลังอึ้งกับรูปร่างที่...เอ่อ...สวย เอ้ย งาม ซะจนผู้หญิงต้องชิดซ้าย(จริงๆนะ) ดวงตาสีดำคู่นั้นฉายแววประหลาดใจปนสับสน
"ไล...ร่า..........?”
หา...........?
[ END EP. 3]
“วันนี้ผมมีธุระ เพราะงั้นไม่ต้องทำข้าวเย็นนะวิชชี่” ผมหันไปบอกเธอ ก่อนจะนำช่อดอกไม้ไปแช่ไว้ในกระถางต้นไม้ในห้องรับแขก
อือ...ไอ้เจ้านี่(ดอกไม้)เอามาใช้ประโยชน์ได้แฮะ
พวกลูกค้า(สาวๆที่มารับการรักษา)คงประทับใจ แหงๆ (ชั่ว)
ผมเดินไปสตาร์ทรถ แล้วขับออกไป ที่จริง...มันเป็นเรื่องน่าแปลกใจมากที่ไอ้งี่เง่านั่น(แฮร์ริส) ดันมาบอกเรื่องนั้น(สิ่งที่เขียนอยู่ในการ์ด)กับผม ทั้งๆที่เกลียดกันเข้าไส้ อือ...คงมีเรื่องบางอย่างสินะ...
กริ้งงงง.......กริ้งงงง.....กริ้งงงง.....
“มีอะไร หลุยส์”
[ ไม่สุภาพเลยนะครับ อารมณ์ไม่ดีหรือไงกัน? ] เสียงทุ้มต่ำจากอีกฝ่าย เอ่ยด้วยน้ำเสียงตลกขบขัน
“อือ อารมณ์เสียอยู่ กำลังไปหาแล้ว แค่นี้นะ”
[ อ้าว เดี๋ยวสิครับ อย่าโกรธเลยน่า ผมอุตส่าห์เรียก ‘คุณ’ มาเชียวนา...? ]
“ดีใจจังเลยยย...” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเนือยๆ
[ ไม่จริงใจเลย...ช่างเถอะ ยังไงคุณก็รีบหน่อยนะครับ เพราะยิ่งดึกยิ่งคุยลำบาก ]
“แต่นายดันชอบมาเรียกผม ตอนกลางคืน เนี่ยนะ”
[ ก็มันช่วยไม่ได้นี่ครับ เพราะคุณว่างแค่หลังตอนเย็นแล้วนี่นา ]
“อ่าๆ แล้วเจอกัน พอดีมันมาแล้ว” ผมตัดสายทิ้ง แล้วเอื้อมไปหยิบบางสิ่งส่องประกายสีเงินออกมาจากที่เก็บของในเบาะหลัง
พอดีกับที่ผมไปทันสังเกตเห็นรถลีมูซีนสีดำ 3 คัน ไล่มาทางด้านหลัง
แกร้ก
“…จะรีบล่ะนะ...”
.
.
.
.
.
.
.
.
.....................................................................................
ผมนั่งรอที่โต๊ะบาร์ จนเวลาเลยมาถึงสองทุ่มกว่าเกือบสามทุ่ม ผมจึงเดินไปพลิกป้ายตรงประตู แล้วก็ได้ยินเสียงเบียดล้อดังเอี้ยดของเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ตามมาด้วยร่างของคนๆนึงที่ผมกำลังรออยู่
“...รีบมากเลยนะครับ” ผมหยอกเขา
“เฮอะ! เพราะพวกมันตื๊อต่างหาก”
“ไม่ใช่เพราะคุณเกิดใจอ่อนขึ้นมาเหรอครับ”
ควับ
โอ๊ะ......ท่าจะแหย่เล่นเยอะไปแฮะ
ตาวาวโรจน์เชียว....ทำให้โกรธจริงๆซะแล้ว
“ล้อเล่นน่ะครับ อย่าโกรธเลยนะครับ”
“....เปล่าโกรธซะหน่อย”
โกรธอยู่ชัดๆ.....เอาเถอะ เปลี่ยนเรื่องดีกว่า…..
“อ้อ เรื่องที่ผมเรียกคุณมาวันนี้น่ะ...”
“มันทำไมล่ะ”
“เกี่ยวกับ W.G.(รัฐบาลโลก) น่ะครับ”
กึก
สนใจสินะ...
“เล่ารายละเอียดมาซิ”
“ครับ คือผมได้ข่าวมาว่า พวกนั้นมันกำลังเริ่มจะ ‘ไล่ล่า’ แล้วน่ะครับ ทำให้พวกคาสิโนกับบ่อน ผิดกฎหมายพากันหนีกันใหญ่ แต่ดูท่าว่าจะไม่รอดอย่างทุกทีน่ะครับ ถูกจับเข้าคุกหมด”
“คงเอาตำรวจโลกฝีมือดีมาทำงานนี้สินะ ใครล่ะ”
“คนๆนั้นไม่มีชื่อหรอกครับ ถ้าฉายากับเอกลักษณ์ล่ะก็ พอจะบอกได้ อยากรู้มั้ยครับ”
“...”
“ผมจะถือว่าคุณอยากรู้นะ ฉายาของเขาคือ Demon Mutation (ปีศาจกลายพันธุ์) ส่วนเอกลักษณ์คือ ผมแดงเพลิงครับ”
“พวกพิเศษสินะ”
“ครับ เหมือนกับคุณ”
“.........เหรอ”
...ดูเงียบผิดปรกติแฮะ...ธรรมดาต้องโกรธแล้วนี่นา....
“รายต่อไป”
“เอ๋”
“รายต่อไปที่ไอ้กลายพันธุ์มันจะ ‘ไล่ล่า’ คือใคร”
“..........แก๊งที่ใหญ่ที่สุดใน สามรัฐทางใต้ ‘R.T.’ ครับ........”
.....................................................................................
ผมขับรถกลับบ้านโดยที่คำพูดทิ้งท้ายของหลุยส์ยังวนอยู่ในหัว
‘เรื่องก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ เพราะคุณผูกพันกับแก๊งมาก จึงอยากให้ระวังตัวเอาไว้....’
“........มัน...จะ...เป็นไปได้จริงๆงั้นเหรอ...” ผมรำพึง ใช่ เพราะผมผูกพันกับสิ่งนั้นมาก ทำให้ผมมักมีอันตรายเข้ามาในชีวิตบ่อยๆ แต่ว่า....จะให้เลิกยุ่งมันก็.....
ปัง!!!
เสียงยางรถล้อหลังแตกทำให้รถเสียหลัก จนผมต้องรีบหาจังหวะออกจากรถก่อนที่มันจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ
“...เฮ้ๆ นั่นเพิ่งจะได้มาไม่ถึงปีเลยนา...” ให้ตายสิ! คนอย่างผมก็เจ็บปวดเป็นนะ
ลาก่อน ลูกรักของพ่อ...พ่อจะไม่ลืมเจ้าเลย....
ตอนนั้นเองที่ผมเห็นเงาของกลุ่มคนจากอีกฟากถนน ตรานั่น...ตำรวจโลกสินะ.......แต่เป็นพวกที่เหมือนกับตอนขามา....งั้นก็....
“เฮ้อ....กว่าจะถึงบ้านก็อีกยี่สิบกว่ากิโลฯ เลยสินะ...ช่างเป็นการเดินทางที่ทรหดจริงๆ”
“แกเป็นพวกไหนกันแน่?” หนึ่งในนั้น(ที่น่าจะเป็นหัวหน้า)ถามขึ้น
“....หึ....”
“ขำอะไรของแก?!”
“ขำสิ...ขนาดหน้าตาที่แท้จริง พวกแกยังไม่รู้ แล้วจะมาทำอะไรฉันได้?” ขอเพิ่มอีกนิด...ตอนนี้ผมกำลังใส่หน้ากากปลอมอยู่ครับ...
“หน็อย...” ไม่พูดพร่ำทำเพลง ผมก็ตรงรี่เข้าไปหาพวกมันทันที และได้มายืนอยู่ตรงหน้าเจ้าตัวการ
“ไง? ฉันวิ่งเร็วใช่มั้ยล่ะ.....?”
“อึก!”
หึ
………………………………………………………………………………
{In Game}
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณคาเซ่” น้ำเสียงอ่อนโยนลอยเข้ามาในโสตประสาท
“เมอร์...ชี่...........?”
“คิก ใช่ค่ะ คุณหลับไป 'นาน' มากเลยนะคะ”
“อ่า โทษทีนะ แล้ว...ยูนิซัสล่ะ” ดูน่าอายชะมัดเลยแฮะ...
“อ๋อ ดิฉันให้เขาไปเดินเล่นน่ะค่ะ ซักพักคงกลับมา”
“อือ วันนี้ผมจะเข้าเมืองนะ”
“เมืองไหนเหรอคะ”
“โตรันต้า(TORANTA) ว่าจะไปหาของนิดหน่อยน่ะ”
“เอ๋ เอ่อ จริงเหรอคะ...ดิฉันหมายถึงว่า...คุณจะไปจริงๆเหรอคะ” เมอร์ชี่ถามตะกุกตะกัก น้ำเสียงเหมือนเป็นกังวล
“...เหอ ก็ใช่น่ะสิ มีอะไรรึ?”
“ป...เปล่าค่ะ ดิฉันคงจำตำนานเมืองมาผิดๆ...”
“ตำนาน? เรื่องอะไรน่ะ ลองเล่ามาซิ”
“ค...ค่ะ คือ ดิฉันเคยได้ยิงเรื่องของ ตำนานแห่งเมืองโตรันต้า มาน่ะค่ะ รายละเอียดก็..................
ข้อมูล : โตรันต้า
เมืองของชนเผ่า 4 มือ เล่ากันว่า เมื่อแรกเริ่มสร้างจักรวาล ความตายและชีวิตได้ร่วมมือสร้างโลกขึ้น แต่เหล่าบรรดาเทพเจ้าองค์อื่นๆได้ต่อต้านต่อความรักของพวกเขาจึงได้แยกพวกเขาออกจากกัน ด้วยความเศร้าของดวงใจที่แตกสลาย ทำให้ความตายสาปแช่งต่อโลกที่เขากับชีวิตได้สร้างขึ้นมาว่า
‘ในอีกหลายพันปี ความตายจักฟื้นคืน ทุกสิ่งพังทลาย เหล่าผู้พลัดพลากจงดับสลาย ไร้ซึ่งความหวัง มีเพียง ชีวิต เท่านั้นที่จะหยุดยั้งได้’
นับแต่นั้น ทุกๆพันปี ชาวโตรันต้า จะจัดงานฉลองขึ้น เพื่อขอให้โลกยังดำเนินต่อไป โดยหวังให้ใครซักคนมาแก้คำสาป
.........
......
....
...
..
.
“....แค่นั้นน่ะนะ”
“เอ่อ...ค่ะ แค่นั้น”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย ผมว่าผมไม่น่าดวงซวยขนาดนั้นน่ะนะ เพราะงั้นถ้าวันต่อไปผมยังไม่ออกมาจากเมืองก็ไปต่อเองเลยละกันนะ” ผมเตรียมตัวออกเดินทางเมื่อเห็นว่า ม้าของผมกลับมาแล้ว
“ดิ..ดิฉันจะรอค่ะ!”
“....หึ....งั้นก็ช่วยรอหน่อยละกันนะ”
เมืองโตรันต้า
พระเจ้า...ลูกเกลียดท่านยิ่งนัก...
เพราะอะไรน่ะรึ....? เพราะมันเป็นวันแห่งคำสาปบ้าๆนั่นพอดีไงล่ะ!!!
“ ผม เกลียด ที่ นี่ ” ผมกัดฟันพูด งึมงำกับตัวเองไปเรื่อยๆ อะไรนะ ทำไมผมถึงรู้น่ะเหรอ เพราะก่อนหน้านี้ผมกะจะออกจากเมืองหลังซื้อของที่ต้องการเสร็จแล้ว แต่พอไปถึงประตูเมืองเท่านั้นแหละ โดมแก้วใสก็คลอบครุมทั่วเมืองทันที แถมมีประกาศอีกว่า วันนี้คือวันแห่งคำสาป จึงมาสามารถออกจากเมืองได้!!!
............................................
“ ผม เกลียด ที่ นี่ ”ผมบ่นเป็นรอบที่ร้อย จนเดินเหม่อเข้าไปในป่าทึบ กว่าจะรู้ตัวก็มาสุดขอบป่าแล้ว
“สวยจัง” ภาพด้านหน้าคือ ขอบผาติดทะเลสีน้ำเงินฟ้าใสแสนงดงาม กลิ่นเกลือสมุทรทำให้ผมรู้สึกสบายใจขึ้นมา ก่อนจะนั่งลงตรงขอบผารับลมทะเลที่พัดมาเอื่อยๆแต่อ่อนโยน ชั่วขณะหนึ่ง ผมลืมไปว่าตัวเองอยู่ที่ไหนและเป็นใคร รู้เพียงอยากอยู่ในบรรยากาศแบบนี้ต่อไป
แกร้ก
เสียงบางอย่างดังขึ้นมาจากด้านหลัง ผมชักดาบปลายคู่ออกมาแล้วหันไปตั้งตัว ร่างของอะไรบางอย่างขยับไปมาในความมืด
“ออกมาเถอะ ผมไม่ทำร้ายคุณหรอก”
(แต่ในมือดู ไม่ทำร้ายเลยนะเธอว์...; นักเขียน)
ร่างนั้นขยับอีกครั้งก่อนเดินออกมาจากเงาของป่า เผยให้เห็นร่างของชายรูปงาม ใช่...งาม ไม่ใช่...หล่อ(นี่เจ้าชายรูปงามปริ้นซ์ชาร์มมิ่งชัดๆ!) ดวงตาสีดำสนิทไร้แวว ตัดกับผิวขาวออกซีดของเขาดูชวนให้ขนลุกแปลกๆ
เขามองหน้าผมที่กำลังอึ้งกับรูปร่างที่...เอ่อ...สวย เอ้ย งาม ซะจนผู้หญิงต้องชิดซ้าย(จริงๆนะ) ดวงตาสีดำคู่นั้นฉายแววประหลาดใจปนสับสน
"ไล...ร่า..........?”
หา...........?
[ END EP. 3]
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ