โลกแห่งรุ่งอรุณ Dawn of World
เขียนโดย ฮานามิ
วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 22.01 น.
แก้ไขเมื่อ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 22.44 น. โดย เจ้าของนิยาย
2)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความในบรรยากาศของมหาลัยแห่งรัฐนอร์สเวิร์ล ภาคมัธยมเป็นเวลาตอนบ่าย 2 โมง แสงของพระอาทิตย์ส่องผ่านใบไม้ของต้นไม้ใหญ่ และมีลมอ่อนๆพัดมาเป็นระรอบๆมันทำให้ต้นหญ้าอ่อนๆที่เพิ่งงอกพัดไสว ตอนนี้ผมกำลังนอนพักอยู่ที่ใต้ต้นไม้ข้างสนามฝึกดาบ
"อ่า...นี้มันเป็นฤดูที่สบายที่สุดแล้วมั้ง"
"นี่!! นายถึงจะเก่งแล้วก็ไม่ควรมาโดดการฝึกนะ"
เสียงของคนหนึ่งตะโกนมาหาผมจากสนามฝึกดาบด้านขวามือของผม เธอชื่อ แกรน เเอนนา เธอมีผมยาวไปถึงหลัง สีผมทองอ่อนๆ ผิวขาวเหมือนหิมะ เธอใส่เกราะสีทองคล้ายๆเสื้อเกราะอกขนาดยักษ์และมีดาบเบามือเดียวพาดไว้ที่เอว
"ไม่ เอา!" ผมตอบกลับไปด้วยสีหน้าเย็นชา
ตึก ตึก เสียงของฝีเท้าของผู้ชายที่ใช้เกราะเบาขนาดเล็ก มันเท่าให้เสียงของฝีเท่าดูแตกต่างจากพวกที่ไม่ได้ใช้เกราะหรือพวกที่ใช้เกราะหนัก
"เอาน่า ลองมาสู้กันสักชกไหม? ฉันจะได้บอกให้อาจารย์จัดพื้นที่สำหรับการประลองให้ เห็นว่านายชอบไม่ใช่หรอการประลองตัวต่อตัวนะ"
ผู้ชายคนนั้นคือเพื่อนของผมเองเค้าชื่อว่า เอร์ส แครน เป็นผู้ชายสูงประมาณ 169 เซนติเมตร ผมสี บลอนด์ทอง นัยน์ตาเป็นสีฟ้าดุดอย่างทะเล และมีผิวสีเนื้อ
"เอาสิ..." ผมพยายามทำตัวปกติและหันหน้าหนี
"หึ ฉันรู้นะว่านายก็แอบดีใจนะ คงจะคิดประมาณว่าดีใจที่สุดเลยโว้ยยย! ใช่หมล่ะ"
เอร์สจับมือผมแล้วดึงให้ผมลุกขึ้นยืน
" นายเตรียมตัวได้เลยเดี๋ยวฉันจะอัดให้กระหน่ำเลย"ผมพูดพร้อมกับยิ้มในขณะที่กำลังจะลุกขึ้น
ตอนนี้เอร์สกำลังไปบอกให้อาจารย์จัดสนามประลองอยู่ ผมก็ยืนหลบแดดอยู่ใต้ต้นไม้เดิมกับแอนนา
"นี่...นายจะลงประลองทั้ง 4 โรงเรียนจริงหรอ?"
สายลมอ่อนพัดมาทำให้เส้นผมของแอนนาปลิวไสวเหมือนกับต้นหญ้าอ่อนไสวไปตามลม แสงจากพระอาทิตย์สะท้อนกับเส้นผมของแอนนาทำให้ผมของแอนนานั้นเหมือนกับส่องแสงได้ มันทำให้เธอดูสวยมากถึงกับทำให้ผมหน้าแดงได้เลย แต่ผมก็พยายามเก็บอาการนั้นไว้ให้อยู่
"อืม...ก็คงจะเป็นเรื่องจริง"
การแข่งประลองทั้งสี่นั้นจะจัดขึ้นทุกๆสี่ปี โดยจะนำสุดยอดนักเรียนของแต่ระโรงเรียนมา แน่นอนทุกโรงเรียนต้องเอา เด็กเกรดสี่มาลงแข่งแน่นอนแต่ว่าตอนประถมผมได้ผ่านการสอบของสมาคมนักดาบ นักเรียนเกรดศูนย์อย่างผมจึงได้ข้อเสนอจากทางโรงเรียนให้ไปแข่งประลองทั้งสี่โรงเรียน โดยการศึกษาของโลกนี้แบ่งเป็นสี่เกรด เริ่มที่เกรดศูนย์นักเรียนที่ยังเป็นเกรดนี้อยู่คือเหล่านักเรียนที่พึ่งเริ่มเรียน โดยที่เกรดศูนย์จะนับตั้งแต่เราขึ้นมัธยมเป็นต้นไป
เกรดหนึ่งคือนักเรียนที่ผ่านการสอบขั้นพื้นฐานผ่าน โดยจะต้องใช้สกิลพื้นฐานได้มากกว่ายี่สิบอย่างขึ้นไป เกรดนี้ต้องไปเข้าค่ายเก็บตัวทุกปีเพื่อจะประเมินว่าจะผ่านไปเกรดสองได้หรือไม่เพราะต้องสอบใช้สกิลขั้นสูงที่ต้องใช้เป็นมากกว่าสิบสกิล เกรดสองต้องผ่านการสอบขึ้นไปหาเกรดสองโดยต้องใช้สกิลขั้นสูงให้ได้มากกว่าสิบสกิลและต้องผ่านการอบรมมากกว่าห้าครั้ง เกรดสามนี้ไม่ต้องสอบขึ้นอันดับจะขึ้นไปเกรดได้ก็จะต้องลงสนามการประลองมากกว่าสามสิบครั้งขึ้นไปและต้องผ่านภาควิชาการด้านวิศวกรรมและด้านกลยุทธ์ทางการทหารและเกรดสุดท้ายคือเกรดสี่เกรดนี้คือเกรดที่สูงที่สุดในโรงเรียน ในแต่ล่ะโรงเรียนจะมีเกรดสี่ไม่ถึงห้าคนโดยเกรดสี่นี้จะได้รับยศก็คือ ว่าที่อัศวิน เกรดนี้จะขึ้นไปได้นั้นต้องสอบผ่านการจำลองสนามรบจริง โดยจะสร้างขึ้นปีล่ะครั้งโดยใช้สกิลประเภทเวทมนตร์[magic]เป็นเวทมนตร์ที่ต้องใช้พลังมหาศาลในการร่าย จึงจัดได้แค่ปีล่ะครั้งเท่านั้น ผู้ที่ผ่านการสอบได้ต้องไม่ได้รับการบาดเจ็บจากสงครามหรือไม่ตายในสงครามก่อนถ้าใครตายในสงครามจำลองคนนั้นก็จะถูกเด้งออกจากสนามรบทันที สำหรับคนที่ไม่ตายในสนามรบแต่ในสนามรบนั้นถูกตัดแขนตัดขาก็จะถูกเด้งออกเหมือนกัน ในหนึ่งปีจะมีผู้สอบผ่านแค่ แปดถึงห้าคนเท่านั้นถ้าสอบผ่านแล้วปีถัดไปก็จะได้รับยศอัศวินทันที ถ้าจะถามว่าถ้าเป็นอย่างนั้นก็เรียนไม่จบกันพอดี ทางโรงเรียนได้บอกไว้ผู้ได้สอบผ่านเกรดและเรียนครบแปดปีก็จะสามารถจบการศึกษาได้ทันที
"นี้!!! เค้าเตรียมสนามเสร็จแล้วกันแล้วนะ"เสียงเอร์สตะโกนมาจากสนามฝึกดาบ
"โอเค! ฉันกำลังจะไป" ผมตะโกนตอบกลับ
"ฉันไปก่อนนะแอนนา"
ในสนามประลองมันจะต้องมีผู้แพ้และผู้ชนะ ต้องมีคนเสียใจและคนดีใจ นี่เป็นคำพูดของพ่อของผมก่อนที่ท่านจะจากผมไป บรรยากาศของสนามประลองที่เต็มไปด้วยเสียงเชียร์และความเครียดของผู้ประลอง กลางแสงแดดที่ส่องสว่างทั่วทั้งสนามประลอง ความร้อนที่ร้อนไปจนทำให้ตับแตก มันทำให้เหงื่อของผมนั้นไหลไม่หยุด
"อะไรกันนอร์ส นายกลัวเหรอเพื่อน"
"หึ ใครจะไปกลัวนาย"
"โอเคนะทั้งคู่ เราจะใช้กฎของสมาคมดาบ"เสียงถามความพร้อมของอาจารย์
กฎของสมาคมดาบมันจะมีอยู่ห้าข้อคือ หนึ่งห้ามใช้อาวุธโจมตีทางไกล สองถ้าเป็นการประลองของเกรดน้อยกว่าเกรดสองห้ามใช้สกิลขั้นสูงมากกว่าสองสกิลแต่ใช้สกิลพื้นฐานได้ทั้งหมด สามห้ามชาร์จสกิลก่อนเริ่มการประลอง สี่ถ้าHPของคู่ประลองลดลงเกินยี่สิบเปอร์เซ็นต์ให้หยุดการประทองทันที ห้าให้ตั้งท่าเริ่มหนึ่งท่าให้เป็นท้าที่คิดว่าตัวเองจะออกตัวได้เร็วที่สุดและโจมตีเร็วที่สุดถ้าไม่เตรียมถือว่ายังไม่เริ่มการประลอง
"3...2...1...เริ่มได้"
ผมยังไม่เริ่มขยับตัวและมองท่าการออกตัวของเอร์ส ดาบของเอร์สนั้นเป็นดาบสองมือการที่จะออกตัวได้ง่ายที่สุดเอร์สจึงคือท่ายกดาบเหนือหัวและย่อขาเพื่อที่จะได้ดีดตัวได้เร็ว
ตูม!!
ไม่ถึงเสี้ยววินาทีผมปลิวออกจากกลุ่มควันระเบิด HPของผมลดลงไปสิบห้าเปอร์เซ็นต์มันคือสกิลขั้นพื้นฐานที่ชื่อว่า[over sky] มันจะสร้างความเสียหายในระยะสองเมตรแต่ความเสียหายจะลดลงสิบเปอร์เซ็นต์ถ้าเอร์สเจาะจงลงความเสียหายทั้งหมดให้ผมตั้งแต่แรกผมคงแพ้ไปแล้ว
ดาบยาวสองมือเป็นดาบที่เน้นโจมตีเป็นคอมโบน้อยๆแต่จะกินHPเยอะมาก ดาบของเอร์สหนักมากเค้าจึงใส่เกราะเบาแทนเกราะหนัก และไม่ถือโล่ เพื่อที่จะทำให้การโจมตีสะดวกมากขึ้น
"Game over" เสียงของผมพูดพึมพำเบาๆ
การที่จะชนะอาวุธพวกการโจมตีหนักๆนั้นมีจุดอ่อนอยู่หนึ่งข้อคือความคล่องตัว แต่ถ้าเอาวิธีนี้มาใช้กับเอร์สน่ะคิดผิดแล้ว การที่จะชนะเอร์สได้นั้นต้องเป็นการโจมตีฉับพลันจริงๆถึงจะโจมตีได้เพราะฉะนั้น...
"Sword Hanter" ผมพูดเบาๆ
เป็นสกิลระดับสูงที่ผมเพิ่งแอบไปฝึกมาโดยตามหลักกฎของสมาคมดาบนั้นจะสามารถใช้สกิลระดับสูงได้แค่สกิลเดียวเท่านั้น ผมถีบตัวเข้าหาเอสร์แล้วฟาดปลายดาบเข้าตรงกลางท้อง แต่การฟันครั้งนี้ผมจงใจให้เอร์สหลบได้ เอร์สกระโดดหลบโดยทิ้งระยะห่างไว้พอประมาณ
"ครั้งนี้แหละของจริง!!"
ผมพุ่งตัวรอบที่สองเข้าไปหาเอร์สอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เอร์สฟาดดาบสวนผมมาเข้าที่กลางหลังของผม แต่...
"เอร์สโจมตีไปทางไหนน่ะ"
ผมอยู่ข้างหลังของเอร์สแล้วใช้ปลายดาบคว้านไปที่ไหล่ของเอร์สตื้นๆแต่ว่าเพียงการโจมตีเท่านี้ก็สร้างความเสียหายได้ถึงยี่สิบเจ็ดเปอร์เซ็นต์ เพราะว่าเอร์สนั้นใส่เกราะเบาผมจึงโจมตีเอร์สได้แรงกว่าปกติถ้าเอร์สใส่เกราะหนากว่านี้ผมก็คงแพ้ไปแล้ว
"ผลการประลอง นอร์ส เพร์น เป็นผู้ชนะ" เสียงอาจารย์ประกาศผล
เสียงปรบมือของเหล่านักเรียนทั้งรุ่นพี่และก็เพื่อนร่วมชั้น นี่สินะความรู้สึกแบบนี้สิที่ผมต้องการ แต่การที่ชนะแล้วดูถูกคู่ต่อสู้นี้เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องและไม่สมควรทำอย่างมาก เราควรให้น้ำใจที่ดีและการช่วยเหลือ พอจบการต่อสู้เราก็เป็นเพื่อนกันได้
"ว่าไงเพื่อน ไม่เป็นไรใช้ไหม" ผมยื่นมือมาเพื่อที่จะช่วยดึงเอร์สให้ลุกขึ้น
"อืม...ไม่เป็นไร แต่ขายหน้าเป็นบ้าเลยแพ้ต่อหน้าคนดูเยอะแยะแบบนี้"
"ไม่เป็นไรหรอก คนเราถ้าสู้อย่างสุดความสามารถแล้วก็ไม่มีใครว่าเราอ่อนหรอกนะ ดูสิผู้คนมากมายก็ปรบมือให้นายเหมือนกันนะ เป็นไงล่ะเสียงตอบรับจากคนอื่นมาให้นาย"
จากสายตาของผมเอร์สน่าจะคิดว่า เราพยายามให้ดีที่สุดถึงจะแพ้ แต่ก็มีผมที่ดีตามมาเหมือนกันมันจะไม่มีอะไรแย่ถ้าเราพยายามจริงๆ
"สุดยอดไปเลยล่ะ"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ